คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 12 |..เด็กแก่แดด!..|
บทที่ 12
“เด็กแก่แดด!”
เสียงลมที่พัดลู่ใบเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่ดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงของนกน้อยที่ร้องเพลงขับขานอย่างอารมณ์ดีใต้ผืนฟ้าคราม
ฟีนิกซ์เงยหน้ามองท้องนภาด้านบนอย่างสนอกสนใจ
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มไล่มองตามกลุ่มนกขาวที่บินผ่านไปด้วยแววตาเปล่งประกาย มันคงจะดีไม่น้อยหากว่าเขาสามารถโบยบินอย่างอิสระอย่างนกเหล่านั้นได้
“เอาล่ะ
เริ่มแรกก็แนะนำตัวกันก่อนเลย”
เสียงของชายหนุ่มที่คุ้นหูดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มละสายตากลับมามองยังสถานการณ์ตรงหน้า
ในตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคนขึ้นมานั่งรวมตัวกันบนดาดฟ้าของตึกเรียนอคาเดมี่
คาคาชิซึ่งได้รับหน้าที่ให้เป็นครูประจำทีม 7 ไล่สายตามองลูกทีมของตน
ดวงตาสีเถ้าถ่านชำเลืองมองเด็กหนุ่มเรือนผมดำสนิทแวบหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจอีกสามคนที่เหลือ
ซึ่งดูท่าเด็กหนุ่มผมทองจะดูกระตือรือร้นกว่าใครเพื่อน
“แนะนำตัวเหรอ..
แล้วจะให้พูดยังไงดีล่ะคะ?” ซากุระเอ่ยถามขึ้น
คาคาชิทิ้งตัวนั่งลงบนราวเหล็กก่อนจะเริ่มอธิบาย
“ก็..พวกของที่ชอบ
ของที่เกลียด ความฝันในอนาคต และงานอดิเรกอะไรเทือกๆนั้นแหละนะ”
“เอ..
แบบนี้ครูก็ต้องแนะนำตัวให้พวกเรารู้ก่อนสิครับครู”
นารูโตะพูดเตะขึ้นทำให้คาคาชิเอียงคอมองเด็กในทีมตัวเองเล็กน้อย
“อา..งั้นก็ได้
ฉันชื่อฮาตาเกะ คาคาชิ ของที่ชอบและเกลียด เอ...ไม่บอกให้รู้หรอก”
“หา?”
นัยน์ตาคู่สวยมองเด็กหนุ่มผมทองและเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มอย่างขบขันเมื่อเห็นทั้งสองคนมีสีหน้าเหวอหวาออกมาก่อนที่เขาจะแอบเหลือบมองเด็กหนุ่มอีกคนซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังสุด
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววเอือมระอายิ่งทำให้เขารู้สึกขำขันมากขึ้น
“ความฝันในอนาคตบอกไปก็ไม่ช่วยอะไร
ส่วนงานอดิเรกก็มีเยอะแยะ”
“นี่ๆ
ตกลงรู้เรื่องอะไรมั้ยเนี่ย”
ซากุระหันไปกระซิบกระซาบกับนารูโตะซึ่งนั่งอยู่ข้างๆกับซาสึเกะ
เด็กหนุ่มหน้าหมวดยกมือโบกไปมาตรงหน้ารัวๆพร้อมทำสีหน้าเซ็งกะตายใส่เด็กสาว
“เอาล่ะ! ต่อไปตาพวกเธอบ้างแล้ว”
เสียงของครูประจำทีมดังขึ้นทำให้เด็กๆทั้งสี่หันกลับมามองคนอายุมากกว่าเช่นเดิม
“ผมๆ! ผมชื่ออุสึมากิ นารูโตะ
ของที่ชอบคือบะหมี่ถ้วยสำเร็จรูปแต่ที่ชอบมากที่สุดคือราเม็งร้านอิจิราคุที่ครูอิรุกะเลี้ยงครับ! ของที่เกลียดคือช่วงเวลาสามนาทีที่ต้องรอราเม็ง
งานอดิเรกก็คือการกินบะหมี่ถ้วย!
ส่วนความฝันในอนาคตก็คือการเหนือกว่าโฮคาเงะและเป็นที่ยอมรับของหมู่บ้าน!” น้ำเสียงดังฟังชัดแน่วแน่ของนารูโตะทำให้คาคาชิหันมองอย่างสนใจเล็กน้อย
ก่อนที่ดวงตาสีเถ้าถ่านจะหันไปมองเด็กสาว
“งั้นคนต่อไป”
“ค่า! ฮารุโนะ ซากุระค่ะ! ของที่ชอบ..
เอ่อ ไม่ใช่สิ คนที่ชอบก็คือ...” ในประโยคหลังเด็กสาวเอ่ยเสียงแผ่วพลางแอบชำเลืองมองเด็กหนุ่มอุจิวะข้างๆตนด้วยใบหน้าเขินอายอยู่พักหนึ่ง
ก่อนที่สาวเจ้าจะเอ่ยต่อราวกับพึ่งนึกขึ้นได้
“เอ่อ..
ส่วนงานอดิเรกน่ะเหรอคะ...ก็ไม่รู้..สิคะ ///!”
เด็กสาวบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย
คาคาชิเท้าคางมองอย่างเอือมระอาหากแต่ก็ยังฟังเด็กสาวพูดต่อ
“ส่วนความฝันในอนาคตก็คือ!... >////<”
เมื่อดูท่าทางคงไม่จบการแนะนำตัวของเด็กสาวง่ายๆ
คาคาชิจึงพูดตัดบทขึ้น
“แล้วของที่เธอไม่ชอบล่ะมีอะไรบ้าง”
“นารูโตะค่ะ”
ราวกับไม่ต้องคิดอะไรให้มากความเด็กสาวตอบกลับมาแทบจะทันทีจนคนถูกเอ่ยชื่อถึงกับน้ำตาตกเป็นสาย
แหงล่ะ! เขาไม่อยากถูกคนที่ชอบเกลียดแบบนี้นะ!
ฟีนิกซ์ซึ่งนั่งอยู่หลังเพื่อนหัวเราะออกมาเบาๆอย่างขบขัน สำหรับคนนอกแบบเขาแล้วมองยังไงก็รักสามเศร้าชัดๆ
...เด็กผู้หญิงสมัยนี้สนใจแต่เรื่องความรักสินะ...
โจนินหนุ่มนึกในใจก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มบ้านอุจิวะซึ่งนั่งเงียบไม่ปริปากอะไรนานกว่าใครเพื่อน
“ต่อไป เธอ”
“...ชื่ออุจิวะ
ซาสึเกะ ของที่เกลียดก็มีเยอะนะ แต่ของที่ชอบไม่มีสักอย่าง
แล้วก็อนาคตไม่อยากจะให้มันจบที่ความฝันแต่เป็นความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูตระกูล
และอีกอย่างหนึ่งจะต้องฆ่าผู้ชายคนหนึ่งให้ได้”
สิ้นประโยคของเด็กหนุ่มทำให้คาคาชิมองลึกไปในดวงตาของอีกฝ่าย
นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองเด็กหนุ่มนิ่งๆก่อนจะเหลือบตามองไปยังอีกคนซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังเพื่อนทำให้เขาเห็นนัยน์ตาคู่คมสีน้ำเงินเข้มที่ตวัดมองยังเด็กหนุ่มอุจิวะด้วยสายตาที่แม้แต่เขาก็เดาไม่ออกว่าอีกคนนั้นคิดอะไรอยู่
ทำให้คาคาชิอดที่จะลอบถอนหายใจออกมาไม่ได้
...หวังว่าคนนั้นไม่ใช่เรานะ...
...ซาสึเกะคุงเนี่ยเท่จริงๆ...
ความคิดในใจของคนสองคนเกิดขึ้นพร้อมๆกัน
นารูโตะเหลือบมองคนข้างๆอย่างหวาดระแวง
ยิ่งเมื่อเห็นแววตาคู่สีดำขลับนั่นเขายิ่งรู้สึกขนลุกวาบขึ้นมาเสียซะอย่างงั้น
“เอาล่ะๆ
ต่อไปคนสุดท้าย”
คาคาชิพูดขึ้นก่อนที่ทุกคนจะหันไปมองยังเด็กหนุ่มผู้มาจากบ้านตระกูลคาซุกิ
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มกระพริบปริบๆก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถึงตาของตนเอง
“อา..
ชื่อคาซุกิ ฟีนิกซ์ งานอดิเรกก็มีหลายอย่าง วาดรูป อ่านหนังสือ ฝึกวิชาบ้าง
บางทีก็..เดินเล่นทั้งในเมืองแล้วก็นอกเมือง”
...เนี่ยแหละวิถีคนหล่อ
คนเก่ง! >//<...
ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ใช่คนที่เธอชอบ
แต่ซากุระก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่ดีมากๆคนหนึ่งซึ่งไม่แปลกใจอะไรถ้าเขาจะเป็นคนที่เด็กสาวหลายๆคนชอบกันไม่แพ้ซาสึเกะ
“ของที่เกลียดก็..บ๊วย
ส่วนอนาคต...” ฟีนิกซ์ทิ้งช่วงก่อนที่จะเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามสดใสด้านบนอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ
“ก็คง..เป็นเงาของโฮคาเงะ”
คาคาชิมองใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่มก่อนที่ดวงตาสีเถ้าถ่านจะหลุบลงต่ำ
เขาก็พอเข้าใจว่าหน้าที่ของคนตระกูลคาซุกิก็คือการเป็น ‘เงา’ ของโฮคาเงะ แต่ทว่าในตอนนี้ที่ตระกูลได้ล่มสลายไปแล้วเหลือเพียงคนสืบทอดเพียงแค่คนเดียวเรื่องการเป็นเงาก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
หรือพูดง่ายๆก็คือ.. เด็กหนุ่มเป็นอิสระแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎเกณฑ์ของตระกูลตนเองอีกแล้ว
และเมื่อได้ยินที่อีกคนพูดเขายิ่งไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงยังคงยึดมั่นเช่นนั้น...
“เงา..โฮคาเงะ”
นารูโตะพึมพำเบาๆ
แน่นอนว่าเขามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นโฮคาเงะ
แต่คำว่าเงาที่ฟีนิกซ์พูดถึงนั้นเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้นเลยแม้แต่น้อย
“แล้ว..
สิ่งที่ชอบล่ะ”
คาคาชิตัดบทบรรยากาศที่ชวนอึดอัดเมื่อครู่ทิ้งด้วยคำถามที่ยิ่งฝ่ายยังไม่พูดถึง
และเพราะประโยคที่เขาถามเด็กหนุ่มเมื่อครู่ทำให้ดวงตาคู่คมหันมามองสบกับเขาตรงๆ
ฟีนิกซ์กระตุกยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำแบบช้าๆจนทำให้เด็กสาวผมชมพูหน้าแดงแปร๊ดกับคำพูดอีกฝ่าย
“ชอบ-คุณ-คา-คา-ชิ-ไง-ครับ”
“อ๊าย–––––––––!!!
>////<”
“หา! O[]O!!!
“ให้ตายเถอะ...”
เด็กคนอื่นอีกสามคนต่างแสดงอารมณ์แตกต่างกันไปทั้งเสียงหวีดร้องลั่นของเด็กสาวคนเดียวในกลุ่ม
ทั้งเสียงร้องเหวอๆของเด็กหนุ่มผมทองและเสียงสถบเบาๆของเด็กหนุ่มผมสีปีกอีกา
แต่ทว่า..
“เอ่อ..”
คาคาชิหลบตาเด็กหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ทันที
รู้สึกถึงใบหน้าที่ถูกซ่อนใต้ผ้าปิดปากสีทึบจะร้อนฉ่าขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่เคยเป็น
ก่อนที่จะได้สติแล้วกระแอมออกมารอบหนึ่งทั้งๆที่ใบหน้ายังคงมีรอยริ้วแดงๆจางๆติดอยู่บนใบหน้า
“แนะนำตัวกันเสร็จแล้วนะ! งั้นจบการแนะนำตัวเพียงแค่นี้
พรุ่งนี้ฉันจะมอบหมายงานให้”
คำพูดในช่วงท้ายของโจนินหนุ่มเรียกความสนใจของเด็กหนุ่มผมทองให้หันขวับกลับมาสนใจทันที
“อะไรเหรอครับ! งานที่ว่า”
“การฝึกเอาชีวิตรอด”
“เดี๋ยวก่อนสิคะ
ไหนว่าเป็นงานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องฝึกล่ะคะ?”
“หึ..หึ
เชื่อสิว่าถ้าครูบอกพวกเธอตอนนี้คงจะต้องอยากถอนตัวแน่ๆ” คำพูดที่กลั้วด้วยเสียงหัวเราะของโจนินหนุ่มทำให้คนฟังรู้สึกไม่เข้าใจเต็มประดา
“ผู้ที่ได้รับรองให้เป็นเกะนินจากผู้ที่จบการศึกษาทั้ง
27 คนมีแค่ 9 คนเท่านั้น ที่เหลืออีก 18
คนจะต้องถูกส่งตัวกลับไปที่โรงเรียนฝึกอีกครั้ง
การฝึกครั้งนี้ยากถึงขั้นที่เปอร์เซ็นต์สอบตกมี 66% เชียวนะ”
สีหน้าของแต่ละคนที่ฟังล้วนไปกันคนละทิศละทาง
ฟีนิกซ์ฟังคำอธิบายของผู้ที่ได้รับให้เป็นครูประจำทีมตัวเองอย่างเรียบเฉย
“ว่าไง
จะถอนตัวกันรึยัง!”
“จะบ้าเรอะ! ฝึกมาอย่างลำบากลำบนขนาดนั้น
แล้วจะไปสอบได้เพื่ออะไรกันเล่า!!” นารูโตะเถียงขึ้นทันควัน
“ไอ้นั่นน่ะเหรอ
มันก็แค่ขั้นตอนการคัดตัวคนที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเกะนินได้เท่านั้น”
“อะไรนะ!?”
“พรุ่งนี้ครูจะทดสอบพวกเธอว่าใครตกใครผ่าน
เพราะงั้นเจอกันพรุ่งนี้ตอนตีห้า อย่าลืมเอาอาวุธมาด้วยล่ะ เจอกันตอนตีห้านะ
แล้วก็อย่ากินข้าวเช้ามาล่ะ ..ไม่งั้นอ้วกแน่”
กล่าวจบผู้เป็นถึงโจนินฝีมือดีก็หายไปจากที่ตรงนั้นในพริบตา
ทิ้งให้เด็กในความดูแลของตนเองนั่งอยู่ที่เดิมเช่นนั้น
เมื่อไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรเมื่ออยู่ต่อ
ฟีนิกซ์จึงลุกขึ้นหันหลังเดินเตรียมลงไปจากตึกแห่งนี้
ยังไงซะเขาก็ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนในเรื่องนี้อยู่แล้ว
หากสมมุติว่าทางเบื้องบนไม่ให้เขาผ่านจริงๆก็แค่เด้งกลับไปเรียนใหม่
แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องพบใครคนหนึ่งเสียก่อน..
...........................................................................................................
“ให้ตายเถอะ
เด็กบ้านั่น..”
คาคาชิพึมพำกับตนเองเบาๆขณะเดินผ่านสะพานข้ามแม่น้ำสายกว้างของโคโนฮะ
เสียงของน้ำไหลที่แว่วมากระทบกับโสตประสาททำให้รู้สึกผ่อนคลายลงไปบ้างเล็กน้อย
ดวงตาคู่สวยหันมองสายน้ำใสที่มีใบไม้สีเขียวขจีปลิวว่อนลงมาตกกระทบลง
“ชอบคุณคาคาชิไงครับ”
ราวกับภาพเทปฉายซ้ำในหัวสมองทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
นั่นก็แค่คำพูดเด็กน่า คาคาชินึกในใจปลอบตนเองไม่ให้คิดอะไรปวดหัวมากกว่าเดิม
“อ้าว
ไงคาคาชิ”
“หือ ไงไอดะ”
เมื่อเหลียวหันไปก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงเดินมาด้วยรอยยิ้ม
“น่าแปลกที่เจอนาย
ไม่ใช่ว่าต้องไปดูแลเด็กเกะนินจบใหม่เหรอ?”
“ก็นะ
พึ่งแยกกันเมื่อกี้นั่นแหละ”
“เอาเถอะ
แต่ฝึกครั้งนี้ออมๆมือให้เด็กบ้างเหอะ
กลัวจะไม่มีเกะนินใหม่ๆมารับตำแหน่งต่อแล้วเนี่ย ฉันไม่อยากสู้จนตัวตายกับวันหนึ่ง
5-6 ภารกิจหรอกนะ” ไอดะเอ่ยขึ้นก่อนจะทิ้งน้ำหนักเอาแขนพาดบ่าชายหนุ่มผมเงิน
“ไม่รับปากหรอกนะ”
“นายนี่นะ”
ไอดะเบ้หน้ากับความโหดของเพื่อนตนเองก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“เออ
วันนี้ไปกินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อยดิ”
“เสียใจนะแต่พรุ่งนี้ฉันมีงานต้องทำ”
ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงโปร่งของคาคาชิก็เอี้ยวตัวหลบแท่นแขนของอีกฝ่ายออกมาอย่างง่ายดาย
“โห่
เสียใจนะเนี่ย”
คำพูดที่สวนทางกับน้ำเสียงทำให้คาคาชิเหล่ตามองอีกฝ่ายอย่างเอือมระอาก่อนจะทิ้งให้ไอดะยืนอยู่ตรงนั้นเช่นเดิม
...........................................................................................................
เวลาผ่านไปไวราวกับสายน้ำนิ่งที่ไหลไปตามเส้นทางของธารน้ำอย่างไม่มีหยุดพัก
ภารกิจวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว และเขาเองก็ต้องกลับบ้านของตนเองเช่นกัน
ไฟรามบ้านช่องบางหลังเริ่มที่จะดับลง
ฮาตาเกะ คาคาชิ ยังคงเดินเอื่อยเฉื่อยอยู่บนถนนที่ไร้ซึ่งผู้คนอยู่เช่นเดิม ในวันพรุ่งนี้เขาจะต้องไปทดสอบเหล่าเด็กๆทั้งสี่ในทีม
7 ของตนเอง การทดสอบที่ไม่เคยมีเด็กกลุ่มไหนผ่านได้แม้แต่คนเดียว
มือขาวเนียนเลื่อนลงกำกระดิ่งอันเล็กๆสองอันข้างเอวแน่น
ก่อนจะนึกถึงแววตาเรียบนิ่งดุจสายน้ำยามค่ำคืนของใครคนหนึ่ง
...ฉันหวังว่านายจะผ่านบททดสอบของฉันได้นะ
ฟีนิกซ์...
ถึงในช่วงแรกๆก่อนที่จะมีใบรายชื่อสมาชิกลูกทีมในหน่วยมาถึงเขานั้น
เขาจะขอให้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ทีมที่ตนเองดูแลเพราะกลัวว่าจะทำให้เด็กหนุ่มต้องถูกเด้งกลับไปยังสถานที่ฝึกเช่นเดิม
หากแต่เมื่อได้มองแววตาของเด็กคนนั้นในวันนี้เขาก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องเชื่อมั่นในตัวเด็กหนุ่มคนนั้นให้มากๆ..
ก็นั่นลูกชายของ
คาซุกิ อาคิระ เชียวนะ...
“เฮ้อ
ช่วงนี้คิดมากแปลกๆแฮะ” คาคาชิขยี้เรือนผมตนเองเล็กน้อยไล่ความคิดแปลกๆของตนเองไป
ใบหน้าใต้ผ้าปิดปากสีทึบเงยมองยังห้องเช่าหลังหนึ่ง
ไฟที่ดับสนิททำให้เขาพลอยคิดว่าเจ้าของห้องแห่งนี้คงจะเข้านอนเสียแล้ว
ดวงตาสีเถ้าถ่านคู่สวยจึงละสายตาออกมามองยังถนนด้านหน้าเช่นเดิม
ไฟสีส้มอ่อนสลัวๆที่พอทำให้เห็นถนนสายนี้อย่างเลือนรางประกอบกับสายลมเย็นๆของค่ำคืนนี้ก็ทำให้รู้สึกหว้าเหว่อย่างบอกไม่ถูก
นับวันเวลาตั้งแต่ที่ผู้เป็นพ่อจากไปจนถึงวันที่อาจารย์ที่เคารพรักมากที่สุดสละชีวิตตนเองเพื่อหมู่บ้าน
เขาก็ไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกที่เรียกว่าสบายใจอีกเลย...
“กลับดีกว่า..”
คาคาชิพึมพำเบาๆก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้ง
“คุณคาคาชิ”
เสียงเรียกแผ่วๆดังขึ้นทำให้เขาหันไปมองทันที
เด็กหนุ่มผมสีดำสนิทยืนมองหน้าเขาอย่างงุนงงเล็กน้อย
จากเส้นทางที่อีกคนเดินมาทำให้รู้ว่าฟีนิกซ์พึ่งจะมาถึงยังบ้านของตนเอง
“..วันนี้
กลับช้าจังนะ” คาคาชิเอ่ยขึ้นเบาๆ
พลันเหตุการณ์เมื่อตอนเที่ยงวันก็ไหลแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง
“ชอบคุณคาคาชิไงครับ”
จู่ๆก็รู้สึกประหม่าซะได้...
..เพราะเธอคนเดียวเลยนะฟีนิกซ์..
“มีธุระนิดหน่อยน่ะครับ”
แวบหนึ่งที่เห็นอีกฝ่ายกระตุกยิ้มบางๆขึ้นก่อนจะหายเลือนไปจากใบหน้าของเด็กหนุ่ม
“คืนนี้ว่างรึเปล่าครับ?”
ไม่ทันตั้งตัวฟีนิกซ์ก็มายืนประจันหน้ากับเขาเข้าซะแล้ว
ใบหน้าที่ได้ผู้เป็นพ่อมาเต็มประดายื่นเข้ามาใกล้เขา ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววเรียบนิ่งไม่เหมือนกับบนใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้มจางๆ
“อา..ก็...
ว่างนะ ทำไมล่ะ”
“อยากไปนอนด้วยน่ะครับ
ได้รึเปล่า?”
“ฮะฮะ
นายโตแล้วนะ”
คาคาชิหัวเราะเบาๆ
ดวงตาคู่สวยที่ถูกซ่อนใต้เปลือกตาบางทำให้ไม่ทันเห็นรอยยิ้มหวานของคนเอ่ยถามตรงหน้า
“แล้วได้รึเปล่าครับ?”
“อืม..
นั่นสินะ แต่พรุ่งนี้มีภารกิจต้องทำนะ จำได้มั้ย?”
คาคาชิพูดขึ้นก่อนจะอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้เรือนผมนุ่มนิ่มสีดำสนิทของคนที่อายุน้อยกว่า
“จำได้ครับ
เพราะงั้นเลยอยากขอไปนอนกับคุณ”
“หือ?
เพราะอะไรล่ะ”
“คุณคาคาชิชอบไปช้านี่”
คำตอบของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง
ส่วนที่ไม่ถูกปิดกั้นด้วยผ้าปิดปากนั้นทำให้เห็นดวงตาที่หยีลงเพราะแรงหัวเราะ
ฟีนิกซ์มองภาพตรงหน้าก่อนจะลอบยิ้มออกมาจางๆ
“ผมว่า..คนขำน่าจะเป็นผมนะ”
“ฮะฮะ โทษทีนะ
แต่ฉันไปช้าเพราะติดธุระจริงๆนะ”
“โกหกไม่เนียนเลยนะครับ”
จนสุดท้ายฝ่ายที่ต้องยอมแพ้ก็คือฮาตาเกะ
คาคาชิ เพราะคำพูดลบเล้าอยู่นานของฟีนิกซ์ทำให้ชายหนุ่มต้องยอมจำนนให้อีกคนมาค้างคืนที่บ้านด้วยอย่างเคยเหมือนแต่ก่อน
“เธอดูสนใจนะ”
คาคาชิถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงห้องพัก
เด็กหนุ่มกำลังยืนจ้องมองวัตถุสีดำสนิทรูปทรงแปลกตาซึ่งวางทิ้งไว้บนโต๊ะไม้ติดหน้าต่างริมห้องนอน
“มันคืออะไรเหรอครับ?”
“กล้องถ่ายภาพน่ะ”
คาคาชิตอบอีกฝ่ายโดยที่ไม่หันไปมอง
มือขาวเนียนค่อยๆถอดผ้าคาดหน้าผากวางลงบนโต๊ะเล็กๆข้างเตียงนอน
ไม่แปลกใจที่เด็กหนุ่มจะดูสนใจของในห้อง
เพราะปกติเขาจะพาอีกฝ่ายไปค้างที่บ้านหลังใหญ่แต่ในวันนี้เป็นวันแรกที่เขาพาฟีนิกซ์มาค้างที่ห้องพักที่เช่าแยกไว้ของเขาเอง
ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ
คาคาชิคิดว่าเด็กหนุ่มคงกำลังสนใจกล้องตัวเก่งสีดำบนโต๊ะไม้อยู่เช่นเดิม
มือเรียวค่อยๆถอดเสื้อนอกออกแล้วโยนลงตระกร้าเตรียมซัก
ก่อนจะหันมาถอดกระเป๋าเก็บคุไนที่คาดแนบกับขาขวาออกวางลงบนโต๊ะอย่างใจเย็น
โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเขาอยู่อย่างเงียบๆ
“กินข้าวก่อนมั้ย
หรือจะอาบน้ำก่อน?” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นก่อนที่ดวงตาสีเถ้าถ่านจะหันมามองเด็กหนุ่มซึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างริมหน้าต่างโดยที่ในมือถือกล้องไม่ยอมวาง
“ยังไงก็ได้ครับ”
“งั้นฉันไปทำกับข้าวให้ก่อนละกัน”
โจนินหนุ่มสรุปแทนก่อนจะเดินออกนอกห้องนอนไป แต่ก็ยังไม่วายตะโกนกลับเข้ามาในห้อง
“เธอไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ”
ฟีนิกซ์ไม่ตอบอะไรทำเพียงแค่วางกล้องลงไว้ที่เดิมก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสื้อผ้าที่เตรียมมาสำหรับคืนนี้
ใช้เวลาไม่นานเด็กหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำที่สวมชุดอย่างเพรียงพร้อม
กลิ่นหอมๆของอาหารมื้อเย็นลอยมาแตะจมูกจนชวนให้น้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงานส่งเสียงประท้วงอาหารหนักมากขึ้น
เมื่อเดินออกมายังห้องครัวก็พบว่าเจ้าของสถานที่ทำทุกอย่างเสร็จแล้วเรียบร้อย
“กำลังจะไปเรียกพอดีเลย”
คาคาชิว่าออกมาก่อนจะวางอาหารจานสุดท้ายที่พึ่งทำเสร็จลงบนโต๊ะ
อาหารร้อนๆที่ส่งกลิ่นหอมลอยอบอวลในห้องขนาดกลาง
อาหารมากมายทุกวางจัดเรียงบนโต๊ะอย่างน่ากินพาลทำให้รู้สึกอย่างกอบโกยทุกอย่างตรงหน้าลงกระเพาะเสียให้หมด
นัยน์ตาสีเข้มเหลือบมองใบหน้าของคนอายุมากกว่าที่ยังคงมีผ้าพรางปกปิดใบหน้าเอาไว้เช่นเดิม
ไม่แน่นี่อาจเป็นโอกาสได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายก็ได้!
“เอาล่ะ
กินข้าวกันเถอะ ถ้ามันเย็นจะไม่อร่อยนะ”
คาคาชิพูดดังนั้นทำให้ฟีนิกซ์ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก
แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามอีกฝ่าย
ก่อนจะลงมือจัดการอาหารที่น่ากินตรงหน้าจนเกลี้ยง
...........................................................................................................
...จนได้สิน่า...
ฟีนิกซ์นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์นิดๆอยู่ตรงปลายเตียงนอนของคาคาชิ
ถึงจะคิดว่าจะแอบดูใบหน้าอีกฝ่ายตอนกิน แต่พอเอาเข้าจริงๆเขาดันเผลอมัวแต่สนใจอาหารตรงหน้าจนลืมเรื่องของอีกฝ่ายเสียสนิท..
เมื่อไหร่เขาจะเลิกเห็นแก่ของกินสักทีวะ!
นึกแล้วอยากจะกระโจนออกไปนอกหน้าต่างเสีย
ณ เวลานั้น..
ดวงตาคู่กลมไล่มองตามกริยาของเจ้าของห้อง
มือขาวเนียนที่ไม่ใต้ถูกซ่อนไว้ใต้ถุงมือนินจากำลังค่อยๆถอดเสื้อสีทึบออก
เผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ไร้ซึ่งอาอาภรณ์ใดๆปกปิดร่างอันเปลือยเปล่าท่อนบน
..บ้าจริง..
มือขวาถูกยกขึ้นมาปิดใบหน้าช่วงล่างเอาไว้ขนาดที่ดวงตายังจับจ้องร่างกายของคนอายุมากกว่า
ถึงจะเห็นเพียงแค่แผ่นหลังเพราะอีกคนหันหลังให้แต่เขาก็รู้สึกถึงความแปลกๆในตัวที่ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยพันบินเล่นในท้องจนรู้สึกรำคาญใจ
..แก่แดดใช่เล่นนะเรา..
นึกก่นด่าตัวเองในใจก่อนจะตัดสินใจทิ้งตัวลงบนเตียงอ่อนนุ่มทันที
นัยน์ตาคู่คมถูกซ่อนไว้ใต้เปลือกตาอย่างไม่ต้องการรับรู้อะไร
ถึงเขาจะอายุแค่
13-14 แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องอะไรสักหน่อย...
ไอ้ฟีนิกซ์! ไอ้คนแก่แดด!!!
ด่าตัวเองในใจไม่พอร่างของเด็กหนุ่มกลับกลิ้งกุกๆไปมาบนที่นอนจนทั่วเรียกความสนใจจากอีกคนในห้องให้หันมามอง
..ทำอะไรของเขานะ?..
คาคาชิไล่สายตามองเด็กหนุ่มอย่างขบขันในใจก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมผ้าขนหนูผืนสีขาวสะอาดตา
พอเดินออกมาจากห้องน้ำอีกทีก็เห็นเด็กหนุ่มนอนหลับปุยคาเตียงทั้งๆที่ยังนอนหันหัวให้ปลายเตียงอยู่ซะอย่างนั้น
“เด็กหนอเด็ก..”
อดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ถ้าเขามีลูกชายคงอารมณ์ประมาณนี้แหละนะ....
ไม่ใช่ลูกชายแต่เป็นผัวค่––––!!!! //อะไรบางอย่างบินผ่านหัวไป
มีใครอ่านตอนพิเศษที่พึ่งลงไปมั่งคะ! ><
มีเฉลยแล้วนะว่าฟีนิกซ์พูดอะไรกับคาคาชิไว้! และในตอนที่แล้วไรท์ทำสำเร็จ!
มีนักอ่านที่น่ารักหลายคนบอกว่าเกือบร้องไห้! ชอบมากค่ะ
หุหุ (อย่าตีเค้า ><)
จากตอนที่แล้วรู้สึกว่ามีคนตกใจน่าดูกับเหตุการณ์ในตอนนั้น
ฮา จริงๆมันเป็นแค่ตอนพิเศษช่วงที่น้องโตและไม่มีอะไรเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักของฟิคนี้นะ! ช่วงที่ว่าจะมีตอนพิเศษต่อมั้ยให้รอลุ้นเอาค่ะ!
><
ตอนนี้อาจดูเหมือนน้องแก่แดด
แต่จริงๆน้องก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไปนะ
ที่จะมีสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆบ้างเป็นธรรมดา
(แต่ถ้าถามถึงไรท์ตอนช่วงนั้นนี่ยังนั่งดีดลูกแก้ว เป่าไม้ไอติมอยู่เลย ให้ตายสิ ToT)
เผื่อมีใครสงสัยเรื่องน้องซากุระ
จริงๆน้องเป็นตัวละครหญิงที่เราชอบที่สุดในเรื่องนี้เลยนะ
ถึงตอนเด็กๆน้องจะดูน่ารำคาญแต่มันคือนิสัยเด็กสาวธรรมดาๆนั่นแหละค่ะ ฮา
ในสายตาน้องมองฟีนิกซ์ออกแนวชื่นชมและปลื้มในฐานะเพื่อนร่วมห้องที่เก่งกาจพอๆกับซาสึเกะค่ะ
ไม่มีอะไรเกินเลย ฮ่าๆ! ><
ความคิดเห็น