ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #44 : [AkaFuri] 校風

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.77K
      95
      16 ส.ค. 57

    Title : 校風

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Akashi x Furihata

    Notes : shiko : อันดับ 2 ของการโหวตมาลงแล้วจ้า!!! อ๊ะ! ขอบอกไว้ก่อนนะว่าฟิคนี้ฟุริอายุเท่ากับพวกฮิวงะนะและฟิคนี้ยาวที่สุดที่เราเคยเขียนมานะ...ว่าแต่ไหงนายดูไม่ดีใจที่ได้เล่นบทวันนี้เลยอ่ะ อาคาชิ...

    อาคาชิ : ไม่มีอะไรหรอก...แค่คล่องใจว่าทำไมฉันได้ที่ 2 น่ะ

    shiko : ยังไม่เลิกคิดอีกเหรอ =[]=

    อาคาชิ : ก็ใช่สิ...คิดยังไงก็คิดไม่ตก...

    Shiko : งั้นบอกให้เลยแล้วกัน เพราะนายได้คู่กับฟุริบ่อยจนคนเขาอยากจะลองเปลี่ยนดูแค่นั้นแหละ แต่สุดท้ายคงยกนายให้เป็นที่หนึ่งของฟุริเหมือนเดิมนั่นแหละ (มั้ง?)

    อาคาชิ : งั้นเหรอ?

    Shiko : ก็ใช่สิ! เอ๊า! รีบไปแสดงได้แล้ว!!! ฟุริเข้าไปในฟิคก่อนนายตั้งนานแล้วนะ!!!

    อาคาชิ : อื้ม...

    ................................................................

    校風

     

    "นี่! คุโรโกะ! คางามิ! เคยได้ยินเรื่องวิญญาณในยามค่ำคืนไหม?!" คาวาฮาระถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ขณะที่พวกเขาเหล่านักบาสปีหนึ่งของเซย์รินทั้งสี่นั่งกินมื้อเที่ยงกันที่ดาดฟ้าของอาคารเรียน

    "มันคืออะไรเหรอ?" คางามิถามกลับโดยที่ยัดขนมปังยาวเป็นเมตรเข้าปากไปด้วย...ช่างกระเพาะหลุมดำโดยแท้

    "ก็เรื่องผีของโรงเรียนเราไงล่ะ!" ฟุคุดะตอบคนผมสีเพลิง "เห็นพวกรุ่นพี่เคยบอกมาว่าตั้งแต่มีเรื่องอะไรสักอย่างเนี่ยแหละเกิดขึ้นที่เซย์รินนี่ละ...ก็มีคนเห็นวิญญาณโผล่มาตอนกลางคืนเป็นประจำ เพียงแค่พระอาทิยต์ตกดินเท่านั้นแหละ...ถ้าขึ้นไปบนอาคารเรียนก็จะเจอวิญญาณดวงนั้นทันที...มีคนเจอมาเยอะด้วยนะ บ้างครั้งตอนกลางวันก็มี..."

    "...เลยคิดว่าพวกเราลองไปพิสูจร์กันดีไหม?" คาวาฮาระพูดต่อจากที่เพื่อนสนิกตนเว้นไว้

    "ฟังดูน่าสนใจดีนะครับ" คุโรโกะพูดอย่างที่ดูออกได้ทันทีว่าสนใจจริงๆ

    "น่าสนใจตรงไหนกัน..." คางามิแค่นเสียงอย่างหงุดหงิด...แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าคางามิสั่นตั้งแต่ตัวไปยังเสียงเลยล่ะ

    "กลัวเหรอครับ? คางามิคุง?" คุโรโกะที่สังเกตท่าทางของแสงตนออกอย่างรวดเร็วถามขึ้น

    "ค...ใครกลัวกัน!" คางามิปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ก็เริ่มแสดงท่าทางออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าตนนั้นกำลังกลัวอยู่

    "เห~~~ แน่ใจเหรอ~~~" ฟุคุดะกับคาวาฮาระลากเสียงด้วยสีหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อคางามิเต็มที่

    "น...แน่สิ!!!" คางามิตอบกลับไปอย่างไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าตนกลัว

    "งั้นคืนนี้มาพิสูจร์เรื่องผีกับพวกฉันซะดีๆ " ฟุคุดะพูดด้วยสีหน้าที่บอกว่าไม่มีทางให้ปฏิเสธเด็ดขาด

    "ม...ไม่ไปได้เปล่า?" คางามิเริ่มทำเสียงเหมือนแมวหงอ

    "ไม่ได้/ครับ" ทั้งสามประสานเสียงตอบกลับคนผมสีเพลิง...สุดท้ายบทสนทนาของทั้งสีก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของคางามิ

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปจนถึงเวลาเลิกซ้อมในช่วงบ่าย ทุกคนในทีมบาสเซย์รินก่อนเตรียมที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านถ้าไม่ติดบุคคลที่ไม่น่ามาอยู่ที่นี่ได้ จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในโรงยิมเสียก่อน

    เด็กหนุ่มผมสีแดงสด กับด้วยตาสองสีที่ทั้งชาติก็ไม่มีทางที่จะลืมได้ลงว่าคนคนนี้เป็นใคร...

    ...อาคาชิ เซย์จูโร่...

    "อาคาชิคุง...มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ? ถึงมาถึงนี้?" คุโรโกะถามอดีตกัปตันตนเองทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามา

    "ก็ไม่มีอะไรหรอก...ทางบ้านฉันให้มาทำธุระแถวๆ นี้ เลยแวะมาดูแต่นั้นแหละ" อาคาชิตอบ

    "งั้นก็รีบกลับไปเลย!!!" คางามิไล่อีกฝ่ายทันที คาดว่าคงไม่ถูกชะตากันตั้งแต่เกือบถูกกรรไกรปัดหัวนั้นแหละ

    "มีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันมิทราบ?" อาคาชิถามกลับด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปเลย

    "เลิกทะเลาะกันเถอะครับ..." คุโรโกะรีบห้ามศึกของทั้งสอง...ก่อนที่แสงของตนจะได้กรรไกรปักติดหัวเป็นของประดับจากคนตาสองสี "...คางามิคุง ห้ามหนีเรื่องที่คุยกันตอนเที่ยงเด็ดขาดเลยนะครับ"

    "ม...ไม่หนีหรอกน่า!!!" คางามิตอบด้วยสีหน้าอยากให้คุโรโกะปล่อยตนกลับบ้านเสียเต็มประดา

    "เรื่องอะไรเหรอ? บอกกันบ้างสิ..." คิโยชิที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ถามอย่างอยากรู้

    "คือพวกผมนัดกันว่าจะไปพิสูจร์เรื่องผีน่ะครับ" คุโรโกะตอบให้แก่รุ่นพี่ตน

    "เอ๋~ น่าสนุกนิ ขอไปด้วยนะ!" ริโกะที่ได้ยินว่าจะไปพิสูจร์เรื่องผีก็ตาวาวอยากไปด้วย "เมื่อปีก่อนฉันก็อยากพิสูจน์นะ~ แต่ไม่มีใครยอมไปด้วยสักคน..."

    "ก็ฮิวงะเล่นลากทุกคนกลับทันทีนิ...กลัวต้องกลับคนเดียวล่ะมั้ง" อิสึกิเหล่ตามองกัปตันทีมตน

    "ม...ไม่ได้กลัวสักหน่อย! แค่ไม่กล้าแค่นั้น!" ฮิวงะตอบแบบ...แถเห็นๆ

    "นั้นสินะ..." คางามิก็เอ่ยปากเห็นด้วยกับฮิวงะ...คาดว่าคงเพราะมีเหตุผลเดียวกันนั้นแหละกับเรื่องผีเนี่ย...

    ...สรุปคือกลัวสินะ...

    ทุกคนอดคิดในใจไม่ได้กับเด็กหนุ่มทั้งสองที่กล้วแต่ไม่บอกออกมาตรงๆ ...จนน่าแกล้งชอบกล

    "งั้นไปกันหมดนี้เลยดีไหมครับ?" คุโรโกะเอ่ยถาม

    "ไม่!!!" ฮิวงะกับคางามิตอบ แต่...

    "ดี!!!" ...ทุกคนเล่นตอบพร้อมกันจนกลบเสียงของทั้งสองไปจนมิดเลย

    "สรุปไปกันหมดนะครับ..." คุโรโกะพูดขึ้นโดยไม่สนใจเสียงทักทวงของกัปตันทีมกับแสงของตนเลย "...อาคาชิคุง อยากไปด้วยไหมครับ?"

    "เอาสิ น่าสนุกดี" อาคาชิตอบทันทีอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดสักนิด

    "งั้นไปกันเลยครับ!" ...แล้วทุกคนก็เดินไปยังอาคารเรียนทันที่ พร้อมลากสองคนที่กลัวผีมาด้วย

    และเมื่อทุกคนขึ้นมาบนอาคารเรียนครบก็มองไปรอบๆ ...บรรยากาศที่คึกคักในยามกลางวันนั้นช่างต่างกับตอนกลางคืนที่ดูวังเวงดีแท้

    "เราจะลองไปหาที่ไหนก่อนดีล่ะ?" อาคาชิถาม

    "ไม่ต้องหาหรอก ได้ยินมาว่าแค่ยืนเฉยก็จะมาหาเอง..." อิสึกิตอบอาคาชิ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า

    อิสึกิหันไปมองด้านหลังตนที่เป็นบันไดที่พวกเขาเพิ่งเดินขึ้นมา...ซึ่งตอนนี้มีคนมายืนอยู่ด้านหลังเขาแล้ว! ทั้งที่เมื่อกี้ไม่มีใครแท้ๆ!

    "ค...คุโรโกะ น...นายต...ตอนนี้อยู่ตรงไหนเหรอ?" อิสึกิรู้ว่าตนถามได้โง่มาก ยังไงคนตรงหน้าก็ไม่ใช่รุ่นน้องผู้จืดจางของตนเด็ดขาด...ในเมื่อรุ่นน้องเขาไม่มีทางจางไปทั้งตัวแน่ แถมคุโรโกะผมสีฟ้า ไม่ใช่สีน้ำตาลอ่อนแบบนี้!!!

    "เอ๋? ผมก็ยืนอยู่ข้างคางามิคุงไงครับ" คุโรโกะตอบอย่างงงๆ ก่อนที่จะหันไปมองรุ่นพี่ตนที่ถามแปลกๆ และก็ถึงกับชะงั้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแต่...คนคนนั้นร่างกายนั้นจางจนมองทะลุได้!!! "...ดูท่าเราจะเจอดีเข้าแล้วล่ะครับ"

    "เอ๋?" ทุกคนร้องออกมาอย่างงงๆ ก่อนที่จะหันไปยังทางที่พวกตนเดินขึ้นมา "เฮ้ย!!!"

    เท่านั้นแหละทุกคนยกเว้นอิสึกิกับคุโรโกะ ก็ไปหลบหลังอาคาชิซึ่งดูจะไม่กลัวอะไรเลย แถมยังถามผีอีกแน่ะ "นาย...มีธุระอะไรหรือเปล่า?"

    "ป...เปล่าครับ ค...แค่จะถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า...ย...อย่าจ้องกันสิคร้าบบบ T_T" ร่างอันเจืองจางถึงกับน้ำตาแตก ตัวสั่นราวกับลูกนกตกน้ำ

    "ฉันอยากจ้องแล้วจะทำไม?" อาคาชิยิ้มเหมือนกับกำลังเจอสิ่งที่ถูกใจอยู่...

    ...หึ ช่างเป็นผีที่น่าแกล้งเสียนี่กระไร...

    "ม...ไม่มีอะไรครับ" ผีน้อยของเราถึงกับไปแอบถอยหลังพยายามที่จะหนี

    "ห้ามหนีเชียวนะ" อาคาชิพูดราวรู้ทันในความคิดของผีผมสีน้ำตาล...

    ...ผีอะไรดูออกง่ายจริง...

    "ค...ครับ..." ผีเด็กหนุ่มยืนนิ่งตามคำสั่งของอาคาชิด้วยท่าทาง...ดูเหมือนชิวาว่าที่โดนสิงโตจ้องจนไม่กล้าขยับไปไหนอย่างไรอย่างนั้น

    "...อาคาชิคุง...แม้แต่ผีคุณยังแกล้งนะครับ" คุโรโกะพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยตามแบบฉบับของตน ก็ที่จะหันไปคุยกับผีเด็กหนุ่มผู้ดูราวกับลูกหมาชิวาว่า "คุณผี...คุณชื่ออะไเหรอครับ? ผมคุโรโกะ เท็ตสึยะนะครับ"

    "อ...เอ่อ ฉันฟุริฮาตะ โคกิ...ยินดีที่ได้รู้จัก" ฟุริฮาตะตอบตามมารยาทอย่างงงๆ ...ตั้งแต่เขามาอยู่ในฟิคนี่ไม่เคยมีใครมาแนะนำตัวแบบนี้หรอก (แหงล่ะ ตอนนี้นายรับบทเป็นผีนะ! ฟุริ! // s)

    "ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ฟุริฮาตะคุง" คุโรโกะเมื่อทักทายกับฟุริฮาตะเสร็จแล้วก็หันไปคุยกับพวกคนในทีมตนที่รู้สึกว่าจะไม่กลัวฟุริฮาตะแล้ว "ผมว่าพวกเรามาคุยกับฟุริฮาตะคุงดีๆ ดีกว่าครับ"

    "นั้นสินะ..." ริโกะพูดอย่างหายกลัวฟุริฮาตะเป็นปลิดทิ้งแล้ว เดินมาหาฟุริฮาตะ "ฉันไอดะ ริโกะนะ...ตอนนี้เธอช่วยขึ้นไปคุยตรงทางเดินแทนได้ไหม? ตรงนี้มันแคบน่ะ คงให้พวกนั้นลงมาหาหมดไม่ได้หรอก"

    "อ๊ะ! ครับ...ได้ครับ" ฟุริฮาตะยอมทำตามริโกะอย่างว่าง่าย แต่ก็ยังไม่กล้าขึ้นบันไดไปเท่าไหร่นัก "...แต่ช่วยให้คนผมแดงหลบไปก่อนได้ไหมครับ...คือผมกลัว..."

    "ฉันอยากยืนตรงนี้มีปัญหาอะไร? รีบขึ้นมาเลย...โคกิ" อาคาชิพูดอย่างสนุกเสียเต็มประดา

    "ค...ครับT_T" ฟุริฮาตะทำตามที่อาคาชิบอกทันที จนคนที่มองอยู่รู้สึกสงสารจับใจ...

    "อาคาชิคุง..." คุโรโกะเริ่มที่จะเครียดกับเพื่อนผมแดงคนนี้แล้วสิ "...อย่าแกล้งฟุริฮาตะคุงสิครับ"

    "นายห้ามฉันไม่ได้หรอกนะ เท็ตสึยะ" อาคาชิพูดด้วยน้ำเสียงประมาณว่า 'ฉันอยากแกล้งหมอนี่ล่ะ จะทำไม?'

    "ผมไม่เข้าคุณจริงๆ " คุโรโกะไม่รู้จะพูดไงกับคนคนนี้จริงๆ

    ในท้ายที่สุดพวกเขาทุกคนบวกอีกหนึ่งตนก็มานั่งล้อมวงกันตรงระเบียงทางเดินเนี่ยแหละ ทุกคนต่างทำหน้าแปลกๆ อย่างทำตัวไม่ถูก เพราะไม่เคยมานั่งคุยกับผีแบบนี้...เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี

    "เอ่อ...พวกคุณมีอะไรจะถามผมเหรอครับ?" ฟุริฮาตะที่ถูกให้นั่งระหว่างคุโรโกะกับริโกะถามขึ้นหล้งจากที่ทุกคนเงียบอยู่นาน

    "เอ่อ ฉันเรียกนายว่าฟุริได้หรือเปล่า? ฟุริฮาตะมันยาวไป" คางามิพูดหลังจากที่ทำใจกลัวไม่ลงอีกต่อไป...เจ้านิโกว (เบอร์2) ยังน่ากลัวกว่าเลย

    "อ่ะ ได้สิ" ฟุริฮาตะตอบทันที

    "ฉันว่าเรามาแนะนำตัวกันดีกว่าจะได้คุยกันง่ายขึ้น" ริโกะที่อยากให้ทุกคนสนิกกับผีดูเสนอขึ้น...ที่จริงฟุริฮาตะที่เป็นผีเนี่ย น่ากลัวน้อยกว่าคนจริงๆ เสียอีก

    "ฉันคางามิ ไทกะ" คางามิแนะนำตัวเป็นคนแรก และทุกคนก็แนะนำตัวต่อกันไปเรื่อยๆ จนมาถึง...

    "ฉันอาคาชิ เซย์จูโร่...ยินดีที่ได้รู้จักนะ โคกิ" อาคาชิแนะนำตัวเป็นคนสุดท้าย

    "ค...ครับ" ฟุริฮาตะตอบอย่างขลาดกลัว...ดูท่าฟุริฮาตะจะกลัวอาคาชิจริงๆ

    "แนะนำตัวกันครบแล้วสินะ?" ริโกะถาม ทุกคนก็พยักหน้ายกเว้นคุโรโกะ

    "ยังขาดอีกหนึ่งครับ..." คุโรโกะพูพร้อมเปิดซิบกระเป๋าตน...ที่ทำให้คางามิสังหรณ์แปลกๆ

    "ใครเหรอ?" สึจิดะถาม...เขาคิดว่าครบแล้วนะ?

    "นี่ไงครับ..." ว่าแล้วเจ้าขนปุยสีดำขาวก็โผล่มาจากกระเป๋าของคุโรโกะ "...ก็นิโกวไงครับ"

    "เหวอ!!!" คางามิที่นั่งข้างคุโรโกะถอยห่างทันที "เอาขึ้นมาด้วยเหรอเนี่ย?!"

    "เอ๋~ สุนัขของนายเหรอ น่ารักดีนะ" ฟุริฮาตะเอื้อมมือไปลูบหัวนิโกว เจ้าหมาน้อยก็กระดิกหางรับ รอยยุบบริเวณที่มือันเลือนลางสัมพัสบ่งบอกว่าเจ้าตัวสามารถสัมพัสนิโกวได้จริงๆ

    "ฟุริฮาตะคุง..." คุโรโกะมองฟุริฮาตะที่ตอนนี้อุ้มนิโกวไปเล่นเป็นที่เรียบร้อยอย่างแปลกใจ

    "หือ?" ฟุริฮาตะส่งเสียงตอบรับคุโรโกะ

    "ในเมื่อคุณเป็นผีไหงแตะต้องสิ่งต่างๆ ได้ล่ะครับ?" คุโรโกะถาม

    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...แต่รู้สึกว่าจะมีฉันคนเดียวที่จะหายตัวหรือทำอะไรแบบผีปกติไม่ได้นะ" ฟุริฮาตะตอบอย่างไม่คิดอะไร

    "เป็นแค่คุณคนเดียว?" แล้วคุโรโกะก็ได้รู้ว่าฟุริฮาตะนอกจากตัวจางจนแทบมองทะลุแล้วนอกจากนั้นแทบไม่ต่างจากคนปกติเลย

    "อืม ใช่แล้วล่ะ" ฟุริฮาตะตอบขณะที่เจ้าเบอร์สองเริ่มที่จะเลียหน้าตน ดูท่าเจ้านิโกวจะชอบฟุริฮาตะเสียแล้ว

    "งั้นขอถามหน่อยนะ..." อิสึกิถามพลางมองหน้าฟุริฮาตะ...ดูยังไงข่าวลือที่เขาเคยได้ยินก็ไม่น่าจะเป็นจริงเลยสักนิด "...ฉันเคยได้ยินข่าวลือว่านายหลอกทุกคนที่เดินผ่านเนี่ยจริงหรือเปล่า?"

    แล้วทุกคนก็มองฟุริฮาตะอย่างใจจดใจจ่อว่าอีกฝ่ายจะตอบยังไง ฟุริฮาตะเองก็มองอิสึกิอย่างงงๆ "เอ๋? ฉันไม่เคยหลอกใครเลยนะ..."

    "แล้วข่าวลือมาจากไหนเนี่ย?" คางามิถาม ฟุริฮาตะก็ส่ายหัวบอกว่าตนไม่รู้

    "โคกิ...นายอาจไม่ได้หลอก แต่เขาคิดว่านายหลอกก็ได้ คิดดูดีๆ สิ" อาคาชิลองถามบ้าง...ดูจากตัวฟุริฮาตะแล้วท่าจะค่อนข้างซื่อ อาจจะออกไปทางซื่อบื้อด้วย อาคาชิเดาว่าคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าที่ตนเองทำนั้นเขาเรียกว่าหลอกที่ใช้กับผีน่ะ

    ฟุริฮาตะทำหน้ายุ่งเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มเล่าให้ทุกคนฟัง "...จะว่าไปฉันเคยเห็นป้าภารโรงเขาบ่นว่าเมื่อยตอนที่ทำความสะอาดน่ะ ฉันเลยถามว่าให้ช่วยไหม และพอป้าเขาเห็นฉันก็วิ่งหนีไปเลย สุดท้ายฉันเลยได้ทำความสะอาดตึกแทนป้าเขาน่ะ"

    ...คิดว่าพอเข้าใจแล้ว...ว่าทำไมมีข่าวลือออกมา...

    ทุกคนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ถึงเจ้าตัวจะหวังดีก็เถอะ แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นผีน่ะ...เจอแบบนั้นคนส่วนใหญ่ก็เผ่นกันทั้งนั้นล่ะ

    "มีนอกจากนี้ไหม?" อาคาชิถามอย่างสนใจปนขำใจความซื่อของอีกฝ่าย

    "ก็มีตอนที่มีคนขึ้นมาหาของน่ะ ตอนนั้นเห็นหาเกือบสามชั่วโมงแล้วก็เลยไปช่วยหาน่ะ พอเขาเห็นฉันก็เผ่นไปเหมือนป้าภารโรงนั้นแหละ..." ฟุริฮาตะตอบอาคาชิ

    "งั้นที่ห้องสมุด...ก็นายด้วยสินะ..." อิสึกิถามจากเรื่องข่าวลือที่เขาฟังมาทั้งหมดดูเหมือนว่าจากที่เล่ามาเนี่ย...เพราะฟุริฮาตะไม่ทันคิดว่าตนเป็นผีเลยทั้งนั้น

    "หมายถึงตอนที่ฉ้นไปช่วยหาหนังสือให้หรือเปล่า? หรือตอนที่ฉันช่วยเก็บหนังสือที่กองๆ อยู่ยังไม่ได้เก็บเข้าชั้นล่ะ?" ฟุริฮาตะเอียงคอถาม

    "...ทั้งคู่นั้นแหละ" อิสึกิในที่สุดก็เข้าใจว่า...เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจสร้างเรื่องพวกนี้ขึ่นมาหรอก แต่คนส่วนใหญ่กลัวกันไปเองต่างหาก

    "คุณเนี่ย...ซื่อจังนะครับ" คุโรโกะบ่นพึมพำเบาๆ

    "..." มิโตเบะสะกิดฟุริฮาตะพร้อมทำไม้ทำมืออะไรบ้างอย่าง

    "เอ่อ...เขาพูดว่าอะไรน่ะ" ฟุริฮาตะมองมิโตเบะอย่างไม่เข้าใจว่าจะสื่ออะไรออกมากันแน่...

    "มิโตเบะถามว่าแล้วทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่น่ะ" โคงาเนะแปลคำพูดของมิโตเบะ

    "เอ๋? เรื่องนั้น..." ฟุริฮาตะทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย "...รู้สึกว่าตอนนั้นฉันมาสมัครเรียนต่อที่เซย์รินนี่แหละ แล้วตอนขากลับก็โดนใครไม่รู้ดักปล้นน่ะ...พอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่นี่แล้วล่ะ จะออกไปไหนก็ไม่ได้อีก อย่างกับติดอะไรอยู่งั้นแหละ"

    "..." เงียบสนิก ทุกคนต่างเงียบไม่พูดอะไรออกมา แต่ในใจเพิ่มความอยากรู้ขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง

    "...ฟุริฮาตะคุง" คุโรโกะเอ่ยเสียงออกมาได้เป็นคนแรก

    "มีอะไรเหรอ?" ฟุริฮาตะถามกลับ

    "คุณจำไม่ได้เลยเหรอ...ว่าใครทำร้ายคุณ?" คุโรโกะถาม ในใจก็คาดเดาว่าสาเหตุที่ฟุริฮาตะไม่สามารถออกจากโรงเรียนนี่ได้คงอาจมาจากเรื่องนี้ก็ได้...

    ...เพราะคนที่ทำร้ายฟุริฮาตะ...อาจเป็นคนในโรงเรียนนี้...

    "จำไม่ได้หรอก...ถามทำไมเหรอ?" ฟุริฮาตะรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ คุโรโกะก็ถามเรื่องนี้ออกมา

    "เปล่า...ไม่มีอะไรหรอกครับ" คุโรโกะยิ้มเล็กน้อยอย่างดูน่าสงสัยแต่ฟุริฮาตะก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

    ริโกะมองนาฬิกาข้อมือของตนเองก่อนที่จะพูดกับทุกคนว่า "พวกเราคงต้องรีบออกจากโรงเรียนแล้วล่ะ เดี๋ยวอีกห้านาทีเขาก็จะปิดประตูแล้ว"

    "งั้นพวกเราไปก่อนนะฟุริ...แล้วพรุ่งนี้เจอกัน" ทุกคนเอ่ยลาผีน้อยของเซย์ริน

    "อืม! แล้วเจอกัน!" ฟุริฮาตะโบกมือลาทุกคนที่ต้องรีบออกจากโรงเรียนก่อนที่จะถูกปิดขังในนี้อย่างกับเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น...

    "อ๋อ ลืมถามไปเรื่องหนึ่ง..." คางามิที่กำลังจะเดินลงไปชั้นล่างหันกลับมาหาฟุริฮาตะ "...นายออกมาตอนกลางวันได้เปล่า?"

    "ได้สิ..." ฟุริฮาตะตอบ

    "งั้นนายมาหาพวกฉันที่โรงยิมได้เปล่า? จะได้คุยกันง่ายๆ "

    "อืม! ได้สิ!" ฟุริฮาตะตอบทันที คาดว่าคงอยากมีเพื่อนบ้างหลังจากอยู่คนเดียวมานาน และยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา...

    ...จนทุกคน (ที่เป็นคนนะ ไม่นับฟุริ) ที่เห็นรอยยิ้มนั้นก็นึกอยากหาความจริงเรื่องของฟุริฮาตะเข้าให้เสียแล้ว...ว่าใครคือคนที่ทำใครคนคนนี้ต้องมาอยู่ในสภาพนี้

     

     

     

     

     

    เช้าวันต่อมาเวลา 05.00 AM.

    "อรุณสวัสดิครับ คางามิคุง...วันนี้มาเช้าจังนะครับ" คุโรโกะเอ่ยทักคางามิ พร้อมยื่นนิโกวไปวางบนหัวคางามิ

    "เฮ้ย!!!" คางามิถอยกรูดเมื่อคุโรโกะโผล่มาด้สนหลังโดยไม่ทันรู้ตัว "หัดมาแบบปกติบ้างสิฟะ!!!"

    ...โผล่มายังกะผีทั้งคนทั้งหมาเลย!!!...

    "ผมมาแบบปกติแล้วครับ แต่คุณไม่เห็นผมเอง..." คุโรโกะตอบคางามิ "...คุณก็ติดใจเรื่องฟุริฮาตะคุงเหมือนกันสินะครับ?...ถึงได้มาเช้าขนาดนี้"

    "เอ่อดิ ก็มันน่าสงสัยนิ..." คางามิตอบ "...และฉันคิดว่าอยากหาตัวคนที่ก่อเหตุชอบกลน่ะ...อย่างหมอนั่นไม่น่ามาตายเพราะเรื่องแบบนั่นเลย"

    "นั้นสินะครับ" คุโรโกะเห็นด้วยกับคางามิ...คนซื่อๆ อย่างฟุริฮาตะไม่น่าตายเพราะโจรเพียงคนเดียวเลย

    ขณะที่คู่แสงและเงาของเซย์รินเดินไปยังโรงยิมของโรงเรียน สายตาก็พลันไปเห็นบุคคลผู้มีเรือนผมสีแดงฉานยืนอยู่กับเหล่าผู้คนในเครื่องแบบสีเทาเข้มที่พวกเขาคุ้นหน้าคุ้นตาดี...

    "อาคาชิคุง?" คุโรโกะทักเพื่อนสมัยม.ต้นของต้นก่อนที่จะมองคนที่ยืนข้างๆ คนผมสีแดงทั้งหลาย "เนบุยะซัง มิบุจิซัง ฮายามะซัง มายุสุมิซัง...ทำไมพวกคุณมาอยู่ที่นี่ได้ครับ?"

    "คือเมื่อวานเซย์จังบอกว่าจะมาอยู่ที่นี่สักพักน่ะจ๊ะ...แล้วพวกเราก็อยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เซย์จังมาอยู่ที่นี่ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าจะรีบกลับเกียวโตน่ะจ๊ะ" มิบุจิตอบด้วยท่าทางเป็นมิตรตามแบบฉบับของตน

    "...ส่วนฉันโดนลากมา" มายุสุมิพูดขึ้นเบาๆ อย่างเซ็งๆ ที่จู่ๆ โดนลากมาที่นี่

    "นี่ๆ ช่วยบอกหน่อยได้เปล่าว่าอาคาชิมาทำอะไรที่นี่น่ะ? อาคาชิไม่ยอมบอกพวกฉันเลยอ่ะ!" ฮายามะถามพร้อมเกาะแขนคุโรโกะ

    "...เกาะแขนคนอื่นแบบนี้...ฉันจะฟ้องแฟนนายนะ" เนบุยะหยิบมือถือออกมาคล้ายว่าจะทำตามที่ตนพูดจริงๆ

    "อย่าฟ้องมิยาจิซังน้าาาาา" ฮายามะรีบคว้ามือถือของเนบุยะออกมา

    "เฮ้ย! เอาคืนมานะ!!!" เนบุยะจะคว้ามือถือตนเองคืนมาแต่คนผมสีคาราเมลกลับวิ่งไปหลบหลังมิบุจิเสียก่อน

    "ไม่คืนให้หรอก" ฮายามะแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย

    "เลิกเล่นกันได้แล้ว..." เสียงของอาคาชิทำให้สองคนที่ไล่กันอยู่ชะงัก "โคทาโร่...คืนมือถือไปซะ"

    "จ้าาาาา" ฮายามะตอบรับอย่างว่าง่าย และโยนมืถือคืนให้เนบุยะจนเจ้าตัวรับมืถือตนแทบไม่ทัน

    "อาคาชิ...ตกลงนายมีธุระอะไรที่นี่เหรอ?" มายุสุมิถาม...เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องปกติอะไรทำให้อาคาชิสนใจจนหยุดเรียนมาอยู่ที่นี่ได้หรอก

    "สืบเรื่องผีน่ะ..." อาคาชิตอบอย่างง่ายๆ สั้นๆ

    "ห๊า! ผีเนี่ยนะ!?!" ทุกคนในทีมราคุซันถึงกับร้องออกมา...นี่กัปตันทีมเขามาสืบเรื่องของผีเนี่ยนะ!?!

    "คุณก็อยากสืบหาเรื่องนี้เหมือนกันสินะครับ?" คุโรโกะคิดไว้อยู่แล้วว่าอาคาชิต้องมาร่วมสืบด้วย...

    ...ก็เมื่อคืนเล่นจ้องฟุริฮาตะคุงอย่างถูกใจเสียเต็มประดาเลยนิ...

    "แล้ว...ผีที่ว่าเนี่ยเป็นไงเหรอ?" เนบุยะถามหลังดึงสติตัวเองกลับมา...ถึงยังกลับมาไม่ค่อยเต็มร้อยก็เถอะ

    "ก็เหมือนคนปกติเนี่ยแหละครับ แค่ตัวจางจนมองทะลุได้แค่นั้นเอง" คุโรโกะตอบอย่างเฉยชา ก่อนที่จะเดินไปที่โรงยิม "คางามิคุง...เมื่อคืนคุณบอกให้ฟุริฮาตะคุงมาที่โรงยิมใช้ไหมครับ?"

    "อ่า ใช่...คิดว่าแบบนี้น่าจะคุยกันสะดวกกว่าน่ะ" คางามิตอบพลางเกาหัวน้อยๆ

    "ผมก็ว่าน่าจะสะดวกกว่าจริงๆ นั้นแหละครับ...อย่างน้อยตอนกลางวันก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนปิดขังน่ะครับ" คุโรโกะเห็นด้วยกับคางามิ พลางมือก็เปิดประตูโรงยิม

    แอ๊ด...

    ประตูโรงยิมถูกเปิดออก ภายในโรงยิมมืดสนิก คาดว่าฟุริฮาตะคงแอบอยู่กันคนอื่นมาเจอเข้าแล้วกลายเป็นข่าวลืออีก

    เด็กหนุ่มทั้งหลายเดินเข้ามาในโรงยิมพร้อมปิดประตูให้เรียบร้อย และกดสวิตด์ไฟ...พอหลอดไฟติด คุโรโกะก็เห็นร่างอันคุ้นเคยกำลังนั่งขัดสมาธิอ่านนิตยาสารบาสอย่างสนอกสนใจ

    ส่วนชาวทีมราคุซันทั้งหลายที่เดินตามหลังอาคาชิมา ก็มองฟุริฮาตะอย่างสนใจ...ก็ไม่เคยเห็นผีตัวเป็นๆ นิ สนใจก็ไม่แปลกล่ะ

    "ฟุริฮาตะคุง..." คุโรโกะเรียกอีกฝ่าย ที่ดูสนใจนิตยาสารมากกว่าพวกเขาอีก

    ผีเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่จะส่งยิ้มให้ "อรุณสวัสคุโรโกะ...แล้วพวกที่อยู่ด้านหลังอาคาชินั้นใครเหรอ?"

    "พวกคนในชมรมที่โรงเรียนของอาคาชิคุงน่ะครับ" คุโรโกะตอบคำถามให้แก่คน เอ้ย! ผีตรงหน้า

    "งั้น...ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อฟุริฮาตะ โคกิ" ฟุริฮาตะทักและส่งยิ้มให้อย่างไม่คิดเรื่องมารยาทเท่าไหร่...ยังไงถ้านับรวมตอนที่เขายังเป็นคนด้วยแล้วก็อายุเท่าๆ กันนั้นแหละ...

    "เอ่อ...สวัสดีจ๊ะ ฉันมิบุจิ เรโอะนะ" มิบุจิพูดติดขัดเล็กน้อยเพราะไม่เคยคุยกับผี

    "ฉันเนบุยะ เคอิจิ..." เนบุยะแนะนำตัวสั้นๆ และรู้สึกแปลกดีที่ได้แนะนำตัวกับสิ่งที่ไม่ใช่คนแบบนี้

    "มายุสุมิ จิฮิโระ" มายุสุมิแนะนำตัวเองและมองอีกฝ่ายอย่างสงสารนิดๆ ...

    ...ถ้าอาคาชิอยากสืบหาเรื่องของผีตรงหน้านี้ก็แปลว่าอาคาชิถูกใจเข้าให้แล้ว...ช่างน่าสงสารจริงๆ ที่ดันเป็นที่ถูกใจของอาคาชิ เซย์จูโร่เนี่ย

    "ฉันฮายามะ โคทาโร่นะ!" ฮายามะโดดเกาะฟุริฮาตะทันที จนผีเด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้ง

    "เหวอ!!!" ฟุริฮาตะเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ

    "ว้าว! ตัวนายเย็นดีจัง! แถมผมก็นุ่มด้วยแน่ะ!!!" ฮายามะที่ไม่สนใจว่าที่ตนเกาะอยู่นั้นคือผี ก็ร้องออกมาอย่างลิงโลด

    "ห...หนัก..." ฟุริฮาตะแทบจะล้มเมื่อถูกคนตัวใหญ่กว่าเกาะ

    เมื่อฮายามะได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าหนักก็เปลี่ยนมาอุ้มตัวอีกฝ่ายขึ้นแทน แถมชูสุดแขน "เอ๋~ ตัวนายเบาจังแฮะ~ น่าจะหนักน้อยกว่าอาคาชิอีกมั้ง..."

    "ช...ช่วยวางผมลงด้วยคับ T_T" ฟุริฮาตะแทบจะร้องไห้...ถึงเขาเป็นผีก็ใช่ว่าเขาไม่กลัวความสูงนะ!!!

    "โคทาโร่..." อาคาชิที่เห็นผีผมสีน้ำตาลใกล้ร้องไห้เต็มทีแล้ว จึงยื่นมือเข้าช่วย...

    ...ก็ได้...ยอมรับก็ได้...ที่จริงเพราะเขาเห็นอีกโดนคนอื่นที่ไม่ใช่เขาแกล้งแล้วหงุดหงิดต่างหาก...

    ...เธอไม่ต้องแอบขำเลย! เป็นคนเขียนก็เขียนไปสิ!!! (เราอยากขำนิ นายจะทำอะไรเราได้? // s , ชิ! รอจบฟิคนี้ก่อนเถอะ... // อาคาชิ , แล้วคิดเหรอว่าเราจะอยู่ให้โดน? // s )

    "...ปล่อยโคกิลงได้แล้วน่า ดูสิจะร้องไห้แล้วแหนะ" อาคาชิที่ข่มอารมณ์จากที่เถียงกับคนเขียนลงได้แล้วบอกเด็กหนุ่มผมสีคาราเมล

    "อ้าว? ผีน้ำตาแตกได้ด้วยเหรอ?" ฮายามะถาม ขณะที่วางตัวอีกฝ่ายลงเมื่อเห็นว่าใกล้ร้องไห้อย่างที่กัปตันทีมตนบอกจริงๆ

    "ครับ...ได้ครับ" ฟุริฮาตะตอบ พร้อมถอยห่างจากฮายามะไปหลบหลังคุโรโกะ

    "...หนีกันทำไมอ่ะ!" ฮายามะที่เห็นผีเด็กหนุ่มไปหลบหลังอดีตผู้เล่นมายาของเทย์โค สักพักอีกฝ่ายก็ไม่ตอบจึงคิดว่าคงอยากเล่นซ่อนแอบมั่ง? (สมองส่วนไหนคิดเนี่ย!!! // s , ถามตัวเองดิ! เธอเขียนให้ฉันนะ!!! // ฮายามะ) ก็เลยเดินไปหาพร้อมโผล่หน้าไปแบบเหมือนกำลังเล่นกันอยู่ "จ๊ะเอ๋!"

    "เหวอ!!!" ฟุริฮาตะเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อดูเหมือนฮายามะคิดว่าเล่นด้วย...เห็นเขาเป็นเด็กหรือไงครับ! ที่จะยังเล่นแบบนี้อีก!!!

    "นี่ๆ คุณผี อยู่ที่นี่มานานยังอ่ะ?" ฮายามะถามพร้อมทำท่าจะเกาะฟุริฮาตะอีกที ถ้าไม่ติดที่...

    "โคทาโร่...เลิกเกาะโคกิได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะฟ้องแฟนนาย..."

    ...ถ้าไม่ติดอาคาชิที่ทำเสียงเหมือนคนหึงแฟนตัวเองอย่างไรอย่างนั้นเอ่ยห้าม

    "คร้าบบบบ อย่าฟ้องมิยาจิซังนะคร้าบบบบ" ฮายามะรีบออกห่างฟุริฮาตะทันที

    "...แฟนของฮายามะเขาโหดเหรอ? ดูท่าทางเหมือนเกรงใจมากชอบกล" ฟุริฮาตะถามคางามิที่ยืนข้างๆ คุโรโกะซึ่งตอนนี้เขาใช้เป็นโล่กำบังอยู่

    "จะว่าโหดไม่โหดดีล่ะ..." คางามิก็บอกไม่ค่อยถูกเหมือนกัน

    "มิยาจิซังไม่ค่อยโหดหรอกครับ...แต่อย่าทำให้เขาโกรธนะครับ เดี๋ยวศพไม่สวย" คุโรโกะตอบฟุริฮาตะ...ตามที่เขาได้ยินจากมิโดริมะคุงกับทาคาโอะคุงก็ประมาณนั้นแหละ

    "...แบบนั้นฉันว่าเขาเรียกว่าโหดนะ" ฟุริฮาตะพึมพำออกมาเบาๆ

    "นี่ๆ แล้วตกลงคุณผีอยู่ที่นี่นานยังอ่ะ" ฮายามะยังคงถามฟุริฮาตะอย่างอยากรู้ แต่คราวนี้ไม่มาเกาะด้วย เนื่องจากกลัวอาคาชิทำตามที่พูดจริงๆ

    "อืมมม ก็ประมาณปีสองปีได้แล้วมั้ง..." ฟุริฮาตะตอบ...ที่จริงเขาก็ไม่ได้นับวันหรอกนะ แต่เขามาสมัครเรียนตอนที่โรงเรียนเพิ่งสร้างเสร็จ คงจะสองปีล่ะมั้ง? ก็มีนักเรียนตอนนี้ถึงแค่ปีสองนิ

    "งั้นนอกจากนาย..." เนบุยะที่กำลังจะถามฟุริฮาตะ ถามไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงเอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน...

    "อรุณสวัสดิ์!" ...เสียงของเหล่านักบาสบวกอีกหนึ่งโค้ชแห่งเซย์รินนั้นเอง ทุกคนเดินเข้ามาในโรงยิมพร้อมปิดประตูให้เรียบร้อย เพราะได้ยินว่าคางามิให้ฟุริฮาตะมารอที่โรงยิม เลยกันไว้ก่อนเผื่อมาจริงๆ ใครเดินผ่านมาจะได้ไม่ตกใจ

    "อรุณสวัสดิ์... / อรุณสวัสดิ์ครับ" คู่แสงและเงาแห่งเซย์รินเอ่ยทักพวกคนในทีมตนกลับ

    "อ้าว? พวกราคุซัน? มาไงเนี่ย?" ริโกะมองเหล่าตัวจริงทีมราคุซันที่มากันครบทีมอยู่ในโรงยิม

    "ตามเซย์จังมาจ้า" มิบุจิตอบคำถามให้แก่ริโกะ

    "งั้นเหรอ...ฟุริฮาตะคุง ไปหลบอะไรหลังคุโรโกะน่ะ?" ริโกะที่ได้คำตอบจากมิบุจิแล้ว ก็หันไปถามผีเด็กหนุ่มที่บัดนี้แอบอยู่หลังคุโรโกะ

    "คือเมื่อกี้โดนฮายามะซังเกาะน่ะครับ เลยหนีมาแอบหลังผม..." คุโรโกะตอบ

    "ไม่เกาะแล้วนา!!!" ฮายามะรีบเอ่ยออกมา เมื่อถูกทุกคนในทีมเซย์รินมอง

    "ใช่...เพราะเมื่อกี้อาคาชิบอกว่าจะโทรฟ้องมิยาจิ..." คางามิพูดอย่างช่วยสักหน่อยคงไม่เสียหาย

    เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็เลิกสนใจฮายามะเพราะเจ้าตัวเกรงมิยาจิสุดๆ ถ้ามิยาจิมาตามที่โทรฟ้องจริงๆ ล่ะก็...ไม่อยากนึกสภาพของฮายามะเลย

    "นี่นาย..." เนบุยะเรียกฟุริฮาตะเพื่อจะถามคำถามที่ตนพูดไม่จบก่อนหน้านี้ ผีเด็กหนุ่มก็มองยังต้นเสียงที่เรียกตน "...นอกจากนายแล้วในโรงเรียนนี้มีผีตนอื่นหรือเปล่า?"

    "ก็มีคุณปู่เจ้าที่คนหนึ่งน่ะ" ฟุริฮาตะตอบอีกฝ่าย

    "เขาเป็นคนไงเหรอ? คุณเจ้าที่น่ะ?" ฮายามะถามขณะเปลี่ยนมาเกาะมายุสุมิเล่นแทน

    "ก็...เป็นคนเฮฮา ออกไปทางเกรียนอีกต่างหาก ส่วนใหญ่ชอบหนีไปเที่ยวด้านนอกด้วย..." ฟุริฮาตะอธิบายพร้อมยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงผีที่เป็นเจ้าที่ที่ชอบหนีออกนอกโรงเรียนเหลือเกิน

    "...ฉันรู้สึกเหมือนภาพใครสักคนแว๊บเข้ามาในหัวแฮะ" ฮิวงะพูดขึ้นเบาๆ

    "นั้นสินะ..." สึจิดะก็รู้สึกไม่ต่างจากฮิวงะ

    "แล้ว..." ฮายามะกำลังจะถามฟุริฮาตะ...ถ้าไม่ติดมือที่จับหัวเขาไว้ พร้อมความรู้สึกหนาวแปลกๆ

    "โคทาโร่..." มิบุจิยิ้มหวานราวน้ำผึ้ง...ที่อาบยาพิษเสียด้วย "...ช่วยปล่อยมายุซังด้วยจ๊ะ...และเมื่อกี้ฉันโทรฟ้องมิยาจิซังเรียบร้อยแล้วด้วยจ๊ะ ไปเคลียร์กันเองนะ"

    "แอ๊อ!!! พี่เรโอะน่ะ!!!" ฮายามะรีบปล่อยมายุสุมิพลัน พร้อมกับที่มือถือตนดังพอดีราวกับจงใจแกล้งเด็กหนุ่มผมสีคาราเมล

    "ฮา - ยา - มะ!!!" เสียงอันดุดันที่ลอดผ่านมือถือออกมาทันทีที่ฮายามะรับสาย บ่งบอกอารมณ์ของมิยาจิได้เป็นอย่างดี "มิบุจิบอกฉันว่านายไปแตะอั๋งแฟนหมอนั่น...นายกล้ามากนะ...ตอนนี้นายอยู่ไหนเนี่ย!? มิบุจิบอกว่าอยู่ที่โตเกียวใช่ไหม?!"

    "ผมอยู่เซย์รินครับ...มิยาจิซัง..." ฮายามะพูดเสียงอ๋องจนแทบจะเห็นหูกับหางลู่ลงขึ้นมาลางๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้ใครก็ได้พูดกับมิยาจิให้ที

    "เอ่อ...ให้ช่วยไหม?" ฟุริฮาตะที่ทนสายตาของฮายามะเอ่ยขึ้น

    "จริงดิ!" ฮายามะแทบจะกอดขาอีกฝ่ายถ้าไม่ติดสายตาดุของอาคาชิ

    "โคกิ...นายไม่ต้องช่วยหรอก...เพราะคงไม่ทัน" อาคาชิพูดอย่างมีเลห์นัย

    "คุณก็อ่านข้อความของมิโดริมะคุงสินะครับ..." คุโรโกะรู้สึกว่าจะรู้ว่าที่อาคาชิพูดหมายความว่าไง...

    ...เมื่อวันก่อนมิโดริมะส่งข้อความมา...ซึ่งคาดว่าทาคาโอะน่าจะเป็นคนพิมพ์มากกว่าว่า 'อีกวันสองวันนี้รุ่นพี่บอกว่าจะให้ไปฝึกแถวๆ เซย์รินด้วยล่ะ★★★' ดังนั่นฮายามะ...คงหนีไม่ทันหรอก~~~

    "ข้อความ?" คางามิดูจะไม่เข้าใจว่าคุโรโกะหมายความว่าไง และไม่นานหลังจากนั้นคางามิก็ได้คำตอบ เมื่อเสียงประตูโรงยิมถูกเปิดออกอย่างแรง พร้อมเสียงสะท้านโลกา กับร่างของคนผมสีน้ำผึ้งที่เดินเข้ามา

    "ฮายามะ!!!!!!!!!"

    "มาได้ไงเนี่ย?! มิยาจิซางงง!!!" ฮายามะทำท่าเหมือนใกล้จะถูกฆ่า ก่อนที่จะไปหลบหลังฟุริฮาตะ...อย่างน้อยคงทำให้มิยาจิสนใจอย่างอื่นก่อนได้อ่ะนะ

    แต่ดูท่าอาคาชิอยากจะแกล้งฮายามะเข้า จึงถีบฮายามะไปให้มิยาจิซะเลย...

    "อาคาชิ๊!!! ช่วยฉันด้วย!!!" ฮายามะที่อยู่ในน้ำมือของมิยาจิที่ใกล้กลายร่างเป็นมัจจุราชอยู่แล้ว

    "เรื่องอะไรล่ะ" อาคาชิที่มองอย่างสนุกกับการแกล้งลูกทีมตนเอง

    "...ฉันว่าช่วยหน่อยก็ดีนะ" ฟุริฮาตะมองคนผมสีคาราเมลอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง

    "ไม่ต้องช่วยหรอกครับ ที่จริงฮายามะซังถ้าอยากหนีก็หนีได้ครับ แต่แค่ไม่อยากหนีมิยาจิซังแค่นั้นเอง..." คุโรโกะบอกกับฟุริฮาตะ

    "งั้นเหรอ?" ฟุริฮาตะดูไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าฮายามะจะไม่โดนฆ่าทิ้ง (?)

    "ค...คุโรโก๊วววววว ข...ข้างๆ หลังนายมัน..." บุรุษผมเขียวผู้ถือปฏิทินไว้ในมือ (?) ชี้มาทางฟุริฮาตะอย่างสั่นๆ โดยคนตัวเล็กกว่าที่ยืนอยู่ข้างๆ เพียงมองอย่างสนใจเท่านั้น

    "อ๊ะ อรุณสวัสดิ์ครับ มิโดริมะคุง..." คุโรโกะทักเพื่อนสมัยม.ต้นตนที่ดูจะตกใจกับฟุริฮาตะมาก (แหงล่ะ)

    "อรุณสวัสดิ์...เฮ้ย! ไม่ใช่สิ! ด้านหลังนายมันอะไรกัน!!!" มิโดริมะเผลอตอบรับคุโรโกะตามปกติ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตนเพิ่งถามถึงสิ่งที่อยู่ด้านหลังเพื่อนผู้จืดจ๊างจางของเขา

    "wwwหน้านายตลกชะมัดเลย! ชินจัง!" ทาคาโอะที่ทั้งชีวิตเคยเครียดกับเขาหรือเปล่าไม่รู้ (อย่าว่ากันสิ! // ทาคาโอะ) สนใจคู่หูตนมากกว่าฟุริฮาตะเสียอีก

    "เงียบไปเลย! ทาคาโอะ!!!" มิโดริมะหันมาโวยใส่ทาคาโอะ

    "ด้านหลังคุโรโกะมีอะไรเหรอ?" คิมุระถามอย่างงงๆ ก่อนที่จะลองมองยังคุโรโกะดีๆ และเห็น... "น...นั่นมัน..."

    "..." โอสึโบะสมองหยุดทำงาน เขาประมวลผลไม่ออกว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังคุโรโกะคืออะไร เหมือนคนปกติแต่กลับตัวจางจนมองทะลุได้!!!

    "มีอะไรกัน?" มิยาจิถามขณะที่ล็อกคอฮายามะด้วยท่ามวยปล้ำ ก่อนที่จะมองไปยังจุดเดียวกับที่เพื่อนร่วมทีมตนมอง แล้วถึงกับคิ้วขมวด "อะไรน่ะนั้น?"

    "หมายถึงคุณผีเหรอ?" ฮายามะถาม พร้อมตีแขนมิยาจิเชิงว่าให้ปล่อยคอตนได้แล้ว...ใกล้จะตายแล้วด้วย...

    "ผี...?" มิยาจิคลายแขนออกจากคอฮายามะก่อนที่จะเดินไปดูฟุริฮาตะใกล้ๆ อย่างเลิกสนใจเรื่องที่ทำให้ตนต้องมาที่เซย์รินไปเสียแล้ว "นาย...เป็นผีเหรอ?"

    "อ่ะ ครับ" ฟุริฮาตะตอบอย่างเกรงนิดๆ แค่มองก็รู้แล้วว่าคงโหดพอตัว

    "อืม~" มิยาจิลองยื่นมือข้างหนึ่งไปดึงแก้มอีกฝ่าย

    "เอ๊บอับ อำอาไออ่ะอับ? (เจ็บครับ ทำอะไรน่ะครับ?) " ฟุริฮาตะพูดออกมาเสียงอู้อื่อจนแทบฟังไม่รู้เสียง

    "...ไม่ยักเหมือนผีเลยแหะ" มิยาจิพูดพร้อมปล่อยมือจากแก้มอีกฝ่าย "นอกจากตัวใสแล้วไม่เห็นเหมือนเลยสักนิด"

    "ก็ปกติผมก็ไม่เหมือนผีตนอื่นๆ อยู่แล้วนิ..." ฟุริฮาตะบ่นอุบอิบ

    "ไม่เหมือนผีตนอื่น?" มิยาจิทวนเชิงถามว่าที่พูดหมายความว่าไง

    "คือโคกิไม่สามารถที่จะหายตัวหรือทำแบบที่มักเห็นในหนังได้น่ะครับ..." อาคาชิเป็นฝ่ายตอบแทนผีเด็กหนุ่ม "...และโคกิก็ไม่สามารถออกจากเซย์รินได้ด้วย ถ้าใครกลัวก็เชิญออกจากรั้วโรงเรียนไปก็พอ"

    "...อย่างหมอนี้ฉันว่าหาความน่ากลัวไม่เจอแฮะ ถ้าความเหมือนชิวาว่าพอเจออยู่หรอก" คางามิพูดขึ้นขณะที่คิดถึงภาพที่ฟุริฮาตะตัวสั่นตอนที่เจอกับอาคาชิ

    "เหมือนตรงไหนกัน!" ฟุริฮาตะท้วงคางามิ...

    ...ตรงไหน!...เขาเหมือนชิวาว่าตรงไหนกัน!!!...

    "แล้วที่ฉันจับตัวคุณผีได้เพราะแบบนี้เหรอ?" ฮายามะถามขณะเกาะมิยาจิ คล้ายว่าจะง้อคนผมสีน้ำผึ้ง

    "...นายเกาะแม้กระทั้งผีเลยเหรอ?" มิยาจิไม่รู้จะพูดยังไงกับไอ้คนที่ไม่รู้ว่าเคยกลัวจริงๆ อะไรหรือเปล่าคนนี้เลย

    "...อาคาชิ...แล้วทำไมหมอนี่ถึงออกนอกโรงเรียนไม่ได้ล่ะ" มิโดริมะถาม

    "ไม่รู้" อาคาชิตอบสั้นๆ ง่ายๆ และสามารถเข้าใจได้ง่ายถึงกึ๋นเลยล่ะ

    "อาคาชิ...งั้นที่นายบอกว่ามาสืบผีเนี่ยคือ..." มายุสุมิเรื่องจะเดาออกแล้วว่าจุดประสงค์มาอาคาชิที่นี่ "...นายจะสืบสาเหตุที่หมอนี้ออกจากที่นี่ไม่ได้เหรอ?"

    "...ใกล้เคียง แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว" อาคาชิตอบรุ่นพี่ตัวจริงปีสามเพียงคนเดียวของทีม "เดี๋ยวจะบอกอีกทีแล้วกัน"

    "พูดอย่างมีลับลมคมในจังน้าาาาา" ทาคาโอะพูดพร้อมกอดคอฟุริฮาตะอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก

    สุดท้ายหลังจากนั้นพวกตัวจริงทีมบาสทั้งสามโรงเรียน (โดยที่สองโรงเรียนโดดเรียนเป็นที่เรียบร้อย) ก็พูดคุยกับฟุริฮาตะต่างๆ นาๆ อย่างลืมว่าฟุริฮาตะเป็นผีอย่างเมามัน อ๊อดเข้าเรียนดังพวกเซย์รินถึงแยกย้ายไปเรียนโดยให้อีกสองทีมซ้อมบาสในโรงยิมนั้นแหละ ด้วยความที่ว่าวันนี้ไม่มีตารางใช้โรงยิมของห้องไหนเลยนั้นเอง

     

     

     

     

     

    ในช่วงพักเที่ยงนี้พวกทีมบาสเซย์รินต่างมากินข้าวที่โรงยิมอย่างมิได้นัดหมาย ราวกับว่าจะมาคุยเรื่องที่พวกตนคุยค้างไว้เมื่อคืนนี้

    ทุกคนในทีมเซย์รินต่างซื้อของกินมาฝากสองทีมราชันอย่างรู้หน้าที่ว่าไม่ควรปล่อยพวกนี้ไปซื้อเอง...เดี๋ยวจะโดนครูเรียกถามเอา

    และตอนนี้ทั้งสามทีมก็ล้อมวงกินข้าวกันอยู่แถวประตูโรงยิมนั้นแหละ โดยฟุริฮาตะไปเดินเล่นในส่วนต่างๆ ของโรงยิม เพราะตนกินกับเขาไม่ได้

    "อาคาชิคุง...คุณจะลองหาข้อมูลจริงเหรอครับ?" คุโรโกะถาม ขณะที่มองฟุริฮาตะที่ยืนห่างออกไปไกล ก่อนที่ผีเด็กหนุ่มจะลองเดินไปหลังเวที

    "จริงสิ ฉันคิดว่าที่โคกิออกไปไหนไม่ได้เพราะเรื่องนั้นแน่" อาคาชิตอบ

    "...ช่วยบอกพวกฉันก่อนได้ไหมว่าพูดเรื่องอะไรกัน?" มิโดริมะถามในสิ่งที่คนที่ไม่อยู่เมื่อคืนอยากรู้กัน

    "คือเมื่อคืนมิโตเบะถามว่าทำไมฟุริมาอยู่ที่นี่น่ะ แล้วเจ้าตัวก็ตอบมาว่าหลังจากที่สมัครเรียนที่นี่ ตอนกลับก็ถูกปล้นระหว่างทางกลับบ้าน หมอนั่นบอกพอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้วน่ะ" คุณพ่อแห่งเซย์ริน เอ้ย! คิโยชิเล่าให้ผู้ที่ยังไม่รู้เรื่องฟัง

    "พวกนายเลยคิดว่าสาเหตุที่หมอนั่นออกไปไหนไม่ได้ อาจเพราะคนที่ฆ่า...ทำร้ายหมอนั่นอาจจะเป็นคนในโรงเรียนนี้เหรอ?" คิมุระถามกลับ

    "ใช่ครับ" คุโรโกะตอบ

    "...แต่ลองหาคนร้ายเองแบบนี้ไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ?" มิยาจิถาม...สำหรับเขาต่อให้อยากรู้มากแค่ไหน แต่ความปลอดภัยก็ย่อมมาก่อน

    "ก็อันตรายอยู่หรอกครับ...แต่ก็อยากรู้ด้วย" คุโรโกะบอก

    "จะว่าไปก็จริง...อยากรู้จริงว่าใครทำร้ายเด็กซื่อๆ อย่างโคจังได้ลงคอ" มิบุจิที่เริ่มสนิกกับฟุริฮาตะมากขึ้นเอ่ยออกมาอย่างเสียดายนิดๆ ที่คนดีๆ อย่างฟุริฮาตะต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้

    "จริงอย่างที่มิบุจิว่า...แต่ถ้าจะลองสืบหา นายก็หาให้คนอื่นสืบได้ไม่ใช่เหรออาคาชิ? หรือมีอะไรมากกว่านั้นที่ทำให้นายต้องสืบเอง?" คำถามของมายุสุมิ ทำให้ทุกคนเบือนสายตาไปที่คนผมแดง...จะว่าไปก็แปลกจริงๆ นั้นแหละ

    "ก็แค่ฉันอยากสืบเอง...มีอะไรหรือเปล่า?" อาคาชิตอบอย่างไม่สนใจสายตาที่มองมาที่ตนเลยสักนิด

    "คงไม่ใช่ว่า...นายชอบ ไม่สิ รักหมอนั่นเข้าแล้วนะ..." มิโดริมะถาวนาในใจว่าจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิดนี่...

    "ก็ใช่สิ" อาคาชิตอบเสียงเรียบราวกับเป็นเรื่องปกติ นัยน์ตาสองสีทอประกายจริงจัง บ่งบอกว่าที่อาคาชิพูดคือความจริง

    "..." ทุกคนอึ้ง มือไม้ถืออะไรอยู่ก็ต่างปล่อยร่วงลงพื้นหมด ดวงตาหลากสีมองอาคาชิอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน "เอาจริงสิ!?!"

    "คิดว่าล้อเล่นหรือไง..." อาคาชิดูพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ กับหน้าเหวอๆ ของทุกคนเหลือเกิน

    "ชอบเข้าไปได้ไงเนี่ย..." มิโดริมะเริ่มเพลียจิตกับอดีตกัปตันทีมตนเองเข้าแล้ว

    "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ทีนายกับคาซึนาริยังคบกันได้เลย" อาคาชิตอบกลับ

    "ไม่ใช่เรื่องหมอนั้นเป็นผู้ชาย! และมันไม่เหมือนกันสักหน่อย!" ...ของเขาทาคาโอะยังเป็นคน แค่ของนายมันผีนะ! ถึงจะไม่ค่อยเหมือนก็เถอะ...

    "อาคาชิคุง...คุณไปปิ๊งฟุริฮาตะคุงตอนไหนเนี่ย..." คุโรโกะที่กลุ้มกับคนผมแดงคนนี้เหลือเกินถามออกมาอย่างเหนื่อยๆ ...

    ...คงไม่ได้บอกว่าชอบมาตั้งแต่เมื่อวานหรอกนะ!...

    "ตอนอยู่ปีสองที่เทย์โค" โชคดีที่คำตอบของอาคาชิไม่ได้เป็นอย่างที่คุโรโกะคิด แต่ก็เรียกความสนใจทุกคนได้เป็นอย่างดี

    "คุณไปเจอกันได้ไงครับ?" ต่อมอยากรู้อยากเห็นของคุโรโกะเริ่มทำงานแล้ว

    "คือว่า...พวกนายจำตอนช่วงไปเข้าค่ายตอนปีสองที่นิจิมุระซังยังคงเป็นกัปตันอยู่น่ะ...ที่ฉันดันหลุดไปไหนไม่รู้น่ะ..." อาคาชิเล่าอย่างอายนิดๆ ที่ตอนนั้นตัวเองดูจะซื่อมาก...

    ...ที่จริงรุ่นพี่เขาก็ผิดด้วยแหละ ที่จู่ๆ ก็ลากไปเลยโดยไม่บอกสถานที่สักนิด!

    อาคาชิถอดหายใจเล็กน้อย...ก่อนที่คนผมแดงจะหันไปค้อนพร้อมปล่อยรังสีอาฆาตชนิดผีในเรื่องสามแพล่งยังอาย (ในญี่ปุ่นมีเรื่องนี้ด้วยเหรอ =[]=) พวกที่กำลังกลั้นหัวเราะจนแข็งเป็นหินในบัดดล

    คุโรโกะกับมิโดริมะคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าว่าจำได้ อาคาชิจึงเริ่มเล่าต่อ "ฉันเผลอไปเจอโคกิโดยบังเอิญเข้า หมอนั่นเลยช่วยฉันตั้งหลายอย่าง แถมยังใจดีเกินเหตุ และซื่อพอๆ กับตอนนี้เลยด้วย จนสุดท้ายหมอนั่นก็พาฉันไปหาพวกนายจนได้ไง..."

    "หรือว่า...ผู้ชายคนนั้นคือฟุริฮาตะคุงเหรอ?" คุโรโกะรู้สึกว่าตนนั้นจะขี้ลืมเหลือเกิน เพราะเขาเริ่มจำได้รางๆ แล้วว่าเคยเจอฟุริฮาตะมาก่อนจริงๆ

    "ตอนนั้น...ที่โอกินาว่าใช่ไหม?" มิโดริมะถามเมื่อเริ่มจำได้เหมือนคุโรโกะ

    "โอกินาว่า?! แล้วไหงหมอนั่นถึงมาเรียนต่อที่เซย์รินได้ฟะ!?!" ฮิวงะถามขึ้นลอยๆ อย่างคล่องใจ

    "อืม...ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นโคกิบ่นว่าพ่อแม่ของตนจะย้ายมาทำงานที่โตเกียวเลยต้องย้ายตามมาด้วยนี่นา" อาคาชิที่หูดีได้ยินฮิวงะบ่นจึงเค้นความจำมาตอบ

    "สรุปคือ...นายหลงรักหมอนั่นตั้งแต่ตอนนั้นใช่ไหม?" มายุสุมิยิ้มแหยะๆ เพราะไม่คิดว่ารุ่นน้องต้องจะมีแง่แบบนี้ด้วย...

    ...ดูท่าทางจะเป็นรักแรกพบของอาคาชิเสียด้วย...

    อาคาชิพยักหน้ารับ "...แบบนี้คงไม่ต้องถามแล้วใช่ไหมว่าทำไหมฉันถึงคิดจะสืบเรื่องนี้เอง"

    "น้านนสิน้าาาาา แต่อาคาชิคนเดียวคงไม่ไหว เดียวฉันช่วยด้วยคนสิ" ทาคาโอะพูดขึ้นหลังจากเงียบมานาน

    "ที่จริงนายอยากรู้เองด้วยก็บอกมาเถอะ..." มิโดริมะพูดดักคู่หูตนอย่างรู้ทัน

    "ว้าาา ชินจังรู้ทันซะได้www" ทาคาโอะพูดอย่างอารมณ์ดี "แล้วชินจังจะช่วยฉัน อาคาชิ กับพวกเซย์รินสืบไหมอ่ะ?"

    "ฉันมีทางเลือกด้วยเหรอ? ถ้าปล่อยนายไปคนเดียวเดี๋ยวก็เกิดเรื่องอีกล่ะ" มิโดริมะพูดอย่างเอื่อมๆ กับคนใกล้ตัวที่ห่างสายตาทีไรได้เรื่องทุกที

    "นั้นสิ ถ้าปล่อยไปนายก่อเรื่องแน่..." มิยาจิพูดด้วยท่าทางขี้เกียจตามไปแก้ปัญหาใหทาคาโอะ ทั้งที่จริงๆ คงห่วงรุ่นน้องตามประสารุ่นพี่แค่นั้น

    โอสึโบะกับคิมุระที่เกือบถูกลืม (ไหงงั้นล่ะ!!! // โอสึโบะ&คิมุระ) ก็เพียงพยักหน้ารับว่ามิยาจิว่าไงก็ตามนั้นแหละ

    "ส่วนพวกฉันก็จะช่วยเซย์จังอยู่แล้วล่ะจ๊ะ" มิบุจิตอบแทนทุกคนในทีมเสร็จศัพท์ โดยที่ไม่มีใครค้านอะไร

    "งั้นตกลงตามนี่นะ!" ทาคาโอะสรุปดังนี้...

    ...โดยที่ทุกคนไม่รู้ตัวเลยว่าได้มีบุคคลหนึ่งดันมาได้ยินบทสนทนาของเหล่านักบาสพอดี ก่อนที่ร่างนั้นจะเดินหายไปที่ข้างอาคารทันที

     

     

     

     

     

    "เอ๋~ โคจังเล่นบาสเป็นด้วยเหรอ?" มิบุจิถาม เมื่อเห็นฟุริฮาตะหยิบลูกบาสขึ้นมาเล่น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเลิกเรียนแล้วจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นมากนัก

    "อ่ะ! ใช่...พอเคยเล่นมาบ้างน่ะ" ฟุริฮาตะตอบขณะลองโยนลูกบาสลงห่วง ซึ่งแน่นอนมันแค่เกือบลงเท่านั้น

    "นี่โคกิ..." อาคาชเดินมายืนข้างฟุริฮาตะ "...ฉันของถามอะไรหน่อยได้ไหม?"

    "อืม ได้สิ..." ...ใครจะกล้าปฏิเสธพ่อคุณล่ะ เล่นทำหน้าซะน่ากลัวเชียว

    "นายพอจำได้ไหม...ว่าคนที่ทำร้ายนายเอาอะไรไปมั่ง?..." ...จะได้หาจุดลากตัวมาถูก

    "พอจำได้อยู่หรอก...อาคาชิถามทำไมล่ะ??" ฟุริฮาตะเริ่มสังหรณ์ไม่ดีชอบกล "...อย่าบอกนะว่านาย...จะไปหาตัวคนที่ทำร้ายฉัน?"

    "ใช่..."

    "จะบ้าเหรอ! อาคาชิ! มันอันตรายนะ!!!" ฟุริฮาตะโวยออกมาพร้อมตะคุบตัวอาคาชิไว้ "นายคิดอะไรของนายเหรอ!? นั้นคนร้ายนะ! คิดเหรอว่าจะไปสู้เขาได้น่ะ!"

    ...เฮอะๆ นาย/คุณยังไม่รู้จักอาคาชิ เซย์จูโร่ดีพอ...รายนี้แทบจะไม่เคยแพ้อะไรด้วยซ้ำ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นมนุษย์ต่างดาวดีไม่ดีอาจจะชนะด้วยเอ้า!!!...

    ทุกคนมองยังฟุริฮาตะแล้วยิ้มแหยะๆ รู้สึกว่าโชคดีที่ฟุริฮาตะเป็นผีก็งานนี้แหละเลยไม่โดนกรรไกรจ้วง...แต่คิดอีกทีอาจเป็นเพราะเป็นรักแรกของอาคาชิมากกว่า ถ้าเป็นผีตนอื่นอาจโดนจ้วงจริงๆ ก็ได้ ใครจะรู้...

    "ไม่อันตรายหรอกโคจัง พวกเราแค่คิดลองหาข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้จะไปจับคนร้ายสักหน่อย..." ...แต่ดูท่าเซย์จังจะไปเชือดเลยล่ะ... มิบุจิอดคิดในใจต่อไม่ได้จริงๆ

    "...แน่ใจเหรอ?" ฟุริฮาตะถามกลับอย่างไม่แน่ใจ ดูท่ากลัวคนอื่นเป็นอันตรายมากกว่าเรื่องตนเองเสียอีก

    "แน่สิ..." อาคาชิตอบ อย่างโกหกหน้าตายมาก "...และบอกได้ยังว่าตอนนั้นนายโดนเอาอะไรไปบ้าง?"

    "ก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าจำไม่ติดรู้สึกจะเป็นกระเป๋าตังต์กับที่ห้อยกระเป๋าที่น้องสาวฉันเอามาให้น่ะ"

    "ไอ้กระเป๋าตังต์น่ะพอเข้าในแต่...ไอ้ที่ห้อยกระเป๋าเนี่ยมันเอาไปทำไมฟะ?!" เนบุยะถามขณะเดินมาหาอาคาชิพร้อมกับมายุสุมิ

    "ไม่รู้สิ..." ฟุริฮาตะก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเอาไปทำไมแค่ที่ห้อยกระเป๋า

    "พอจำได้ไหมว่าไอ้ที่ห้อยกระเป๋านั้นรูปร่างเป็นไง?" มายุสุมิถามทั้งที่อ่านไลท์โนเวลของโปรดตัวเองอยู่

    "เอ...รูปร่าง...อ๊ะ!" ฟุริฮาตะที่พูดเหมือนพยายามนึก ก่อนที่สายตาจะสะดุ้งเข้ากับบ้างอย่าง "เหมือนหน้าปกหนังสือนั้นเลย!!!"

    "หือ?" มายุสุมิมองฟุริฮาตะที่ชี้มาทางไลท์โนเวลที่ตนอ่านอยู่ พร้อมกับปิดหนังสือตนเพื่อที่จะดูหน้าปกชัดๆ

    "เหมือนหน้าปกหนังสือเนี่ยนะ?" เนบุยะบ่น...ถ้าเรื่องแบบนี้คงต้องถามมายุสุมิคนเดียวล่ะมั้ง?

    "อืม...ที่โคจังบอกเนี่ย...เหมือนรูปคนไหนเนี่ย?" มิบุจิถามพร้อมมองหนังสือในมือคนรักตนเองที่หน้าปกมีตัวละครที่เป็นหญิงสาวตั้งสามตัว

    "เอ่อ...คนผมสีฟ้าๆ น่ะ" ฟุริฮาตะบอก

    "แค่ที่ห้อยกระเป๋าแบบนี้ก็มีเยอะแยะไปไม่ใช่เหรอ?" เนบุยะแทบคิดไม่ออกเลยว่ามันมีค่าพอที่จะขโมยไปตรงไหน

    "มันก็แล้วแต่รุ่นด้วยแหละ" มายุสุมิที่เป็นแฟนพันธ์แท้ไลท์โนเวลบอก "บางรุ่นมีกำจัดจำนวนจนสองสามปีให้หลังขายได้ในราคาสี่เท่าของราคาซื้ออีก..." (ตรงนี้เรามั่วนะเอ๊อ)

    "มีค่าขนาดนั้นเชียว..." เนบุยะพูดอย่างไม่อยากเชื่อที่มายุสุมิพูดเท่าไหร่

    "จะว่าไป...น้องสาวฉันก็บอกว่าเป็นรุ่นจำกัดจำนวนจริงๆ นั้นแหละ...เห็นบอกว่าเป็นเซ็ตที่ผลิตแค่สิบตัวด้วย..." ฟุริฮาตะบอก...

    "แบบนั้นก็ไม่แปลกที่จะเอาไปสินะ..." อาคาชิพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ทำให้นึกถึงโคนันชอบกล "...รุ่นพี่มายุสุมิ...พอจะรู้ไหมครับว่าไอ้ที่โคกิบอกน่ะ...มันเป็นรูปแบบไหน?"

    "รู้สิ ฉันมีรูปด้วยนะ" มายุสุมิคว้ามือถืออกมาพร้อมกดเลือกรูปให้ผีผมน้ำตาลกับคนผมแดงดู "ใช่เซ็ตนี้หรือเปล่า?"

    "อ่ะ! ครับ อันนี้แหละ" ฟุริฮาตะเมื่อดูรูปก็จำได้ทันที...

    "รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เขาที่คนสร้างจะสลักชื่อตามคนที่มาซื้อบอกไว้ที่ขาของหุ่นน่ะ แถมจะลายเซ็นของผู้แต่งอีก" มายุสุมิพูดแล้วหยักไหล่ "ตอนนั้นฉันก็ไปหาซื้อเหมือนกัน แต่ไปช้าไปหน่อยเลยขายหมดก่อน...เลยได้แต่รูปถ่ายมาเนี่ยแหละ"

    "อืม...เหมือนว่าเคยเห็นที่ไหนแฮะ?" เสียงโคงาเนะดังมาจากด้านหลังอาคาชิ...

    เมื่อเด็กหนุ่มนัยน์ตาสองสีหันกลับไปมอง ก็เห็นเหล่าเด็กหนุ่มทีมบาสทั้งหลายมาเกาะหลังตนเพื่อดูภาพในมือถือด้วยเมื่อไหร่ไม่รู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    "นี่มันที่อยู่ที่ห้องพักอาจารย์นิครับ" คุโรโกะยื่อหัวมาดูรูปให้ชัดๆ แล้วก็จำได้ทันทีว่าเคยเจอที่ไหน

    "เอ่อ แฮะ...ใช่จริงด้วย" ฮิวงะที่ยื่นหน้ามาดูเช่นกันก็จำได้ "รู้สึกว่าจะห้อยอยู่ที่กระเป๋าอาจารย์สยองขวัญน่ะ"

    "อาจารย์สยองขวัญ?" คิมุระทวนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

    "หมายถึงอาจารย์มาสึโระสินะครับ?" คุโรโกะถามรุ่นพี่ตนเองกลับ

    "ก็ใช่น่ะสิ" ฮิวงะตอบ "ก็อาจารย์แก่เล่นชอบใส่หมวกปิดหน้า ตัวก็ซืดๆ ชอบพึมพำอะไรไม่รู้ตลอดเวลา แถมมักทำท่าเหมือนกลัวอะไรสักอย่างตลอดอีก"

    "อืม...ฟังดูสมฉายาดีแฮะ" โดยไม่ต้องถามอะไรเพิ่มเติมคิมุระก็เข้าใจโดยง่ายว่าทำไมถึงเรียกแบบนั้น

    "อาจารย์เขาชอบทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องพักครูตลอดเวลา...งั้นเราไปดูกันหน่อยดีไหมครับ?" คุโรโกะถาม ซึ่งทุกคนก็พยักหน้ารับ

    "...เป็นอะไรไปเหรอ? ทาคาโอะ?" มิโดริมะถามคู่หูตนที่จู่ๆ ก็หันขวับไปบนเวทีเหมือนกับเห็นอะไรสักอย่าง

    "เปล่า...แค่รู้สึกเหมือนโดนใครจ้องอยู่น่ะ แต่คงคิดไปเองแหละ" ทาคาโอะยิ้มตอบมิโดริมะ ทั้งที่ในใจเก็บความสงสัยจากความรู้สึกเมื่อครู่ไว้

    "งั้นไปกันเลยเถอะ!" แล้วสุดท้ายทุกคนก็เดินไปยังอาคารเรียน โดยมีริโกะนำปหน้าไป และไม่รู้เลยว่ามีบุคคลอันไม่พึงประสงค์ตามมาอยู่...

     

     

     

     

     

    เสียงฝีเท้าดังกึกก้องไปทั้งอาคารเรียน โดยมีริโกะเดินนำและทาคาโอะเดินปิดท้าย ทุดคนเดินอย่างรีบเร่งไปยังห้องพักครู

    เมื่อมาถึงริโกะก็แอบแง้มประตูดูว่ามีใครอยู่ไหม...ในเมื่อไม่มีคนอยู่ ทุกคนก็เดินเข้ามาในห้องพักครูและไปที่โต๊ะของอาจารย์ที่ได้รับฉายานามว่าอาจาย์สยองขวัญ...ก็พบกระเป๋าใบหนึ่งวางอยู่

    คุโรโกะหยิบกระเป๋าใบนั้นขึ้นมาดู และหยิบที่ห้อยกระเป๋ารูปหญิงสาวผมสีฟ้าขึ้นมาดูที่ขาตามที่มายุสุมิบอก...มีอยู่จริงๆ ...

    ...ชื่อที่สลักไว้ว่า 'ฟุริฮาตะ โคกิ' ...

    "มีจริงๆ ด้วย..." อาคาชิพึมพำออกมาเบาๆ

    "แบบนี้แสดงว่าอาจารย์แกเป็นคนร้ายสินะ" สึจิดะที่เกือบถูกลืม (ไหงเธอลืมฉันล่ะ!!! // s) สรุปออกมาดังนี้ "แล้วเราเอาไงต่อดี?"

    "นั้นสินะ..."

    ขณะที่ทุกคนกำลังปรึษาหารือกันอยู่สายตาของทาคาโอะก็เห็นเงาคนที่แอบอยู่ก่อนที่เงานั้นจะเริ่มขยับออกไป จึงเดินตามออกไปโดยที่ไม่ทันได้บอกใคร

    "เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยคิดกันอีกทีแล้วกัน!" สรุปสุดท้ายคิโยชิเลยสรุปดังนี้

    "นั้นสินะ ยังไงตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว" เนบุยะพูดอย่างเห็นด้วย

    "เอ่อ ขอถามหน่อยนะ...แล้วทาคาโอะหายไปไหนน่ะ?" ฟุริฮาตะถามเมื่อไม่เห็นคนตาสีฟ้าอมเทาแห่งทีมซูโตกุเลย

    "เอ๋?" มิโดริมะก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าคู่หูตนได้หายไปเสียแล้ว "ทาคาโอะ...เจ้าบ้า...เดินไปไหนโดยไม่บอกอีกแล้ว!!!"

    "คราวนี้คงไม่มีเรื่องตามมาอีกนะ..." โอสึโบะบ่นเล็กน้อย เพราะมีหลายครั้งที่ทาคาโอะเดินหายไปแบบนี้แล้วเกิดเรื่องทุกครั้งเลย "...เราไปตามหากันเถอะ"

    "ให้ตายสิ...หายไปไหนของหมอนั้นนะ" ฮิวงะบ่นเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพักครูเพื่อตามหาทาคาโอะ

    ทุกคนค่อยๆ ทะยอกออกไปจนเหลือเพียงอาคาชิกับฟุริฮาตะเท่านั้น...

    "...เราจะไปหาทาคาโอะที่ไหนดีล่ะ?" ฟุริฮาตะถามอย่างไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ทั้งโรงเรียนมันกว้างนะ! แถมทาคาโอะอาจไปอยู่ตรงไหนก็ได้!

    "นั้นสินะ...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" อาคาชิตอบ และจ้องหน้าของฟุริฮาตะไว้ราวกับ...กลัวว่าฟุริฮาตะจะหายไปจากตนทั้งที่อุสาหณ์ได้เจอกันอีกครั้งแล้ว

    "อาคาชิ...จ้องฉันทำไมเหรอ?" ผีเด็กหนุ่มถามเมื่อถูกคนผมแดงจ้องอย่างไม่วางตา เสียจนน่าสงสัย

    "เปล่าหรอก แค่คิดว่า..." อาคาชิดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอด พร้อมกระซิบข้างหูผีของโรงเรียนเซย์ริน "...ฉันชอบนาย"

    "ห...ห๊า?!" ฟุริฮาตะถึงกับสมองแทบหยุดทำงานเมื่อจู่ๆ ถูกบอกรัก "พูดจริง?"

    "แน่สิ ให้พิสูจน์ก็ได้นะ" อาคาชิยิ้มเจ้าเลห์ออกมา

    "ไม่ต้องๆ " ฟุริฮาตะปฏิเสธทันควัน เจ้าตัวเดาได้เลยว่าอาคาชิจะพิสูจน์ยังไง "แต่อาคาชิ...ฉันเป็นผีนะ! นายมาชอบฉันได้ไงเนี่ย?!"

    "ก็ไม่มีกฏหมายห้ามชอบผีนิ"

    ...นั้นใช่ประเด็นเหรอ!?!...

    "อีกอย่างฉันชอบนายตั้งแต่ตอนนายยังเป็นคนด้วย" คำพูดของอาคาชิทำให้ฟุริฮาตะเบิกตากว้างเหมือนนึกอะไรออก

    "หรือว่า...นาย...คือคนที่หลงทางที่โอกินาว่าตอนนั้น?!"

    "ถูกเผงเลย..." อาคาชิยิ้มอย่างดีใจที่อีกฝ่ายจำตนได้ "...นี่...ช่วยตอบหน่อยได้ไหม? นายชอบฉันหรือเปล่า? ห้ามเอาเรื่องนายเป็นผีมาอ้างเลียงไม่ตอบเชียว..."

    ฟุริฮาตะหน้ามุ่ยเมื่อถูกรู้ทัน ก่อนที่จะตอบด้วยใบหน้าเริ่มขึ้นสี "ช...ชอบสิ!"

    ผีเด็กหนุ่มตอบแค่นั้นก่อนที่จะมุดหลุดจากอ้อมแขนของคนนัยน์ตาสองสี และวิ่งหนีแผล่วไปที่ประตูด้วยใบหน้าแดงแจ๋ด้วยความเขินอาย

    อาคาชิมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ และดีใจที่อีกฝ่ายก็ชอบเขาเหมือนกัน...พูดตามตรงที่จริงเขากลัวจะโดนปฏิเสธสุดๆ ไปเลย พอได้ยินคำตอบแบบนี้เลยทำให้เขาโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก

    แล้วเด็กหนุ่มกัปตันแห่งทีมราคุซันเดินออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย เจ้าตัวปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา และจึงเริ่มออกหาทาคาโอะอีกคน...

     

     

     

     

     

    ทางด้านทาคาโอะที่เดินตามเงาที่ตนเห็นมาเรื่อยๆ เงียบๆ ก็ตามมาจนถึงบันไดทางขึ้นที่พวกเขาเดินขึ้นมา เด็กหนุ่มมองขึ้นไปชั้นสามแลัวเห็นเงาไหววูบก็ตามขึ้นไป

    เมื่อเดินขึ้นไปถึงทาคาโอะก็โดนใครสักคนตะคุบตัวไว้...

    "เหวอ!!!" ทาคาโอะหลุดร้องออกมา เด็กหนุ่มถีบคนที่ตะคุบตัวตนเมื่อครู่จนกระเด็นก่อนที่จะเริ่มออกตัววิ่งหนี

    ...นี่มันอะไรกัน!?!...

    ทาคาโอะพยายามประมวลผลว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น โดยสองขาก็วิ่งไม่หยุดพยายมหนีภัยที่พุ่งเข้ามาหาตน

    แต่ในทันใดนั้นเองขาเขาก็สะดุดบางอย่างจนล้มขณะที่กำลังจะเลี้ยวลงบันไดลงไปนั้นเอง เด็กหนุ่มลงขึ้นมองขาของตนเองที่เริ่มรู้สึกเจ็บแปล๊บ...

    ...เลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนลวดที่พันขาเด็กหนุ่มอยู่ ซึ่งบ่งบอกได้ดีว่าเมื่อครู่นั้นตนนั้นสะดุดอะไร

    ...กับดัก!?! บ้าจริง!!! วางเตรียมไว้งั้นเหรอ!?!...

    ทาคาโอะสบลในใจและพยายามพยุดตัวเองให้ลุกขึ้น ขณะที่ร่างของคนที่เขาหนีมาเริ่มที่จะเดินใกล้เข้ามา

    "แย่จริงนะ..." เสียงแหบแห้งของชายแปลกหน้าที่เดินย่างสามขุมเข้ามาหา PG แห่งซูโตกุ ที่เอ่ยออกมาทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงอันตรายที่กำลังย่างกรายเข้ามา "...ถ้าไม่คิดสืบเรื่องของฉันล่ะก็...ฉันคงไม่ต้องทำแบบนี้"

    ชายแปลกหน้าเดินมาถึงตัวของทาคาโอะ แล้วก็เอื้อมมือดึงผมสีดำของเด็กหนุ่มขึ้นให้มองหน้าตน

    "โอ๊ย!!!" ทาคาโอะหลุดร้องออกมา

    "โทษทีนะ...ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้" ชายแปลกหน้าหยิบมีดพกออกมาจากประเป๋ากางเกง "ฉันคงต้องให้เธอ...ตาย"

    ทาคาโอะเบิกตากว้าง พยายามทั้งจิก ทั้งข่วน ทั้งดิ้นเพื่อหลุดจากน้ำมือของคนตรงหน้าที่หมายจากปลิดชีพเขา

    "ขัดขืนไป...ก็เท่านั้น..." ชายแปลกหน้าชกเข้าที่ท้องของทาคาโอะอย่างแรงจนเจ้าตัวจุกและไม่อาจขยับไปไหนได้เลย

    เมื่อเห็นทาคาโอะสิ้นฤทธิ์แล้วชายแปลกหน้าก็ดึงคอเสื้อเด็กหนุ่มขึ้นมา กระชับมีดในมือและง้างมือขึ้นหมายจะแทงคนในอุ้งมือตน "ถ้าจะโทษ...ก็โทษความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองแล้วกันนะ..."

    "หยุดนะ!!!" เสียงอันคุ้นหูแว่วเข้ามาในหูของทาคาโอะ เด็กหนุ่มเห็นร่างใสๆ ของผีผมสีน้ำตาลวิ่งมากระโดดเกาะมือของชายแปลกหน้าและกัดมือของคนที่ถูกเกาะจนมีดในมือหลุดร่วงลงพื้น

    ชายแปลกหน้าเห็นฟุริฮาตะแล้วชะงั้นเล็กน้อย ก่อนที่จะสะบัดมือตนจนผีเด็กหนุ่มร่วงจากแขนที่ตนเกาะเมื่อครู่  พร้อมกับโยนทาคาโอะทิ้งลงพื้น

    และแล้วภาพไม่คาดฝันก็ปรากฏสู่สายตาของผู้มีนัยน์ตาเหยี่ยว เมื่อเขาเห็นภาพฟุริฮาตะที่พยายามลุกขึ้นยืนเพื่อช่วยเขาถูกชายแปลกหน้านั้น...ผลักลงบันไดไป

    "...ฟุริฮาตะ!!!" ทาคาโอะร้องเรียกผีเด็กหนุ่มที่ช่วยตนไว้ดังลั่น แต่...ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาเลย

    "เอาล่ะ...ถึงตาเธอแล้ว..." ชายแปลกหน้าเดินกลับมาหาทาคาโอะ "...เด็กนั้นมาช่วยไม่ได้แล้ว...ตอนเป็นคนฉันยังฆ่าได้ ตอนเป็นผีก็ไม่ต่างกันหรอก..."

    "นี่นาย!!!..." ทาคาโอะรู้สึกโกรธมากแต่ไม่อาจทำอะไรได้แม้กระทั่งหนี "นายฆ่าฟุริฮาตะทำไม!?!"

    "ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ฉันไม่ได้ตั้งใจฆ่า..." ชายแปลกหน้าพูดราวกับคนเสียสติ "...ตอนนั้น...เด็กนั้นหนีฉันเอง...และตกบันไดตายเอง...ฉันไม่เกี่ยว..."

    "แต่สุดท้ายนายมันก็ต้นเหตุอยู่ดีนั้นแหละ!!!" ทาคาโอะตะคอกใส่หน้าอีกฝ่ายแม้เจ็บมากแค่ไหนก็ตาม...กับคนตรงหน้าที่ไม่น่าให้อภัย

    "จะพูดอะไร...ก็พูดไปเถอะ...อีกเดี๋ยว...ก็จะไม่ได้พูดอีกแล้ว...ตลอดกาล..." ชายแปลกหน้าเริ่มจี้มีดลงที่คอของทาคาโอะ และขณะที่กำลังจะกดมีลงไปนั้นเอง...

    พลั่ก!!!

                    วัตถุสีเหลืองส้มลอยมากระแทกหัวชายแปลกหน้าอย่างแรง จนวัตถุที่ถูกโยนมาถึงกับแตกกระจายไปทั่ว ทาคาโอะมองสิ่งที่ช่วยชีวิตตนเมื่อครู่...

    ...สัปะรด!?! งั้นก็หมายความว่า...

    "ไอ้เวร! ทำอะไรรุ่นน้องฉันวะ!?!" เสียงอันดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าจำนวนมากที่วิ่งมา ณ จุดนี้ พร้อมกับที่ร่าาของคนผมสีน้ำผึ้งพุ่งเข้าไปล็อกตัวชายแปลกหน้าไว้

    "มิยาจิซัง..." ทาคาโอะครางออกมาเบาๆ เมื่อเห็นรุ่นพี่สุดโหดของทีมตนใกล้จะหักคอชายแปลกหน้าอยู่แล้ว

    "ทาคาโอะ! นายไม่เป็นไรนะ!?!" มิโดริมะที่วิ่งตามมาถามขณะพยุย...น่าจะเรียกว่าแบกออกมาจากจุดที่มิยาจิเชือด เอ้ย! สู้กับชายแปลกหน้าอยู่

    "ฉันไม่เป็นไร แต่ฟุริฮาตะ..." ทาคาโอะพยายามพูดออกมาทั้งที่เจ็บไปทั้งตัว

    "เกิดอะไรขึ้น!?" เสียงของบุคคลที่มาถึงถามทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า

    "เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ตอนนี้ช่วยมิยาจิซัง..." ...จัดการหมอนั้นเถอะ

    นี้คือสิ่งที่มิโดริมะกำลังจะพูด ถ้าไม่ติดว่า...

    "คงไม่ต้องช่วยฉันหรอก..." มิยาจิเดินมาหามิโดริมะด้วยสภาพแค่เสื้อยับนิดหน่อยเท่านั้น "...แต่คงต้องเรียกรถพยาบาลแทนแล้วล่ะ สงสัยลงมือหนักไปหน่อย"

    แล้วทุกคนก็เบือนสายตามองยังซากที่ตอนนี้ชักกระแด่วๆ ดูใกล้ตายอยู่รอมร่อ...

    "...เป็นฝีมืออาจารย์จริงๆ สินะครับ..." คุโรโกะพูดขึ้น มองผู้เป็นอาจารย์ที่ใกล้ไปพบยมบาลแล้ว

    "แจ้งตำรวจไหม?" มายุสุมิถาม

    "แบบนี้แจ้งเลยเถอะ" อิสึกิตอบกลับพร้อมหยิบมือถือออกมาโทรแจ้งตำรวจ

    "...แล้วโคกิหายไปไหน?" อาคาชิที่เงียบอยู่นานถามออกมาในที่สุด

    "เอ่อ นั้นสิ..." แล้วทุกคนก็นึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นร่างของฟุริฮาตะ โคกิเลย

    "ทาคาโอะ...เป็นอะไรไป?" มิโดริมถาม เมื่อเห็นคู่หูตนที่ทำหน้าเศร้า

    "เมื่อกี้...ก่อนที่มิยาจิซังจะมา...ฟุริฮาตะมาช่วยฉันไว้...และถูกหมอนั่น...ผลักตกบันไดไป...ฉันเรียกก็ไม่ตอบกลับมาเลย..." ทาคาโอะพูดทั้งน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา ด้วยความกลัวว่าผีเด็กหนุ่มจะเป็นอะไรไป ถึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผี แต่...ในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าตนไม่เหมือนผีตนอื่น ก็หมายความมีสิทธิ์ที่จะ...หายไปก็ได้

    "โคกิ..." ไวเท่าความคิด ทันทีที่ฟังที่ทาคาโอะบอก ร่างเด็กหนุ่มผมแดงวิ่งไปยังบันไดเบื้องหน้าตน...และภาพที่ได้เห็นแทบทำให้หัวใจหยุดเต้น...

    ...ร่างอันเลือนรางของฟุริฮาตะนอนนิ่งไม่ขยับอยู่บนพื้น พร้อมกับร่างที่จางลงเรื่อยๆ จนราวกับว่ากำลังจะหายไป!!!

    "โคกิ!!!" อาคาชิถลาเข้าไปพยุยตัวร่างที่ใกล้หายไปไว้ในอ้อมแขน "ตื่น! โคกิ! ตื่นขึ้นมาสิ!!!"

    ทุกคนเองก็เดินมาดูด้วยอาการตื่นตนกไม่ต่างจากอาคาชินัก สมงสมองต่างตื่อไปหมดจนทำได้เพียงยืนดูเฉยๆ เท่านั้น

    "อือ..." เสียงครางเบาๆ บ่งบอกเจ้าตัวเริ่มรู้สึกตัว ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างยากลำบาก "...อาคาชิ"

    "โคกิ...อย่าหายไปนะ..." เสียงอันสั่นเครือของอาคาชิ บ่งบอกความรู้สึกของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี น้ำตาเม็ดน้อยไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายจากด้วยตาสองสี

    "...คงไม่ได้หรอกนะ" ฟุริฮาตะเผยยิ้มออกมา...ราวกับยอมรับชะตากรรมของตนเอง "อาคาชิ...อย่าร้องไห้สิ"

    ...ตัวผีเด็กหนุ่มรู้ดี...ว่าเขากำลังหายไปจริงๆ ตัวเขาไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกรอบข้างได้แล้วและ...คงไม่สามารถที่จะทำตามคำขอของอาคาชิได้...

    "อาคาชิ..." ฟุริฮาตะเรียกเด็กหนุ่มผมแดง ในขณะที่ร่างกายใกล้ที่จะหายไปหมดแล้ว "...ฉันชอบนายนะ...ตั้งแต่ครั้งแรกที่โอกินาว่า..."

    "โคกิ!!!" อาคาชิทำได้เพียงร้องเรียกอีกฝ่าย...โดยที่ร่างนั้นได้สลายหายไปจากอ้อมแขนตนแล้ว...

    ทุกคนที่มองภาพตรงหน้าหลั่นน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่...คนที่พวกเขาเพิ่งได้พบเจอ คนที่มักส่งรอยยิ้มให้นั้น...ไม่มีอยู่อีกแล้ว

    "อ๊า!!!!" เสียงร่ำไห้ดังกึกก้องของอาคาชิราวกับจะประกาศให้รู้ถึงความสูญเสียของตนนั้น...มันช่างปวดร้าวขนาดไหน

    ...ถึงแม้ว่ารู้ดี...ต่อให้ร้องเท่าไหร่...อีกฝ่ายก็คงไม่มีทางได้ยินเสียงของเขา...

     

     

     

     

     

    End

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ซะเมื่อไหร่ล่ะ เชิญเลื่อนลงไปอ่านต่อเลย =w=

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะครับ...ที่ฟุริฮาตะคุงจากไป..." คุโรโกะที่อยู่ข้างๆ อาคาชิพูดขึ้น...

    ในวันนั้นที่ฟุริฮาตะหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา...สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกจากส่งตัวอาจารย์ให้ทางตำรวจข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าทาคาโอะเท่านั้น ซึ่งอาจารย์สยองขวัญแกก็ถูกจับเข้าตารางตามระเบียบ และหลังจากนั้นอาคาชิซึมไปหลายวันทีเดียวกว่าจะกลับมาเป็นปกติได้...

    ...จากวันนั้นเวลาได้ผ่านพ้นไปจนพวกเขาขึ้นปีสองกันแล้ว...วันนี้ที่พวกเขามารวมตัวกันเพื่อฉลองให้แก่มายุสุมิที่ต่อมหาวิทยาลัยโตเกียวได้ และที่ทุกคนเลือกมาฉลองที่เซย์รินก็เพราะเป็นที่เดียวที่สถานที่ว่าง อีกทั้งยังเป็นเหมาะแก่การเล่นบาสนั้นเอง...ถึงดูเหมือนมาเที่ยวเล่นกันเองมากกว่าก็เถอะ

    ว่ากันตามจริงอาคาชิชวนแค่พวกเซย์รินที่เป็นเจ้าของสถานที่กับพวกชูโตกุที่ฮายามะคะยัดคะยอให้ชวนมาด้วยเท่านั้น แต่ไม่รู้ทำอีกท่าไหนถึงมากันครบทีมที่รุ่นปาติหาริย์อยู่ในตอนนี้เลย...

    "นั้นสินะ..." อาคาชิตอบคุโรโกะ ขณะมองทางคิเสะกับอาโอมิเนะที่แข่ง 1 on 1 กันอยู่ ทำให้ชวนนึกถึงตอนสมัยม.ต้น...

    ...ตอนม.ต้นที่เขาได้พบกับฟุริฮาตะ โคกิ...

    "นี่ๆ อาคาชิ! คุโรโกะ! มาเล่นกันเถอะ!" ฮายามะที่อยู่ข้างๆ มิยาจิโบกมือเรียกเด็กหนุ่มทั้งสอง

    "เอาสิ...จะแข่งแบบไหนล่ะ?" อาคาชิเดินไปหาฮายามะพร้อมกับคุโรโกะ

    "จะแข่ง 5 on 5 น่ะ จะจับฉลากแบ่งทีมเอาตามสีที่ขีดไว้น่ะ..." ฮายามะยื่นฉลากที่เลือกแค่สองอันให้อาคาชิกับคุโรโกะ

    เด็กหนุ่มทั้งสองจับฉลากของตน และชูขึ้นให้ทุกคนดูว่าตนได้สีอะไร...จึงได้ผมสรุปดังนี้...

    ทีมแรกมี คางามิ , มิยาจิ , ฮายามะ , คุโรโกะ , ฮิมุโระ

    ทีมที่สองมี อาคาชิ , มิโดริมะ , ทาคาโอะ , มุราซากิบาระ , อิมาโยชิ

    และแล้วทั้งสองทีมก็เริ่มแข่งกันอย่างเมามันส์ โดยมีริโกะเป็นกรรมการ จนพวกที่เล่นกันอยู่รอบๆ มานั่งปุ๊บดูการแข่งขันของทั้งสองทีมแทน

    สุดท้ายทีมของอาคาชิก็ชนะไปด้วยคะแนน 123 ต่อ 122 ...เป็นคะแนนที่ชนะแบบเฉียดฉิวมาก

    "เป็นการแข่งที่สูสีดีเนอะ..." โคงาเนะพูดขณะเอาน้ำมาแจก

    "นั้นสินะ..." ทาคาโอะที่หมดแรงทำได้เพียงตอบแผ่วๆ

    "เป็นการแข่งที่ดีเนอะ เซย์จัง" มิบุจิที่เดินมายืนข้างๆ อาคาชิพูดขึ้นกับเด็กหนุ่มรุ่นน้อง "เซย์จัง?"

    "อ่ะ! ...อืม ใช่" อาคาชิตอบกลับอย่างคนเพิ่งรู้สึกตัว

    "เป็นอะไรหรือเปล่าเซย์จัง? ดูเหม่อๆ ..." มิบุจิถามที่ดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว "...หรือว่า...คิดถึงโคจังสินะ"

    "...อืม" อาคาชิตอบไปตรงๆ

    "เฮ้อ...ฉันก็คิดถึงโคจังเหมือนกันน้าาาา" มิบุจิก็คิดไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ "ถ้าพวกเราได้เจอกันอีกก็ดีสิเนอะ..."

    "นั้นสินะ..." อาคาชิยิ้มเศร้าๆ ออกมา "...ถ้าได้เจอกันอีกครั้งก็ดี"

    "อาคาชิ!!!" ฮายามะโดดเข้ามากอดคอมิบุจิกับอาคาชิ ทำลายบรรกาศชวนเศร้าเมื่อครู่ลง "นี่! ดูนี่ๆ เพื่อนผมเขียวของนายให้มาล่ะ!!!"

    "นั้นมัน...ลูกปัดเหรอ?" มิบุจิถามพลางมองลูกกลมๆ สีดำๆ ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือในมือของคนผมสีคาราเมล

           "เห็นบอกว่าเป็นของจากศาลเจ้าน่ะ...แถมบอกด้วยว่าถ้ากำเอาไว้แล้วขอพรในใจจะสมหวังด้วยน้าาาา" ฮายามะพูดพร้อมยัดลูกกลมๆ ใส่มืออาคาชิ "อ๊ะ! ให้!"

    "แล้วมาให้ฉันทำไม? เอาไปใช่เองไม่ดีกว่าเหรอ?" อาคาชิที่ไม่เชื่อเรื่องขอพรอะไรพวกนี้อยู่แล้ว มองลูกกลมในมือตน

    "ก็ฉันไม่มีอะไรจะขอนิ! ก็ฉันมีมิยาจิซังอยู่แล้วนี่นา! ฉันว่านายนั้นแหละเหมาะที่จะใช้ที่สุด!!!" ฮายามะพูดพร้อมเผ่นออกห่างอาคาชิ กันโดนกรรไกรบินปักหัว

    อาคาชิมองลูกทีมหัวสีคาราเมลของตนอย่างขำๆ ...ขนาดกลัวโดนเขาเอากรรไกรปักหัวยังเอามาให้อีก...แต่ก็จริงอย่างที่ว่านั้นแหละ เขาเหมาะที่จะใช้มากที่สุด ในเมื่อตัวเขานั้น...

    ...ต้องการให้ฟุริฮาตะ โคกิกลับมาหาเขามากที่สุด...

    "เซย์จัง...คิดว่าของแบบนี้จะใช้ได้จริงเหรอ?" มิบุจิไม่ค่อยอยากเชื่อที่ฮายามะบอกสักเท่าไหร่นัก

    "ลองดูก็ไม่เสียหาย" อาคาชิพูด...และกำสิ่งที่อยู่ในมือแน่...

    ...ถ้าได้ผลจริง...ขอร้องล่ะ...

    ...กลับมาหาฉันที...

    ...จะสภาพไหนก็ได้...

    ...โคกิ...

    "เซย์จัง..." มิบุจิที่เห็นว่ารุ่นน้องตนคงยอมทำทุกวิธีทางเพื่อให้ฟุริฮาตะกลับมา ก็ทำได้เพียงมองเท่านั้น...

    "อ้าว? คาซามัตสึหายไปไหนมาน่ะ?" อิมาโยชิถามขึ้นเมื่อเห็นกัปตันทีมไคโจวเดินเข้ามาในโรงยิม

    "ไปล้างหน้ามาน่ะ อ้อ...แล้วก็มีคนมาหาแน่ะ" คาซามัตสึตอบก่อนที่จะดึงแขนใครสักคนเข้ามา "เอ้า! เข้ามาสิ!"

    ร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเดินเข้ามาในโรงยิม ดวงตาสีเดียวกันกวาดมองตัวจริงทีมบาสสามทีมที่ตะลึงจนตาแทบถลดออกจากเบ้า กับพวกตัวจริงทีมบาสอีกสามทีมที่ยืนมองอย่างงงๆ ก่อนที่จะฉีกยิ้มให้ทุกคนในที่นี้

    "ฟุริ!!! / ฟุริฮาตะคุง!!!" เสียงประสานของสามทีมตะโกนกึกก้องไปทั้งโรงยิม

    "แฮะๆ สวัสดี...อ่ะ!" ขณะเด็กหนุ่มเอ่ยทักผู้คนในโรงยิม ร่างที่มีเรือนผมสีแดงสดก็วิ่งเข้ามากอดตัวเด็กหนุ่มไว้

    "โคกิ..." อาคาชิกอดร่างอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับกลัวว่านี้เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น สัมพัสอบอุ่นที่ได้รับคอยย้ำเตือนเขาว่านี้คือความจริง

    "อาคาชิ..." ฟุริฮาตะกอดตอบ "...ฉันกลับมาแล้วนะ ทุกคน"

     

     

     

     

     

    "ห๊า!!! กลายเป็นเจ้าชายนิทรามาสองปี!?!" ทุกคนถึงกับร้องออกมาเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของฟุริฮาตะ...

    ...เจ้าตัวบอกว่าทางโรงพยาบาลเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่พลัดตกบันไดไปแล้วนั้น ถึงจะไม่มีแผลอะไรมากมายแต่ฟุริฮาตะกลับหลับไปถึงสองปีเต็มๆ

    ...ซึ่งจากที่พวกเขาเดากันเองคงเพราะวิญญาณหลุดออกจากร่างแน่ ไม่งั้นคงไม่มาโพล่ที่โรงเรียนหรอก

    "ฟังดูไม่น่าเป็นไปได้เลยเนอะ..." อาโอมิเนะพูดพร้อมคุมขมับ หลังจากที่คุโรโกะเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่เจอฟุริฮาตะในสภาพวิญญาณเลยมาทั้งหมด แถมฟังเรื่องที่ฟุริฮาตะเล่าด้วยแล้ว...มันยากที่จะเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องแต่งขึ้น...

    ...และอาโอมิเนะคงไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่านี้คือเรื่องจริงถ้าอาคาชิไม่เป็นคนยืนยัน!!! แถมบอกอีกว่าถ้าไม่เชื่อจะเชือดทิ้งซะ!!! แล้วใครจะกล้าไม่เชื่อล่ะ!!!

    "แต่นี้เรื่องจริงนะ...อาคาชิช่วยปล่อยฉันก่อนได้เปล่า?" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ตอบคนผิวเข้ม ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นพูดกับคนที่กอดคอเขาไม่ยอมปล่อย...

    ...ตั้งแต่ฟุริฮาตะถูกจับลากมาให้นั่งล้อมวงเพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้เหล่าคนในเหตุการณ์นั้นฟัง อาคาชิก็ลากเก้าอี้จากไหนไม่รู้มานั่งกอดคอเขาอย่างนี้แหละ

    "ไม่..." คำตอบอันชัดเจนเปล่งออกจากปากคนผมแดงอย่างไม่ต้องผ่านสมองสักนิด "...เดี๋ยวนายหายไปอีก"

    "ฉันไม่ไปไหนหรอกน่า..." เด็กหนุ่มผมน้ำตาลเริ่มอ่อนใจชอบกล กับคนที่ดูท่าจะไม่ยอมปล่อยเขาง่ายๆ แน่

    "ว่าแต่ฟุริฮาตะคุง...เรื่องเรียนคุณจะเอาไงครับ?" คุโรโกะถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าฟุริฮาตะที่หลับไปสองปีย่อมมีปัญหาเรื่องการเรียนแน่

    "อ๋อ..." ฟุริฮาตะลากเสียงอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ จนคุโรโกะชักไม่แน่ใจว่าฟุริฮาตะลืมหาที่เรียนหรือเปล่า "...ทางโรงเรียนยอมให้ฉันเข้ามาเริ่มเรียนปีหนึ่งที่นี่ตามที่เคยส่งใบสมัครไปเมื่อสองปีก่อนน่ะ"

    "จริงเหรอครับ? ดีจัง..." คุโรโกะยิ้มออกมา อย่างน้อยฟุริฮาตะคุงก็ไม่ลืมหาที่เรียน แถมยังได้มาเป็นรุ่นน้องเขาด้วย

    "โคกิ...ย้ายไปเรียนราคุซันไม่ได้เหรอ?" อาคาชิหน้ามุ่ย นึกอยากให้คนในอ้อมแขนไปเรียนที่เดียวกับตนมากกว่า

    "ได้ไงล่ะครับ...ฟุริฮาตะคุงเรียนที่นี่แล้วน้าาา" คุโรโกะที่อยากกวนอดีตกัปตันตนเองเล่นเอ่ยออกมา

    "กวนเหรอ? เท็ตสึยะ..." อาคาชิมองเพื่อนตนตาเขียว

    "แล้วแต่คุณจะคิดครับ..." คุโรโกะยิ้มเจ้าเล่ห์ อย่างที่นานครั้งจะได้เห็น

    "เฮ้ยๆ อย่าทะเลาะกันสิ...ยังฟุริจะมาเป็นรุ่นน้องฉันนะ ไม่ยกให้นายหรอกอาคาชิ" ฮิวงะที่นึกสนุกร่วมวงเถียงกับเขาด้วย...

    "ว้าว! ฟุริฮาตะเนื้อหอมจังนะ!" ทาคาโอะมองภาพเบื้องหน้าอย่างสนุกสนาน โดยมีมิโดริมะดึงตัวไว้กันไปร่วมวงก่อเรื่องเข้า

    "งั้นนายก็กลายเป็นเด็กโข่งดิ" คางามิพูดเชิงย้อกล้อฟุริฮาตะเล่นด้วยอีกคน ก่อนที่จะหันไปมองมุราซากิบาระที่กินขนมอยู่ "อ๊ะ! ไม่สิ เด็กโข่งมันทางนี้ต่างหาก"

    "ว่าใครเป็นเด็กโข่งห๊า! คางาจิน!" มุราซากิบาระค้อนใส่วงเบ้อเร้ม

    "ฮาๆ จริงอย่างที่ไทกะว่าแฮะ" ฮิมุโระที่นึกคึกอย่างแกล้งรุ่นน้องตนก็ร่วมวงกับคางามิไปด้วยอีกคน

    "มุโระจิน! อย่าหัวเราะดิ!" มุราซากิบาระคว้าตัวฮิมุโระมากอดคล้ายกับเด็กที่กอดฟัดตุ๊กตาเวลาโกรธ...เป็นเด็กโข่งแท้ๆ

    "ฮาๆ ไม่หัวเราะก็ได้" ฮิมุโระยิ้มให้รุ่นน้องผมม่วงของตน

    "พี่!" เสียงแว๊ดดังลั่นโรงยิมทำให้ทุกคนที่เถียงกันอยู่หันไปมองยังต้นเสียง...

    ร่างเด็กสาวผู้มีผมและดวงตาสีน้ำตาลที่สูงน้อยกว่าฟุริฮาตะเล็กน้อยเดินเข้ามาหาฟุริฮาตะ "พี่! ไหนบอกว่าจะมาสำรวจโรงเรียนไง! ไหงทิ้งหนูให้เดินคนเดียวเนี่ย!!! เล่นซะหนูเกือบหาพี่ไม่เจอแน่ะ!!!"

    "แฮะๆ โทษทีนะ ซากิ..." ฟุริฮาตะเอ่ยขอโทษกับน้องสาวตนเอง "พอดีว่าจะมาหาเพื่อนน่ะ"

    "เอ๋? ที่พี่บอกที่โรงพยาบาลน่ะเหรอ?" ฟุริฮาตะ ซากิมองเหล่านักบาสที่อยู่ในโรงยิม "...ที่บอกนั้น...เรื่องจริง?"

    "เรื่องจริงสิ" ริโกะเดินมาบอก...

    "...งั้นเหรอ...งั้นขอบคุณที่ช่วยพี่ไว้นะค่ะ" เด็กสาวส่งยิ้มให้ทั้งโรงยิม...ที่จริงเธอเชื่อที่พี่ชายเธอพูดตั้งแต่แรกแล้ว แต่...มันดูจะเกินจริงไปนิดเลยต้องหาพยานสักหน่อย ถึงจะน่าเชื่อถือ... "...แล้ว...คุณพี่ผมแดง...ไหง...กอดคอพี่โคกิอย่างนั้นล่ะ...ค่ะ..."

    ...จากน้ำเสียง...ชัดเลย...ติดพี่ชัวร์ๆ...

    ทุกคนคิดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เมื่อเด็กสาวมองอาคาชิอย่างกับอยากจะดึงฟุริฮาตะ โคกิออกจากอีกฝ่ายซะเดี๋ยวนี้

    "ก็...ฉันกะจะจีบโคกิไงล่ะ" อาคาชิก็ตอบหน้าตาเฉย แม้รู้ว่าเด็กสาวน่าจะหวงพี่เอามากๆ ...

    ...แต่ก็สมควรล่ะ...เล่นซื่อซะขนาดนี้...

    "ว่าไงนะ!" ซากิรีบพยายามดึงแขนของอาคาชิออกจากพี่ตน เสียแต่อาคาชิดันมือเหนียวไม่ยอมปล่อยมือจากเด็กหนุ่มเลย "อย่ามาจีบพี่ฉันนะ!!!"

    "ฉันอยากจีบ ใครจะทำไม?" อาคาชิถามกลับด้วยเสียงน่ากลัว แต่เด็กสาวก็ไม่สะทกสะท้าน ดูท่าจะจิตแข็งกว่าคนพี่หลายเท่าเลยทีเดียว

    "เอ่อ พอก่อนทั้งสองคน" ฟุริฮาตะคนพี่ที่เห็นว่าเรื่องคงจะได้ยาวแน่รีบห้ามทัพทั้งสอง เมื่อได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มทั้งสองก็หยุดทันที "...ดีๆ กันไว้ดีกว่านะ"

    "...ก็ได้" อาคาชิยอมหยุดง่ายๆ ตามที่ฟุริฮาตะขอ จนพวกทีมปาติหาริย์แทบอยากแอบอัดเสียงเมื่อกี้ไว้จริงๆ ...

    ...หายากนะ! ที่อาคาชิ / อาคาชิคุง / อาคาชิจจิ / อาคาจินจะยอมง่ายๆ แบบนี้!...

    "...แล้วแต่พี่ก็ได้" ซากิเองก็ยอมหยุดด้วยเช่นกัน

    "สุดท้ายก็ยอมดีกันสินะครับ..." คุโรโกะพูดขึ้นหลังจากเห็นว่าทั้งสองหยุดเถียงกันแล้ว

    "ว้าย!!!" ซากิร้องออกมาทันทีที่เห็นคุโรโกะ "มาตอนไหนเนี่ย!!!"

    "ตั้งแต่แรกแล้วครับ..." เด็กหนุ่มผมฟ้าตอบด้วยเสียงเรียบ "...แล้วอาคาชิคุง...ไม่ใช่ว่าคุณจีบฟุริฮาตะไปแล้วเหรอครับ? ตั้งแต่ตอนนั้น..."

    "นายรู้ได้งายยยย!!!" ฟุริฮาตะแทบจะกระโดดไปเขย่าคอคุโรโกะเพื่อเค้นคำตอบ ถ้าไม่ติดอาคาชิที่กอดเขาไว้อยู่อ่ะนะ

    "ก็ตอนนั้นผมก็อยู่ด้วยนิครับ แต่พวกคุณไม่เห็นผมเอง..." คุโรโกะตอบ "...และพวกคุณก็คบกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ?"

    "ห๊า!?!" ทุกคนหันมองฟุริฮาตะกับอาคาชิกันขวับ

    "เฮ้ย! ฉันย..." ฟุริฮาตะที่กำลังจะปฏิเสธที่คุโรโกะพูดก็ถูกอาคาชิเอามือปิดปากไว้ และเด็กหนุ่มนัยน์ตาสองสีก็คลี่ยิ้มออกมา

    "ตามที่เท็ตสึยะพูดนั้นแหละ"

    "เอาจริง?" ซากิเริ่มอยากกินพาราสักกำหนึ่ง "แล้วฉันจะแน่ใจได้ไง? ว่านายจริงจังกับพี่ฉัน?"

    "ขนาดบอกรัดตอนที่ยังไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่เนี่ยถือว่าจริงจังหรือเปล่าล่ะ?" อาคาชิถามกลับ จนเด็กสาวถึงกับอึ้ง "และฉันก็รักโคกิจริงๆ มาตั้งนานแล้วด้วย"

    "แล้วนายจะประกาศให้เขารู้กันทำไมเนี่ย?!" ฟุริฮาตะรู้สึกว่าการมาครั้งนี้ของเขาเป็นที่สนใจไม่ต่างจากนอนเขาเป็นผีเลย

    "จะได้เปิดเผยกันไปเลยไง" อาคาชิตอบ และมองเด็กสาวด้วยสายตากดดัน "และน้องสาวนายจะได้ยอมรับด้วย จริงไหมล่ะ?"

    "เออๆ! ยอมก็ได้! แต่ถ้านายทำพี่ฉันเสียใจล่ะก็...ฉันจะไม่ให้นายเข้าใกล้พี่ฉันอีกเลย!!!" ซากิมองอาคาชิกลับด้วยสายตาเอาเรื่อง...ถ้าไม่ติดสายตาที่พี่เธอส่งมาเชิงขอร้องล่ะก็...อย่าหวังว่าเธอจะยอมเลย!

    "งั้นเสียใจด้วย เพราะคงไม่มีวันนั้นหรอก..." อาคาชิตอบกลับทันที

    สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยการที่มายุสุมิบอกว่าไปฉลองที่อาคาชิมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียทีที่มาจิเบอร์เกอร์ร้านประจำของคุโรโกะกับคางามินั้นแหละ...สรุปคือทุกอย่างจบลงด้วยดีนั้นแหละนะ!!!

     

     

     

     

     

    End

    เขียนตอนหัวตื่อๆ เนี่ยยากเอาการแฮะ

    แต่ขอให้สนุกกับที่เราเขียนนี้นะ ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×