ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #46 : [KagaFuri] Little Red Riding Hood

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.14K
      51
      29 ส.ค. 57

    Title : Little Red Riding Hood

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Kagami x Furihata

    Notes : shiko : อันดับ 4 ของการโหวตมาลงแล้วจ้า!!!  ขอเชิญตาคิ้วสองแฉกมาเลยจ้า!!!!

    คางามิ : ไง...แล้วว่าใครคิ้วสองแฉกห๊า!!!

    Shiko : ก็นายไง (รีบโยนเบอร์สองใส่คางามิ)

    คางามิ : แว๊ด!!!! (สะดุ้งโหยงพร้อมก้าวถอยหลังไปตกลงหลุม)

    Shiko : (ยิ้มแล้วเก็บหลุดกับดักที่เชื่อมไปยังฟิค)

    ................................................................

     Little Red Riding Hood

     

    "เอาล่ะทุกคน! ได้ฉลากกันแล้วใช่ไหม?" คุณครูสาวเอ่ยถามนักเรียนในชั้นตนอย่างร่าเริง "อย่างที่รู้กัน ว่าเดือนหน้าโรงเรียนเรามีการจัดแสดงละครโรงเรียนขึ้น ซึ่งทุกชั้นปี...ตามที่ตกลงกันใครจับฉลากได้เรื่องอะไรก็แสดงเรื่องนั้นนะ ของกลุ่มครูได้แสดงเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนะจ๊ะ และการแสดงปีนี้ครูคิดว่าคงสนุกแน่ เพราะผอ.คิดอะไรก็ไม่รู้ และให้จับสลากเลือกตัวละครเอา ไม่แบ่งบทให้ชายหรือหญิงแสดงด้วย...ถ้าผู้ชายคนไหนรับบทผู้หญิงก็ถือว่าดวงไม่ดีเองแล้วกันนะ...ดูว่าตนเองได้บทเป็นอะไรแล้วไปซ้อมด้วยล่ะ ห้ามเปลี่ยนบทกันเองด้วยนะจ๊ะ พวกเธอไปพักได้ ครูไปแจกฉลากบทที่ได้รับให้อีกห้องที่จะแสดงร่วมกับเราก่อนนะ"

    เมื่อครูสาวพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทำหน้าที่อื่นของตนทันที และถูกแทนที่ด้วยเสียงพูดคุยของคนทั้งห้องที่ดูท่าทางสนุกสนานกับบทที่ตนเองได้รับ...ยกเว้นเพียงคนเดียวที่ทำหน้าเหมือนจะเฉาตายชอบกล

    "เฮ้! ฟุริ! นายได้รับบทอะไรล่ะและเรื่องอะไรล่ะ?! แล้วไหงทำหน้าใกล้ตายอย่างนั้นล่ะ?!" คาวาฮาระ โคอิจิเดินมาหาเด็กหนุ่มผมน้ำตาลที่โต๊ะเรียนของอีกฝ่ายที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก

    "หรือนายได้รับบทของผู้หญิงน่ะ?" ฟุคุดะ ฮิโรชิลองเอาหนังสือแปะลงบนหัวอีกเด็กหนุ่มผมน้ำตาลเบาๆ

    "ก็ใช่น่ะสิ..." ฟุริฮาตะ โคกิเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะมองเพื่อนสนิกทั้งสองของตนด้วยใบหน้าอยากร้องไห้เต็มที

    "เอาน่า...บทมันคงไม่หนักนักหรอกมั่ง?" คาวาฮาระปลอบอีกฝ่าย

    "...ใครว่าล่ะ...บทนี้มันหนัก...หนักสุดๆ เลย!" ฟุริฮาตะโวยอย่างอยากสาปแช่งในความโชคร้ายของตน

    "เอ๋?" ฟุคุดะกับคาวาฮาระมองหน้ากันก่อนที่จะหยิบฉลากในมือฟุริฮาตะขึ้นมาอ่าน เท่านั้นแหละเข้าใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายหมดอาลัยตายอยากนัก

    "ไหงนายซวยจับได้เป็นหนูน้อยหมวกแดงเนี่ย?" ฟุคุดะบ่นให้กับความซวยของเพื่อนตน

    "นายได้เป็นตัวละครหลักเลยล่ะ..." คาวาฮาระตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ เป็นการปลอบ...

    "...ฟุริฮาตะคุงครับ..." เสียงเบาๆ ดังขึ้นด้านหลังของฟุริฮาตะ ทำให้ทั้งสามสะดุ้งเฮือก และหันไปมองยังต้นเสียง

    "คุโรโกะ? ห้องนายเลิกแล้วเหรอ?" ฟุริฮาตะถามเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกตนเป็นเพื่อนร่วมทีมผู้แสนจืดจางของเขานั้นเอง

    "ครับ เลิกแล้วครับ" คุโรโกะตอบอย่างเฉยชา แต่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก

    "คุโรโกะ? นายเป็นอะไรหรือเปล่า? หน้าเหมือนกำลังกลุ้มอยู่อย่างนั้นแหละ..." คาวาฮาระถาม

    "ไม่มีอะไรหรอกครับ...แค่คิดว่าผมควรทำไงดีตอนขึ้นไปแสดงให้คนอื่นเขาเห็นผมน่ะครับ..."

    ...อืม ยากแหะ...

    ตัวสำรองปีหนึ่งทั้งสามแห่งทีมบาสเซรินอดคิดแบบนี้ไม่ได้ ในเมื่อขนาดพวกเขาที่รู้จักกันนานพอสมควรยังแทบจะไม่ทันสังเกตการมีตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว แต่นี้ยังให้คนนอกมาชมการแสดงอีก...จะมีใครเห็นไหมน่ะ?

    "คุโรโกะ...นายแสดงเป็นอะไรเหรอ?" ฟุริฮาตะถามพลางเอามือเท้าคางตน

    "แสดงเป็นนายพรานครับ...ในเรื่องหนูน้อยหมวดแดง..."

    "งั้นนายได้แสดงร่วมกับพวกฉันสินะ" คาวาฮาระพูดอย่างดีใจที่เพื่อนตนได้อยู่กลุ่มการแสดงเดียวกัน

    "งั้นเหรอครับ? ดีจังนะครับที่พวกเราได้แสดงรวมกันน่ะครับ..." คุโรโกะก็รู้สึกดีใจที่ห้องตนได้แสดงร่วมกับกลุ่มของพวกฟุริฮาตะ เพราะถ้าเจอแต่คนที่เขาไม่รู้จัก เขาคงนึกไม่ออกว่าจะทำไงให้ทุกคนตกใจ (จากความจืดจางเฉพาะตัว) ให้ได้น้อยที่สุดยังไง

    "ได้แสดงเป็นตัวหลักอยู่เหมือนกันสินะ..." ฟุริฮาตะพูด...อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องกลุ้มเรื่องบทแสดงคนเดียวแล้วกัน

    "แล้วพวกคุณแสดงเป็นอะไรกันครับ?" คุโรโกะถามกลับ

    "ฉันได้เป็นชาวบ้านน่ะ ในเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเหมือนกัน" ฟุคุดะตอบ ก่อนเหล่ตามองเพื่อนผมน้ำตาลของตน

    "ฉันก็ได้เป็นชาวบ้านเหมือนกัน" คาวาฮาระตอบพร้อมส่งยิ้มปลอบใจให้ฟุริฮาตะ ที่ใกล้จะเฉาตายอยู่ร่อมร่อ

    "ฉันซวยสุด ได้เป็นหนูน้อยหมวกแดงน่ะ..." ฟุริฮาตะตอบด้วยเสียงเหมือนคนจะร้องไห้

    "งั้นคุณก็ได้แสดงคู่กับคางามิคุงน่ะสิครับ" คุโรโกะพูดอย่างนิ่งๆ เหมือนเคย ทั้งที่ในใจคิดว่า...

    ...บทที่ทุกคนได้รับใช่ว่าน้อยนะครับ ไหงคุณได้หนึ่งในตัวละครหลักที่ในเรื่องมีแค่สี่ตัวได้ล่ะครับ...แต่จะว่างั้นก็ไม่ได้แฮะ เขากับคางามิก็ไม่ต่างสักเท่าไหร่...

    "เอ๋? แสดงคู่กัน?" ฟุริฮาตะทวนอย่างงงๆ

    "คางามิมันแสดงเป็นหมาป่าเหรอ?" ฟุคุดะถามถึงแม้รู้ว่าต้องใช่แน่ๆ ก็เถอะ...ถ้าพูดถึงหนูน้อยหมวมแดงคนส่วนใหญ่ก็ต้องคิดถึงหมาป่าเป็นของคู่กันนี้นา

    "ครับ...คางามิคุงเล่นเป็นหมาป่าครับ ตอนจับได้คางามิคุงโวยใหญ่เลยล่ะครับ..." คุโรโกะพูดพลางนึกถึงคนผมสีเพลิงที่โวยวายจนเกือบโดนอ.ทำโทษก่อนหน้านี้

    "...ว่าแต่ทำไมคางามิไม่มากับนายล่ะ?" คาวาฮาระรู้สึกตะงิดๆ ตั้งแต่เห็นคุโรโกะมาคนเดียวแล้วล่ะ

    "คางามิคุงหงุดหงิดที่ได้รับบทที่แสดงมาก ก็เลยกินมาราธอนในห้องน่ะครับ" คุโรโกะยิ้มแหยะๆ เมื่อนึกถึงขนมปังยาวเป็นเมตรของแสงตน ที่วันนี้ซื้อมาถึงหกอัน ไม่รู้กินเข้าไปหมดได้ยังไง...

    "เอ้า! ทุกคน! ฟังทางนี้!!!" เด็กสาวหัวหน้าห้องตะโกนอยู่ที่หน้ากระดานดำ เรียกความสนใจจากคนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี "เรียนช่วงบ่ายของวันนี้อ.ได้ขออนุญาตให้ไปซ้อมการแสดงได้! กลุ่มเรื่องหนูน้อยหมวกแดงได้ซ้อมที่โรงยิม! ให้ทุกคนที่จับได้เรื่องนี้ไปรวมที่โรงยิมหลังหมดเวลาพักนะ! ถ้าใครไม่อยู่ในที่นี่ใครเป็นเพื่อนเป็นแฟนก็ฝากบอกด้วยแล้วกัน! เดี๋ยวฉันไปบอกอีกห้องก่อนนะ!!!"

    และเด็กสาวก็เดินจากไป ปล่อยให้ทุกคนทำตามอัทยาศัย จนกว่าจะถึงเวลาที่ทุกคนรวมตัวกันนั้นแหละ...

    เด็กหนุ่มทั้งสี่แห่งทีมบาสมองหน้ากันพร้อมยิ้มแห้งๆ ให้กัน

    "...ผมว่าผมรู้สาเหตุที่โค้ชบอกว่าเดือนนี้งดซ้อมในโรงยิมแล้วล่ะ"

    "...ฉันก็ว่างั้นแหละ"

     

     

     

     

     

    ณ โรงยิมโรงเรียนมัธยมปลายเซริน เวลา 13.00 น.

    เด็กหนุ่มเด็กสาวทั้งหลายต่างมายืนออกันในโรงยิมตามที่ถูกนัดเอาไว้

    "เอาล่ะ! ทุกคน! เราจะเริ่มจากการวัดตัวหาชุดก่อนนะ! ใครแสดงเป็นพวกตัวประกอบให้ไปอยู่ที่หลังโรงยิมทั้งหมดนั้นแหละ! ส่วนคนตัวละครหลักสี่คนให้มายืนที่ด้านหน้าฉันนะ!" เด็กสาวหัวหน้าห้องของฟุริฮาตะประกาศจากบทเวทีในโรงยิมทันทีที่เห็นว่าคนน่าจะครบแล้ว ราวกับกลัวว่าจะไม่มีเวลามากพอที่จะซ้อมอย่างไรอย่างนั้น ทั้งที่เพิ่งเริ่มวันแรกแท้ๆ

    เหล่าหนุ่มสาวที่ได้ยินประกาศดังนั้นก็ทำตามที่เด็กสาวบอกอย่างสนุกสนาน เว้นแต่เด็กหนุ่มทั้งสามที่ดูท่าไม่ค่อยอยากจะแสดงละครนี้เท่าไหร่นัก...

    ฟุริฮาตะเดินไปหาเด็กสาวหัวหน้าห้องด้วยใบหน้าเหมือนจะไปตายอย่างนั้นแหละ คางามิก็เดินไปหาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยที่ถูกมาแสดงละคร ส่วนคุโรโกะ...ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่ามาหรือเปล่า นอกจากคางามิกับฟุริฮาตะที่คุยกันตั้งแต่ก่อนเข้ามาในโรงยิมนั้นแหละ

    "อ้าว? ฟุริฮาตะไหงทำหน้าเหมือนกินยาขมทั้งขวดอย่างนั้นล่ะ??" เด็กสาวหัวหน้าห้องถามทันทีที่เห็นหน้า แสดงให้เห็นว่าผู้ถูกอ้างถึงนั้นดูออกง่ายเพียงไร "พวกตัวละครหลักถ้ารวมฉันด้วยก็สามคน...แล้วหายไปไหนคนหนึ่งล่ะ?"

    "ผมอยู่นี่ครับ..." คุโรโกะยกมือโบกตรงหน้าเด็กสาว และผลที่ได้คือ...

    "กริ๊ด!!!!!" เด็กสาวเล่นร้องลั่นหอประชุมเล่นเอาทุกคนตกใจกันไปหมด โดยที่ทุกคนก็มองอย่างงงๆ ว่าเด็กสาวเป็นอะไรไป ส่วนพวกทางที่มาจากห้องคุโรโกะที่เจอแบบนี้เป็นกิจวัตร (?) ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ

    "มาตอนไหนเนี่ย!?!" เด็กสาวว๊ากใส่เด็กหนุ่มผมฟ้าที่เกือบทำให้เธอหัวใจวายตายเมื่อครู่

    "ผมมาอยู่ตรงนี้พร้อมฟุริฮาตะคุงกับคางามิคุงนั้นแหละครับ" คุโรโกะตอบอย่างเคยชินกับปฏิกิริยาที่ได้รับ

    "...คราวหลังช่วยส่งเสียงบอกก่อนก็ดีนะ" เด็กสาวรู้สึกเหมือนตัวเองอายุสั้นลงหลายปีเลยเชียวละ "ใครแสดงเป็นอะไรบ้างล่ะ? จะได้หาชุดถูก..."

    "นายพรานครับ..." คุโรโกะตอบ

    "นายไปเล่นบทนั้นจะมีใครเห็นไหมเนี่ย?" เด็กสาวหัวหน้าห้องบ่น...ก็เมื่อกี้ขนาดอยู่ตรงหน้าเลยยังไม่เห็น แล้วบนเวทีจะเหลือไหมเนี่ย?

    "นั้นแหละครับที่ผมกำลังกลุ้ม..." คุโรโกะตอบกลับ...หรือเขาจะลองให้คิเสะคุงสอนดีเนี่ย?

    "เรื่องนั้นค่อยคิดอีกทีแล้วกัน...แล้วนายล่ะ?" คุณหัวหน้าห้องปัดเรื่องของคุโรโกะทิ้งไปก่อน และหันมาถามคางามิแทน

    "หมาป่า" คางามิตอบอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดี...ทำไมเขาต้องจับได้ฉลากเจ้ากรรมนี้ด้วย!!! เขาอยากไปเล่นบาสมากกว่ามาทำอะไรอย่างนี้!!!

    "ฉันเล่นเป็นคุณยาย...ถ้างั้นนายก็..." เด็กสาวเหล่มองเด็กหนุ่มคนสุดท้ายที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้...

    "อืม...ก็เหลือแค่บทเดียว..." ฟุริฮาตะอยากจะร้องไห้ซะเดี๋ยวนี้เลย

    "นายจับอีท่าไหนเนี่ย?" คางามิรู้สึกว่าตนเองโชคดีขึ้นมาทันตาเห็น...ก็นะอย่างน้อยบทหมาป่าก็เป็นบทผู้ชายล่ะนะ

    "พูดอย่างกับฉันอยากได้บทนี้นักแหละ..." ฟุริฮาตะบ่นพึมพำ

    "เอาน่า" คุณเธอพยายามปลอบ ซึ่งฟุริฮาตะเกือบจะคล้อยตามแล้ว ถ้าไม่ติดประโยคถัดมา... "...ฉันว่านายใส่ขึ้นแน่ๆ ไม่ต้องห่วงเลย"

    "มันจะไปขึ้นได้ไงกันล่ะ!" ฟุริฮาตะโวยใส่หัวหน้าห้องตนเอง ที่ส่งยิ้มกว้างให้เขา...ซึ่งดูท่าทางเหมือนจะถูกใจบางอย่าง...

    ...คิดว่าห่วงที่ไหนได้ ท่าทางสนุกเสียเต็มปะดาเลยนี่หว่า!...

    "ขึ้นแน่ไม่ต้องห่วง..." เด็กสาวหัวหน้าห้องยังคงยิ้มกว้างจนฟุริฮาตะรู้สึกลางร้ายของตนเองแปลกๆ "...เพราะฉันจะเป็นคนแต่งให้เอง!"

    "ม่ายยยน้าาาาา" ฟุริฮาตะแทบจะร้องโหนหวนให้คนอื่นตกใจเล่น...ถึงรู้ว่าคุณเธอชอบจับผู้ชายแต่งหญิงก็เถอะ...แต่...เธอแต่งแต่ล่ะทีมันทำให้ฉันสะพรึงโวยยย! เล่นจับแต่งแต่ละคน...เข้ากันตายล่ะ! เซนด์ด้านความงามเธอตายด้านหรืองายยย!!!

    สุดท้ายถึงรอดจากการถูกหัวหน้าห้องตนเองเป็นคนจับแต่ง แต่ฟุริฮาตะไม่ได้รอดจากการที่ตนต้องแต่งหญิง...ก็ได้แต่ทำใจกับบทที่ตนได้รับและไปซ้อมบทของตนเองตามที่ถูกจัดให้นั้นแหละ...

    ...แล้วการซ้อมนรกของคุณเธอก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งฟุริฮาตะกล้าบอกเลยว่ามันโหดไม่น้อยไปกว่าโค้ชแห่งทีมบาสเซรินเลยทีเดียว

     

     

     

     

     

    การซ้อมทั้งบาสทั้งการแสดงละครโรงเรียนของเด็กหนุ่มทั้งสามที่ลากเลือดจนแทบกระอัดดำเนินไปจนถึงวันที่ทุกคนต้องแสดงจริง ผู้คนหลากหลายต่างเข้ามาชมจากทั้งในและนอกโรงเรียน ทำให้นักแสดงทุกคนรู้สึกประหม่ามาก...

    ชุดการแสดงของพวกทีมบาสปีหนึ่งถูกจัดเป็นการแสดงแรกของวัน...เรียกได้ว่าซวยที่สุดเลยที่ได้แสดงเป็นกลุ่มแรก...

    ฟุริฮาตะแทบจะร้องไห้ซะเดี๋ยวนั้นและได้เพียงโวยวายคนเดียวในใจ...ไหงเขาถึงซวยนักเนี่ย! ให้เวลาทำใจหน่อยไม่ได้หรือไง!!!

    แถมหลังแสดงเสร็จ...ผอ.ไม่รู้คิดอะไรบอกว่าไม่ให้เปลี่ยนชุดจนกว่าจะเลิกงานแสดง กลัวคนหนีกลับหรือไง! นี่แสดงว่าเขาต้องใส่ชุดผู้หญิงจนจบงานเลยน่ะสิ!!!

    "ฟุริ! นายแต่งเสร็จยัง!" คางามิที่ยืนรอฟุริฮาตะแต่งตัวอยู่หน้าห้องจนแทบเหน็บกินตะโกนเรียกอีกฝ่าย

    ในวันนี้คางามิใส่ชุดเสื้อเชิ้งกางเกงยีนต์สีน้ำตาลธรรมดาเพียงเพิ่มหูและหางหมาป่ามาเท่านั้นเอง...

    และที่เขามารอฟุริฮาตะเพราะเจ้าตัวขอให้อยู่เป็นเพื่อน...ทั้งที่จริงคนที่ควรอยู่น่าจะเป็นเพื่อนสนิกทั้งสองของเจ้าตัวมากกว่า ถ้าไม่ติดว่าฟุคุดะป่วยเลยมาไม่ได้กับคาวาฮาระต้องไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดจนเขากับคุโรโกะต้องอยู่เป็นเพื่อนแทน...

    "อย่าเร่งฟุริฮาตะคุงสิครับ คางามิคุง" คุโรโกะที่ยืนอยู่ข้างๆ คางามิ เอามือแทงสีข้างแสงของตนจนตัวงอ...

    ในตอนนี้คุโรโกะอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีแดง เสื้อกั๊กสีครีม กางเกงสีดำสนิกและสวมหมวกแก้ป (ที่จริงเขาเรียกอะไรไม่รู้แต่ในสายตาเรามันเหมือนหมวกแก้ป) ซึ่งเป็นชุดในสไตน์ที่กำลังติดแฟชั่นอยู่ในช่วงนี้...

    สาเหตุที่คุโรโกะโดนแต่งชุดนี้ เพราะเด็กสาวหัวหน้าห้องไปรู้เข้าว่าคุโรโกะรู้จักกับคิเสะ จึงไปขอให้คิเสะช่วยหาชุดที่เด่นๆ ให้คุโรโกะเผื่อจะมีใครมองเห็นตัวตนขึ้นมาบ้างจนได้ชุดแบบฟรีๆ และถือปืนไรเฟิลปลอมที่รู้สึกว่าหัวหน้าห้องของฟุริฮาตะไปขู่ใครจนได้มาก็ไม่รู้ไว้ในมือ...แต่ก็ยังจืดจางเหมือนเดิม = = ถึงจะพอมีคนเห็นขึ้นมาบ้างก็เถอะ...

    "เจ็บนะเฟ้ย!" คางามิแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย

    "ก็คุณอยากจะตะโกนเสียงดังทำไมล่ะครับ...มันหนวกหูนะครับ" คุโรโกะตอบกลับอย่าง...นิ่งมาก...

    "ว่าไงนะ!" คางามิคำรามในคอ และคงได้มีศึกประชันฝีปากระหว่างแสงกับเงาขึ้นถ้าเสียงเปิดประตูจากคนที่พวกเขารอไม่เรียกความสนใจเสียก่อน...

    "เอ่อ ขอโทษที่ให้รอนะ..." ฟุริฮาตะเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ "พวกนายเป็นอะไรไปเหรอ?"

    ฟุริฮาตะเริ่มที่จะรู้สึกหวั่นเมื่อเพื่อนของเขาทั้งสองที่เพื่อนทั้งสองของเขามองเขาแปลกๆ ...หรือเขาแต่งได้น่าสะพรึงมาก?

    "ฟ...ฟุริ?" คางามิถามเหมือนไม่แน่ใจว่าใช้เพื่อนตนไหม

    "อืม" ฟุริฮาตะตอบรับ...ตกลงเขาแต่งไม่ขึ้นจนดูไม่ออกกันเชียวเหรอ? "ฉันแต่งแล้วแปลกเหรอ?"

    "เอ่อ...ก็ไม่แปลกหรอก" คางามิเกาแก้มตนเองและมองคนตรงหน้าตน...

    ...แค่เกือบดูไม่ออก...แถมนายยังแต่งซะ...

    "ใช่ครับ ไม่แปลก" คุโรโกะมองคนตรงหน้าแล้วอดคิดในใจไม่ได้ว่า...

    ...คุณแต่งได้ดูน่ารักมากครับ!!!...

    เด็กหนุ่มทั้งสองมองเพื่อนตนตั้งแต่หัวจรดเท้า...

    ชุดที่ฟุริฮาตะใส่เป็นเสื้อสีขาวแขนยาว กระโปงยาวเลยเข่าสีแดงสดมีผ้ากันเปื้อนสีขาวคาดไว้ ใส่ผ้าคลุมไหล่แบบมีฮู้ดสีแดง...

    โดยรวมแล้ว...ดูดีจนดูแทบแยกไม่ออกว่าเป็นผู้ชายเลยล่ะ!

    ไม่รู้เพราะมันดันเข้ากับฟุริฮาตะเองหรือเปล่า แต่รู้เพียงมันดูน่ารักมาก ถ้าฟุริฮาตะไม่พูดทุกคนคงเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงแน่...

    "เราไปกันเถอะครับเดี๋ยวอื่นเขารอกัน..." คุโรโกะบอกพร้อมดูเวลา...อีกครึ่งชัวโมงจะถึงเวลาแสดงของพวกเขา

    "อืม ไปกันเถอะ" ฟุริฮาตะตอบพร้อมกับที่ทั้งสามเริ่มออกตัวเดินไปยังโรงยิมที่จะเป็นที่จัดการแสดงในวันนี้

    "คุโรโกะ..." คางามิเรียกเงาของตนเองเบาๆ เพื่อไม่ให้เด็กหนุ่มอีกคนได้ยิน

    "ครับ?" คุโรโกะขานรับผู้เป็นแสงของตน

    "คิดว่าฟุริมันแต่งเหมือนไปไหม?" คางามิถามถึงเพื่อนของเขาที่...แต่แล้วคือจริงๆ จนอาจมีเหตุการเหมือนกับที่พี่ชายเขาเคยเจอก็ได้ เพียงแต่รายนี้คงจะแก้สถานการณ์เหมือนรายนั้นไม่ได้เท่านั้นเอง

    "...ก็คงเหมือนฮิมุโระซังแต่งหญิงล่ะมั้งครับ" คุโรโกะตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะรายนั้นถ้าแต่งหญิงก็คงจะประมาณเดียวกันนี้แหละ แต่รายนั้นไปทางสวยส่วนเพื่อนเขาไปทางน่ารักมากกว่า

    "เล่นซะเห็นภาพเลย" คางามิพูดพร้อมภาพปรากฏในหัวอย่างชัดเจน...รู้สึกว่าเหตุกาณ์แบบที่คุโรโกะสมมุติเหมือนเคยเกิดขึ้นจริงแหะ

    "แล้วทำไมคุณถึงถามผมล่ะครับ?" คุโรโกะถามคางามิ...ถึงเขาจะคิดแบบเดียวกันก็เถอะ ว่าฟุริฮาตะแต่งเหมือนจนน่ากลัวว่าจะโดนฉุกเข้ามุมมืดชอบกล

    "เพราะดูเหมือนเห็นเหตุการณ์ที่ทัตสึยะเคยเจอลอยเข้าหัวมาแล้วล่ะ..."

    ...ถ้าปล่อยฟุริมันเดินคนเดียวมันจะถูกฉุกไหมว่ะ!?...

    ขนาดพวกในหัวมีแต่บาสยังอดคิดแบบนี้ไม่ได้...ทำไมน่ะเหรอ?...ก็เพราะ...

    "ไงน้องสาวหมวกแดง สนใจไปเที่ยวเล่นกับพี่ไหมจ๊ะ?"

    เพียงฟุริฮาตะเดินห่างจากคู่แสงและเงาของทีมบาสเซรินเล็กน้อย ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหาพร้อมกับเอามือวางบนบ่าฟุริฮาตะ...โดยที่ไม่รู้เลยว่าที่คนที่ตนจับบ่าอยู่นั้นเป็นผู้ชาย

    "เอ่อ...คือ..." ฟุริฮาตะถึงกับพูดไม่ออก...

    ...ดูยังไงเห็นเขาเป็นผู้หญิงได้เนี่ย! เขาเป็นผู้ชายนะ! แค่ดูก็น่าจะรู้นี่! (ถ้าปกติน่ะใช่ แต่ในฟิคนี้ของเราไม่มีทางหรอกฟุริเอ๋ยยยย // s) ...

    "น่านะไปด้วยกันแป๊บเดียวเองนะ สาวน้อย" ชายหนุ่มเริ่มพูดจาหว่านล้อม

    "แต่ฉัน...คือ..." ...ฉันเป็นผู้ชายโว้ย!!!...

    "โทษทีนะ...แต่นี่คนของฉัน..." คางามิเดินมาปัดมือที่วางบนบ่าฟุริฮาตะ และดึงตัวฟุริฮาตะออกห่างจากชายหนุ่ม ด้วยอารมณ์ที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนว่าเป็นอะไร รู้แค่เห็นแล้วหงุดหงิดโว้ย! "...และ - อย่า - มา - แตะ - ต้อง - เพื่อน - ฉัน!"

    "ข...ขอโทษคร้าบบบบบ T^T" ชายหนุ่มรีบเผ่นแน่บทันทีเมื่อคางามิพูดจบ เนื่งจากใบหน้าตอนที่คางามิพูดมัน...เหมือนกำลังโดนเสือจ้องฆ่าอยู่อย่างไรอย่างนั้น

    "ฟุรินายไม่เป็นไรนะ?" คางามิถามฟุริฮาตะโดยไม่สนคนที่ตนเพิ่งไล่ไปเมื่อกี้เลยสักกะติด

    "เอ่อ ฉันไม่เป็นไร...แต่เมื่อกี้นายเล่นแรงไปหรือเปล่า?" ฟุริฮาตะรู้สึกว่าเมื่อกี้เพื่อนผมสีเพลิงของตนนั้นพูดขู่ฟังดูน่ากลัวมาก

    "คนแบบนั้นถ้าไม่ทำแบบนั้นก็ไม่ไปน่ะสิ" คางามิตอบตามประสบการณ์ที่ตนเคยเจอ...ที่จริงน่าจะเรียกว่าเคยเห็นและฟังมากกว่า

    "ไปเอามาจากไหนเนี่ย?" ฟุริฮาตะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคางามิไปได้ยินวิธีการไล่แบบนี้มาจากไหน

    "ทัตสึยะน่ะ..." ...บวกกับอารมณ์ส่วนตัวนิดหน่อย

    "..." ฟุริฮาตะได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ และอดคิดไม่ได้ว่าฮิมุโระสอนอะไรให้คางามิเนี่ย... "ฉันว่าเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะโดนโวยเอา"

    "อือ ไปกันเถอะ" คางามิตอบส่งๆ ไป และเด็กหนุ่มทั้งสองก็เริ่มออกตัวเดินอีกครั้ง...พอเดินมาได้สักพักก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้...

    "คางามิ...แล้วคุโรโกะล่ะ?" ฟุริฮาตะถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นเพื่อนผู้จืดจางของพวกตนเลย

    "เอ่อ...แหะ...ลืมสนิกเลย" คางามิพูดพลางเอามืเกาหัวแกรดๆ เขาลืมคู่หูตนไปสนิกเลย

    "ผมอยู่นี้ครับ..." เสียงหนึ่งดังขึ้นระหว่างของทั้งสอง ทำให้ทั้งคู่ถึงกับสะดุ้งกับการปรากฏตัวของคนผมสีฟ้า

    "เฮ้ย! มาเมื่อไหร่เนี่ย?" คางามิถึงกับว๊ากลั่น...ถึงจะเจอแบบนี้บ่อยแต่ก็ยังกลัวนะเฟ้ย!!!

    "ตั้งแต่เริ่มออกเดินแล้วครับแต่คุณไม่เห็นเอง" คุโรโกะตอบอย่างเฉยชา "...แต่มันน่าโมโหนะครับ ที่คุณลืมผมสนิกเลยเนี่ย..."

    "เอาน่า แค่อารมณ์ไม่ดีนิดหน่อยเลยลืมแค่นั้นเอง..." คางามิพูดบ่ายเบี่ยง

    "อารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรล่ะครับ?" คุโรโกะถามกลับ

    "..." คางามินิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะตอบยังไง...ก็ขนาดเขาเองยังไม่รู้เลย!

    โดยไม่ทันรู้ตัวคางามิก็เหลือบไปมองฟุริฮาตะที่ยืนฟังบทสทนาของคู่แสงและเงาอย่างงงๆ ...ซึ่งแน่นอนทุกอย่างนั้นถูกจับจ้องโดยสายตาของคุโรโกะทั้งหมด

    "คางามิคุง..." คุโรโกะพูดด้วยท่าทางเหมือนขำปนระอา ที่จริงเขาเดาออกตั้งแต่ตอนที่มีคนเข้าหาฟุริฮาตะคุงแล้วล่ะ ว่าสาเหตุที่แสงของเขาหงุดหงิดน่ะคืออะไร "...คุณนี่ซื้อบื้อจังนะครับ"

    "เฮ้! พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงห๊า!!!" คางามิแยกเขี้ยวใส่คนตัวเล็กกว่า

    "ก็ตามนั้นนั่นแหละครับ" คุโรโกะถอยห่างจากอีกฝ่ายเล็กน้อย "...ถ้ารู้สึกตัวช้านักระวังจะเสียใจทีหลังนะครับ"

    "นายจะสื่อถึงอะไรกัน..." คางามิเลิกคิ้วมองไปยังคุโรโกะ...คำพูดนั้นมันเหมือนแทงใจดำเขาอย่างแรงซึ่งเขาไม่รู้ว่าทำไม...ถึงรู้สึกกลัวมันจะเป็นดังที่คู่หูเขาพูด...

    ...นี่ตัวเขากลัวจะเสียใจเรื่องอะไรกัน?...

    "...ตกลงนี่พวกนายพูดอะไรกันอยู่เนี่ย?" ฟุริฮาตะที่ยืนฟังอยู่นานเอ่ยถาม

    "เปล่าครับ ไม่มีอะไร...เรารีบไปกันเถอะครับ"

    ว่าแล้วคุโรโกะก็รีบพูดตัดบท ก่อนที่จับมือฟุริฮาตะแล้วเริ่มออกวิ่งอย่างเร็ว ทิ้งให้คางามิยืนเอ๋อกับคำพูดของผู้เป็นเงาคนเดียว...

    ...ที่คุโรโกะทำแบบนี้เพราะหวังให้คนความรู้สึกช้านั้นรู้สึกตัวเสียที

    "...รอด้วยเซ่!!!" คางามิรีบวิ่งตามทั้งสองไปในทันทีที่เห็นเพื่อนเขาทั้งคู่เริ่มออกห่างไป...

    ...คุโรโกะ...นายตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?...แต่ไหงเห็นแบบนี้แล้วมันหงุดหงิดฟะเนี่ย!?! นี่เขาเป็นอะไรของเขากัน!!! โอ้ย! ปวดกะบาลโว้ย!!!...

     

     

     

     

     

    "พวก - นาย - ไป - ไหน - กัน - มา!" ทันทีที่ก้าวเข้ามายังที่หลังเวที เด็กสาวหัวหน้าห้องยืนรอหน้าทะมึนใส่เด็กหนุ่มทั้งสาม

    "เวลาก็เหลือตั้งเยอะจะรีบไปทำไมเล่า..." คางามิบ่น...และผลที่ได้คือหมัดตรงพุ่งเข้าที่ท้องน้อยจากเด็กสาว

    "แล้วใจคอไม่คิดที่จะซ้อมก่อนแสดงจริงเลยหรือไงยะ!!!" เด็กสาวแยกเขี้ยวใส่คล้ายมารลงมาจุติ

    "ขอโทษทีนะครับ พอดีเจอปัญหานิดหน่อยน่ะครับ..." เสียงอันแผ่วเบาของเงาผู้จืดจางทำให้เด็กสาวถึงกับหันขวับ

    "นายมาเมื่อไหร่กัน!!!" ดังคาดเด็กสาวไม่ทันสังเกตตัวตนของคุโรโกะเลยสักนิด...ยังคงความจืดจางของตนได้ดีแท้

    ...แต่อย่างน้อยก็เห็นชัดขึ้นมาบ้างล่ะ จากที่นอกจากเด็กสาวที่แว๊ดใส่คางามิจนไม่ทันสังเกต คนอื่นก็ไม่ตกใจมากนัก...คงพอเห็นกันขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ

    "ตั้งแต่แรกแล้วครับ..." คุโรโกะตอบอย่างเคยชิน

    "...สักวันฉันได้หัวใจวายตายเพราะนายแน่ๆ " เด็กสาวบ่นอุบอิบ "...ว่าแต่ที่นายบอกว่าเจอปัญหาเนี่ย...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอ?"

    "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ...แค่คนเข้าใจผิดว่าฟุริฮาตะคุงที่แต่งหญิงเป็นผู้หญิงแค่นั้นเองครับ" คุโรโกะอธิบายตามจริง แต่ไม่อธิบายทั้งหมด

    "ใครมันตาถั่วขนาดมองฟุริเป็นผู้หญิงได้เนี่ย?" เด็กสาวบ่น...เธอไม่คิดว่ามีใครสามารถมองฟุริฮาตะเป็นผู้หญิงได้เลย แม้จะใส่ชุดผู้หญิงก็ตามเถอะ

    "แต่ผมว่าคงไม่ตาถั่วเท่าไหร่หรอก..." คุโรโกะพูดพร้อมดึงฟุริฮาตะที่หลบอยู่ด้านหลังคางามิตั้งแต่เดินเข้ามาที่หลังเวทีออกมา "...ฟุริฮาตะคุง อย่าอายสิครับ ยังไงคุณต้องไปแสดงชุดนี้อยู่แล้ว ควรทำตัวให้ชินไว้นะครับ"

    "นายก็มาแต่งแทนฉันสิ!!!" ฟุริฮาตะโวยใส่เพื่อนผมฟ้าของตนด้วยใบหน้าแดงแจ๋ด้วยความอายเมื่อถูกทุกคนจ้องมาที่ตน

    ทุกคนที่รู้ว่าฟุริฮาตะเป็นผู้ชายถึงกับอ้าปากค้าง มองเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอย่างไม่อยากเชื่อในสายตาตนเอง...

    ...แม่เจ้า! ไหงมันแต่งหญิงแล้วน่ารักขนาดนี้วะ!!!...

    "ฟ...ฟุริจริงๆ หรอก?" เด็กสาวไม่อยากเชื่อคนหน้าจืดอย่างฟุริฮาตะพอแต่งหญิงแล้วจะกลายเป็นคนน่ารักขนาดนี้ได้

    "อืม..." ฟุริฮาตะตอบสั้นๆ ก่อนที่จะไปหลบหลังคางามิเหมือนเดิม

    "...ฉันไม่แปลกใจแล้วล่ะที่หมอนี่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงน่ะ" เด็กสาวมองเพื่อนร่วมห้องของตนเองที่หลบยู่หลังคนผมสีเพลิง...แบบนี้ดูยังไงก็ไม่ต่างจากเด็กสาวขี้อายชัดๆ !...ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็คิดแบบเดียวกัน

    'ประกาศ...ขอให้ชุดการแสดงแรกเตรียมตัวขึ้นเวทีได้แล้ว...ขอย้ำ...ชุดการแสดงที่ต้องขึ้นแสดงกลุ่มแรกเตรียมขึ้นเวทีได้แล้ว...'

    เสียงประกาศของโรงเรียนดังขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้ทุกคนละความสนใจจากผู้ที่ได้รับบทแสดงนำในกลุ่มของพวกตน...

    "เดี๋ยวต้องขึ้นแสดงแล้วสินะ...ฟุริ! นายออกมาจากหลังเพื่อนนายเลยนะ! ต้องขึ้นแสดงแล้ว!" ว่าแล้วเด็กสาวก็เดินไปดึงเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลออกมา...พร้อมส่งสายตาประมาณว่า 'ถ้าไม่ตามมาดีๆ มีเจอดีแน่...' ทำให้ฟุริฮาตะต้องเดินออกมาจากหลังคางามิตามที่หีวหน้าห้องตนต้องการอย่างว่าง่าย

    ฟุริฮาตะลองชะโงกหน้าไปดูที่หน้าเวที...ผู้คนต่างมารอชมการแสดงอย่างล้นหลาม จนทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่อยากที่จะแสดงยังไงไม่รู้

    "ม...ไม่แสดงได้ไหมอ่ะ" ฟุริฮาตะเริ่มกลัวการที่จะต้องแสดงต่อหน้าผู้คนจำนวนมากที่มาชม

    "ไม่ได้ยะ!!!" เด็กสาวแยกเขี้ยวใส่ ก่อนที่จะส่งยิ้มเหี้ยมให้ "นายจะไปแสดงดีๆ หรือไปทั้งน้ำตาห๊า!?"

    "ป...ไปเองคร้าบบบบ..." ...ฮือ ไหงหัวหน้าเขาโหดจังวะเนี่ย

    "พูดง่ายดีนิ" เด็กสาวเริ่มปรับเข้าสู่โหมดปกติ "เอ้า! ทุกคนถ้าโฆษกพูดจบเมื่อไหร่ให้เริ่มแสดงทันทีเลยนะ! เข้าใจไหม!?!"

    "ครับ! / ค่ะ!"

     

     

     

     

     

    "ริโกะ...คิดว่าการแสดงปีนี้น่าแปลกดีเนอะ? ว่าไหม?" คิโยคิ เทปเปย์พูดอย่างอารมณ์ดี ตอนนี้เขากับพวกเพื่อนในชมรมมารอดูการแสดงของรุ่นน้องตนเองอย่างใจจดใจจ่อ...แต่ด้วยเหตุที่พวกเขามาช้าเลยได้ที่นั่งเกือบหลังสุดเลย

    "นั้นสิเนอะ" ริโกะตอบพร้อมหยิบขนมที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ขึ้นมากิน "...แต่ก็น่าสนุกดีเนอะ ว่าไหม? ที่ให้แสดงผสมชายหญิงมั่วกันเนี่ย..."

    "นั้นสิน้าาาา" คิโยชิตอบอย่างลั้นล้าเหมือนเคย

    "ใช่...มันจะสนุกมาก...ถ้าฉันไม่ต้องแต่งแบบนี้!" ฮิวงะโวยขึ้นมา ด้วยเหตุที่ว่าการแสดงกลุ่มเขาบอกว่าให้แต่งตัวเตรียมไว้ก่อนเลย จะได้ไม่เสียเวลาตอนหลัง...

    ...เขาจะไม่โวยเลยถ้าเขาไม่ได้แสดงเรื่องเจ้าหญิงนิทรา และเขาดันจับได้บทเจ้าหญิง ทั้งที่ที่ได้เรื่องเดียวกันอย่างริโกะได้บทเจ้าชายเนี่ย!!!

    "เห็นด้วยเลย..." อิสึกิที่ได้รับชะตากรรมไม่ต่างกันนักนั่งหน้าเหมือนปลงตกกับชุดที่ตนแต่ง...ที่ตนต้องแต่งเป็นอลิซในเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์

    "เอาน่าาาา ฮิวงะคุง ก็นายดวงซวยเองนี่นา" ริโกะพูดอย่างไม่ใส่ใจ "คิดซะว่าซวยเป็นเพื่อนฟุริฮาตะคุงแล้วกันนะ..."

    "นั้นสิน้าาาา ไม่เห็นต้องบ่นเลย นายแต่งได้ดูดีออก" คิโยชิพูดพร้อมยิ้มด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าคิดอย่างที่พูดจริงๆ

    "นายเงียบไปเลยคิโยชิ!!!" ฮิวงะโวยใส่คนหน้าเป็นด้วยใบหน้าที่เริ่มร้อนแผล่วขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

    "..." มิโตเบะโบกไม้โบกอย่างยากที่จะเข้าใจความหมาย

    "มิโตเบะบอกว่าเสียงดังกันมากไปแล้วน่ะ" โคงาเนะยังคงสามารถแปลความหมายได้ด้วยวิธีใดไม่รู้เหมือนเคย...

    "ฮิวงะ...คนเขาเริ่มมองนายกันแล้วนะ..." อิสึกิเริ่มออกปากเตือนเพื่อนตน

    และเมื่อฮิวงะเห็นว่าเป็นดังที่อิสึกิพูดจริงๆ จึงลดเสียงของตนเองลง "...เพราะนายแท้ๆ เจ้าบ้าเอ๊ย!"

    "เอ๋~ แต่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ~" คิโยชิพูดอย่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายแค่อายเท่านั้นเอง...

    "หุบปากไปซ..." ฮิวงะกำลังจะเถียงกลับ ถ้าไม่ติดเสียงอันคุ้นหูลอยมาเสียก่อน...

    "การแสดงนี้น่าสนุกดีนะครับ รุ่นพี่..." เด็กหนุ่มผมสีเหลืองผู้สวมฮู้ดและสวมแว่นกันแดดปกปิดใบหน้าเอ่ยกับเด็กหนุ่มตัวเล็กกว่าที่นั่งอยู่ข้างๆ ตน

    "อืม นั้นสินะ" เด็กหนุ่มผมดำตอบก่อนที่จะหันไปหลังที่นั่งตนเองด้วยความรู้สึกที่เหมือนถูกใครสักคนจ้อง...และก็เป็นตามที่คาด "ไง...ไม่เจอกันนานเลยนะ"

    "สวัสดีฮะ" คิเสะที่หันไปมองที่นั่งด้านหลังตามรุ่นพี่ตนก็เอ่ยทักคนที่นั่งด้านหลังตนเช่นกัน

    "คาซามัตสึซัง! คิเสะ!? มาไงเนี่ย!?!" เหล่าปีสองของทีมบาสเซรินแทบจะถามออกมาพร้อมกัน...

    "พอดีเจ้านี่บอกว่ามีคนมาบอกว่ามีการแสดงละครโรงเรียนที่เซรินเนี่ย แล้วอยากดู เลยมาอ้อนเป็นลูกหมาให้ฉันมาเป็นเพื่อนเนี่ยแหละ" คาซามัตสึตอบพร้อมชี้อย่างเจาะจงว่า 'เจ้านี่' ที่พูดถึงน่ะคือใคร

    "รุ่นพี่อ่ะ! ผมไม่ใช่ลูกหมานะครับ!" คิเสะโวยปฏิเสธ...แต่ท่าที่เกาะรุ่นพี่ตนเองนั้นคล้ายลูกหมาจริงๆ นั้นแหละ

    "นั้นสิน้าาา เหมือนโกเด้นมากกว่า" เสียงเอื่อยๆ ของใครสักคนดังขึ้น

    "จริงแฮะ เหมือนโกเด้นมากกว่า...เอ๊ะ?" คาซามัตสึเอ่ออ๋อตามเสียงที่ตนได้ยิน ก่อนเอ๊อะใจว่าเสียงเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของคนในทีมบาสเซริน คาซามัตสึก็หันไปมองยังต้นเสียง และพบกับร่างสูงอันเตะตา "มุราซากิบาระ...และฮิมุโระ?"

    "สวัสดีครับ" ฮิมุโระทักทาย

    "งายยยย คิเสะจินนนน" มุราซากิบาระทักเพื่อนตนก่อนที่จะหยิบขนมเข้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อย

    "...พวกนายก็มาเหรอเนี่ย?" อิสึกิยิ้มแห้งๆ

    ...ไหงพวกเขาถึงบังเอิญมานั่งเรียงสามแถวจากหลังสุดมาเลยเนี่ย! โชคดีไม่มีทีมอื่นมาอีกนะเนี่ย...

    "อืม ใช่ ฉันอยากดูไทกะแสดงละครน่ะ" ฮิมุโระตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับที่โฆษกขึ้นเวทีพอดี...

    "สวัสดีครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่มาชมการแสดงละครของโรงเรียนเรานะครับ! กระผมชื่อ 'โฆษก' เป็นนักเรียกแลกเปลี่ยนจากประเทศไทยครับ! วันนี้กระผมได้รับหน้าที่เป็นโฆษกในวันนี้ครับ!" โฆษกหนุ่มพูดอย่างชำนาญคาดว่าคงโดนให้ทำงานจำพวกโฆษกบ่อย...และ...คงเพราะชื่อเนี่ย...เหมาะกับงานนี้จริงๆละมั่ง?...

    "และการแสดงปีนี้ท่านผอ. ได้มีการให้นักเรียนจับฉลากบทที่แสดง ดังนั้นบ้างคนที่แสดงบทผู้หญิงอาจเป็นชายหรือหญิงก็ได้นะครับ บทผู้ชายก็อาจเป็นชายหรือหญิงได้เช่นเดียวกันแล้วแต่ดวง...

    ...การแสดงแรกของวันนี้คือเรื่องหนุ่มน้อยหมวกแดงนะครับ! แสดงโดยนำโดย...ใครไม่รู้ครับ...ใครเขียนรายชื่อให้ก็ไม่รู้ลายมือไก่เขี่ยมาก (ขอโทษที่ลายมือไก่เขี่ยยะ! // s) ...ยังไงก็ช่างเถอะ!!! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลางั้นเชิญรับชมได้เลยครับ!!!"

    เด็กหนุ่มรีบเดินลงจากเวทีทันทีพร้อมกับม่านเวทีได้เริ่มเปิดออก เผยให้เห็นฉากหลังม่านที่ถูกจัดเตรียมไว้

    "ว้าว! กลุ่มของคุโรโกจจิออกมาเป็นกลุ่มแรกเลย!" คิเสะพูดอย่างอารมณ์ดี...เพราะเนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าคุโรโกะเล่นเรื่องหนูน้อยหมวกแดง

    "เอ๋~ คุโระจินน่ะเหรอ~~" มุราซากิบาระลากเสียงยาว

    "ดีจังแฮะ ไม่ต้องรอนาน กำลังอยากรู้เลยว่าไทกะเล่นเป็นอะไร..." ฮิมุโระพูดพร้อมไปที่เวทีที่ตอนนี้นักแสดงที่แสดงเป็นชาวบ้านต่างเดินกันขวากไขว่ เพื่อหาว่าน้องชายร่วมสาบานของเขาอยู่หรือเปล่า

    "คางามิคุงไม่ได้บอกเหรอ?" ริโกะถามเด็กหนุ่มหน้าหวาน

    "ไม่บอกเลยสักนิด บอกแค่ว่าแสดงเรื่องหนูน้อยหมวกแดงน่ะ...แถมโทรไปเมื่อกี้ยังพูดเหมือนอารมณ์เสียเรื่องอะไรสักอย่างอีกแน่ะ" ฮิมุโระพูดอย่างไม่คิดอะไร

    "เห็นเมื่อเช้าก็ยังดีๆ อยู่นิ" โคงาเนะยื่นหน้าเข้ามาร่วมวงด้วย "...ว่าแต่...ฮิวงะนายคิดว่าฟุริจะรอดไหมอ่ะ?"

    "ไม่รู้สิ รู้แค่คงตื่นเวทีสุดๆ ไปเลยล่ะ" ฮิวงะตอบตามความน่าจะเป็น

    "หือ? ฟุริ? หมายถึงคนที่ประกบฉันwcน่ะนะ?" คาซามัตสึนึกถึงคนที่เหมือนชิวาว่าในตอนที่แข่งด้วยขึ้นมาทันควัน

    "อืม...นั่นแหละ" ฮิวงะตอบด้วยยิ้มแห้งๆ

    "...แบบนี้จะไปรอดไหมน่ะ" คาซามัตสึกบ่น...จากครั้งก่อนที่เคยเจอกัน เขาก็รู้ได้ในทันทีว่า...หมอนั้นขี้กลัวสุดๆ ไปเลย

    "อืมมมม คุโระจินได้แสดงกลุ่มเดียวกับฟุริจินเหรออออ" มุราซากิบาระพูดเสียงลาก...แล้วมองขนมอีกถุงที่ยังไม่ได้แกะในมือริโกะตาเป็นมัน "ริโกะจิน นั้นขนมรสใหม่นี่น่า ขอได้ไหมอ่ะ?"

    "เอ๊ะ? ได้สิ" ริโกะยื่นขนมให้เด็กโขงร่างยักษ์

    "ขอบใจน้าาาา" เด็กหนุ่มผมม่วงคว้าขนมมา และก็แกะขนมกินทันทีพร้อมกับที่เสียงเด็กหนุ่มที่เป็นคนบรรยายบทละครดังขึ้นพอ เป็นการบอกว่าการแสดงได้เริ่มขึ้นจริงๆ แล้ว

    "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่กลางป่า และเป็นหมู่บ้านที่สงบบบบมาาาาาากกกกก

    ในหมู่บ้านแห่งนี้มีเด็กสาวคนหนึ่งที่มักใส่หมวกสีแดงเป็นประจำจนผู้คนในหมู่บ้านต่างเรียกเธอว่าหนูน้อยหมวกแดง"

    พอเสียงบรรยายสิ้นสุดร่างที่สวมชุดและหมวกสีแดงที่ดูสั่นน้อยๆ ก็เดินออกมาจากหลังเวทีตามบท เรียกเสียงฮื่อฮาจากผู้ชมทั้งหลายได้เป็นอย่างดี

    "เฮ้ย! น่ารักวะ!"

    "เด็กคนนี้น่ารักสุดๆ ไปเลย!"

    "น่ารักขนาดนี้มีแฟนหรือยังเนี่ย?! ถ้ายังข้าจะจีบคนแรกเลย!!"

    "นี่นายคิดว่าคนนี้ผู้ชายหรือผู้หญิงวะ?! เห็นเขาว่าหญิงหรือชายก็มีสิทธิรับทุกบทนี้น่า?!"

    "ข้าว่าหญิงวะ! แต่ถึงเป็นผู้ชายข้าก็จะจีบวะ! เล่นน่ารักซะขนาดนี้!!!"

    "ฯลฯ" เสียงมากมายดังขึ้นพูดถึงคนบนเวทีที่ตอนนี้เริ่มที่สั่นมากกว่าเดิมแล้ว โดยมีชาวทีมบาสเซรินนั่งมองอ้าปากค้างอยู่

    "คนที่แสดงเป็นหนูน้อยหมวกแดงเนี่ยดูน่ารักจังนะครับ!" คิเสะพูดพร้อมมองไปที่เวทีอย่างไม่ละสายตา "แต่ทำไมรู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ หว่า?"

    "อืม ก็น่ารักอย่างที่นายว่านั้นแหละ...แต่ก็ดูคุ้นๆ จริงๆ แหะ" คาซามัตสึพยายามเค้นสมองตนเองออกมาว่าเคยเจอคนหน้าตาแบบนี้ที่ไหนหรือเปล่า? แต่สุดท้ายก็นึกไม่ออกว่าเคยไหม...

    "อืม ฉันคิดว่าฉันคนเดียวเสียอีกว่ารู้สึกคุ้นๆ น่ะ" ขนาดมุราซากิบาระที่ไม่เคยสนใจอย่างอื่นนอกจากขนมกับฮิมุโระ (?) ก็ยังรู้สึกแบบเดียวกัน "...แต่คนที่ดูน่ารักแบบนี้ฉันก็ไม่น่าลืมน้าาาา"

    "นั้นสินะ" ฮิมุโระส่งยิ้มให้รุ่นน้องตน ก่อนที่จะมองยังเหล่าทีมเซรินที่ดูท่าจะสติหลุดไปแล้ว "...เป็นอะไรกันไปเหรอ?"

    "ไม่อยากจะเชื่อ..." ริโกะชี้นิ้วไปที่เวทีอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง "...ทำไมแต่งออกมาได้น่ารักขนาดนี้เนี่ย!!!"

    "นั่นสิ! ไม่อยากเชื่อ!!!" ฮิวงะเซ็ดแว่นจนแทบเลนซ์หลุด แต่ภาพตรงเวทียังคงเหมือนเดิม "ดูดีกว่าริโกะอีก!!!"

    "เสียมารยาทนะ! ตาบ้า!!!" ริโกะตบหน้าคนใส่แว่นไปทีหนึ่งอย่างแรงจนแว่นแทบร้าว

    "...เอ่อ...ขอโทษที...เผลอไปหน่อย..." ฮิวงะกุ้มแก้มตนเองที่เจ็บแปล๊บๆ และตอนนี้ขึ้นรอยห้านิ้วเด่นชัด

    "ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?" อิสึกิเอามือกุมขมับตนเอง

    "ไหงแต่งได้ขึ้นขนาดนี้เนี่ย?" โคงาเนะพูดกับมิโตเบะเบาๆ ซึ่งมิโตเบะก็ส่ายหน้าเป็นการตอบว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกัน

    "ฟุริแต่งได้น่ารักดีเนอะ" คิโยชิที่สติไม่หลุดมากนักอยู่คนเดียวพูดอย่างอารมณ์ดีตามสไตร์ของตน

    "ไอ้น่ารักมันก็น่ารักอยู่...แต่นายไม่แปลกใจที่ฟุริแต่งขึ้นบ้างหรือไง!!!" ฮิวงะแทบอยากแงะสมองคนหน้าเป็นข้างๆ ออกมาดูว่าในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง

    "ตอนแรกก็แปลกใจอยู่หรอก แต่พอคิดดูแล้วขนาดฮิวงะกับอิสึกิยังแต่งได้ดูดีทำไมฟุริจะแต่งได้ดูดีบ้างไม่ได้ล่ะ" คิโยชิอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผล

    "...ถึงนายจะชมแบบนี้ฉันก็ไม่ดีใจหรอกนะ" อิสึกิเริ่มรู้สึกปลงกับตัวเอง...อุตสาห์ลืมเรื่องที่เขาโดนแต่งหญิงเหมือนกันไปได้แล้วเชียว!!!

    "...ฉันอยากต่อยปากนายจริงๆ ให้ตายเถอะ!" ฮิวงะก็รู้สึกไม่ต่างจากอิสึกิสักเท่าไหร่นัก

    "อ้าว? ไหงงั้นล่ะ? ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?" คิโยชิถามกลับอย่างซื่อๆ

    "เงียบไปเลย!" ฮิวงะตอกกลับอย่างไม่อยากให้อีกฝ่ายถามอะไรแล้ว

    "เอ่อ ขอแทรกหน่อยนะ..." คาซามัตสึพูดแทรกบทสนทนาของเหล่าทีมบาสเซริน "...เมื่อกี้พวกนายบอกว่าใครแสดงเป็นหนูน้อยหมวกแดงนะ?"

    "ก็...ฟุริไง..." คิโยชิตอบอย่างไม่คิดอะไร

    "ฟุริ...หมายถึงฟุริฮาตะคุงใช่ไหม?" ฮิมุโระเริ่มยิ้มเจื่อนๆ อย่างไม่ค่อยอยากเชื่อในสิ่งที่ตนคิดสักเท่าไหร่นัก

    "...ถูกเผงเลยล่ะ" อิสึกิตอบคำถามของฮิมุโระ

    "ห๊า!?" คิเสะที่เกือบถูกลืม (ใจร้ายอ่ะ! / คิเสะ) ร้องออกมาอย่างตกใจ "จริงเหรอฮะ?! ชิวาว่าอย่างฟุริฮาตัจจิเนี่ยนะแต่งได้ดูดีขนาดนี้!?!"

    "ว่าคนอื่นแบบนั้นมันเสียมารยาทนะเจ้าบ้า..." คาซามัตสึยกขาถีบรุ่นน้องของตนทีหนึ่ง "...แต่ก็อดคิดแบบคิเสะมันไม่ได้แหะ"

    "ไอ่อิดเอยอ่าอุอิอินอะแอ่งไอ้อูอีอนาดอี้ (ไม่คิดเลยว่าฟุริจินจะแต่งได้ดูดีขนาดนี้) " มุราซากิบาระพูดทั้งที่ยัดขนมเข้าไปเต็มปาก

    "อย่าพูดทั้งที่ขนมเต็มปากสิ อัตสึชิ" ฮิมุโระดุเหมือนดุเด็กอนุบาลอย่างไรอย่างนั้น พร้อมกับที่บทเวทีมีบทพูดขึ้นมา...ทำให้ทุกคนถูกดึงความสนใจไปที่เวทีอีกครั้ง...

    "..วันนี้คุณยายป่วยนะจ๊ะ ลูกช่วยเอาตะกล้านี้ไปให้คุณยายได้หรือเปล่าจ๊ะ?" เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ได้รับบทเป็นแม่ของหนูน้อยหมวกแดง ยิ้มแห้งๆ ขณะพูดบท เพราะรู้ดีว่าสภาพที่หญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงของตนอุบาทแค่ไหน...ตรงตามกับเพื่อนร่วมห้องตนที่แต่งเป็นหนูน้อยหมวกแดง...

    "ค...ค่ะ...ด...ได้ค...ค่ะ!" ผู้รับบทหนูน้อยหมวกแดง หรือฟุริฮาตะนั้นเอง พูดอย่างตะกุดตะกัดแสดงถึงความตื่นได้ชัด

    พอผู้ชมทั้งหลายได้ยินเสียงของฟุริฮาตะก็ประจัษก์ทันทีว่า...คนที่เล่นเป็นหนูน้อยหมวกแดงนั้น...เป็นผู้ชาย

    "เฮ้ย! เป็นผู้ชายแหะ!"

    "เจ้าหนูนั้นแต่งยังไงให้น่ารักขนาดนี้ได้วะ! ทีไอ้คนรับบทเป็นแม่เนี้ยดูไม่ได้เลยยยยยย!!!"

    "อยากเอากลับบ้าน!!!"

    "น่ารักขนาดนี้! เป็นผู้ชายตูก็จะจีบ!!!"

    "สาวดุ้นจงเจริญ!"

    "ฯลฯ" เสียงวิจาญณ์ต่างๆ นานายังคงตรงไปที่ฟุริฮาตะเช่นเดิม

    "ดูท่าฟุริจะกลายเป็นที่ชื่นชอบไปเสียแล้วแฮะ" โคงาเนะมองไปรอบๆ ที่ผู้คนที่ต่างส่งเสียงฮือฮากับรุ่นน้องของตน

    "จะว่าไปเมื่อวันก่อนโปร์ดิวเซอร์ของผมก็บอกน้าาา ว่าเดี๋ยวนี้คนนิยมชายแต่งหญิงเยอะ...วันก่อนผมก็โดนบอกให้แต่งหญิงถ่ายแบบเหมือนกัน โชคดีที่ทุกคนยังฟังคำปฏิเสธของผมอยู่..." คิเสะยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงเมื่อตอนที่ตนเกือบมีซะตาเดียวกับฟุริฮาตะ

    "...คิดว่าอย่างนายจะไม่สนใจว่าจะโดนจับแต่งยังไงซะอีก" สึจิดะที่ลืมไปซะสนิก (ไหงลืมแต่ฉันล่ะ! // สึจิดะ) ถามคิเสะ

    เนื่องจากเห็นจากนิตยาสารที่คิเสะถ่ายแบบนั้นเล่นเอาสไตท์ไหนก็ได้ไม่จำกัด คราวก่อนที่หนังสือถ่ายแบบของคิเสะออกชุดที่ใส่นั้นก็คล้ายผู้หญิงเหลือเกินเลยคิดว่าต่อให้โดนจับแต่งยังไงก็คงไม่สนใจเสียอีก

    "ผมก็อายเป็นนะครับ..." คิเสะตอบอย่างยิ้มๆ "ที่จริงก็อาจจะเป็นอย่างที่ว่าอยู่หรอกครับ...ถ้าทางนั้นไม่บอกว่าอยากให้รุ่นพี่คาซามัตสึแต่งหญิงมาถ่ายแบบกับผมด้วยล่ะก็นะ..."

    "ถ้านายตอบตกลงล่ะก็...ไม่ได้ตายดีแน่!" คาซามัตสึถีบคิเสะราวกับระบายแค้นที่ไอ้คุณโปรดิวเซอร์ที่คิดบ้าอะไรไม่รู้ที่เอาเขาไปเอี่ยวด้วย

    "โอ้ย! ผมปฏิเสธไปแล้วนะครับรุ่นพี่" คิเสะลูบตรงที่ถูกถีบอย่างรู้กเจ็บนิดๆ

    "เรื่องนั้นช่างมันเถอะ...อย่ามาพูดเรื่องนี้ให้ฉันได้ยินอีกเป็นครั้งที่สองเข้าใจไหม!!!..." คาซามัตสึที่เริ่มปรับอารมณ์ของตนเองลงมาได้บอกกับรุ่นน้องตนเอง

    "ครับ!" คิเสะตอบรับทันทีก่อนที่จะถูกถีบอีกรอบ

    "..." มิโตเบะสะกิดฮิวงะพร้อมทำท่าบ้างอย่างที่คนธรรมดาไม่มีทางเข้าใจ

    "อืม นั้นสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" ฮิวงะตอบเห็นด้วยกับสิ่งที่มิโตเบะสื่อ

    "...เอ่อ...หมอนั้นพูดว่าอะไรน่ะ?...ฉันไม่เข้าใจ..." คาซามัตสึถามขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางที่คุยกับมิโตเบะรู้เรื่องของฮิวงะ

    ...ตั้งแต่ตอนแข่งกันครั้งแรกแล้ว...ตกลงหมอนี้พูดได้หรือเปล่าฟะ!!!...

    "ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันคร้าบบ" คิเสะก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่มิโตเบะสื่อออกมาเหมือนกัน...

    "มิโตจินบอกว่า 'แบบนี้ฟุริฮาตะจะแสดงรอดจนจบหรือเปล่า? เล่นกลัวตัวสั่นซะขนาดนั้น' น่ะ" มุราซากิบาระเป็นคนตอบคำถามให้แกชาวไคโจวทั้งสอง สร้างความงุนงงให้แก่ทุกคน...

    "อัตสึชิ...นายแปลออกด้วยเหรอ?" ฮิมุโระถามอย่างคิ้วกระตุก...นี่รุ่นน้องเขาแปลออกได้ไงกันเนี่ย!?!

    "อือ ออกดิไม่งั้นจะบอกได้เหรอ" มุราซากิบาระตอบด้วยท่าทางง่วงๆ เพราะขนมหมดแล้ว "มุโระจิ้น...มีขนมไหมอ่ะ?"

    "หือ? ก็พอมีหรอก...จะเอาไหมล่ะ?" ฮิมุโระหยิบขนมออกมาจากกระเป๋าสะพายตนอย่างรู้หน้าที่...

    "เอา! ขอบใจนะมุโระจิน..." มุราซากิบาระรีบคว้าขนมอย่างกับกลัวใครแย่งอย่างนั้นแหละ

    และเสียงคำบรรยายก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้งพร้มกับฉากเวทีที่เปลี่ยนไป "หนูน้อยหมวกแดงได้เข้าลึกเข้าไปในป่าเรื่อยๆ เพื่อไปยังบ้านของคุณยายอย่างปกติ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีหมาป่าหิวโซตัวหนึ่งกำลังแอบซุ้มอยู่เพื่อหวังที่จะกด...เอ้ย! ไม่ใช่! เพื่อหวังที่จะกินหนูน้อยหมวกแดงยู่...

    หมาป่าจึงวางแผนหลอกล่อให้หนูน้อยหมวกแดงไปถึงยังบ้านคุณยายให้ช้าลง เพื่อตนจะได้ไปดักรอก่อนได้..."

    เมื่อสิ้นเสียงร่างของคนผมสีเพลิงที่มีหูหมาหางหมาติดอยู่ก็เดินออกมาจากหลังเวทีมายืนตรงหน้าของฟุริฮาตะ...

    "สวัสดี จะไปไหนเหรอ?" คางามิพูดตามบท...ถึงแม้เจ้าตัวจะตัดพูดตนเองจนเหลือแค่นี้ก็เถอะ...

    "ป...ไปบ้านค...คุณยายค...ค่ะ..." ฟุริฮาตะก็ยังอุตสาห์จำบทตนเองได้ทั้งที่ตอนนี้สั่นจนไม่รู้จะสั่นไงแล้ว

    "ฉันว่านาย เอ้ย! เธอไปเก็บดอกไม้ตรงนู่นไปเยี่ยมคุณยายด้วยดีไหม? ถือว่าเป็นของเยี่ยมไข้ไง..." คางามิพูดพร้อมส่งสายตาบอกเพื่อนตนว่า 'ฉันว่านายสงบสติอารมณ์หน่อยดีไหม?"

    "ก...ก็ดีเหมือนก...กันค่ะ" ฟุริฮาตะพูดบทก่อนที่จะส่งสายตาตอบกลับให้คางามิ 'จะพยายามแล้วกัน...'

    เมื่อจบบทพูดของฟุริฮาตะทั้งสองก็เดินกลับเข้าหลังเวทีเพื่อเปลี่ยนฉากต่อไป...

    "ที่แท้ไทกะก็เล่นเป็นหมาป่านี้เอง..." ฮิมุโระมองน้องชายตนที่เดินกลับเข้าหลังเวทีไป "...แต่รู้สึกไทกะตัดบทพูดเองชอบกล"

    "คงเพราะเจ้าตัวขี้เกียจจำมั้ง?" ฮิวงะตอบ...ทั้งที่จริงๆ เขาเดาว่าคางามิอาจจะอ่านบทออกแค่นั้นก็ได้

    "นี่...ริโกะจิน คุโระจินเป็นอะไรเหรอ? ฉันยังไม่เห็นเลย...หรือออกมาแล้วแต่ฉันไม่เห็นอ่ะ?" มุราซากิบาระถามอย่างสงสัย...ในเมื่อคางาจินกับฟุริจินออกมาแล้ว...แล้วคุโระจินหายไปไหนอ่ะ?

    "คุโรโกะคุงเล่นเป็นนายพรานน่ะ ยังไม่ได้ออกมาหรอก..." ริโกะตอบไททันม่วงที่นั่งอยู่ด้านหลังตนเอง

    "...แล้วตอนหมอนั่นออกมาจะมีใครเห็นไหมเนี่ย?" คาซามัตสึอดถามไม่ได้ เมื่อนึกถึงตอนที่เขาแข่งกันครั้งแรก...ตอนนั้นขนาดอยู่หน้าเขาเลยยังไม่เห็นด้วยซ้ำ!

    "คงจะเห็นอยู่มั้งครับ รุ่นพี่" คิเสะตอบแทนพวกทางฝ่ายเซริน "ก็ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงที่เป็นคนคุมชุดการแสดงของคุโรโกจจิมาขอให้หาชุดที่พอจะทำให้คุโรโกจจิเด่นขึ้นมาบ้างน่ะครับ...และชุดที่ให้ไปคงทำให้เด่นขึ้นนิดหน่อยน่ะครับ..."

    ...ที่จริงไม่ได้ขอหรอก...แต่รายนั้นขู่เลยต่างหาก!!! แถมยังบอกว่าถ้าไม่ช่วยจะเอาถังไส้เดือนที่เอามาด้วยครอบหัวอีก...ไม่รู้ไปเอาเรื่องที่เขากลัวไส้เดือนมาจากไหน! เขาไม่เคยบอกใครเลยนะ! รู้ได้ไงเนี่ย!...

    ขณะที่คิเสะคร่ำคราญอยู่ในใจ เวทีก็เปลี่ยนฉากเสร็จพอดี...เป็นฉากที่กั้นให้เห็นบริเวณหน้าบ้านกับในบ้านอย่างชัดเจน ตรงฉากภายในบ้านมีเด็กสาวนั่งอยู่บนเตียงที่คาดว่าคงเอามาจากห้องพยาบาลอยู่...

    "เมื่อหมาป่าหลอนให้หนูน้อยหมวกแดงเก็บดอกไม้อยู่ที่กลางป่า หมาป่าก็วิ่งไปยังบ้านคุณยาย..." เสียงบรรยายดังขึ้นพร้อมกับที่คางามิวิ่งออกมาจากหลังเวทีด้านที่กำหนดให้เป็นหน้าบ้านและยกมือแกล้งทำเป็นเคาะประตู "ก๊อกๆ"

    "เข้ามาเลยจ้า ประตูไม่ได้ล็อก" เด็กสาวพูดบทของตนเองด้วยท่าทางเหมือนป่วยจริงมาก...ช่างตีบทแตกดีจริงๆ

    "ทันทีที่ได้รับการตอบรับของคุณยายที่คิดว่าหลานสาวตนเองมาถึงแล้ว หมาป่าก็รีบบุกเข้าไปเจี๋ยน เอ้ย! กินคุณยายและแกล้งปลอมตัวเป็นคุณยายทันที" เมื่อสิ้นเสียงบรรยายคางามิก็วิ่งเข้าไปคว้าเด็กสาวไปหลังเวที ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาและขึ้นไปนอนบนเตียงแทนที่ด้วยชุดที่ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก...แค่เพิ่มหมวกคลุมผมมาเท่านั้นเอง...ซึ่งพอเห็นเท่านั้นแหละเหล่าตัวจริงทีมบาสทั้งสามทีมแทบจะหลุดหัวเราะออกมากับสภาพที่คางามิที่ใส่หมวกหัวแบบนั้นยังดีที่ปิดปากตนเองได้ทัน... "เพียงไม่นานหลังจากนั้นหนูน้อยหมวกแดงก็เดินทางมาถึงบ้านคุณยาย"

    ฟุริฮาตะเดินออกมาจากหลังเวทีด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เหมือนเคย...เด็กหนุ่มก็แกล้งทำเป็นเคาะประตูเช่นเดียวกับคางามิและพูดบทของตนเองขึ้นมา

    "ค...คุณยายน...นี่ ผม เอ้ย! ห...หนูเองนะ..." ...กระดากปากโว้ย! ไอ้คำพูดแบบผู้หญิงเนี่ย!...

    "เข้ามาเลย..." คางามิพูดสั้นๆ ตัดบทพูดตนเองเหมือนเคย

    ฟุริฮาตะพอได้ยินดังนั้นก็เดินเข้าไปหาคางิตามบท

    "ค...คุณยายท...ทำไมค...คลุมโปงบ...แบบนั้นล...ล่ะค่ะ" ฟุริฮาตะพยายามกลั่นขำอย่างยากลำบากกับไอ้หมวกคลุมผมผู้หญิงที่อยู่บนหัวคางามิ...ซึ่งมันไม่ได้เข้ากันเลยยยยยยย!

    "พอดีหนาวน่ะ..." คางามิตอบกลับพร้อมส่งสายตาว่า 'อย่าหลุดหัวเราะออกเชียวนะ ไม่งั้นเราโดนทั้งคู่แน่!'

    "ล...แล้วทำไมค...คุณยายถ...ถึงปากย...ยาวจังค...ค่ะ" ฟุริฮาตะถามกลับก่อนที่จะส่งสายตาตอบให้คางามิ 'จะพยายาม ฉันก็ไม่อยากโดนเหมือนกัน...'

    "พอดีจามมากไปหน่อย ปากยื่น"

    "แล้วท...ทำไมคุณยายฟ...ฟันแหลมจ...จังค่ะ"

    "จะได้กินนาย เอ้ย! เธอได้สะดวกไง!!!" เมื่อถึงบทนี้คางามิรีบจับฟุริฮาตะลากไปหลังเวทีทันที

    "เหวอ!" ฟุริฮาตะเผลอหลุดร้องออกมา...ที่จริงตามบทต้องกริ๊ดต่างหาก ถึงจะผิดคำแต่ก็ใช่ได้เหมือนกัน

    สักพักคางามิเดินออกมาโยนหมวกทิ้งและล้มลงบนเตียงแพละ พร้อมกับที่คุโรโกะเดินออกมาจากทางหลังเวทีทางฝั่งหน้าบ้าน

    "เมื่อหมาป่ากินหนูน้อยหมวกแดงเข้าไป นายพรานที่ได้ยินเสียงร้องของหนูน้อยหมวกแดงก็เดินไปดู...ขอบอกก่อนนะครับว่านายพรานออกมาแล้วกรุณาสังเกตดีๆ นะครับ" คนบรรยายพูดอย่างรู้ดีในความจืดจางของคุโรโกะ ตอนแรกเหล่าผู้ชมก็งงๆ ยู่แต่สักพักก็รู้สาเหตุว่าคนบรรยายมาบอกทำไม...

    "มันมาตอนไหนเนี่ย!!!"

    "ไม่ยักเห็น!"

    "เอ๋? ก็เห็นออกมาตั้งนานแล้วนี่"

    "อืม ออกมาได้สักพักแล้วล่ะ"

    "ไหงเมื่อกี้ไม่เห็นวะ!"

    "ฯลฯ"

    "ดูเหมือนคราวนี้จะมีทั้งคนที่เห็นและไม่เห็นนะ" คิโยชิพูดพร้อมมองรุ่นน้องผู้จืดจางของตน

    "ดูท่าคิเสะพอลดความจืดจางของหมอนั่นได้หน่อยนึงสินะ" คาซามัตสึรู้สึกว่ารุ่นน้องตนเลือกเก่งเหมือนกันแฮะ ที่พอทำให้คนจืดจางอย่างนั้นมีคนมองเห็นได้...แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม...

    "แต่ดูท่าผมคงไม่มีทางทำใหคุโรโกจจิเด่นกว่านี้แล้วล่ะครับ รุ่นพี่" คิเสะคิดว่าคงหมดหวังเรื่องทำให้คุโรโกะเด่นกว่านี้แล้วล่ะ

    "แค่นี้ก็โอแล้ว" คาซามัตสึพูดปลอบรุ่นน้องตน พร้อมกับที่คนบรรยายเริ่มดำเนินเนื้อเรื่องต่อพอดี

    "เอ้า! ต่อนะครับ! หลังจากนั้นเมื่อเดินมาถึงบ้านคุณยาย พอเดินเข้าไปนายพรานก็เห็นหมาป่านอนอยู่บนเตียง และได้รู้ว่าหมาป่าได้กินคุณยายกับหนูน้อยหมวกแดงไปแล้ว นายพรานจึงผ่าท้องหมาป่านำตัวคุณยายกับหนูน้อยหมวกแดงออกมา แล้วนำหินไปใส่ในท้องหมาป่าแทน..."

           คุโรโกะรีบเข็นคางามิเข้าไปหลังเวทีทั้งเตียงในทันที...โชคดีที่เชือกผูกขาเตียงไว้ทำให้คนข้างในสามารถช่วยดึงได้ด้วย ไม่งั้นไม่มีทางที่คุโรโกะจะเข็นคางามิไหวแน่นอน...

    ผ่านไปสักพักคุโรโกะกับพวกตัวประกอบก็เข็นเตียงกลับมาที่เดิม ก่อนจะเดินไปหลบหลังเวทีดั่งเดิม "หมาป่าตื่นขึ้นมาอย่างไม่สงสัยอะไร และเดินออกจากไปโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ในท้องของตนนั้นคือก้อนหิน" คางามิลุกขึ้นจากเตียงและเด็กออกประตูไปหลังเวที "เมื่อหมาป่าไปแล้วบุคคลทั้งสามที่แอบซ่อนอยู่ก็ได้ออกมา และทุกอย่างก็จบลงอย่างมีความสุข...จบ"

    เสียงปรบมือดังไปทั่วทั้งโรงยิมบ่งบอกถึงความสำเร็จในการแสดงครั้งนี้...นักแสดงทั้งหมดต่างออกมายืนบนเวที โค้งคำนับเป็นการขอบคุณในการที่รับชมการแสดงของพวกเขา...

    เด็กสาวผู้เป็นหัวหน้าห้องเดินออกมาอยู่ด้านหน้าสุด ในมือถือไมด์ลอยไว้ "ขอบคุณทุกท่านที่ชมการแสดงของเรานะค่ะ!  ถ้ามีอะไรอยากถามหรือติชมเกี่ยวกับการแสดงก็เชิญเลยค่า!"

    "คนที่แต่งเป็นหนูน้อยหมวกแดงน่ะครับ! ผมอยากถามอะไรหน่อย!" พวกผู้ชายทั้งโรงยิมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน พวกผู้หญิงที่ต่างเป็นสาววายอดแอบจิ้นทุกคนกับฟุริไม่ได้...

    "ค่าาาา ได้ค่าาา เอ้า! ฟุริ! ออกมา!" เด็กสาวยัดไมด์ใส่มือฟุริฮาตะพร้อมกับดันฟุริฮาตะออกมาแทน

    "อ...เอ่อ...มีอะไรจะถามผมเหรอครับ?" ฟุริฮาตะรู้สึกเหมือนตนเป็นกระต่ายที่โดนหมาป่าจ้องอยู่อย่างนั้นแหละ

    "เธอเป็นผู้ชายจริงดิ?" ชายร่างเล็กแถวหน้าสุดถาม

    "ค...ครับ ผู้ชายครับ..." ...แค่ดูก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ!?!

    "แล้วชื่ออะไรครับ!?!" ชายหนุ่มที่นั่งแถวหลังสุดตะโกนถาม

    "เอ่อ ฟุริฮาตะ โคกิครับ..." ...จะถามชื่อเขาทำไมเนี่ย?

    "แล้วมีแฟนหรือยังครับ?"

    "ย...ยังครับ..." ...ชักแปลกๆ แฮะ

    "...งั้นคบกับผมเถอะครับ!!!" ผู้ชายทั้งหมด (ไม่นับพวกหนุ่มบาสทั้งหลายนะจ๊ะ) ที่โสดสนิกติดทนนานต่างตะโกนออกมาพร้อมกัน

    "..." ฟุริฮาตะถึงกับพูดไม่ออก เช่นเดียวกับนักแสดงทุกคนที่ก็อ้าปากค้างเช่นเดียวกัน...

    เด็กสาวหัวหน้าห้องเดินไปคว้าไมด์จากฟุริฮาตะ "...นี่พวกคุณ...เอาจริงดิ?"

    "ก็เอาจริงน่ะสิ!!!" นี่คือเสียงตอบกลับมา...

    "งั้น..." เด็กสาวพูดเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปที่ข้างเวที "...เผ่นเลย! ฟุริ!!!"

    เด็กสาวกดสวิดต์ปิดม่านทันทีพร้อมกับบอกให้ฟุริฮาตะหนี...

    ...นี้มันไม่ตลกเลยนะ! จะให้เพื่อนเธอมาถูกไอ้บ้าที่ไหนมาจีบได้ไง!? ยิ่งบื้อๆ อยู่! ถ้าปล่อยให้โดยจีบมีหวังโดนเขาหลอนพอดี!!!...

    "มัวทำอะไรอยู่เล่า! รีบไปสิ!" เด็กสาวตะโกนใส่ฟุริฮาตะที่ยืนอึ้งอยู่ให้รู้สึกตัว

    "อ...อืม!" ฟุริฮาตะรีบวิ่งหนีตามที่หัวหน้าห้องตนบอกทันที

    เพียงไม่นานหลังจากนั้นพวกผู้ชายก็เริ่มวิ่งมาหลังเวทีเพื่อหาเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล และเมื่อไม่เจอตัวก็วิ่งตามไปทางประตูหลังที่ฟุริฮาตะใช้หนีไป

    "ไม่คิดเลยว่าหมอนั่นจะเสน่ห์แรงขนาดนี้..." เด็กสาวบ่นอย่างไม่รู้จะทำเช่นไรแล้ว โดยมีคางามิยืนมองไปทางประหลังที่ฟุริฮาตะใช้หนีอย่างยากที่จะคาดเดาความรู้สึกนึกคิดของเจ้าตัวในตอนนี้

    "คางามิ! / ไทกะ!" เสียงอันคุ้นเคยเรียกให้คางามิหันกลับไปมองยังต้นเสียง...พวกทีมบาสทั้งสามทีมต่างวิ่งเข้ามาหาคางามิทันที

    "รุ่นพี่! ทัตสึยะ!"

    "คางามิคุง! แล้วฟุริฮาตะคุงล่ะ!?!" ริโกะถามคางามิทันที

    "ฟุริหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะ...ครับ..." คางามิบอกพร้อมชี้ไปทางประตูหลัง

    "ตอนนี้คงต้องลุ้นเอาน่ะครับว่าฟุริฮาตะคุงจะหนีรอดไหม..." เสียงอันแผ่วเบาที่ดังขึ้นด้านหลังริโกะทำให้ทุกคนสะดุ้งก็ที่จะหันกลับไปมองบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง

    "นายเนี่ยชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย..." ริโกะบ่นเบาๆ "...แต่คงต้องเป็นตามคุโรโกะบอกน่ะนะ...เฮ้อ ไหงฟุริฮาตะคุงถึงได้ซวยได้ขนาดนี้นะ"

    "นั่นสินะ..." คางามิพูดขณะแอบเหลือบมองที่ประตูเป็นระยะๆ จนคุโรโกะอดไม่ได้ที่จะกระทุ้งใส่ท้องน้อยของผู้เป็นแสงของตน ด้วยความระอากับที่รู้สึกตัวในเรื่องของตนเองช้าเหลือเกิน...

    ...ถ้าคุณอย่างจะช่วย หรืออยากจะบอกอะไรกับฟุริฮาตะคุงก็รีบไปหาเลยสิครับ...เดี๋ยวถ้าถูกคนอื่นงาบไปก่อนผมไม่ช่วยปลอบหรอกนะ...

    "โอ้ย! คุโรโกะ! เจ็บนะโว้ย!!!" คางามิโวยใส่คู่หูตนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เขา

    "ผมบอกไปก่อนหน้านี้แล้วนะครับ...ว่าระวังจะเสียใจทีหลัง" คุโรโกะเริ่มขี้เกียจที่จะอ้อมค้อมแล้ว เลยคิดว่าบอกไปตรงๆ เลยดีกว่า "...คุณชอบฟุริฮาตะคุงแบบคนรักสินะครับ?"

    แค่ก!!!

    คางามิถึงกับสำลักลมหายใจตนเอง เช่นเดียวกับที่พวกคนในทีมบาสต่างมองคุโรโกะอย่างแปลกใจในสิ่งที่เจ้าตัวพูดออกมา...

    ...ก่อนที่จะเริ่มคลายความแปลกใจของตนลงเพราะเมื่อลองคิดดูแล้ว จากที่ดูบนเวทีก่อนหน้านี้ที่ฟุริฮาตะถูกเหล่าผู้ชายเหล่านั้นถาม...คางามิก็แอบแสดงความ 'หวง' ออกมาอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ นั้นแหละ...ดูท่าที่คุโรโกะพูดจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว

    "เล่นบอกอย่างนี้เดี๋ยวคางามิก็ซ็อกตายหรอก..." คิโยชิที่ยังคงยิ้มแย้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน มองรุ่นน้องผมสีเพลิงของตนที่ยืนนึ่งเป็นรูปปั้นแล้ว

    "ถ้าไม่บอกตรงๆ คางามิคุงก็ไม่รู้สึกตัวสิครับ" คุโรโกะถอนหายใจเหมือนกลุ้มในความซื่อบื้อของคนผมสีเพลิง

    "นั้นสินะ...ไทกะคงไม่มีทางรู้ตัวเองแน่" ฮิมุโระที่รู้ดีว่าความซื่อของน้องชายร่วมสาบานของตนนั้นมันขนาดไหน

    "ฉ..." คางามิเริ่มที่จะส่งเสียงออกมาได้ เรียกความสนใจจากทุกคนได้เป็นอย่างดี "...ฉันชอบฟุริเหรอ?"

    "ที่จริงคุณต้องถามตัวเองมากกว่านะครับ ไม่ใช่ถามผม" คุโรโกะเริ่มอยากแงะสมองคางามิออกมาดูจริงๆ ...

    ...อะไรจะซื่อขนาดนี้ครับ!!! ไม่สิ! อย่างคุณคงต้องเรียกงั่งแล้วล่ะ!!!...

    "เอาเป็นว่า..." ฮิมุโระรีบเข้ามาช่วยก่อนที่น้องชายจะรู้ตัวเมื่อสายไป...เขายังไม่อยากเห็นไทกะมาเสียใจทีหลังหรอกนะ "...ไทกะ นายลองตอบคำถามสักสองสามข้อของฉันดูนะ...เอาตามจริงๆ ตามความรู้สึกนายเลย"

    "อืม ได้สิ" คางามิตอบรับอย่างว่าง่าย

    "งั้นข้อแรก นายคิดว่าฟุริฮาตะคุงเป็นคนยังไง?"

    "ก็เป็นพวกใจดีไม่เลือกหน้า ซุ่มซ้าม ขี้กลัว และ...น่ารักน่ะ"

    "ข้อสอง ถ้านายเห็นคนมาจีบฟุริฮาตะคุงจะรู้สึกยังไง?"

    เมื่อได้ยินคำถามนี้คางามินึกไปถึงเหตุการณ์ตอนที่พวกเขาสามคนกำลังเดินมาที่หลังเวทีขึ้นมาทันที "รู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ น่ะ"

    "ข้อสุดท้าย...เหตุการณ์เมื่อเห็นแล้วนายรู้สึกยังไงล่ะ?"

    "...ข้อนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่รู้สึกไม่ดี แถมอยากตื้บพวกที่เข้าใกล้ฟุริอีก..." คางามิเริ่มที่จะเข้าใจตนเองแล้ว...

    ...ว่าเขาคงชอบ ไม่สิ ความรู้สึกของเขามันเกินชอบไปไกลแล้ว ถึงจะรู้สึกตั้งนานแล้วว่าเขาชอบฟุริมากกว่าคนอื่นแต่...เขาไม่คิดเลยว่านี้มันถึงขั้น 'รัก' ไปแล้ว...เขาก็เพิ่งนึกออกตรงคำถามที่ทัตสึยะถามเขาเมื่อกี้แหละ

    "แค่นี้ก็ถือว่าเป็นคำตอบแล้วล่ะ...ว่านายชอบฟุริฮาตะคุงแล้วล่ะ" ฮิมุโระส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มผมสีเพลิง

    "เอ้า! รีบไปสิ!" คาซามัตสึตบหลังคางามิทีหนึ่ง "ระวังโดนแย่งไปก่อนล่ะ ถ้าช้านักเนี่ย..."

    "ครับ!" คางามิตอบรับก่อนที่จะวิ่งไปตามหาฟุริฮาตะที่นอกโรงยิมทันที

    "คางามิจจินี่นะ...รู้สึกตัวช้าจริง..." คิเสะมองแผ่นหลังที่วิ่งจากไปของคนผมสีเพลิงอย่างอ่อนใจ...นิสัยแบบนี้คล้ายใครบางคนแฮะ

    "นั้นสินะ~ เหมือนมิเนะจินเลยยย" มุราซากิบาระรู้สึกว่าคางามินั้นบื้อมากมาย

    "เอาเถอะ...อย่างน้อยหมอนั้นก็รู้สึกตัวแล้วน่า" ฮิวงะพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดกับรุ่นน้องตนที่ดูมีปัญหาเยอะเหลือเกิน "ว่าแต่ถึงคางามิมันรู้ตัวแล้ว ฟุริจะรับรักหมอนั้นเหรอ?"

    "นั่นสินะครับ...ก็คงทำได้เพียงรอดูไปเท่านั้นแหละครับ" คุโรโกะพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงคางามิเล็กน้อย...

    ...เขาได้แต่หวังว่าคางามิคุงคงไม่เดินคอตกกลับมานะ...

     

     

     

     

     

    "พ้นแล้วสินะ?" ฟุริฮาตะพึมพำเบาๆ ก่อนจะโผล่หน้าออกมาจากพุ้มไม้เตี้ยๆ ข้างอาคารเรียน...

    "กรุณาคบกับฉันเถอะค่า!!!" เสียงของเด็กสาวดังขึ้นที่ใกล้ตัว ทำให้ฟุริฮาตะหันไปมองยังต้นเสียง...

    ...ภาพที่เห็นคือเพื่อนผมสีเพลิงของเขาที่เกาหัวแกรดๆ อย่างงงๆ เมื่อถูกเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งสารภาพรักด้วยท่าทางเขินอาย

    ฟุริฮาตะมองภาพตรงหน้าแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่าคางามิเนี่ย...ในหัวนอกจากบาสกับกินแล้วมีอย่างอื่นไหมเนี่ย? ปกติถ้าถูกบอกรักน่าจะพูดอะไรออกมาบ้างสิ...ไม่ใช่เงียบเป็นเป่าสากอย่างนี้...

    ...หรือว่ากำลังอายอยู่? อืม คงจะเป็นอย่างนั้นมั้ง ก็เล่นถูกคนน่ารักขนาดนี้มาสารภาพรักนี้นา ใครๆ ก็คงดีใจทั้งนั้นแหละ

    แต่...ทำไมเขารู้สึกแปลกๆ นะ? ทั้งที่ถ้าคางามิมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็เป็นเรื่องน่ายินดีกับเจ้าตัวแท้ๆ ทำไมเขากลับรู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลย...

    "คำตอบของคุณล่ะค่ะ?" เด็กสาวถามขึ้นเค้นคำตอบ ดึงสติของฟุริฮาตะกลับมายังที่ทั้งคู่อีกครั้ง

    "เอ่อ ฉันม...อุ๊บ!" คางามิที่กำลังจะตอบกลับอะไรบ้างอย่าง ก็ถูกเด็กสาวดึงคอให้ก้มลงมาพร้อมประทับริมฝีปากทันที

    ...พวกผู้หญิงเดี๋ยวนี้กล้าขนาดนี้เลยเหรอ? เล่นจูบก่อนที่คางามิจะตอบซะอีก...

    ฟุริฮาตะมองภาพตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ...ในใจรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกับน้ำใสๆ ที่ไหลลงมาจากดวงตา...

    "ฟุริ!!!"

    ...โดยที่ฟุริฮาตะไม่ทันประมวลผลว่าตนเองเป็นอะไรไป ขาทั้งสองข้างก็พาเขาวิ่งหนีออกจากจุดนั้นโดยไม่สนใจเสียงเรียกที่ไล่หลังมาเลย

     

     

     

     

     

    "ฟุริ!!!" คางามิเรียกชื่อเพื่อนของตนออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเพื่อนผมสีน้ำตาลของเขา...ร้องไห้อยู่...

    ...นายร้องไห้ทำไมกัน? ใครทำนายเหรอ? บอกฉันได้ไหม?...

    นี้คือสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาในหัวของคางามิ...เขาไม่ชอบเลยที่เห็นเพื่อนคนนี้ของเขาร้องไห้ มันทำให้รู้สึกแย่สุดๆ...

    แล้วจู่ๆ คางามิก็เห็นฟุริฮาตะเริ่มออกตัววิ่งไป ขาทั้งสองข้างของคางามิก็วิ่งตามฟุริฮาตะไปทันทีราวกับหนังอินเดียอย่างไรอย่างนั้น โดยทิ้งเด็กสาวที่เพิ่งขโมยจูบตนไปอย่างไม่สนใจสักนิด...

    "เดี๋ยวก่อน! ฟุริ!!!" คางามิที่ไล่ตามฟุริฮาตะนั่นไม่เข้าใจเลย...ว่าจะหนีเขาไปทำไมกัน?...

    "นายเป็นอะไรไปน่ะ!?! ฟุริ!!!" ในที่สุดคางามิก็คว้าข้อมือของฟุริฮาตะได้ และดึงตัวอีกฝ่ายเขาหาตนเอง

    "อ๊ะ!?!" ฟุริฮาตะที่ถึงดึงตัวไว้ก็ถึงกับเซไปซบหน้าอกล่ำๆ (อยากซบด้วคนนนนน // s) ของคางามิทันที

    เด็กหนุ่มในชุดสีแดงเงยหน้ามองเพื่อนของตน "คางามิ?"

    "ก็ฉันน่ะสิ" คางามิตอบอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย "แล้วนายหนีฉันทำไมเนี่ย!?"

    "เอ่อ ไม่รู้สิขามันขยับไปเอง" ฟุริฮาตะเองก็ไม่รู้ว่าตนจะหนีคางามิทำไม...

    "แล้วนาย..." คางามิลากเสียงพร้อมยกมือปาดน้ำใสที่ดวงตาของอีกฝ่ายออก "...นายร้องไห้ทำไม? มีใครทำอะไรนายเหรอ?"

    "เอ๋?" ฟุริฮาตะก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าน้ำตาของตนนั้นได้ไหลออกมา "นี่ฉัน...ร้องไห้อยู่เหรอ?"

    "ก็ใช่น่ะสิ..." ...ไหลออกมาเป็นก๊อกแตกแบบนั้นคงฟุ่นเข้าตามั้ง

    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนเพียงแต่..." ฟุริฮาตะไม่แน่ใจว่าจะบอกเพื่อนตนดีไหม? จะโดนว่าเรื่องแอบดูคนอื่นไหมเนี่ย...

    "เพียงแต่อะไรเล่าฟุริ?" คางามิรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยทั้งน้ำตา ทั้งท่าทีเหมือนไม่กล้าบอกเขาเนี้ย...เห็นแล้วหงุดหงิดโว้ย!!!

    "...เพียงแต่ฉัน...พอเห็นคางามิจ...จูบกับผู้หญิงคนนั้นแล้วจู่ๆ น้ำตามันก็ไหลเองน่ะ..." ฟุริฮาตะตอบพร้อมจะถอยห่างจากคางามิ เพราะรู้สึกพวกเขาจะอยู่ใกล้กันเกินไป แต่ดันติดที่คางามิจู่ๆ ดันเอามือข้างหนึ่งรวบเอวเขาไว้น่ะสิ! "นายจะรวบเอวฉันทำไมเนี่ย! คางามิ!?"

    "กันนายหนีไง" คางามิตอบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความพร้อมกับเผยยิ้มเจ้าเลห์ออกมา...

    ...เขาก็ไม่อยากเข้าข้างตนเองหรอกนะ แต่คำพูดของฟุริมันทำเอาเขาอดคิดไม่ได้...ว่าฟุริก็มีใจให้เขาเหมือนกัน...

    "หนงหนีอะไรเล่า! ปล่อยสิ! เดี๋ยวคนอื่นเขาคิดว่าฉันกับนายเป็นแฟนขึ้นมา...นายจะหาแฟนไม่ได้เอานะคางามิ..." ฟุริฮาตะพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกจากเอวตนแต่...ไหงมือเหนียวอย่างนี้นะ!

    "เรื่องนั้นไม่จำหรอก..." คางามิยื่นหน้าเข้าใกล้อีกฝ่ายที่หน้า "...ในเมื่อฉันชอบนาย ถ้าคนอื่นคิดว่าฉันกับนายเป็นแฟนกันก็ดีนิ"

    "ห๊า!" ฟุริฮาตะร้องออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าเริ่มร้อนพราวขึ้นมา

    คางามิมองใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงของอีกฝ่าย พร้อมฉวยโอกาสขโมยจูบอีกฝ่ายเสียเลย...ถึงจะแค่แป๊บเดียวก็เถอะ แต่นั้นก็มากพอทำให้สมองฟุริฮาตะแทบหยุดทำงานแล้วล่ะ (รู้สึกว่าเราเขียนคางามิตอนนี้เริ่มดารท์ชอบกล // s)

    "คางามิ!" ฟุริฮาตะร้องออกมาเมื่อถูกช่วงชิงจูบไปโดยไม่รู้ตัว "น...นาย..."

    "ฉันพูดจริงนะ..." คางามิยิ้มออกมาอย่างพอใจในผลงานของตนเอง "...ว่าฉันชอบนาย นายยินดีคบกับฉันไหม? คำตอบของนายคืออะไร?"

    "ค...คือฉัน..." ...ไม่กล้าตอบโว้ย!!! จู่ๆ ถูกบอกรักแบบนี้เขาจะตั้งตัวทันได้ไงเล่า!!! แต่ความจริงแล้ว...เขารู้อยู่แล้วล่ะ...ว่าเขาไม่อยากยกให้คางามิใคร เพียงแต่ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง...ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่เป็นไรสินะ? "อ...อืม"

    "พูดจริงนะ?" คางามิลองถามหยั่งเชิงว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบอย่างนี้เพราะเกรงใจเขา หรือแค่กลัวเขาเสียใจ

    "อืม" ฟุริฮาตะตอบสั่นๆ พร้อมเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแดงแจ๋

    "ไชโย!!!" คางามิยิ้มกว้างพร้อมกอดเด็กหนุ่มผู้สวมชุดแดงอย่างเต็มแรง พร้อมประทับจูบที่ริมฝีปากอีกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง...

    "อื้อ!" ฟุริฮาตะเผลอร้องออกมา ทำให้คางามิสามารถตักตวงความหวานจากในโพรงปากได้อย่างเต็มที่...มีเพียงประโยคเดียวซึ่งปรากฏในหัวคางามิ

    ...ช่างจูบที่หอมหวานเหลือเกิน...

    ผ่านไปสักพักเมื่อฟุริฮาตะใกล้ตายเพราะจูบอยู่ร่อมร่อทำให้คางามิจำต้องถอนจูบออกอย่างเสียดายน้อยๆ

    "อย่าฉวยโอกาสกันสิ!" ฟุริฮาตะที่เกือบขาดใจตายเพราะจูบเมื่อครู่โวยขึ้น

    "โทษที มันอดไม่ได้น่ะ" คางามิพูดอย่างเหมือนไม่ค่อยสำนึกเท่าไหร่นัก

    คางามิรู้สึกว่าตนโชคดีเหลือเกินที่รู้สึกตัวทันก่อนที่จะเสียอีกฝ่ายให้คนอื่นคงต้องขอบคุณคุโรโกะล่ะน่ะที่ช่วยเตือนเขา...

    ทั้งคู่เดินออกจากจุดที่ยืนอยู่เมื่อครู่โดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่าคนที่ตนขอบคุณอยู่นั้นแอบดักซุ่มดูตั้งนานแล้ว

    คุโรโกะมองเพื่อนทั้งสองที่เดินจากไปพร้อมอมยิ้มนิดๆ กับเพื่อนของตน ก่อนที่จะเห็นคนมาตามจีบฟุริฮาตะอีกแล้ว...และแน่นอนโดนคางามิไล่ไปในทันที แถมลูกถีบไปหนึ่งดอก

    ...เห็นทีต่อจากนี้ใครมาจีบฟุริฮาตะคงต้องพึงระวังจะโดนเสือขย่ำด้วยกระมั้ง...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

    แถม

     

    ฮิมุโระ // เป็นไงบ้าง?

    คุโรโกะ // จบลงด้วยดีครับ ฟุริฮาตะคุงยอมคบกับคางามิคุงแล้วครับ

    คิเสะ // คางามิจจินี่โชคดีจังน้าาาา ที่ฟุริฮาตัจจิยอมคบด้วยเนี่ย

    มุราซากิบาระ // นั้นสิน้าาาาา น่าอิจฉาจัง...มุโระจินเรามาคบกันบ้างเถอะ...

    ฮิมุโระ // แค่กๆ (สำลักน้ำลายตนเอง) พูดจริงดิ?

    มุราซากิบาระ // จริงสิ! มุโระจิน! ฉันจริงจังนะ!!!

    ฮิมุโระ // เอ่อ...เอาไว้ตอบทีหลังนะ (แล้วก็เผ่นแวบไป)

    มุราซากิบาระ // เดี๋ยวก่อน! มุโระจิน! อย่าหนีนะ!!! (วิ่งตามฮิมุโระไป)

    คุโรโกะ // ดูท่ามุราซากิบาระคุงจะเจอปัญหาซะแล้วล่ะครับ

    คิเสะ // หวังว่าฮิมุโรจจิซังจะไม่หนีหน้ามุราซากิบารัจจิไปเลยนะ

    คาซามัตสึ // ก็ไม่แน่นะ

    คิเสะ // รุ่นพี่อ่ะ! อย่าแช่งมุราซากิบารัจจิสิฮะ!

    คุโรโกะ // ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่ฮิมุโระซังเขินเลยไม่ตอบเท่านั้นแหละครับ...แต่เมื่อไหร่จะตอบรับมุราซากิบาระคุงนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

    คาซามัตสึ // ...ดูท่าคนโชคดีวันนี้มีแต่คางามิเท่านั้นแหละ

    คิเสะ // นั้นสินะครับ

     

     

    Cr.https://www.facebook.com/Chocoicz?ref=ts&fref=ts

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×