ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #78 : [HayaMiya] What is it?!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      34
      16 ม.ค. 58

    Title : What is it?!

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Hayama x Miyaji

    Notes : หมดมุข...นึกอะไรไม่ออก ฟิคนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่ใช้ฝึกฝีมือเฉยๆ (ซึ่งดูจะเท่าเดิมหรือไม่ก็ห่วยลงตลอดกาล) และอันนี้บอกก่อนนะว่ามีหลายคู่หลายตอน...ถ้าจะเริ่มอ่านโปรดทำใจสักนิด

    ................................................................

    What is it?!

     

    "นี่มันบ้าอะไรกัน?" เสียงนี้เป็นเสียงแรกที่หลุดออกจากปากเด็กหนุ่มตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาเด็กหนุ่มแทบจะสะดุ้งตกเตียง...เมื่อเห็นว่าภาพต่างๆ นั้นไม่ใช่ภาพห้องของเขาเอง! เขาอยู่ที่ไหนวะเนี่ย!?...

    ...และเด็กหนุ่มก็ได้คำตอบที่ทำให้สมองแทบหยุดทำงานเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจว่าจะไปล้างหน้าล้างตาก่อนค่อยคิดอีกที...แล้วมาเห็นภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาเข้า...

    ...ภาพที่สะท้อนมาเป็นภาพของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่เขาคุ้นหน้าดี เพราะเป็นคนรักของกัปตันทีมที่แฟนหน้ามึนของเขาสังกัดอยู่...แล้วเขามาอยู่ในร่างนี้ได้ไงฟะ!? ฮายามะมาเห็นเข้าคงงอแงใหญ่แน่! ส่วนอาคาชิจะมาฆ่าเขาไหมเนี่ย!?

    มิยาจิ คิโยชิที่มองร่างตนที่เปลี่ยนไปอย่างอึ้งๆ อยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัวและ...วิ่งไปยังบ้านของเขาเองเลย...

    ...เมื่อมาถึงบ้านของตนเอง ด้วยความใจร้อนมิยาจิเลยถีบประตูบ้านแทบพัง...ซึ่งไม่น่าพังง่ายๆ หรอกเพราะแม่เขาที่นิสัยประมาณเดียวกันเนี่ยก็ทำบ่อยๆ ก็ไม่ยักเห็นว่าพังสักที

    ...หลังจากถีบประตูบ้านเข้ามาก็มีคนสองคนลงมาจากชั้นสอง ซึ่งก็คือยูยะน้องชายเขากับ...ร่างของเขาเอง

    "ใครน..." ขณะที่ยูยะกำลังจะโวยก็เขาก็ส่งสายตาค้อนคมกริบให้เนื่องจากตอนนี้ไม่อยากเถียงกับน้องตัวอง จนยูยะต้องปิดปากเงียบ

    "นาย...ฟุริฮาตะใช่ไหม?" มิยาจิเอ่ยเสียงเครียด

    "ครับ...แล้วที่อยู่ในร่างผมเนี่ยมิยาจิซังใช่ไหมครับ?" คำพูดนี้เป็นตัวบ่งบอกว่าในร่างของคนผมสีน้ำผึ้งนั้นคือฟุริฮาตะ โคกิแน่แท้

    "เดี๋ยวๆ หยุดก่อน...นี่ตกลงอะไรกัน?" ยูยะถามขึ้นอย่างตามไม่ทัน

    "ยูยะ...ถ้าให้ตอบคือ...ฉันไม่รู้โว้ย! นายน่ะเงียบไปก่อนเลย! ยิ่งกลุ้มๆ อยู่!" มิยาจิในร่างฟุริฮาตะไม่ว่าเปล่ายังชกเข้าท้องอีกฝ่ายเต็มๆ ...ที่จริงปกติเขาสับหัวเอา แต่ในร่างนี้ความสูงไม่อำนวยเลยเปลี่ยนเป็นชกแทน

    "ปากกับมือไปพร้อมกันแบบนี้...พี่ชัวท์" ยูยะกุ่มท้องด้วยสีหน้าเยเกด้วยความจุก...

    "ตกลงใครรู้บ้างเนี่ย? ว่ามันเกิดบ้าอะไรกัน? แล้วไหงยูยะมันมีหูหางงอกออกมาฟะ? แต่งคอสเพลย์หรือไง?" มิยาจิถามขึ้นพลางมองไปยังทั้งสองคนตรงหน้า

    "คอสบ้าอะไรล่ะพี่! ไอ้นี่ของจริงเลย!!!" ยูยะโวยลั่นแต่มิยาจิก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่นัก เพราะมันเกิดประจำ

    "ใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ" ฟุริฮาตะยิ้มแห้งๆ

    "นายช่วยอย่ายิ้มหรือทำท่าใจดีได้เปล่า? ทำในร่างพี่แล้วหลอนชอบกล..." ยูยะอดเอ่ยออกมาไม่ได้...ซึ่งมิยาจิก็คิดแบบเดียวกันเพราะมันคนละขั้วเลย

    "เอ๋?" ฟุริฮาตะเอียงคออย่างน่ารัก...น่ารักจนมิยาจิรู้สึกรับตัวเองไม่ได้ชอบกล

    "อื้ม...ถ้าให้ไอ้หมาบ้ามาเห็นคงจะถ่ายรูปจนข้อมูลเต็มมือถือแน่" ยูยะเอ่ย

    "ฮายามะมันคงพุ่งเข้ามามากกว่า" มิยาจิเอ่ยอย่างรู้ในนิสัยคนรักตน

    กริ้ง...

    เสียงโทรศัพท์บ้านมิยาจิได้ดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยปัญหาที่ดูจะออกนอกเรื่องของทั้งสาม

    "ยูยะรับสายสิ" มิยาจิบอกผู้เป็นน้องตน

    "ทำไมต้องผมอ่ะ!" ยูยะเถียงกลับ...

    "เพราะฉันกับฟุริฮาตะสลับร่างกันอยู่ไงฟะ! จะให้คุยด้วยเสียงคนอื่นได้ไงฟะ!?" มิยาจิส่งสายตาประมาณว่า 'ไปรับโทรศัพท์เสียดีๆ ไม่งั้นจะแจกหมัดให้สักหมัดสองหมัด' ทำให้ยูยะจำใจต้องไปรับสายจนได้

    "โมชิโมชิ? บ้านมิยาจิครับ..." ยูยะเอ่ยเมื่อรับสายก่อนที่จะต้องรีบเอาหูโทรศัพท์ออกห่างจากหูเมื่อเสียงอันดังสนั่นลอดผ่านสายมา

    'แงๆๆๆๆ ขอสายมิยาจิซังที! ขอร้องล่ะ!!! แง~~~!!!' เสียงอันดังสุดยอดดังผ่านสายมาทำให้ทั้งสามนิ่งสนิกด้วยความซ็อกปนเหวอ...จะไม่ให้เป็นเช่นนี้ได้ไงล่ะในเมื่อเสียงที่ดังออกมามันเป็นเสียงของอาคาชิ เซย์จูโร่!

    "เอาสายมานี่สิยูยะ" มิยาจิคว้าหูโทรศัพท์จากน้องชายตนก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมา

    "ถ้าเล่นงี้ไม่ต้องบอกก็ได้มั้งพี่" ยูยะคิ้วกระตุกน้อยๆ กับการกระทำของพี่ตน

    "ก็อยากช้าเองนิ..." มิยาจิยักไหล่ก่อนที่พูดกับปลายสาย "...อาคาชิเกิดอะไรขึ้น? ไหงนายเสียงตื่นแบบนั้นล่ะ?"

    'อ่ะ! ชิวาว่าคุงอยู่บ้านมิยาจิซังได้ไงอ่ะ!?'

    "ห๊า?" มิยาจิในร่างฟุริฮาตะเผลอหลุดร้องออกมา...เมื่อกี้อาคาชิเรียกฟุริฮาตะว่าชิวาว่าคุง? ไอ้คำเรียกนี้มันของฮายามะคนรักเขานี่หว่า!? "นายไม่ใช่อาคาชิ หรือว่า...ฮายามะ!?"

    'อ่ะ! รู้ได้ไงอ่ะ!?'

    "ก่อนถามอะไรช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่าว่าทางนั้นมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมนายเสียงเหมือนอาคาชิได้?" มิยาจิเอ่ยถามอย่างหวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่ตนคิด

    'คือ...ฉันกลายเป็นอาคาชิไปแล้วอ่ะ! ไม่รู้กลายเป็นงี้ได้ไง! ตอนตื่นขึ้นมาตกใจเกือบซ๊อกตายแน่ะ! และไม่รู้จะทำไงเลยโทรมาบ้านมิยาจิซังเนี่ย! ชิวาว่าคุงช่วยอธิบายให้มิยาจิซังฟังหน่อยสิว่านี่คือฉัน! ไม่ใช่อาคาชิน่ะ!'

    "ฮายามะ..." มิยาจินวดขมับตนอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อมันกลายเป็นแบบที่คิดเป๊ะ "...ฉันไม่ใช่ฟุริฮาตะ...ฉันมิยาจิต่างหาก"

    'ห๊า!?' ปลายตะโกนเสียงดังจนเสียงลอดผ่านสายมาจนคนรอบข้างได้ยินชัดเจน 'จริงดิ!?...ไม่ใช่ว่าแกล้งฉันเล่นนะ!?'

    "ใครมันจะมีอารมณ์เล่นฟะ!?! ฉันมิยาจิ คิโยชิจริงๆ เฟ้ย!!! เดี๊ยวปั๊ดฆ่าทิ้งซะนิ!!!" มิยาจิตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างดัง...ดังมากด้วย

    '...' ปลายสายเงียบไปสักพัก...ถ้าให้เดาคงเพราะหูอื้อ ก่อนที่จะตะโกนเสียงดังลอดสายโทรศัพท์มา 'มิยาจิซัง! ไหงไปอยู่ในร่างชิวาว่าคุงได้ล่ะครับ!?'

    "จะไปรู้เหรอฟะ!? ตื่นมามันก็เป็นแบบนี้แล้ว!!!" มิยาจิเอ่ยอย่างหัวเสีย

    "เอ่อ...มิยาจิซัง...ผมขอพูดอะไรหน่อยนะครับ..." ฟุริฮาตะที่ดึงที่อุดหูออกแล้วขัดการสนทนาของมิยาจิกับฮายะมะ

    "มีอะไรว่ามาสิ..." มิยาจิไม่คิดว่าจะมีอะไรน่าปวดหัวกว่านี้แล้วล่ะ

    "ถ้าฮายามะซังอยู่ในร่างอาคาชิงั้นก็หมายความว่าอาคาชิเองก็น่าจะอยู่ในร่างฮายามะซังด้วย..." ฟุริฮาตะเอ่ยออกมา "...ถ้าลองให้อาคาชิช่วยอาจหาวิธีแก้ก็ได้นะครับ ยังไงช่วยกันคิดหลายๆ คนน่าจะดีกว่านะครับ"

    "ก็จริง..." มิยาจิเห็นด้วยกับฟุริฮาตะ ก่อนที่จะคุยกับคนในโทรศัพท์ต่อ "...ฮายามะช่วยประชุมสายกับอาคาชิที จะได้ช่วยกันคิดหาทางแก้ไอ้เรื่องบ้านี่กัน"

    'รับทราบครับ!' ฮายามะที่ใช้เสียงอาคาชิเอ่ย...มันฟังดูหลอนแปลกๆ สำหรับมิยาจิชอบกล ฮายามะเงียบไปสักพักก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง...เป็นเสียงของฮายามะ

    'นั่นใคร?' แค่เสียงที่เดาอารมณ์อีกฝ่ายออกทำให้มิยาจิรู้สึกหนาวนิด และคาดว่าฮายามะที่เป็นคนโทรไปคงแข็งเป็นหินไปแล้วแน่

    "อาคาชิ..." มิยาจิเอ่ยขึ้นก่อนที่อีกฝ่ายจะตัดสายไป "...อย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งนั้นและฟังฉันให้จบก่อน...คือตอนนี้ฉันว่าเราควรหาวิธีที่จะทำให้พวกเรากลับร่างเดิมมากกว่าให้นายทำเสียงปานจะฆ่าคนแบบนั้นและฉันมิยาจิไม่ใช่ฟุริฮาตะ เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมลักษณะการพูดเปลี่ยนไปเลย"

    '...นี่มันบ้าอะไรกัน' อาคาชิที่ใช้เสียงของฮายามะบ่นออกมาอย่างปวดจิต 'มิยาจิซังกับโคกิสลับร่างกันด้วย?'

    "ใช่เลย~~" มิยาจิก็รู้สึกปวดจิตไม่ต่างนั้นแหละ

    'คงไม่ใช่ว่าทุกคนสลับร่างกันหมดนะ...มิยาจิซังเจอใครที่ผิดปกติโทรมาอีกไหม?' อาคาชิถาม

    "ไม่...จะมีที่แปลกก็มีแต่น้องชายฉันอยู่ๆ มีหูกับหางหมาโผล่แค่นั้น" มิยาจิบอก

    'อื้ม...งั้นมิยาจิซังช่วยมารวมตัวกันที่โรงเรียนเซย์รินหน่อยครับ...ผมจะตรวจดูว่ามีใครผิดปกติอีกหรือเปล่า และถ้าให้ดีพาน้องชายมิยาจิซังมาด้วยนะครับ อ๋อ! และดูแลทั้งโคกิและร่างโคกิดีๆ นะครับ...ไม่งั้นต่อให้เป็นมิยาจิซังผมก็ไม่มีทางยอมแน่' อาคาชิเอ่ยอย่างมีเหตุผลและ...เอ่ยเสียงเย็นปานฆาตกรโรคจิตในตอนท้ายด้วย

    "เอ่อ...เข้าใจล่ะ" มิยาจิเหงื่อตกนิดๆ ...นี่หมอนี่เป็นโรคหวงแฟนระยะสุดท้ายหรือไงฟะ!? โหดจริง!

    'ขอบคุณที่เข้าใจครับ...ตอนนี้ผมขอสายโคกิหน่อยครับ'

    "โอเค..." มิยาจิกวัดมือเรียกคนที่อยู่ในร่างของตน "...ฟุริฮาตะ อาคาชิจะคุยกับนายแหน่ะ..."

    "อาคาชิเหรอครับ?" ฟุริฮาตะถาม มิยาจิก็พยักหน้าตอบทันที เจ้าตัวเลยรับสายตามที่อีกฝ่ายเรียก "...อาคาชิ?"

    หลังส่งสายไปให้ฟุริฮาตะ สองพี่น้องมิยาจิก็รอให้อีกฝ่ายพูดสายเสร็จ และเมื่อฟุริฮาตะวางสายไปมิยาจิ คิโยชิก็เอ่ยสั่งออกมาทันที "สรุปคือว่าพวกเราต้องไปเซย์รินดังนั้น...พวกนายรีบไปแต่งตัวเลย และห้ามไปในสภาพซกมกเด็ดขาดโดยเฉพาะฟุริฮาตะเข้าใจไหม!?"

    และหลังนั้นฟุริฮาตะและยูยะก็สลายโต๋ไปอาบน้ำแต่งจัวด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะพากันเดินออกจากบ้านไปยังโรงเรียนมัธยมปลายเซย์รินทันที

     

     

     

     

     

    ทางฮายามะที่สายโทรศัพท์ถูกวางไปแล้วและเห็นข้อความที่ถูกส่งมาหลังจากที่โดนวางสายไปแล้วสักพัก ก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมที่จะออกไปยังจุดหมายที่อาคาชินัดไว้...

    ...ย้อนความสักนิ...ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาเขาก็แค่นึกงงว่าที่นี่ที่ไหน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งมาส่องกระจกนี้แหละที่เขาแทบแต๋วแตก (?) เมื่อภาพที่สะท้อนมาไม่ใช่ภาพเขาเอง!!!

    ...ภาพที่สะท้อนมาเป็นภาพเด็กหนุ่มผมสีแดงสวย นัยน์ตาสองสีดูน่ากลัวฉายแววตนตะลึงตามอารมณ์ของเจ้าของ...

    ...นี่มันบ้าอะไรกัน!? ทำไมเขากลายเป็นอาคาชิไปได้!!!...

    ...เขาซ็อกจนแทบจะกลายเป็นรูปปั้นในห้องน้ำก่อนที่จะดึงสติกลับมาได้แล้ว...โทรหามิยาจิ คิโยชิแฟนเขาทันที เพราะมันเป็นเบอร์เดียวที่เขาจำได้โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลเลย...อีกอย่างตอนนี้เขานึกอย่างอื่นไม่ออกแล้ว!

    ...แต่เมื่อโทรเข้ามือถือแล้วไม่มีคนรับสาย เขาจึงโทรไปยังเบอร์บ้านแทนซึ่งคราวนี้มีคนรับ

    'โมชิโมชิ? บ้านมิยาจิครับ...' เสียงของมิยาจิ ยูยะน้องชายของคนรักเขาดังผ่านสายมา

    "แงๆๆๆๆ ขอสายมิยาจิซังที! ขอร้องล่ะ!!! แง~~~!!!" ฮายามะที่ตอนนี้แทบน้ำตาแตกแล้วร้องเรียกขอายคนรักตนอย่างไม่กลัวโดนเจ้าของร่างตัวจริงกลับมาไล่ฆ่าเอาทีหลัง

    '...อาคาชิเกิดอะไรขึ้น? ไหงนายเสียงตื่นแบบนั้นล่ะ?'

    "อ่ะ! ชิวาว่าคุงอยู่บ้านมิยาจิซังได้ไงอ่ะ!?" ฮายามะรู้สึกแปลกใจที่เสียงที่พูดกลับมากลับเสียงของฟุริฮาตะ โคกิที่เขาให้ฉายาว่าชิวาว่าคุงนั้นเอง

    'ห๊า?' เสียงปลายสายดูงุนงงเล็กน้อย 'นายไม่ใช่อาคาชิ หรือว่า...ฮายามะ!?'

    "อ่ะ! รู้ได้ไงอ่ะ!?" ฮายามะเอ่ย...ถึงแม้คิดว่าการพูดของอีกฝ่ายแปลกไปเหมือนกับมิยาจิซังก็เถอะ

    'ก่อนถามอะไรช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่าว่าทางนั้นมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมนายเสียงเหมือนอาคาชิได้?'

    "คือ...ฉันกลายเป็นอาคาชิไปแล้วอ่ะ! ไม่รู้กลายเป็นงี้ได้ไง! ตอนตื่นขึ้นมาตกใจเกือบซ๊อกตายแน่ะ! และไม่รู้จะทำไงเลยโทรมาบ้านมิยาจิซังเนี่ย! ชิวาว่าคุงช่วยอธิบายให้มิยาจิซังฟังหน่อยสิว่านี่คือฉัน! ไม่ใช่อาคาชิน่ะ!" ตอนนี้ฮายามะรู้สึกว่าตาขวาชักกระตุกแล้วสิ...คงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอกนะ...

    'ฮายามะ...ฉันไม่ใช่ฟุริฮาตะ...ฉันมิยาจิต่างหาก'

    "ห๊า!?" ฮายามะเผลอตะโกนออกมาเสียงดัง...อย่าบอกนะว่าเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ!? "จริงดิ!?...ไม่ใช่ว่าแกล้งฉันเล่นนะ!?"

    'ใครมันจะมีอารมณ์เล่นฟะ!?! ฉันมิยาจิ คิโยชิจริงๆ เฟ้ย!!! เดี๊ยวปั๊ดฆ่าทิ้งซะนิ!!!' เสียงตะโกนจากปลายโทรศัพท์ดังออกมาอย่างดัง...ดังมากด้วย

    "..." ฮายามะเงียบสักพักเพราะหูอื้อ ก่อนที่จะตะโกนกลับไปด้วยความตกตะลึง "มิยาจิซัง! ไหงไปอยู่ในร่างชิวาว่าคุงได้ล่ะครับ!?"

    ...โอ๊ย! จะบ้าตาย! นี่ตกลงสลับร่างกันหมดหรือเปล่าเนี่ย!?...

    'จะไปรู้เหรอฟะ!? ตื่นมามันก็เป็นแบบนี้แล้ว!!!' ปลายแว๊ดใส่ก่อนที่จะเงียบไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยต่อ '...ฮายามะช่วยประชุมสายกับอาคาชิที จะได้ช่วยกันคิดหาทางแก้ไอ้เรื่องบ้านี่กัน'

    "รับทราบครับ!" ฮายามะขานรับก่อนที่จะกดประชุมสายกับกัปตันทีมตน...ที่ถ้าให้เดาคงอยู่ในร่างเขานั้นแหละ

    'นั่นใคร?' แค่เสียงที่เดาอารมณ์อีกฝ่ายออกทำให้ฮายามะที่เป็นคนโทรไปคงแข็งเป็นหินไปแล้ว

    ...หลังจากนั้นฮายามะก็พักบทสนทนาต่างๆ อย่างเงียบๆ ไปเรื่อยๆ จนถูกตัดสายนี่แหละ...จบการย้อนความ

    เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินไปยังจุดหมายตามที่กัปตันทีมตนนัดไว้ โดยต้องเก๊กหน้าเลียนแบบอาคาชิไว้จนแทบเหน็บกินเพราะเพิ่งสำนึกได้ว่าถ้าทำตัวหลุดในหน้านี้โดนอาคาชิฆ่าทิ้งแน่!

    และเมื่อเดินมาถึงจุดหมายเขาก็เจอร่างของตนเอง...ซึ่งก็คืออาคาชิ เซย์จูโร่นั้นเองจึงรีบวิ่งเข้าหา "อาคาชิ!"

    "โคทาโร่...อย่าทำหน้าฉันเสียแบบนั้นได้ไหม?" อาคาชิทำหน้ารับไม่ได้

    "โทษทีๆ ก็มันเผลอน่ะ..." ฮายามะเอ่ย "...ก็ฉันเก๊กหน้าเป็นนายมาตลอดทางจนหน้าจะชาแล้ว! นายทำหน้านิ่งทุกวันได้ไงเนี่ย!?"

    "เขาเรียกว่ามาดไม่ใช่เก๊ก...และนายก็ควรฝึกไว้บ้างก็ดีนะ" อาคาชิส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

    "โคทาโร่! อาคาชิ!" เสียงของเนบุยะดังขึ้น ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองหันไปมองและ...แทบหลุดขำ

    "เอย์อิจิ...ทำไมนายซีดเป็นคนป่วยแบบนั้นล่ะ?" อาคาชิมองลูกทีมตนที่เมื่อก่อนผิวออกสีเข้ม...แต่ตอนนี้กลับซีดขาวดังคนป่วย

    "ไม่รู้มันเป็นเอง...แล้วเมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?!" เนบุยะคิ้วกระตุกยิกๆ ...คล้ายกับไม่เคยชิน "แล้วอาคาชิเป็นอะไรล่ะนั้น?!"

    "www โทษทีๆ พอดีนายดูขำไปหน่อยน่ะ...พอเอย์จังซีดแบบนี้แล้วดูไม่จืดเลย! www" ฮายามะในร่างคนผมแดงหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่

    "อ...อาคาชิ? นายไม่สบายหรือเปล่า?" เนบุยะถึงกับเหวอเมื่อกัปตันทีมสุดโหดของตนหัวเราะออกมาแบบนี้

    "โคทาโร่..." เสียงเย็นๆ จากคนผมสีคาราเมลทำให้ทุกคนหนาวสะท้านไปทั่ว "...ถ้านายยังทำหน้าฉันหลุดมาดอยู่ล่ะก็...จบเรื่องนี้เมื่อไหร่เจอแน่"

    "อุ๊ย! ขอโทษครับ..." ฮายามะหง่อยลงทันที

    "ใครก็ได้...บอกทีว่านี่มันอะไร?..." เนบุยะที่ตามเรื่องต่างๆ ไม่ทันทำหน้าเหมือนคนกินยาขม

    "ไว้มาครบแล้วค่อยบอก..." อาคาชิในร่างคนผมสีคาราเมลเอ่ย

    "เอ่อ...ก็ได้..." เนบุยะที่ไม่รู้ว่าที่พูดอยู่นั้นไม่ใช่เพื่อนตนรู้สึกหนาวแปลกๆ

    "เซย์จาง~~~" เสียงเล็กๆ ที่ไม่คุ้นหูดังมาทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ต้นเสียง

    "เฮ้ย!!!" เนบุยะกับฮายามะแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น...

    ...เมื่อร่างที่วิ่งมานั้นคือเด็ก...เอ่อ...ชายหรือหญิงไม่รู้เพราะเล่นสวมชุดแบบที่ใส่ได้ทั้งชายและหญิงเลย แต่จากคำเรียกเมื่อกี้เดาได้ไม่ยากว่า...นี่คือมิบุจิ เรโอะ ซึ่งมาพร้อมกับชายที่สวมชุดมิดชิดจนไม่เห็นผิวหรือแม้แต่เส้นผมโผล่ออกมาเลย...ถ้าให้เดาคนคนนี้คงจะเป็นมายุสุมิ จิฮิโระคนรักของเจ้าตัวนั้นแหละ

    "เรโอะเหรอ!?" เนบุยะถามเหมือนจะย้ำให้แน่ใจว่าเด็กน้อยนี้คือเพื่อนตน...ถึงโคร่งหน้าโดยรวมมันคือเพื่อนเขาก็เถอะ

    "จ้าาาา" มิบุจิตอบอย่างลั้นล้าราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับการที่ตนกลายเป็นแบบนี้เลยสักนิด

    "มากันครบแล้วก็เข้าไปด้นในเถอะ..." อาคาชิเมื่อเห็นทุกคนมากันครบแล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงรีบลากทุกคนเข้าโรงยิมไปในทันที

    ณ โรงยิมอันเงียบสงบ เพราะไม่มีใครมาในวันหยุดเช่นนี้...เหล่าตัวจริงทีมราคุซันต่างมานั่งล้อมวงกันราวจะมาเล่าร้อยเรื่องผีงั้นแหละ

    "เอ้า! ตกลงนายเรียกพวกเราทำไมเหรอ?! โคทาโร่!? แล้วไหงเรโอะมันกลายเป็นงี้ได้!" เนบุยะเอ่ยถามขึ้นเป็นคนแรก

    "เฮ้อ..." อาคาชิในร่างฮายามะกวาดตามองลูกทีมตนอย่าง...ปวดขมับกับเรื่องที่เกิดขึ้น "...ฉันไม่ใช่ฮายามะ...ฉันอาคาชิต่างหาก"

    "ห๊า!?" เหล่าตัวจริงทั้งสามมองคนผมแดงสลับกับคนผมคาราเมล "จริงดิ!?"

    "ใช่เลย!" ฮายามะตอบอย่างลั้นล้า...เพราะจากที่ดูเขาไม่ได้เจอเรื่องหน้าปวดหัวคนเดียว ยิ่งมีคนร่วมด้วยช่วยคิดยิ่งดี!

    "นี่มันอะไรกัน..." เสียงมายุสุมิดังขึ้นบ่งบอกว่าชักอยากเป็นลมกับเรื่องนี้

                    "แล้วคุณคิ้วบางไหงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ!? อากาศก็ไม่ได้หนาวมากสักหน่อย..." ฮายามะถาม

    "อย่าใช้หน้าอาคาชิทำแบบนี้สิฟะ! หลอนเฟ้ย!" มายุสุมิแทบถีบหน้าระรื่นของอีกฝ่าย...ถ้าไม่ติดว่าเจ้าของร่างตัวจริงยังนั่งจ้องอยู่อ่ะนะ "ส่วนที่แต่งตัวแบบนี้ก็..."

    "เฮ้ย!!!" ฮายามะกับเนบุยะถึงกับหลุดร้องเสียงหลง เมื่ออีกฝ่ายถอดเสื้อที่คลุมอยู่ออกทำให้เห็นว่า...ร่างอีกฝ่ายนั้นใสจนมองทะลุได้!!!

    "ก็อย่างที่เห็น...ฉันตัวใสแบบนี้แหละเลยต้องใส่เสื้อปิดไว้" มายุสุมิถอนหายใจ

    "นี่มันบ้าชัดๆ" เนบุยะรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ตัวเขาเปลี่ยนแค่สีผิว

    "ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้วสิ..." อาคาชิตอนแรกกะว่าถ้าคนอื่นไม่ได้เป็นไรก็กะจะจัดการเองแต่แบบนี้...คงต้องลองโทรหาคนรู้จักทั้งหมดแล้วมั้ง? "...เอาเป็นว่าตอนนี้เราต้องไปโตเกียวเพื่อไปปรึษากับคนอื่นๆ เรื่องนี้...เข้าใจไหม?"

    "นอกจากเรามีคนอื่นเป็นด้วยเหรอ?" มิบุจิถาม

    "มีชิวาว่าคุงสลับร่างกับมิยาจิซัง และยูยะมีหูหางหมาโผล่มาฮ้าฟ" ฮายามะบอก

    "เดี๋ยวฉันกำลังจะตรวจดูอยู่...ว่ามีใครโดนอะไรอีกไหม ระหว่างที่เดินกันไปนี่แหละ..." อาคาชิเอ่ยพร้อมต้อน (?) เหล่าตัวจริงทีมราคุซันไปยังสถานีรถไป พร้อมกดมือถือโทรไปยังเบอร์เพื่อนของตน...ซึ่งใช้มือถือฮายามะนั้นแหละ โทรหาและบอกให้ไปรวมที่เซย์รินทีละคนๆ จนครบ จากนั้นก็พากันขึ้นชินคันเซ็นไปยังโตเกียว

    เมื่อมาถึงยังโรงเรียนมัธยมปลายเซย์ริน ฮายามะก็รีบพุ่งเข้ากอดคนรักตนในร่างคนผมสีน้ำตาลทันที จากนั้นก็ค่อยมาคุยกันเรื่องชวนปวดหัวนี้ที่เป็นกันครบทีมที่อดีตทีมปาติหาริย์อยู่ในตอนนี้เลย

    จนสุดท้ายก็ได้รู้ว่าเรื่องชวนปวดหัวนี้มาจากความอยากแกล้งคนของคนเขียนทำให้สุดท้ายก็ต้องทนกันไปเพราะทำอะไรไม่ได้ และแยกย้ายกันไปตามที่พ่อของโค้ชทีมเซย์รินจัดให้นั้นเอง

     

     

     

     

     

    "ให้ตายเถอะ...ซวยชะมัด!" เสียงบ่นดังมาจากปากของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลไม่ขาดสาย โดยข้างๆ มีเด็กหนุ่มผมแดงนั่งอยู่

    หลังจากที่แยกกันจากเมื่อถกเรื่องปัญหาช่วยจิตตกและพาคนที่อยู่ใน 'ร่าง' ของพวกเขาไปส่งบ้านแล้ว ตัวเขา...มิยาจิ คิโยชิซึ่งมาอยู่ในร่างของฟุริฮาตะ โคกิกับฮายามะ โคทาโร่ที่อยู่ในร่างของอาคาชิ เซย์จูโร่ก็พากันมายังบ้านของคนที่เขามาอยู่ในร่างในตอนนี้ และเข้ามาล็อกบ้านนั่งดูทีวีในห้องรับแขกเช่นนี้แหละ

    "อย่าเครียดสิครับมิยาจิซัง...เดี๋ยวก็กลับคืนร่างแล้วน่า~~ ชิโกะขี้เกียจจะตายคงไม่เขียนให้สลับร่างหลายวันนักหรอก (ว่ากันได้นะยะ!!! // s)" ฮายามะพุ่งเข้ากอดอีกฝ่าย

    "ไอ้นั้นไม่เถียง (เถียงหน่อยก็ได้น่า!!! // s) ...แต่นายอย่ามากอดฉันในร่างนี้ได้ไหมฟะ!? สยองเฟ้ย!!!" มิยาจิถีบร่างผมแดงตกโซฟาอย่างอดไม่ได้

    "เจ็บนะคร้าบบบ~~~" ฮายามะยังคงสปิริตความเป็นซอมบี้ (?) รีบลุกขึ้นมากอดมิยาจิต่อทันที

    "อย่ามาใกล้เลยเฟ้ย!!!" มิยาจิดันหน้าอีกฝ่ายออก...เสียแต่ในตอนนี้ทั้งเขาทั้งฮายามะอยู่ในร่างที่ความสูงไม่ต่างกันมากนัก เลยทำให้ฮายามะมุดเข้ามากอดได้ง่ายกว่าเดิม "ขนาดอยู่ในร่างนี้ยังมีอารมณ์มาเล่นแบบนี้อีกนะ!!!"

    "อยู่ในสภาพไหนผมไม่สน แค่ได้อยู่กับมิยาจิซังก็เอาล่ะครับ!!!" ฮายามะพูดด้วยสีหน้าที่ทำให้คนมองเหมือนเห็นหูกับหางโผล่ออกมาเลยทีเดียว

    "อ...ไอ้...ไอ้หมาบ้าเอ้ย!!! ไปไกลๆ เลยเฟ้ย!!!" มิยาจิถีบอีกฝ่ายจนกลิ้งกลุดๆ ไปชนผนังทันทีด้วยใบหน้าที่เริ่มร้อนพร่าวขึ้นมา...

    ...ยื้อ! ไม่อายบ้างหรือไงฟะ!!! พูดออกมาได้หน้าตายเฉย!!! แล้วทำไมฉันต้องมาเขินกับคำพูดแกด้วยห๊า!?! โว้ยยยย!!! อยากตื้บมันเฟ้ย! แต่มันอยู่ในร่างอาคาชิเลยตื้บมากไม่ได้ (?) !!!...

    "มิยาจิซางงง~~~" ฮายามะที่คืนชีพเร็วตามเคยกระดึบๆ กลับมาหามิยาจิ โดยกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังแล้วเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ "เขินเหรอครับ?"

    "ใครเขินกัน!!! ไม่มี!!!" มิยาจิเบ้หน้าหนี

    "อาาา อย่าหันหน้าหนีสิครับ~~~" ฮายามะโอดครวญก่อนทีจะ...

    "เฮ้ย! ทำบ้าอะไรของนายห๊า!? ฮายามะ!!!" มิยาจิแว๊ดใส่อีกฝ่ายเมื่อริมฝีปากอุ่นๆ ประทับลงบนคอตน

    "จูบครับ" ฮายามะตอบหน้าตาเฉย

    "ไอ้บ้า! ตอบได้หน้าไม่อาย! ...เล่นมาสร้างรอยแบบนี้ไม่กลัวโดนอาคาชิฆ่าหรือไง!?" มิยาจิชักอยากแงะสมองอีกฝ่ายมาดูแล้วสิว่าด้านในยัดอะไรไว้

    "กลัวครับ แต่ในร่างนี้คงไม่เป็นไรมั้งครับ" ฮายามะตอบตามจริง...ก็กัปตันทีมเขาโหดตายชัก

    "เป็น...เป็นแน่...เป็นอย่างแน่นอนที่สุด! ถ้าอาคาชิเอาเรื่องแกขึ้นมาฉันไม่ช่วยนะโว้ย!!!" มิยาจิสับกบาลอีกฝ่ายอย่างแรงจะได้สำนึกขึ้นมาบ้าง...เขายังไม่อยากไปเยี่ยมแฟนตัวเองในโรง'บาลหรือโลงหรอกนะ!!!

    "เจ็บอ่ะ..." ฮายามะกุ่มหัวน้ำตาปริ่มอย่างน่าสงสาร และส่งสายตาลูกหมามาให้ "...มิยาจิซัง~~~"

    "เฮ้อ..." มิยาจิถอนหายใจอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ พร้อมลูบหัวอีกฝ่าย "...นายนี่น้า...เลิกทำตัวเป็นเด็กๆ สักทีเถอะ"

    "ผมไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กสักหน่อย! ผมไม่ใช่มุราซากิบาระนะ!!!" ฮายามะท้วงพร้อมกับ...ซุกมิยาจิราวแมวน้อย (จะเป็นหมาหรือแมวเลือกสักอย่างสิ // s , ถ้าได้อ้อนมิยาจิซัง...เป็นหมาหรือแมวก็เอา // ฮายามะ)

    "เอ้อ ไม่เถียง..." มิยาจิยอมรับว่ามุราซากิบาระทำตัวเด็กกว่าคนรักตน "...แต่นายก็ควรทำตัวให้ดีกว่านี้หน่อยนึงนะ...แค่พอมีมาดบ้างก็ได้ ไม่งั้นพอเรียนจบไปหางานไม่ได้แน่..."

    "อาคาชิก็บอกแบบนี้เหมือนกันครับ" ฮายามะอดรู้สึกไม่ได้ว่า...เขาต้องไปฝึกให้มีไอ้มาดอะไรนั้นจริงๆ สิ?

    "ก็สมควร" มิยาจิกรอดตา

    "มิยาจิซังอ่ะ!" ฮายามะทำแก้มป่อง "ถึงผมจะเป็นแบบนี้ผมหางานดีพอเลี้ยงมิยาจิซังได้ตลอดชีวิตแน่นอน!"

    "เลี้ยงตัวเองให้รอดก่อนเถอะ แค่ปกตินายก็ไม่เก็บห้องตัวเองแล้ว...และใครอยากให้นายเลี้ยงกันห๊า!?" มิยาจิแทบจะถีบอีกฝ่ายตกโซฟาอีกรอบ

    "ถึงมิยาจิซังไม่อยาก แต่ผมอยากนี่ครับ..." ฮายามะยิ้มแฉ่ง "...รับรองว่าผมไม่ทำให้มิยาจิซังผิดหวังแน่นอน และจะรับผิดชอบให้มิยาจิซังอยู่สบายตลอดชีวิตด้วย"

    "อย่าพูดเหมือนขอแต่งงานสิวะ!!!" มิยาจิในตอนนี้หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว จนเจ้าตัวต้องเอาหน้าซุกหมอนปิดหน้าแดงๆ ของตนเอง

    "ไม่ได้พูดเหมือนสักหน่อยครับ...พอเรียนจบผมกะจะขอมิยาจิแต่งงานจริงๆ นะครับ" ฮายามะดึงหมอนที่มิยาจิเอาปิดหน้าออก...คล้ายอยากแกล้งมิยาจิที่นานๆ ทีจะมีโอกาส

    "ใครจะแต่งกับแกวะ!?" มิยาจิดันหน้าอีกฝ่าย

    "มิยาจิซังไงครับ..." ฮายามะยิ้มเจ้าเล่ห์ "...และถึงมิยาจิซังหนียังไง ผมก็จะไปตามตื้อจนกว่ามิยาจิซังจะยอมเลยล่ะครับ~~~"

    "อ...ไอ้บ้าเอ้ย!!!" มิยาจิถีบฮายามะ...แรงเสียด้วย เพราะคนโดนถีบมีรอยบาทาติดอยู่อย่างเห็นได้ชัด

    "แอ๊บ! เจ็บครับ..." ฮายามะที่ว่าอึดยังชักกระแด๊กๆ อยู่สักพักก่อนที่จะกระดึบกลับมาได้อีกครั้ง "...มิยาจิซังนี่เขินโหดจังนะครับ"

    "ใครเขินฟะ!? อยากโดนอีกรอบใช่ไหม?" มิยาจิยกเท้าเตรียมถีบ

    "ไม่ครับ!!!" ฮายามะตอบอย่างรวดเร็ว พร้อมทำท่าอ้อนตามสูตรการง้อภรรยาที่สุดแสนจะบูชา (?)

    "...ไม่รู้จะว่าไงกับนายจริงๆ" มิยาจิส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนมองไปยังนาฬิกาที่เข็มสั้นกำลังเคลื่อนไปยังเลขสิบสอง "เที่ยงแล้วแฮะ...มีอะไรกินบ้างหรือเปล่าเนี่ย?"

    มิยาจิเดินไปยังห้องครัวโดนพวงฮายามะมาด้วย เด็กหนุ่มลองเปิดตู้เย็นดูก็เห็นว่าพอมีพวกของสดให้ทำกินได้...และจากนั้นก็พากันทำอาหารเที่ยงตามปกติ

     

     

     

     

     

    "ไม่ยักรู้นะครับว่ามิยาจิซังทำกับข้าวเป็นด้วย" ฮายามะเอ่ยขณะที่กำลังเขี้ยวข้าวเต็มปาก

    "พูดแบบนี้อยากมีเรื่องกันใช่ไหม?..." มิยาจิค้อนใส่อีกฝ่าย "...และนายก็อย่าพูดขณะที่ของกินเต็มปากสิฟะ! มีมารยาทบ้าง!"

    "อุ๊ย!...ขอโทษครับ..." ฮายามะรีบกลืนของกินในปากจนแทบติดคอ "...และที่พูดเนี่ยผมเปล่าหาเรื่องนะ! แค่ปกติผมเห็นแต่ยูยะเข้าครัวคนเดียวเลยนิ!"

    "ก็นายมาแต่ละทีเป็นเวรทำข้าวเย็นของยูยะมันทุกทีเลยนิ" มิยาจิหยักไหล่

    จากนั้นทั้งสองก็กินข้าวเที่ยงกันไปเรื่อยๆ จนหมด มิยาจิก็ไล่ฮายามะไปห้องนั่งเล่นแล้วเอาจานไปล้าง...พอเสร็จและเดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นก็ทำให้มิยาจิเส้นเลือดปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อ...

    "ฮายามะ! นายทำอะไรของนายฟะ!?" มิยาจิอยากจะบ้าเมื่อเห็นกองข้าวของที่ถูกรื้อออกมาว่างกองไว้กับพื้น แถมไม่ใช่กองน้อยๆ ด้วย! มันเล่นรื้อมาแทบทั้งห้อง!

    "ลองรื้อหาว่ามีอะไรพอให้เล่นได้หรือเปล่าอ่ะครับ..." ฮายามะตอบตาแป๋ว

    "ช่วยสำนึกหน่อยว่านี้ไม่ใช่บ้านนายน่ะ!!! แบบนี้ฟุริฮาตะกลับมาเห็นได้ลมจับแน่!!! รีบเก็บเลยนะ!!!" มิยาจิไม่ว่าเปล่ายังเขกหัวอีกฝ่ายทีหนึ่งด้วยก่อนที่จะรีบเก็บของที่กระจัดกระจายในห้องทันที

    การเก็บกวาดห้องดำเนินไปนานจนถึงช่วงเย็น...ที่จริงก็ไม่น่าจะนานขนาดนี้หรอกถ้าไม่ติดที่...

    "มิยาจิซังดูนี่สิครับ!" ฮายามะหยิบเอาสมุดบางอย่างออกมาให้คนที่กำลังก้มเก็บของอยู่ดู "มีรูปที่คล้ายอาคาชิด้วยแหน่ะ!!!"

    "อย่ามั่วเล่นสิฟะ!!! เอาไปเก็บเลย!!!" มิยาจิแว๊ดใส่อีกฝ่ายที่ตลอดการเก็บกวาดนี้เอาอะไรต่อมิอะไรมาให้เขาดูเนี่ย!!! แล้วไหงห้องนั่งเล่นบ้านหมอนี่มันมีของยัดอยู่เยอะจังวะ! ห้องก็ไม่ได้ใหญ่มากนะ! จะเก็บของปานโกดังแบบมิโดริมะเหรอ!?

    "ไม่อ่าววว มิยาจิซังมาดูด้วยกันก่อนสิ~~~ ผมว่านี่เหมือนอาคาชิมาเลยนะ!" ฮายามะทำท่าออดอ้อนใส่มิยาจิ

    "ฮายามะ...ขอล่ะ...อย่าทำท่านั้นในร่างอาคาชิได้ไหมฟะ!? หลอนเฟ้ย!!!" มิยาจิถึงพยายามอดใจไม่ให้หลอนกับคนรักตนในร่างคนผมแดงก็เถอะ...แต่มันอดไม่ได้จริงกับไอ้การเห็นหน้าอาคาชิทำท่าแบบนี้!!! มันไม่ชินเฟ้ย!!!

    "ว่าแต่ผม...มิยาจิซังก็พอๆ กันนั้นแหละ" ฮายามะเอ่ยพร้อมพุ่งเข้าเกาะหนึบที่แขนอีกฝ่าย

    "เอ่อๆ" มิยาจิไม่เถียงว่าตนก็ทำร่างคนอื่นเสียลุดก์เหมือนกัน "แล้วนายจะให้ดูรูปอะไรล่ะ?"

    "นี่ไงครับ!" ฮายามะเปิดสมุดภาพให้คนรักตนดูรูปที่อยู่ภายใน...

    ...รูปในนั้นมีรูปที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเด็กน้อยผมสีนำตาลหรือก็คือรูปวัยเด็กของฟุริฮาตะ โคกิที่มิยาจิมาอาศัยร่างอยู่ในตอนนี้นั้นเอง ทุกภาพเป็นภาพเดี่ยวของเจ้าตัว เว้นเพียงภาพหนึ่ง...ที่ฟุริฮาตะยืนอยู่ข้างๆ เด็กผมแดงที่ให้ความรู้สึกคล้ายอาคาชิมากเหลือเกิน ทั้งคู่อยู่ในชุดนักเรียนแบบเดียวกัน คาดว่าคงจะเป็นเพื่อนร่วมห้อง

    "อื้ม...เหมือนจริงๆ ...แล้วนายไปเอามาจากไหนเนี่ย?" มิยาจิขึ้นเมื่อมองภาพ...ที่ดูเหมือนจะไม่ได้เปิดดูมานานมากแล้วเพราะกระดาษเริ่มที่จะติดกันแล้ว

    "เจอมันติดอยู่หลังตู้ฮ้าฟ" ฮายามะตอบคนรักตน

    "แสดงว่าฟุริฮาตะคงทำหายนานแล้วสินะ..." มิยาจิจ้องภาพเหมือนติดใจบางอย่าง "...ฮายามะ...มีแว่นขยายไหม?"

    "เอ๋? ไม่มีหรอกครับ แต่เหมือนว่าเมื่อกี้เห็นอยู่ครับ..." ฮายามะเอียงคอมองมิยาจิ "...จะเอามาทำไมเหรอครับ?"

    "แค่สงสัยอะไรนิดหน่อยน่ะ..." มิยาจิบอกพร้อมเดินไปรื้อหาแว่นขยายตามจุดที่ฮายามะบอก "...พอดีในภาพเห็นว่ามีป้ายชื่อติดที่กระเป๋าเด็กผมแดงนั่นด้วย เลยอยากรู้ว่าใช่อาคาชิจริงๆ หรือเปล่าน่ะ"

    "งั้นผมช่วยนะครับ!" ฮายามะที่ต่อมอยากรู้เริ่มทำงานช่วยมิยาจิหาแว่นขยาย หากันอยู่สักพักก็ค้นจนเจอในที่สุด

    เด็กหนุ่มทั้งสองไม่รอช้ารีบเอามาส่องที่ภาพถ่ายทันทีราวกับจะมองหาเลขหวย...และนั้นก็ทำให้ทั้งคู่ก็ได้คำตอบที่พวกตนสงสัย เมื่อตัวหนังสือที่เขียนบนป้ายชื่อในภาพนั้นคือ...

    ...อาคาชิ เซย์จูโร่...

    "สรุปว่านี้คืออาคาชิจริงๆ?" ฮายามะมองภาพนั้นอย่างงุนงง "แต่ตอนที่ผมเห็นว่าอาคาชิจีบชิวาว่าคุงดูเหมือนจะรู้จักกันครั้งเลยนะ!"

    "ฉันว่ามันคงไม่ได้เจอกันนานมากจนลืมว่าเคยเจอกันทั้งคู่ล่ะมั้ง?" มิยาจิลองเดาดู เพราะเขาไม่รู้หรอกว่ามันเป็นไงมาไง เว้นแต่ไปถามเจ้าตัวเอง

    "คงงั้นมั้งครับ..." ฮายามะก็นึกอะไรอย่างอื่นไม่ออกก็เอออ๋อไปกับมิยาจิ ก่อนที่จะพากันเก็บข้าวของกันต่อ

    ผ่านไปพักใหญ่ๆ ในที่สุดทั้งสองก็เก็บห้องจนสะอาดเอี่ยมจนได้และมันก็ถึ,เวลามื้อเย็นพอดี มิยาจิเลยไล่ให้ฮายามะไปเป็นคนทำกับข้าวเพราะตอนเที่ยงนั้นตนเป็นคนทำไปแล้ว...ซึ่งฮายามะก็ยอมไปแต่โดยดีด้วยท่าทางดี๊ด้าจนมิยาจินึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะพังห้องครัวไหม แต่เมื่อแอบไปดูอีกฝ่ายในครัวก็หายห่วงเลยเพราะฮายามะดูชำนาญในการทำอาหารพอดู

    เมื่อมิยาจิเห็นว่าคนรักตนคงไม่พังครัวเล่นก็ไปนั่งรอในห้องรับแขก แต่นั่งรอเพียงไม่นานก็มีเสียงกดกริ่งรัวจนน่ากลัวว่าถ้าไม่ไปเปิดประตูคนที่กดกริ่งอยู่จะพังประูเข้ามาเสียเองจากหน้าบ้านทำให้มิยาจิต้องทำใจแอ๊บเป็นฟุริฮาตะไปเปิดประตูบ้าน

    "ครับ...ใครครับ?" มิยาจที่แกล้งทำตัวเป็นเจ้าของร่างเอ่ยถามเมื่อเปิดประตูหน้าบ้านออก...และเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้าบ้าน

    "เอ่อ...ฟุริฮาตะคุง...คือ..." ชายหนุ่มดูรนรานจนไม่น่าไว้ใจ

    "มีอะไรหรือเปล่าครับ?" มิยาจิที่พยายามไม่ปิดประตูใส่หน้าอีกฝ่ายเลยถามด้วยสีหน้าที่พยายามเลียนแบบฟุริฮาตะสุดฤทธิ์

    "..." ชายหนุ่มไม่พูดอะไรและผลักมิยาจิลงกับพื้น

    ปัง!

    เสียงประตูปิดลงพร้อมกับร่างของชายหนุ่มแปลกหน้าคล่อมอยู่บนตัวของมิยาจิ

    "!!!" มิยาจิตื่นตะลึงกับเรื่องราวแบบนี้พร้อมกับคิดว่า...ปกติถ้าเป็นฟุริฮาตะจะทำไงหว่า? คงไม่ได้ถีบโครมแบบที่เขากำลังยั้งเท้าอยู่ตอนนี้แน่

    "ฟุริฮาตะคุง...ทำไม...ถึงปฏิเสธผมเหรอครับ? ผมมันไม่ดีตรงไหน? หรือเพราะผมเป็นผู้ชายเหมือนกัน?" ชายหนุ่มถามรัวพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้

    'เพราะฟุริฮาตะมันมีแฟนอยู่แล้วไงฟะ!!!' มิยาจิตอบอีกฝ่ายในใจ 'ถ้าอาคาชิมาเห็นเข้าและนี่เป็นตัวฟุริฮาตะจริงๆ หมอนี่จะโดนฆ่าหมกศพไหมเนี่ย? ดูท่าอาคาชิเป็นโรคหวงแฟนระยะสุดท้ายด้วยสิ'

    "ทำไมไม่ตอบล่ะ? รังเกียจผมหรือไง?" ชายหนุ่มเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด

    'ฉันไม่รู้จะทำยังไงเฟ้ย!!!' มิยาจิโวยในใจพร้อมพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อไม่ให้เผลออัดคนที่คล่อมตนอยู่ในร่างฟุริฮาตะ

    "...ฟุริฮาตะคุง" ลมหายใจร้อนเริ่มปะทะหน้าของมิยาจิ

    "..." มิยาจิที่ความอดทนมาถึงจุดสิ้นสุด และกำลังจะอ้าปากตอกกลับไป...เสียแต่ไม่ทันพูดก็...

    ฉึก!!!

    มีบางอย่างพุ่งเฉี่ยวหน้าชายหนุ่มไปปักตรงประตูที่อยู่เบื้องหลัง สายตาสองเบนไปยังสิ่งที่ปักติดอยู่บนประตู...มันคือมีดนั่นเอง

    สายตาทั้งสองค่อยๆ ไล่สายตาไปยังจุดที่มีดพุ่งมาและพบกับ...คนที่ตอนนี้มองยังไงก็ซาตานชัดๆ

    "นาย...จะทำอะไรมิทราบ?" คนผมแดงหรือฮายามะเอ่ยออกมาช้าๆ ด้วยน้ำเสียงชวนสยองปานเจ้าของร่างตัวจริง ดวงตาสองสีวาวโรจน์อย่างโกรธเคือง

    "เอ่อ..." ชายหนุ่มเริ่มเหงื่อตก เช่นเดียวกับมิยาจิที่ตอนนี้แฟนตนองค์ลงเสียแล้วงานนี้

    "ช่างกล้าจริง...กล้าดียังไงมายุ่งกับแฟนฉัน!!!" เมื่อสิ้นเสียงมีดน้อยใหญ่ก็พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มที่ดูชะตาจะขาดเสียแล้ว

    "แว๊ด!!!" ชายหนุ่มร้องเสียงหลงพร้อมก้มหลบกระโดดหลบก่อนที่จะกลายเป็นหุ่นเสียบมีด และรีบวิ่งหนีออกจากบ้านไปในทันที

    "เล่นแรงไปแล้วนะ! ฮายามะ!!!" มิยาจิที่ไม่โดนลูกหลงจากการปามีดของฮายามะสักนิดโวยใส่คนรักตน

    "ก็สมควรแล้วนี่ครับ! มายุ่งกับมิยาจิซังก่อนนิ!!!" ฮายามะที่กลับมาโหมดเดิมแล้วทำท่าหงอย

    "แต่มันก็มากไป!!! ถ้าหมอนั่นตายขึ้นมาจะทำไงห๊า!?" ...ยังไม่อยากไปเยี่ยมแกในตารางนะเว้ย!!!

    "ก็ให้อาคาชิจัดการไงฮ้าฟ! พอฟังเหตุผลแล้วอาคาชิยอมช่วยแน่!" ฮายามะตอบ ก่อนที่จะก้มหลบมีดที่มิยาจิดึงจากประตูมาโยนใส่

    "เออ! ไม่เถียง! แต่มันไม่ควรเฟ้ย!!! เข้าใจไหม!?!" มิยาจิแยกเขี้ยวใส่

    "ครับ..." เมื่อโดนดุ ฮายามะก็ได้แต่ทำตามที่ภรรยา เอ้ย! แฟนตนบอก

    "งั้นก็ดี...รีบๆ เก็บมีดแล้วไปทำข้าวเย็นต่อเลย!" มิยาจิไล่อีกฝ่ายไปทำข้าวเย็นต่อ

    "ครับผม!" ฮายามะทำท่ารับคำสั่ง (?) และรีบเก็บมีดที่ตนเอามาโยนไล่ชาวบ้ายกลับเข้าครัวไปในทันที

    มื้อเย็นในรอบนี้เป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรให้ปวดหัวมากนัก...ทุกอย่างปกติดีจนมาถึงเวลาเข้านอนนี่แหละ...

    "นอนด้วยกันเถอะครับ! มิยาจิซัง!" ฮายามะโดดกอดมิยาจิที่กำลังจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา

    "ไม่ได้เฟ้ย! โซฟาแคบแค่นี้จะนอนด้วยได้ไงฟะ!?" มิยาจิดันหน้าอีกฝ่ายตามปกติ...จนเกือบเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว

    "ก็ไปนอนห้องชิวาว่าคุงสิครับ" ฮายามะตอบหน้าตาเฉย

    "ไม่ได้เฟ้ย! เข้าห้องคนอื่นโดยเจ้าตัวไม่อยู่มันเสียมารยาทนะเฟ้ย!!!" ฮายามะเขกหัวสีแดงๆ ของอีกฝ่าย

    "เจ็บนะคร้าบบบ" ฮายามะโอดครวญอย่างน่าหมั่นไส้ "และทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ? ในเมื่อตอนนี้มิยาจิซังอยู่ในร่างชิวาว่าคุง ดังนั้นคงไม่ถือว่าเป็นการเสียมารยาทหรอกมั้งครับ"

    "เป็นสิฟะ!!!" มิยาจิไม่รู้จะว่ายังไงกับหมอนี่เลย...สมองช่วยคิดหน่อยเถอะ! ว่าอะไรควรไม่ควรเนี่ย!

    "ไม่เป็นหรอกครับ" ฮายามะมองมิยาจิด้วยสายตาใสแป๋วปานลูกหมา "นะครับ นะๆๆๆๆๆๆ"

    "ไม่ได้!" มิยาจิยื่นคำขาด

    "นะครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฮายามะก็ยังไม่ยอมแพ้ยังคงกรอดหูอีกฝ่ายไป จนกระทั่ง...ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงความอดทนของมิยาจิก็สิ้นสุดลง (โอ้ เก่งนะ...ทนได้ตั้งชั่วโมงแน่ะ! // s , ลองมาอยู่กะมันนานๆ เธอก็จะรู้... // มิยาจิ)

    "โว้ย!!! ก็ได้ฟะ!!! เลิกพูดได้แล้ว!!! เดี๋ยวปั๊ดฆ่าซะนิ!!!" มิยาจิแว๊ดใส่ฮายามะอย่างรำคาญปนอ่อนใจ...

    ...ทำไมสุดท้ายฉันยอมมันทุกทีเลยฟะ!?...

    "เย้!" ฮายามะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ ก่อนที่จะลากมิยาจิไปยังห้องนอนของฟุริฮาตะ...ที่เจ้าตัวรู้ได้ไงก็ไม่รู้ว่าห้องฟุริฮาตะมันห้องไหน

    จนสุดท้ายทั้งสองก็นอนยัดในเตียงเดียวกันนี่แหละ และด้วยความเหนื่อยล้าจากการเก็บบ้านกับการเถียงกันเอง (?) ทำให้ทั้งสองผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     

     

    "อื้ม..." เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นพร้อมกับดวงตาของคนคนหนึ่งค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นจากนิทรา...พร้อมกับอาการเหน็บกินที่ขาตน

    ...ที่นี่มัน...

    ฮายามะ โคทาโร่มองไปรอบๆ ด้วยอาการงงงวยจากการเพิ่งตื่นเล็กน้อย ก่อนที่จะตื่นเต็มตาเมื่อสมองประมวลได้ว่าที่นี่คือที่ไหน

    ...นี่มันบ้านมิยาจิซังนี่หว่า! แสดงว่า...กลับร่างเดิมแล้ว!!!...

    เด็กหนุ่มผมสีคาราเมลมองนาฬิกาที่ติดเด่นหราบนผนังที่บ่งบอกเวลาเที่ยงคืน ก่อนที่จะเบนสายตามายังสิ่งที่ทำให้ขาตนเหน็บกิน...ก็พบกับคนผมสีน้ำผึ้งที่นอนหนุนตักตนอยู่

    "อื้อ~~~" มิยาจิครางเล็กน้อยเมื่อฮายามะขยับตน ก่อนที่จะซุกเข้าท้องของเด็กหนุ่มผมสีคาราเมลเพื่อนอนต่อ

    ...น...น่าร้ากกกก!!! มิยาจิซังตอนนี้โมเอะสุดๆ !!! กล้อง! กล้องอยู่ไหนฟะ! อ่ะ! เจอแล้ว! ดีจังที่อาคาชิเอามือถือเขามาด้วย!!!...

    ฮายามะทำการถ่ายรูปคนผมน้ำผึ้งที่หลับไม่รู้อิโหน่งอิเหน่งอย่างเมามันส์ และเมื่อพอใจแล้วฮายามะก็เก็บมือถือตน ก่อนที่จะปลุกมิยาจิไปนอนที่ห้องดีๆ ก่อนที่จะเป็นหวัดเอา

    "มิยาจิซาง~~ ตื่นเถอะคร้าบ~~~ ไปนอนที่ห้องเถอะคร้าบ~~~~" ฮายามะเขย่าตัวอีกฝ่ายเบาๆ

    "อื้อ...อีกห้านาที..." มิยาจิละเมอตอบมาก่อนที่จะนอนต่อ

    "มิยาจิซัง~~~" ฮายามะมองดวงหน้าอีกฝ่ายก่อนที่จะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา "ถ้าไม่ตื่นผมจูบล่ะนะคร้าบ~~~♥"

    พึ่บ!

    เมื่อได้ยินทำนี้มิยาจิก็กระเด้งลุกขึ้นมาทันที...

    "โอ้ย! เล่นบ้าอะไรของนายห๊า!? ฮายามะ!!!" มิยาจิโวยอย่างมึนหัวเล็กน้อยเพราะลุกขึ้นมาเร็วเกิน

    "ถ้าไม่ทำงี้มิยาจิซังก็ไม่ตื่นสิครับ" ฮายามะบอกอย่างเสียดายเล็กน้อย

    "ให้ตายเถอะ..." มิยาจิบ่นเล็กน้อยก่อนที่จะสังเกตเห็นว่า...คนตรงหน้าบัดนี้อยู่ในร่างที่เขาคุ้นตาดีแล้ว "...กลับร่างเดิมแล้วเหรอเนี่ย?"

    "ครับ" ฮายามะตอบ

    "อื้ม...ยูยะมันจะกลับร่างเดิมหรือยังหว่า?" มิยาจิบ่นขึ้นลอยๆ

    "คงจะมั้งครับ" ฮายามะเดาว่าคงกลับร่างเดิมแล้วล่ะ

    กริ่ง~~~!!!

    พูดถึงไก่...ไก่ก็มาล่ะงานนี้ เมื่อมือถือมิยาจิที่เจ้าตัวหยิบมาวางไว้ในห้องนั่งเล่นนี้เมื่อเช้าดังขึ้นพร้อมชื่อสายเรียกเข้าเขียนไว้ว่า 'ยูยะ'

    "ไง กลับร่างเดิมล..." มิยาจิกำลังจะทักน้องตนตามปกติแต่...

    'เออ! กลับร่างเดิมแล้ว! แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน! พี่! ไอ้บ้านี้มันเพื้ยนแต่แรกหรือมันมาเพื้ยนเอาวันนี้เนี่ย!?'

    "เกิดอะไรขึ้น?" มิยาจิคิ้วขมวดจากน้ำเสียงดูร้อนรนแปลกๆ ของน้องชายตน

    'ก็ไอ้บ้าที่กลายเป็นแมวเมื่อเช้าน่ะมัน...'

    'ทำอายราย~~~'

    'เฮ้ย! แกเข้ามาได้ไง!? ฉันล็อกประตูแล้วนะ!!!'

    'งัดเข้ามา...'

    'งัดประตูห้องคนอื่นหน้าตาเฉยเลยนะแก!!!'

    'ก็ใครใช้ให้นายหนีล่ะ!'

    'จะไม่หนีได้ไงฟะ! ในเมื่อแก...เฮ้ย! จับบ้าอะไรของแกฟะ!? ปล่อยนะเฟ้ย!'

    'ไม่ปล่อย...จะทำไม?'

    'ปล่อยนะไอ้บ้า! อึก! อื้อ! อย่าจับตรงนะ! อา!...มัน...'

    'มันทำไมล่ะ?'

    'มัน...มันจะอะไรก็ช่างเถอะไอ้บ้า! ไปไกลๆ เลย!'

    'ไม่สน...'

    '...กึกๆ...โครม!!!'

    'โอย! เจ็บนะเฟ้ย!...เฮ้ย! เสื้อฉานนน! จะทำอะไรน่ะฟะ! ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต! ไอ้ชื่อตรงข้ามกับนิสัย! ไอ้...อุ๊บ! อื้อๆๆ! อื้อ~~~! แค่กๆๆ! อ...ไอ้บ้า! หยุดนะ!'

    'เรื่องไรล่ะ?'

    'ไอ้...อื้อ~~~ ห...หยุดนะเฟ้ย! ฮานา...อุ๊บ! อื้อ~~~!!!'

    'แอ๊ด...'

    'กลับมาแล้ว โทษทีที่ช้า พอดีคิวร้านเบอร์เกอร์มันยาวไปหน่อย...เฮ้ย! ฮานามิยะ! นายทำบ้าอะไร! เดี๋ยวโดนมิยาจิซังฆ่าเอาหรอก!!!'

    'กึกๆ! โครม! กึกๆๆๆ! กลุดๆๆๆ!!! โครม!!! ปัง!!! เพล้ง!!!'

    'ตรู้ด...ตรู้ด...ตรู้ด...'

    "..." มิยาจิฟังเสียงสายที่ถูกตัดไปเสียดื้อๆ หลังจากได้ยินเสียงเหมือนเกิดการตะลุมบอนกันด้วยอาการที่...

    "เอ่อ...มิยาจิซัง...มือถือร้าวแล้วนะครับ..." ฮายามะเหงื่อตกซิกๆ เมื่อคนรักตนกำมือถือตนเองแน่นจนเกิดรอยร้าวที่กรอบครอบ แถมยังมีไออำมหิตแผ่ออกมาให้สยองกันเล่นอีกแหน่ะ!

    "หึหึ..." ดูท่าเสียงของฮายามะจะไม่เข้าโสตประสาทของคนผมสีน้ำผึ้งสักนิด มิยาจิเริ่มคิ้วกระตุกยิกๆ เส้นเลือดปูดขึ้นที่ขมับหลายเส้น "...ไอ้พวกนั่น...พวกมันทำบ้าอะไรกับน้องฉันวะ!?!"

    "อะจึ้ย! ใจเย็นครับ! มิยาจิซัง!!!" ฮายามะรีบเอ่ยห้ามเมื่อ...มิยาจิโกรธจนเผลอกำมือถือตัวเองพังแล้ว!!!

    "ไม่เย็นเฟ้ย!!! ไอ้พวกบ้านั่น...มันบังอาจทำบ้าอะไรน้องฉานนนน!!!" ดูท่างานนี้มิยาจิสติแตกของแท้แล้ว

    "สองคนนั้นไปทำอะไรเนี่ย?" ฮายามะพึมพำเบาๆ ด้วยความรู้สึกว่า...เขาอาจได้ไปเยื่ยมเพื่อนตัวเองที่หลุมศพแน่!

    "ฮายามะ!" มิยาจิเรียกคนผมคาราเมลเสียงดัง

    "ครับ!" คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัวก่อนที่จะตอบรับราวทหารในค่ายฝึก

    "พาฉันไปโรงแรมที่ไอ้เนบุยะมันพักประจำเดี๋ยวนี้!!!" มิยาจิในตอนนี้ต้องการไปหายูยะให้เร็วที่สุด เพราะไอ้บทสนทนาที่เขาฟังผ่านโทรศัพท์เมื่อกี้มันชวนปื้ดแตกจริง! ตอนนี้เขารู้แค่ตอนแยกกันที่เซย์รินเขาไปถามเนบุยะว่าจะพายูยะมันไปที่ไหน เจ้าตัวก็บอกว่าจะไปที่โรมแรมที่ตนมักเข้าพักประจำเมื่อมาโตเกียว...ซึ่งเขาไม่รู้ทางไป แต่แน่นอนว่าฮายามะต้องรู้ทางแน่!

    "เอ่อ...แต่..." ฮายามะรู้สึกว่าเหมือนตนจะพาพยายมไปเอาวิญญาณเพื่อนตัวเองชอบกล

    "ไม่มีแต่!!!" มิยาจิส่งสายตาอาฆาตให้คนรักตน

    "ครับ..." ฮายามะสุดท้ายก็ต้องจำใจตอบรับ เพราะตอนนี้เขาไม่กล้าขัดใจคนรักตนที่ปานจะฆ่าคนแล้ว

    เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนที่จะรีบพามิยาจิไปยังที่พักของเนบุยะ ด้วยท่าทางที่เหมือนจะไว้อาลัยเพื่อนตนและฮานามิยะล่วงหน้า...

    ...ถือว่าพวกนั่นทำตัวเองแล้วกัน ขอให้โชคดีนะเอย์จัง ฮานะจัง...

     

     

     

     

     

    "ให้เวลาสามนาที...อธิบายมาซะ...พวกนายทำบ้าอะไรกัน!?" มิยาจิยืนแยกเขี้ยวปานยักษ์ลงมาสถิตร่างตรงหน้าเด็กหนุ่มสองคนที่นั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่เบื้องหน้า...

    ...หรือพูดให้ชัดหน่อยก็คือสำนึกหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งโดนเขกหัวจนลูกมะกรูตขึ้นมาลูกโตเป็นหูมิกกี้เมาส์จนจำใจนั่งสำนึกผิดอีกคนก่อนได้มะกรูตอีกลูก

    ย้อนไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เมื่อฮายามะนำทางมาถึงหน้าห้องเนบุยะ มิยาจิก็ทำการถีบประตูเข้าไปเลย และภาพที่เห็นภายใน...ทำให้มิยาจิองค์ลงทันที...

    ...ภาพที่ปรากฏเข้าสู่สายตาของมิยาจิและฮายามะคือภาพที่เนบุยะคล่อมเด็กหนุ่มผมสีน้ำผึ้ง...น้องชายมิยาจินั้นแหละอยู่ โดยที่ฮายามิยะโอบกอดยูยะจากด้านหลัง...สภาพแต่ละคนดูเหมือนเพิ่งฟัดกันมา คนที่ดูแย่สุดคือยูยะที่เสื้อที่สวมใส่นั้นหลวมโพรงราวกับขโมยของใครมาใส่ กางเกงหายไปไหนไม่รู้ ปากบวมเจ้อและแตกเล็กน้อย...ที่สำคัญที่สุดคือ...รอยจูบที่อยู่ตามตัวและคราบน้ำขาวๆ ตามเรียวขาเจ้าตัวนั้นแหละ

    เมื่อภาพนี้ปรากฏเข้ามาในสายตามิยาจิ คิโยชิก็ทำการ 'จัดการ' เด็กหนุ่มที่บัดอาจมารุ่มร่ามกับน้องตนมานั่งสำนึกผิดอยู่นี่แหละ

    "เอ่อ...คือ..." เนบุยะมองอีกฝ่ายเหงื่อแตกซิกๆ ...ปกติเขายอมรับว่ารายนี้น่ากลัว แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะน่ากลัวได้ขนาดนี้!!!

    "พี่...ขอร้อง...อย่าให้มันพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย!!! มันปวดจิต!!!" ยูยะที่บัดนี้สวมเสื้อผ้าของเนบุยะเรียบร้อยครบทุกส่วน กำลังแอบอยู่หลังฮายามะ...อ่านไม่ผิดหรอกหลังฮายามะจริงๆ ดูท่าแล้วคงไม่อยากเข้าใกล้สองคนที่นั่งสำนึกผิดอยู่นี่เท่าไหร่นักโวยออกมา

    "ถ้าเรื่องอื่นอาจได้ แต่เรื่องนี้ขอเคลียร์หน่อยเถอะ!" มิยาจิกรอกตาอย่างไม่สนใจคำค้านของยูยะนัก "ตกลงว่าไง!? รีบๆ พูดมา!!!"

    "เอ่อ..." ฮานามิยะทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างก่อนที่จะ...

    ปังๆๆๆ!!! ฟิ้ว...

    ...โยนประทังที่เอามาจากไหนไม่รู้ลงพื้น จนเกิดความชุลมุนเล็กๆ ขึ้น และใช้จังหวะนี้...เผ่นไปเลย

    "โว้ย!!! ไอ้บ้าฮานามิยะ!!!" มิยาจิที่ควันออกหูมองไปยังทางที่ฮานามิยใช้หนีไปอย่างเจ็บใจ

    "...ทำห้องพังไม่พอ ยังทิ้งกันเฉยเลย" เนบุยะบ่น...โชคดีที่ห้องนี้เขาไม่ได้เช่าแบบปกติแต่เป็นซื้อเลยไม่งั้นตายแน่และดีที่ห้องนี้จะเก็บเสียงภายในไม่ให้หลุดไปนอกห้องรบกวนคนอื่นไม่งั้นโดนตื้บข้อหาทำเสียงดังตอนตีหนึ่งแบบนี้

    "เอย์จัง...ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย!?" ฮายามะถามเนบุยะตรงๆ ...อย่างน้อยเขาอาจหาทางช่วยให้โอกาสตายน้อยลงได้ (?)

    "บอกตามตรงคือ...ไม่รู้วะ" เนบุยะรีบตอบฮายามะเพราะกลัวโดนมิยาจิเค้นคอ...ยังไงโคทาโร่มันก็น่ากลัวน้อยกว่ามิยาจิซังล่ะวะ! "กลับเข้ามาหลังไปซื้อมื้อดึกก็เห็นว่าหายหัวกันไปหมดเลย ก็เลยลองหาดูกะจะชวนมากินเบอร์เกอร์ด้วยกันซะหน่อย...พอเปิดเดินผ่านห้องนอนก็เจอแจ๊ตพ็อตเลย"

    "เจออะไรหรอก?" ฮายามะถามต่อ ก่อนที่แฟนตนจะมาเป็นฝ่ายถามแทน...เพราะดูท่าถ้าเขาไม่เป็นคนถามล่ะก็รายนั้นมาเค้นคอเพื่อนเขาเองแน่!!!

    "ก็...เอ่อ..." เนบุยะเหลือบมองยูยะที่ค้อนใส่ตนเล็กน้อย ก่อนที่จะเหลือบไปยังมิยาจิที่ตอนนี้ปานวิญญาณอาฆาต...ยังไงเขาก็กลัวมิยาจิคนพี่มากกว่า!!! "...เห็นฮานามิยะก...เอ่อ...คล่อมยูยะอยู่น่ะก็เลยกะจะช่วย...ช่วยยูยะนะ! ไม่ใช่ฮานามิยะมัน! มิยาจิซัง! อย่าจ้องแบบนั้นสิครับ~~~!"

    "ก็ไม่ได้ว่าอะไร...เล่าต่อสิ..." มิยาจิเอ่ยเสียงเย็น

    "...จากนั้นก็กลายเป็นตะลุมบอนกันไปๆ มาๆ ก็อยู่ในสภาพที่มิยาจิซังมาเห็นนี่แหละครับ" เนบุยะตอบแต่โดยดี

    "จริงหรือเปล่า?" มิยาจิถามน้องชายตน

    "เออ!" ยูยะทำหน้ามุ่ยอย่างคนไม่อยากจะได้ยินเรื่องแบบนี้อีก...แหงล่ะ! ถูกผู้ชายด้วยกันไล่ปล้ำเนี่ยนะ!? รู้ถึงไหนอายถึงนั้นแน่!!!

    "งั้นก็แล้วไป..." มิยาจิค่อยๆ ลดรังศีอาฆาตลงจนเริ่มกลับสู่โหมดปกติ "...งั้นฉันขอพายูยะกลับบ้านก่อนล่ะ และขอยืมชุดนายก่อนแล้วกันเดี๋ยววันหลังเอามาคืน"

    "คร้าบบบบบ" เนบุยะขานรับด้วยความที่ตอนนี้กลัวมิยาจิใจจะขาด ถึงแม้ตอนนี้อีกฝ่ายไม่เอาเรื่องอะไรเขาแล้วแต่มันยังหลอนอยู่เลย!!!

    "มิยาจิซางงง ผมขออยู่ด้วยคร้าบ~~~" ฮายามะโดดเกาะมิยาจิทันทีที่สบโอกาส (?)

    "เออๆ ตามแต่แก" มิยาจิที่เพิ่งองค์ออกจากร่างขี้เกียจเถียงคนรักตนจึงยอมตามใจอีกฝ่าย...

    ...เป็นอันว่าจบเรื่องวุ่นวายของทางนี้ไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    End and TBC.


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×