ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #53 : [AoFuri] Forest

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.92K
      57
      17 ต.ค. 57

    Title : Forest

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Aomine x Furihata

    Notes : shiko : อันดับที่โหล่ของการโหวตรอบที่สองมาแล้วจ้า!!!

    อาโอมิเนะ : ว่าใครที่โหล่ห๊า!!!

    shiko : นายไง...

    อาโอมิเนะ : พกเขาเรียกพระเอกมาตอนท้ายเฟ้ย!!!

    Shiko : จ้าๆ เอางั้นก็ได้...เอ้า! รีบไปแสดงได้แล้ว!!! (เอาเชือกมามัดอาโอมิเนะด้วยความเร็วแสง และจับโยนลงฟิค)

    อาโอมิเนะ : แว๊ด!!! บอกกันดีๆ ก็ได้!!! (โวยลั่นก่อนที่หายไปในฟิค)

    ................................................................

    Forest

     

    ...นี่ - มัน - บ้า - อะ - ไร - ฟะ!!!...

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงิน ผิวเข้มคิดอย่างหงุดหงิดเมื่อมาเจอเรื่องที่สมองของเขาเกินที่ปรับตามสถานการณ์ให้ทันอย่างนี้...

    ...เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเขาแอบหนียัยซัทสึกิที่จะลากเขาไปซ้อมมา...ที่จริงปกติเขาคงไม่หนีหรอกถ้าวันนี้ดูท่าทางยัยนั้นจะเอาจริงเสียด้วย

    ...และพอหนีมาได้ก็ไม่รู้จะไปไหนดีเลยเดินเล่นไปทั่วจนไปเจอร้านขายของเก่าแปลกๆ ที่ถ้ามิโดริมะมาเจอคงถูกใจมากแน่เข้า

    ...เขาเลยลองเดินเข้าไปดู...ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วแวะหน่อยก็ไม่เสียหาย ตอนแรกเขากะแค่เดินดูเล่นๆ แต่สายตาดันไปสะดุดกับสร้อยที่มีแหวนสีน้ำตาลอ่อนที่ทอประกายสวยงามเข้าและไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเผลอซื้อสร้อยเส้นนี้มา

    ...แต่ในเมื่อซื้อมาแล้วเขาเลยสวมสร้อยนี้เสียเลยยังไงๆ สร้อยนี้ก็เป็นแบบที่ผู้ชายใส่ได้โดยไม่ขัดตาอยู่แล้วนี่...จากนั้นเขาก็นึกได้ว่าเขาลืมกระเป๋านักเรียนไว้ที่ดาดฟ้าทั้งใบเลยนี่หว่า (กรรม - - // s) คงต้องกลับไปเอาเสียแล้วสิ ยิ่งมีหนังสือของไมจังที่เขายังไม่ได้อ่านอยู่ด้วยสิ

    ...เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาเลยกลับไปที่โรงเรียนแบบแอบเต็มที่ กันยัยซัทสึกิลากไปซ้อมและด้วยความเร่งรีบระหว่างที่เขาวิ่งขึ้นบันไดไปก็ดันก้าวพลาดพร้อมร่างทั้งร่างตกลงสู่เบื้องล่างตามแรงโน้มถ่วง และหลับตามปี๋เตรียมรับความเจ็บที่จะได้รับ

    ...จากนั้นหลังเขาก็กระแทกพื้นดังปัง! จนรู้สึกเจ็บแปล๊บไปทั้งหลังเลยแต่ไม่เจ็บมากอย่างที่คิด เขาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น...และสมองแทบหยุดทำงานทันทีเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏเข้ามาสู่สายตา

    ...ภาพป่าไม้ร่มรื่นมาแทนที่โรงเรียนของเขาที่เขาเพิ่งตกบันไดมาเมื่อครู่...ถ้าไม่ติดความเจ็บที่ยังแผ่ซานที่หลังเขาคงนึกว่านี้เป็นความฝันแน่

    ...และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาโอมิเนะ ไดกิแห่งทีมโอโทวต้องมานั่งเรียบเรียงสมองให้เข้าที่เข้าทางนั้นเอง

    "ที่นี่มันที่ไหนกันฟะ?" อาโอมิเนะลุกขึ้นพร้อมเริ่มที่จะเดินแวกวงไม้เบื้องหน้า...ก็ดีกว่านั่งเฉยๆ ให้ตัวอะไรคาบไปกินล่ะวะ

    เด็กหนุ่มผิวคล้ำค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ จนมาได้ยินเสียงบางอย่างเข้า...อาโอมิเนะรีบซ่อนตัวตามสัชาตญาณและแอบดูสิ่งที่อยู่หน้าตน...และก็ถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้ามันชัดๆ จะๆ

    ...ภาพที่ปรากฏสู่สายตาเด็กหนุ่มคือหมาป่าสองตัวกำลังล่ากวางตัวหนึ่งซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไร แต่เมื่อพอกวางตัวนั้นถูกปลิดชีพแล้วนี่สิ...ร่างของหมาป่าทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นมนุษย์! ต่างเพียงแค่ร่างนั้นมีหูและหางหมาป่าออกมาด้วยเท่านั้น แถมมีเสื้อผ้าสวมใส่พร้อมราวกับเวทย์มนต์

    ...พระเจ้า...นี้มันเรื่องบ้าอะไรกันฟะ!!!...

    อาโอมิเนะคิดอย่างตื่นตนกแต่ก็ยังคงทำตัวเงียบๆ ต่อไป จนกระทั่งหมาป่าทั้งสองได้ลากซากกวางจากไป เด็กหนุ่มถึงเริ่มออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อหนีออกจากป่าแห่งนี้ให้เร็วที่สุด แต่...ถึงจะวิ่งไปไกลเท่าใดก็ไม่เห็นท่าว่าตนจะออกจากป่าได้เลย เอสแห่งโอโทวจึงหยุดนั่งพักข้างๆ ริมลำธารแห่งหนึ่ง

    พอพักจนหายเหนื่อยแล้วอาโอมิเนะก็ลุกขึ้นหมายจะเดินหาทางออกจากป่านี้ต่อ ถ้าไม่ติดเสียงที่ลอยมาเข้าหูเสียก่อน...

    "ฮือ...คุณแม่..."

    ถึงแม้เสียงที่ได้ยินจะเบาบางนัก แต่ก็มากพอให้อาโอมิเนะเดินไปหาต้นเสียงได้...เด็กหนุ่มค่อยๆ ย่องไปเพื่อกันอันตรายที่จะมีต่อตนเอง จนมาถึงจุดต้นตอของเสียงและภาพที่เห็นทำให้อาโอมิเนะถึงกับอยากร้องด้วยความหวาดกลัวที่เกาะกุมจิตใจ เมื่อภาพที่เห็นคือ...ศพ...ใช่ ศพ เป็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งมีหูและหางกระต่ายโผล่ออกมาจากร่างกาย บริเวณศีรษะมีเลือดไหลออกมานองเป็นวงกว้าง ดวงตาที่ขุ่นขาวบ่งบอกว่าร่างนี้ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ข้างๆ กายศพหญิงสาวมีเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่น่าจะอายุคราวเดียวกับเขาบนร่างกายมีหูและหางกระต่ายออกมาเช่นเดียวกับร่างไร้วิญญาณที่นอนนิ่งกับพื้นกำลังร้องไห้และร้องเรียก 'คุณแม่' ไม่ยอมหยุด

    ห่างออกไปเล็กน้อยมีชายกนุ่มสองคนที่มีเขาและหางของแพะโผล่ออกมายืนอยู่ หนึ่งในสองคนนั้นมีไม้ซึ้งเปื้อนเลือดถืออยู่เป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่าคนที่สังหารหญิงสาวคือใคร...

    "ร้องไห้อยู่ได้! น่ารำคาญจริง!!!" ชายคนหนึ่งจิกกระชากผมของเด็กหนุ่มอย่างแรง พร้อมลากให้ออกห่างจากศพหญิงสาว

    "โอ้ย!!!" เด็กหนุ่มพยายามทั้งดิ้นทั้งถีบคนที่จิกทึ้งผมตนอยู่

    "พวกกระต่ายนี้ตายง่ายชะมัด แค่นี้ก็ตายซะแล้ว..." ชายคนที่ถือไม้นั่งยองๆ ข้างๆ ศพที่ตนเป็นผู้สังหาร "...แล้วเราเอาไงกับเจ้าเด็กนี้ดีล่ะ? จะฆ่าทิ้งเลยดีไหม? หรือว่าปล่อยให้มันโดนตัวอะไรคาบไปกินเลย?"

    "นั้นสิ...จัดการฆ่าทิ้งเลยดีไหม?..." ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าใกล้กระต่ายหนุ่มที่ยังคงดิ้นสุดฤทธิ์ "...แต่คิดอีกที...ไอ้เด็กนี้ก็ดูน่ารักดีนี่หว่า ลองทำอะไรสนุกๆ แล้วเอาไปเลี้ยงเล่นดูดีไหม?"

    "ก็ดี..." ชายหนุ่มลุกมาหาเพื่อนคนที่ตอนนี้กำลังกดกระต่ายหนุ่มลงกับพื้น "...ฉันขอก่อนนะโว้ย"

    "จ...จะทำอะไร!?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถามเสียงสั่น

    "นั้นสินะ...จะทำอะไรล่ะ..." ชายหนุ่มทั้งสองเริ่มฉีกยิ้ม และกระชากเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายเด็กหนุ่มออก

    "!!!" เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง กายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว "ไม่เอา...ไม่นะ!"

    "ร้องไปก็ไม่ม..." แพะร่างคนที่ทำตัวเป็นโจรโฉดไม่ทันที่จะพูดจบก็มีกำปั่นลอยเข้าหาจนกระเด็นไปนอนนับดาวกับพื้น บ่งบอกถึงความแรงของหมัดเมื่อครู่เป็นอย่างดีที่สุด

    "อะไรว..." แพะร่างคนอีกตัวโวยออกมาเมื่อเห็นร่างเพื่อนตนกระเด็นไป แต่ยังไม่ทันทำอะไรก็โดนถีบกลิ้งเสียแล้ว

    อาโอมิเนะยืนหอบแฮ่กกับการกระทำอันสุดระทึกอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังของตน...ถึงเขาจะไม่ได้เป็นคนที่ดีอะไรแต่เห็นไอ้สองตัวนั้นแล้วเขาก็ทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้จริงๆ

    ดวงตาสีน้ำเงินเหลือบมองกระต่ายน้อยที่นั่งตัวสั่นอย่างหวาดกลัวอยู่กับเหตุการที่เกิดขึ้นทั้งหมด เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินถอนหายใจและเอาเสื้อนอกตนคลุมร่างเด็กหนุ่มไว้ และตอนนั้นนั่นเองก็มีตัวที่ไม่น่ามาที่สุดโผล่ออกมานั้นคือ...

    ...เสือ! แถมเสือเขี้ยวดาบอีกแหน่ะ!!!

    เพียงแต่ว่าดูเหมือนเสือเขี้ยวดาบนี้จะไม่สนใจอาโอมิเนะกับกระต่ายหนุ่ม กลับสนใจร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวกับแพะสองหน่อที่บัดนี้หนีขึ้นต้นไม้ไปแล้วมากกว่าที่จะมาสนใจพวกเขา...

    ...ถึงอย่างนั้นความซวยยังคงอยู่ที่อาโอมิเนะเมื่อเสือเขี้ยวดาบนี้ไม่ได้มาตัวเดียว แต่มาเป็นฝูง!!! แถมยังจ้องแบบอยากจับกินเต็มแก่อีกต่างหาก!!!

    เท่านั้นแหละ อาโอมิเนะไม่รอช้าเตรียมใส่เกียร์เสือดำ (?) วิ่งทันทีโดยไม่ลืมเอาเด็กหนุ่มหูกระต่ายขึ้นพาดบ่าไปด้วย...

    ...นี้มันวันบ้าอะไรของเขาฟะ!!! ตกมาในที่แปลกๆ แถมยังถูกเสือไล่อีก!!! ถ้ากลับไปได้เขายอมโดนซัทสึกิบ่นสักชั่วโมงเลยเอ้า!!!...

    เอสหนุ่มแห่งโอโทววิ่งเลาะไปเลาะมาเพื่อหนีจากเสือเขี้ยวดาบอย่างเต็มที่จนมาดวงกุดเมื่อวิ่งมาถึงหน้าผาพอดี

    "บ้าเอ้ย!!!" อาโอมิเนะสบลออกมาพร้อมกับที่เสือเขี้ยวดาบทั้งหลายเริ่มล้อมพวกเขาเอาไว้

    "คุณ..." เสียงของคนบนบ่าเรียกความสนใจจากอาโอมิเนะ "...ทิ้งผมเถอะ"

    "ห๊า!!!" อาโอมิเนะเผลอร้องออกมาอย่างไม่เชื่อหู...หมอนี่บอกให้เขาทิ้งตัวเองไว้กลางวงเสือเขี้ยวดาบเนี่ยนะ!?

    "ผมจะล่อพวกนี้ไว้เอง...แล้วคุณหนีไปเถอะ..." กระต่ายหนุ่มเอ่ยย้ำ "...ผมไม่อยากเห็นใครต้องตายเพราะผมอีก"

    "บ้าสิฟะ!!!" อาโอมิเนะสบลออกมาเสียงดังจนกระต่ายหนุ่มสะดุ้ง "ถ้าฉันคิดจะทิ้งนายฉันไม่ลากนายมาด้วยหรอก!!! อีกอย่างถ้ามีคนยอมสละชีวิตเพื่อให้นายรอดนายก็ควรอยู่ต่อไปให้นานที่สุดสิฟะ!!! (โอ พูดเป็นผู้เป็นคนกับเขาได้ด้วยแฮะ...แต่ดูไม่สมเป็นอาโฮ่เลย // s , เงียบไปเลย!!! // อาโอมิเนะ) "

    ...จะให้เขาทิ้งให้คนอื่นตายโดยที่ตัวเองรอดคนเดียวนี่นะ!? ใครมันจะทำลงฟะ!!! ถ้าทำจริงๆ เขาฝันร้ายไปตลอดชาติแน่!!!...

    ขณะที่พวกเขาเถียงกันอยู่ก็มีเสือตัวหนึ่งกระโจดใส่จนอาโอมิเนะเผลอก้าวถอยหลังไปด้วยความตกใจ...ซึ่งมันเป็นหน้าผา

    ...เฮ้ย!!! จะตายไวไปไหมวะฉัน!!!...

    อาโอมิเนะรู้สึกถึงลมที่ตีมาบ่งบอกถึงความเร็วในการตกของพวกเขา เด็กหนุ่มหลับตาปี๋และกอดกระต่ายหนุ่มไว้ในอ้อมแขนและหวังว่าอย่างน้อยหมอนี่จะรอดได้สักคน...และในทันนั้นเองก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นอีกเมื่อ...

    โครม!!!

    หัวสีน้ำเงินกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจเท่ากับการที่เขายังไม่ตายทั้งที่ตนหน้าผา และเมื่อลืมตาขึ้นมาภาพที่ปรากฏในสายตาตอนนี้ก็ทำให้เขาฉงก...

    ...นี่มันโรงเรียนเขานี่หว่า!?! เป็นไปได้ไงฟะ!?! เมื่อกี้เขาตกหน้าผานี่หว่า...หรือว่าจะเป็นฝัน!?...

    "ท...ที่นี่ที่ไหน?" เสียงในอ้อมแขนทำให้อาโอมิเนะสะดุ้ง พร้อมกับมองคนในอ้อมแขนที่เป็นตัวบ่งบอกว่าเมื่อกี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง

    "เอ่อ...โรงเรียนโอโทวกาคุเอ็น" อาโอมิเนะตอบกลับโดยอัตโนมัตเพราะสมองมันตามไม่ทันเรื่องที่เกิดขึ้นอีกแล้ว

    "ล...แล้ว...เรามาอยู่นี่ได้ไงกัน?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลมองภาพไม่คุ้นตารอบๆ

    "จะไปรู้เหรอ!..." อาโอมิเนะก็เอ๋อกับเรื่องนี้ไม่ต่างกัน

    "ไดจัง!!!!!!!" เสียงดั่งฟ้าผ่าทำให้ทั้งคนผมสีน้ำเงินและคนผมสีน้ำตาลสะดุ้งพร้อมหันไปยังต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียง

    "ซวยล่ะสิ!" อาโอมิเนะที่เห็นเด็กสาวผมสีชมพูย่างสามขุมเข้ามา "นายรีบซ่อนหูของนายเร็ว! ถ้าซัทสึกิเห็นเข้าล่ะยุ่งแน่!"

    "จ...จะทำให้ทำไงล่ะ?" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถามกลับอย่างไม่รู่จะทำไงกับการซ่อนหูกระต่ายที่เด่นบนหัวของตนเอง

    "จะทำไงก็ได้! ถ้านายหดตัวเป็นกระต่ายจริงๆ ได้เลยยิ่งดี!" อาโอมิเนะพยายามบังเด็กหนุ่มเต็มที่เพื่อไม่ให้คนที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เห็นสิ่งที่ไม่ควรมีบนร่างมนุษย์เข้าให้

    "กลายเป็นกระต่ายจริงๆ? โอเค อันนั้นทำได้อยู่..." เด็กหนุ่มพูดก่อนที่ร่างจะค่อยๆ หดลงจนกลายเป็นกระต่ายขนปุยสีน้ำตาลดูน่ารักน่ากอดยิ่งนัก

    "..." อาโอมิเนะอึ้งน้อยๆ กับการที่อีกฝ่ายหดตัวเป็นกระต่ายตัวน้อยต่อหน้าต่อตา เด็กหนุ่มอุ้มกระต่ายน้อยขึ้นมาพร้อมกับที่เพื่อนผมชมพูของเขาเดินมาถึงตัวพอดี

    "หายไปไหนมา!!! ตามหาแทบแย่แน่ะรู้ไหม!!! แถมโทรไปก็ไม่รับอีกนะตาบ้า!!!" โมโมอิแว๊ดลั่นใส่เพื่อนสมัยเด็กของตน

    "ซัทสึกิ..." อาโอมิเนะพูดเสียงอ๋อยเมื่อเห็นเพื่อนสมัยเด็กของตนเดินทำหน้ายักษ์มาหา "...ใจเย็นๆ ฟังฉันอธิบายก่อน...คือฉันไม่ได้หนีซ้อมนะแค่..."

    "แค่อะไรยะ!" โมโมอิทำหน้าปานองค์ลง

    "แค่คิดหาวิธีเลี้ยงเจ้านี่น่ะ..." อาโอมิเนะลุกขึ้นยืนพร้อมอุ้มกระต่ายตัวน้อยให้ดูชัดๆ เผื่อเพื่อนเขาจะเลิกความคิดที่จะบ่นเขาน่ะนะ

    "น...น่ารักจัง!!!" โมโมอิตาวาวเมื่อเห็นเจ้าตัวปุยในมือสีเข้มของเพื่อนตน ก่อนที่เด็กสาวจะทำท่าคว้าตัวกระต่ายน้อยเสียแต่อาโอมิเนะรู้ทันจึงชูกระต่ายน้อยขึ้นสุดแขน "ไดจังอ่ะ! แค่จะขออุ้มหน่อยเอง! ไม่เห็นต้องเอาหลบเลย!"

    "อุ้มขอเธอคือฟัดแหง แถมถ้าเธอฟัดเดี๋ยวเจ้านี้ก็ตายหรอก" อาโอมิเนะตอบกลับอย่างรู้ทัน เนื่องจากรู้จักกันมานาน

    "โห...ไดจังก็!!!" โมโมอิทำแก้มป่องเมื่อถูกว่า ก่อนที่จะเป่าลมออกจากปากและมาสนใจเรื่องอีกเรื่องแทน "แล้วไดจังเอากระต่ายมาจากไหนเนี่ย?"

    "เอ่อ...เก็บได้น่ะ" อาโอมิเนะตอบก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องเพื่อกันคำถามมากกว่านี้ เพราะถ้าถามอีกเขาก็นึกเรื่องโกหกไม่ออกแล้ว "ฉันขอไปเก็บกระเป๋าที่ลืมไว้ที่ดาดฟ้าก่อน...เดี๋ยวตามไปที่ชมรมแล้วกัน"

    "ไม่ต้องเลย...จะหาเรื่องโดดล่ะสิ เดี๋ยวกระเป๋าฉันไปเอาให้เอง ส่วนไดจังนน่ะไปซ้อมเลย!" โมโมอิดันหลังอาโอมิเนะและพาไปถึงยังโรงยิม ก่อนที่จะค่อนเดินขึ้นดาดฟ้าไปเก็บกระเป๋าให้อาโอมิเนะ

    เด็กหนุ่มถอดหายใจอย่างจำยอมกับเพื่อนตน ก่อนที่จะค่อยๆ เปิดประตูโรงยิมออกและสิ่งที่มาต้อนรับคือ...

    "อาโอมิเนะ!!! แกหายไปไหนมาฟะ!!!" เสียงแปดหลอดของวากามัตสึดังสะท้อนก้องไปทั้งโรงยิม

    "พอดีมีเรื่องนิดหน่อย...ว่าแต่จะตะโกนทำไมเนี่ย!? เดี๋ยวเจ้านี้ก็ซ็อกตายหรอก..." อาโอมิเนะลูกหัวกระต่ายน้อยที่สั่นงกๆ เบาๆ

    "ห๊า!? ไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะหะ!? แต่เดี๋ยวอะไรซ็อกตายนะ!?" วากามัตสึงงกับคำของรุ่นน้องผู้กวนอวัยวะเบื้องล่างเล็กน้อย ก่อนที่จะสังเกตสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย "นายเอากระต่ายมาชมรมทำไมวะ!?"

    "หือ? กระต่ายเหรอ?" อิมาโยชิยื่นหน้าเข้ามาดูระหว่างกลางอาโอมิเนะกับวากามัตสึ "โอ๊ะ! จริงด้วยแฮะ...นายเอามาจากไหนล่ะอาโอมิเนะ?"

    "พอดีเก็บได้น่ะ..." อาโอมิเนะรู้สึกว่าแค่เขาอุ้มกระต่ายมาเนี่ยมีคนถามจัง

    "โอ...น่ารักดีด้วยแฮะ" ชูสะที่เดินตามอิมาโยชิมาเอื้อมมือไปลูบหัวกระต่ายตัวน้อยอย่างเอ็นดู

    "ไม่คิดเลยนะครับว่าอาโอมิเนะซังสนใจเลี้ยงกระต่ายด้วย...ขอโทษครับ ผมขอโทษคร้าบบบบ" ซากุไรเอ่ยออกมาก่อนที่จะขอโทษตามสเต็ปปกติ

    "นายจะเลี้ยงเหรอ?" อิมาโยชิไม่คิดว่ารุ่นน้องคนนี้จะเลี้ยงได้ยังไงไม่รู้สิ

    "อืม..." อาโอมิเนะตอบสั้นๆ ก่อนที่จะเดินไปหาโค้ชตน "...โค้ช...ฝากเจ้านี้แป๊บ เดี๋ยวเลิกซ้อมมาเอาคืน"

    "หือ? กระต่าย?" โค้ชแห่งทีมโอโทว ฮาราซาวะ คัตสึโนริงดูงงๆ กับการที่เอสของทีมยื่นเจ้าสัตว์ขนปุยมาให้

    "ก็กระต่ายสิครับ เห็นเป็นอะไรล่ะ?" อาโอมิเนะหยักไหล่ ก่อนที่จะเดินไปเปลี่ยนเพื่อฝึกซ้อมแต่ก็ไม่วายโผล่หน้าออกมาอีก "อ๋อ และหายทำหายเด็ดขาดเลยนะครับ!!! ห้ามเอาตัวอื่นมาให้ผมแทนตัวนี้ด้วย!!!"

    "เห็นฉันไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นหรือไง?" โค้ชหนุ่ม (หรือแก่ดีนะ) บ่นงึมงำขณะที่อาโอมิเนะเดินออกจากโรงยิมไป

    และหลังอาโอมิเนะไปเหล่าตัวจริงก็ต่างพากันมารุมตัวกระต่ายน้อยไว้ จนเจ้ากระต่ายอยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด แค่อยู่ๆ โผล่มาที่ไหนก็ไม่รู้ก็กลัวจะแย่แล้ว! ยังโดนพวกน่ากลัวล้อมไว้อีก ถึงคนผมน้ำเงินจะบอกเขาว่าพวกนี้ไม่เป็นอันตรายก็เถอะแต่มันก็กลัวอ่ะ!!!

    "เอ๋ กระต่ายตัวนี้สั่นใหญ่เลยแฮะ ที่อยู่กับอาโอมิเนะไม่เห็นสั่นมากขนาดนี้เลย..." อิมาโยชิมองปฏิกิริยาของเจ้าขนปุยหูยาว

    "คงกลัวเรามั้งครับ...ขอโทษครับๆ ผมขอโทษครับ!" ซากุไรก้มหัวขอโทษไปตามปกติ

    "ฉันว่าคงตื่นคนจริงๆ นั้นแหละ ได้ยินมาว่ากระต่ายนั้นตื่นคนได้ง่ายมากแถมตอนอาโอมิเนะเข้ามาวากามัตสึเล่นว๊ากไปซะเต็มที่เลยนิ" ชูสะเอ่ย

    "ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าหมอนั้นจะพากระต่ายมาด้วยล่ะ!..." ...ถ้าหมอนั้นจับกุ้งมาและบอกจะเลี้ยงยังเชื่อมากกว่า!!!

    "แต่ยังไงงานนี้นายก็ผิดเต็มๆ นะ..." อิมาโยชิที่รู้สึกอยากแกล้งคนขี้โวยวายขึ้นมา เริ่มที่จะเจ้าเล่ห์ (หรือหน้าเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว) "ดีนะที่กระต่ายของอาโอมิเนไม่ซ็อกตายก่อนไม่งั้นอาโอมิเนะไล่ตื้บนายแน่"

    "ง...ง่ะ! อิมาโยชิซังก็..." วากามัตสึเริ่มทำหน้าง่อยและเริ่มมีไอดำมืดโผล่ออกมารอบๆ ด้วย

    "อย่าแกล้งวากามัตสึสิอิมาโยชิ" ซูสะเอ่ยห้ามเพื่อนตนที่ดูสนุกกับการแกล้งรุ่นน้องเต็มแก่

    "ไม่ได้แกล้งสักหน่อย แค่พูดความจริงเอง~~~" อิมาโยชิทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    "นายนี่ล่ะน้า..." ชูสะปลงกับเพื่อนคนนี้จริงๆ

    "เอาๆ เลิกเล่นและไปซ้อมกันได้แล้ว...วากามัตสึก็ไม่ต้องง่อยแล้ว กระต่ายของอาโอมิเนะก็ยังไม่ตายสักหน่อย" โค้ชแห่งโอโทวยื่นกระต่ายน้อยไปหน้าวากามัตสึเพื่อให้เห็นว่ากระต่ายน้อยยังอยู่ดีครบสามสิบสอง

    ทางกระต่ายที่เปลี่ยนร่างเป็นคนได้นั้นเมื่อเห็นคนที่ทำหน้าง่อยเพราะตน ก็ไม่รู้จะทำไงเลยเอามือ (ขาหน้า) ยกลูบหัวคนอายุมากกว่า...

    "เฮ้ๆ วากามาตสึโดนกระต่ายปลอบด้วย...ดูท่าเจ้ากระต่ายนี้ฉลาดเหมือนกันนิ" อิมาโยชิมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสนุก ขณะที่คนโดนปลอบเหวอเล็กน้อย

    "แค่บังเอิญน่า กระต่ายที่ไหนฟังคนออกกัน..." ชูสะรู้สึกว่าวันนี้เพื่อนตนขี้เล่นแปลกๆ เธอแอบเอาอะไรให้อิมาโยชิกินหรือเปล่าเนี่ยชิโกะ? (เปล่านิ ที่จริงแค่เห็นรูปร่างหน้าตาของของที่เราทำอิมาโยชิก็เผ่นแล้ว // s , ยอมรับอยู่นะว่าที่เธอทำน่ะอร่อย แต่หน้าตาไหงมันแย่นักฟะ!!! // อิมาโยชิ)

    "งั้นมาลองดูไหม?" อิมาโยชิเอากระดาษสีน้ำเงินกับขาวแผ่นวางไว้บนมือทั้งสองแล้วยื่นไว้ตรงหน้ากระต่ายน้อย "กระต่ายน้อย...กระดาษสีน้ำเงินคือแผ่นไหนเอ่ย? ถ้าเลือกอันไหนเอาขาหน้าแตะเลยนะ"

    "เล่นเป็นเด็กๆ" ชูสะส่ายหัวกับเพื่อนตน ขณะที่กระต่ายน้อยมองอิมาโยชิอย่างงงๆ ก่อนที่จะเลือกกระดาษตามที่อิมาโยชิบอกและก็ถูกด้วย

    "ถูกด้วยล่ะครับ" ซากุไรมองกระดาษที่ยื่นขามาแปะกระดาษอย่างไม่ลังเล

    "อาจบังเอิญก็ได้มั้ง..." ชูสะไม่คิดว่ากระต่ายจะฟังออกจริงๆ จึงลองให้กระต่ายน้อยทดสอบอีกหลายครั้งจนสุดท้ายต้องยอมว่ากระต่ายมันฟังภาษาคนออกจริงๆ เมื่อมันทำทุกอย่างตามคำสั่งได้หมดเลย

    "ฉลาดแบบนี้...เสียดายที่ต้องไปอยู่กับเจ้าอาโอมิเนะจังแฮะ จะสมองฟ่อตามหมอนั้นไหมเนี่ย?" วากามัตสึลูบหัวกระต่ายน้อยเบาๆ

    "เห็นด้วยอย่างยิ่ง..." ทุกคนประสานเสียงออกมาพร้อมกันจนน่าขัน

    "ถ้าขออาโอมิเนะจะให้ไหมนะ..." โค้ชหนุ่มก็ชักอยากลองเลี้ยงกระต่ายตัวนี้แล้วสิเนี่ย

     

     

     

     

     

    หลังจากที่ซ้อมบาสกันเสร็จแล้ว เรื่องชวนปวดหัวก็พุ่งเข้าหาอาโอมิเนะเมื่ออยู่ๆ โค้ชของเขาจะขอเจ้ากระต่ายกึ่งคนนี้ไปเลี้ยงเองซึ่งแน่นอนเขาให้ไปไม่ได้หรอก ถ้าเป็นกระต่ายปกติอาจจะแต่เจ้าตัวนี้คงไม่ได้จริงๆ ในเมื่อ...มันเป็นคนด้วยนี่นา

    วันนี้อาโอมิเนะไม่แวะไหนทั้งนั้นพุ่งตรงกลับบ้านทันที และเมื่อกลับถึงบ้านอาโอมิเนะก็รีบล็อกประตูบ้าน ก่อนที่จะเดินเข้าห้องรับแขกและทิ้งตัวลงนั่งแล้วค่อยวางกระต่ายน้อยลงบนโซฟา

    "กลับร่างเป็นคนได้แล้ว..." อาโอมิเนะเอ่ยกับกระต่ายน้อยที่เริ่มตัวสั่นงกๆ อีกรอบของวัน แล้วกระต่ายน้อยก็เปลี่ยนร่างเป็นเด็กหนุ่มตามที่คนเป็นเจ้าของบ้านบอก "นาย...อืม...ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวก่อนสินะ? ฉันอาโอมิเนะ ไดกิ แล้วนาย?"

    "ผ...ผมฟุริฮาตะ โคกิครับ...จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่เลยครับ..." กระต่ายหนุ่มตอบพร้อมหูลู่ลงเล็กน้อย บ่งบอกว่าแม้จะรู้สึกไว้ใจคนข้างกายแต่ก็ยังกลัวอยู่หน่อยๆ

    "เลิกสั่นได้แล้วน่า! ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก!" อาโอมิเนะเห็นทางท่าสั่นๆ ของเด็กหนุ่มข้างกายแล้วรู้สึกรำคาญชอบกล...ถึงจะรู้ว่ากระต่ายมันขี้ตื่นก็เถอะ

    ฟุริฮาตะสะดุ้งโหยงพร้อมน้ำตาคลอน้อยๆ เมื่อคนผมน้ำเงินพูดออกมาเสียงดัง "ค...ครับ จ...จะพยายาม"

    "เฮ้อ..." อาโอมิเนะถอนหายใจอย่างมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่เลิกสั่นง่ายๆ แน่...แต่อย่างน้อยหมอนี่ก็บอกว่าจะพยายามน่ะนะ "...เอาเถอะ ว่าแต่นายเป็นอะไรกันแน่? จะกระต่ายก็ไม่ใช่ มนุษย์ก็ไม่เชิงเนี่ย?"

    "เอ่อ ถ้านับจริงๆ ก็กระต่ายครับ" ฟุริฮาตะตอบโดยพยายามพูดให้เหมือนปกติที่สุด "แต่กลุ่มพวกที่อยู่ในป่านั้นส่วนใหญ่จะ...เอ่อ...จะว่าไงล่ะครับ คงคล้ายๆ พวกสัตว์เวทล่ะมั้ง?"

    "อื้ม ช่วยอธิบายมาทั้งหมดสิ...อ๋อ และไอ้ครับเนี่ยตัดออกไปก็ดีนะ...หลอน" อาโอมิเนะไม่รู้ว่าทำไมพอเจ้ากระต่ายนี่พูดสุภาพกับเขาถึงหงุดหงิดนักฟะ!

    "ครับ...เอ้ย! อื้ม เข้าใจแล้ว" ฟุริฮาตะตอบรับอย่างว่าง่าย "คือที่ๆ ผม เอ้ย! ฉันอยู่เป็นที่ๆ เรียกได้ว่าเป็นโลกคู่ขนานกับที่นี่น่ะ ที่โลกทางนั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่าพลังวิญญาณอยู่ด้วยและสัตว์ตัวไหนที่มีวิญญาณในตัวสูงหน่อยก็จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่จะไม่เหมือนมนุษย์จริงๆ ตรงที่หูกับหางนี้มันซ่อนไม่ได้น่ะ"

    "แล้วไอ้พลังวิญญาณนี้คืออะไร?" อาโอมิเนะเริ่มรู้สึกเหมือนหลุดไปในนิยายแฟนตาซีเลยแฮะ

    "อืม...จะว่าไงดีล่ะ? ถ้าทางนี้คงคล้ายๆ เรื่องเล่าพวกเนโกะมาตะ (ปีศาจแมวสองหาง) หรือพวกจิ้งจอกเก้าหางนี้แหละ" ฟุริฮาตะอธิบายแบบพยายามเข้าใจให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้

    "อ๋อ เข้าใจล่ะ...ว่าแต่นายรู้เรื่องเล่าของทางนี้ได้ไง?" อาโอมิเนะถาม...จากที่เขาคาดเดาเอง ที่เขาไปที่นั้นได้เพราะไอ้สร้อยแปลกๆ ที่เขาซื้อมาและวิธีใช้คือต้องตกจากที่สูง ซึ่งเขาไม่คิดหรอกว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีชวนหัวใจวายตายไปกลับแบบเขา

    "คุณพ่อเล่าให้ฟังน่ะ" ฟุริฮาตะตอบ นัยน์ตาฉายแววเศร้าเล็กๆ

    "พ่อนาย?" อาโอมิเนะเริ่มสังหรณ์บางอย่าง "หรือพ่อนาย...เป็นคนของทางนี้"

    "อืม ใช่" ฟุริฮาตะยืนยันในความคิดของคนผมสีน้ำเงิน "คุณพ่อเป็นคนของทางนี้และคุณพ่อมักจะเล่าเรื่องทางนี้ให้ฟังบ่อยๆ น่ะ"

    "แล้วพ่อนาย...ยังอยู่ทางนั้นสินะ?" อาโอมิเนะคิดว่าถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ตอนนี้เขาก็กลายเป็นโจรลักพาตัวไปเสียแล้ว

    "เปล่าหรอก..." ฟุริฮาตะเอ่ยออกมา "...คุณพ่อตอนที่ฉันอายุได้แปดขวบ คุณพ่อบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมคุณปู่กับคุณย่าและหลังจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย"

    "งั้นถามหน่อย..." อาโอมิเนะถอดสร้อยที่คอตนออกและยื่นให้ฟุริฮาตะดู "...พ่อนายเคยใส่สร้อยแบบนี้หรือเปล่า?"

    "เฮ้ย!" ฟุริฮาตะตะปบสร้อยในมืออาโอมิเนะมาดูใกล้ๆ ทันที "ใช่ของคุณพ่อจริงๆ ด้วย! อาโอมิเนะซัง! เอามาจากไหนกัน!?"

    "ซื้อมาจากร้านขายของเก่าน่ะ..." อาโอมิเนะตอบ "...แล้วนายแน่ใจนะ? ว่านี้ของพ่อนายน่ะ"

    "แน่ใจสิ ก็ตอนนั้นฉันแอบเอาหินไปเขียนชื่อไว้น่ะ..." ฟุริฮาตะชี้ให้ดูตรงด้านในแหวนที่เขียนไว้เป็นภาษาญี่ปุ่นตัวเล็กจนแทบมองไม่เห็นว่า 'ฟุริฮาตะ' แถมยังมีตัวอักษรที่สลักไว้ชัดเจนกว่าที่คาดว่าคนทำคงเป็นพวกช่างแกะเขียนไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า 'Furihata' ซึ่งสองอย่างนี้ถือว่ายืนยันชัดเจนเลยว่าเจ้าของสร้อยคนก่อนเป็นของใคร

    "แล้วสร้อยพ่อนายไปอยู่ที่ร้านขายของเก่าได้ไงเนี่ย?" อาโอมิเนะหยิบสร้อยจากมือฟุริฮาตะมาพินิจแหวนสีน้ำตาลเหมือนเส้นผมอีกฝ่ายอย่างสนใจนิดๆ "หรือว่าพ่อนายทำหล่นหายเลยกลับไปไม่ได้กันนะ?"

    "ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ..." สีหน้าของฟุริฮาตะบ่งบอกเลยว่าอยากให้เป็นอย่างอาโอมิเนะพูดมาก...มันดีกว่าความรู้สึกว่าตัวเขาเองถูกทิ้ง

    "อ๋าาาา! คิดไปก็ปวดหัว! หาอะไรกินดีกว่า!" อาโอมิเนะที่เริ่มเห็นบรรกาศหม่นหมองรอบๆ ตัวกระต่ายหนุ่มจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว...ยังไงเรื่องที่เขาอยากรู้ก็รู้แล้วนี่ แถมต่อให้คิดมากไปเขาก็ไม่รู้จะทำอะไรกับกระต่ายตัวนี้อยู่ดี จะส่งกลับไปเลยในใจกลับรู้สึกไปอยากส่งหมอนี่ไปอีกด้วยความสงสารหรืออะไรไม่รู้ล่ะ! ยังไงเขาคิดว่าให้หมอนี่อยู่กับเขานี้แหละดีแล้ว!!! ส่วนเรื่องจะให้อยู่นานแค่ไหนเอาไว้คิดทีหลัง!

    "เอ่อ อืม..." ฟุริฮาตะที่งงกับคนผมสีน้ำเงินเล็กน้อยเอ่ยเสียงตอบรับ

    "ว่าแต่...นายกินอะไรได้บ้างเนี่ย? หรือกินได้แต่พวกผัก?" อาโอมิเนะถามพลางที่ประตูตู้เย็นที่มีโน๊ตติดไว้ว่า 'โดนส่งไปงานต่างประเทศทั้งพ่อทั้งแม่เลย ดูแลตัวเองและบ้านให้ดีล่ะ อย่ากลายเป็นซากทั้งคนทั้งบ้านล่ะ' ...อาโอมิเนะส่ายหัวน้อยๆ ถึงจะชินกับการที่พ่อแม่เขาไปทำงานแบบนานๆ กลับทีก็เถอะ แต่คราวนี้ไปเป็นปีไม่นานไปเหรอ!!!...

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินคิดอย่างเซ็งๆ ก่อนที่จะเปิดตู้เย็นดู...ภายในตู้เต็มไปด้วยผักและเนื้อสัตว์พร้อมโน๊ตอีกแผ่นหนึ่งติดไว้ที่หน้าตู้เย็นว่า 'แม่ไม่อยู่เนี่ยหัดหาอาหารกินเองมั่ง! อย่าเอาแต่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป! ที่เปิดดูเนี่ยหัดเอาไปทำซะมั่ง! อย่าปล่อยให้เน่าคาตู้ล่ะ!!!' อาาา ช่างรู้ใจเขาจริงๆ แม่เนี่ย...

    "เท่าที่เคยลอง ฉันกินได้ทั้งเนื้อทั้งผักนะ" ฟุริฮาตะตอบ...ที่จริงตอนอยู่ในป่าแม่เขาจะจับพวกสัตว์ธรรมดาที่แปลงเป็นคนไม่ได้มากินในบางครั้ง ซึ่งมันก็อร่อยดีแต่เขาไม่ค่อยกินหรอก สงสารพวกที่ถูกล่าน่ะ

    "งั้นนายกินบะหมี่กึ่งสำเร็จได้ไหม? ฉันขี้เกียขทำกับข้าวน่ะ..." อาโอมิเนะหยิบถ้วยโฟมออกมาจากตู้กับข้าวสองถ้วย

    "อ่า ได้สิ..." ฟุริฮาตะตอบ...ถึงเขาไม่เคยกินแต่จะลองดูแล้วกัน

    สรุปสุดท้ายทั้งสองก็กินบะหมี่ถ้วยเป็นข้าวเย็น เมื่อโซดกันเสร็จอาโอมิเนะก็ลากฟุริฮาตะไปอาบน้ำ...ทุกอย่างดูปกติดีถ้าไม่ติดที่พอฟุริฮาตะโดนน้ำปุ๊บก็ดิ้นพล่านๆ จนสุดท้ายอาโอมิเนะทนกับสภาพที่เหมือนแค่วิ่งผ่านน้ำของอีกฝ่ายไม่ไหวเลยลากไปอาบน้ำขัดตัวให้เองเลย จนสุดท้ายฟุริฮาตะก็มานั่งหน้างอตรงห้องรับแขกเนี่ยแหละ

    "ฮาๆๆ ไม่ยักรู้แฮะว่ากระต่ายเป็นโรคกลัวน้ำได้ด้วย" อาโอมิเนะมองหน้างอๆ ของอีกฝ่ายอย่างขำขัน...ดูน่าแกล้งกว่าคิเสะเยอะ!

    "ไม่ได้กลัวน้ำสักหน่อย...แค่ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่..." ฟุริฮาตะพูดเสียงอ้อมแอ้ม ดูละม้ายคล้ายกับเด็กพยายามหาข้อแก้ตัว "...จะขำอีกนานไหม?"

    "ฮาๆ โทษทีๆ แต่ถ้าอยู่ที่นี่นายคงตอนอาบน้ำทุกวันอยู่ดี...ควรทำให้ชินๆ เข้าไว้นะ..." อาโอมิเนะยี้หัวสีน้ำตาลนุ่มมือของอีกฝ่ายอย่างเมามันส์

    "อย่ายี้หัวกันสิ...ว่าแต่อาโอมิเนะซังไม่คิดจะส่งฉันกลับเหรอ?" ฟุริฮาตะปัดมือที่ยี้หัวตนเบาๆ ซึ่งไม่ระคายคนเกรียมเป็นถ่าน (เฮ้ย! // อาโอมิเนะ) สักนิด

    "ไม่ เพราะฉันไม่รู้วิธี...อีกอย่างนายอยู่ก็คงไม่เป็นไรมั้ง?" ...บวกกับรู้สึกไม่อยากให้นายกลับไปในที่ที่จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้แบบนั้นด้วย

    "งั้นเหรอ?" ฟุริฮาตะก็ไม่ติดใจอะไรพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย จนอาโอมิเนะเริ่มปวดหัวขึ้นมาอย่างหนึ่งอย่างคนเพิ่งนึกได้ว่า...

    ...นี่นายจะไม่สงสัยอะไรเลยเหรอ!? ก่อนหน้านี้ยังเล่าเรื่องที่โลกคู่ขนานอะไรนั้นให้เขาฟัง! แถมยังเชื่อใจคนที่เจอกันวันแรกแบบเขาง่ายๆ อีก! หมอนี่สัณชาตญาญการเอาตัวรอดติดลบ! แบบนี้ทั้งชาติเขาก็ไม่ไว้ใจให้อยู่คนเดียวแน่!...เดี๋ยวก่อนนะ แล้วเขาจะสนใจหมอนี่ทำไมเนี่ย!? แต่ก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี ว๊ากกกก!!! นี่เขาเป็นอะไรไปเนี่ย!?!...

    "อาโอมิเนะซังเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำหน้าแปลกๆ..." ฟุริฮาตะโบกมือไปมาหน้าคนผมสีน้ำเงิน

    "เปล่า...ไม่มีอะไร...ตอนนี้ดึกแล้วไปนอนเถอะ" อาโอมิเนะตอบปัดๆ ไปก่อนที่จะอุ้มอีกฝ่ายไปนอนพร้อมกับตนที่ห้อง เพราขี้เกียจหาห้องใหม่ให้อีกฝ่ายนอน

    "ด...เดี๋ยว! อาโอมิเนะซัง! ปล่อยฉันลงนะ! ฉันเดินเองได้!!!" ฟุริฮาตะดิ้นอย่างหวาดเสียวกับการที่ขาไม่แตะพื้น

    แต่อาโอมิเนะก็ไม่สนอะไรแล้วพาฟุริฮาตะขึ้นไปทั้งอย่างนั้น และคืนนี้ทั้งสองนอนเตียงเดียวกันโดยเอาหมอนข้างกันไว้ แต่พอตกดึกเอสแห่งโอโทวก็นอนดิ้นอีกท่าไหนไม่รู้ กลายเป็นว่าอาโอมิเนะก็กอดฟุริฮานะต่างหมอนข้างซะงั้น

     

     

     

     

     

    "อาโอมิเนะซังๆ เช้าแล้วนะ! ตื่นได้แล้ว!" กนะต่ายหนุ่มเขย่าร่างที่นอนกรนคร่อกๆ อยู่บนเตียงอย่างไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาเสียที

    "อืม...ปลุกอะไรแต่เช้าเนี่ย?" อาโอมิเนะลุกขึ้นมานั่งอย่างงวยเงีย

    "วันนี้คนที่อาโอมิเนะซังเอาฉันไปฝากไว้เมื่อวานเขาบอกให้ไปรวมตัวตอนหกโมงไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้มันตีห้าครึ่งแล้วนะ..." ฟุริฮาตะเอ่ยเตือนความจำของคนผมสีน้ำเงินที่ดูท่าจะลืมเรื่องนี้ไปสนิกแล้ว

    "อ่ะ! จริงด้วยแฮะ...แต่ช่างเถอะ ไม่ต้องไปมันหรอก" อาโอมิเนะล้มตัวลงนอนอีกรอบ

    "เดี๋ยวก็โดนดุหรอก! อาโอมิเนะซัง!" ฟุริฮาตะพยายามลากคนผิวคล้ำให้ลุกขึ้น "อีกอย่างเพื่อนคนผมสีชมพูของอาโอมิเนะซังจะพังประตูบ้านเข้ามาแล้วนะ!"

    "ห๊า!?" อาโอมิเนะลุกพรวด และเปิดม่านสีน้ำเงินเข้มออกเพื่อดูด้านนอก...ซึ่งเพื่อนสมัยเด็กเขากำลังจะพังประตูบ้านเขาจริงๆ เด็กหนุ่มจึงรีบเปิดหน้าต่างออกและ... "เฮ้ย! ซัทสึกิอย่าเพิ่งพังประตูบ้านฉันนะ!!! เดี๋ยวลงไปเปิดให้!!!"

    "ไม่ต้องมาเปิดให้ก็ได้!!! แต่ไดจังต้องรีบแต่งตัวไปตามที่โค้ชนัดเลยนะ!!!" โมโมอิตะโกนตอบกลับอย่างไม่เกรงใจบ้านข้างๆ ที่กำลังนอนหลับอยู่เลย

    "เอ้อ! สักห้า...ไม่สิ สิบนาทีจะลงไป!!! อย่าพังประตูบ้านฉันเข้ามาก่อนล่ะ!!!" อาโอมิเนะตอบกลับเพื่อนตนก่อนที่จะวิ่งหายไปในห้องน้ำทันที โดยมีฟุริฮาตะส่ายหน้าอย่างขำๆ

    หกนาทีต่อมาอาโอมิเนะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังที่จะออกจากบ้านก็หันมาถามฟุริฮาตะที่คอยเก็บเสื้อผ้าที่อาโอมิเนะทิ้งไม่เป็นที่เป็นทางลงตระกร้า "นายจะไปด้วยกันไหม?"

    "เอ๋? แล้วแต่นายเถอะ..." สำหรับฟุริฮาตะแล้วยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ

    "งั้นไปด้วยกันเลย!..." อาโอมิเนะตัดสินใจดังนี้ทันที เพราะเนื่องจากกลัวฟุริฮาตะที่ไม่รู้จักพวกเทคโนโลยีเลยจะทำของในบ้านพัง ดังนั้นรอให้พอไม่ตื่นของแปลก (สำหรับฟุริฮาตะ) เสียก่อนแล้วค่อยปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ "...แปลงเป็นกระต่ายเร็วๆ ซัทสึกิเร่งแล้ว"

    "อื้ม..." แล้วฟุริฮาตะก็รีบเปลี่ยนร่างเป็นกระต่ายน้อยทันทีก่อนที่สาวเจ้าผมชมพูพังประตูเข้ามาเจอเขาในร่างมนุษย์เสียก่อน

    เมื่อฟุริฮาตะอยู่ในร่างกระต่ายเรียบร้อยแล้ว อาโอมิเนะก็อุ้มตัวกระต่ายน้อยขึ้นและเปิดประตูออกมาจังหวะที่โมโมอิกำลังยกเท้าหมายถีบประตูพอดีเด๊ะ ทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินไม่ต้องเปลี่ยนประตูบ้านใหม่

    "เธอยกเท้าเตรียมถีบเชียว! ยังไม่ถึงสิบนาทีสักหน่อย!" อาโอมิเนะผู้หวิดที่จะต้องซ่อมประตูบ้านโวยขึ้น

    "ก็มันเก้านาทีแล้วเลยเตรียมตัวไง" โมโมอิตอบก่อนที่จะจ้องสิ่งที่อยู่ในมืออีกฝ่าย "ไดจัง...จะเอาเจ้านี่ไปด้วยเหรอ?"

    "เอ้อดิ...ก็ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านนี้หว่าแถมพวกของที่ใช้เลี้ยงกระต่ายก็ยังไม่ได้ซื้อด้วย" อาโอมิเนะลูบขนกระต่ายในมือเล่น...อื้ม ขนหมอนี่นุ่มดีจริง...

    "งั้นเหรอ? แล้วตอนซ้อมจะฝากไว้กับโค้ชเหรอ?" โมโมอิมองด้วยสายตาประมาณว่า 'เอามาฝากกับฉันแทนเถอะ!'

    "แหงสิ! ถ้าฝากไว้กับเธอ ฟุริมันตายชัวท์! ยิ่งถ้าทำกับข้าวให้กินยิ่งซี้แหงแก้ง!" อาโอมิเนะมั่นใจเลยว่าถ้าฝากเพื่อนสมัยเด็กคนนี้มีหวังฟุริฮาตะได้เห็นสวรรค์แน่!

    "ไดจังอ่าาาาา" โมโมอิตีแขนอีกฝ่ายด้วยท่าทางงอนน้อยๆ

    "เอ้าๆ รีบไปกันเถอะ..." แม้จะขี้เกียจซ้อมแต่อาโอมิเนะขี้เกียจฟังเพื่อนคนนี้บ่นมากกว่า

    แล้วหนึ่งเด็กหนุ่มหนึ่งเด็กสาวและหนึ่งกระต่ายก็เดินกันมาจนถึงที่โรงยิมของโอโทวตามเวลานัดพอดีเด๊ะ...จนเหล่าคนที่มาถึงก่อนต่างแทบทำลูกบาสหลุดมือ เมื่อคนมาสายจนถึงขั้นไม่มาอย่างอาโอมิเนะมาตรงเวลา! พระเจ้า! โลกจะแตกแล้วเหรอ!? หรือหัวมันไปกระทบอะไรหรือเปล่าเนี่ย!?!

    "อาโอมิเนะซัง โมโมอิซัง อรุณสวัสดิ์ครับ...เอ๋ อาโอมิเนะซังพากระต่ายตัวนี้มาด้วยเหรอครับ?...ขอโทษครับๆๆๆๆ" ซากุไรถามขึ้นเมื่อเห็นก้อนขนสีน้ำตาลที่ผู้เป็นเอสของทีมอุ้มอยู่

    "อา...ก็ยังไม่ได้ซื้อพวกของที่ใช้เลี้ยงเลยนิ แถมไม่มีใครอยู่บ้านด้วย" อาโอมิเนะยังคงอ้างไปอย่างลื่นไหล

    "เอ๋~~ พามาด้วยแฮะ...อาโอมิเนะ~~ ฉันขอเจ้าตัวนี้ไม่ได้เหรอ?" อิมาโยชิเดินมาเกาะไหล่รุ่นน้องตน

    "ไม่ได้" อาโอมิเนะตอบอย่างไม่ต้องผ่านสมองสักนิด

    "งกอ่าาาา" อิมาโยชิถึงพูดอย่างนั้นแต่ก็ยังทำหน้าเหมือนปกติ

    "ถ้านายอยากได้กระต่ายก็ไปซื้อหรือไปเก็บมาเลี้ยงเองสิ" ชูสะส่ายหน้าน้อยๆ กับเพื่อนตน

    "แล้วเจ้านี้ชื่ออะไรเนี่ย?" วากามัตสึเดินเข้ามาหาโดยพยายามไม่ให้กระต่ายน้อยตกใจแบบเมื่อวาน

    "ฟุริฮาตะ" อาโอมิเนะตอบแต่ตรงนามสกุล แต่เว้นตรงชื่อไว้...เพราะถ้าใครนึกเรียกด้วยชื่อขึ้นมามันคงทำให้เขาหงุดหงิดนิดๆ

    "อืม...ชื่อดีนิ นึกว่านายจะตั้งชื่อพิลึกๆ เสียอีก" วากามัตสึฉกกระต่ายน้อยมาอุ้มเสียเอง และการทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแย่งกระต่ายปานเด็กก็ได้เริ่มขึ้นจนกระทั่งฮาราซาวะโค้ชแห่งโอโทวเดินเข้ามาเนี่ยแหละถึงหยุด

    "เอานี่โปรแกรมซ้อมของวันนี้...ว่าแต่นายจะเอากระต่ายมาฝากอีกแล้วสินะ?" ฮาราซาวะมองเจ้าขนฟูที่บัดนี้อยู่ในมือวากามัตสึ...เขาไม่รังเกียจที่จะดูแลกระต่ายตัวนี้สักนิ เพราะมันฟังออกว่าเขาพูดอะไรและยอมทำตามด้วย ว่าง่ายผิดกับเจ้าของเยอะ

    "ครับ...ตามนั้น และขอบอกอีกทีนะครับว่าห้ามแอบเอาตัวอื่นมาสลับกันด้วยนะครับ" อาโอมิเนะคว้ากระต่ายจากมือวากามัตสึและวางลงบนตักโค้ชตน

    "ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ไร้ความรับผิดชอบขนาดนั้น..." ฮาราซาวะกรอกตากับลูกศิษย์ตนที่ดูไม่เชื่อถือเขาเลย...ถึงเขาอยากได้เจ้าตัวนี้จริงๆก็เถอะ

    และการซ้อมก็ดำเนินไปอย่างปกติ ยกเว้นแต่โค้ชของทีมที่เห็นกระต่ายจับปากกาวาดรูปเป็นครั้งแรกในชีวิต...ถึงรูปที่วาดออกมาจะไม่สวยแต่กระต่ายทำได้ขนาดนี้ก็เก่งจนไม่รู้จะเก่งยังไงแล้ว! ฮาราซาวะก็เลยรีบถ่ายคลิปไว้เป็นที่ระลึกแถมนอกจากนี้เจ้ากระต่ายฟุริฮาตะก็ยังเอาปากกาเขียนตัวอักษรด้วยถึงจะเป็นพวกคำง่ายๆ ของเด็กๆ ก็ตามแต่พอสิ่งที่เขียนไม่ใช่คนมันอดทึ่งไม่ได้จริงๆ...ทำยังไงอาโอมิเนะจะยกเจ้าตัวนี้ให้เขานะ

           เมื่อซ้อมเสร็จทุกอย่างก็เป็นตามสเต็ปเดิมคืออาโอมิเนะถูกฮาราซาวะขอให้ยกกระต่ายน้อยให้และอาโอมิเนะก็ให้คำตอบเดิมคือไม่ และตอนที่เขาเข้าเรียนเหล่าเพื่อนในห้องเรียนก็ดูจะสนใจกับกระต่ายน้อยเหมือนกันแต่ก็ไม่มีใครคิดขอจากอาโอมิเนะ ซึ่งนั้นดีสุดๆ สำหรับอาโอมิเนะ หลังจากนั้นพอเลิกเรียนตอนเลิกซ้อมโค้ชฮาราซาวะก็มาขอกระต่ายน้อยตามเคยและอาโอมิเนะก็ปฏิเสธอีกรอบ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน กินข้าว อาบน้ำและนอน

     

     

     

     

     

    กาลเวลาหมุนวนไปเกือบสามเดือนที่ฟุริฮาตะ โคกิมาอยู่กับอาโอมิเนะ ไดกิ ชีวิตประจำวันทุกอย่างเริ่มที่จะเข้าที่ฟุริฮาตะก็รับรู้เทคโนโลยีสมัยนี้จนสามารถใช่ได้เองแล้วทำให้อาโอมิเนะสามารถปล่อยฟุริฮาตะให้อยู่บ้านคนเดียวได้และก็มีบางครั้งอาโอมิเนะจะพาฟุริฮาตะในคราบกระต่ายออกไปซ้อมหรือเดินเล่นด้วยกัน แถมฟุริฮาตะก็หายกลัวอาโอมิเนะแล้วด้วย...ถึงจะสะดุ้งอยู่บ้างก็เถอะ

    และการที่ฟุริฮาตะอยู่บ้านอาโอมิเนะทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็นกองขยะจากการกองๆ ดองๆ ของอาโอมิเนะเพราะกระต่ายหนุ่มอยู่เฉยๆ ก็รู้สึกเบื่อจนทำความสะอาดบ้านจนเอี่ยมปานแม่บ้านชั้นดีมาทำความสะอาด แถมยังดูรายการทำอาหารจนพอที่จะทำกับข้าวได้...ถึงตอนแรกๆ จะรสห่วยไปหน่อยก็เถอะ แต่พอทำติดๆ กันเกือบเดือนรสชาดก็ดีขึ้นจนถึงขั้นปกติทำให้ลงปริมาณบะหมี่ถ้วยลงได้เยอะเลย

    สรุปการที่ฟุริฮาตะมาอยู่ที่บ้านทำให้บ้านอาโอมิเนะไม่กลายเป็นซากอย่างที่แม่ของอาโอมิเนะเขียนติดฝาตู้เย็นไว้

           และมีบ่อยครั้งที่อาโอมิเนะพาฟุริฮาตะในร่างกระต่ายออกไปด้วยกัน...ส่วนใหญ่ก็พาไปสนามบาสนั้นแหละ จนกลายเป็นฟุริฮาตะสนใจบาสซะงั้นเสียแต่ไม่สามารถเล่นได้เพราะหูและหางกระต่ายของตนถ้ามีคนมาเจอมีหวังโดนไปโชว์เป็นของแปลกอย่างแน่แท้...เลยกลายเป็นว่าอาโอมิเนะพาฟุริฮาตะมาดูการแข่งบาสของตนด้วย เนื่องจากเจ้าตัวน้อยคงอยากดูบวกกับเขาอยากให้อีกฝ่ายดูเขาแข่งด้วย...

    ...วันนี้ก็เช่นกัน โรงเรียนของเขามีซ้อมแข่งกับเซย์รินซึ่งเป็นโรงเรียนที่อดีตเงาของเขาเรียนและเป็นคู่แข่งในวันนี้

    "อาโอมิเนะคุง...คุณถืออะไรมาด้วยล่ะครับ? อย่าบอกนะว่าคุณเริ่มพกลักกี้ไอเทมแบบมิโดริมะคุง?" เมื่อเหล่าที่โอโทวเดินเข้ามาในโรงยิมของเซย์ก็ทักทายตามมารยาทปกติก่อนที่จะได้ยินเสียงเอ่ยถามเรียบๆ ทำให้ทุกคนสะดุ้งก่อนที่จะหันมองยังต้นเสียง...ที่ไม่ว่าเจอกี่ครั้งก็จืดจางเหมือนเดิม

    "โถ! เท็ตสึ! อย่าทำให้ตกใจสิฟะ!!!" อาโอมิเนะแยกเขี้ยวใส่เงาของตน "และนี่ก็ไม่ใช่ลักกี้ไอเทมบ้าบอแบบมิโดริมะมันด้วย!!! นี่มันกระต่าย (ของฉัน) โวย!!!"

    "อาโอมิเนะกรุณาลดเสียงลงด้วยครับ มันดังออกไปข้างนอกแล้ว อีกอย่างดูท่าทางกระต่ายที่คุณอุ้มอยู่จะกลัวนะครับ หูลู่แล้วนะนั้น..." ช่วงพริบตาคุโรโกะก็แย่งกระต่ายน้อยมาจากอาโอมิเนะอย่างง่ายดาย "...แล้วคุณคิดยังไงถึงเลี้ยงกระต่ายครับเนี่ย? ปกติอยางคุณไม่น่าคิดจะเลี้ยงตัวอะไรได้นิครับ?"

    ...ยิ่งกับคนที่ในหัวมีแต่บาสแบบคุณด้วยแล้ว...แปลกมากเลยครับ...

    "แค่อยากเลี้ยง..." ...ที่จริงเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ เท่านั้นแหละ

    "โยว! อาโอมิเนะ! เตรียมตัวแพ้มาหรือยัง?!" คางามิเดินเข้ามาหาคู่แค้น (?) หัวน้ำเงิน ที่นิ้วเอาลูกบาสหมุนไว้ราวลูกข่าง

    "เฮอะ! มันคำพูดของทางนี้ต่างหาก! เตรียมตัวเตรียมใจแพ้ไว้เลย! ไอ้งั่งงามิ!" อาโอมิเนะโวยใส่คนผมสีเพลิงก่อนคว้ากระต่ายตัวน้อยคืนจากมืออดีตเงาของตน

    "แกนั้นแหละเตรียมใจไว้เลย!!!...ว่าแต่นายเอากระต่ายมาทำไมเนี่ย!?" คางามิมองกระต่ายน้อยน่ารักในมือสีคล้ำ...ที่ไม่เข้ากับหน้าเจ้าของเลยยยย

    "พามาดูการแข่งน่ะ...ฟุริมันชอบดู..." อาโอมิเนะตอบพร้อมกับยื่นฟุริฮาตะฝากโค้ชตนตามเคยและ...คงต้องเถียงกันเรื่องที่ฮาราซาวะจะขอกระต่ายไปเลี้ยงอีกตามเคย "...และโค้ชห้ามแอบจิ๊กกลับบ้านล่ะครับ!"

    "บอกกี่ครั้งแล้วเนี่ยว่าฉันไม่ไร้ความรับผิดชอบขนาดนั้น..." ...ถึงเขาอยากได้เจ้าตัวที่เอามาฝากนี้สุดๆ ไปเลยก็เถอะ

    "ว่าแต่กระต่ายของอาโอมิเนะน่ารักจังนะ~~ ชื่ออะไรล่ะเนี่ย?" คิโยชิเดินลั้ลลาเข้ามาลูบหัวกระต่ายน้อย

    "ฟุริฮาตะ" อาโอมิเนะตอบพร้อมกับที่เริ่มโดนไล่ให้ไปเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะเริ่มแข่งเสียที

    "ชื่อกระต่ายคุณเหมือนนามสกุลเพื่อนบ้านผมเลยนะครับ" คุโรโกะเอ่ยขึ้นลอยๆ แต่ก็เรียกความสนใจจากอาโอมิเนะและฟุริฮาตะได้เป็นอย่างดี

    "ที่ข้างบ้านนายมีคนนามสกุลนี้ด้วยเหรอ?" อาโอมิเนะไม่เห็นจะจำได้...ที่จริงพูดให้ถูกคือไม่จำต่างหากเพราะตอนไปแต่ละทีก็ไปกันทั้งทีมทำให้เขาสนใจแต่ในกลุ่มจนลืมมองรอบข้าง

    "มีครับ..." คุโรโกะตอบก่อนที่เสียงแว๊ดลั่นของริโกะเรียกให้ทุกคนไปเตรียมตัวแข่งได้แล้ว "...ถ้าอยากถามอะไรก็ถามหลังแข่งเสร็จแล้วกันครับ"

    "โอเค ตามนั้น..." อาโอมิเนะยี้หัวอดีตเงาของตนหน่อยๆ ก่อนที่จะแวบไปเปลี่ยนชุดเพื่อลงแข่งทันใด

    หลังจากแข่งเสร็จ ผลที่ได้คือ...การซ้อมแข่งในคราวนี้เซย์รินและโอโทวได้คะแนนเท่าๆ กัน ผลตัดสินเลยกลายเป็นเสมอกัน เมื่อแข่งเสร็จเหล่าทีมโอโทวก็ต่างเก็บข้าวของเพื่อกลับโรงยิมไปซ้อมต่อเว้นเพียงอาโอมิเนะที่บอแยกตัวออกมา หรือพูดอีกอย่างคือพอเอาฟุริฮาตะมาจากโค้ชตนแล้วก็แว๊บออกมาเพื่อจะมาคุยกับคุโรโกะทันทีเลย

    "คุณมีอะไรจะถามต่อกันน่ะครับ?" คุโรโกะทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่ง

    "ฉันแค่อยากรู้อะไรหน่อยน่ะ...นายช่วยบอกหน่อยไดไหมว่าบ้านนั้นมีกันกี่คน? และมีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับบ้านนั้นหรือเปล่า?" อาโอมิเนะถามแบบอ้อมๆ (เหรอ?) ขณะที่นั่งลงบนม้านั่งข้างเด็กหนุ่มผมฟ้าโดยวางกระต่ายน้อยที่มองคุโรโกะตาแป๋วไว้บนตักตน

    หูยาวๆ ของฟุริฮาตะกระดิกดิ๊กๆ อย่างตั้งใจฟังในเรื่องที่คนผมฟ้าจะเล่า...ที่ดูเหมือนอาจจะทำให้เขาเจอบิดาของตนอีกครั้งก็ได้

    "ได้ครับ ถึงผมไม่รู้ว่าคุณอยากรู้ไปทำไมแต่คงจะมีเรื่องอะไรสักอย่างอยู่สินะครับ?" คุโรโกะเอ่ยอย่างรู้ทันในความคิดของอดีตแสงของตน "ฟุริฮาตะซังที่อยู่ข้างบ้านผมเมื่อก่อนอยู่กันสามคนครับ คือโทชิซัง มิโอะซัง และโคตะซังครับทั้งสามเป็นพ่อแม่ลูกกันครับ แต่ตอนนี้เหลือแค่โคตะซังคนเดียวครับ เพราะโทชิซังกับมิโอะซังประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้วน่ะครับ ส่วนเรื่องที่ถามว่ามีข่าวลืออะไรไหมนั้นก็มีข่าวลือแปลกๆ ที่ว่าโคตะซังเคยไปยังโลกคู่ขนานครับ"

    ...โลกคู่ขนาน? เริ่มมีแววว่าเกี่ยวกับฟุริมันจริงๆ แฮะ แล้วคนที่ชื่อโคตะนั้นอาจจะเป็นพ่อของฟุริมันที่ว่าหายไปก็ได้...

    อาโอมิเนะคิดพลางลูบขนกระต่ายน้อยไปพลางๆ

    "ผมเคยได้ฟังตอนเด็กน่ะครับ จำรายละเอียดยิบย่อยไม่ค่อยได้นักหรอกครับ ผมจำได้แค่ว่าตอนที่เจอโคตะซังครั้งแรกตอนราวๆ แปดเก้าขวบนี้แหละครับ

    ตอนนั้นผมเห็นว่าโคตะซังทะเลาะกับมิโอะซังกับโทชิซังหนักมาก และเห็นโคตะซังวิ่งหนีไปที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเลยแอบตามไปน่ะครับ

    พอเขาเห็นผมเขาก็ร้องไห้ออกมาเลยครับ พอผมถามว่าเป็นอะไร เขาก็ตอบกลับมาว่าเขานึกถึงลูกชายเขาที่อายุเท่ากับผมพอดีน่ะครับและหลังจากนั้นก็เล่าให้ฟังว่าเขาเคยมีสร้อยที่สามารถทำให้ข้ามไปยังโลกคู่ขนานได้ และก็ได้พบรักกับหญิงสาวที่ไม่ใช่มนุษย์คนหนึ่ง พวกเขามีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้ว รู้แค่โคตะซังบอกว่าอยู่กันอย่างมีความสุข

    จนกระทั่งเขาต้องกลับมาหาโทชิซังกับมิโอะซังเพราะเขาไม่ได้ติดต่อกันเลยเกือบสิบปีเพื่อที่จะหาทางกล่อมทั้งสองท่านให้ยอมพาภรรยาและลูกชายเขามาอยู่ที่นี่ด้วยจะได้ไม่ต้องลำบากกันอีก แต่พอพูดแบบนี้แล้วโทชิซังก็อาศัยช่วงที่โคตะซังเผลอเอาสร้อยเส้นนั้นไปขายทำให้เขาไม่สามารถกลับไปหาภรรยาและลูกได้อีก ก็เลยเป็นเหตุให้ทะเลาะกันน่ะครับ...เท่าที่ผมรู้และจำได้ก็มีแค่นี้แหละครับ" คุโรโกะพูดเสียงแห้งเพราะพูดมากกว่าปกติหลายเท่านั้นเอง

    "อื้ม แค่นี้ก็มากพอแล้ว...ขอบใจนะเท็ตสึ เดี๋ยววันหลังเลี้ยงวนิลาเช็คให้" อาโอมิเนะลุกขึ้นพร้อมอุ้มกระต่ายน้อยที่ดูตาแดงๆ แปลกๆ พร้อมกับที่จะเดินกลับบ้านตนโดยคิดที่จะโดดซ้อมอีกตามเคย

    "อาโอมิเนะคุง...ถึงผมไม่รู้ว่าคุณคิดจะทำอะไรแต่ถ้าคุณคิดจะทำก็ขอให้สำเร็จตามหวังนะครับ" คุโรโกะเอ่ยเสียงเบาพร้อมกับโบกมือลาเพื่อนผิวเข้มของตนที่เดินจากไป...

     

     

     

     

     

    "ฟุริ...นายจะเอายังไงต่อดีล่ะ?" อาโอมิเนะที่ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านก็เอาแต่เอ่ยถามบ้างแอบกอดบ้างกับฟุริฮาตะ เนื่องจากฟุริฮาตะดูเงียบผิดปกติ

    "หือ? เรื่องอะไร?" ฟุริฮาตะถามขณะที่หั่นผัก

    "เรื่องที่เท็ตสึบอกน่ะ...นายจะลองไปหาพ่อนายไหม?" อาโอมิเนะเอาคางวางบนหัวอีกฝ่าย

    "อาโอมิเนะมันหนักนะ อย่ามากดความสูงกันสิ..." ฟุริฮาตะเอาผักที่หั่นเสร็จแล้วลงผัดในกระทะ "...ส่วนเรื่องคุณพ่อนั้น...ฉันว่าฉันไม่ไปหาดีกว่า"

    "ทำไมล่ะ?" อาโอมิเนะเริ่มเนียนเลื่อนมือไปโอบเอวอีกฝ่าย

    "เรื่องนั้นก็..." ฟุริฮาตะทำเสียงง่อยขณะที่เทผัดผักที่เสร็จแล้วลงจาน "...คือ...ฉันไม่แน่ใจน่ะ...ว่าคุณพ่อยังจำฉันได้หรือเปล่า และนี้ก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วด้วยคุณพ่ออาจจะลืมฉันไปแล้วก็ได้"

    "คิดมากน่า..." อาโอมิเนะพอเห็นท่าทางคิดมากอย่างนี้แล้วหงุดหงิดชะมัด! แถมยิ่งท่าทางที่ทำเหมือนว่าตนเองไม่เป็นไรทั้งๆ ที่หน้าบอกออกมาเลยว่ากลุ้มปานน้ำตาจะแตกออกมาอยู่ร่อมร่อแล้ว!

    "ก็นะ...แต่มันอดไม่ได้นิ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ แต่ด้วยสาเหตุอันใดไม่รู้อาโอมิเนะเมื่อได้ยินคำตอบนี้ถึงได้... "โอ๊ย! นายกัดหูฉันทำไมเนี่ย! อาโอมิเนะ!"

    "ก็พอได้ยินคำตอบนายแล้วมันหงุดหงิดนี่หว่า..." ...โคตรหงุดหงิดเลยล่ะ! ที่นายให้ความสำคัญกับคนอื่นนอกจากฉัน! ถึงอีกฝ่ายเป็นพ่อหมอนี่ก็เถอะ...

    "หงุดหงิดแล้วกัดเนี่ยนะ!" ฟุริฮาตะไม่เข้าใจจริงๆ มีคนปกติที่ไหนหงุดหงิดแล้วกัดคนอื่นกัน!!!

    "ใช่ดิ..." ...แต่เฉพาะกับนายนะ

    "นายนี่แปลกจริง..." ฟุริฮาตะไม่รู้จะว่ายังไงกับคนผมสีน้ำเงินที่ตอบหน้าตายนี่จริงๆ เลย! ตอบมาได้ไม่กลัวโดนมองว่าเป็นโรคจิตหรือไง!?

    "เอ่อ! ตามนั้นก็ได้ ในกลุ่มฉันตอนม.ต้นไม่ค่อยปกติกันนักหรอก...ว่าแต่ทำเสร็จยัง? ฉันหิวแล้วนะ..." อาโอมิเนะยื่นหน้าดูกับข้าวที่เสร็จใหม่ๆ กลิ่นหอมน่ากิน

    "อ่า เสร็จแล้วล่ะ...ช่วยยกไปที่โต๊ะหน่อยสิ..." ฟุริฮาตะบอกพร้อมยกชามกับข้าวไปที่โต๊ะกินข้าวโดยที่อาโอมิเนะก็ถือที่เหลือตามไป

           และขณะที่อาโอมิเนะกับฟุริฮาตะนั่งกินข้าวอยู่นั้นเอง...เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินก็ได้ตัดสินใจว่าในวันพรุ่งนี้ตนจะแอบไปหาพ่อของกระต่ายหนุ่มเพื่อคุยกันให้รู้เรื่องไปกันข้างหนึ่งเลย...

     

     

     

     

     

    "อาโอมิเนะ? วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังล่ะ? มีซ้อมเหรอ?" ฟุริฮาตะที่ยืนทำข้าวเช้าอยู่เอ่ยถามคนที่ปกติไม่เคยตื่นเช้ากับเขาสักทีที่เดินปานซอมบี้ออกมาจากห้อง

    "เปล่าหรอก...แค่กะหนียัยซัทสึกิน่ะ และกะโดดซ้อมด้วย" อาโอมิเนะหาววอดๆ พร้อมในหัวที่มีสมองอันน้อยนิด (เฮ้ย!!! // อาโอมิเนะ) พยายามคิดหาทางที่สามารถไปยังบ้านอดีตเงาของตนได้เร็วที่สุดและที่จะหลบคนรู้จักได้มาที่สุด

    "โดดซ้อมบ่อยๆ ไม่ดีนะ เดี๋ยวโดนฮาราซาวะซังทำโทษหรอก" ฟุริฮาตะบอกพร้อมนำอาหารเช้ามาวางที่โต๊ะแบบสดๆ ร้อนๆให้อาโอมิเนะครั้งแรก เพราะปกติหลังจากทำอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ต้องไปปลุกอาโอมิเนะอีก แถมกว่าจะลากออกมาจากเตียงได้ก็นานเสียด้วยดังนั้นอาหารทุกวันจึงออกไปทางอุ่นๆ ใกล้ที่จะเย็นแล้วมากกว่า

    "ช่างปะไรล่ะ..." อาโอมิเนะรีบโซดอาหารในจานตนก่อนจะถึงเวลาที่เพื่อนสมัยเด็กของตนจะมาตาม "...อ๋อ! วันนี้ตอนช่วงเช้านี้แปลงเป็นกระต่ายก่อนก็ดีนะ ไม่งั้นเกิดยัยซัทสึกิพังประตูเข้ามาจะซวยเอา"

    "อื้ม..." ที่จริงถึงไม่บอกฟุริฮาตะก็กะทำแบบนั่นอยู่แล้ว "...แต่กะไปแอบโมโมอิซังที่ไหนล่ะ?"

    "ก็คงดาดฟ้าเหมือนเดิมมั้ง?" อาโอมิเนะตอบพร้อมจิ้มมะเขื่อเทศเข้าปาก

    "แบบนั้นรับรองหาเจอชัวท์" ฟุริฮาตะรู้สึกว่าอีกฝ่ายแอบโดดอยู่ที่เดียวเลย แบบนี้ไม่ว่ายังไงก็คงหากันเจอแน่

    "งั้นเปลี่ยนเป็นบนต้นไม้ดีกว่า" อาโอมิเนะงาบอาหารไปกว่าครึ่งจนทั้งที่ ฟุริฮาตะที่กินพร้อมกันเพิ่งกินได้ 1 ใน 5 ของจานเอง

    "คงจะหาเจอยากหน่อยล่ะมั้ง?" เท่าที่ฟุริฮาตะจำได้รู้สึกว่าต้นไม้ใหญ่ในโอโทวนั้นมีหลายต้นแถมแต่ล่ะต้นใบเกาะเกี่ยวกันหนามาก ดังนั้นถ้าไปนอนบนนั้นจริงๆ คงหานานอยู่กว่าจะหาเจอ

    "อืม วันนี้คงต้องแอบบนต้นไม้จริงๆ แฮะ...งั้นไปนะ!" อาโอมิเนะที่กินข้าวเช้าอย่างรวดเร็วจนไม่รู้ว่าเคี้ยวหรือเปล่า รีบคว้ากระเป๋าและพุ่งออกจากบ้านทันที

    "เดินทางดีๆ นะ" ฟุริฮาตะโบกมือน้อยๆ พร้อมกับที่อีกฝ่ายปิดประตูบ้านดังปัง! กระต่ายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่จะเดินไปล็อกประตูบ้านตามปกติ...

    ...และหวังว่าวันนี้สาวเจ้าผมชมพูจะไม่มาพังประตูให้เขากับอาโอมิเระต้องมาเปลี่ยนประตูใหม่หรอกนะ

     

     

     

     

     

    อาโอมิเนะก้าวขายาวๆ อย่างฉับไวเมื่อตอนนี้เขามาถึงบริเวณบ้านเพื่อนผมฟ้าตนแล้ว เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินแอบอยู่ในซอยเล็กๆ แอบมองว่าเพื่อนผู้จืดจางของตนออกจากบ้านหรือยัง...หลังจากแอบดูสักพักคุโรโกะก็เดินออกจากบ้านพร้อมหมาน้อยสีขาวดำ พอหลังจากอีกฝ่ายเดินลาลับไปเกือบครึ่งชั่วโมงอาโอมิเนะถึงเดินออกจากซอย...

    ...หือ? ทำไมต้องรอตั้งครึ่งชั่วโมงงั้นเหรอ? เพราะอีกฝ่ายจืดจางซะจนเขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเดินไปแล้วจริงๆ หรือยังไม่ไปแต่มองไม่เห็นก็ไม่รู้น่ะสิ!!!

    เอสแห่งทีมโอโทวถอนหายใจเล็กน้อยอยู่หน้าบ้านที่ป้ายเขียนไว้อย่างเด่นหราว่า 'ฟุริฮาตะ' ก่อนที่จะกดกริ๊งหน้าบ้าน...

    กริ๊งงงงงง!!!

    "คร้าบบบบ ใครคร้าบบบ?" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาก่อนที่ประตูบ้านจะเปิดออก เผยให้เห็ร่างของชายหนุ่มอายุราวๆ สี่สิบกว่าๆ ผมสีน้ำตาลตาสีเดียวกัน ใบหน้าดูหล่อเข้มช่างต่างกับตัวฟุริฮาตะ โคกิที่ดูจะธรรมดาแต่น่ารักในสายตาเขาโดยแท้...

    ชายหนุ่มมองอาโอมิเนะอย่างงงๆ ก่อนที่จะเอ่ยปากถามออกมา "เธอเป็นใคร? มีธุระอะไรกับฉันเหรอ?"

    "เอ่อ...คือผมจะมาคุยเรื่องเจ้านี้ครับ..." อาโอมิเนัหยิบสร้อยที่มีแหวนสีน้ำตาลคล้องอยู่ออกมา...ปกติสร้อยนี้เขาจะไม่เอาติดตัวเพราะกลัวอยู่ดีๆ จะโผล่ไปทางนู่นอีก เลยเก็บใส่กล่องและไม่เคยเปิดอีกเลยจนวันนี้แหละ

    "เฮ้ย!" ฟุริฮาตะ โคตะรีบกระโจนใส่อาโอมิเนะพร้อมดูสร้อยในมืออีกฝ่ายชัดๆ "เธอได้มันมาจากไหน!?"

    "ซื้อมาจากร้านขายของเก่าน่ะครับ...แต่ตอนนี้ขอเข้าก่อนได้ไหม? เดี๋ยวคนรู้จักมาเจอจะโดนหิ้วกลับโรงเรียนเสียก่อน" อาโอมิเนะมองซ้ายมองขวาว่ามีใครแอบมองอยู่ไหม โดยเฉพาะอดีตเงาของตนที่อาจเห็นตนแต่เริ่มและแอบตามเขาอยู่ก็ได้

    "ได้สิ...เข้ามาเลย" โคตะดึงเด็กหนุ่มผิวคล้ำเข้ามาในบ้านพร้อมประตูทันใด ก่อนที่จะลากอาโอมิเนะไปที่ห้องรับแขก...และอาโอมิเนะเริ่มที่จะปลงเรื่องหนึ่งแล้ว...

    ...ให้ตายเถอะ! แค่บอกแค่นี้ก็เชื่อคนแปลกหน้าแบบเขาแล้วเหรอ!? ถ้าเขาเอาของปลอมมาหลอกและขอเข้าบ้านเพื่อมาปล้นเนี่ยจะเป็นไงฟะ!? รู้แล้วนิสัยหมอนั่นมาจากใคร!...

    "เธอรู้ได้ไงว่าฉันรู้จักสร้อยเส้นนี้?" โคตะถามพร้อมยกน้ำมาให้

    "พอดีคนที่อยู่ข้างบ้านคุณเป็นเพื่อนผม และพอหมอนั่นได้ยินชื่อที่สลักบนแหวนนี้ก็บอกเรื่องของคุณมาน่ะ เลยตามมา" อาโอมิเนะตอบแบบไม่ค่อยตรงความจริงนัก เพราะเขาไม่แน่ใจเท่าไหร่ในการบอกเรื่องนี้กับอีกฝ่าย

    "เธอ...ฉันขอสร้อยเส้นนี้คืนได้หรือเปล่า?" โคตะมองสร้อยในมือสีเข้มตาไม่กระพริบ

    "ไอ้ได้น่ะได้แต่..." อาโอมิเนะยื่นสร้อนคอคืนเจ้าของที่แท้จริงไป "...ถึงคุณกลับไปที่นั้นตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ"

    "หมายความว่าไง?..." โคตะมองเด็กหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ "...เธอก็ไปโลกนั้นมาแล้วสินะ?"

    "ครับ ไปมาแล้วครับ ส่วนเรื่องที่ผมบอกว่าต่อให้กลับไปก็ไม่มีประโยชน์น่ะ...กรุณาทำใจก่อนด้วยนะครับ" อาโอมิเนะเริ่มรู้สึกว่าตนติดนิสัยการพูดของอิมาโยชิมานิดๆ แฮะ แต่ช่างเถอะ ในสถานการณ์นี่ก็เหมาะดีเหมือนกัน

    "ทำใจ?..." โคตะพอเดาได้ไอ้ทำใจเนี่ยอาจมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นที่ทางนู้นก็ได้ ชายหนุ่มพยายามทำใจให้ได้ว่าต่อให้เกิดเรื่องอะไรจะไม่สติแตกก่อน "...โอเค...เล่ามาเลย"

    " คือ...ภรรยาคุณเสียแล้ว" อาโอมิเนะตอบตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม

    "ห๊า!!!" โคตะอ้าปากค้างไม่อย่างเชื่อในสิ่งที่ได้ยิ่ง "มันเกิดอะไรขึ้น! มิซากิอาจแค่บาดเจ็บก็ได้...ไม่สิ! แล้วเธอรู้ได้ไงว่าที่เสียชีวิตไปนั่นคือภรรยาฉัน!?"

    "เพราะเห็นกับตาว่าตายแล้วและที่มั่นใจว่าเป็นภรรยาคุณก็เพราะฟุริฮาตะ โคกิลูกชายคุณบอกไง" อาโอมิเนะตอบกลับส่วนโคตะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินชื่อลูกชายตน...เป็นตัวบ่งบอกว่าที่อีกฝ่ายพูดอาจเป็นเรื่องจริง "ส่วนเกิดอะไรขึ้นนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าตอนไปถึงหมอนั่นนั่งร้องไห้ข้างศพ...เอ่อ ร่างของภรรยาคุณน่ะและรู้แค่คนที่ฆ่าคือคนแปลกๆ ที่มีเหมือนเขาแพะงอกมาจากหัวสองคนแค่นั้นแหละ"

    "แล้วโคกิล่ะ!?...โคกิยังปลอดภัยดีใช่ไหม!?" โคตะถามกลับอย่างห่วงลูกชายตน...แค่รู้เรื่องภรรยาตนจากไปอย่างไม่อาจย้อนคืนได้ก็เจ็บปวดพอแล้ว ถ้าเขาเสียลูกชายเพียงคนเดียวไปอีกคนเขาคงจะทนไม่ได้แน่

    "ครับ...ไปช่วยทันพอดีเลยปลอดภัยดี" คำตอบของอาโอมิเนะทำให้คนอายุมากว่ารู้สึกโล่งอกไป

    "แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อล่ะ? แล้วโคกิไปไหน?" โคตะหวังเพื่อว่าให้ลูกชายตนปลอดภัยจนเขาสามารถไปพบอีกฝ่ายได้ ไม่ว่าตอนนี้ลูกชายตนอยู่ส่วนไหนของโลกคู่ขนานนั้นก็ตาม

    "หลังจากนั้นโดนเสือเขี้ยวดาบมาจากไหนไม่รู้ ก็เลยวิ่งหนีพร้อมแบกหมอนั่นไปด้วยจนตกหน้าผากลับมาที่โลกนี้ทั้งคู่นี้แหละครับ" อาโอมิเนะตอบพร้อมยกน้ำขึ้นมาดื่มอย่างคอแห้งจากการพูดในบรรยากาศที่ชวนอึดอัด...ถึงจะไม่เท่ากับโดนอาคาชิเทศน์ก็เถอะ

    "แปลว่าโคกิอยู่นี่สิ!!!" โคตะลุกพรวด "ตอนนี้โคกิอยู่ไหน!? ช่วยรีบพาฉันไปเลยนะ!!!"

    "ตอนนี้หมอนั่นอยู่บ้านผม และถึงคุณไม่บอกผมก็กะลากคุณไปอยู่ดี" อาโอมิเนะรู้สึกหูอื้อนิดไปเสียงของอีกฝ่าย

    "กะพาไปอยู่แล้ว...ฉันเนี่ยนะ?" โคตะชี้ตัวเองอย่างงงๆ

    "คร้าบบบ ผมมาเพื่อจุดประสงค์นี้แหละ..." อาโอมิเนะยักไหล่พร้อมลุกขึ้นยืน "...เพราะหมอนั่นดูหงอยๆ เพราะดันคิดมากเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะครับ"

    "โคกิคิดมากเรื่องอะไรกัน?" โคตะถามตามประสาคนเป็นพ่อ

    "หมอนั่นกลัวว่าคุณจะลืมตนไปแล้วจนไม่กล้ามาหาคุณเอง ผมเลยมาลากคุณไปเจอซะเลยนี่แหละ" อาโอมิเนะตอบพร้อมเดินนำออกจากบ้าน

    "บ้าสิ! ใครมันจะลืมกัน!" นี่มันเรื่องลูกชายเขาเองนะ! ใครมันจะลืมล่ะ!

    "เพราะงี้เลยมาตามนี้ไง..." อาโอมิเนะมองฟุริฮาตะคนพ่อที่ดูท่านิสัยจะคล้ายกับคนลูกมาก คาดว่าฟุริฮาตะ โคกิจะติดพอมาข้องข้างเยอะแน่

    แล้วอาโอมิเนะก็พาฟุริฮาตะ โคตะเดินทางไปยังบ้านของตนเองที่ตอนนี้ฟุริฮาตะ โคกิกำลังกลุ้มกับเรื่องหนึ่งอยู่

     

     

     

     

     

    "เอ่อ...นี่บ้านเธอแน่นะ?" โคตะมองบ้านตรงหน้าที่มี 'ซาก' ประตูที่หักครึ่งแล้วยังเอาเทปกาวมาแปะติดกันไว้ตรงรอยหักกันมันหลุดออกจาก

    "ยัยซัทสึกิมาพังประตูบ้านฉันจริงๆ ด้วย" อาโอมิเนะมองผลงานที่เพื่อนสมัยเด็กของตนทำไว้ ก่อนที่จะเปิดประตูบ้านเข้าไปตามปกติพร้อมลากคนที่ยืนเอ๋อมองประตูบ้านที่เหมือนถูกโจรทุบบ้านมาด้วย

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินลากชานหนุ่มเข้าไปยังห้องรับแขก...ที่ตามปกติกระต่ายหนุ่มจะหาอะไรสักอย่างทำอยู่ในนั้นแหละ ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาก็เป็นดังคาดกระต่ายหนุ่มกำลังนั่งดูรายการซ่อมบ้านพื้นฐานอยู่ (รายการแบบนี้มันมีด้วย? // s)

    "อาโอมิเนะ? กลับมาแล้วเหรอ?...ค...คุณพ่อ!?" ฟุริฮาตะ โคกิเอ่ยทักเจ้าของบ้านตามปกติแต่เมื่อเห็นอีกคนที่เดินตามเข้ามากระต่ายหนุ่มก็เบิกตากว้างอย่างตกตะลึงอย่างไม่คิดที่จะปิดไว้

    "โคกิ!!!" นายโคตะรีบวิ่งไปกอดลูกชายตนอย่างไม่แคสายตาใครด้วยความคิดถึงเหลือแสน "โคกิ...พ่อดีใจจริงๆ ที่ได้เจอลูกอีก...ดีจริงๆ ..."

    "คุณพ่อ..." กระต่ายหนุ่มกอดผู้เป็นพ่อกลับพร้อมน้ำในตาเริ่มหลั่นไหลออกมาจากความคิดถึง ความกลัวความกังวลก่อนหน้ามลายหายไปจนสิ้น

    อาโอมิเนะมองสองพ่อลูกฟุริฮาตะเงียบๆ ถึงเขารู้ว่าการทำแบบนี้เท่ากับว่าฟุริฮาตะ โคกิจะเดินไปจากชีวิตตนก็ตาม...แต่เขาต้องการเห็นอีกฝ่ายมีความสุขมากกว่าที่จะให้อีกฝ่ายมาทนทุกข์กับความเห็นแก่ตัวของเขาฝ่ายเดียว

    เด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านค่อยๆ แอบออกมาจากห้องรับแขกปล่อยให้สองพ่อลูกได้คุยกันสองคน และมานั่งกลุ้มอยู่ที่หน้าบ้านว่าตนจะซ่อมประตูบ้านตนเองยังไงไม่ให้โดนแม่ตนหักค่าขนมเอามาซ่อมประตูเนี่ย

    เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ จนอาโอมิเนะซ่อมประตูบ้านได้ครึ่งหนึ่งแล้ว โคตะก็เดินมาหาพร้อมกระต่ายหนุ่มและบอกว่า...

    "ขอขอบคุณมากที่ดูแลลูกชายผมมาโดยตลอด...ตอนนี้ผมขอพาลูกชายกลับไปกับผมด้วยนะครับ" คำที่โคตะเอ่ยออกมาทำให้เด็กหนุ่มผิวคล้ำอดคิดไม่ได้ว่า...

    ...ใครดูแลใครกันแน่หว่า? หลังๆ นี้รู้สึกว่าเป็นฝ่ายโดนดูแลมากกว่า...

    "หมอนี่ลูกชายนายนะ จะพากลับก็ถามหมอนี่สิมาขออะไรผมล่ะ..." อาโอมิเนะรู้สึกชายหนุ่มตรงหน้าอายุเยอะแล้ว แต่ความซื่อ (บื้อ) ไม่ได้น้อยกว่าคนเป็นลูกชายเลยแม้แต่นิดเดียว

    "งั้นพวกผมกลับล่ะนะครับ...และผมขอยืมหมวกใบนี้หน่อยนะครับ" โคตะหยิบหมวดฟางมาปิดหูกระต่ายบนหัวลูกชายตน

    "เอาไปเลยก็ได้" อาโอมิเนะมั่นใจว่าจากนิสัยอีกฝ่าย...ถ้าที่อยู่ไม่ค่อยชัดเจนมาไม่ถูกชัวท์...ถึงจะมาถูกก็ใช่ว่าเขาจะอยู่บ้านนิ

    "ขอลาล่ะครับ" โคตะโค้งศีรษะลงเชิงขอบคุณพร้อมเดินออกจากบ้านพร้อมกระต่ายหนุ่ม แต่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวฟุริฮาตะ โคกิก็หมุนตัววิ่งกลับมาหาอาโอมิเนะ

    "มีอะไร? ลืมของเหรอ?" อาโอมิเนะถาม...

    กระต่ายหนุ่มไม่ตอบเพียงกวัดมือเรียกให้ก้มหัวลงมา เด็กหนุ่มก็ล้มหัวน้ำเงินๆ ของลงตามความต้องการของอีกฝ่ายและ...

    จุ๊บ!

    สัมพัสนุ่มนิ่มบนแก้มของตนทำให้ใบหน้าของอาโอมิเนะร้อนขึ้นมา ส่วนคนกระทำก็ยิ้มก่อนที่จะวิ่งกลับไปหาพ่อของตน "แล้วไว้เจอกันนะ! อาโอมิเนะ!"

    "อ...อา แล้วเจอกัน..." อาโอมิเนะที่สมองหยุดทำงานเล็กน้อย มองเจ้าตัวเล็ก (ในสายตาเขา) เดินจากไปจนลับตา

     

     

     

     

     

    เดือนหกต่อมา หลังจากที่ฟุริฮาตะกลับบ้านของตนไปอาโอมิเนะก็เอาแต่เหม่อจนโดนลูกบาสอัดใหน้าบ่อยครั้งจนโดนทั้งฮาราซาวะทั้งโมโมอิเรียกไปคุยเพราะอาการเหม่อเกินเหตุถึงอย่างนั้นอาโอมิเนะก็อดเหม่อถึงคนคนหนึ่งไม่ได้อยู่ดี...

    ...ซึ่งคนคนนั้นคือฟุริฮาตะ โคกินั้นเอง

    อาโอมิเนะอดไม่ได้จริงๆ เขานั้นทั้งอยากเจอ อยากคุย อยากสัมพัสตัวอีกฝ่ายแต่เขาก็ไม่กล้าไปพบเพราะกลัวจะห้ามใจตนเองไม่ได้...ห้ามใจตนเองที่ 'รัก' กระต่ายหนุ่มนั้นไปแล้ว...

    ...ตลอดเวลาที่ไม่ได้พบกันช่างทรมานเหลือเกิน...

    "เฮ้อ..." วันนี้อาโอมิเนะก็มานั่งเรียนตามปกติ ทุกๆ อย่างยังดูเหมือนปีก่อนที่อย่างเว้นแต่เปลี่ยนระดับชั้นปีเท่านั้น

    "ถอดหายใจแต่เช้าเชียว...เดียวนี้เหม่อบ่อยจังนะไดจัง ไปแอบตกหลุมรักใครหรือไง?" โมโมอิที่ได้อยู่ห้องเดียวกันเหมือนเดิมตบหลังเพื่อนตนดังป้าบ! เพื่อเรียกสติเด็กหนุ่มผู้ทำหน้าเหมือนจะเฉาตายทุกที

    "โอ๊ย! เจ๊บ! ตบมาได้!" อาโอมิเนะค้อนใส่สาวเจ้าผมชมพูที่ตบหลังตนอย่างไม่มีกั๊กแรงเลยสักนิด

    "ถ้าไม่งั้นไดจังก็เมินฉันสิ" โมโมอิตอบกลับ "ตั้งแต่ไดจังเอากระต่ายตัวนั่นไปคืนเจ้าของดูเหม่อๆ นะ หรือว่าเกิดชอบกระต่ายขึ้นมา? งั้นเดี๋ยววันหลังพาไปซื้อตัวใหม่ให้..."

    "ไม่ใช่สักหน่อย...แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย..." โอมิเนะปฏิเสธความคิดเพื่อนตนพร้อมเอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะหนีคำถามเสียเลย...

    ...ตอนนั้นหลังจากฟุริฮาตะกลับบ้านตนไป อาโอมิเนะก็ตอบคนที่ถามหากระต่ายน้อยว่าเจ้าของเขามาขอคืนเลยเอาคืนไปแล้ว

    "นี่ๆ ไดจัง ได้ยินว่าจะมีนักเรียนสอบแทรกชั้นเข้ามาในห้องเราด้วยล่ะ!" โมโมอิพูดขึ้นก่อนที่เพื่อนตนที่ทำท่าจะหลับจะหลับลาโลกไปจริงๆ

    "เหรอ~ แล้วไง?" อาโอมิเนะไม่สนใจหรอกว่าใครจะมาไง ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว

    "แล้วไงเหรอ? หัดตื่นเต้นกับอะไรบ้างเถอะ! เดี๋ยวก็ตายด้านหมดหรอก..." โมโมอิทำแก้มป่องเมื่อเห็นว่าเพื่อนสมัยเด็กไม่สนใจตนเอง และก่อนที่จะได้โวยอะไรครูประจำชั้นก็เข้ามาเสียก่อนทำให้สาวเจ้าต้องกลับที่นั่งตนเอง

    "เอาทุกคนเงียบๆ หน่อย...อย่างที่รู้กันนะว่าวันนี้มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามา พอดีเด็กคนนี้เขาป่วยบ่อยเผลอแข็งแรงจนเป็นปกติเร็วๆ นี้เอง ก็เลยไม่ได้มาเรียนกับเราตั้งแต่ปีก่อน..." ครูชราเอ่ยจบก็กวัดมือเรียกคนที่อยู่หน้าห้องให้เขามา "...เอ้า! แนะนำตัวสิ! ไม่ต้องกลัวหรอก!"

    "เอ่อ...คือผม..." เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เดินมายืนข้างๆ ครูประจำชั้นตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความที่กลัวทุกสายตาที่จับจ้องมาที่ตน

    "เฮ้ย!" เสียงที่ลอยเข้าหูมาทำให้อาโอมิเนะที่กะจะหลับลุกพรวด ทุกสายตาจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มผิวเข้มแต่อาโอมิเนะไม่สนใจสายตาที่จ้องตน เจ้าตัวมองคนที่อยู่หน้าห้องข้างๆ ครูประจำชั้นตนอย่างอึ้งๆ เมื่อคนคนนั้นคือ... "ฟุริ!?"

    "แฮะๆ ไง..." กระต่ายหนุ่มผู้ที่ดูแปลกไปจากเดิมตรงที่หูกระต่ายสีน้ำตาลที่เคยเด่นหราบนหัวได้หายไปแล้ว "...ไม่เจอกันนานเลยนะ อาโอมิเนะ"

    "อ้าว? พวกเธอรู้จักกันเหรอ?" ครูชราถาม

    "อ่ะ! ครับ!" ฟุริฮาตะสะดุ้งเล็กน้อย

    "งั้นเธอไปนั่งข้างๆ อาโอมิเนะเลยแล้วกันนะ" ครูชราชี้ไปที่วางข้างอาโอมิเนะ

    "ครับ..." ฟุริฮาตะตอบรับอย่างว่าง่าย พร้อมรีบไปยังที่นั่งตนอย่างรวดเร็วเพราะกลัวสายตาที่มองตนตลอด...เพาะอย่างน้อยที่นั่งเขามันนั่งหลังสุดตอนเรียนคงไม่มีใครชะโงกหน้ามาดูหรอก

    "นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?! ฟุริ!" อาโอมิเนะถามทันทีที่เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลนั่งลงกับที่ของตนเอง

    "เอาไว้เล่าทีหลังแล้วกัน...เล่าตอนที่คนเยอะแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่..." ฟุริฮาตะมองคนทั้งห้องที่ยื่นหูมาแอบฟังพวกเขาคุยกัน

    "โอเค ตามนั้น..." อาโอมิเนะตอบรับอย่างเห็นด้วยในความคิดอีกฝ่าย เพราะเรื่องที่เขาจะถามไม่ใช่เรื่องที่คนปกติควรรู้

     

     

     

     

     

    พอถึงพักเที่ยงอาโอมิเนะก็รีบลากฟุริฮาตะไปยังดาดฟ้าก่อนที่จะโดนนักเรียนในห้องที่อยากรู้อยากเห็นมารุมถามคนเป็นนักเรียนใหม่

    "แล้วตกลงนี่มันอะไรกัน? ช่วยอธิบายทั้งหมดสิ?" อาโอมิเนะเอ่ยถามพร้อมล้มลงนอนแผ่ในที่ประจำของตน

    "จะเอาเรื่องไหนก่อนล่ะ?" ฟุริฮาตะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คนผมสีน้ำเงิน

    "อืม...งั้นเอาเรื่องหูนายก่อนแล้วกัน" อาโอมิเนะมองที่ศีรษะที่ไร้หูกระต่ายสีน้ำตาลที่เห็นจนชินตา

    "เรื่องนั้นเพราะคุณพ่อให้ไอ้นี่มาน่ะ..." ฟุริฮาตะดึงสร้อยที่เหมือนกับอันที่ทำเอาตนข้ามาฝั่งนี้เพียงแต่ตัวแหวนที่ติดกับสร้อยเป็นสีน้ำเงินแทนสีน้ำตาล "ไอ้นี้มันจะช่วยเก็บหูและหางฉันน่ะ"

    "...พ่อนายเอามาจากไหนเนี่ย!?" อาโอมิเนะรู้สึกตะหงิดๆ ตั้งแต่ไอ้เส้นที่พาข้ามโลกแล้ว

    "ไม่ได้เอามาจากไหนหรอกพ่อฉันสร้างเองน่ะ" คำตอบของฟุริฮาตะทำให้อาโอมิเนะอ้าปากค้าง "คุณพ่อท่านเป็นนักประดิษฐ์แบบปนไสย์หน่อยๆ น่ะ"

    "แล้วทำไมตอนสร้อยเส้นนั้นหายถึงไม่สร้างใหม่ฟะ!?" ตอนแรกอาโอมิเนะคิดว่าได้ไอ้สร้อยนั้นมาแบบบังเอิญอย่างเขาเสียอีก! ถ้าสร้างได้ทำไมไม่สร้างขึ้นใหม่แล้วข้ามไปฝั่งโลกนู่นเลยล่ะฟะ!?

    "เพราะพอท่านทำเสร็จก็จะลืมขั้นตอนการสร้างไปน่ะ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ อย่างนึกโชคดีที่ตนไม่นิดนิสัยขี้ลืม โดยเฉพาะกับเรื่องการประดิษฐ์หรือการอ่านของพ่อตนมาเลย

    "พ่อนายนี่มัน..." อาโอมิเนะรู้สึกเหนื่อยใจนิดๆ "...ช่างมันเถอะ ว่าแต่ไหงนายมาเรียนนี้ล่ะ? เซย์รินมันใกล้บ้านนายกว่าไม่ใช่หรือไง?"

    "ก็เพราะ..." ฟุริฮาตะหน้าขึ้นสีเล็กน้อย "...ฉันอยากเรียนที่เดียวกับนายน่ะ"

    "หึ..." มุมปากของอาโอมิเนะยกขึ้น พร้อมกับตวัดแขนยาวไปโอบเอวอีกฝ่ายจนสะดุ้ง "...คำตอบดีนี้"

    ...คำตอบนี้อย่าหาว่าเขาเข้าข้างตนเองเลย แต่มันเหมือนว่าอีกฝ่ายก็คิดเหมือนเขา...คิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงอีกฝ่าย...

    "อาโอมิเนะ...โอบเอวฉันทำไมเนี่ย! ปล่อยเถอะ! เดี๋ยวคนเขาเอาไปลือกันหรอก!" ฟุริฮาตะตีแขนที่โอบรัดตน แต่ด้วยแรงน้อยไปหรืออะไรไม่ทราบอาโอมิเนะไม่รู้สึกอะไรเลย

    "จะลือก็ลือไปสิ..." อาโอมิเนะตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ "...ว่าแต่นายจะเข้าชมรมอะไรล่ะ? หรือจะเลือกชมรมกลับบ้าน?"

    "กะว่าจะเข้าชมรมบาสเหมือนนายนั้นแหละ" ฟุริฮาตะยิ้มแฉ่งอย่างคนอยากเล่นมานานแล้ว เพราะตลอดหกเดือนที่หายไปเขาเอาแต่อ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าที่นี่ให้ได้...แทบตายคากองหนังสือแน่ะ

    "งั้นก็ดีเลย...เดี๋ยวฉันสอนใหเอง" อาโอมิเนะลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเอามือออกเอวอีกฝ่ายมาขยี้เรือนผมสีน้ำตาลนุ่มมือแทน

    "อย่าเล่นหัวกันสิ ผมยุ่งหมดแล้ว" ฟุริฮาตะพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจมาก เพราะยังคงปล่อยให้อีกฝ่ายขยี้หัวตนต่อไป

    อาโอมิเนะก็หัวเราะอย่างอารมณ์ ตอนนี้แค่มีหมอนี่อยู่ข้างกายชีวิตของเขาก็ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ความคิดถึงมลายหายสิ้นเมื่อได้ยินเสียงของกันและกัน...ยิ่งได้อยู่ห้องเดียวกัน ชมรมเดียวกัน แถมที่นั่งติดกันอีกก็เท่ากับว่าเขาได้อยู่ใกล้ชิดอีกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่ายังไงก็ช่างเพียงเราได้เคียงกันก็พอ...

    ...และหวังว่าช่วงเวลาแบบนี้จะไม่มีวันจบลงชั่วนิรันดร์

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×