sindy_comment99
ดู Blog ทั้งหมด

ความฝันกับความจริง เลือกอะไรดี เครียดๆ

เขียนโดย sindy_comment99
เรามีความฝันอยู่สองข้อ
1. เป็นนักเขียน ได้เขียนหนังสืออย่างมีความสุข ได้ไปในที่ๆอยากไป และสร้างงานเขียนที่เรารัก
2. เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เพราะชอบเรื่องวิชาการสื่อสารมวลชนเเละทฤษฎีเป็นพิเศษ

เราเรียนจบด้านการสื่อสารมวลชนมาจากมหาวิทยาลัยดังทางภาคเหนือด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
แต่เนื่องจากเราไม่ชอบบรรยากาศการแข่งขัน และไม่ถูกจริตกับวิถีชีวิตแบบชาวกรุงเทพ
จึงตัดสินใจที่จะทำงานที่เชียงใหม่

ทีนี้...อยู่ที่เชียงใหม่ได้เงินเดือนเริ่มต้นแปดพัน ทำงานแบบโฮมออฟฟิต
ทำงานด้านการสื่อสาร ทำสารคดี รายการอะไรพวกนี้ แบกกระเป๋า แบกขาตั้งกล้อง
ทำข้อมูล เขียนบท ตัดต่อ ฯลฯ ทุกอย่างที่คนในสายโทรทัศน์ควรจะทำเป็น
ที่เราเลือกทำงานที่นี่เพราะว่า แม้จะได้เงินเดือนน้อย แต่ก็ได้มีเวลาสร้างงานเขียน เเละยังได้พบเห็นโลกกว้าง
เอามาเป็นวัตถุดิบในงานเขียนของเราด้วย
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพูนทักษะด้านการสื่อสารมวลชนของเราด้วย เป็นงานที่ได้อัพเดทความรู้ตลอดเวลา
เราทำงานมาได้สองปี เจ้านายก็อัพเงินเดือนให้เป็นหมื่นสอง
เเล้วเราก็สอบเรียนต่อปริญญาโท ตอนนี้สอบติดเเล้วรอเปิดเรียนอย่างเดียว

เจ้านายก็ดีกับเรา สอนงานเราทุกอย่าง ให้เราทำเป็นทุกอย่าง
ถึงแม้จะไปเรียนต่อ เจ้านายก็อยากให้อยู่ช่วยงานด้วย

ทุกอย่างเหมือนจะไปด้วยดี....แต่ปรากฏว่ายิ่งเราทำงานไป
เรายิ่งรู้สึกเหนื่อยเเละท้อ เราเลยนั่งจดปัญหามาก็คือ

1. เราได้เงินเดือนไม่ตรงเวลาเลย บางทีเป็นสี่ห้าเดือนเเล้วยังไม่ได้ เราเข้าใจว่างานสายรายการ สายสารคดีเป็นงานที่คนดูคาดหวังเยอะ แต่ทุนสำหรับผู้ผลิตน้อยมากๆ เจ้านายเองก็เเทบจะไส้แห้งทุกๆ เดือน มันเป็นปัญหาระดับโครงสร้างของวงการสื่อที่ทำให้เราทดท้อใจเหมือนกัน
2. เรารู้สึกว่างานหนักมาก เราทำงานทุกอย่างที่คนทำทีวีจะต้องทำ ตั้งแต่ขั้นตอนหาข้อมูล เขียนบท ประสานงานคนในพื้นที่ วางแผนการถ่ายทำ ถ่ายทำ ตัดต่อ ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ในขณะที่ปกติมันควรเป็นหน้าที่ที่ต้องแบ่งให้คนอื่นทำบ้าง เจ้านายงเคยจ้างคนอื่นมาช่วยงาน แต่ไม่มีใครทนอยู่ได้เท่าเราเลย ลาออกกันไปหมดเพราะทนความกดดันและความโหดของสายงานไม่ไหว แต่เราก็เห็นใจนายจ้างเพราะว่างานที่ได้เงินน้อย และหนักหนาแบบนี้ ใครจะอยากมาทำด้วย
3. งานที่หนักมากทำให้เราไม่มีเวลาเขียนหนังสือ ทั้งที่ส่วนลึกมันอยากจะเขียนต้นฉบับมาก เราเคยถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะไม่ได้แบ่งเวลาให้กับการเขียนต้นฉบับ และบางที เวลาที่เราเขียนต้นฉบับอยู่ นายจ้างก็จะชอบเหน็บว่าเราเอาเวลาไปทำงานอื่น แทนที่จะมาทำงานหลัก เราไม่รู้ว่าพุดจริงหรือพูดเล่น แต่มันก็เจ็บปวดเหมือนกัน ซึ่งจริงๆเเล้ว งานเขียนของเราคืองานที่เลี้ยงชีวิตเราอยู่ เพราะเราได้เงินเดือนจากนายจ้างน้อยมาก เเละไม่เคยได้ตรงตามกำหนดสิ้นเดือนเลย
4. เราเหงามาก งานที่ทำนี้เราไม่มีคนวัยเดียวกัน เพศเดียวกันเลย มีแต่ผู้ชาย นอนกินแบบผู้ชาย อยู่รวมแบบผู้ชาย เวลาลงพื้นที่เราเหงามากเลย TT ไม่มีผู้หญิงที่เอาชีวิตมาอุทิศกับการทำงานทีวีอย่างเราเลย เราเป็นผู้หญิงแท้ๆ รักสวยรักงาม ชอบเเต่งตัว สมัยเรียนเพื่อนๆคิดว่าเราเหมาะจะไปทำงานเป็นพวกพีอาร์ด้วยซ้ำ แต่เราก็เลือกทำงานถึกๆ  ผิวพรรณร่างกายที่เราทะนุถนอมเต็มไปด้วยรอยเเผล เป็นไปหมดเลย เราไม่เคยบ่นให้เจ้านายได้ยินเลย แต่เราอยากมีเพื่อนร่วมงานทีเ่ป็นเพศเดียวกันบ้าง จะได้พูดคุย ระบายความในใจให้ฟังได้บ้าง

พอเรามีความรู้สึกแบบนี้ เราก็เอาไปพูดกับผู้ใหญ่แทบไม่ได้เลย เพราะผู้ใหญ่ก็จะมองอีกแบบ
เขาจะมองว่า
1. เด็กสมัยนี้ทำไมไม่มีความอดทน
2. พวกที่ได้เกียรตินิยมก็แบบนี้ ทำงานทีไ่หนก็ไม่ได้ มีปัญหา เรื่องเยอะ
3. อยากให้เราเป็นอาจารย์ มากกว่าเขียนหนังสือ เพราะเป็นอาจารย์จะมีชีวิตที่มั่นคงกว่า


ตอนนี้เราสับสนมากเลยว่าควรจะทำยังไงดี เราพยายามเขียนทางเลือกให้ตัวเอง แต่มันก็ยังสับสนอยู่ดี T_T
เราไม่กล้าคุยกับเจ้านายด้วย เรารู้สึกกลัวๆไงไม่รู้
และนี่ก็คือทางเลือกที่เราวางไว้

1. หักดิบ ลาออกจากงานสารคดี มาทำงานเขียนเต็มตัว ทิ้งความฝันที่จะเป็นอาจารย์ซะ ใช้ชีวิตเป็นนักเขียน แต่ชีวิตคงไม่มั่นคง ถึงแม้จะสอบติดปริญญาโทเเล้วก้เรียนๆไปเถอะ เอาวุฒิแปะฝาบ้านอย่างเดียว
2. ยังไม่อยากทิ้งความฝันที่จะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ควรทนทำงานที่นี่ต่อไป เพราะคนที่จะเป็นอาจารย์สอนคนอื่นได้ จะต้องมีประสบการณ์ที่หลากหลาย และทำงานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นควรทำควบสามอย่างไปเลย ทั้งเรียนต่อปริญญาโท ทำงานสารคดีไปด้วย เเละ ทำงานเขียนไปด้วย (แต่เหนื่อยใจสุดๆ)
3. คุยกับนายจ้างว่าขอลดงานลงและหักเงินเดือนเหลือแปดพัน ไม่ลงพื้นที่เเล้ว เอาเวลาไปเรียนต่อเเละทำงานเขียน

หรือถ้าใครมีแนวคิดอะไรอยากจะช่วยเหลือเรา
รบกวนเเนะนำด้วยนะ


ปล. อีกสาเหตุหนึ่งที่เราไม่อยากลาออกเพราะว่าเราห่วงว่าถ้าเราลาออกเเล้วเจ้า นายจะหาใครมาทำงานในส่วนที่เราทำทั้งหมด งานจะไปหนักที่เจ้านายคนเดียวอีก ไม่รู้เราคิดมากไปเองหรือเปล่า แป่ว...บางทีเจ้านายอาจจะอยากให้เราลาออกก็ได้ ฮ่า ฮ่า

ความคิดเห็น

R.saki
R.saki 8 เม.ย. 57 / 21:59
ข้อ 3 
***
*** 8 เม.ย. 57 / 23:40
"ข้อ 3"
แต่คงจะเหนื่อยน่าดูเลย เพราะต้องทำควบสามอย่าง

...ทางเดินไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ก่อนจะไปถึงปลายทางที่วาดไว้ คงต้องเผชิญกับอะไรมากมาย
มันคงเป็นบทพิสูจน์...

ขอแนะนำให้ลองฮึดสู้อีกสักตั้ง
...สู้ๆนะ ท่านบลูโรส ...
Joker_Mix
Joker_Mix 22 เม.ย. 57 / 12:40
แนะนำตอนนี้ไม่รู้จะทันหรือป่าว ^^
เลือกที่ท่านบลูโรสทำแล้วสบายใจดีกว่า
ถึงอาจเหนื่อยหน่อยแต่ทำแล้วมีความสุขทำแล้วยิ้มได้มันก็คุ้มนะขอรับ
ผมก็เคยเป็นแบบท่านบลูโรส ต้องเลือกระหว่างความฝันกับความจริง :)) เป็นกำลังใจให้นะครับ
Weera Dawn
Weera Dawn 24 พ.ค. 57 / 19:12
เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่3นะคะ เลือกทำงานที่เราทำแล้วสบายใจดีกว่า^^
เป็นกำลังใจให้เช่นกันคะ
Elegra
Elegra 9 มี.ค. 60 / 13:51
ข้อ 2 ค่ะ :)