ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✰ หัวไม้ ' {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #18 : หัวไม้ : 15 {100%}

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.47K
      4
      1 ก.ค. 58







     

              "ชานยอล!"

     
     

              "เออดิวะ"


     

              สีหน้าแบคฮยอนตะลึงยิ่งกว่าอนันต์อันวาซะอีก ดวงตาคู่เล็กเรียวเบิกกว้างจนลูกตาแทบจะทะลักแถมสองมือยังวางแหมะอยู่บนลาดไหล่สูง


     

              "ทำไมมาอยู่นี่ได้อ่ะ"


     

              "ก็มาเที่ยวที่นี่ไง"


     

              "ไม่เห็นบอกกันเลย"


     

              "ก็มึงไม่ได้ถาม" แบคฮยอนลากพี่ชายออกมาจากกลุ่มคนวุ่นวาย โยนกุญแจที่เหลือในมือให้เป็นหน้าที่ของเซฮุนต่อ


     

              แปลกใจไม่น้อยว่าทำไมถึงมาเจอชานยอลที่นี่ ตอนแรกก็คิดว่าตาฝาดเห็นคนอื่นเป็นพี่ชายซะอีก ช่วงนี้ยิ่งไว้ใจตัวเองไม่ได้อยู่ด้วย เมื่อสิบนาทีก่อนก็เพิ่งเห็นรุ่นน้องในแผนกเป็นชานยอลไปแล้วรอบนึง ครั้งนี้เลยต้องให้แน่ใจว่าใช่ชัวร์


     

              ไม่ปฏิเสธเลยว่าเด็กน้อยรู้สึกชื้นใจขึ้นมานิดหน่อยที่รู้ว่ามีชานยอลอยู่ที่นี่ด้วยกัน ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยแต่มันกลับปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ


     

              "แผนสูงเหมือนกันนี่หว่า" มินซอกเดินเข้ามาคว้าลำคอยาวไปดีดหน้าผาก "หลอกให้พวกกูมาเที่ยวที่นี่เพื่อที่จะมาดูแลน้องชายตัวเองใช่ไหม?"


     

              "อะไรไอ้มินซอก หุบปากไปเลย"


     

              "ไม่ต้องมาทำเป็นใสซื่อ นี่แบคฮยอน..." ร่างสูงกว่าพยายามแทรกระหว่างเพื่อนตัวเองกับน้องชายแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อแบคฮยอนเองก็ดันเขาออกเหมือนกัน "มันยอมจัดการทุกอย่างเองเพื่อที่จะได้มาเที่ยวที่นี่เลยนะ บอกว่าถ้าไม่มาที่นี่ก็จะไม่ไปไหนกับเพื่อนทั้งนั้น"


     

              แบคฮยอนยิ้มกว้างจนตาหยี สุดท้ายแล้วพี่ชายเขาก็ทำอย่างที่ตกลงกันไว้ไม่ได้อยู่ดี อย่าว่าแต่ชานยอลเลย...เพราะตอนนี้คนที่มีความสุขที่สุดก็หนีไม่พ้นแบคฮยอนนี่แหละ


     

              เผลอมีความสุขจนลืมฉุกคิดไปเลยว่าอีกไม่นานก็ต้องไปใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองหลวง



     

              "เที่ยวที่ไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละน่า" เสียงทุ้มย้อนอย่างหงุดหงิด

     
     

              อายฉิบหาย ... จะแกล้งทำว่าบังเอิญซะหน่อย แม่งรู้หมดละว่ากูตั้งใจตามมันมา



     

              "แต่ที่ไหนมึงก็ไม่ไปถ้าไม่ใช่ที่นี่ไง" มินซอกเตะก้นทำโทษหัวหน้าทีมไปหนึ่งทีแล้วเดินกลับไปรวมกับสมาชิกที่รออยู่


     

              ชานยอลถูจมูกสลับกับเกาท้ายทอยแก้เก้อ แบคฮยอนเองก็ยืนมือไพล่หลังเสมองทางอื่น ทำไมอยู่ๆบรรยากาศระหว่างสองพี่น้องก็เปลี่ยนไปแบบนี้


     

              "ขอบใจนะ"


     

              ชานยอลขยับแค่ลูกตามองหน้าน้องชาย "ขอบใจอะไร"


     

              "เป็นห่วงกูใช่ไหมเลยตามมาอ่ะ"


     

              เหมือนได้ยินเสียงหวอของรถพยาบาลอยู่ในมโนจิต ชานยอลต้องหยุดหายใจจนตายไปแล้วใช่ไหม?


     

              "เปล่า"


     

              "เห้ย เป็นห่วงก็บอกว่าเป็นห่วงดิ"


     

              "ก็บอกว่าเปล่าไง ไปละ" มือหนาผลักศีรษะกลมหนึ่งทีแล้ววิ่งเหยาะๆไปทางลิฟต์ ไม่วายยังหันมาโบกมือให้แบคฮยอนที่ยืนหัวเราะเขาอยู่


     

              ให้ตายเถอะ เป็นอะไรไปวะ ทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลาที่มองหน้ามันเลย





     

              ชานยอลนั่งหอบหายใจอยู่ปลายเตียงในห้องของโรงแรม เขานอนห้องเดียวกับมินซอกและดงอุน ในมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น หน้าจอค้างอยู่ที่ไลน์ของแบคฮยอน


     

              บทสนทนาล่าสุดคือตอนที่แบคฮยอนบอกว่าถึงที่พักแล้ว


     

              จริงๆปาร์คชานยอลไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เขาพยายามไม่สนใจแบคฮยอนมากกว่าพันครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์แต่ก็ทำไม่ลง แบคฮยอนน่าเป็นห่วงเกินไป...หรือบางทีชานยอลเองก็อาจจะเป็นห่วงแบคฮยอนมากไป


     

              คิดว่าเป็นอย่างหลัง



     

              ทัศนศึกษาตอนเกรดสี่ ชานยอลเคยปลอมตัวเป็นเด็กเนิร์ดเดินอยู่ท้ายขบวนแทนที่จะได้ไปเดินถือธงสีประจำหมู่ด้านหน้าสุด เหตุผลคืออยากเดินเป็นเพื่อนน้องชายตัวเอง แบคฮยอนซุ่มซ่าม ขนาดมีเขาเดินใกล้ๆยังสะดุดได้แม้แต่กิ่งไม้กิ่งเล็กๆ

     

     

              กีฬาสีตอนเกรดหกก็ซ่า ลงชื่อแข่งเดินเร็วทั้งๆที่ตัวเองขาสั้นกุด ชานยอลถึงกับต้องลงไปให้กำลังใจอยู่ในสนามจนเกือบจะเข้าเส้นชัยอยู่รอมร่อแต่แบคฮยอนดันสะดุดขาตัวเองกลิ้งไปชนผู้แข่งขันคนอื่นจนโดนเพื่อนทับมาอีกที


     

              ได้บาดแผลทุกการเคลื่อนไหว



     

              ไม่อยากนึกย้อนกลับไปให้มากกว่านี้เพราะยังไงสุดท้ายแล้วน้องชายเขาก็คือไอ้เด็กซนคนหนึ่งที่ไม่ว่าจะตั้งใจทำอะไรแค่ไหนก็มักจะเดือดร้อนไปซะทุกครั้ง







     

              "เรามาแข่งวิ่งจากตรงนี้ไปถึงโต๊ะตัวนั้นกันดีกว่า" ทางลงจากเนินเขาจะเป็นทางลาดไปสู่ชายหาดเงียบสงัด


     

              "ไปเลย ขี้เกียจ" ชานยอลปัดมือไล่ให้คนอื่นวิ่งแข่งกันไปก่อนส่วนตัวเองขอเดินหล่อๆตามหลัง


     

              มันก็จริงที่เขาไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกผิดแต่ชานยอลก็ไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนั้น ก็ได้แต่คิดเอาว่าออกมาสูดอากาศข้างนอกซะบ้างก็ดีเหมือนกัน


     

              เด็กหนุ่มตั้งใจเก็บโทรศัพท์ไว้ในห้องเพราะกลัวจะส่งข้อความไปรบกวนแบคฮยอนเหมือนทุกครั้ง ก็บอกแล้วไงว่าเขากำลังพยายามไม่สนใจแบคฮยอนอยู่ ถึงแม้มันจะยากจนเริ่มหงุดหงิดก็เถอะ


     

              เขาต้องปล่อยให้น้องชายได้ใช้ชีวิตแบบอิสระดูบ้าง จริงๆมันอาจจะดีกว่าการมีเขาอยู่ด้วยเป็นไหนๆด้วยซ้ำ แต่โชคชะตาก็มักเล่นตลกกับเราอยู่เสมอ...


     

              เสื้อสีเหลืองสดใสสะท้อนแสงแสบตามาแต่ไกล ร่างเล็กตั้งใจวิ่งไล่ลูกบอลกลมๆจนผ่านหน้ากลุ่มพวกเขาไปแล้วเตะอัดนายประตูของฝั่งตรงข้ามจนได้คะแนนขึ้นนำไปก่อน


     

              เด็กช่างแผนกไฟฟ้ากำลังทำกิจกรรมอยู่ริมหาด ถัดเข้ามาด้านในเป็นเก้าอี้เปลวางเรียงซึ่งทีมพลอยเองก็เลือกที่นั่งแถวนั้น


     

              แบคฮยอนร่าเริงตลอดเวลาจนคนอื่นอาจจะคิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กแสบคนนี้ก็มีมุมที่น่าสงสารอยู่เหมือนกัน เสียงเฮดังขึ้นเป็นระลอก ชายหนุ่มไม่อาจละสายตาออกจากน้องชายตัวเองได้เลยและหลายครั้งที่แทบจะถลาตัวเขาไปรับร่างเล็กไว้เมื่อตอนหกล้ม


     

              จิกมือลงบนหน้าขาจนขึ้นเป็นรอยแดงเพื่อสะกดให้ตัวเองมีสติอยู่เสมอ ชานยอลกำลังทรมานตัวเองด้วยการนั่งดูแบคฮยอนอยู่ห่างๆ



     

              "พี่แบคฮยอนครับ" ร่างเล็กหันไปตามเสียงเรียก ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นงุนงงเมื่อรุ่นน้องเดินเข้ามาหาเขาถึงที่ "น้ำครับ"


     

              "อ้อ ขอบใจนะ" เจ้าของใบหน้าน่ารักยังคงความฉงนไว้ แต่ไอ้เด็กหล่อคนนี้ก็ยังยืนอยู่ที่เดิมเขาจึงบิดฝาขวดแล้วกระดกน้ำจนของเหลวไหลย้อยตามลำคอ


     

              "ผ้าครับ"


     

              "อ่า" แบคฮยอนยิ้มขำแต่ก็ยอมรับผ้าเย็นมาเช็ดหน้าแต่โดยดี


     

              "เห้ย! หัว!"



     

         ตุ้บ!



     

              เสียงโวยวายรอบข้างเงียบลงจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจ ไม่ใช่สิ... แบคฮยอนได้ยินเสียงหายใจอยู่ใกล้หูนี่เอง

     
     

              "เป็นอะไรไหมครับ?" ใบหน้าของรุ่นน้องทาบทับแสงแดดที่กำลังส่องมาทางเขา ตัวแบคฮยอนลีบแบนไปกับอ้อมกอด


     

              "เป็นไรไหมวะ?"


     

              "ไม่เป็นอะไรครับ"


     

              "พี่ขอโทษนะ มึนไปเลยดิ" รุ่นน้องคลายวงแขนออกจากแบคฮยอนหันไปตอบคำถาม ลูบบริเวณที่โดนลูกบอลกระแทกเต็มเหนี่ยว


     

              "แป๊ก!!"


     

              "ห้ะ ชานยอลว่าไง"


     

              "เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่โดนลูกบอลอัดหน้าใช่ไหม?" ชานยอลจับร่างน้องชายหมุนไปมาเพื่อสำรวจ


     

              จริงๆเขาก็นั่งดูเหตุการณ์อยู่ที่เดิมนั่นแหละ เห็นหมดว่ามีใครเดินเข้าไปหามันแล้วยื่นน้ำยื่นผ้าให้ เห็นหมดว่ามีลูกบอลลอยมาองศาเบ้าตาแบคฮยอนพอดีแต่มีใครมารวบตัวมันแล้วเป็นบาเรียโดนลูกบอลอัดท้ายทอยให้แทน เห็นหมด...


     

              "ไม่ๆ เห้ย! เป็นไรไหมวะ!" แบคฮยอนตอบพี่ชายก่อนจะผละออกไปหารุ่นน้อง จับแขนให้ร่างที่สูงกว่าหันมามองหน้าเขา เออ มึงเห็นกูเป็นขี้หมาหรือไงถึงได้สะบัดกูออกแรงขนาดนี้ กูเป็นพี่มึงนะเว้ย!





     

              หัวหน้าแผนกพารุ่นน้องในปกครองไปนั่งพัก กิจกรรมต่างๆยังคงดำเนินต่อไปแต่แบคฮยอนไม่อยากให้มีใครต้องบาดเจ็บ โดยเฉพาะถ้าต้นเหตุมันเป็นเพราะตัวเขาด้วยแล้ว


     

              "ไม่เป็นไรแน่นะ"

     


              "ครับ"


     

              "แล้วคิดยังไงเอาตัวมาบังบอลให้วะ เป็นพระเอกหนังหรอ?"


     

              "เปล่าครับ"


     

              "ถ้าสลบไปจะว่ายังไง มีสมองไหมเนี่ย?"


     

              "มีครับ"


     

              "คนโง่เท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้ รู้ไหม?"


     

              "ไม่รู้ครับ..." แบคฮยอนกำลังจะอ้าปากแซวรุ่นน้องว่าพูดปฏิเสธเป็นด้วยหรอแต่ก็โดนขัดขึ้นมาซะก่อน "ผมแค่ไม่อยากให้พี่แบคฮยอนเจ็บ"


     

              เจ้าของชื่อกำลังประมวลประโยคที่เพิ่งได้ยินมา เขาเองไม่ใช่คนใสซื่อแต่ใครจะไปกล้าคิดเรื่องชู้สาวกับรุ่นน้องที่เห็นหน้ากันไม่บ่อยแถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันด้วย


     

              แบคฮยอนจึงมองว่าเด็กคนนี้เป็นคนดีที่กลัวเขาบาดเจ็บจริงๆ ในเมื่อเขาอยู่ใกล้แบคฮยอนมากที่สุดจะให้ทนมองอยู่เฉยๆก็กะไรอยู่ แถมยังเป็นหัวหน้าแผนกด้วยทำแบบนั้นอาจจะโดนทำโทษหรือเปล่า ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่แบคฮยอนไอ้เด็กคนนี้ก็คงทำแบบนี้เหมือนกันแหละ


     

              "คนดีจังเลยนะ"


     

              "ผม..."


     

              "วุ้ว~ ขอบใจที่บังลูกบอลให้น้องชายฉันนะ เป็นอะไรหรือเปล่า? สมองเสื่อมไหม? หวังว่ายังจำชื่อพ่อได้อยู่นะ" ร่างสูงคุ้นตานั่งแทรกกลางระหว่างรุ่นน้องและไอ้เด็กแสบ


     

              แบคฮยอนตบหัวพี่ชายเบาๆ "น้องเจ็บหัวอยู่นะ"


     

              "แล้วกูทำอะไรน้องเขายัง? มีแต่มึงเนี่ยมาตบหัวกู"


     

              "มึงไปชนน้องเขาอ่ะ"


     

              "น้องเขาร้องสักแอะไหม? ก็ไม่นี่"


     

              ร่างเล็กกรอกตามองบน นิสัยก้าวร้าวของชานยอลก็คล้ายๆเขานั่นแหละแต่น้อยกว่านิดหน่อย เขานึกอยากถอดรองเท้าฟาดหัวมันแทนมือซะด้วยซ้ำแต่ก็เกรงใจสายตาชาวบ้านเลยยั้งมือไว้ได้ทัน


     

              พี่ชายเหยียดตัวตามสบายมองหน้าคนแปลกหน้าข้างๆแล้วฉีกยิ้มส่งอย่างน่ารัก





     

              เขาหึง!





     

              หึงใครก็ไม่รู้ที่เข้ามาเกาะแกะน้องชาย ต่อให้รู้จักกันมากมายขนาดไหนก็อยากให้อยู่ในสายตาเขาเท่านั้น


     

              "คุยกันต่อสิ" ตอนนี้จะทำอะไรก็ทำเลยแต่อย่าให้มากจนทนไม่ไหวแล้วเผลอทำให้เจ็บตัวละกัน


     

              "งี่เง่า"


     

              "บ่นอะไร"


     

              "ก็มึงงี่เง่า"


     

              "เรื่อง?"


     

              "ไปอยู่กับเพื่อนมึงนู่น กูจะอยู่กับเพื่อนกู"


     

              "เพื่อนกูไปไหนแล้วไม่รู้อ่ะ ละไอ้เด็กนี่ก็ไม่ใช่เพื่อนมึงด้วย"


     

              แบคฮยอนถอนหายใจครั้งที่สิบล้าน "รุ่นน้องกู"


     

              "รู้จักชื่อมันไหม?"


     

              "ชื่อ..." เสียงใสเงียบลง รื้อหาชื่อของรุ่นน้องในแผนกอยู่หลายวินาทีในคลังสมองแต่ก็หาไม่เจอ แบคฮยอนรู้สึกผิดและขายหน้าขึ้นมาในทันที เขาสบตาหนุ่มน้อยที่มองมาอยู่เหมือนกันเพื่อขอโทษ


     

              "เห็นไหม? มึงไม่ได้รู้จักเขาสักหน่อย"


     

              "แต่น้องเขาอยู่แผนกเดียวกับกู"


     

              "งั้นมึงจะไว้ใจมันมากกว่ากูใช่ไหม?"


     

              "ไม่ใช่อย่างนั้น..."


     

              "โอเค งั้นกูไป" ร่างสูงหยัดตัวขึ้นยืน สาวเท้าเดินกลับไปทางโรงแรมแล้วไม่มองกลับมาอีกเลย


     

              แบคฮยอนทิ้งตัวลงข้างเด็กหนุ่มอีกครั้ง เขาอยากเดินตามชานยอลไปแต่ก็ต้องดูแลรุ่นน้องที่ช่วยเขาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างนั้นความกังวลมันก็ยังอยู่ เขารู้ว่าชานยอลก็แค่เป็นห่วงแต่แบคฮยอนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไหม? ไม่ง้อ!



     

              "ขอโทษนะ พี่ชายพี่มันเป็นคนอารมณ์แปรปรวนแบบนี้แหละ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย อย่าไปถือสามันเลย"


     

              "ครับ"


     

              ""


     

              "พี่แบคฮยอนครับ"


     

              "หืม?"


     

              "ผมชื่อแทยง"




     

     

     






     

              ชานยอลมองกลุ่มเด็กมอปลายต่างโรงเรียนผ่านระเบียงห้อง เขายืนกอดอกอยู่ตรงนี้มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แบคฮยอนทำให้เขาหงุดหงิดแต่ก็ไม่คิดจะตามมาง้อหรือส่งข้อความอะไรมาเลย

     
     

              และนั่น...ก็ทำให้ชานยอลยิ่งหงุดหงิด

     


     

     

              กิจกรรมร้องเพลงรอบกองไฟกำลังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ชานยอลมองเห็นทุกคนได้จากมุมนี้รวมถึงแบคฮยอนเองที่กำลังโลดเต้นอยู่กับกลุ่มเพื่อนด้วย


     

              ไม่ถึงห้านาทีร่างสูงก็ย้ายตัวเองมายืนอยู่หลังพุ่มไม้ เฝ้ามองจากตรงนี้ก็เห็นว่าแบคฮยอนกำลังรับขวดเบียร์มาจากคยองซู

     


     

    ChanHyun
    21:47 P.M.   ห้ามดื่ม!


     

    BaekYeol
    21:48 P.M.   เสือก


     

     

    ChanHyun

    21:48 P.M.   แบคฮยอน
    21:48 P.M.   เดี๋ยวเมา


     

    BaekYeol

    21:49 P.M.   นิดเดียว
    21:49 P.M.   จิบๆ

     
     

    ChanHyun

    21:50 P.M.   จิบก็ไม่ได้ ห้าม!

     


    BaekYeol

    21:50 P.M.   อะไรนักหนา

     
     

    ChanHyun

    21:51 P.M.   ได้

     


     

              "เอา จะเมาแอ๋แค่ไหนก็ตามสบาย" แบคฮยอนเอี้ยวตัวไปมองเงาตะคุ่มที่เป็นต้นตอของเสียงจากด้านหลัง ลดปากขวดที่จรดริมฝีปากลงช้าๆ เขาเองไม่คิดว่าชานยอลจะกล้าเข้ามาห้ามถึงตรงนี้แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วนิดหน่อย


     

              สิ่งที่เด็กหนุ่มทำอยู่ตอนนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก ร่างเล็กเองก็ชินเสียแล้วกับอาการเป็นห่วงเกินหน้าเกินตาของพี่ชาย เห็นอย่างนั้นจึงยกขวดขึ้นจรดริมฝีปากอีกครั้งแล้วแหงนหน้าให้น้ำสีอำพันไหลลงคอ


     

              "อ่าาาาาาา"


     

              ไม่ได้ต้องการจะประชดหรือเอาชนะ แต่เขามั่นใจว่าถ้าเมาแล้วจะไม่เกิดอันตรายกับตัวเองแน่นอน


     

              ก็มีชานยอลอยู่ตรงนี้แล้วนี่!

     


     




     

              ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงเบียร์ขวดนั้นก็หมดลง แบคฮยอนลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะเซไปด้านข้างเล็กน้อยแต่ก็ทรงตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็วแล้วออกเดินไป


     

              ชานยอลใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เขามองร่างน้องชายที่เดินขนาบข้างคยองซูมานั่งลงที่เดิมพร้อมขวดเบียร์ขวดใหม่และกับแกล้มอีกนิดหน่อย


     

              แบคฮยอนไม่แม้แต่จะหันมาถามว่าเขากินอะไรหรือยัง ดึกขนาดนี้แล้วไม่ง่วงหรอ อยู่ตรงนี้น่าเบื่อนะทำไมไม่ไปอยู่กับเพื่อน หรือ...หรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้ว่าชานยอลยังมีตัวตน


     

              ถ้าการทำตัวงี่เง่าไปเมื่อตอนกลางวันจะทำให้ร่างเล็กโกรธแล้วตัวเขาเองไม่โกรธหรือไง?




     

              มันสมควรแล้วหรอที่จะไปนั่งกับคนแปลกหน้าสองต่อสองแบบนั้นน่ะ เจ้าตัวไม่คิดอะไรอันนั้นชานยอลรู้ แต่คนอื่นจะคิดแบบแบคฮยอนหรือเปล่า? ทุกคนไม่ได้มองโลกมุมเดียวกับแบคฮยอนไปหมดซะหน่อย


     

              ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย

     


     





     

    .





     

    .

     





     


     

              แบคฮยอนลืมตาขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมที่มีแค่แสงสว่างลอดผ้าม่านเพียงสลัว มีเบาะเตียงนุ่มๆรองรับสรีระ มีผ้าห่มให้ความอบอุ่น แต่ศีรษะกำลังหนักอึ้งและท้องไส้กำลังปั่นป่วน


     

              "อุ้" สลัดทุกอย่างที่ขวางตัวออกแล้ววิ่งดิ่งไปยังคอห่านในห้องน้ำ ปล่อยของภายในกระเพาะที่พร้อมจะออกตั้งแต่รู้สึกตัวจนน้ำหูน้ำตาไหล


     

              มีแรงสัมผัสบีบเบาๆตรงไหล่ก่อนจะเลื่อนขึ้นเลื่อนลงกลางแผ่นหลัง แบคฮยอนขย้อนอาหารที่กินย้อนไปเมื่อสามวันก่อนออกจนหมดแล้วแหงนหน้าขึ้นมองกระจกพร้อมกับอุทานเบาๆ


     

              "เห้ย! มึงมาได้ไง!!" ...เบามาก


     

              "ก็ได้ยินเสียงมึงอ้วกเลยมาลูบหลังให้นี่ไง"


     

              "ไม่ใช่ หมายถึงว่า...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"


     

              ชานยอลจ้องหน้าแบคฮยอนผ่านกระจกอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าและเขาเพิ่งได้นอนเมื่อตอนเกือบตีสี่นี่เอง ทำไมจะต้องมาตอบคำถามโง่ๆของเด็กโง่ทั้งๆที่ง่วงจะตายอยู่แล้วด้วย


     

              "ก็กลับมาพร้อมมึงนั่นแหละ"


     

              "แล้ว? คยองซูล่ะ?" มือเล็กดันร่างสูงออกจากกรอบประตูชะโงกหน้าไปยังเตียงว่างเปล่า "คยองซูไปไหน?"


     

              ชานยอลถอนหายใจจ้องหน้าคนตัวเตี้ยกว่าเขม็ง เขาเริ่มจะโมโหแบคฮยอนแล้วนะ


     

              "หยุดตีโพยตีพายก่อนได้ไหมแบคฮยอน"


     

              "..." แบคฮยอนยืนนิ่งตามคำสั่งแต่สายตายังคงหลุกไปหลิกมา ขบริมฝีปากและกำมือแน่นจนรู้สึกเจ็บไปหมด


     

              ภาพสุดท้ายที่จำได้คือใบหน้าชานยอลที่อยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน

     

     



     

              คิดได้แค่นั้นก็รู้สึกใจเต้นรัว จำอะไรได้แค่เลือนรางจนอยากจะมุดหัวลงไปในโถแล้วชักโครกตัวเอง ...ต้องโดนชานยอลกระทืบแน่เลย


     

              "มึงเมา..." เสียงทุ้มใหญ่ทรงอำนาจจนแบคฮยอนอยากจะร้องไห้เพราะความกลัว "มาก"


     

              "..."


     

              "กูเลยพามึงกลับมานอน ส่วนคยองซูก็แบกเซฮุนกลับไปนอนแล้วบอกว่าจะนอนห้องเซฮุนเลย"


     

              ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาดุๆของพี่ชาย ชานยอลอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงนอนขายาว ส่วนเขาก็ใส่เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งกับกางเกงผ้าสามส่วน


     

              "..."


     

              "เป็นไง?"


     

              หมดคำจะพูด... แบคฮยอนได้แต่ยืนสำนึกผิดอยู่เงียบๆในขณะที่มือเล็กก็คลึงชายเสื้อตัวเองไปด้วยความประหม่า


     

              "ไม่เป็นไง"


     

              "พี่จะทำยังไงถ้าเมื่อคืนเราจมน้ำไป หืม?"


     

              "ไม่หรอก...เมาแล้วไม่ลงน้ำหรอก"


     

              "หรอ? ลองไปดมชุดที่ตากอยู่ด้านนอกสิ"


     

              แบคฮยอนทำหน้างง ส่งผลให้พี่ชายพยักเพยิดให้เดินออกไปทำตามที่บอก


     

     

         ชัดเลย...

     


     

              "แหะๆ" เด็กแสบหัวเราะแห้งๆหลังจากดมชุดที่ใส่เมื่อวานเต็มปอด กลิ่นเค็มของน้ำทะเลปะทะจมูกเต็มแรงแถมเมื่อหันกลับมายังเจอร่างสูงยืนกอดอกพิงกรอบประตูอยู่ด้วย "พี่ชานยอล~"

     
     

              เจ้าของชื่อยกยิ้มมุมปากอย่างไม่ทันตั้งตัว

     
     

              ก็น้องชายเขาเล่นเข้ามาเกาะแขนส่งเสียงอ้อนออดราวกับขอร้องว่าอย่าทำโทษกันเลยอยู่แบบนี้ เห็นแล้วมันก็อดเอ็นดูไม่ได้


     

              แบคฮยอนถูแก้มกับต้นแขนแกร่งร้องงุ้งงิ้งเหมือนลูกหมา ชานยอลตาสว่างทันทีแม้จะนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเพราะภาพปัญญาอ่อนของน้องชาย


     

              "เมื่อคืนแสบมากนะ"


     

              "ไม่แสบ"


     

              "โวยวายเหมือนคนบ้าเลย ใครๆเขาก็เห็นกัน"


     

              "จริงอ่ะ" ร่างเล็กจ้องมองพี่ชายตาแป๋ว


     

              "โกหกทำไมล่ะ"


     

              "หมด...หมดแล้วภาพพจน์ที่สั่งสมมา" แบคฮยอนโขกหน้าผากตัวเองลงกับหัวไหล่เบาๆหลายที


     

              ชานยอลคลี่ยิ้มกว้าง...






     

     

     

     

     

              เมื่อคืนเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดเหมือนกับจับปูใส่กระด้ง ทั้งแบคฮยอนทั้งเซฮุนเมาปลิ้นกันใหญ่ ลากกันไปลากกันมาแถมยังสลับกันหัวเราะสลับกันร้องไห้ซะเสียงดัง โชคดีที่คยองซูคอแข็งใช้ได้เลยมาช่วยกันจับแต่สุดท้ายก็กลิ้งลงทะเลไป


     

              เด็กทั้งแผนกไม่มีใครสนใจประธานรุ่นเพราะมัวแต่สนุกอยู่กับกลุ่มของตัวเอง จะมีก็แต่ไอ้เด็กที่เอาหัวมาบังลูกฟุตบอลให้แบคฮยอนกลางสนามเมื่อตอนกลางวัน

     


     

         ก๊อก ก๊อก ก๊อก


     

     

              ขณะที่กำลังจัดการกับคนเมาเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัด ชานยอลปล่อยเสื้อที่สวมคาหัวแบคฮยอนไว้แบบนั้นแล้วลุกไปเปิดประตูเพราะคิดว่าคงเป็นโดคยองซูที่ย้อนกลับมาเอาของ

     
     

              แต่เขาคิดผิด...

     


     

     

              "พี่แบคฮยอนอยู่ไหมครับ?"


     

              "มาทำไม?"

     
     

              "คือ...ผมเห็นว่าพี่เขาเมามากเลยซื้อมาให้น่ะครับ" ชานยอลมองเข้าไปในถุงเห็นเครื่องดื่มแก้เมานอนกองรวมกันสามขวด


     

              "ขอบใจนะ แต่ไม่เป็นไร"


     

              "เดี๋ยวสิครับ!" แรงดันจากคนนอกห้องส่งผลให้ประตูปิดไม่ลง ชานยอลจึงต้องเปิดมันออกอีกครั้งอย่างจำยอม


     

              "อะไรนักหนา! ฉันจะนอน!"


     

              ปาร์คชานยอลเกลียดขี้หน้ามันสุดๆเลยให้ตาย


     

              "ถ้างั้นผมฝากให้พี่แบคฮยอนได้ไหมครับ?"


     

              "ไม่ได้!!" ชานยอลปิดประตูลงอย่างแรงจนลมปะทะใบหน้ารุ่นน้องในแผนกก่อนจะเปิดออกอีกครั้งเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ "ฉันรู้ว่านายสนใจแบคฮยอนอยู่ แต่เชื่อเถอะ...ว่าแบคฮยอนไม่สนใจคนอย่างนายหรอก ไปนอนได้แล้วไอ้เด็กเมื่อวานซืน!"


     

              ชานยอลอยากต่อยมันให้หน้าหงายแล้วแถมด้วยการฟาดหน้าแข้งลงกับแผงฟันให้หลุดทั้งแถบ





     

              เขาไม่ได้กลัวเรื่องที่ไอ้เด็กนี่จะตามจีบแบคฮยอน แต่แค่รำคาญสายตาเวลาเห็นว่าสองตาของแบคฮยอนไม่ได้มองมาทางเขาก็เท่านั้น

     

     


     

              ร่างสูงกลับมาจัดการกับคนเมาบนเตียงต่อ ถึงแม้แบคฮยอนจะสิ้นฤทธิ์ลงไปแล้วหลังจากจับให้อาบน้ำแต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี


     

              "ดื้อขนาดนี้ยังจะมีคนมาจีบอีกหรอ"


     

              นิ้วเรียวดีดลงเบาๆบนหน้าผากมน ใส่เสื้อผ้าให้น้องชายแล้วห่มผ้าให้จนถึงหน้าอก แบคฮยอนมุดตัวลงเมื่อร่างสูงขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆกัน


     

              ขยับใบหน้าเข้ามาชนแผงอกแล้วซุกตัวเองไว้อย่างนั้น

     

     


     

              ชานยอลรวบคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วฝังจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มอยู่เนิ่นนาน เชยคางให้ใบหน้ามนที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เพื่อขอยลโฉมอีกครั้ง


     

              "งือ" ตาเรียวปรือขึ้นช้าๆหลังจากโดนขัดใจเวลานอนของตน


     

              ปากหยักยกยิ้มสูง


     

              "อย่าเพิ่งตื่นขึ้นมาตอนนี้เลยนะ...แบคฮยอนของพี่"


     

              แล้วกดศีรษะกลมให้แนบลงกับแผงอกอีกครั้ง

     

     

     



















     

              เด็กๆลงมาทานข้าวเที่ยงตรงเวลาในห้องอาหารของโรงแรม ชานยอลจึงแยกตัวกลับมาอยู่กับสมาชิกในกลุ่มปล่อยให้น้องชายได้เริ่มกิจกรรมกับแผนกตัวเองต่อ

     
     

              "พี่ชานยอล พาไปหาพี่แบคฮยอนหน่อยดิ"


     

              ดวงตาคมเหล่มองหญิงสาวที่โน้มตัวลงมากระซิบใกล้ๆก่อนจะดันศีรษะเธอกลับไปด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว


     

              "ไม่ มี ทาง"


     

              พูดแค่นั้นก็ลุกเดินออกไปสูดอากาศด้านหน้าระเบียง ด้านซ้ายมือเป็นป่าเขาเขียวขจี ส่วนขวามือก็เป็นทะเลสีคราม ทุกอย่างมันช่างลงตัวราวกับพระเจ้าตั้งใจสรรค์สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาให้มนุษย์ได้อิจฉาธรรมชาติเล่น


     

              เสียงดังแว่วมาจากทางด้านหลัง ชานยอลมองหาแบคฮยอนได้อย่างรวดเร็ว เด็กแสบคุยจ้ออยู่กับเพื่อนสนิทในเรื่องราวน่าอับอายเมื่อคืน มีท่าทางประกอบฉากได้อรรถรส


     

              ดวงตาเรียวหยีลงจนน่าหมั่นเขี้ยว ปาร์คชานยอลต้องกำมือเข้าหากันแน่นเพื่อข่มอารมณ์ เพียงแค่วูบเดียวคิ้วเรียวก็กระตุกเข้าหากัน เขาคิดว่าตัวเองจะได้เห็นใบหน้าแบบนั้นของแบคฮยอนคนเดียวซะอีก ...ที่ไหนได้


     

              ชานยอลก็ไม่ได้พิเศษไปมากกว่าคนอื่นเลย

     

     


     

              ราวกับโดนค้อนปอนด์ทุบจนได้ยินเสียงวิ๊งอยู่ในหู แบคฮยอนลับตาไปแล้วเขาจึงหันกลับไปมองภาพเดิมเมื่อก่อนหน้า


     

              "ชานยอล! ลงมา!!" เสียงมาร์ตินตะโกนมาจากด้านล่างท่ามกลางพุ่มไม้ ขายาวสับเท้าลงบันไดตามไปอย่างรวดเร็วจนมายืนขนาบข้างเพื่อนๆ

     


              "เขามีกิจกรรมให้ทำ อ่ะนี่..." ฝรั่งอีกคนแจกใบปลิวแผ่นเล็กๆให้ทุกคนอ่าน กิจกรรมเดินป่าพิชิตยอดเขาเพื่อถ่ายรูปกับจุดชมวิวที่สวยงามที่สุด

     


              ชานยอลไม่ได้อยากไปเลยสักนิด แต่เขาเห็นว่ากลุ่มทัวร์กลุ่มใหญ่กำลังเดินมุ่งหน้าขึ้นไปตามทางชัน ดวงตาโตก็เริ่มเป็นประกายความหวังและตอบตกลงไปในทันที


     

              "เออชานยอล ถามไรหน่อยดิ" ขนาดรูปร่างที่แตกต่างกันของเพื่อนสนิททำให้ต้องเหล่ตามองต่ำเล็กน้อย


     

              "ว่า"


     

              "มึงกับแบคฮยอนอ่ะ เป็นพี่น้องกันจริงๆหรอวะ?"


     

              "ทำไม กูกับมันไม่เหมือนพี่น้องกันตรงไหน"


     

              ซิ่วหมินยกมือเกาท้ายทอย... "ไม่ใช่อย่างนั้น อย่างเพิ่งหงุดหงิดดิวะ"


     

              "..." ชานยอลเบียนหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ทำไมต้องอารมณ์เสียทุกครั้งเวลามีคนถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนกับแบคฮยอน


     

              หรือเป็นเพราะความจริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...


     

              "กูเคยเจอเหตุการณ์ที่พี่กับน้องตกหลุมรักกันอ่ะ เอาจริงความรักมันก็เกิดขึ้นได้กับทุกคนนั่นแหละ แต่กูว่ามันน่าเศร้าว่ะ..." มินซอกจ้องเสี้ยวหน้าเพื่อนตัวสูง "ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องประหลาดแบบนี้หรอก แต่มันก็ห้ามไม่ได้ป่าววะ"


     

              "อะไรของมึง พอเหอะ"


     

              "ครอบครัวเขาไม่เห็นด้วย ไม่มีใครเห็นด้วยกับความรักของพี่น้องคู่นี้ พ่อแม่จับแยกออกจากกันให้อยู่คนละซีกโลก..."


     

              "..." สันกรามเด็กหนุ่มชัดขึ้นก่อนจะหันกลับมามองเพื่อน ถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วยกยิ้มมุมปาก หลุบตามองพื้นแล้วเดินนำขึ้นไปไม่อยากสนใจ


     

              แต่มินซอกก็วิ่งตามมาจนได้ "ไม่กี่เดือนพี่น้องคู่นี้ก็หนีมาหากัน จับมือกระโดดน้ำฆ่าตัวตายลงมาจากสะพาน"


     

              "..."


     

              "ข้อความก่อนตายคือ...ถ้ารักคือเรื่องผิด งั้นเราก็คงผิดที่เกิดมาเป็นพี่น้องกัน"


     

              "จบแล้วใช่ไหม?"


     

              "กูมองออกว่ามึงรักแบคฮยอน"


     

              "มันเป็นน้องกู ทำไมกูจะรักมันไม่ได้!" ขายาวก้าวฉับหนีไปให้ไกลเกินกว่าเพื่อนจะเดินตามมา


     

              ทำไมหรอ? ความรักระหว่างพี่น้องมันน่ารังเกียจมากเลยหรือไง? โลกนี้ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชายไปเพื่ออะไร? สืบพันธุ์...แล้วรักมันยืนยาวกว่าคนเพศเดียวกันไหม?

     


     

     

              ก้อนหินเล็กใหญ่กลิ้งไปตามแรงเตะจากคนหงุดหงิด ชานยอลเสยผมเผยให้เห็นคิ้วหนาที่กำลังขมวดเข้าหากัน มันจะไปยากอะไรถ้าเราเปิดใจให้กว้าง คนล้านคนล้านความคิดอย่าเอาตัวเองมาเป็นจุดศูนย์กลาง


     

              เขาพยายามที่จะเลิกรู้สึกแบบนั้นกับแบคฮยอนแต่ทุกครั้งที่พยายามอย่างหนักพอกลับมาเจอหน้ากันความรู้สึกแบบนั้นมันก็กลับมาอีก ...และมากขึ้นทุกครั้งเสมอ


     

              เขาแพ้หัวใจตัวเองตั้งแต่จำความได้


     

     

     

              เพราะแบคฮยอนคือทุกอย่าง...

     


     

     

              ทุกอย่างในชีวิตปาร์คชานยอลล้วนเต็มไปด้วยบยอนแบคฮยอนเสมอ ทุกตารางนิ้ว ทุกการขยับเขยื้อน ทุกโมเลกุล



              ชานยอลตัดพ้อตัวเองอยู่บ่อยๆว่าทำไมต้องเกิดมาเป็นแบบนี้ ทั้งรสนิยมทางด้านความรักหรือการเป็นครอบครัวเดียวกับแบคฮยอน ถ้าเขาเป็นคนอื่นความกล้าที่จะสารภาพความในใจอาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้

     
     

              เขาจะยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้แบคฮยอนมาครอบครอง





     

              แม้ว่าความรักไม่จำเป็นต้องได้ครอบครองเสมอไป...แต่ถ้าต้องปล่อยให้แบคฮยอนไปอยู่ในอ้อมแขนของคนอื่น ชานยอลคงทำใจไม่ได้

     


     

     

              "ชานยอล!" เสียงแหลมปลุกให้เด็กหนุ่มออกมาจากภวังค์ ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวจนแทบหงายลงจากขอบที่กั้น


     

              "ตกใจหมดเลย"


     

              เจ้าของร่างในจินตนาการปรากฏอยู่ตรงหน้าพร้อมใบหน้ายิ้มแฉ่ง พวงแก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อและเม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นประปราย


     

              แบคฮยอนปาดเหงื่อด้วยหลังมือก่อนจะนั่งลงข้างๆ พิงศีรษะลงกับลาดไหล่พรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน


     

              "เหนื่อยจัง~"


     

              "ไม่ค่อยออกกำลังกายก็แบบนี้แหละ"


     

              "แหวะ ทำอย่างกับมึงออกกำลังกายบ่อย"


     

              "แค่อุ้มมึงไปนอนในห้องก็เทียบเท่าการวิ่งรอบสนามฟุตบอลแล้ว"


     

              มือเล็กฟาดลงบนหน้าขา "ปากเสีย หุ่นกูออกจะผอมเพรียว"


     

              "อืม พุงเป็นก้อนลูกแพรเลย"


     

              "ขี้เกียจเถียง"


     

              "ก็มันเป็นเรื่องจริง มึงเถียงไม่ได้หรอก" แล้วชานยอลก็โดนตีอีกหลายรอบพร้อมรอยยิ้มยินดี







     

              "ขอบคุณนะ"


     

              "เห้ย! ชอบให้ด่าว่าพุงใหญ่ก็ไม่บอก"


     

              "ไม่ได้ขอบคุณเรื่องนั้นโว้ย..." แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจิ๊ปากใส่แล้วกลับไปพิงไหล่เหมือนเดิม "เรื่องเมื่อคืน"


     

              ชานยอลเลือกที่จะเงียบ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยหน่ายที่จะทำแบบนี้ เขาชอบดูแลแบคฮยอน ยิ่งเวลาเมา...ชานยอลยิ่งชอบ

     

     



     

              เมื่อคืนมันจบลงตอนที่เขาพยายามต่อสู้กับเทวดาและจอมมารในร่างตัวเอง แต่โชคดีที่เทวดาเป็นฝ่ายชนะจึงยอมคลายอ้อมกอด แล้วปล่อยให้แบคฮยอนได้พักผ่อนก่อนที่อะไรมันจะเกินเลยไปมากกว่านั้น


     

              ร่างเล็กไม่ได้ขาดสติไปในทันที เสียงพูดคล้ายละเมอยังดังลอดออกมาเป็นครั้งคราวเพียงแต่ว่าเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ความทรงจำเหล่านั้นก็ลอยหายไป


     

              "คืนนี้จะเมาอีกไหมล่ะ?"


     

              "ไม่แล้ววว ปวดหัววว"


     

              "ถ้าพูดง่ายแบบนี้ไปตลอดก็ดีสิ"


     

              "ผมจะเป็นเด็กดื้อ...ถ้าพี่ชานยอลเป็นคนดุ แบคฮยอนจะดื้อตลอดไป~"


     

              ชานยอลยกยิ้มทั้งใบหน้าเมื่อน้องชายยืนขึ้นผายมือมาทางเขาด้วยท่า 'let it go' แล้ววิ่งเขย่งเท้าออกไปอย่างอารมณ์ดี


     

              สดใสเสมอ...นั่นคือแบคฮยอน และมันคือสิ่งที่ชานยอลชอบที่สุด ชานยอลชอบแบคฮยอนมากที่สุด


     

              นั่งยิ้มคนเดียวได้ไม่นานก็นึกขึ้นได้... "แบคฮยอน รอพี่ด้วย"























     

    TBC.
    #หัวไม้ชานแบค

    พี่ชานขี้หึงว่ะ โด่ววววววว
    เราเอาแทยงมาประกอบฉากเฉยๆนะ
    555555555555555555

    คิดว่าระหว่างพี่ชานกับน้องแบคใครจะสารภาพรักก่อนกัน
    คริ

    เราอยากให้เขาจูบกันบ่อยๆจังเลยยยยยยย

    ปล.พี่ชานยอลเปลี่ยนชื่อเป็นพี่ช้างยอลแล้ว

     



    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×