ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #40 : [AoKi] Love Kid!!! 2 (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.82K
      59
      2 ส.ค. 57

    Title : Love kid!!! 2 (1)

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Aomine x Kise

    Notes : ต่อจาก  

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=18

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=19

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=32

    http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1144887&chapter=41

    ................................................................

    Love kid!!! 2 (1)

     

    สองปีก่อน ที่โรงเรียนมัธยมต้นเทย์โค ที่โรงยิมของโรงเรียน

    "อาโอมิเนจจิ!!!" เสียงเริงร่าอันเป็นเอกลักษณะของหมาน้อยประจำทีมปาริหาติท์ 'คิเสะ เรียวตะ' ดังขึ้น พร้อมกับร่างโปร่งเดินไปหาเอสของทีม 'อาโอมิเนะ ไดกิ' "มาเล่น 1 on 1 กัน!!!"

    "เฮอะ..." คนผิวดำ (เฮ้ย! // อาโอมิเนะ) คนผิวคล้ำแค่นเสียงออกมา "...เดี๋ยวแพ้ก็มาโวยวายอีก"

    "คราวนี้ไม่แพ้แน่!" คิเสะพูดอย่างมั่นใจ

    "ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที..." อาโอมิเนะส่งยิ้มกวนประสาทให้อีกฝ่าย "...และก็เห็นแพ้ทุกที"

    "อาโอมิเนจจิอ่ะ!" คิเสะทำแก้มป่องอย่างน่ารักจนอาโอมิเนะยืดแก้มอีกฝ่ายเล่นเสียเลย "เอ็บอะอาโออิเออิ"

    "ช่วยไม่ได้น่าแกล้งเองนิ" อาโอมิเนะปล่อยมือจากแก้มอีกฝ่าย

    "อาโอมิเนจจิอ่ะ!" สุดท้ายคิเสะก็โวยใส่อีกฝ่ายตามปกติอีกตามเคยและจบลงด้วยการงอแงขอให้เล่นด้วยอีกตามเคย...ดูคล้ายลูกหมาเรียกความสนใจจากเจ้าของเหลือเกิน

    "ทุกคนนนนน~~~" เสียงหวานดังขึ้นก้องทำให้ทีมตัวจริงทั้งหกหันไปมองยังต้นเสียง ร่างของเด็กสาวผมสีชมพูสุดอึ๋มวิ่งเข้ามาในโรงยิมพร้อมในมือถือวัตถุประหลาดชวนสยองไว้ในมือ "ฉันทำคุกกี้มาแน่ะ~~ ทุกคนลองชิมหน่อยสิ~~~"

    "ไม่เด็ดขาด" อาโอมิเนะปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิดเนื่องจากรู้ฝีมือเพื่อนสมัยเด็กของตนเป็นอย่างดีว่า...มันเลวร้ายกว่ายาพิษอีก

    "เอ่อ ฉันก็ขอบาย" คิเสะพูดพลางยิ้มแหยงๆ

    "..." คุโรโกะแว่บหายไปเป็นที่เรียบร้อย

    "วันนี้ดวงของฉันห้ามกินคุกกี้น่ะ" มิโดริมะก็พูดบายเบี่ยง

    "ฉันไม่ชอบของหวาน" อาคาชิตอบแบบบอกกลายๆ ว่าห้ามเอามาให้เขาเชียว

    "ฉันอิ่มแล้ว คงกินของซัทจินต่อไม่ไหวหรอก~~" ขนาดมุราซากิบาระที่กินขนมทุกอย่างยังของบาย

    "ง่ะ! ไม่มีใครคิดจะลองชิมหน่อยเหรอ?!" โมโมอิทำแก้มป่องอย่างงอนน้อยๆ ที่ไม่มีใครยอมกินอาหารฝีมือตน

    "แหงสิ...เล่นทำห่วยซะ..." อาโอมิเนะพูดอย่างไม่ใส่ใจ ผลที่ได้คือโดนสาวเจ้าเตะแข้งไปที "โอ้ย! เจ็บนะ! ซัทสึกิ!"

    "สมน้ำหน้า ว่ากันดีนัก..." โมโมอิแลบลิ้นใส่อาโอมิเนะ ทำให้สุดก็กลายเป็นสองคนนี้วิ่งไล่ไปกันมาซะงั้น

    "ดูน่าสนุกกันจังนะ" คิเสะมองเพื่อนทั้งสองของตนที่วิ่งไล่กันอย่างขำๆ

    "นั้นสินะครับ...คิเสะคุง!!! ระวัง!!!"

    "เอ๋?" ไม่ทันทีคิเสะจะเข้าใจในความหมายที่คุโรโกะบอกก็มีบ้างอย่างมากระแทกหน้าตนพร้อมกับอะไรสักอย่างขมๆ เข้ามาในปากและเจ้าตัวก็เผลอกลืนเข้าไป จากนั้นก็...

    โครม!!!

    ...หงายเงิบสลบคางที่คร้าบบบ

    "เฮ้ย!!! คิเสะ!!! / คิเสะคุง!!! / คิเสะจิน!!!" เหล่าทีมปาติหาร์รีบมาดูสมาชิกหัวเหลืองของทีมที่เมื่อครู่โดนถาดคุกกี้ลอยใส่หน้า

    "ตายยังวะเนี่ย!!!" อาโอมิเนะประคองคิเสะขึ้นเพื่อดูว่าเพื่อนตนตายยัง...และโชคดีที่ยังไม่ตายอย่างที่เขานึกกลัว

    "อย่าแช่งคิเสะคุงสิครับ..." คุโรโกะค้อนใส่แสงของตน "...ผมว่าคุณควรพาคิเสะคุงไปห้องพยาบาลก่อนดีกว่าครับ"

    "ทำไมเป็นฉันล่ะ!!!" อาโอมเนะถามผู้เงาของตน

    "ไดกิ..." อาคาชิเรียกเอสของทีมเสียงเข้ม "...อย่าบ่นและพาเรียวตะไปห้องพยาบาลซะ"

    "ชิ..." อาโอมิเนะส่งเสียงไม่สบอารมณ์ออกมาเบาๆ "...ก็ได้"

    และร่างของคนผิวคล้ำก็แบกนายแบบหนุ่มออกจากโรงยิมไปห้องพยาบาลตามคำสั่งของกัปตันทีมตน...

    ...เมื่ออาโอมิเนะพาคิเสะมาถึงห้องพยาบาลก็พบว่าครูห้องพยาบาลไม่อยู่ เอสของทีมเทย์โคจึงวางร่างบางราวผู้หญิงลงบนเตียง ก่อนที่จะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ นายแบบหน้าสวยที่สลบไหลไม่ได้สติ

    "ให้ตายเถอะ..." อาโอทิเนะบ่นกับการที่ต้องมานั่งเฝ้าคนแบบนี้...ที่จริงเขาจะทิ้งหมอนี่ไว้นี้แล้วเดินกลับโรงยิมก็ได้ เสียแต่ว่าเขาทำใจทิ้งหมอนี้ไว้คนเดียวไม่ลงน่ะสิ!!! คราวก่อนเขาเผลอทิ้งไว้คนเผลอทิ้งไว้คนเดียวแป๊ปเดียวก็มีคนจะลากหมอนี้เข้ามุมมืดซะแล้ว ยังดีหมอนี้เคยเข้าชมรมศิลปะป้องกันตัวมาเลยช่วยตนเองได้บ้าง แต่ตอนนี้ถ้าทิ้งไว้เดี่ยวๆ คนเดียวแบบนี้มีหวังโดนลักหลับแน่!!!

    คนผมน้ำเงินถอนหายใจอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจพร้อมกับลูบเรือนผมสีเหลืองทองของอีกฝ่ายเบาๆ ...

    ...ชอบทำให้ห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ เจ้าบ้า...

     

     

     

     

     

    "อาโอ...อา...มิเนจ...อาโอมิเนจ...อาโอมิเนจจิ!!!"

    "หืม~ เรียกอะไรนักหนา..." อาโอมิเนะพูดเสียงอู้อี้อย่างคนยังตื่นไม่เต็มที่ หลังจากที่เผลอหลับไประหว่างเฝ้าสัตว์เลี้ยงของทีมที่สลบอยู่ ก่อนที่จะถูกปลุกด้วยเสียงที่จะว่าคุ้นก็คุ้นจะว่าไม่คุ้นก็ไม่คุ้น "...มีอะไร?"

    "มีอะไรเหรอ? มีสิ มีแน่...ช่วยแหกตาดูหน่อยสิ! อาโอมิเนจจิ! และบอกฉันทีว่านี้มันเกิดอะไรขึ้น!?!" การพูดอันเป็นเอกลักษณะของคิเสะดังขึ้นอย่างคนที่ไม่เข้าใจในเรื่องบางอย่าง

    "หือ? เฮ้ย! นี้มันบ้าอะไรเนี่ย!?!" อาโอมิเนะเบิกตากว้างมองภาพของเจ้าของเสียงที่พูดกับเขาด้วยอาดารเหมือนสติจะหลุดออกจากร่าง

    ภาพตรงหน้าของเอสหนุ่มของทีมเทย์โคคือ เด็ก...เด็กอายุราวๆ 6 - 7 ขวบ ผมสีเหลือง ดวงตาสีเดียวกันคลอไปด้วยน้ำตา หน้าตาสะสวย นั่งหน้าบึ้งอยู่บนเตียง...ในชุดหลวมโพลกของเพื่อนของเขา!!!

    "ถ้าฉันรู้ฉันจะถามทำไมล่ะ?! อาโอมิเนจจิ!" เด็กน้อยพูดด้วยท่าทางหงุดหงิดที่ดูน่ารักมากกว่าน่ากลัว

    "คิเสะ...เหรอ?" อาโอมิเนะขยี้ตาจนตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าอยู่แล้ว แต่ภาพตรงหน้าก็เหมือนเดิม

    "ก็ใช่น่ะสิ!!!" คิเสะตอบ

    "ทำไมกลายเป็นแบบนี้ฟะ!?!" อาโอมิเนะพูดอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะคว้าตัวเด็กน้อยมาอุ้ม "ยังไงก็ช่าง...ก่อนอื่นต้องไปหาอาคาชิก่อน!!!"

    และอาโอมิเนะก็วิ่งไปที่โรงยิมอย่างรวดเร็วราวสายลม เมื่อมาถึงหน้าโรงยิมก็...

    ปัง!!!

    ...ถีบประตูโรงยิมจนเปิดออก ผู้คนในโรงยิมก็ต่างสะดุ้งพร้อมมองผู้ที่เดินเข้ามาในโรงยิม

    "อาโอมิเนะคุง อย่าถีบประตูให้คนอื่นตกใจสิครับ...และในมือนั้นอะไรน่ะครับ?" คุโรโกะมองสิ่งที่อยู่ในมือแสงของตนสักพักก่อนที่จะเบิกตากว้างอย่างหาชมได้ยาก "คิเสะคุง!?! ไหงกลายเป็นอย่างนี้ล่ะครับ!?!"

    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะคุโรโกจจิ พอตื่นมามันก็เป็นอย่างนี้แล้ว..." คิเสะตอบ

    "เกิดอะไรขึ้น?" พวกทีมตัวจริงเดินมาหาทั้งสาม เนื่องจากเห็นสีหน้าที่นานๆ ทีแสดงออกมาของคุโรโกะเลยเดาว่าคงเกิดเรื่องอะไรขึ้น

    "แล้วเรียวตะล่ะ?" อาคาชิถามขึ้นเมื่อไม่เห็นสมาชิกหัวเหลืองของทีมตน "คงไม่ได้ทิ้งเรียวตะไว้ที่ห้องพยาบาลคนเดียวใช่ไหม?"

    ทุกสายตาเบือนมองอาโอมิเนะประมาณว่า 'กล้าทิ้งคิเสะไว้คนเดียวเหรอ? ทั้งที่รู้วาาทิ้งหมอนั้นถ้าทิ้งไว้คนอาจโดนลักหลับได้เนี่ยนะ?'

    "ใช่ที่ไหนล่ะ!!!" อาโอมิเนะรีบล้างมลทินของตนเอง พร้อมชูร่างเล็กในมือขึ้น "นี่ไงเล่า! คิเสะน่ะ!!!"

    "เฮ้ย!" มิโดริมะถอนแว่นออกมาเช็ดอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น ก่อนที่จะสวมแว่นกลับดังเดิมแต่...ภาพตรงหน้ายังเหมือนเดิม "ไหงคิเสะกลายเป็นงี้ได้!!!"

    "ไม่รู้!!!" อาโอมิเนะตอบทันที "แต่ถ้าให้เดา...คิเสะคงเผลอกลืนคุกกี้ของซัทสึกิไปแหง"

    "อ๊ะ!" คิเสะร้องออกมาอย่างเพิ่งนึกได้ "จะว่าไปรู้สึกว่าก่อนสลบไปจะเผลอกลืนอะไรขมๆ เข้าไป หรือว่า..."

    "ง่ำๆ สงสัยคิเสะจินคงเผลอกินเข้าไปจริงๆ นั้นแหละ" มุราซากิบาระพูดทั้งที่ขนมเต็มปากอยู่

    "อย่าพูดตอนที่กินอยู่สิ อัตสึชิ" อาคาชิดุเด็กโข่งผมม่วงก่อนที่จะมองเด็กน้อยที่ห้อยต่องแต่งอยู่ในมือสีคล้ำ "คราวนี้เอาไงกับเรียวตะดีล่ะ?"

    "คงต้องปล่อยไปก่อน..." มิโดริมะที่เริ่มสงบสติอารมณ์ได้พูดขึ้น "ให้ตายเถอะ ถึงจะเห็นบ่อยแล้วแต่ก็ทำใจให้ชินไม่ได้สักทีสิน่า"

    "เอาน่า ขนาดฉันเห็นมาตั้งแต่เด็กยังทำใจชินไม่ได้เลย แล้วนายจะเหลือเหรอ?" อาโอมิเนะพูดเชิงปลอบแบบคล้ายปลงเพื่อนสมัยเด็กของตนมากกว่า

    "แล้ว...เราจะฟากคิเสะคุงไว้กับใครดีครับ? จะให้คิเสะคุงกลับบ้านสภาพนี้คงไม่ได้ด้วยสิ" คุโรโกะถามในสิ่งที่ทุกคนเกือบลืมไปเลย...

    "เอ้อ...จริงแฮะ" ...ทุกคนก็นึกออกเพราะคุโรโกะถามจริงๆ

    "ง่ายจะตาย...ให้ไปอยู่กับไดกิสิ" อาคาชิตอบทันทีโดยไม่ถามความเห็นของคนที่ถูกกล่าวถึงเลย

    "ไหงเป็นฉันล่ะ?!" อาโอมิเนะถามกลับทันที...ก็ในเมื่อทั้งทีมมีคนตั้งเยอะตั้งแยะทำไมต้องเป็นเขาล่ะ!?

    "อยากได้เหตุผลใช่ไหม?" อาคาขิยิ้มเย็นๆ ออกมา "งั้นข้อแรกเลยคือบ้านนายตอนนี้นายอยู่คนเดียวไม่มีใครอยู่บ้านเพราะงั้นบ้านนายเหมาะสุด"

    ...แล้วนายรู้ได้ไงว่าบ้านฉันตอนนี้ฉันอยู่คนเดียวเนี่ย!?! แอบติดกล้องไว้หรือไงกันฟะ!!!...

    "และข้อสอง..." อาคาชิเริ่มเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ "...ถ้าฉันให้เรียวตะไปอยู่กับคนอื่นนายก็คงไม่ยอมหรอกใช่ไหมล่ะ?"

    ...ถูกเผง...

    "อาโอมิเนะคุง..." คุโรโกะที่เห็นแสงของตนไม่เถียงอะไรก็เลยเรียกอีกฝ่าย "...อาโฮ่จริงๆ นะครับ"

    "นายว่าใครห๊า!? เท็ตสึ!!!" อาโอมิเนะแยกเขี้ยวใส่ผู้เป็นเงาของตน

    "ใครรับก็คนนั้นแหละครับ" คุโรโกะพร้อมแวบหายไปในทันที

    "หน็อย เท็ตสึ..." อาโอมิเนะได้เพียงบ่นคู่หูตนในใจเพราะในเมื่ออีกฝ่ายหนีไปแล้วคงตามไปบ่นไม่ได้

    "เอ่อ อาโอมิเนจจิ..." คิเสะเรียกอาโอมิเนะให้มามองตน "...ปล่อยฉันลงได้ยังอ่ะ?"

    "โทษที นายตอนเด็กมันเปี๊ยกเลยลืม" อาโอมิเนะพูดพร้อมวางคนในมือตนลง

    "ว่าใครเปี๊ยกห๊า!!! อาโอมิเนจจิ!!!" คิเสะตีขาอีกฝ่ายอย่างแรง...แต่ก็เบาอยู่ดีสำหรับอาโอมิเนะ

    "ก็นายนั้นแหละ" อาโอมิเนะตอบพร้อมส่งยิ้มยี้ยวนให้

    "อาโอมิเนจจิอ่ะ!!!" คิเสะโวยใส่คนขี้แกล้งตรงหน้า ซึ่งดูน่ารักมากจนอาโอมิเนะอดไม่ได้ที่จะ...

    แซะ!

    ...กดมือถือถ่ายรูปรัวกับภาพหายากแบบนี้

    "ถ่ายจะไรของนายน่ะ?! อาโอมิเนจจิ!!!" คิเสะโวยพร้อมมือเล็กๆ พยายามคว้ามือถืออีกฝ่ายมา "ลบเลยนะ!!!"

    "ไม่มีทาง..." อาโอมิเนะยกมือถือขึ้นสูง และยังกดถ่ายรูปไม่หยุด "...รูปแบบนี้หายากจะตาย"

    "อาโอมิเนจจิคนบ้า! คนขี้แกล้ง!" คิเสะทำแก้มป่อง จนอาโอมิเนะอดขำน้อยๆ ไม่ได้ "ขำอะไรของนาย!"

    "ขำนายไง..." อาโอมิเนะตอบพร้อมเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง (พอดีอาโอมิเนะใส่กางเกงขาสั้นแบบมีกระเป๋าพอดี ดังนั้นอย่างงว่าชุดที่ใส่ซ้อมบาสมันมีกระเป๋าด้วยหรือเปล่า // s)

    "เฮ้ย!!! ระวัง!!!" ขณะที่ผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่งเถียงกันก็มีเสียงของใครสักคนดังขึ้นพร้อมกับ...

    พลั่ก!!!

    ...ลูกบาสสีส้มลอยมากระแทกหัวคิเสะจนล้มหน้าทิ่มพื้น

    "เฮ้ย! คิเสะเป็นไรไหมเนี่ย!?" อาโอมิเนะรีบตัวอีกฝ่ายลุกขึ้นทันที

    "เอ็บอ่ะ" คิเสะพูดพร้อมเอามือกุมจมูกตนเอง ดวงตาสีเหลืองสวยคลอไปด้วยน้ำตาคล้ายจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ

    "เฮ้ย! เมื่อโดนใครป่าวเนี่ย?!" เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของลูกบาสที่ลอยมาวิ่งมาเก็บลูกบาสตนพร้อมเอ่ยถาม

    "โดน...เต็มๆ เลยล่ะ" อาโอมิเนะบอกพร้อมชี้ไปที่คิเสะที่ใกล้จะร้องไห้จริงๆ แล้วในขณะนี้

    "เอ่อ...ขอโทษทีนะ" เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างติดขัดเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่โดนลูกบาสกระเด็นใส่เป็นเด็กก็เริ่มออกอาการงงว่ามีเด็กที่นี่ได้ไง? บวกกับที่ดูเหมือนว่าเขาเกือบจะทำเด็กร้องไห้เสียแล้ว

    "อือ...ไม่เป็นไร..." คิเสะตอบกลับพร้อมขยี้ตาเพื่อเซ็ดน้ำตาที่คลออยู่ออก

    "รุ่นพี่อาโอมิเนะ..." เด็กหนุ่มเรียกอาโอมิเนะขึ้นขณะมองคิเสะอย่างไม่ล่ะสายตาเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว

    "หือ? มีอะไร?" อาโอมิเนะถามกลับพร้อมกับคว้าตัวคิเสะมาอุ้มเมื่อเห็นสายตาที่มองเด็กน้อยผมสีเหลืองอย่างไม่วางตา

    "เด็กคนนี้...ดูคล้ายๆ รุ่นพี่คิเสะชอบกลนะครับ"

    ...จะไม่คล้ายยังไงกัน ก็นี่มันคิเสะเลยล่ะ...

    อาโอมิเนะคิดในใจอย่างอดไม่ได้

    "แค่ดูคล้ายกันล่ะน่า..." อาโอมิเนะตอบอย่างขี้เกียจหาข้ออธิบายอื่น "และนายกลับไปซ้อมได้แล้วมั้ง? ถ้าโดนอาคาชิโวยขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะ"

    "อ่ะ! ครับ!" เด็กหนุ่มรุ่นน้องตอบพร้อมคว้าลูกบาสไปซ้อมต่อ

    "ไดกิ..." อาคาชิที่เดินมาหลังจากเด็กหนุ่มรุ่นน้องเดินจากไปไม่ถึงเสี้ยววิเอ่ยกับคนผิวเข้ม "...วันนี้นายกับเรียวตะกลับไปก่อนเลย"

    "เอางั้น?" อาโอมิเนะไม่คิดว่าอาคาชิจะปล่อยพวกตนกลับบ้านง่ายๆ แบบนี้ เพราะเหตุผลแค่นี้เท่าไหร่นัก

    "ก็ตามนั้นแหละ..." อาคาชิตอบ "...หรือนายอยากตอบคำถามเป็นพวงจากพวกขี้สงสัยล่ะ?"

    ...อีกอย่างการที่มีเด็กมาอยู่ในโรงยิมเนี่ยถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกติอย่างหนึ่งเลยล่ะ...

    อาคาชิคิดอย่างนี้ในใจแต่ไม่พูดออกมา

    "ตามนั้นก็ได้" อาโอมิเนะที่ไม่อยากสาวหาเหตุผลมากนักก็ยอมตอบรับง่ายๆ และเดินกลับปเปลี่ยนชุดเพื่อกลับบ้าน

     

     

     

     

     

    "ห้องอาโอมิเนจจิเนี่ยสะอาดกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย" ดวงตากลมสีเหลืองอำพันสวยกวาดตามองรอบๆ ห้องโทนสีน้ำเงินเข้มที่ดูสะอาดสะอางกว่าที่เขาคิดไว้มากนัก

    "นายคิดว่าห้องฉันจะเป็นไงเนี่ย?!" คนเป็นเจ้าของห้องถามเด็กน้อยผมสีเหลืองที่เขาต้องอยู่ด้วยกันจนกว่าอีกฝ่ายจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

    "คิดว่าห้องอาโอมิเนจจิจะรกรุงรัง เสื้อผ้าไม่มีซัก ขยะไม่เคยทิ้ง แถมมีหนังสือโป๊กองเท่าภูเขาน่ะ" คิเสะตอบอย่างตรงไปตรงมาจนคนฟังแทบกระอัก

    "เห็นฉันซกมกขนาดนั่นหรือไง!?" อาโอมิเนะแยกเขี้ยวใส่เพื่อนตน

    "ก็ใช่น่ะสิ!" คิเสะตอบทันที ผลที่ได้คืออาโอมิเนะขยี้ผมอีกฝ่ายอย่างมันส์มือ "อย่าเล่นหัวกันสิ! อาโอมิเนจจิ!"

    "ช่วยไม่ได้อยากพูดจาไม่เข้าหูเองนิ" อาโอมิเนะยิ้มพร้อมยี่หัวอีกฝ่ายไม่หยุด

    "อาโอมิเนจจิอ่ะ!" คิเสะพยายามดันเอามืออีกฝ่ายที่ใหญ่กว่าปกติมากนักออก แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก "อาโอมิเนจจิ! ถ้าไม่หยุดโกรธจริงๆ ด้วยนะ!"

    "อาๆ หยุดก็ได้" อาโ มิเนะทำท่ากลัวอย่างเสแสร้งเหลือเกิน "ว่าแต่นายกลายเป็นเด็กนี่ดีจังเนอะ ไม่ต้องซ้อมด้วย"

    "ดีตรงไหนกัน!?!" คิเสะทำหน้ามุ่ยใส่อีกฝ่าย "แบบนี้ฉันก็เล่นบาสกับอาโอมิเนจจิไม่ได้น่ะสิ! น่าเบื่อจะตายชัก!"

    "เอาน่า...เดี๋ยวก็เป็นเหมือนเดิม" อาโอมิเนจจิมองคนที่ตอนนี้ดูเหมือนลูกหมาสีเหลืองอย่างขำๆ

    "แล้วมันจะเมื่อไหร่กันล่ะ!?!" คิเสะเริ่มโวยอย่างห้วเสีย

    "คงไม่เกินสัปดาห์หนึ่งเหมือนปกตินั้นแหละ" อาโอมิเนะตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก

    "นั้นมันน่าเบื่อสุดๆ ไปเลยนะ!" คิเสะแทบไม่อยากคิดถึงตนเองตอนที่ต้องอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่มีอะไรทำเลยจริงๆ

    "เอาน่า บ่นไปก็ใช่ว่านายจะกลับร่างเดิมเลยนิ..." อาโอมิเนะพูดพร้อมรื้อหาอะไรบางอย่างในตู้เก็บของของตน "...เลิกบ่นแล้วไปอาบน้ำเลยไป เดี๋ยวฉันหาเสื้อผ้าตอนเด็กให้นายใส่แล้วกัน"

    "ชิ ก็ได้..." คิเสะตอบรับง่ายๆ อย่างหัวเสียเล็กๆ

    สุดท้ายในเย็นวันนั้นของอาโอมิเนะก็ได้ต่างไปจากเดิมที่มักจะเงียบเหงาราวกับไม่มีคนอยู่ด้วยเสียงอึกทึกคึกโครมจากการป่วนกันไปป่วนกันมาของผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่งและเสียงหัวเราะร่าของทั้งสองราวกับ...

    ...คิเสะ เรียวตะเป็นคนมาเพิ่มเติมสีสันให้แก่ชีวิตอาโอมิเนะนั้นเอง

     

     

     

     

     

    "อาโอมิเนจจิ! ตื่น! ตื่นได้แล้ว!" เสียงเล็กๆ ของเด็กน้อยปลุกให้คนที่ขดตัวในผ้าห่มราวดักแด้ให้ตื่นจากนิทรา

    "อืม...นายจะปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย? วันนี้วันหยุดนะ..." อาโอมิเนะลุกขึ้นมาบ่นกับเพื่อนหัวเหลืองที่มาปลุกตน

    "เช้าอะไรกันเล่าอาโอมิเนจจิ! นี้มันเที่ยงแล้วนะ! ใจคอจะนอนทั้งวันเลยหรือไง?!" คิเสะยื่นนาฬิกาที่หัวเตียงให้เพื่อนตนดูชัดๆ ว่าตอนนี้สายแค่ไหนแล้ว

    "อ้าว...เที่ยงแล้วเหรอ?" อาโอมิเนะเกาหัวตัวเองอย่างขี้เกียจๆ พร้อมลุกไปอาบน้ำแต่งตัว สิบนาทีต่อมาอาโอมิเนะก็ออกมาจากห้องน้ำ และพาคิเสะไปในห้องครัวเพื่อหามื้อเที่ยงกิน แต่ดันดวงเฮงที่ของในตู้เย็นหมดพอดี...สุดท้ายทั้งสองเลยตัดสินใจที่จะออกไปกินข้างนอกแทน ทั้งสองเดินออกจากบ้านไปที่ร้านอาหารข้างทาง ขาไปปกติดี แต่ตอนจะกลับนี้สิ...

    "ว้าย! น่ารักจริง"

    "ผมนุ่มมือดีจัง"

    "ผิวก็เนียนน่าอิจฉาจัง"

    "ขนตาก็ยาวดีจัง อยากขนตายาวแบบนี้มั้งจัง"

    "ตาก็โต๊โต"

    "หน้าตาก็ส๊วยสวย"

    "ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ ว่าเป็นผู้ชาย"

    "นั้นสิน้าาาา"

    "ฯลฯ" เหล่าผู้หญิงทุกวัยต่างรายล้อมเด็กน้อยผมสีเหลืองและจับเด็กน้อยมาเล่นราวตุ๊กตา

    เมื่อห้านาทีก่อนหน้าที่เมื่อพวกเขาทั้งสองเดินออกมาจากร้านอาหารก็โดนเหล่าพวกผู้หญิงกรูเข้าหาคิเสะราวตัวดึงดูด...ส่วนอาโอมิเนะก็โดนพวกผู้หญิงถีบไปไหนไม่รู้แล้วจนปล่อยให้เด็กน้อยเผชิญหน้ากับฝูงชนพวกนี้คนเดียว

    'นายไปอยู่ไหนฟะ!? อาโอมิเนจจิ!' เด็กน้อยทำได้เพียงโวยวายในใจโดยที่ใบหน้ายังคงฉีกยิ้มให้ผู้คนทั้งหลาย ก่อนที่ตัวเขาจะโดนมือของใครสักคนคว้าคอเสื้อและออกวิ่งไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจเสียงโวยวายที่ตามหลังมาเลยและสุดท้ายก็มาหยุดที่สวนแห่งหนึ่ง

    "นายแม่เหล็กดึงพวกผู้หญิงหรือไงฟะ!? ขนาดกลายเป็นเด็กยังไม่วายเจอเรื่องพวกนี้อีก..." คนผมสีน้ำเงินบ่นกระเปราะกระแปะพร้อมทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่ง

    "อย่าพูดอย่างกับฉันอยากนักสิ..." เด็กน้อยตอกกลับใส่เพื่อนตนด้วยอาการเหนื่อยจิตเล็กน้อย...ก็ใครจะคิดว่าการถูกรุมล้อมในร่างเด็กมันน่ากลัวกว่าตอนในร่างผู้ใหญ่หลายเท่าล่ะ!!!

    "หาน้ำดื่มกันก่อนดีไหม?" อาโอมิเนะถามขึ้นด้วยอาการกระหายน้ำหลังจากวิ่งหนีฝูงชนที่ดูราวกับซอมบี้มาที่นี่

    "ดี!" คิเสะตอบรับทันทีถึงแม้ตนไม่ได้วิ่งเลยก็ตาม...ที่จริงเจ้าตัวแค่อยากให้อีกฝ่ายเลี้ยงน้ำมั้ง หลังจากโดนเป็นฝ่ายเลี้ยงน้ำมานานเพราะแข่ง 1 on 1 แพ้ตลอด

    "งั้นรอนี่...เดี๋ยวมา" อาโอมิเนะกำชับเล็กน้อยก่อนที่จะเดินจากไปยังร้านขายน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ นั้น

           คิเสะนั่งมองคนผิวเข้มที่เดินห่างออกไปเงียบๆ และหลังจากที่อาโอมิเนะเดินออกไปไม่นานนั้นก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้คิเสะในร่างเด็กน้อย

    "นี่หนู...มานั่งอะไรคนเดียวจ๊ะ?" ชายหนุ่มถามคิเสะด้วยท่าทางดูเป็นมิตร แต่คิเสะกลับรู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ค่อยน่าไว้ใจชอบกล

    "...รอเพื่อนครับ" คิเสะพูดสั้นๆ อย่างไม่อยากพูดอะไรมากนัก

    "งั้นเหรอ...แล้วรออยู่เฉยๆ ไม่เบื่อหรือไง?" ชายแปลกหน้ายังคงถามคิเสะต่อ

    "ไม่ครับ" คิเสะตอบทันทีพร้อมมองซ้ายมองขวาหาทางหนีเผื่อเกิดเรื่อง...ถึงไม่มั่นใจว่าในร่างเด็กจะหนีรอดหรือเปล่าก็เถอะ

    "เอ๋~~ งั้นเหรอ~~" ชายแปลกหน้าลากเสียงยาวก่อนที่มือใหญ่ของอีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาปิดปากเด็กน้อยผมสีเหลืองไว้พร้อมมืออีกข้างอุ้มตัวเด็กน้อยขึ้น "แต่เธอคงต้องไปกับฉันน้า~~"

    "อื้อ!" คิเสะพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างเต็มที่ เสียแต่ในร่างเด็กนี้เขาไม่สามารถสู้แรงอีกฝ่ายได้เลย

    คิเสะถูกลักพาตัวมายังอาคารเก่าๆ แห่งหนึ่งซึ่งไม่ห่างจากสวนที่อยู่เมื่อครู่สักเท่าไหร่นัก...ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกตึกนี้แถวนี้จะลือกันว่าเป็นตึกผีสิงสินะ?

    ภายในอาคารแห่งนี้ยังมีคนที่คาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับชายแปลกหน้าคนนี้อีกสองสามคนยืนอย่างเบื่อหน่ายอยู่หน้าห้องๆ หนึ่ง...

    ...เด็กน้อยถูกชายแปลกหน้าพาเข้าไปในที่มีคนเฝ้านั้นซึ่งมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันำนวนมากนั่งขดเกาะกลุ่มกันอย่างขลาดกลัว

    ...แก๊งลักเด็กสินะ...

    คิเสะคิดในใจขณะที่ตัวของเขาถูกโยนไปรวมกับกลุ่มเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า

    "อยู่ในนี้ไปก่อนล่ะ...เดี๋ยวเย็นนี้ก็จะมีคนมารับพวกเธอไปแล้ว" ชายแปลกหน้าพูดด้วยเสียงเย็นชาต่างจากที่พูดกับคิเสะในสวนลิบลับก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

    "ฮือ...อยากกลับบ้าน" เด็กน้อยทุกคนร้องไห้ระงมหลังจากที่ชายหนุ่มผู้เป็นคนลักพาตัวพวกตัวมาออกไป คิเสะมองเด็กน้อยทุกคนอย่างนึกสงสารและอยากช่วยทุกคนแต่เสียที่ว่าตอนนี้ตัวเขายังเอาตัวเองไม่รอดเลย...เอาไงดีล่ะทีนี่

    ครืน...ครืน...

    แรงสั่นในกระเป๋ากางเกงทำให้คิเสะสะดุ้งก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตนใส่มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง เด็กน้อยรีบคว้ามือถือออกมากดรับอย่างรวดเร็ว

    "อาโอมิเนจจิ! ช่วยด้วย!" คิเสะรีบพูดใส่มืถือทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะโวยวายอะไรออกมาเสียก่อน

    'ห๊า!?' เสียงอาโอมิเนะดูเหมือนจะตามสถานการณ์ไม่ทันเล็กน้อยก่อนที่จะถามกลับอย่างรวดเร็ว 'เกิดอะไรขึ้น?! แล้วนายอยู่ไหนเนี่ย?!"

    "ฉันถูกแก๊งลักเด็กพาตัวมาน่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไอ้ตึกร้างที่อยู่ห่างจากสวนที่อาโอมิเนจจิอยู่ไม่มากนัก...ตึกเขาว่าเป็นตึกผีสิงน่ะ" คิเสะรีบบอกเพื่อนตนทันทีก่อนที่จะมีคนเข้ามาในห้องเสียก่อน...

    แอ๊ด...

    ...เสียแต่ว่าดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว

    "เฮ้ย! ไอ้เด็กบ้า! ทำอะไรของแกวะ!" ชายแปลกหน้าที่เป็นหนึ่งในยามเฝ้าหน้าห้องปัดมือถือของคิเสะจนหลุดออกจากมือ...

    'คิเสะ! เกิดอะไรขึ้น!?! ตอบหน่อย! คิเสะ! คิเสะ!!!' ...แล้วชายหนุ่มก็กดตัดสายมือถือของคิเสะทิ้งทัน

    "แสบมากนะ เจ้าหนู..." ชายหนุ่มเริ่มยิ้มเหี้ยม พร้อมกับชายหนุ่มอีกสองคนเดินเข้ามาในห้อง

    "เกิดอะไรขึ้น? คุมะ?" ชายหนุ่มผู้ที่ลักพาตัวเด็กน้อยผมเหลืองมาถาม

    "ก็เจ้าเด็กนี่น่ะสิ..." ชายหนุ่มที่ชื่อคุมะคว้าคอเสื้อคิเสะขึ้นหิ้ว "...มันโทรหาใครก็ไม่รู้ รู้แค่ไม่ได้โทรหาตำรวจ เอาไงต่อดีทามะ?"

    "เห~ ..." ชายหนุ่มที่ชื่อทามะลากเสียงยาว "...คงไม่เป็นไรมากหรอก...ยังไงเด็กอายุแค่นี้คงไม่มีทางบอกสถานที่นี้ถูกหรอก"

    ...โทษที แต่ฉัน 14 แล้วนะ!...

    คิเสะโวยในใจพร้อมจ้องไปยังชายทั้งสามตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว...เฉพาะสีหน้านะ แต่ในใจหวั่นๆ แล้วล่ะ

    "แต่ว่านะ..." ชายหนุ่มอีกคนที่ยังไม่รู้ชื่อมองคิเสะตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่...ดูน่าขนลุกดีแท้ "...เราควรลงโทษเด็กดื้อหน่อยเไหม?"

    "ก็ดีเหมือนกันวะ ยามะ" คุมะพูดตอบรับอย่างเห็นด้วย

    "นั้นสินะ...ไอ้เด็กนี้ก็สวยดีซะด้วย" ทามะก็ดูท่าทางจะเห็นด้วย "คุมะจับแขนเจ้าเด็กนี้ชูไว้ ยามะจัดการตามต้องการเลย เดี๋ยวฉันถ่ายวิดีโอเป็นที่ระลึกให้"

    "จะทำอะไรน่ะ!?! ปล่อยนะโว้ย!!!" คิเสะพยายามถีบมือที่ยื่นมาหาตนด้วยอาการขยะแขยง

    แต่ชายหนุ่มที่ชื่อยามะก็ไม่ได้สนใจในการขัดขืนของคิเสะ ชายหนุ่มเลิกเสื้อของเด็กน้อยขึ้นแลพเอามือลูกไปตามผิวกายนุ่มนิ่มของเด็กน้อย ก่อนที่จะเลื่อนมือลงปลดกางเกงของคิเสะออก...

    "!!!" คิเสะรีบหุบขาตนเข้าหากันเมื่อกางเกงตนร่วงลงไปอยู่กับพื้นและมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าอาฆาต "อ...ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิตเอ้ย!!!"

    "หึ! ด่าได้ด่าไป..." ยามะเอามือจับขาข้างหนึ่งของเด็กน้อยและดึงให้ขาทั้งสองแยกออกจากกัน ก่อนที่นิ้วหนาเริ่มสอดเข้าไปในส่วนที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำเข้าไป

    "อย่านะ!!! ไม่!!!" คิเสะทั้งดิ้นทั้งถีบคนตรงหน้าเพื่อให้ตนหลุดพ้นจากสถานะการณ์ตรงหน้านี้ เสียแต่...เขาไม่มีทางสู้อีกฝ่ายได้เลย

    "หึ...ได้อารมณ์ดีจริง" ชายผู้ยืนถ่ายวิดีโออยู่นอกวงแสยะยิ้มออกมา "ชักอยากร่วมวงด้วยแหะ"

    "ฮือ! ไม่เอา!!! ใครก็ได้!!! ช่วยด้วย!!!" ดวงตาสีเหลืองเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอย่างสิ้นหวัง "ช่วยด้วย...อาโอมิเนจจิ!!!"

    ปัง!!! โครม!!!

    ร่างของทามะที่ยืนอยู่หน้าประตูถูกถีบเข้าเต็มๆ พร้อมบานประตูที่หลุดออกมาทั้งบานจนสลบคาที่ พร้อมกับร่างที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวสัตว์ป่าพุ่งเข้ามาเอาเก้าอี้ฟาดใส่อยามะย่างไม่ทันตั้งตัวหน้าจนเลือดอาบลงไปนอนกับพื้น

    "นี่มันบ้าอะ..." โดยที่คุมะไม่ทันพูดจบมือสีเข้มก็ชกใส่คุมะแบบทีเดียวจอด พร้อมแย่งตัวเด็กน้อยมาในอ้อมแขนตน...ช่างราวกับพวกฮีโร่ในการ์ตูนแท้

    "คิเสะ! นายไม่เป็นไรใช่ไหม?!" เด็กหนุ่มผู้ที่จัดการผู้ใหญ่ไปสามคนรวดถามเพื่อนตนที่สถาพตอนนี้...ถึงดูเหมือนจะยังไม่โดนทำอะไมาก แต่ก็ใกล้จะทำให้เขาไปตื้บไอ้พวกที่เขาเพิ่งจัดการไปเมื่อครู่อีกรอบแล้วล่ะ

    "อาโอมิเนจจิ..." ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตามองยังคนผมสีน้ำเงินอย่างเสียขวัญ ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร "ฮือ~~ อาโอมิเนจจิ~~"

    ...ไอ้พวกบ้านั้นทำอะไรคิเสะวะ!?!...

    "ไม่เป็นไรแล้วน่า...อย่าร้องสิ..." อาโอมิเนะลูบหัวคิเสะเบาๆ ...ถึงปกติเขาจะชอบใบหน้าตอนร้องไห้ของหมอนี่ก็เถอะ แต่พอคิเสะไม่ได้ร้องไห้เพราะเขาแล้วมันรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ แหะ

    หลังจากนั้นไม่นานคิเสะก็หลับไปในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงิน พร้อมกับที่มิโดริมะที่เขาโทรไปบอกและพวกตำรวจมาถึงพอดี

    และอาโอมิเนะก็โยนเรื่องวุ่นวายให้มิโดริมะจัดการให้ โดยที่ตนเองเดินกลับบ้านพร้อมกับคิเสะนั้นแหละ

     

     

     

     

     

    "ไง...ตื่นสักทีนะ" อาโอมิเนะทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนผมเหลืองของตนเริ่มลืมตาขึ้นมาแล้ว หลังจากเอาคิเสะมาวางไว้บนโซฟาในห้องรับแขกและนั่งมองเพื่อนตนมาเกือบชั่วโมง

    "อื้อ~ อาโอมิเนจจิ?" คิเสะลุกขึ้นนั่งอย่างเมาขี้ตาเล็กน้อย

    "ก็ฉันน่ะสิคิดว่าใครล่ะ?" อาโอมิเนะถามกลับ

    "คิดว่าอะไรไม่รู้ดำๆ น่ะ" คิเสะตอบกลับแบบกวนๆ

    "หน็อย~ ว่าไงน้า~~" อาโอมิเนะแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายพร้อมกับเอามือดึงแก้มอีกฝ่ายเล่น

    "เอ็บอะ! ป่ออิอาโออิเออิ" คิเสะพูดเสียงอู้อี้พร้อมปัดมือคนผิวเข้มออก

    "หึหึ..." อาโอมิ้นะหัวเราะเบาๆ พร้อมกับปล่อยมือจากแก้มเด็กน้อยข้างตัว "...สมน้ำหน้า กล้าว่าฉันดำดีนัก"

    "อาโอมิเนจจิอ่ะ!" คิเสะทำแก้มป่องใส่คนขี้แกล้งข้างๆ ตน

    Rrrrr

    ขณะนั้นเองเสียงมือถือของอาโอมิเนะก็ดังขึ้นมา มือสีเข้มเอื้อมหยิบมือถือขึ้นมากดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าสายที่เข้าเป็นเบอร์ใคร

    "ฮาโหล..."

    'อาโอมิเนะ!!!' เสียงสนั่นชวนขี้หูเต้นทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินแทบเอามือถืออกห่างจากหูตนเองไม่ทัน 'ให้ฉันมาจัดการเรื่องให้เฉยเลยนะ!!! แถมยังลืมเก็บมือถือคิเสะกลับไปอีก!!! รู้ไหมฉันต้องอธิบายนานแค่ไหน!!! กว่าจะกล่อมให้พวกตำรวจคืนมือถือของคิเสะมาได้เนี่ย!!! แล้วไหนจะเรื่อง/$&:&(€"$#$¥●\★◆&%《♡★>}[_$■◆□^&&●●□\<$"^&=!!!'

    "มิโดริมะ..." อาโอมิเนะที่หูแทบชากับการบ่นยาวพรืดของรองกัปตันทีมตนเริ่มรู้สึกว่าคิดผิดที่โทรบอกแล้วสิ "...หยุดบ่นได้ยัง? หูฉันชาแล้ว"

    'นายนี่มัน...' มิโดริมะที่เริ่มปลงกับเพื่อนจอมก่อเรื่องของตนได้สงบสติอารมณ์ลงมาเล็กน้อย '...ยังไงก็ช่างเถอะ แต่อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเชียวไม่งั้นจะไม่ช่วยปิดอาคาชิให้แล้วนะ'

    "เอ้อๆ รู้แล้วน่า" อาโอมิเนะรับปากส่งๆ ไป พร้อมกดตัดสายก่อนที่จะได้ฟังเสียงบ่นเพิ่มเติม

    "นี่ๆ อาโอมิเนจจิๆ" เสียงเล็กๆ เรียกความสนใจของเด็กหนุ่มให้หันไปมอง

    "หือ? มีอะไร?" อาโอมิเนะถามเพื่อนตนที่ทำหน้าอยากรู้เห็นอยู่ข้างๆ

    "มิโดริมัจจิโทรมาโวยเรื่องอะไรเหรอ?" คิเสะถามออกมา เพราะที่ได้ยินแว่วๆ ดูเหมือนเพื่อนผมเขียวของเขาจะบ่นอะไรสักอย่างยาวแทบหลับเลยล่ะ

    "อย่ารู้เลย" อาโอมิเนะตอบปัดไป เนื่องจากรู้ดีว่าเจ้าลูกหมานี้เป็นพวกคิดมากแม้มันจะเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องมากแค่ไหนก็ตาม...ดังนั้นไม่บอกเป็นหนทางที่ดีที่สุด

    "ทำไมล่ะ! บอกหน่อยไม่ได้เหรอ?!" คิเสะดึงแขนเสื้ออาโอมิเนะยิดๆ

    "ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ไม่เห็นต้องมารายงานนายให้เหมื่อยปากเลยนิ" อาโอมิเนะตอบพร้อมคว้ารีโมตมากดเปิดทีวีดู แต่เมื่อเห็นรายการที่ปรากฏขึ้นมาในทีวีก็แทบจะเอารีโมตในมือปาใส่ทีวีเลยทีเดียว ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะรายการในตอนนี้มัน...

    "อ๊ะ! พวกที่ลักพาตัวฉันไปตอนนั้นนิ!?" คิเสะมองภาพข่าวตรงหน้าที่ขึ้นหัวข้อไว้ว่า 'รวบตัวแก๊งลักเด็ก' ซึ่งคิเสะจำได้ดีว่าเป็นพวกเดียวที่เกือบจะข่ม...ทำอะไรบ้าๆ กับเขาน่ะ "อาโอมิเนจจิเป็นคนแจ้งสินะ?"

    "เอ่อ...เปล่า" อาโอมิเนะตอบ

    "งั้นใครแจ้งหว่า?" คิเสะบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะปัดเรื่องนี้ออกจากสมองโดยเร็วเพราะถึงสงสัยไปก็ไม่มีใครตอบ ดังนั้นจึงหันมาให้ความสนใจกับข่าวในทีวีขณะนี้แทน

    '...ทางตำรวจได้รวบตัวแก๊งลักเด็กซึ่งเป็นที่ตามตัวกันมานานได้ในเวลาบ่ายโมงของวันนี้ ซึ่งเมื่อทางตำรวจไปถึงตามที่มีคนแจ้งมาก็พบว่าคนร้ายในคดีนี้ถูกใครสักคนจัดการไปเสียแล้ว...เราลองมาสัมภาษณ์เด็กน้อยผู้เสียหายกันเถอะค่ะ อาจมีข้อมูลของพลเมืองดีที่จัดการผู้ร้ายให้ก็ได้" นักข่าวสาวในทีวีเอ่ยออกมาอย่างคล่องแคล่วอย่างคนที่ทำงานประเภทนี้มานาน 'นี้หนูจ๊ะ พอรู้ไหมจ๊ะว่าคนที่มาช่วยพวกหนูมีลักษณะยังไงจ๊ะ'

    'รู้ครับ!' เด็กน้อยตอบอย่างฉะฉานเมื่อยืนอยู่ข้างๆ ผู้ปกครองตน ความกลัวเมื่อยามก่อนก็จางหายไป 'เป็นพี่ชายตัวสู๊งสูง ผมสีน้ำเงินน่ะครับ! ถึงตอนที่เข้ามาจะดูน่ากลัวมากแต่ตอนที่มาช่วยพวกผมน่ะเท่มากเลยครับ อย่างกับฮีโร่เลยล่ะครับ อ่ะ! รู้สึกว่าจะรู้จักกับพี่ชายผมเขียวที่มาพร้อมพ...'

    "อ๊ะ! อาโอมิเนจจิ! ปิดทีวีทำไมอ่ะ?!" คิเสะโวยขึ้นเมื่อจู่ๆ อาโอมิเนะก็กดปิดทีวีไปเสียดื้อๆ

    "อย่าดูและอย่าสนใจเลย!" อาโอมิเนะพูดพร้อมซ่อนรีโมตไว้กันคิเสะคว้าไปเปิดทีวีดูอีก ใบหน้าเข้มเริ่มขึ้นสีแดงจางๆ

    "อาโอมิเนจจิ...อายเหรอ?" คิเสะถามออกมาตรงๆ ทำให้คนผมสีน้ำเงินแทบสำลักน้ำลายตนเอง

    "บ้าสิ! ใครจะไปอายกันฟะ!?" อาโอมิเนะโวยกลับทันที ถึงแม้เจ้าจะปฏิเสธแต่สีหน้าเนี่ย แสดงออกเลยว่าคิเสะพูดเนี่ย...ตรงเป๊ะเลย

    "แน่ใจนะ?" คิเสะเริ่มเย้ายอดเพื่อนตนเองเล่น

    "แน่สิ!!!" อาโอมิเนะตอบกลับอย่างรวดเร็ว

    "เหรอ~~" คิเสะลากเสียงอย่างบอกได้ชัดเลยว่า 'ฉันไม่เชื่อนายหรอก'

    "จริงนะโว้ย!!!" อาโอมิเนะโวยกลับ "เชื่อกันหน่อยเซ่!!!"

    "จ้าๆ เชื่อก็เชื่อ" คิเสะฉีกยิ้มแฉ่งประมาณว่า 'เชื่อก็ได้ แต่เดี๋ยวจะไปบอกพวกทีมตัวจริงให้รู้ทุกคนเลย'

    "ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครด้วย!" อาโอมิเนะที่เดาท่าทางของคนผมเหลืองออกรีบดักทางอีกฝ่ายไว้ทันที

    "ไมอ่ะ~~" คิเสะถามขึ้นอย่างเซ็งที่โดนรู้ทัน

    "ถ้าอาคาชิรู้เข้าล่ะก็...โดนเทศกันทั้งคู่แน่ นายคงไม่อยากเห็นอาคาชิองค์ลงหรอกนะ" อาโอมิเนะรีบหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้คิเสะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครบวกกับกลัวเรื่องนี้ถึงหูอาคาชิจริงๆ

    "หวา! ไม่เอาด้วยหรอก!" คิเสะรีบส่ายหน้าทันทีเมื่อนึกถึงภาพตนโดนกัปตันทีมหัวแดงของตนเทศ...อา ดูเหมือนฉากในหนังสยองจริง~

    "งั้นปิดปากเงียบเลยนะ อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด" อาโอมิเนะย้ำกับคิเสะที่ทำหน้าเหมือนกลัวเหลือหลาย...มันทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นพวกที่ชอบเอาเรื่องผีมาหลอกเด็กยังไงไม่รู้แฮะ

    "อืม! เข้าใจแล้ว!" คิเสะรับคำของเพื่อนตน

    "อืม...งั้นก็ดี" อาโอมิเนะเริ่มโล่งใจไปเปราะหนึ่งว่าคิเสะคงไม่เอาไปบอกใคร เพราะหมอนี่ถ้ารับคำของเขาแล้วก็ไม่มีอะไรต้องห่วงล่ะ

    "นี่ๆ อาโอมิเนจจิ" มือเล็กๆ ของคิเสะดึงแขนของอาโอมิเนะยิกๆ "ช่วยก้มหน้ามาหน่อยดิ"

    "หือ? มีอะไร?" อาโอมิเนะมองเด็กน้อยผมเหลืองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมก้มไปหาดีๆ และจากนั้น...

    จุ๊บ!

    ...ริมฝีปากเล็กๆ ก็ประทับลงบนแก้มของเด็กหนุ่มทันที

    "ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะ! อาโอมิเนจจิ!" คิเสะฉีกยิ้มให้อาโอมิเนะที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำยิ่งกว่าตอนดูทีวีเมื่อครู่อีก

    "น...นายทำอะไรของนายเนี่ย?!" อาโอมิเนะถามเสียงสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใจเต้นผิดจังหวะไปหมด และ...เริ่มรู้สึกอยากกินเด็กชอบกล

    ...เฮ้ย! ไม่ได้สิ! กินเด็กติดคุกนะโว้ย! ถึงมันอายุเท่าเขาก็เถอะ...แต่ตอนนี้มันเป็นเด็ก! ไม่สิ! มันเป็นผู้ชายด้วยนี้หว่า! อะไรก็ช่างมันแล้ว! ตอนนี้ต้องท่องไว้! คุก! คุก! คุก! คุก! เดี๋ยวคุกลอยมานะโว้ย! ใจเย็นไว้!... (เราว่านายใกล้บ้าแล้วนะ // s)

    "ก็หอมแก้มไง..." คิเสะตอบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่รู้เลยว่าใกล้จะทำให้คนผิวคล้ำใกล้ตัวอยากกินเด็กขึ้นมาแล้ว "...ถึงว่าเป็นรางวัลที่ช่วยฉันไว้ไง"

    และคิเสะก็ลุกวิ่งออกจากห้องไปก่อนที่อาโอมิเนะจะตบะแตกพอดีเป๊ะอย่างน่าขำ แต่ก็ช่วยให้อาโอมิเนะรอดจากข้อหาพรากผู้เยาว์กับพ้นจากการโดนเข้าใจผิดว่าเป็นพวกชอบเด็กนั้นเอง...

    ...สรุปวันที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายก็ผ่านไปอีกวัน

     

     

     

     

     

    "อาโอมิเนจจิ!!! ตื่น!!! ตื่นได้แล้ว!!! ให้ตายเถอะ! วันหยุดทีนายก็นอนยาวแบบนี้ตลอดเลยหรือไง?!" เสียงอันคุ้นหูลอยเข้ามาในโซนประสาทของคนที่นอนดิ้นจนหัวไปอยู่ปลายเตียงแล้วให้ตื่นขึ้นมา

    "หือ~~ คิเสะ?!" อาโอมิเนะเมื่อเห็นร่างของเพื่อนตนก็ลุกพรวดขึ้นมา "นายกลับร่างเดิมแล้ว?!"

    "ก็ใช่น่ะสิ!" คิเสะยิ้มแฉ่งอย่างดีใจที่ตนได้กลับร่างเดิมเสียที "ดีจังเนอะ!"

    "เอ้อๆ ดีใจด้วยแล้วกัน" อาโอมิเนะตอบด้วยท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจทั้งที่จริงๆ ในใจแทบจะโหร้องด้วยความยินดีที่เขาไม่ต้องกังวลแล้วว่าหมอนี่จะโดนลักพาตัวไปอีก...อย่างน้อยในร่างนี้ก็ป้องกันตัวเองได้ลทะ

    "อาโอมิเนจจิ! ไปเล่นบาสกันเถอะ!" คิเสะเริ่มเอ่ยชวนทันที

    "เฮ้ยๆ กลับร่างปุ๊บก็จะเล่นบาสปั๊บเลยเหรอ?" อาโอมิเนะถามกลับ

    "แน่ล่ะ! อยู่ในร่างเด็กไม่ได้เล่นเลยเฉาจะตายอยู่แล้ว!" คิเสะเริ่มออกอาการงอแงดึงแขนเร่งเพื่อนตนยิกๆ

    "เอ้อๆ! รู้แล้ว! ไม่ต้องเร่งนักก็ได้! แข่งช้าหรือเร็วนายก็แพ้ฉันเหมือนเดิม..." อาโอมิเนะบ่นด้วยท่าทางเหมือนรำคาญทั้งที่จริงๆ ก็แค่อยากแกล้งคนผมเหลืองเท่านั้น...

    "อาโอมิเนจจิอ่ะ! คราวนี้ไม่แพ้แน่!!!" ...และดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย

    "จะรอดูแล้วกัน" อาโอมิเนจพูดกวนเล็กน้อยก่อนเดินหายเข้าห้องน้ำไป ใบหน้าเข้มเริ่มฉีกยิ้มที่คิเสะไม่ทันได้เห็นออกมา

    ...หึ อย่างนายไม่มีทางชนะฉันหรอกตั้งกี่ครั้งแล้วเนี่ย...

    ...ที่จริงถ้าเป็นคนอื่นเขาคงเบื่อไปแล้วที่มีคนมาตื้อให้เล่นบาสด้วยทุกวันแบบนี้ แต่พอเป็นนายไหงมันไม่เบื่อแถมยังสนุกมากนักนะ? ...

    ...หรือเป็นเพราะคนคนนั้นคือนาย...คิเสะ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×