คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : [KuroFuri] 夜
Title : 夜
Fandom : Kuroko no Basket
Paring : Kuroko x Furihata
Notes : อันนี้เขียนเล่นๆ นะจ๊ะ เพราะเขียนไปได้สามหน้าแล้วมุกตัน =_= ดังนั้นฟิคนี้อย่าหาสาระ (ที่ไม่เคยมีอยู่แล้ว) เลย เพราะมั้วทั้งดุ้น
................................................................
夜
"ฟุริฮาตะคุง!" เสียงชื่อที่ดังก้องไปทั้งโรงยิมทำให้เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อที่ตอนนี้ยืนแต่เพียงผู้เดียวที่ซ้อมบาสในโรงยิมหันกลับไปมองยังต้นเสียง...ซึ่งก็คือโค้ชของเขานั้นเอง
"ครับ?"
"เห็นคุโรโกะไหม?..." ริโกะถาม
"อา...ไม่ครับ..." ฟุริฮาตะตอบ "ถ้าหาคุโรโกะไปถามคางามิดีกว่าไหมครับ?"
"ลองถามแล้ว...เจ้าบ้านั่นบอกว่าไม่เห็นตั้งแต่เที่ยงแล้ว แถมโทรไปก็ดันวางมือถือทิ้งไว้ที่ห้องเรียนอีก ตอนนี้คางามิช่วยหาอยู่..." ริโกะนวดขมับอย่างปวดหัวกับการหารุ่นน้องตนเองไม่เจอ "...ฟุริฮาตะคุง ช่วยหาต่อให้หน่อยสิ...เดี๋ยวฉันต้องไปประชุมแนะแนวการศึกษากับพวกฮิวงะคุงน่ะ"
"เอ่อ ครับ ได้ครับ" ฟุริฮาตะรับคำมาทั้งที่สมองยังทำงานไม่เต็มที่นัก...
...ให้เขาหาคุโรโกะแล้วจะหาเจอไหมเนี่ย!? ปกติก็หากันแทบไม่เจออยู่แล้ว!?...ถึงส่วนใหญ่คุโรโกะจะโผล่ให้เขาเห็นคนแรกตลอดก็เถอะ...
เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนที่จะเก็บลูกบาสและเดินออกตามหาเงาจางของทีมตนด้วยอีกคน...
ฟุริฮาตะเดินซอกแซ่กไปตามสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน...จนตอนนี้เด็กหนุ่มลองเดินเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์ดู ถึงจะไม่คิดว่าคุโรโกะจะอยู่ก็เถอะ
"ไปอยู่ไหนน้าาาา" ฟุริฮาตะที่มองซ้ายมองขวาหาเพื่อนของตนบ่นออกมาเมื่อหามาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
"ฟุริฮาตะคุง..." เสียงแผ่วๆ ที่ลอยมาตามลมทำให้เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งและมองหาว่าต้นเสียงคือใคร แต่...ทั้งบริเวณมีเขาคนเดียว ไม่มีคนอื่นอยู่เลย
...เฮ้ย!!! เมื่อกี้ใครพูดล่ะเนี่ย?! คงจะไม่ใช่...ผีหรอกนะ...
ก่อนที่ฟุริฮาตะจะคิดไปไกลกว่านี้เสียงที่เจ้าตัวได้ยินเมื่อครู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงดูเหมือนจะดังขึ้นเล็กน้อย "ฟุริฮาตะคุง...ช่วยผมหน่อยสิครับ..."
"คุโรโกะ?" ฟุริฮาตะที่จำได้เสียงนั้นคือเสียงของเพื่อนเขาเองก็ไปหาต้นเสียง ซึ่งไม่รู้มาจากไหน แต่...ที่แน่ๆ คือคุโรโกะอยู่ในห้องเก็บของนี่แหละ
"อ๊ะ! คุโรโกะ!!!" หลังจากก้มๆ เงยๆ อยู่สักพักเด็กหนุ่มก็เจอกับร่างของคนผมสีฟ้าซึ่งถูกตู้เก็บของและสารพัดสิ่งของทับบนร่างอยู่หลังตะกร้าใส่อุปกรณ์อันใหญ่ที่พอบังตัวคางามิสองคนได้สบายๆ ทีเดียว...ถึงว่าเมื่อกี้ถึงไม่เห็นตัวคุโรโกะ แบบนี้ถามคุโรโกะไม่เรียเขาคงไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ที่นี่
"นายไม่เป็นไรนะ!?!"
"ช่วยผมก่อนสิครับ...แล้วค่อยถาม" คุโรโกะพูดเหมือนคนใกล้ตายอยู่ร่อมร่อ
"เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งตายนะคุโรโกะ!" แล้วฟุริฮาตะก็รีบขุดเพื่อนตนออกจากกองสิ่งของทันที
สิบนาทีต่อมาฟุริฮาตะก็ขุดคุโรโกะขึ้นมาสำเร็จ...
"คุโรโกะ นายไม่เป็นใช่ไหม?" ฟุริฮาตะที่นั่งหอบจากการอาการตกใจบวกกับการที่รีบขุดเพื่อนตัวเองออกมาจากกองสิ่งของถาม
"ไม่เป็นไรครับ..." คุโรโกะบิดตัวไปมาแก้อาการเมื่อยจากที่ถูกกองสิ่งของทับหลายชั่วโมง
"นายมาโดนทับในนี่ได้ไงเนี่ย?!" ฟุริฮาตะถามอย่างไม่เข้าใจว่าเพื่อนตนมาถูกของทับในนี้ได้ไง
"ตอนพักเที่ยงผมช่วยเอาของมาเก็บให้อาจาย์น่ะครับ แล้วจู่ๆ ตู้ก็ล้มมาทับผมแถมกวาดของรอบๆ มาทับผมอีกชั้นอีก..." คุโรโกะตอบ "...จะออกเองก็ไม่ได้มันหนักเกิน แถมพอผมร้องขอให้คนที่ผ่านมาช่วยก็เป็นอะไรกันก็ไม่รู้ พากันวิ่งหนีไปทุกคนเลย สุดท้ายผมเลยโดนทับแบนอยู่นี่จนคุณมาช่วยนั้นแหละครับ"
...พอเข้าใจแฮะ ขนาดเขายังเกือบเผ่นเพราะคิดว่าเป็นผีเลย...
ฟุริฮาตะส่งยิ้มแห้งๆ ให้คุโรโกะและขณะนั้นเอง...
ปัง!!! แกร๊ง...
"เฮ้ย!!!" ฟุริฮาตะถึงกับร้องออกมาเมื่อประตูห้องอุปกรณ์ถูกปิดอย่างแรงพร้อมเสียงปิดล็อกจากด้านนอกดังขึ้น...ซึ่งหมายความว่าตอนนี้เขาถูกขังในนี้กับคุโรโกะเสียแล้ว
"เอาไงต่อดีครับ?..." คุโรโกะถามขึ้นมาเสียงเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไรกับการโดนขังในนี้เท่าไหร่นัก
"...ฉันไม่รู้" ฟุริฮาตะก็คิดไม่ออกว่าจะทำไงต่อดี มือถือก็ทิ้งไว้ที่ห้องชมรม...แบบนี้คงได้แต่หวังว่าจะมีคนผ่านมาเจอเท่านั้นแหละ แต่กับอากาศหนาวในหน้าหนาวแบบนี้...การโดนขังในนี้เลวร้ายที่สุดเลย "ฮัดชิ่ว!"
"หนาวจังครับ" คุโรโกะพูดขึ้นมาลอยๆ
"นั้นสินะ..." ฟุริฮาตะเอามือถูกกันไปมา เพราะเขาใส่เพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเท่านั้นจึงรู้สึกหนาวกว่าคุโรโกะ...
...รู้งี้ก่อนมาหาคุโรโกะเปลี่ยนชุดก่อนก็ดี...
"ฟุริฮาตะคุง..." คุโรโกะเรียกอีกฝ่ายเบาๆ
"มีอะไรเหรอคุโร..." ฟุริฮาตะที่กำลังจะถามเพื่อนตนกลับก็ถูกคนตัวเล็กกว่ากอดซะแล้ว "น...นายกอดฉันทำไมเนี่ย?"
"ให้ความอบอุ่นครับ..." คุโรโกะตอบพร้อมยิ้ม...ยิ้มแบบเจ้าเลห์จนฟุริฮาตะสังหรณ์ไม่ดีชอบกล "...และมีวิธีให้อุ่นกว่านี้ด้วย เอาไหมครับ?"
"เอ่อ ไม่ดีกว่า แฮะๆ" ฟุริฮาตะปฏิเสธออกมาทันทีโดยไม่ต้องคิดเท่าไหร่นัก จากลางสังหรณ์บอกว่าปฏิเสธไปนั้นเป็นทางเลือกที่ดีสุด
"แน่เหรอครับ?" คุโรโกะยื่นหน้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆ ปะทะหน้าฟุริฮาตะ
...ก...ใกล้เกินปายยยย!!!...
"น...แน่สิ" ฟุริฮาตะตอบแบบนั้น แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้หน้าเขาคงแดงยิ่งกว่ามะเขื่อเทศอีกแน่ๆ เลย...
...เพราะอะไรนั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน...
"แต่ถึงอย่างนั้น..." คุโรโกะจับฟุริฮาตะกดลงกับพื้น
"เหวอ!!!" ฟุริฮาตะหลุดร้องออกมาเมื่อถูกจับกดลงพื้นโดยไม่ทันตั้งตัว มือทั้งสองข้างถูกคนตัวเล็กกว่าล็อกไว้ "ทำอะไรน่ะ! คุโรโก...อุ๊บ!"
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเบิกตากว้างเมื่อริมฝีปากของตนถูกประกบลงมาโดยเพื่อนของตน ลิ้นของคุโรโกะแทรกเข้ามาภายในโพรงปากเพื่อตักตวงความหวานในนั้น
ฟุริฮาตะที่ตอนแรกพยายามขัดขืนกำเสื้อเด็กหนุ่มผู้จืดจางไว้แน่น ในหัวรู้สึกหวิวๆ กับคุโรโกะที่จูบได้เก่งเหลือเชื่อ...จนฟุริฮาตะเริ่มที่จะหายใจไม่ทัน
คุโรโกะถอนจูบออกเมื่อเห็นฟุริฮาตะใกล้จะขาดอากาศหายใจตายแล้ว ทางคนถูกจูบก็รีบคว้าโอกาสนี้สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดทันที
"น่ารักจังนะครับ" คุโรโกะเอามือปาดน้ำใสที่ริมฝีปากอีกฝ่ายออก
"ค...คุโรโกะ...นาย...ทำอะไร...น่ะ?..." ฟุริฮาตะที่เริ่มจะปรับสติสตางค์ตัวเองกลับมาได้ถามเพื่อนตนที่จูบตนไปเมื่อครู่
"จูบไงครับ" คุโรโกะตอบอย่างเกรียนหน่อยๆ
"รู้ว่าจูบ...แต่นายจูบฉันทำไมเนี่ย!?!" ฟุริฮาตะที่ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายนักถามกลับ
"นั้นสินะ...คงเพราะ..." คุโรโกะเริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์อีกแล้วครับท่านผู้อ่าน "...ผมรักคุณเข้าแล้วมั้งครับ"
โดยไม่ปล่อยให้คนเบื้องล่างตอบอะไรกลับมา คุโรโกะก็ประทับริมฝีปากลงไปอีดครั้ง มือข้างหนึ่งก็เริ่มที่จะล้วงเข้าไปในเสื้อของอีกฝ่าย
"หยุด! คุโรโกะ!!!" ฟุริฮาตะรีบร้องห้ามทันทีที่คุโรโกะถอนจูบและเขาหน้าซุกที่ต้นคอเขาแทน
"ไม่ครับ..." คุโรโกะตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ และเข้ามือสอดเข้าไปในกางเกงของเด็กหนุ่มตรงหน้า
"อึก!!!" ฟุริฮาตะถึงกับสะท้าน "พอแล้ว!!! หยุด! หยุดเถอะ! คุโรโกะ!!!"
"ขอปฏิเสธครับ" คุโรโกะปฏิเสธอย่างไม่ใยดีราวกับ...ไม่ใช่คุโรโกะ เท็ตสึยะที่ฟุริฮาตะรู้จัก
"ไม่นะ!"
เพี๊ยะ!!!
รอยฝ่ามือแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนผมฟ้า พร้อมกับที่ฟุริฮาตะรีบถอยร่างของตนออกห่างจากคุโรโกะทันที...
น้ำตาเริ่มไหลออกจากดวงตาสีน้ำตาลด้วยความไม่เข้าใจและสับสนในตัวอีกฝ่าย "นาย...ทำไมกัน..."
"ฟุริฮาตะคุง..." คุโรโกะมองเพื่อนตน...ตอนนี้เขาเริ่มสำนึกได้แล้วว่าตนนั้นทำลงที่แย่ที่สุดลงไปเสียแล้วด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ความรู้สึกที่หลากหลายอัดแน่ในอกของคุโรโกะ แต่ฉายชัดในแววตาของเด็กหนุ่มผู้จืดจางแน่ๆ คือ...
...ความกลัว...
...กลัวที่จะเสียคนตรงหน้าไป...
"...ผมขอโทษครับ" คุโรโกะเข้าไปหาเพื่อนผมสีน้ำตาลของตน มือทั้งสองโอบกอดอีกฝ่ายไว้ราวกับกลัวว่าเด็กหนุ่มในอ้อมแขนจะหนีไป "ได้โปรด...อย่าเกลียดผมเลย..."
"คุโรโกะ?..." ฟุริฮาตะที่รู้สึกว่าเพื่อนผู้จืดจางของตนกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ก็กอดอีกฝ่ายกลับ "ฮือ..."
"ผมขอโทษครับ ไม่เป็นแล้วครับ...ไม่มีอะไรแล้ว" คุโรโกะทำได้เพียงปลอบอีกฝ่าย...ทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ
...ฟุริฮาตะคุง ได้โปรด...
...ยกโทษให้ผมด้วยครับ...
...ผมผิดไปแล้ว...
...จะให้ผมทำอะไรก็ได้...
...แต่อย่าเกลียดผม อย่าโกรธผมเลย...
...ขอร้องล่ะครับ...
...ฟุริฮาตะคุง...
ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงแล้ว...แต่ยังไม่มีเสียงใครเดินผ่านมาเลยแม้แต่เสียงของยาม ดูเหมือนว่าทั้งสองต้องอยู่ที่นี่จนเช้าแน่
เวลานี้คุโรโกะก็กลายเป็นหมอนจำเป็นให้ฟุริฮาตะที่ร้องไห้จนเหนื่อยและพล็อยหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
...คุโรโกะถอดเสื้อนอกของตนออกมาห่มให้คนที่นอนบนตักตน และเอามือลูบผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มเบาๆ พลางนึกโทษตัวเองที่ทำอะไรโดยไม่คิด
...ผมนี้มันบ้าจริงๆ ...ที่ทำกับฟุริฮาตะคุงแบบนี้...
คุโรโกะเอาแต่โทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา...ทั้งๆ ที่เขารักฟุริฮาตะคุงมากแท้ๆ แต่เขา...กลับทำเรื่องไม่น่าให้อภัยลงไปเสียแล้ว...
...และนึกกลัวไปต่างๆ นานาว่า...อีกฝ่ายจะไม่อยากเจอหน้าเขาอีก จะไม่ยิ้มให้เขาอีกต่อไป
น้ำตาของฟุริฮาตะที่คุโรโกะได้เห็นนั้น มัยช่างกรีดแทงในใจเขาจนเจ็บ เจ็บมากจนแทบทนไม่ไหว...น้ำตาที่มาจากการกระทำของเขาเอง
ตอนนี้เขาหวังเพียง...ให้อีกฝ่ายอภัยให้เขาและ...
...ถ้าฟุริฮาตะคุงลืมเรื่องวันนี้ไปก็คงจะดี...
ดวงตาสีฟ้าค่อยๆ หลับตาลงเบาๆ ก่อนที่จะจมสู่นิทราไปอีกคน...
"เจอแล้ว!!!" เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้เด็กหนุ่มผู้จืดจางตื่นขึ้นจากนิทราพร้อมอาการปวดเมื่อยจากการนอนบนพื้นแข็งๆ
ดวงตาสีฟ้าใสลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นสิ่งแรกคือผมสีน้ำตาลของฟุริฮาตะที่นอนอยู่บนตักของตน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนผมสีเพลิงที่ดูดีใจมากที่เจอเด็กหนุ่มทั้งสอง
"...คางามิคุง?" คุโรโกะเอ่ยขึ้นเบาๆ
"เอ่อสิ" คางามิตอบพร้อมเอามือจับทั้งสองแบกขึ้นบ่า "เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ไปห้องพยาบาลก่อนแล้วกัน..."
"...ผมเดินเองได้ครับ คางามิคุง" คุโรโกะที่โดนแบกบอกกับคางามิทั้งที่ในใจคิดเรื่องอื่นอยู่...
...ปกติฟุริฮาตะคุงไม่หลับลึกขนาดนี้นี่นา? โดนจับแบกแล้วยังไม่ตื่นเนี่ย...
"แบกแบบนี้แหละดีแล้ว..." คางามิตอบกลับทันที "...และฟุริดูท่าจะมีไข้ด้วย ถ้าให้นายเดินตามมีหวังไปถึงห้องพยาบาลช้า เพราะต้องรอนายน่ะสิ"
"งั้นวิ่งไปเลยครับ!" เมื่อได้ยิ่งว่าฟุริฮาตะมีไข้คุโรโกะก็เร่งให้ผู้เป็นแสงของตนในตอนนี้วิ่งไปเลยแบบไม่ต้องกลัวโดนครูโผล่มาว๊าก
"อย่ามาสั่งกันสิ!!!" คางามิโวยกลับ แต่ขาก็วิ่งไปตามที่ผู้เป็นเงาบอก จนมาถึงห้องพยาบาลในระยะเวลาอันสั้น "อาจารย์!!! อยู่ไหมคร้าบบบบ!!!"
"เอ่อ! อยู่! ห้องพยาบาลก็กว้างแค่นี้จะตะโกนทำไมเนี่ย!?!" อาจารย์ห้องพยาบาลที่เป็นสาวห้าวผมสีเพลิงถลึงตาใส่คนผมสีเดียวกัน "มีอะไรกัน!?"
"พ...เพื่อนผมไม่สบายคับ..." พอเจออาจารย์สาวสุดโหดคางามิถึงกับหงอย
"หือ?" ครูสาวมองบุคคลที่เด็กหนุ่มผมเพลิงแบกมาด้วย "งั้นวางเพื่อนนายลงบนเตียงสิ...เดี๋ยวดูอาการให้"
"ครับ..." คางามิวางฟุริฮาตะลงบนเตียงเอาแผ่วเบาแล้วค่อยวางคุโรโกะลงให้ขาแตะพื้น
"อืม...ไข้สูงมากเลยแฮะ ปกติไม่น่าลุกมาโรงเรียนไหวด้วยซ้ำ." ครูสาวหยิบเจดลดไข้มาแปะหัวเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล
"ก็ไม่ได้ลุกมาหรอก..." คางามิพูดขึ้นพร้อมเอาคุโรโกะเป็นโล่กำบังเผื่อครูห้าวคนนี้อารมณ์เสียที่เขาพูดดูกำกวมและต่อยเขาขึ้นมา
"หมายความว่าไง?!" ครูสาวมองคางามิอย่างไม่เข้าใจ
"คือเมื่อคืนผมกับฟุริฮาตะคุงอยู่ในโรงเรียนนี้แหละครับ..." คุโรโกะพูดขึ้น เมื่อเห็นครูสาวที่ทำท่าจะเค้นคอแสงของตน...
...ช่างเป็นครูที่โหดแท้...
"เฮ้ย!!!" ครูสาวสะดุ้ง ตาเบิกกว่ามองไปยังคุโรโกะ "มาเมื่อไหร่เนี่ย!?!"
"ผมถูกคางามิคุงแบกมาพร้อมฟุริฮาตะคุงนั้นแหละครับ" คุโรโกะตอบอย่างเคยชินกับการที่ไม่มีใครทันเห็นเขาก่อน...ถ้าไม่นับทาคาโอะนะ
"นายจางไปแล้วเฟ้ย!" ครูสาวแยกเขี้ยวใส่ "แล้วที่ว่าอยู่ที่โรงเรียนเนี่ย...มันยังไงกัน? เหล่ามาให้หมดด้วย"
"คือว่าเมื่อวานผมถูกของหล่นทับแทบแบนอยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์น่ะครับ ผมอยู่ในนั้นจนฟุริฮาตะมาช่วยผมนั้นแหละ...แต่ก่อนที่พวกผมจะได้ออกจากห้องอุปกรณ์ก็โดนปิดขังไว้ซะก่อนน่ะครับ"
"ที่นายหายไปเมื่อวานเพราะงี้สินะ..." คางามินวดขมับตนเบาๆ ...
...เมื่อวานทุกคนต่างช่วยหาคุโรโกะกันแทบแย่ และยิ่งจู่ๆ ฟุริฮาตะหายไปอีกคนก็ยิ่งทำให้ทุกคนเป็นห่วงมากขึ้น จนสุดท้ายทุกคนโดนไล่กลับเพราะโรงเรียนจะปิดเนี่ยแหละ...ฮิวงะก็เลยโทรไปโกหกพ่อแม่ของทั้งสองว่าสองคนนั้นไปพักบ้านคางามิเพื่อไม่ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่กับการทำลูกเขาหาย
และถ้าคางามิไม่บังเอิญทำเหรียญกลิ้งตกเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ล่ะก็คงไม่เจอสองคนนี้หรอก
"...วันนี้ฉันจะไปตื้บไอ้คนที่ทำหน้าที่ล็อกห้องเมื่อวาน" ครูสาวหักมือกร๊อบด้วยความโกรธที่ลูกศิษย์ตนโดนขังโดยไม่มีใครมาช่วยทั้งคืน...ก็คงเป็นห่วงตามประสาคนเป็นครูนั้นแหละ "นายพอไปเรียนไหวไหม? หรือจะอยู่ในห้องพยาบาลก่อน?"
"ไอ้ไปเรียนไหวไหมมันก็ไหวครับ แต่ว่า..." คุโรโกะมองเพื่อนที่หลับสนิกอยู่บนเตียง "...ผมเป็นห่วงฟุริฮาตะคุงน่ะครับ"
"งั้นนายก็นอนในห้องพยาบาลนี่แหละ..." ครูสาวไม่พูดเปล่ายังจับคอเสื้อคุโรโกะขึ้นเตียงไปด้วย "...เดี๋ยวฉันจะตรวจนายอีกคนว่ามีอาการอะไรหรือเปล่า และนอนพักด้วยล่ะ...เล่นนอนในห้องแบบนั้นทั้งอากาศหนาวๆ เนี่ยไม่แข็งตายก็บุญแล้ว"
"ครับ..." คุโรโกะตอบกลับเบาๆ
"ส่วนนาย..." ครูสาวชี้ไปยังคนผมสีเดียวกับตน "...ไปซื้ออาหารมาซะ เพื่อนนายคงยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และรีบไปรีบมาล่ะ"
"ครับ..." คางามิตอบครูสาวก่อนที่จะรีบทำตามคำสั่งทันทีด้วยความห่วงเพื่อนบวกกับถ้าช้าครูห้องพยาบาลคนนี้คงได้ถีบส่งเขาแน่...
เมื่อช่วงเช้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดีโดนที่คางามิไม่ถูกครูสาวตื้บ...จนตอนนี้เวลาเริ่มคืบคลานเข้ามาจนเลยช่วงเลิกเรียนมานานแล้ว...
"อืม..." เสียงครางเบาๆ ของเด็กหนุ่มที่หลับไปนานเกินสิบชั่วโมงเรียกความสนใจจากคนที่โดนครูห้องพยาบาลจับยัดไว้ได้เป็นอย่างดี
"ฟุริฮาตะคุง!"
"หือ?" ดวงตาสีน้ำตาลค่อยปรืดขึ้นช้าๆ "คุโรโกะ?"
"ครับ ผมเอง" คุโรโกะพูดออกมาเสียงเรียบอย่างปกติทั้งที่ในใจกังวลแทบบ้ากับการหลับนานเกินไปของอีกฝ่าย "รู้สึกเป็นไงบ้างครับ?"
"...ปวดหัว" ฟุริฮาตะตอบสั้นๆ
"งั้นกินยาครับ" คุโรโกะหยิบยาเม็ดสีขาวที่ครูสาวให้ไว้ก่อนที่จะออกไปสอน และย้ำว่าถ้าฟุริฮาตะตื่นเมื่อไหร่ก็เอาให้อีกฝ่ายกินซะ คุโรโกะค่อยๆ พยุยให้อีกฝ่ายลุกขึ้นนั่งและยื่นยากับแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มให้...
ฟุริฮาตะหยิบยาเข้าปาก ก่อนที่จะทำหน้าเหมือนอยากคายทิ้งและรีบดื่มน้ำเข้าไปจนเกือบสำลัก "ยาบ้าอะไรเนี่ย?! ขมชิบ!"
"...ถึงมันจะขมแต่ผมว่าได้ผลดีนะครับ" คุโรโกะมองอีกฝ่ายที่ดูตื่นเต็มตาแล้วและยิ้มแห้งๆ เพราะรู้ดีว่ายาในห้องนี้แต่ล่ะอย่างมหาโหดทั้งนั้น
อย่างตอนที่มีคนเป็นแผลลึกที่เข่าตอนวิชาพละและมาห้องพยาบาล ครูแกก็เล่นซะ...เอายาอะไรไม่รู้มาทารู้แค่คนถูกทำแผลร้องแทบโรงเรียนแตก
คนโดนทำแผลก็ใช่ตัวเล็กๆ นะ แต่เป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโรงเรียนล่ำบึกแถมถึกที่สุดในโรงเรียน...คิดดูสิขนาดคนอย่างนี้ยังร้องมันจะแสบขนาดไหนล่ะ ถึงยานั้นทำให้แผลหายเร็วจริงๆ ก็เถอะ
"คุโรโกะ..." ฟุริฮาตะเรียกเพื่อนตนที่ยิ้มแห้งๆ ให้ "...ฉันมาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย?"
...คุโรโกะไม่มีทางแบกเขามาเองได้แน่...
"คางามิคุงแบกพวกเรามาครับ" คุโรโกะตอบพร้อมหลบตาอีกฝ่าย เมื่อนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้...เรื่องที่ทำให้เขาไม่ค่อยกล้าสู้หน้าอีกฝ่าย...
...เขาเกือบลืมไปเลย...เมื่อวานเขา...
...แล้วตอนนี้...ฟุริฮาตะคุงยังมองเขาเหมือนเดิมหรือเปล่านะ?...
"คุโรโกะ?" ฟุริฮาตะมองคนที่จู่ๆ ก็หลบตาตนอย่างไม่เข้าใจ "นายจะหลบตาฉันทำไมเนี่ย?"
"หลบอะไรครับ...คุณคิดไปเองมากกว่า" คุโรโกะตอบด้วยน้ำเสียงที่เห็นชัดๆ เลยว่าแหลชัวร์
"คุโรโกะ...ฉันไม่ได้ซื่อบื้อจนดูไม่ออกนะ" ฟุริฮาตะไม่รู้คุโรโกะคิดอะไรถึงโกหกออกมาได้ห่วยแตกอย่างนี้
"ฟุริฮาตะคุง...คุณไม่เกลียดผมเหรอครับ?" สุดท้ายเมื่อคิดว่าคงแกล้งทำเหมือนไม่รู้อะไรไม่ได้ คุโรโกะก็ถามในเรื่องที่เขากังวลที่สุดออกมา
"เอ๋?" ฟุริฮาตะมองคนถามอย่างไม่เข้าใจ "ทำไมฉันต้องเกลียดนายด้วยล่ะ?"
"ก็เมื่อวาน...ผม..." คุโรโกะกัดริมฝีปากตนเองราวอดกลั้นความรู้สึกตนเอง...ความรู้สึกโกรธตัวเองจนแทบทนไม่ไหว
"อ๋อ เมื่อวานน่ะเหรอ..." ฟุริฮาตะมองเพื่อนตนที่ทำหน้าเมือนใกล้จะร้องไห้ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบเรือนผมสีฟ้าเบาๆ "...เรื่องนั้นฉันไม่ได้โกรธหรือเกลียดนายหรอกนะ"
"...จริงเหรอครับ?" คุโรโกะมองฟุริฮาตะอย่างคาดหวัง...
...ฟุริฮาตะคุง...แค่คุณไม่โกรธหรือเกลียดผมก็พอ...
"อืม จริงสิ" ฟุริฮาตะมองคนตรงหน้าและยิ้มบางๆ ออกมา "แต่ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?"
"ครับ ได้ครับ..." ...ผมยอมตอบคุณทุกอย่างนั้นแหละ
"ที่นายบอกเมื่อวานนี้...เรื่องจริง?" ฟุริฮาตะเอ่ยถามออกมา...ที่จริงเขาก็ไม่บื้อขนาดดูไม่ออกหรอกนะ ว่าคุโรโกะจริงจังขนาดไหน แต่แค่ถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้นเอง
"ครับ...จริงครับ..." คุโรโกะตอบด้วยใบหน้าแดงนิดๆ อย่างหาชมได้ยาก "...ถ้าคุณไม่ชอบใจล่ะก็...ผมขอให้คุณลืมเรื่องเมื่อวานไปได้หรือเปล่าครับ..."
"เอ๋? ฉันคงลืมไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่นายอยากให้เป็นหรอกนะ..." ฟุริฮาตะมองคนที่ดูท่าจะเริ่มวิตกซะแล้ว "...อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ไม่ชอบใจอะไรหรอก...แค่ไม่เข้าใจนิดหน่อย"
"งั้น...ผมกับคุณยังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ไหมครับ?" คุโรโกะถามออกมาแม้จะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าไม่เหลือเกิน
"อืม แน่ล่ะ" ฟุริฮาตะตอบอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด...ยังไงคนตรงหน้าก็ยังเป็นเพื่อนเขาแม้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นน่าต่อยสักทีก็ตาม...
"..." คุโรโกะดีใจจนไม่พูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงโพเข้ากอดฟุริฮาตะ "...ขอบคุณมากนะครับ"
...ขอบคุณ...ที่คุณยังเห็นผมเป็นเพื่อนอยู่...ยังให้ผมได้อยู่ใกล้คุณ...
"...นายจะขอบคุณฉันทำไมเนี่ย?" เด็กหนุ่มตบหลังเพื่อนตนเบาๆ อย่างเอ๋อๆ งงๆ ที่จู่ๆ เพื่อนผมฟ้าของตนก็เข้ามากอดแบบนี้
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงโครมครามดังจากบริเวณหน้าห้องพยาบาล คุโรโกะผละออกจากเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลและมองไปที่ประตูที่กำลังถูกสาวห้าวคนหนึ่งเปิดออกอย่างแรงจนน่ากลัวว่าประตูจะพังพร้อมลากคนคุ้นหน้าคุ้นตาถูกลากเข้ามาสองคน
"อ้าว? ตื่นแล้วเหรอ? เป็นไงบ้างล่ะ?" ครูสาวทักทันทีที่เห็นคนป่วยที่หลับนานจนน่ากลัวว่าตายแล้วตื่นเสียที
"เอ่อ ตอนนี้ปวดหัวนิดหน่อย แต่ไม่เป็นมากครับ..." ...เพราะยาขมบรรลัยนั้นแหละคร้าบบบ ไปหาซื้อมาจากไหนเนี่ย? ได้ผลชะงัดจริงๆ
"อืม งั้นก็ดีแล้ว...แล้วกลับบ้านเองไหวไหม? หรือให้พาไปส่ง" ครูสาวถ้าแบบลืมคนที่ดิ้นกระแด๊กๆ ในมือทั้งสองข้างของตนไปสนิก
"ก...กลับเองได้ครับ แล้ว..." ฟุริฮาตะมองคนที่คุ้นหน้าที่ถูกลากเข้ามาในห้องนี้ "...ไหงถึงลากคางามิกับอาโอมิเนะมาได้ล่ะครับ?"
"นั้นสิครับ คางามิคุง อาโอมิเนะคุง ไปทำอะไรกันมาครับ? ไหงแผลเต็มตัวแบบนี้ล่ะครับ?" คุโรโกะก็อยากรู้เหมือนกัน
"เฮ้ย!!!" เด็กหนุ่มสอง หญิงสาวหนึ่งสะดุ้งพร้อมมองยังต้นเสียง "อยู่ด้วยเหรอ!?!"
"ครับ..." คุโรโกะตอบอย่างมืดมน...ถึงจะชินแล้วก็เถอะแต่เห็นแสงของตนทั้งสองทำหน้าแบบนั้นมันก็อยากจะขว้างลูกบาสใส่หน้าสักทีเหมือนกัน
"คราวหลังช่วยกรุณาอย่าทำให้ตกใจได้ไหม!!!" ครูสาวแว๊ดใส่คุโรโกะ "และพวกนายมาทำแผลเลย!!!"
ขณะเดียวกันริโกะกับพวกตัวจริงของเซย์รินกับโอโทวที่เดินตามมาดูก็เดินเข้ามาในห้อง
"อ้าว? ฟุริฮาตะคุงตื่นแล้วเหรอ?" ริโกะทักพร้อมกับที่ฟุคุดะกับคาวาฮาระพุ่งเข้ามาสำรวจเพื่อนตนว่าเพื่อนสนิกตนยังครบสามสิบสองไหม
"ครับโค้ช...ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย? ทำไมพวกโอโทวมาที่นี่ได้ล่ะครับ? ไหงคางามิกับอาโอมิเนะถึงแผลเต็มตัวแบบนั้ยล่ะครับ?" ฟุริฮาตะถาม และเอามือดันเพื่อนสนิกทั้งสองคนของตนออกเชิงบอกว่าตนไม่เป็นอะไรไม่ต้องมาตรวจกันก็ได้
"อ๋อ คือวันนี้เรามีซ้อมแข่งกับโอโทวน่ะ ส่วนสองคนนั้น..." ริโกะพูดพร้อมส่งสายตาไปยังเด็กหนุ่มทั้งสองอย่างคาดโทษ "...ดันทะเลาะกันด้วยเหตุผลงี่เง่าๆ น่ะ แล้วอาจารย์ผ่านมาพอดีเลยลากสองคนนี้มาทำแผลนี้แหละ"
"ให้ตาย ชอบก่อเรื่องกันจริงๆ นะ" อิมาโยชิบ่นด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่ เพราะเริ่มปลงแล้ว
"...ผมควรสวดให้สองคนนี้ไหมครับ?" คุโรโกะถาม
"ควรอย่างยิ่ง!" เหล่าทีมเซย์รินตอบอย่างพร้อมเพรียก เพราะรู้ว่าอาจารย์ท่านนี้ทำแผลใช้ยาแต่ล่ะที...บางคนต่อให้เจ็บแทบตายยังไงก็ไม่ทางเฉียดห้องพยาบาลแห่งนี้แน่
"เอ๋? หมายความว่าไง?" ซูสะถามอย่างไม่เข้าท่าทางที่เหมือนเริ่มไว้อาลัยกับเอสทั้งสองชอบกล
"คือ...ว่า..." ฮิวงะเหล่มองคนผมสีเพลิงกับคนผมสีน้ำเงินที่ใกล้ปากทางนรกเข้าไปทุกที "...ดูเองแล้วกัน"
เพียงไม่นานหลังจากนั้นเหล่าตัวจริงโอโทวทั้งหลายก็ได้คำตอบ เมื่อเห็นการทำแผลของครูห้องพยาบาลคนนี้ เสียงของคนโดนทำแผลคงทำให้ฝันร้ายไปหลายวันเลยล่ะ และคงเป็นที่จดจำว่าเจอครูคนนี้เมื่อไหร่ต่อให้เจ็บปางตายก็อย่าให้มารักษาเด็ดขาด!!!...
...สุดท้ายนี้โปรดไว้อาลัยแก่คางามิกับอาโอมิเนะเป็นเวลาสิบห้าวิด้วย เพื่อสวดส่งวิญญาณของทั้งสองไปสุดสุคติ (ยังไม่ตายเฟ้ย!!! // คางามิ&อาโอมิเนะ)
End
คุโรโกะ // ไหงตัดจบดื้อๆ ล่ะครับ!
S // ก็เราคิดมุขไม่ออกอ่ะ...
คุโรโกะ // ชิโกะซัง...
S // อย่าทำเสียงน่ากลัวสิ
คุโรโกะ // ก็น่าไหมล่ะครับ? กว่าผมจะได้เมะมันยากนะครับ ส่วนใหญ่เขาชอบแต่ผมเคะทั้งนั้นเลย...ผมอยากมีบทที่เป็นเมะเยอะๆ นะครับ
S // เอาน่า...ถ้านายคู่ฟุริยังไงนายก็เมะ เพราะเราชอบฟุริเคะ แต่ถ้าคู่คนอื่นเราเอานายเคะทันที
คุโรโกะ // งั้นก็เขียนคู่ผมกับฟุริฮาตะคุงเยอะๆ นะครับ...
อาคาชิ // เท็ตสึยะ อย่ามาแย่งโคกิดิ ปกติโคกิคู่ฉันนะ
คุโรโกะ // ผมไม่สนซะอย่าง จะทำไมครับ?
S // หยุด! เดี๋ยวลองให้ฟุริมากดพวกนายแทนซะหรอก!!!
คุโรโกะ & อาคาชิ // อย่างฟุริฮาตะคุง(โคกิน่ะ)กดผม(ฉัน)ไม่ได้หรอกครับ(นะ)
S // ทีแบบนี้สามัคคีกันเชียวนะ
ฟุริฮาตะ // ให้ฉันเมะบ้างเถอะ
S // ม่ายอาววว เราชอบให้นายเคะ ไอ้ที่พูดเมื่อกี้แค่ขู่สองคนนั่นเฉยๆ
ฟุริฮาตะ // ชิโกะอ่ะ T[]T
S // บายจ้า! แล้วเจอกันฟิคหน้า!
ความคิดเห็น