ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #71 : [AkaFuri] 私の

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.75K
      60
      12 ธ.ค. 57

    Title : 私の

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Akashi x Furihata

    Notes : เราหมดมุขแล้วตอนนี้...

    ................................................................

    私の

     

    ในเช้าอันสดใสเหมาะแก่การพักผ่อน...เหล่าทีมบาสเซย์รินวิ่งอย่างสุดชีพเมื่อถูกโค้ชของทีมไอดะ ริโกะสั่งให้วิ่งรอบสนามโดยที่ใครวิ่งช้าที่สุดจะให้เป็นผู้ช่วยชิมอาหารฝีมือตนตลอดหนึ่งวัน (ถึงตายนะนั้น // s)

    แต่น่าเสียดายที่ดันวิ่งระดับเดียวกันหมดทำให้รอดจากการเป็นผู้ช่วยชิมอาการของริโกะไป

    เมื่อวิ่งเสร็จริโกะก็พาไปยังสนามบาสที่มีการแข่งขันระดับ ม.ต้น เพื่อดูว่าใครมีแววจะได้ชวนเข้าเรียนที่เซย์รินแต่เนินๆ (อะไรจะปานนั้น // s)

    การแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ จนมาถึงการแข่งของโรงเรียนมัธยมต้นเทย์โคก็เริ่มมีคนที่เตะตาเข้า...เตะตามากด้วย เพราะคนในสนามนั้นดันหน้าเหมือนอาคาชิ เซย์จูโร่ยังกะแกะน่ะสิ! เพียงแต่ผมยาวกว่าและหน้าเด็กกว่าเอง!!!

    "น...นั้นมัน...อาคาชิ?" ฮิวงะถึงกับอ้าปากค้างเมื่อคนผมแดงที่เข้ามาในสนาม

    "คุโรโกะ...อาคาชิมีน้องด้วยเหรอ?" คางามิถามอย่างอึ้งพอกัน...ถ้าเป็นพี่น้องกันจริงก็ถือว่าเหมือนมาก! เหมือนยังกะฝาแฝด!

    "อาคาชิคุงเขาเป็นลูกคนเดียวนะครับ ไม่มีพี่น้องหรอก..." คุโรโกะเอ่ยอย่างงุนงงไม่แพ้กัน เพราะไม่คิดว่าจะมีใครหน้าตาเหมือนอดีตกัปตันทีมตนได้ขนาดนี้...ไม่ว่ามุมไหนก็อาคาชิ เซย์จูโร่สมัยที่อยู่เทย์โคชัดๆ!!!

    "งั้นอาจแค่หน้าเหมือนมั้ง?" ฟุริฮาตะคิดออกแค่นี้แหละ...เพราะเขาไม่คิดว่าอาคาชิจะแอ๊บหน้าเด็กมาแข่งหรอก

    "แต่มันเหมือนเกิ๊น!" ฟุคุดะแทบมองข้อแตกต่างไม่ออกแน่ถ้าอีกฝ่ายอยู่ในชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดทีม

    "เอาน่าๆ เขาว่าบนโลกนี้จะมีคนหน้าเหมือนกันอยู่สามคนนะ" คิโยชิเอ่ยด้วยหน้าแป้นแล้นเหมือนเคย

    "คงงั้นมั้ง..." สุดท้ายทุกคนก็ยอมทิ้งข้อสงสัยในใบหน้าเด็กหนุ่มม.ต้นที่หน้าคล้ายอาคาชิไป

    การแข่งขันของทีมเทย์โควดูคล้ายกับการคุมทีมของอาคาชิจนน่าแปลก...แปลกมากที่เหมือนกันราวก๊อปปี๊กันมาแบบนี้

    เมื่อการแข่งขันระดับมัธยมต้นได้จบลง ริโกะก็ลากเหล่าทีมบาสเซย์รินไปช่วยกันชักชวนคนที่หมายตาไว้ให้มาเข้าที่เซย์รินจนเกือบครบตามที่ริโกะหมายตาไว้ทุกคน...เหลือเพียงคนที่หน้าตาเหมือนอาคาชิ เซย์จูโร่เท่านั้นที่หาตัวไม่เจอ

    "ว้าาา แย่จัง...กะชวนให้มาเรียนเซย์รินสักหน่อย" ริโกะบ่นอย่างเสียดายที่ไม่ได้ชวนคนที่หมายตาไว้จนครบ

    "เอาน่าๆ คิดเสียว่าดวงไม่ดีแล้วกัน" อิสึกิเอ่ยปลอบโค้ชสาว "อ่ะ! ดวงไม่ดีเพราะพ่นสเปรย์ แจ่มเลย!" (ดวงไม่ดีกับการพ่นสำหรับสเปรย์ในภาษาญี่ปุ่นมันอ่านคล้ายๆ กัน เราเลยเอามาให้อิสึกิเล่นซะเลย // s)

    "ไม่ต้องมาเล่นคำตอนนี้เลย!" ฮิวงะฟังมุขของเพื่อนตนพร้อมคิ้วกระตุกคล้ายกดอารมณ์ตัวเองไว้

    "อย่าเครียดสิฮิวงะ เดี๋ยวแก่เร็วนะ" คิโยชิตบหัวกัปตันทีมตนแปะๆ

    "ใครจะชิวได้ทั้งชาติแบบแกวะ!" ฮิวงะค้อนใส่คิโยชิ

    "ใจร้ายอ่าาาาาาา ฮิวง้าาาาาาาา" คิโยชิลากเสียงพร้อมวางคางบนเรือนผมสีดำของอีกฝ่าย

    "หนักโวย!!! คิโยชิ!!!" ฮิวงะดันหน้าอีกฝ่ายออกไป

    "รุ่นพี่...คือ...กะถามแต่เมื่อกี้แล้ว..." คางามิขัดการเถียงกันของรุ่นพี่ตนพร้อมมองซ้ายมองขวา "...ฟุริมันหายไปไหนเนี่ย?"

    "ห๊า?" ทุกคนเมื่อได้ยินคำถามนี้ก็หันซ้ายหันขวาหรือแม้แต่มองลอดใต้หว่างขาดู แต่ก็ไม่เห็นเบอร์สิบสองของทีมตนเลย "หลงไปตอนไหนวะเนี่ย!?"

    "โทรไปก็ไม่มีสัญาญาณตอบรับสงสัยแบตจะหมด" คาวาฮาระเอ่ยขึ้นหลังจากที่ลองกดโทรหาเพื่อนผมสีน้ำตาลปานชิวาว่าของตน

    "ผมว่าเราไปตามหากันเถอะครับ...ฟุริฮาตะคุงยิ่งความซวยวิ่งเข้าอยู่" คุโรโกะเอ่ยขึ้นมา

    "อื้อ! ตามนั้นแหละ!" ฮิวงะเอ่ยอย่างเห็นด้วยก่อนที่จะให้ทุกคนไปช่วยตามหาตัวฟุริฮาตะ โคกิที่บัดนี้หลงไปไหนก็ไม่รู้แล้ว

     

     

     

     

     

    "ที่นี่...ที่ไหนเนี่ย?" เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลมองไปรอบๆ อย่างคนไม่รู้ทิศทาง...เขาแค่ก้มไปผูกเชือกรองเท้าแป๊บเดียวเองนะ ทำไมทุกคนหายไปหมดเลยล่ะ! แถมยังซวยมือถือแบตหมดอีก!

    ฟุริฮาตะ โคกิถอนหายในก่อนที่จะเดินไปอย่างไร้จุดหมาย เผื่อว่าจะฟลุดไปเจอกับเหล่าคนในทีมตนสักคน

    แต่พอเดินมั่วๆ ไปเรื่อยๆ ฟุริฮาตะก็ไปเจอสนามบาสเล็กๆ แห่งหนึ่งเข้าโดนบังเอิญเลยคิดว่าจะยืนเล่นรอแถวนี้แหละ...เพราะถ้าให้เดาว่าถ้าทุกคนตามหาเขา จุดหนึ่งที่จะมาหาก็คือสนามบาสนี่แหละและคนที่มาเจอคงจะเป็นคางามิหรือไม่ก็คุโรโกะนั้นเพราะสองคนนั้นไม่รู้ทำไมมักโผล่มาที่สนามบาสทุกทีไม่ว่าที่ไหนก็ตาม

    แต่ก่อนที่ฟุริฮาตะจะได้ทำอะไรสายตาก็เหลือบไปเห็นก้อนกลุ่มสีแดงๆ ที่พุ่มไม้จึงเดินไปดูแลดพบกับ...คนคนหนึ่งผู้มีเรือนผมสีแดงกำลังเล่นกับลูกแมวอยู่

    เมื่อฟุริฮาตะเดินเข้าใกล้คนผมแดงก็หันมามองขวับกลับมาด้วยสายตาน่ากลัวจนเด็กหนุ่มตัวสั่นราวเจ้าเข้า...ยิ่งคนคนนี้ดันเป็นคนที่หน้าเหมือนอาคาชิแล้วยิ่งน่ากลัว!

    "มีอะไรหรือครับ?" เสียงอันทรงอำนาจดังมาจากปากของเด็กหนุ่มผมแดง

    "...เอ่อ...คือ...ผม..." ฟุริฮาตะพูดไม่ออกเมื่อถูกจ้องด้วยดวงตาสีแดงคู่สวย แถมยังมีแรงกดดันแผ่ออกมาด้วยจนเด็กหนุ่มน้ำตาเริ่มแตก "...อึก ฮือ~"

    ...น่ากลัวอ่ะ!!!...

    "เอ่อ..." คราวนี้ถึงตาเด็กหนุ่มผมแดงพูดไม่ออกบ้างเมื่อเผลอทำอีกฝ่ายร้องไห้เสียแล้ว "...ขอโทษ...อย่าร้องไห้สิ..."

    และสุดท้ายกลายเป็นว่าจากนั้นเด็กหนุ่มผมแดงก็ต้องปลอบคนที่ตนดันทำให้ร้องไห้โดยไม่ได้ตั้งใจเข้า จนในที่สุดก็ปลอบให้อีกฝ่ายหยุดร้องได้สำเร็จ

    "ขอโทษครับ...ที่ทำให้เดือดร้อน..." ฟุริฮาตะนั่งกอดเข่าข้างๆ เด็กหนุ่มผมแดงที่ตนเพิ่งเผลอน้ำตาแตกต่อหน้าไป

    "ไม่เป็นไร ผมต่างหากที่เผลอทำให้คุณกลัวเข้า" เด็กหนุ่มผมแดงยิ้มให้คนที่ดูอายุมากกว่าตน...แต่การแสดงออกกลับตรงไปตรงมาและใสซื่อยิ่งกว่าเขาที่อายุน้อยกว่าเสียอีก "...แล้วคุณมาทำอะไรตรงนี้ครับ? ปกติตรงนี้ไม่มีคนผ่านชนิดที่เรียกว่าร้างเชียวนะครับ?"

    ...จนเขาคิดว่ามาทำอะไรไม่ดีหรืออะไรพวกนั้นเสียอีกเลยเผลอกดดันซะ...ใครจะคิดล่ะว่าจะเป็นแบบนี้ ตลอดมาไม่ยักเคยมีใครมาน้ำตาแตกต่อหน้าแบบนี้เลยนิ ส่วนใหญ่มักเก๊กต่อหน้าไว้ก่อน...

    "คือ...ผมหลงทางครับ..." ฟุริฮาตะเอ่ยด้วยใบหน้าแดงขึ้นมานิดๆ เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆ จากคนผมแดงได้อย่างดี "...อย่าหัวเราะกันสิครับ"

    "ขอโทษทีนะครับ..." ...พอดีคุณดูน่ารักน่าแกล้งดีน่ะ "...งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปส่งที่ถนนใหญ่ดีกว่านะครับ"

    "อ...อา คือ...ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมหาทางเอง" ฟุริฮาตะที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเดือดร้อนไปมากกว่านี้จึงปฏิเสธไป

    "เดี๋ยวก็หลงไปไหนต่อไหนหรอก" เด็กหนุ่มผมแดงส่ายหน้าอย่างปลงๆ ...ก็ที่นี้มีน้อยคนนักที่จะเดินมาได้เพราะทางยังกะเขาวงกต ต่อให้ตั้งใจยังยากที่จะมานี่ได้เลย แต่นี้ดันเดินมั่วมาได้...ไม่รู้จะว่าไงเลย

    "ม...ไม่หลงหรอกน่า!" ฟุริฮาตะเอ่ยราวกับเด็กๆ ที่ชอบอวดดีว่าตนทำได้อย่างไงอย่างนั้น

    "แน่ใจนะครับ?" เด็กหนุ่มผมแดงถามอย่าง...อยากแกล้งคน "แถวนี้เขาว่าเป็นสุสานเก่านะ ถ้าเดินคนเดียวระวังเจอผีนะครับ"

    "พ...พูดจริงเหรอ?" ฟุริฮาตะกลืนน้ำลายอย่างฝืนคอ เริ่มที่จะกลัวขึ้นหน่อย

    "เปล่าครับ ล้อเล่น" คนผมแดงเอ่ยหน้าตาย

    "ง่ะ!" ฟุริฮาตะถึงกับเงิบเมื่อเจอมุขหน้าตายแบบนี้

    "หึหึ..." คนผมแดงหัวเราะขึ้นเบาๆ กับสีหน้าอีกฝ่ายและเผยยิ้มออกมาราวกับเด็กเจอของถูกใจ "...เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปส่งให้ดีกว่าครับ ว่าแต่คุยกันตั้งนานแล้วผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย...คุณชื่ออะไรครับ?"

    "ฟุริฮาตะ โคกิครับ" เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตอบ

    "ส่วนผมอาคาอิ เซย์อิจิโร่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ฟุริฮาตะซัง" อาคาอิเอ่ย

    "อา ครับ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ฟุริฮาตะรู้สึกว่าอีกฝ่ายคล้ายอาคาชิมากกว่าที่เขาคิดทั้งนิสัยทั้งชื่อสกุลแทบเหมือนลอกอาคาชิ เซย์จูโร่มาเลย (นามสกุลนั้นมีตัวคันจิที่แปลว่าสีแดงเหมือนกัน และชื่อนั้นจูแปลว่าสิบส่วนอิจินั้นแปลว่าหนึ่งซึ่งเป็นตัวเลขทั้งคู่น่ะ // s) ต่างแค่ดูเข้าหาง่ายกว่าเท่านั้น

    "มีอะไรอยากถามหรือเปล่าครับ?" อาคาอิที่เห็นสีหน้าเหมือนกำลังนินทาตนอยู่ของอีกฝ่ายก็เอ่ยออกมา

    "เปล่า...ไม่มีอะไรครับ" ฟุริฮาตะส่ายหน้าปฏิเสธ

    "แน่ใจนะครับ?..." อาคาอิยื่นหน้าเข้าไปใกล้ "...หน้าคุณมันฟ้องน่ะครับ ว่ากำลังคิดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับผมแน่"

    "เอ๋?" ฟุริฮาตะเอามือจับหน้าตัวเอง...นี่เขาแสดงทางสีหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ?

    "ใช่น่ะสิครับ" อาคาอิที่เดาสีหน้าอีกฝ่ายออกตอบ "ว่าแต่คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ครับ?"

    ...ถึงทำหน้าเหมือนนินทาผมเนี่ย...

    "ไม่มีอะไรหรอกครับ...แค่คิดว่านายเหมือนอาคาชิจังน่ะครับ" ฟุริฮาตะตอบอีกฝ่ายตามตรง

    "หมายถึงอาคาชิ เซย์จูโร่ที่เป็นอดีตทีมปาติหาร์สินะครับ?" อาคาอิถามกลับ

    "ครับ..." ฟุริฮาตะไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่างแฮะ

    "อื้ม...จะเหมือนก็ไม่แปลกหรอกครับ ก็ผมเป็นญาติของรายนั้นนี่ครับ" อาคาอิเอ่ยออกมา

    "เอ๋? จริงดิ?" ฟุริฮาตะเอ๋อกินน้อยๆ ...เขาลืมคิดไปเลยว่าต่อให้อาคาชิไม่มีพี่น้องก็ใช่ว่าไม่มีเครือญาตินี่หว่า ว่าแต่เป็นญาติแล้วไหงหน้าเหมือนกันอย่างกับฝาแฝดกันแบบนี้ได้เนี่ย?

    "ครับ ตามนั้นแหละ..." อาคาอิเอ่ยตอบอย่างพอใจที่ได้เห็นสีหน้าแบบนั้นของอีกฝ่าย...ที่สำหรับเขามันน่าแกล้งชอบกล "...ตอนนี่ผมว่าเราควรกลับกันดีกว่าครับ ผมก็ต้องกลับโรงเรียนแล้วด้วย"

    "ครับ...เอ่อ ว่าแต่ทำไมนายถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ?" ฟุริฮาตะที่เพิ่งนึกออกว่าอยากถามสิ่งนี้ด้วยเอ่ยถามออกมา

    "แถวๆ นี่คนมันน้อยดีผมเลยชอบแวะมาเล่นบาสน่ะครับ..." อาคาอิตอบตามจริง...ถึงจะไกลจากโรงเรียนเขาสักหน่อยก็เถอะ "...แต่ส่วนใหญ่มักจะมีพวกนักเลงหรือพวกขี้ยามามั่วสุมกันจนต้องไล่ไปด้วยล่ะครับ"

    ...และก่อนหน้านี่เข้าใจว่าคุณเป็นพวกนั้นจนทำคุณร้องไห้ไงครับ...

    "อ๋อ...เข้าใจล่ะ" ฟุริฮาตะรู้สึกว่าแบบนี้ก็คงคล้ายๆ ที่คุโรโกะเคยเล่าเรื่องที่อาโอมิเนะชอบหาที่เงียบๆ ฝึกบาสจนมาเจอตน...ก็คงประมาณเดียวกับอาโอมิเนะสินะ

    "เอ้า! กลับกันเถอะครับ!" อาคาอิเมื่อเห็นอีกฝ่ายหมดคำถามแล้วก็จูงมือคนผมสีน้ำตาลเดินไป

    และเมื่ออาคาอิจูงเดินไปเรื่อยๆ ฟุริฮาตะก็พบว่าตนหลงมาไกลสุดกู่แถมยังทางซับซ้อนจนน่าสงสัยว่าหลงมาอีท่าไหนได้จนมาถึงยังถนนใหญ่ได้...ซึ่งห่างจากสนามแข่งบาสเมื่อครู่ไกลโข่เลยล่ะ

    "...ฉันหลงอีท่าไหนเนี่ย?" ฟุริฮาตะคุบขมับอย่างอ่อนใจกับตนเอง

    "หลงไกลจากจุดที่เริ่มมากเหรอครับ?" อาคาอิถามเมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่าย

    "ครับ...ไกลเลยล่ะ" ฟุริฮาตะตอบ

    "ตอนคุณเริ่มหลงคุณอยู่ไหนเนี่ย?" อาคาอิมองอีกฝ่ายที่ดูท่าปวดจิตมาก

    "สนามที่นายแข่งเมื่อครู่น่ะ พอดีไปดูการแข่งกับคนในทีมน่ะครับ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ ให้คนผมแดง

    "คุณหลงยังไงมาไกลขนาดนี้ได้เนี่ย?" อาคาอิเริ่มปวดจิตขึ้นอีกคน...ให้ตายเถอะ สุดๆ เลย "เอาเป็นว่าผมไปส่งคุณถึงที่เลยดีกว่าจะได้ไม่หลงไปในดงอะไรอีก"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ ถนนใหญ่แบบนี้ผมไม่หลงหรอกครับ" ฟุริฮาตะเอ่ยบอก

    "แน่ใจนะค..." ระหว่างที่อาคาอิจะถามอย่างไม่เชื่อเด็ดๆ ในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ก็มีเสียงดังขึ้นแทรกเสียก่อน

    "ฟุริ!!!/ฟุริฮาตะคุง!!!" หลังเสียงดังมาไม่นานเจ้าของเสียงก็ตะคุบตัวเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลไว้ "นาย/คุณหลงอีทางไหนมาถึงนี่ฟะ/ครับ!!!"

    "คางามิ...คุโรโกะ..." ฟุริฮาตะรู้สึกเมาเสียงสองคนนี้ชอบกล "พวกนายตามมาถึงนี่ได้ไงเนี่ย?"

    "พอพวกรุ่นพี่รู้ว่าคุณหายไปก็หากันตามหาน่ะครับ...พอหาในสนามตั้งนานไม่เจอคางามิคุงเลยเสนอให้มาหาบริเวณรอบๆ น่ะครับ..." คุโรโกะตอบ "...และผมเดาว่าถ้าคุณหลงทางคงกลงมาไกลแน่ก็เลยหาวงกว้างจนมาเจอคุณนี่แหละครับ"

    "แฮะๆ" ฟุริฮาตะได้เพียงหัวเราะแห้งๆ เท่านั้น...งานนี้พอกลับไปโดนโค้ชเทศนานแสนนานแน่

    "เจอเพื่อนแล้วสินะครับ?" อาคาอิที่โดนตัวจริงทั้งสองแห่งทีมเซย์รินมองข้ามเอ่ยออกมา

    "ครับ...ขอบคุณมากครับ" ฟุริฮาตะเอ่ยพร้อมส่งยิ้มสว่างไสวให้

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ" อาคาอิเอ่ยด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงนิดๆ

    "นี่ใครเหรอ? ฟุริ?" คางามิเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นคนผมสีแดง

    "คนที่ฉันไปเจอตอนหลงน่ะ อาคาอิเขาช่วยพาฉันออกมาน่ะ" ฟุริฮาตะตอบ

    "คนที่แข่งเมื่อครู่สินะครับ? บังเอิญจังนะครับ..." คุโรโกะพูดกับคนผมแดง "...ขอบคุณนะครับที่พาฟุริฮาตะคุงมาส่ง"

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ" อาคาอิเอ่ยหน้าตายด้วยน้ำเสียงที่ต่างกับตอนพูดกับฟุริฮาตะมาก

    "คนที่แข่ง? อ๋อ...คนที่โค้ชอยากชวนเข้าเรียนที่เซย์รินสินะ?" คางามิทำท่าอย่างเพิ่งนึกว่าเป็นคนเดียวกับในสนามเมื่อครู่

    "ชวนเข้าเรียน?" อาคาอิเอ่ยทวน...จะว่าไปก็มีหลายโรงเรียนมาชวนเขาไปเข้าเรียนเหมือนกันแฮะ

    "โค้ชอยากชวนอาคาอิด้วยเหรอ?" ฟุริฮาตะถามคางามิ

    "เห็นบอกว่างั้นนะ" คางามิตอบพร้อมขยี้เรือนผมอีกฝ่ายเล่น

    "งื้อ! อย่าเล่นหัวกันสิ! คางามิ!" ฟุริฮาตะปัดมือคนผมสีเพลิงออก แต่นั้นยิ่งทำให้คางามิอยากแกล้งก็เลยขยี้หัวเล่นหนักกว่าเดิมจนสุดท้ายฟุริฮาตะได้เปลี่ยนทรงผมเป็นรังนกเรียบร้อย

    "ที่ว่าชวนไปเรียนเนี่ย...ที่ไหนเหรอครับ..." อาคาอิส่งสายตาไม่พอใจมองคนผมีเพลิงแว่บหนึ่งก่อนทำหน้าตายเหมือนเดิม

    "โรงเรียนมัธยมปลายเซย์รินครับ...ถ้าสนใจก็ลองไปดูที่โรงเรียนได้เลยครับ" คุโรโกะเอ่ยเสียงเรียบ

    "ครับ..." อาคาอิมองฟุริฮาตะ "...ผมขอตัวก่อนนะครับ"

    "ครับ ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" ฟุริฮาตะเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ...ถ้าเป็นคุณ..." อาคาอิเอ่ยโดยคำสุดท้ายเบาเป็นพิเศษ ก่อนที่จะเดินจากไป

    เมื่อเด็กหนุ่มผมแดงกลับไปแล้วคุโรโกะ คางามิ แลเฟุริฮาตะก็กลับไปรวมกลุ่มทัมตน...และแน่นอนฟุริฮาตะโดนเทศยาวจนหูชาเลยล่ะ

     

     

     

     

     

    ณ คอนโดหรูใจกลางเมืองเกียวโต ได้มีเด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงเจ้าของนัยน์ตาสองสีที่ดูทรงอำนาจกำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูนุ่มในห้องของตน

    อาคาชิ เซย์จูโร่ทอดสายตาไปยังแสงสีของเมืองเกียวโตยามค่ำคืนอย่างไร้จุดหมาย เพราะตอนนี้ตนกำลังกลุ้มเรื่องของคนคนหนึ่งอยู่...เรื่องของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เขาเคยเจอแค่สองครั้งแต่กลับติดตาติดใจเขาเหลือเกิน

           และขณะที่กำลังเหม่อลอยนั้นเองเมื่อมือถือเครื่องสีแดงก็ดังขึ้นมาเรียกสติของเจ้าของนัยน์ตาสองสีกลับเข้าร่าง ก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เมื่อเห็นว่าคนโทรมาเป็นใครเด็กหนุ่มก็กดรับสายทันที

    "มีอะไรเหรอ? ปกตินายไม่เห็นโทรมานิ..." ...เพราะปกติมาเป็นตัวเป็นตนเลย

    'ปกติผมโทรหาพี่น้อยขนาดนั้น?' เสียงอันคล้ายคลึงกับอาคาชิเอ่ยผ่านสายออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย...เหมือนเขาอีกนั้นแหละ

    "ต้องพูดว่าไม่เคยโทรมาเลยต่างหาก อาคาอิ" อาคาชิเอ่ยเรียกชื่อญาติผู้น้องของตน...

    ...อาคาอิ เซย์อิจิโร่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปี อาคาอิ เซย์อิจิโร่เกิดจากพี่สาวฝาแฝดของแม่เขาที่แต่งเข้าตะกูลอาคาอิ

    ...ซึ่งอีกฝ่ายมีใบหน้าเหมือนกับเขาอย่างกับแกะคาดว่าเพราะพวกเขาได้รับเชื้อทางแม่มาทั้งคู่

    ...และมีเรื่องที่เขาไม่เข้าใจเรื่องหนึ่ง คือไม่รู้เพราะเหตุใดพวกเขาถึงเหมือนกันราวกับฝาแฝดในด้านนิสัยและความชอบ ไม่ว่าเขาชอบอะไรเกลียดอะไรอาคาอิมักจะชอบและเกลียดเหมือนเขาตลอดไม่ว่าเรื่องใด

    ...จึงทำให้พวกเขาจะเป็นญาติที่รักกันดีก็ไม่ใช่เกลียดกันก็ไม่เชิงมาจนถึงทุกวันนี้นี่แหละ และการที่พวกเขานิสัยเหมือนกันมีข้อดีอย่างหนึ่งคือ...ต่างรู้แก่วกันเอง

    'ก็จริง...'

    "โทรมามีอะไร?" อาคาชิรู้สึกตาขวากระตุกแปลกๆ คล้ายจะมีเรื่องปวดหัวชวนหน้ามืดมาชอบกล

    'ผมแค่อยากถามอะไรพี่หน่อยน่ะ พี่อาคาชิ'

    "จะถามอะไรว่ามาเลย"

    'พี่รู้จักฟุริฮาตะ โคกิหรือเปล่า?'

    "..." คำถามนี้ทำให้อาคาชิถึงกับคิ้วขมวด "นายไปรู้ชื่อนี้มาจากไหน?"

    'ผมไปเจอคนชื่อนี้หลงไปในสตรีทบาสในป่าน่ะครับ'

    "ยังอุตสาห์หลงไปได้เนอะ..." อาคาชิยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงคนผมสีน้ำตาลที่เจอเขาทีไรสั่นปานเจ้าเข้าตลอด...เขารู้ดีว่าที่ที่อีกฝ่ายพูดถึงคือที่ไหนเพราะเขานี่แหละเป็นคนไปทำไว้เอง (นายทำได้แม้แต่งานก่อสร้างเนอะ... // s , ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้ // อาคาชิ , หมั่นไส้นิดๆ แฮะ...ว่าแต่นายสร้างเอง? // s , จ้างเอาสิ // อาคาชิ , อ้าว! // s) "...ว่าแต่นายถามถึงทำไม? หรือว่า...นายจะไปจีบ?"

    ...สาธุ...อย่าให้เขาเดาถูกเลย!!!...

    'ถูกครับพี่...' ดูท่าสวรรค์อยากแกล้งอาคาชิ เลยทำให้ที่อาคาชิขอไม่เป็นผล '...และที่ผมโทรมาถามเนี่ยผมจะมาดักไว้ครับ...ว่างานนี้ใครดีใครได้นะครับ'

    "ไปตายซะ"

    'พี่เอ่ยแบบนี้ล้านรอบแล้วนะครับ หาคำอื่นบ้างสิ'

    "งั้นเอาเป็น...โคกิเป็นของฉันนายห้ามแตะดีไหม?"

    '...งั้นเอาคำเดิมเถอะครับ เพราะอันนั้นยังพอฟังได้ แต่นี้ฟังแล้วมันคิ้วกระตุกนะครับ'

    "แล้วที่นายพูดเนี่ยคิดว่าฉันไม่เป็น?"

                    'ก็จริง...แต่ถึงพี่พูดยังไงผมก็ไม่ยอมเลิกคิดที่จะจีบฟุริฮาตะซังหรอกนะครับ'

    "ฉันก็จะไม่เลิกคิดที่จะจีบโคกิเหมือนกัน..." ...ดูท่างานนี้เขาต้องเริ่มรุกรายนั้นเร็วกว่าที่คิดแล้วสิ

    'ผมก็ไม่คิดว่าพี่จะยอมหลีกทางให้ผมง่ายๆ หรอก...งานนี้ใครดีคนนั้นได้นะครับ'

    "หึ...เดียวนายก็จะรู้ว่านายชนะฉันไม่ได้หรอก"

    'สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารสิครับ...งั้นแค่นี้นะครับ'

    "สงครามยังไม่จบแต่ผลเห็นๆ อยู่ก็นับศพทหารได้น่า...แค่นี้นะอาคาอิ" แล้วทั้งสองก็ตัดสายโทรศัพท์อย่างพร้อมเพรียง

    อาคาชิวางมือถือลงพร้อมถอนหายใจยาว...ถ้าแข่งกับคนอื่นเขาพอมั่นใจว่าเอาชนะได้แน่ แต่กับอาคาอิเขาไม่มั่นใจเท่าไหร่นั้นยิ่งพวกเขานั้นพอๆ กันทั้งคู่แล่วนั้นทำให้รู้สึกราวแข่งกับตัวเองอยู่เลย

    เด็กหนุ่มผมแดงนึกวางแผนคนเดียวเงียบๆ สักพักก่อนที่จะหยิบมือถือเครื่องเดิมขึ้นมากดเบอร์คนคนหนึ่งและกดโทรออกทันที เสียงรอสายดังขึ้นมาเป็นจังหวะสักพักหนึ่งก่อนที่จะมีคนรับสาย

    'สวัสดีครับ อาคาชิคุง...แปลกจังนะครับที่คุณโทรมาเนี่ย' เสียงของอดีตเงาแห่งเทย์โคดังมาจากสายโทรศัพท์

    "เท็ตสึยะช่วยอะไรฉันหน่อย" อาคาชิเลือกใช้ตัวช่วยที่ใกล้ตัวในการไล่ตะคุบชิวาว่า (?)

    'อย่างคุณมาขอผมช่วย? หัวไปกระแทกอะไรหรือเปล่าครับอาคาชิคุง?' เสียงปลายสายเรียบเฉยตามฉบับของตน

    "หัวฉันไม่ได้ไปกระแทกอะไรหรอกน่า และที่ฉันมาขอให้นายช่วยเนี่ยเพราะฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำไงดี..." ...ที่จะไม่ให้ตรงกับที่อาคาอิคิดเนี่ย

    'เอ่อ...อาคาชิคุง...คุณตัวจริงหรือเปล่าครับ?'

    "ฉันตัวจริงน่า..." อาคาชิกรอดตา "...ตกลงนายจะช่วยฉันหรือเปล่า?"

    'ครับๆ ช่วยครับช่วย ถ้ามันไม่ยากเกินความสามารถผมล่ะก็นะครับ'

    "งั้นก็ดี..."

    'แล้วคุณจะให้ผมช่วยอะไรล่ะครับ'

    "ฉันอยากจีบฟุริฮาตะ โคกิเพื่อนนาย...พอมีวิธีไม่ให้หมอนั่นหนีฉันไหม?"

    'พรูด! แค่กๆๆๆๆ!' เมื่อได้ยินคำคำนี้ปลายสายก็ส่งเสียงเหมือนพ่นอะไรสักอย่างจากปากพร้อมสำลักอย่างหนัก 'ค...คุณ...เอาจริง?'

    "จริงสิ และนายรับปากแล้ว ห้ามปฏิเสธ"

    'ครับ...แล้วคุณไปชอบฟุริฮาตะคุงได้ไงกันครับเนี่ย?'

    "ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ชอบไปแล้ว..." ...และเขามั่นใจว่าอาคาอิคงเหตุผลเดียวกับเขานี่แหละ

    'แล้ว...ทำไมคุณไม่คิดหาวิธีเองล่ะครับ แบบนั้นดูจริงใจกว่าให้ผมช่วยอีกนะครับ อาคาชิคุง'

    "เพราะถ้าฉันคิดเอาเองหมอนั่นรู้ทันแน่"

    'หมอนั่น? ใครครับ?'

    "อาคาอิ เซย์อิจิโร่ลูกพี่ลูกน้องฉันน่ะ หมอนั่นชอบโคกิเหมือนกัน...แถมคิดอะไรก็มักเหมือนฉันเป๊ะอีก"

    'ลูกพี่ลูกน้องคุณ? ใครคนที่หน้าเหมือนคุณและตอนนี้เรียนที่เทย์โคหรือเปล่าครับ?'

    "นายก็เจอมาแล้วสินะ?"

    'ครับ วันนี้ไปดูการแข่งระดับม.ต้นมาน่ะครับ...ตกลงนั้นญาติคุณ?'

    "ก็ตามนั้นแหละ...เรื่องหมอนั่นเอาไว้ก่อนเถอะ ตกลงนายพอนึกวิธีที่ฉันจะใช้จีบโคกิออกไหม?"

    'ครับ...ตามนิสัยฟุริฮาตะคุงล่ะก็เอาง่ายๆ เลยคือ...'

    "เอาจริงดิ?" อาคาชิเริ่มคิ้วกระตุกเมื่อฟังคำจากเพื่อนตน...มันง่ายไปไหม?

    'ตามนั้นแหละครับ อาจมีโดนต่อยหรือฟาดเป็นของแถมหน่อยแต่รับรองได้ผลครับ...'

    "โอเค ขอบใจเท็ตสึยะ"

    'ไม่เป็นไรครับ...แต่ผมบอกไว้ก่อนนะครับว่ากรุณาอย่าทำเพื่อนผมเสียใจล่ะครับ ไม่งั้นมีคนเสียบแทนทันทีแน่'

    "นอกจากอาคาอิมีคนอื่นมาชอบโคกิอีกเหรอ?"

    ...ทำไมคู่แข่งเขาเยอะจริง...แต่ยังไงก็ไม่น่าห่วงเท่ากับแข่งกับอาคาอิล่ะ...

    'ครับ...แถมข้องข้างเยอะด้วย แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกแอบชอบในหลืบน่ะครับ'

    "หวังว่าหนึ่งในนั้นไม่มีนายนะ เท็ตสึยะ"

    'ไม่ต้องห่วงหรอกครับอาคาชิคุง หนึ่งในนั้นไม่มีผมแน่นอน ไม่ต้องมากังวลผมเลยครับ...คุณไประวังตัวเองเถอะครับ'

    "ไม่ต้องห่วงน่า...ยังไงฉันก็ไม่คิดที่จะทำให้โคกิเสียใจหรอก"

    'ขอให้ทำตามปากว่าไว้ได้แล้วกันครับ'

    "ฉันทำตามที่พูดแน่นอน...แค่นี้นะเท็ตสึยะ ขอบใจที่ช่วย"

    'ไม่เป็นไรหรอกครับอาคาชิคุง ขอให้ฝันดีครับ'

    เมื่อสิ้นสุดการสนทนาและต่างฝ่ายต่างวางสายไปแล้ว อาคาชิก็ทำการอาบน้ำเข้านอนเพื่อทำใจ (?) ทำตามแผนที่เพื่อนตนคิดให้

     

     

     

     

     

    "น...นี่ฉันฝันอยู่ใช่ไหมเนี่ย!?" เสียงสั่นๆ ดังมาจากปากของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เดินเข้ามาในโรงยิมเพื่อซ้อมบาสยามเย็นตามปกติ แต่มันไม่ปกติดั่งทุกวันเมื่อตนก้าวเข้ามากลับพบคนที่ไม่น่ามาอยู่ที่นี่มากที่สุด...

    ...ซึ่งก็คืออาคาชิ เซย์จูโร่นั่นเอง

    "ขอโทษที่ทำลายความหวังนายนะ...แต่นี่ความจริงวะ" คางามิเอ่ยอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยด้วยความไม่ชอบหน้าอาคาชิเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว "แกมาทำอะไรที่นี่วะ!? อาคาชิ!!!"

    "ฉันจะมาทำอะไรก็ไม่เห็นเกี่ยวกับนายสักหน่อย" อาคาชิเอ่ยอย่างไม่สนใจสีหน้าปานจะขบหัวกันของคนผมสีเพลิงเลยสักนิด

    "ว่าไงนะ!?" คางามิแยกเขี้ยวใส่คนผมแดง

    "หนวกหูนะครับ คางามิคุง" คุโรโกะที่โผล่มาจากไหนไม่รู้แทงมือเข้าที่สีข้างของคู่หูตน

    "เจ็บนะ!!! ทำอะไรของนายเนี่ยคุโรโกะ!?" คางามิที่กุ่มสีข้างตนไว้ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว...ให้ตายเถอะ! ไหงทีแบบนี้แรงเยอะจังวะ!?

    "ก็คุณอยากเสียงดังเองนิครับ..." คุโรโกะเอ่ยกับแสงของตน

    "เอาน่าๆ ทั้งสองอย่าทะเลาะกันสิ..." คิโยชิเดินมาตบไหล่รุ่นน้องตนทั้งสองแปะๆ ก่อนที่จะหันไปถามคนผมแดงต้นเหตุของความวุ่นวาย "...แล้วนายมาทำอะไรที่นี่เหรอ? อาคาชิ"

    "ไม่มีอะไรมาก...แค่มาเรื่องส่วนตัวนิดหน่อยน่ะ" อาคาชิตอบ

    "เอ่อ...แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?..." ฟุริฮาตะเอ่ยขึ้นถามบ้าง

    "เรื่องนายไง..." อาคาชิยกยิ้มบางๆ ขึ้นมา

    "เรื่องฉัน?" ฟุริฮาตะชี้ที่ตัวเองอย่างงงๆ

    "คุณนี่...ดำเนินการเร็วจังนะครับ" คุโรโกะมองคนผมแดง...ดูท่ากลัวโดนแย่งจริงๆ แฮะ

    "ใช่เรื่องของนาย..." อาคาชิถลาตัวเข้าไปกุ่มมือของฟุริฮาตะไว้ สูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพูดออกมาเสียงดังฟังชัดด้วยใบหน้าเริ่มขึ้นสีเดียวกับผมตัวเอง "...ฉันชอบนาย...คบกับฉันได้ไหม?"

    "ห๊า!?" ทุกคนที่ลุ้นว่าอาคาชิจะพูดอะไรถึงกับอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน ส่วนฟุริฮาตะนั่น...แข็งเป็นหินเรียบร้อย "เอาจริงสิ!?"

    "จริง..." อาคาชิสวนกลับทันที แม้ใบหน้าที่แดงฉานนั่นจะเรียบเฉยแต่ในใจนั้น...

    ...ให้เถอะ! ถ้าไม่ได้ผลตามที่บอกจริงๆ นายโดนแน่! เท็ตสึยะ! ข้อหาทำให้ฉันอายปานจะมุดดินหนีเนี่ย!!!...

    "ว่าไงล่ะ? โคกิ..." อาคาชิที่ในใจทั้งคาดโทษเพื่อนตนทั้งกลัวคำตอบที่ได้รับจะเป็นคำปฏิเสธนั่นถามย้ำคนที่ดูซ๊อกจนแข็งเป็นหินไปแล้ว เด็กหนุ่มผมแดงจึงยื่นหน้าใกล้คนผมสีน้ำตาล "...โคกิ?"

    "!!!" ฟุริฮาตะสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับ...

    พลั่ก!!!

     

     

     

     

     

    "นายที่แรงเยอะพอดูนะ..." คนผมแดงพูดขึ้นระหว่างเอาน้ำแข็งประคบหน้าตัวเองไว้ ในห้องพยาบาลของโรงเรียนมัธยมปลายเซย์ริน...

    ...เพราะเป็นอย่างที่คุโรโกะ เท็ตสึยะคาดไว้ไม่มีผิด...เขาได้ผลที่ตอบกลับมาคือโดนเอากระเป๋าฟาดหน้าอย่างแรงจนถึงขั้นสลบเป็นของแถม...แต่ก่อนสลบได้เห็นใบหน้าน่ารักๆ นั่นขึ้นสีแดงนั้นถือว่าคุ้มอยู่นะ...

    "ก็ใครให้นายมาพูดแบบนั้นกลางโรงยิมล่ะ!?" ฟุริฮาตะโวยขึ้นอย่างลืมกลัวเนื่องจากตอนนี้อายมากกว่า

    "ไม่มีหรอก ฉันทำเองแหละ" อาคาชิเอ่ยยิ้มๆ ...

    ...ที่จริงทั้งหมดเป็นแผนเท็ตสึยะต่างหากล่ะ ทั้งเรื่องที่เขาสารภาพรักตรงๆ ทั้งที่เขาสารภาพรักกลางโรงยิมด้วยและทั้งที่เขาโดนอีกฝ่ายฟาดเนี่ยก็ตามแผนเท็ตสึยะนั้นแหละ...แต่นับวันการสังเกตพฤติกรรมคนของเท็ตสึยะยิ่งน่ากลัวแฮะ...

    "แล้วที่นายพูดนี่มัน...เอาจริง?" ฟุริฮาตะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงนิดๆ

    "แน่นอนที่สุด" อาคาชิยิ้มออกมากับใบหน้าอีกฝ่าย...อา นี่ครั้งแรกเลยที่คุยกันตรงๆ โดยที่อีกฝ่ายไม่หนีไปก่อนเนี่ย

    "ต...แต่ฉันเป็นผู้ชายนะ! มาชอบอะไรกับฉันล่ะ!?" ฟุริฮาตะเอ่ย

    "แค่ดูก็รู้น่า..." อาคาชิหัวเราะออกมาเบาๆ "...แต่คนที่ฉันชอบคือนายจริงๆ นะ และฉันไม่เกี่ยงว่านายเป็นชายหรือหญิงด้วย"

    "อ...อา..." เมื่อได้ยินคำนี้หน้าของฟุริฮาตะร้อนพร่าวขึ้นมาทันใด

    "ขอนะโคกิ...คบกับฉันเถอะนะ" อาคาชิในตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่ากลัวอีกฝ่ายปฏิเสธเหลือเกิน

    "ค...คือฉ...ฉัน..." ฟุริฮาตะที่หน้าแดงแข่งกับสีผมคนที่มาบอกรักตนดูเหมือนเกดอาการเป็นใบ้พูดไม่ออกชั่วขณะ และด้วยความอายหรืออะไรไม่ทราบเจ้าตัวเลยโยนกระเป๋าใส่หน้าอาคาชิพร้อมวิ่งออกจากห้องพยาบาลไปในทันที

    "เฮ้อ..." อาคาชิมองอีกฝ่ายที่วิ่งหนีไปก่อนถอนหายใจ...แบบนี้แปลว่าเขาแห้วหรือเปล่าเนี่ย? ชักอยากร้องไห้แล้วสิ

    เด็กหนุ่มผมแดงหยิบสิ่งที่อีกฝ่ายปาใส่หน้าขึ้นมาดู และมันก็มีสิ่งหนึ่งร่วงลงมา...ซึ่งมันคือสมุดสีน้ำตาลเล่มน้อยเล่มหนึ่ง

    อาคาชิลองก้มลงหยิบสมุดเล่มนั่นขึ้นมาเปิดดูด้านในเล่นๆ ก่อนที่จะเริ่มหน้าแดงพร้อมยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน...

    ...สิ่งที่เขียนอยู่ภายในสมุดในมืออาคาชิคือเรื่องราวที่เล่าถึงตัวเองหรือไดอารี่นั้นแหละ มันได้เขียนเรื่องราวทั้งหมดของเจ้าตัวไว้ ทั้งเรื่องการเรียนที่เขียนว่าเทอมนี้คะแนนจะรอดเปล่าหว่า เรื่องในชมรมที่เขียนว่าอาหารของโค้ชคือสุดยอดยาพิษ เรื่องที่เห็นอาคาอิเหมือนน้องชาย รวมทั้ง...ความจริงที่เจ้าตัวชอบตัวเขาเองด้วย

    "ให้ตายเถอะ ที่โยนของใส่นี่เขินสินะ?...แต่แบบนี้ก็น่ารักดี" อาคาชิเอ่ยขึ้นเบาก่อนที่จะลุกเดินออกจากห้องพยาบาลไปตามหาฟุริฮาตะที่วิ่งหนีไป

    เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีแดงเดินไปอย่าง...เร็วปานวิ่งเพื่อจะตามคนผมสีน้ำตาลที่ถ้าให้เดาคงจะอยู่ที่โรงยิมนั่นแหละและเมื่อไปถึงก็เจอตัวตามที่คาดเอาไว้ แต่อยู่กับคนที่เขาไม่อยากให้อยู่ด้วยมากที่สุดในโลกา...

    ...อาคาอิ เซย์อิจิโร่นั่นเอง

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไปสักนิด ทางฟุริฮาตะตอนที่เจ้าตัววิ่งหนีออกจากห้องพยาบาล...

    "แย่ชะมัด..." ฟุริฮาตะที่เปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินบ่นออกมาเบาๆ "...แบบนี้โดนอาคาชิเกลียดแน่ฉัน"

    ณ เวลานี้ฟุริฮาตะ โคกิอยากเขกหัวตัวเองสักร้อยรอบ...กับการกระทำของจัวเองก่อนหน้านี้

    ...ให้ตายเถอะ! นี่เขาทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย!? โอกาสอุตสาห์มาอยู่ตรงหน้ากลับเผลอเอากระเป๋าฟาดหน้าตั้งสองครั้ง!!! แบบนี้อาคาชิเกลียดเขาแล้วแน่ๆ เลยอ่ะ! แง้~~~!...

    "ฟุริฮาตะซัง..." เสียงเรียกเบาๆ ดังมาจากด้านหลังทำให้เจ้าของชื่อหันกลับไปมองยังต้นเสียง

    "อาคาอิ?" ฟุริฮาตะเอ่ยชื่อคนที่เรียกตน "ทำไมมาตอนนี้ล่ะ? นี่มันค่ำแล้วนะ"

    "พอดีผมเผลอเลิกซ้อมน่ะครับ" อาคาอิเอ่ยตอบคำถามอีกฝ่าย

    "งั้นนายมาดูวันหลังก็ได้นิ? ไม่เห็นต้องมาตอนมืดค่ำแบบนี้เลย..." ฟุริฮาตะไม่เข้าใจอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่เลยเหมือนอาคาชิเลย...

    ...และเมื่อนึกมาถึงตรงหนี้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลชักอยากร้องไห้แปลกๆ เพราะคิดไม่ตกว่าเรื่องของอาคาชิจะทำไงต่อดี

    "ก็ผมอยากมาวันนี้นี่ครับ..." อาคาอิจ้องหน้าอีกฝ่าย "...และคุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ทำหน้ายังกะคนจะร้องไห้เลยนะครับ"

    ...เอ๊ะ? หน้าเขามันฟ้องขนาดนั้นเลยเหรอ?...

    "เปล่า...ไม่มีอะไรหรอก แค่กลุ้มนิดหน่อยน่ะ" ฟุริฮาตะเอ่ยเช่นนี้พร้อมส่งยิ้มให้คนอายุน้อยกว่า "ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ"

    "สำหรับคุณได้เสมอครับ..." อาคาอิยิ้มบางๆ ออกมา "...แล้วนี่คุณกำลังจะไปไหนล่ะครับเนี่ย?"

    "กะจะกลับโรงยิมน่ะ" ฟุริฮาตะตอบกลับ

    "งั้นผมไปด้วยนะครับ" อาคาอิขอ

    "อ่ะ! ได้สิ" ฟุริฮาตะเอ่ยตอบอย่างไม่ทันสังเกตสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องเป๋งที่ตนแม้แต่น้อย

    ทั้งสองพากันเดินไปที่โรงยิม โดนอาคาอิชวนฟุริฮาตะคุยตลอดทางจนมาถึงที่โรงยิมนี่แหละ

    "อ้าว? มาแล้วเหรอฟุริ? ...อ่ะ! อาคาชิมาด้วยเหรอ? แต่รู้สึกว่าเตี๊ยลงนะ" คิโยชิที่เห็นรุ่นน้องตนเดินเข้ามาก็เอ่ยทักก่อนที่จะมองคนผมแดงข้าง

    "เอ่อ รุ่นพี่ครับ...นี่ไม่ใช่อาคาชินะครับ" ฟุริฮาตะชักเหงื่อตกเมื่อคนผมแดงข้างกายเริ่มปล่อยรังสีอาฆาตออกมาเมื่อได้ยินคำว่าเตี๊ยลงเนี่ย

    "เอ๋? แต่หน้าเหมือนอาคาชิเลยนะ?" คิโยชิเอียงคออย่างเอ๋อน้อยๆ

    "ไอ้บ้าคิโยชิ! นี่มันคนในสนามแข่งม.ต้นเมื่อวานเฟ้ย! ไม่ใช่อาคาชิ!" ฮิวงะแว๊ดใส่คิโยชิ...มันไม่สังเกตชุดที่หมอนั่นใส่เลยหรือไงฟะ!!!

    "อ๋อ! คนนั้นเอง..." คิโยชิเอ่ยออกมาอย่างเพิ่งนึกออก

    "ไม่ต้องมาอ๋อเลยเฟ้ย!!!" ฮิวงะอยากเอาหนูโยนใส่มันสักสิบตัวจริง!

    "ฮิวงะใจร้ายอ่ะ!" คิโยชิเริ่มงอแงและพุ่งเข้ากอดใส่กัปตันตนอย่างหวังแต๊ะอั๋ง(?)

    "ไม่ต้องมางอแงเป็นเด็กเลย!!!" ฮิวงะพยายามดันหัวอีกฝ่ายออก

    "เป็นเด็กเลยมีที่ดิน...อ่ะ! เข้าท่าแหะ! (คำว่า幼稚 แปลว่า ความเป็นเด็กและคำว่า 用地 แปลว่า ที่ดิน อ่านว่า youchi ทั้งคู่) " อิสึกิหยิบสมุดรวมมุขที่เอาติดตัวตลอดมาจดมุขลงไป

    "เงียบไปเลยอิสึกิ!!!" ฮิวงะแว๊ดใส่ PG ของทีมก่อนมาสู้กับคนตัวใหญ่ที่ตอนนี้ทำตัวเป็นเด็กต่อ...มันเลียนแบบมุราซากิบาระหรือไงฟะ!?

    "ทีมคุณดูเฮฮาดีนะครับ" อาคาอิเอ่ยขึ้นขณะมองความวุ่นวายเบื้องหน้า

    "แฮะๆ ก็แบบนี้ทุกวันแหละ" ฟุริฮาตะพูดได้แค่นี้แหละ

    "บ้างวันวุ่นวายกว่านี้ก็มีนะครับ" เสียงหนึ่งดังมาจากตรงกลางระหว่างเด็กหนุ่มทั้งสอง ทำให้ทั้งคู่สะดุ้งโหยงและหันกลับไปมองยังต้นเสียง...และก็พบเด็กหนุ่มผมสีฟ้ายืนอยู่

    "โธ่! อย่าทำให้ตกใจสิ! คุโรโกะ!" ฟุริฮาตะถอนหายใจอย่างโล่งที่ต้นเสียงคือเพื่อนตนไม่ใช่พวกสิ่งไม่ใช่คนเนี่ย

    "คุณมาตอนไหนเนี่ย?" อาคาอิที่ปรับสีหน้าตนก่อนเอ่ยถามเด็กหนุ่มผู้จืดจาง

    "ผมอยู่ก่อนพวกคุณเข้ามาอีกครับ แต่พวกคุณต่างหากที่ไม่เห็นผม" คุโรโกะมองคนผมแดงนิ่งๆ

    "มีอะไรหรือเปล่าครับ?" อาคาอิถามเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าจ้องเป๋งมาที่ตน

    "เปล่าครับ...ผมแค่สงสัยว่าทั้งที่ผมเมื่อม.ต้นก็อยู่เทย์โทวเหมือนกันทำไมผมไม่ยักเคยเห็นคุณเลยล่ะครับ?" คุโรโกะมั่นใจว่าสมัยม.ต้นตนไม่เห็นคนคนนี้อยู่เลย ทั้งในโรงยิมทั้งในโรงเรียน

    "อ๋อ พอดีผมเพิ่งย้ายมาที่เทย์โคปีนี้เองครับ" อาคาอิตอบกลับไป

    "อย่างนั้นเหรอครับ?" คุโรโกะเอ่ยเสียงเรียบตามฉบับของตน และจากนั่นไม่นานทุกคนก็โดนไล่ไปซ้อมต่อเนื่องจากอู้มาสักพักแล้ว

    อาคาอิที่ว่างงานสนิกจริงไปช่วยฟุริฮาตะฝึกซูตลูกเสียเลย...อาจมีแอบแต๊ะอั๋งนิดๆ ด้วยอีกต่างหาก

    "นายมาทำอะไรที่นี่?" เสียงหนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นระหว่างที่ฟุริฮาตะกำลังซูตอยู่ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งจนเผลอซูตแรงไปจนชนแป้นบาสและกระเด็นไปกระแทกหัวเจ้าของเสียงราวกับแกล้งกัน

    "หว่า! อาคาชิ!" ฟุริฮาตะที่มองตามลูกบาสตนจนเห็นว่ามันไปชนหัวแดงๆ ของกัปตันทีมราคุซัน ทำให้เจ้าตัวเริ่มวิ่งไปหาคนโดนลูกบาสกระแทกหัวด้วยอาการสั่นเนื่องจากวันนี้ตนทำอีกฝ่ายเจ็บตัวไปหลายดอกแล้ว "ขอโทษนะ! เป็นอะไรหรือเปล่า!? ...เหวอ!"

    "ไม่เป็นไร...แค่นายห่วงก็หายเจ็บแล้ว" อาคาชิยิ้มพร่าวพร้อมถือโอกาสรวบเอวอีกฝ่ายไว้ ก่อนที่จะส่งสายตาคมกริบไปยังญาติผู้น้องของตน "นายมาทำอะไรที่นี่กัน? อาคาอิ..."

    "อย่าถามไอ้ที่รู้ๆ กันอยู่สิพี่" อาคาอิยักไหล่

    "แค่ถามเพื่อความแน่ใจน่ะ" อาคาชิกรอดตา

    "เอ่อ...ก่อนที่จะเถียงกันปล่อยฉันก่อนได้หรือเปล่า?" ฟุริฮาตะเอ่ยแทรกขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงฉานอย่างห้ามไม่อยู่

    "ไม่เอา" อาคาชิตอบชัดๆ ง่ายๆ ได้ใจความ

    "อ่ะ! พี่อาคาชิขี้โกง! อย่ากอดฟุริฮาตะซังคนเดียวสิ!" อาคาอิโวยพร้อมกับ...เดินไปกอดฟุริฮาตะอีกคน

    "ไม่ต้องเลย...ไปไกลๆ ไป..." อาคาชิดันหน้าญาติผู้น้องตนออกหวังให้อีกฝ่ายออกห่างจากเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล

    "ไม่มีทาง" อาคาอิแลบลิ้นใส่คนตาสองสี

    "งั้นไปตายซะ..." อาคาชิแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย

    "พี่พูดคำนี้เป็นล้านรอบแล้วนะครับ" อาคาอิยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา

    "งั้นเปลี่ยนเป็น..." อาคาชิกอดฟุริฮาตะแน่น พร้อมส่งเท้าถีบอาคาออีก...เสียแต่อาคาอิที่รู้แก่วกันดีหลบทัน "...'ไม่ว่ายังไงฉันจะไม่เลิกชอบโคกิเด็ดขาดแม้นายจะขวางก็ตาม' ดีไหม?"

    "งั้นขอให้พี่พูดว่าไปตายซะไปตลอดชีวิตเลยดีกว่า" อาคาอิเอ่ยอย่างคิ้วกระตุกน้อยๆ กับคำพูดที่ได้ยิน "และผมต้องขอคือคำเดิมให้พี่แล้วกันนะครับ...เพราะยังไงผมก็ไม่ยกฟุริฮาตะซังให้พี่หรอกครับ"

    "พวกนาย...นี่มันอะไรกัน...?..." ฟุริฮาตะชักปวดหัวกับบทสนทนาของคนผมแดงทั้งสอง...จากที่ฟังมาเนี่ยเหมือนกับว่าอาคาอิจะจีบเขาอีกคนงั้นแหละ!!!

    "ก็ตามที่นาย/คุณได้ยินนั้นแหละ/ครับ!!!" สองคนผมแดงเอ่ยพร้อมกัน

    "เดี๋ยวๆ! ตกลงพวกนายจะทำอะไรเนี่ย!?!" คางามิที่ตามที่สองคนนนี้พูดไม่ทันคนเดียวเอ่ยถามขึ้น

    "จะจีบโคกิ/ฟุริฮาตะซังน่ะสิ/ครับ!!!" คนหัวแดงทั้งสองเอ่ยพร้อมกันก่อนที่จะกัดกันแย่งฟุริฮาตะต่อ

    "เฮ้ยๆ! หยุดทะเลาะกันก่อนเฟ้ย!!!" ฮิวงะที่เห็นท่าว่าอาจทะเลาะกันอีกยาวรีบเอ่ยห้าม "อย่ามาเถียงกันเองแบบนี้สิ!!! อย่างน้อยถามฟุริหน่อยสิ!!!"

    "จริงสินะ...ถามฟุริไปเลยน่าจะง่ายกว่านะว่าจะเลือกใคร" อิสึกิเอ่ยขึ้นพลางมองรุ่นน้องตนที่ดูท่าจะใกล้ร้องไห้เต็มทนแล้ว

    "ตามนั้น..." อาคาชิเอ่ยออกมา "...โคกิบอกไปเลยว่านายเลือกฉัน"

    "อย่าโมเมเองสิครับพี่...เลือกผมดีกว่านะครับฟุริฮาตะซัง" อาคาอิจ้องคนผมสีน้ำตาลตาแป๋ว

    "เอ่อ...ฉัน..." ฟุริฮาตะที่เอ๋อกินเริ่มที่จะมำอะไรไม่ถูก "...ไม่เลือกตอนนี้ได้ไหมอ่ะ?"

    "ไม่ได้/ไม่ได้ครับ" อาคาชิกับอาคาอิเอ่ยพร้อมกัน เล่นเอาฟุริฮาตะอย่างจะดำดินหนีไปซะเดี๋ยวนี้...ให้ตายเถอะ! อย่าให้เขามาเลือกในโรงยิมได้ไหม!? มันอายนะ!!! ต่อมความอายของพวกนายไม่ทำงานหรือไง!?

    "อย่ากดดันฟุริฮาตะคุงสิครับ อาคาชิคุง อาคาอิคุง" คุโรโกะที่แวบมาดึงตัวฟุริฮาตะออกห่างจากคนผมแดงทั้งสอง

    "แล้วทำไมต้องพามาหลบหลังฉันเนี่ย?" คางามิถามเมื่อผู้เป็นเงาของตนลากเพื่อนผมสีน้ำตาลของตนมาแอบหลังตน

    "กันสองคนนั้นมาคว้าตัวไปกอดดื้อๆ ครับ" คุโรโกะตอบอย่างรู้ทันในความคิดคนผมแดงทั้งสอง

    "แค่กอดหน่อยก็ไม่ได้" อาคาชิบ่นน้อยๆ

    "งั้นสิครับ..." อาคาอิก็เห็นด้วย

    "อย่างพวกคุณผมไม่ค่อยไว้ใจครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้ากันสักนิด

    "ไม่จิกคนอื่นสักนิดจะเป็นอะไรไหม? เท็ตสึยะ..." อาคาชิคิดว่านับวันเพื่อนผู้จืดจางคนนี้ยิ่งคาดเดายากขึ้นทุกที

    "เป็นครับ..." คุโรโกะเอ่ยหน้าตาย "...อีกอย่างถ้าพวกคุณยังกอดฟุริฮาตะคุงอยู่ ฟุริฮาตะคุงก็กลัวจนไม่กล้าตอบพวกคุณสิครับ"

    "จะว่าไปก็จริง..." อาคาชิไม่เถียงในข้อนี้เลย เพราะอีกฝ่ายขี้กลัว...ถึงบางครั้งจะกล้าขึ้นมาบ้างแบบไม่รู้ตัวก็เถอะ "...งั้นต่อเลยแล้วกัน...ตกลงโคกิจะเลือกใครล่ะ? ฉันหรืออาคาอิ?"

    "ค...คือ...ฉัน..." ฟุริฮาตะมองสลับไปมาระหว่างคนผมแดงทั้งสอง...จะให้เขาพูดไปตรงๆ เลยสิ!?

    "ใจเย็นๆ ครับ ฟุริฮาตะซัง ผมไม่โกรธหรือว่าอะไรหรอก...เพราะต่อให้คุณเลือกพี่ผมก็จะจีบคุณต่อจนมารักผมจนได้แหละ" อาคาอิพูดหน้าตาย

    "ตกลงนายอยากต่อยกับฉันใช่ไหมเนี่ย?" อาคาชิค้อนใส่คนผมแดง

    "ป่าวสักหน่อย...อีกอย่างพี่ก็คิดแบบเดียวกันไม่ใช่เหรอ?" อาคาอิเอ่ยอย่างรู้ในความคิดของกันและกัน

    "ก็จริง..." อาคาชิหัวเราะน้อยๆ ออกมา "...เอาล่ะ โคกิ...ตอบมาเลยไม่ต้องกลัวอะไรหรอก"

    "งั้น...ก็..." ฟุริฮาตะฝังหน้าลงบนหลังเพื่อนผมสีเพลิงของตนด้วยความอาย "...อ...อาคาชิแล้วกัน"

    ...อ๊ากกก!!! นี่เขาพูดออกไปท่ามกลางทุกคนในโรงยิมไปแล้ว!!! อายโว้ย!!!...

    "ดีใจจริงที่ได้คำตอบนี้..." อาคาชิพุ่งเข้ากอดฟุริฮาตะโดยถีบคางามิที่เป็นโล่กำบังทิ้งทันที

    "บอกกันดีๆ ก็ได้เฟ้ย!" คางามิโวยลั่นเมื่อถูกถีบ

    "ว้า~ แย่จังที่ฟุริฮาตะซังเลือกพี่เนี่ย..." อาคาอิเอ่ยยิ้มๆ "...แต่ผมก็จะตามจีบฟุริฮาตะต่ออยู่ดีแหละ"

    "ไปตายซะ..." อาคาชิหันไปค้อนใส่ญาติผู้น้องตน

    "ผมไม่ยอมตายจนกว่าฟุริฮาตะซังจะมาเป็นของผมหรอกครับ" อาคาอิเอ่ย

    "งั้นนายชาตินี้คงไม่มีวันตายจนกลายเป็นตาแก่พันปีแน่" อาคาชิตอกกลับ

    "ก็ไม่แน่นะครับ" อาคาอิทำท่าเจ้าเล่ห์

    "นายนี่มัน..." อาคาชิไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลย ถึงพวกเขาจะเหมือนกันมากในหลายๆ ด้าน แต่ด้านความกวนและความขี้เล่นแบบเด็กๆ ที่ทำให้ดูสมวัยอยู่บ้างนั้น...อาคาอินำเขาโด่เลย

    กริ๊ง....

    ระหว่างการเถียงที่ดูจะไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ ของคนผมแดง เสียงโทรศัพท์ก็ดังสนั่นออกจากกระเป๋าของเด็กหนุ่มจากเทย์โคว

    "แฮะๆ ..." อาคาอิยิ้มแห้งๆ ออกมาเมื่อหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าผู้ใดโทรมา ก่อนที่จะกดรับโทรศัพท์แบบ...ไม่อยากรับสายเลย "...สวัสดีครับ..."

    'เซย์อิจิโร่!!! ทำไมปานนี้ยังไม่กลับบ้าน!!!' เสียงอันดังสนั่นดังลอดออกมาจนทุกคนในโรงยิมได้ยินชัดเจน 'เลิกซ้อมตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ!?!'

    "ชินเคนซัง...ตกลงคุณเอาเครื่องดักฟังไว้กับผมใช่ไหมเนี่ย?" อาคาอิอยากบ้าตายกับคนที่โทรมา...ที่เขาไปไหนมาไหน ไปก่อเรื่องอะไรก็รู้ไปหมด! จนเคยนึกสงสัยเลยด้วยซ้ำว่าวันๆ ไม่ทำอะไรแต่แอบตามเขาด้วยซ้ำ!!!

    'ใครจะทำแบบนั้นกัน!?' ชินเคนเอ่ยเสียงเขียว 'วันนี้คุณท่านกับคุณนายจะกลับบ้านเร็วนะ! ผมขี้เกียจหาคำแก้ตัวให้นะเฟ้ย!!!'

    "โอเคๆ จะรีบกลับเดี๋ยวนี้แหละ" อาคาอิทำได้เพียงตอบรับปลายสายอย่างนี้ เพราะว่า...รายนี้ค่อนข้างที่เถื่อนน้อยๆ ล่ะนะ

    'งั้นรีบๆ มาเลย! ให้เวลาครึ่งชั่วโมง! ไม่งั้นผมจะไปลากนายกลับมาเอง!!!' สิ้นเสียงปลายสายก็ตัดสายไปในทันที

    "โดนชินเคนซังตามกลับสินะ?" อาคาชิยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงคนที่เอ่ยถึง...

    "ถูก..." อาคาอิเก็บมือถือกลับเข้ากระเป๋า "...ผมกลับก่อนล่ะ ยังไม่อยากโดนรายนั้นมาลากกลับ"

    "รีบๆ ไปเลย...ฉันก็ไม่อยากโดนจำสลับกับนายเหมือนก่อนหรอก" อาคาชิโบกมือไล่อีกฝ่าย

    "เอ่อ...ไอ้ที่พูดกันเนี่ย...มันอะไรเหรอ?" ฟุริฮาตะเอ่ยถามด้วยใบหน้าแดงๆ เพราะตอนนี้ตนยังถูกอาคาชิกอดอยู่

    "ไม่มีอะไรหรอก...แค่กลัวโดนจับยัดกระสอบแบบเมื่อก่อนน่ะ..." อาคาชิทำหน้าเพลียจิตสุดแสน

    "เอ๋?" ฟุริฮาตะเอียงคอน้อยๆ อย่างไม่เข้าใจที่อีกฝ่าย และท่าทางแบบนี้ทำให้...

    แช๊ก!

    ...คนผมแดงทั้งสองหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว

    "พวกคุณนี่เหมือนกันดีจังนะครับ" คุโรโกะส่ายหน้าอย่างปลงๆ กับคนผมแดงทั้งสอง

    "ก็มีหลายๆ คนพูดแบบนี้แหละ" อาคาชิเก็บมือถือเข้ากระเป๋าขณะที่ฟุริฮาตะโวยวายที่โดนถ่ายรูปแบบไม่รู้ตัวอยู่ และเพราะแบบนี้อาคาชิเลยขยี้เรือนผมสีน้ำตาลของอีกฝ่ายอย่างมันส์มือ

    "พี่...ผมขอพาฟุริฮาตะซังกลับบ้านด้วยได้เปล่า?" อาคาอิที่เห็นญาติผู้พี่ตนยี้หัวของคนที่คนชอบเล่นก็อดพูดแบบนี้ไม่ได้...เขาก็อยากอยู่ใกล้ฟุริฮาตะซังนะ!!!

    "ไม่" อาคาชิตอบอย่างเด็ดขาด

    "ใจร้าย" อาคาอิแลบลิ้นใส่อาคาชิ

    "จะว่าไงก็ตามใจ...ว่าแต่นายจะไม่รีบกลับหรือไง? เดี๋ยวชินเคนซังก็มาลากกลับถึงที่หรอก..." อาคาชิเอ่ยพร้อมทำท่าว่าถ้าคนที่พูดถึงมาจะไปหาที่แอบทันที

    "จริงสิ! เฮ้ย! ผ่านไปสามนาทีแล้ว! งั้นผมกลับก่อนนะครับ!" อาคาอิไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากโรงยิม...แต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงมาอีก "ฟุริฮาตะซัง! ผมจะตามจีบคุณจนกว่าคุณจะใจอ่อนเลยครับ!!!"

    "ไปโลกหน้าซะไป!!!" อาคาชิตะโกนกลับไปอย่างหัวเสีย "ให้ตายเถอะ..."

    "พอคุณอยู่กับอาคาอิคุงดูคุณจะเจ้าอารมณ์ขึ้นนะครับ" คุโรโกะเอ่ยอย่างขำขัน

    "ก็ใครใช้ให้หมอนั่นกวนขนาดนั้นล่ะ?" อาคาชิก็ชักปลงกับคนหน้าเหมือนตนแล้วล่ะ

    "ว่าแต่ถามหน่อย...ไอ้ชินเคนที่พูดถึงเนี่ยใครกัน?" คางามิที่หายเอวเคล็ดจากการถูกถีบแล้วถามขึ้น

    "เคนชินซังเป็นพ่อบ้านของบ้านอาคาอิน่ะ...เป็นคนที่ว่าได้เลยว่าสุดๆ" อาคาชิเอ่ยด้วยสีหน้าไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่นัก

    "แล้ว...ที่ว่าเคยถูกจับยัดกระสอบนั้นมันอะไรล่ะ?" อิสึกิถามขึ้นอย่างอยากรู้ตามรุ่น้องตนไป

    "พอดีเมื่อก่อนฉันกับอาคาเหมือนกันมากจนแทบแยกไม่ออกเลย...ตอนนั้นชินเคนซังมาตามอาคาอิกลับบ้านและเข้าใจผิดว่าฉันเป็นอาคาอิเลยลากฉันไปบ้านอาคาอิน่ะ แต่ตอนนั้นฉันยังเด็กเลยกลัวและไม่ยอมไปกับชินเคนซัง รายนั้นเลยจับฉันยัดใส่กระสอบซะงั้น" อาคาชิทำหน้าแหย่งๆ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้

    "แล้วจากงั้นเป็นไงต่อเหรอ?" ฟุริฮาตะถามตาใสแจ๋วปานลูกหมาน้อย

    "จากนั่นเหรอ? ..." อาคาชิคิ้วกระตุกน้อยๆ เมื่อนึกย้อนไป...ถ้าคนถามไม่ใช่โคกิเขาจะไม่พูดถึงมันอีกเลย!!! "...จากนั้นสักพักรู้สึกว่าชินเคนซังจะเจอตัวอาคาอิจริงๆ เข้า...และไม่รู้ว่าเพราะแยกไม่ออกหรืออะไร จึงจับอาคาอิยัดกระสอบมาอีกคนน่ะ จากนั้นกว่าจะโดนปล่อยออกมาก็ถึงที่บ้านอาคาอินั้นแหละ แถมพอถามยังบอกออกมาหน้าตาเฉยอีกว่า 'ช่วยไม่ได้ดันหน้าเหมือนกันเองนิ' อีก!"

    "www" คางามิหัวเราะลั่นเมื่อฟังที่อาคาชิเล่า

    "อุ๊บ! หึๆ..." คุโรโกะพยายามกลั่นขำท้องคักท้องแข็ง

    "พรืด! www" เหล่าทีมเซย์รินหัวเราะออกมาอย่างอดกลั่นไม่ไหว

    "เอ่อ...หัวเราะกันเข้าไป" อาคาชิเอ่ยอย่างเซ็งๆ ...ถ้าไม่ติดว่าเขาเห็นโคกิหัวเราะอย่างน่ากด เอ้ย! น่ารักออกมาด้วยล่ะก็มีรายการเชือดเรียงตัวแน่!

    "แต่ว่านั้นก็ไม่น่าทำให้คุณเกรงใจเขาได้นิครับ" คุโรโกะเอ่ยถาม หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ และทุกคนหยุดหัวเราะกันได้แล้ว

    "จะไม่เกรงใจเลย...ถ้ารายนั่นมีอีกสารพัดวิธีพิศดารลากคนกลับน่ะ!" อาคาชิไม่อยากนึกถึงคนชื่อชินเคนนั้นจริงๆ

    "เอ๋~~ ขนาดนั้นหรอครับ?" คุโรโกะมองอาคาชิอย่างแปลกใจนิดๆ

    "ใช่...และนายอย่ารู้เลยดีกว่า มันดีต่อสุขภาพจิตนายเอง" อาคาชิเอ่ยแบบว่าถ้ารู้เข้า...อาจมีคนสติลอยไปนอกโลกก็ได้

    "งั้นคุณอย่าบอกดีกว่า" คุโรโกะคิดว่าอะไรที่ทำให้อาคาชิ เซย์จูโร่พูดแบบนี้ได้เนี่ย...เกินขอบเขตการรับรู้ของเขาแน่

    หลังจากนั้นทุกคนก็พากันคุยไปเรื่อยเปื่อย...ซึ่งประเด็นหลักๆ คือเรื่องที่อาคาชิมาจีบฟุริฮาตะนั้นแหละไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโดนครูเวรมาไล่กลับบ้านกันนั้นแหละ

    ทุกคนพากันแยกย้ายกลับบ้านทันทีเพราะมันดึกแล้ว จนเหลือเพียงฟุริฮาตะกับอาคาชิเดินไปด้วยกันสองคน

    "อาคาชิ..." ฟุริฮาตะเอ่ยขึ้นมาระหว่างที่เดินมายังทางกลับบ้านตน

    "มีอะไรเหรอ?" อาคาชิถามกลับ

    "นาย...ทำไมยังชอบฉันล่ะ?" ฟุริฮาตะถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ

    "หื้อ? ยังไงล่ะ?" อาคาชิเลิกคิ้วมองคนผมสีน้ำตาล

    "ก็ฉันทั้งฟาดทั้งโยนกระเป๋าใส่นายนะ...ที่จริงเป็นคนอื่นคงโกรธจนหนีไปแล้วด้วยซ้ำ" ฟุริฮาตะไม่เข้าใจว่าทำไม...อีกฝ่ายถึงไม่โกรธเขากัน?

    "คิดว่าเรื่องอะไรสักอีก..." อาคาชิแย้มยิ้มพร้อมยื่นมือไปกุ่มมืออีกฝ่าย "...เหตุผลง่ายๆ คือ...ฉัน - รัก - นาย ไงล่ะโคกิ ต่อให้นายเอามีดมาแทงฉัน ฉันก็ไม่เกลียดนายหรอกน่า"

    "อ...อา..." ฟุริฮาตะเมื่อได้ยินคำตอบนี้ก็หน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที

    "เขินเหรอ?" อาคาชิยื่นหน้าเข้าใกล้

    "ป...เปล่าสักหน่อย!" ฟุริฮาตะเบ้หน้าหนี

    "แน่ใจนะ?" อาคาชิเริ่มแกล้งคนข้างกาย

    "ก...ก็...งื้อ..." ฟุริฮาตะก้มหน้าลงเพื่อปิดหน้าแดงๆ ของตน

    "อย่าก้มหน้าสิ...โคกิ..." อาคาชิใช้มืออีกข้างเชยคางฟุริฮาตะขึ้นมาสบตาตน

    "อ...อย่าจ้องกันสิ!" ฟุริฮาตะเอามือดันหน้าอีกฝ่ายออก...เสียแต่คนโดนดันหน้าดันคว้ามือนั้นมาจุมพิสราวเจ้าชายในนิทาน

    "เขินจริงๆ สินะ" อาคาชิยิ้มพร่าว

    "ร...เรื่องนั้นช่างฉันเถอะ! ล...แล้วอาคาชิไม่กลับบ้านหรือไง!?" ฟุริฮาตะชักเอาหน้ามุดดินชอบกล...โว้ย! ทำไมเขาเผลอฟาดไม้ฟาดมือใส่อาคาชิตลอดเลยเนี่ย!? ดีนะไม่โดนกรรไกรบิน (?) ปักหัวเอา!!! (นายไม่โดนหรอกน่า // s , ใช่...ฉันไม่มีวันทำร้ายโคกิหรอก // อาคาชิ)

    "พานายไปส่งบ้านก่อนแล้วฉันค่อยกลับก็ได้..." อาคาชิรู้สึกว่าชัก...อยากแกล้งลูกหมาน้อย (?) เพิ่มเป็นเท่าตัว

    "แต่..." ฟุริฮาตะกำลังจะเถียงกลับ แต่กลับโดนอีกฝ่ายเอานิ้วเรียวมาแตะริมฝีปากก่อน

    "คำพูดฉันเป็นเด็ดขาดนะ โคกิ" อาคาชิเริ่มเอามาดราชสีห์กลับเข้าร่างได้เอ่ยออกมา

    "ค...ครับ..."

    สุดท้ายอาคาชิก็พาฟุริฮาตะมาส่งบ้านก่อนที่จะกลับไปตามที่บอกแต่...ตอนเช้ามาอาคาชิก็มาดันฟุริฮาตะและเดินไปโรงเรียนด้วยกันราวกับกำลังตื้อให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลชินกับการมีตนอยู่ข้างๆ ...จะได้ไม่โดนอะไรฟาดเสียที

    จนกระทั่งในที่สุดหลังจากนั้นเดือนหนึ่งฟุริฮาตะก็หยุดที่จะฟาดทุกอย่างใส่อาคาชิเมื่อเขินมาเป็นเขินแบบคนปกติแทน

    และทั้งสองก็ทำตัวเหมือนแฟนกันมากขึ้นโดยเฉพาะอาคาชิที่มักส่งสายตาหึงหวงไปที่อาคาอิที่มักมาตามจีบฟุริฮาตะอย่างไม่ลดละนั้นเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     
    ขอคอมเม้นหน่อยก็ดีนะ...

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×