ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lazy Center : OS , SF — chanbaek ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #10 : OS : Disappear {end}

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.98K
      18
      7 มี.ค. 59




    ผมอยากทำให้ตัวเองหายไปจากความทรงจำของทุกคน

    เพราะบางครั้ง...การจดจำบางอย่าง ก็อาจทำให้บางอย่างถูกหลงลืมไป

    ผมไม่รู้ว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ในความทรงจำของใครบ้าง

    บางทีคนที่เดินสวนกันบนทางเท้าอาจจำผมได้เพราะเผลอไปเฉียดไหล่หรือพรมน้ำหอมกลิ่นเดียวกับคนรักเขา

    พนักงานร้านกาแฟที่เคยไปใช้บริการอาจจดจำขี้แมลงวันตรงมุมปากผมได้

    แต่แล้วทำไม...ผมถึงมีความรู้สึกว่า

    การเข้าไปอยู่ในความทรงจำของคนเหล่านั้น มันทำให้ชีวิตไม่เป็นส่วนตัว

    ผมอาจจะบ้าไปแล้วก็ได้

    คุณครับ... ผมชอบกลิ่นฝนนะ เมื่อไรที่มันทำปฏิกิริยากับพื้นถนน ผมจะนั่งสูดหายใจอยู่สักพักจนกว่ากลิ่นมันจะจางหายไป

    ผมชอบความเป็นเอกลักษณ์ของมัน เพราะเมื่อผมได้กลิ่น ผมจะรู้โดยทันทีว่าฝนกำลังตกมาจากที่ไกลๆ

    อะไรก็ตามย่อมมีความพิเศษในตัวมันเองใช่ไหมล่ะ

    เหมือนอย่างผม...ที่เมื่อได้เห็นเขา หัวใจที่เท่ากำปั้น มักจะแสดงอาการในทันที

    เพราะเขาช่างพิเศษยังไงล่ะ

    "เฮ้~ นายมาอยู่ตรงนี้นี่เอง ฉันตามหาตั้งนานแหนะ"

    และผมยังต้องทนมองเห็นเขาอยู่อย่างนี้ไปจนกว่าจะจบมอปลาย

    แต่ถ้าลองนับนิ้วดูแล้ว มันเหลืออีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นล่ะ ... เขาจะออกไปจากสายตาผมแล้ว

    "ก็นายมัวแต่สนใจอย่างอื่นนี่"

    "ฉันสนใจแต่นายเท่านั้นแหละแบคฮยอน เข้าเรียนกันเถอะ"

    เขามักสดใสอย่างนี้เสมอ

    และคำพูดที่เขาบอกว่าสนใจผมนั้น...ไม่เป็นความจริงหรอก

    ชานยอลน่ะ เขามีแฟนแล้ว

    และแฟนเขาก็ไม่ใช่เด็กผู้ชายกะโหลกกะลาอย่างผมด้วย เธอเป็นถึงดาวโรงเรียน ทั้งสวย ทั้งเรียนเก่ง แถมยังฐานะดี นิสัยเธอก็ดีมากๆอีกด้วยนะ

    รักกันจนคนทั้งโลกอิจฉาไปเลยล่ะ

     

    "นายพูดใหม่ซิแบคฮยอน"

    ชานยอลเพียงแค่ต้องการฟังซ้ำกับประโยคบอกเล่าที่เพิ่งบอกเขาไปเมื่อสักครู่ เขาไม่ใช่คนหูตึงซะหน่อย

    "ฉันบอกว่าจะไปพักผ่อนสักหนึ่งปี"

    "นายไม่เรียนต่อหรือไง"

    "เรื่องเรียนมันไม่สำคัญกับฉันขนาดนั้นหรอก"

    เขาบีบต้นแขนให้ผมหันหน้าไปหา ทำไมพระอาทิตย์อย่างเขาชอบบังคับให้ผมกลายเป็นดอกทานตะวันอยู่เรื่อยเลยนะ

    "นายจะไปไหน?"

    "ที่ที่ฉันอยากไปไง"

    "นี่กำลังกวนกันอยู่หรอ"

    "เปล่านะ แต่มันเป็นความลับน่ะ"

    โชคดีที่อาจารย์เดินเข้ามาก่อนชานยอลจะยิงคำถามไปมากกว่านี้ ผมไม่อยากบอกอะไรเขาเลย ผมกลัว...

    กลัวว่าถ้าบอกไปแล้ว ผมจะเผลอใช้เวลาทั้งวันเพื่อรอให้เขามาหา

    ซึ่งมันคงเสียเวลาน่าดู เพราะยังไงซะ ชานยอลก็ไม่มีทางมาหาผมหรอก

    เขาน่ะ...ไม่เอาเวลา24ชั่วโมงแบ่งมาให้คนอย่างผมหรอก

    ผมอาจจะอยู่ในความทรงจำของใครบางคน แต่สำหรับชานยอลแล้ว ถ้าผมหายไป พื้นที่ความทรงจำที่เขามีให้ผม ก็คงจะค่อยๆเลือนหายไปด้วย

    ง่ายขนาดนั้นเลยใช่ไหมล่ะ...

    ผมก็หวังให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน

    "แต่ถ้านายไป ใครจะให้ฉันลอกการบ้านล่ะ"

    เรายังคงถกเถียงกันในหัวข้อเดิมตั้งแต่ตอนเช้า จนถึงตอนนี้ที่กำลังเดินไปตามทางเท้าเพื่อกลับไปยังหอพัก

    ทำไมเราถึงอยู่หอพัก...เพราะโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนประจำน่ะสิ

    "ขึ้นมหาลัยนายต้องทำการบ้านเองสิ"

    "นายก็รู้ว่าฉันลอกนายมาตลอด"

    "ไม่ตลอด ฉันเพิ่งย้ายมาตอนต้นเทอมเองนะ"

    นั่นล่ะ...ผมเป็นเด็กที่สมัครเรียนกลางคัน จะบอกว่าผมมีเพื่อนเยอะก็ได้ เพราะเกือบทุกปีผมจะย้ายโรงเรียนเสมอ

    ผมย้ายเข้าไปอยู่ในความทรงจำของคนนู้นทีคนนี้ทีจนทำให้ทุกครั้งที่ต้องย้ายตัวเอง ผมจะต้องแอบไปร้องไห้เพราะเห็นเพื่อนร้องไห้

    การอยู่ในความทรงจำของคนอื่นมันคือเรื่องน่ากลัวนะ

    ยิ่งถ้าทำได้แค่คิดถึงกันในความทรงจำน่ะ แย่สุดๆไปเลย

    "ก็นั่นแหละ นายคอยช่วยเหลือฉันตลอดเลยนะแบคฮยอน ถ้านายไป ใครจะปกป้องฉันล่ะ ฮึก"

    ชานยอลเลียนเสียงคนร้องไห้ ปาดดวงตาแห้งกรังของเขาไปมาราวกับน้ำตากำลังเอ่อนอง

    "ตัวโตซะเปล่า"

    "มันไม่เกี่ยวกับขนาดตัวซะหน่อย ฉันแค่ชอบเห็นนายอยู่ตรงนี้เท่านั้นแหละ"

    อ๋า~ ตัวผมในความทรงจำของชานยอลจะเป็นยังไงนะ ชักอยากรู้ซะแล้วสิ ทำไมคำพูดของเขามันทำให้ก้อนเนื้อเต้นรัวได้ตลอดเลย

    "ฝันดีนะชานยอล"

    "เห้ย! แบคฮยอน! ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิ! อย่าทำแบบนี้!"

    เขาเคาะประตูจนรูมเมทผมส่งสายตาอำมหิตมาให้ แต่ก็เพียงไม่นานเท่านั้นล่ะ แล้วเขาก็จากไป

    จากไปเพราะรู้ว่ายังไงซะ เราก็จะยังเจอกันในเช้าของวันใหม่

     

    แต่วันนี้ชานยอลไม่ได้เซ้าซี้ เหมือนเขาจะมีปัญหาอะไรบางอย่างกับตัวเอง

    เอาแต่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ถอนหายใจ เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ขีดเขียนลายเส้นวุ่นวายบนหน้ากระดาษสมุด

    ซึ่งผมเองคงไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายยุ่มย่ามอะไร ผมแค่มีหน้าที่นั่งเรียนข้างๆ แล้วคอยสะกิดเมื่อเห็นว่าสมาธิเริ่มหลุดลอยนานเกินไป

    "นายไม่ไปทานข้าวหรอ"

    ผมยืนขึ้นหลังจากได้ยินเสียงออดพักเที่ยงในขณะที่เขายังคงแนบหน้ากับโต๊ะ

    "ไม่หิว"

    "ไม่สบายหรือเปล่า"

    "เปล่า"

    ชานยอลน่าจะทะเลาะกับแฟน ผมรู้ว่าอาการแบบนี้คงไม่พ้นเรื่องนี้หรอก

    และผมก็เดาถูก...

    เธอเดินมาหาชานยอลถึงห้องเรียน นั่งลงบนเก้าอี้ที่ผมเพิ่งลุกออกมา วางมือบางไว้บนไหล่กว้างแล้วซบแก้มลงไปอีกที

    น่าอิจฉาจัง

    ภาวนา...ผมภาวนาให้ความทรงจำเหล่านี้เลือนหายไป

    ชานยอลหายไปจนถึงเวลาเข้าเรียน ผมแอบหยิบสมุดเขามาจดหัวข้อการบ้านแล้วสอดไว้ใต้โต๊ะเหมือนเดิม

    ถ้าผมอยู่ในความทรงจำเขาจริงๆ วันรุ่งขึ้นเขาจะต้องขอบคุณที่เห็นลายมือผม

    แต่จนแล้วจนรอดชานยอลยังไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ จนผ่านไปเป็นอาทิตย์ เขาก็ไม่พูดถึงลายมือผมเลย

    "ทำข้อสอบให้ได้นะ"

    เสียงหวานของหญิงสาวฟังแล้วระรื่นหู ชานยอลคงได้กำลังใจจนล้นเลยล่ะ โชคดีจังเลยนะ

    ถ้าผมเป็นชานยอล เวลาที่ผมเห็นสีชมพูผมจะต้องนึกถึงเธอแน่นอน เธอทั้งอ่อนหวานและน่าทะนุถนอม

    เธอเหมาะกับสีชมพูสุดๆไปเลย

    "สอบเสร็จแล้วนายจะขนของเลยหรือเปล่า"

    "ฉันคงรอให้ถึงวันเสาร์ก่อน นายล่ะ"

    "..." ชานยอลเงียบไปเหมือนใช้ความคิด เขาอ้ำๆอึ้งๆ "รอขนพร้อมนาย"

    ผมแกว่งเท้าไปกับลำธารเล็กหลังโรงเรียน ที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อน ผมชอบหลบมานั่งบ่อยๆหลังเลิกเรียน

    จริงๆ แล้วที่นี่เป็นเหมือนพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก เพราะตรงประตูเหล็กมักจะคล้องกุญแจแล้วติดป้ายไว้ว่า... 'พื้นที่อันตราย ห้ามเข้า'

    แต่ผมเป็นเด็กใหม่ที่ซุกซนน่ะ ผมไม่กลัวหรอก ข้างในนี้สวยจะตาย เหมือนมันจะถูกปิดร้างไปเพราะเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง

    "พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว บอกความรู้สึกหน่อยสิ"

    "ดีใจ นายรู้ไหมว่าฉันเกลียดการสอบที่สุด" ชานยอลไขว้ขาเข้าด้วยกัน ค้ำแขนไว้ด้านหลังแล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า "และฉันก็เกลียดการเรียนหนังสือที่สุดด้วย"

    ผมหัวเราะลั่น นี่เขาคิดว่าอาการแบบนี้ตัวเองเป็นคนเดียวหรือ ไง ชานยอลเป็นแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นล่ะน่า

    "ขอความรู้สึกที่เกี่ยวกับฉันได้เปล่า เอาแบบ...รู้สึกกับเพื่อนคนนี้ยังไง ฉันต้องปรับปรุงตรงไหน เพิ่มเติมตรงไหน"

    "นายน่ะหรอ..." มือหนาลูบคาง "ก็ดี แต่ติดตรงที่ไม่ค่อยพูดความจริง"

    "จะหาว่าฉันขี้โกหกหรือไง"

    "ก็นายเป็นอย่างนั้น"

    ผมไม่อยากจะเถียง เอาเป็นว่าจะจดจำคำว่า'ก็ดี'ไว้แล้วกัน


     

    สุดท้ายแล้วเวลาในรั้วโรงเรียนของเราก็หมดลง ผมบอกลาทุกคนในใจเสียงดังลั่น ตะโกนกู่ก้องคนเดียวจนแยกย้ายกลับห้องพัก

    เมทผมย้ายของออกไปแล้ว และห้องก็โล่งขึ้นมากะทันหัน มันใจหายเหมือนกันนะว่าไหม

    "ขอนอนด้วยได้หรือเปล่า"

    "อย่ามาทำเป็นตัวโตขี้ป๊อดหน่อยเลยน่า"

    "แค่นอนคนเดียวไม่ชินหรอก"

    แล้วเขาก็ถือวิสาสะนอนบนเตียงผมเพราะอีกเตียงไม่มีผ้าปูที่นอน ส่วนผมก็ต้องนอนบนเตียงที่ไม่มีผ้าปูที่นอน

    มันน่ารำคาญที่เขาทำตัวแบบนี้ แต่ความน่ารำคาญของเขาฝังลึกลงไปในใจผม

     

    "เคยตั้งคำถามไหมว่าเราจะเจอกันอีกเมื่อไหร่"

    "ไม่เคย เพราะยังไงเราก็จะเจอกัน ฉันจะตามหานายให้เจอบยอนแบคฮยอน"

    คืนนั้นคงเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่ เขาขนของออกไปในเช้าวันถัดมาโดยทิ้งคำพูดเดิมไว้ว่า 'เราจะต้องเจอกันอีก'

    ผมกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาภายในห้องสี่เหลี่ยม แต่ก็ได้ไม่นานเพราะไม่มีเวลาว่างมานั่งฟูมฟายมากนัก


     

    "ครับ ขอเช่าในชื่อบยอนแบคฮยอนครับ ... สามเดือนครับ"

    บ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่สุดมาอยู่ในมือผมแล้ว หวังว่าสามเดือนหลังจากนี้ผมคงจะมีความคิดที่ปกติขึ้น

    การกลัวความทรงจำของผมคงจะหายไปบ้าง ... มั้ง

    เสียงคลื่นทะเลซัดฝั่งดังอยู่ตลอดเวลา ตลอดเวลาจริงๆ เพราะไม่มีเสียงอย่างอื่นแทรกมันจึงทำให้ผมหนีไปฟังอย่างอื่นไม่ได้

    คืนแรกผ่านไปด้วยความเปล่าเปลี่ยว มันว่างเปล่าจนผมเองยังกลัวว่าจะเผลอคิดสั้น

    แต่ผมก็รักชีวิตตัวเองไง

    ผมคุยคนเดียวบ้าง คุยกับอากาศบ้าง ทะเลก็ทำให้ผมไม่เหงา แต่มันก็ยังเหงาอยู่ดี ทำไมผมยังต้องเอาเวลาไปคิดถึงแต่เขา

    ทั้งที่ผมก็เจอคนตั้งมากมาย แต่ทำไมไม่รู้มันถึงต้องเป็นเขา

    ต้องเป็นปาร์คชานยอล

    ที่กินพื้นที่ความรู้สึกไปมากกว่าครึ่ง ที่อยากออกมาจากความทรงจำมากที่สุด

    อยากให้เขาลืมผม ลืมไปให้หมดว่าบนโลกนี้มีคนชื่อบยอนแบคฮยอนที่เป็นเด็กเข้าเรียนกลางคันและเป็นเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อ

    ผมสบตากับคนในกระจก คนที่อ่อนแอยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลก คอยแต่จะหนีและหลบซ่อนจากใครที่ไม่แม้แต่จะตามหา

    ผมเป็นอย่างนั้น

    และผมก็ใช้เวลาสามเดือนหมดไปกับการนั่งถอนหายใจ ตอนนี้มหาวิทยาลัยคงจะเปิดเทอมแล้ว หวังว่าเพื่อนผมทุกคนคงจะมีความสุข

    "ครับ ขอเช่าในชื่อบยอนแบคฮยอน ... สามเดือนครับ"

    ลาก่อนทะเล




    (เดี๋ยวมาต่อนะคะ แหนะ ทำเป็นพันทิปไปได้)

    --60%--



     

    ผมกำลังกลืนน้ำลายถี่ๆเพราะหูอื้อเหลือเกินในระดับความสูงขนาดนี้ และมันก็หนาวเหลือเกินด้วยหากเทียบกับพื้นด้านล่าง

    สามเดือนหน้าผมก็จะกลับไปหาทะเล และสุดท้ายก็กลับขึ้นมาหาเขา ...สุดท้ายผมก็จบที่(ภู)เขา

    ผมโอเคกับอากาศหนาว ถ้ามันไม่ทำให้น้ำแข็งขึ้นขนจมูกน่ะนะ

    ต้นไม้ที่นี่มีน้ำค้างเกาะพราวจนไม่กล้าแม้แต่จะเดินไปใกล้ๆ เพราะถ้าเกิดลมพัดขึ้นมาเพียงนิด แน่นอนล่ะว่าต้องเปียกโชก

    ผ้านวมหนึ่งก้อนทับอยู่บนตัวผมข้ามวัน หากเป็นไปได้ผมจะขอนอนจำศีลอยู่อย่างนี้จนกว่าจะครบสัญญาเช่า

    อะไรก็ได้ที่ทำแล้วไม่คิดถึงเขามากนัก สลัดเขาออกไปได้ยิ่งดี

    ชานยอลไม่ใช่คนใจร้าย เขาคอยช่วยเหลือผมอยู่หลายครั้งแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

    แต่ปัญหามันอยู่ที่ผม ... ผมมันเป็นเด็กผู้ชายที่ไม่เอาไหนเอง

    ปล่อยใจลอยไปกับเขาซะแสนไกลแล้วคร่ำครวญอ้อนวอนดึงมันกลับมาทั้งที่รู้ว่ายากเหลือเกิน

    ทุกวันที่ได้แค่คิดถึงกันในความทรงจำมันเป็นอะไรที่ทรมาน ผมไม่อาจเจอเขา ไม่อาจคิดถึงเขาได้ในรูปแบบของปัจจุบัน

    ชานยอลของผมยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นมอปลาย นั่งลอกการบ้านบนโต๊ะไม้ใต้อาคารเรียนทุกวัน

    ทั้งที่ตอนนี้เขาคงกลายเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไป แล้วก็ได้ อาจจะได้เป็นนักกีฬาหรือไม่ก็ต้องมีสาวตามกรี๊ดเยอะที่สุด

    นี่แหละน้า ปาร์คชานยอลของผม

    เขาส่องสว่างอยู่ในทุกๆที่เสมอ

    โดยเฉพาะที่นี่ ... ภายในหัวใจผมนี่

    ผมไม่ชอบที่ต้องเจอเขาในฝันทุกวัน ไม่ชอบที่ต้องเดินกลับหอพักกับเขาเกือบทุกคืน

    แต่ผมทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเราไม่เคยสร้างความทรงจำใหม่อีกเลยหลังจากนั้น

    หวังว่าตอนนี้แบคฮยอนสำหรับเขาคงจะเลือนรางเต็มที และหากได้เจอกันในอนาคตเขาจะทำเพียงแค่เดินสวนกันไปธรรมดาเท่านั้น

    นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ

    ใครก็ตามที่จดจำผม จงลืมผมไปซะ

    แบคฮยอนมันไม่มีค่าพอให้จดจำหรอก เชื่อเถอะ

     


    วันนี้เป็นวันสิ้นสุดสัญญาเช่า ผมลืมเขาได้บ้างแล้ว อย่างน้อยการไม่เจอกันมันก็ทำให้ผมมีภาพเขาน้อยลง

    แต่ทุกการเคลื่อนไหวผมยังจินตนาการว่าเพื่อนตัวสูงคนนั้นยังหยอกล้อผมอยู่เสมอ

    เขายังเป็นคนเดียวที่ครอบครองส่วนหนึ่งในความทรงจำเสมอ

    "แบคฮยอน"

    และหูผมก็กลับมาอื้อมากอีกครั้งในตอนที่นั่งรอรถมารับ

    "แบคฮยอน!"

    เหมือนความทรงจำกำลังตะโกนเรียกจากที่ไกลๆ

    "แบคฮยอน"

    แต่ผมพยายามจะหายไป ... หายไปจากทุกความทรงจำ

    "ฉันตามหานายแทบพลิกแผ่นดินแหนะ"

    ได้โปรด...

    ได้โปรดอย่าเป็นเขา

    "ได้ยินฉันไหมแบคฮยอน"

    ได้โปรดอย่าพรากเวลาหกเดือนที่ผ่านมาของผม อย่าให้มันไร้ค่า อย่าให้มันไร้ประโยชน์

    "ติดต่อก็ไม่ได้ ฉันคิดถึงนายมากนะ"

    ได้โปรด...

    ถ้าประเทศนี้มันแคบนัก ผมสมควรจะหนีไปให้ไกลกว่านี้ใช่ไหม

    "จะให้ฉันเป็นคนตามหานายไปถึงเมื่อไหร่กัน"

    แต่นอกโลกมันก็ดูไกลเกินไปสำหรับคนตัวเล็กๆอย่างผม

    ไม่ปฏิเสธหรอกว่าดีใจที่ได้เจอเขา แต่เพราะเป็นเขาเนี่ยแหละที่ทำให้ทุกอย่างพังทลาย

    "นายร้องไห้ทำไม"

    รวมถึงความอดทน

    "นาย ... นายหาฉันเจอได้ยังไง"

    "แม่ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ แม่เลยบอกฉันว่านายมาพักที่นี่"

    เหมือนผมหนีเขา เพื่อไปหาเขายังไงยังงั้น

    ไม่โอเค ผมไม่โอเค

    "ฉัน ... ฉันจะไปแล้ว ดีใจที่ได้เจอนายอีกครั้ง"

    และหลังจากนี้หวังว่า...

    "อย่าเพิ่งไป"

    ...เราคงจะไม่ได้เจอกันอีก

    "อย่าเพิ่งไปเลย"

    ...ถ้าผมไม่ใจอ่อน

    "อยู่กับฉันก่อน มีเรื่องจะเล่าเยอะแยะเลยนะ"

    และแน่นอนว่าคนอย่างผมน่ะ ... ยอมให้เขาเสมอ

    ชานยอลหล่อขึ้น อืม มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว หรือไม่ เพราะเวลาที่ผ่านมามันเนิ่นนานเกินไปจึงทำให้เขามีอิทธิพลบางอย่าง

     

    "สบายดีนะ"

    ผมนั่งอยู่ข้างเขา และเขาก็นั่งอยู่ข้างผม เราใกล้กันแค่นี้เองด้วยซ้ำ

    "อื้อ นายล่ะ เรียนเป็นไงบ้าง เพื่อนเยอะเลยล่ะสิ"

    "เยอะแค่ไหนก็ไม่เท่ามีนายคนเดียวหรอก"

    และทุกครั้งที่ผมใกล้เขาอย่างนี้ เวลาที่เราใกล้กันขนาดนี้ ไอ้เจ้าก้อนเนื้อตรงหน้าอกมันมักจะทำงานรุนแรงเสมอ

    "มีเพื่อนเยอะๆก็ดีแล้วนี่นา สนุกจะตาย"

    แต่การที่คนอย่างผมจะทำให้คนอื่นรู้ว่าเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจมันก็ไม่ใช่

    "กลับไปเรียนแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอ"

    "ฉันหรอ ไม่ล่ะ เที่ยวสนุกกว่าตั้งเยอะ"

    "งั้นฉันขอไปด้วย ไปไหนก็ได้ที่มีนาย เถอะนะ ขอฉันไปด้วย"

    น้ำเสียงเขาค่อนข้างจริงจัง หรือเป็นเพราะรั้วมหาลัยมันปั้นคนได้นะ ผมก็ไม่เคยเรียนซะด้วยสิ

    "งอแงแบบนี้มาตั้งนานแล้วหรือเปล่า"

    "ฉันรู้แล้วแบคฮยอน รู้แล้วว่าการมีนายอยู่ข้างๆมันสุดยอดมากแค่ไหน"

    "อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก"

    ผมฝืนยิ้ม คงเป็นรูปภาพในความทรงจำของเขาที่ตลกน่าดู สีหน้าของผมตอนนี้น่ะ เหมือนคนที่กำลังร้องไห้แต่ต้องฉีกยิ้มเพื่อบอกว่าไม่เป็นอะไรอยู่ก็ไม่ปาน

    "มันไม่ตลกแล้ว นายไม่รู้สึกมีความสุขเวลาอยู่กับฉันบ้างหรือไง ไม่ชอบหรอ"

    ทั้งที่ความจริงทุกอย่างมันแหลกละเอียด

    "ก็ดี"

    "ฉันคิดถึงแต่นาย บ้าจริง มันเป็นเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นจริงนะแบคฮยอน"

    อยากขอพรให้ผมลืมตาตื่นจากความฝัน แม้ตื่นแล้วจะมีฝนโปรยปรายอย่างหนัก ผมก็ยินดี

    "บอกว่าหยุดพูดแบบนี้ไง"

    "ฉันหยุดพูดความจริงไม่ได้หรอกนะ และฉันก็จะพูดอีกว่าฉันชอบนาย ชอบแบบที่ต้องการให้นายอยู่กับฉัน ห้ามไปไหน ห้ามหายไปไหนเด็ดขาด"

    โลกหยุดหมุนไปแล้ว แม้ผมจะมีลมหายใจแต่มันก็แผ่วเบาเหลือเกินในห้วงอวกาศ

    "หยุดพูดนะ"

    กล่องไปรษณีย์ของผมถูกฉีกออก มันเหวอะหวะไม่สวยงาม และสิ่งของด้านในนั้นก็เต็มไปด้วยปาร์คชานยอล

    ...ปาร์คชานยอลมากมาย

    "ฉันคิดถึงแต่นาย นายล่ะ ... เคยคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า"

    ภายใต้สุ้มเสียงที่อ่อนโยน ผมกลายเป็นเด็กชายอ่อนแอคนหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดอันใหญ่โตของเขา

    "ฉันไม่ต้องการคิดถึงนาย"

    "มันยากนักหรือไงที่จะอยู่ข้างฉัน ในเมื่อนายก็ไม่มีใครส่วนฉันเองก็ไม่มีใคร"

    "นายมีแฟนอยู่แล้วนี่"

    สาบานว่าผมจะพูดให้น้อยที่สุดเวลาร้องไห้

    "บอกว่าไม่มีใครแล้วไง ที่ตอนนั้นฉันมีความสุขเพราะมีนายต่างหาก พอไม่มี ... คนอื่นก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว"

    "บอกว่าอย่าพูดอย่างนี้ไงเล่า!"

    ชานยอลกระชับอ้อมกอดในตอนที่ผมพยายามจะขืนออกมา

    "เป็นแฟนกันไหม ลองคบกันดูก่อน ฉันว่าเราสองคนคลิ๊กกันมาก ไม่มีอะไรจะเหมาะสมกันอย่างนี้อีกแล้ว เชื่อเถอะ"

    "!!!" เขากล้าตบหน้าผมกลางสี่แยกอย่างนี้ได้ยังไง เขารู้หรือเปล่าว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ต้องอดทนกับความทรมานมากขนาดไหน

    ผม ... คนที่ต้องการเพียงแค่หายไปจากคนรอบข้าง

    และภาวนาให้คนที่กำลังพูดอะไรเพ้อเจ้ออยู่นี้จากไปจากกลุ่มก้อนของความทรงจำโดยเร็วที่สุด

    "ว่าไง ถ้าตกลงตอนนี้ฉันจะไปเที่ยวทะเลกับนายด้วยนะ"

    ทุกอย่างมันไม่เคยเกิดขึ้น ผมไม่เคยพยายามหายไป เพราะหลังจากหายไป ... ผมจะถูกตามหา

    "อือ ก็ได้"

    จนเจอ

    "เป็นแฟนกันแล้วห้ามหายไปไหนอีก โอเคไหม"

    "อื้อ"

    และคนอย่างผมก็ไม่เคยทำอะไรตามที่สมองสั่งได้สักครั้ง

    "ฉันรักนายมาตลอดเลยนะแบคฮยอน รัก มาตลอด"

    เพราะผมแพ้หัวใจตัวเองมาตลอดเลย

    ...โดยเฉพาะหัวใจที่เป็นปาร์คชานยอล...

     

    --end---





    #ficlazycenter

    ขอโทษที่ให้รอ และขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง
    เจอกันเรื่องหน้า
    (ที่อาจจะทำให้ผิดหวังอีก ขอโทษ)

     






    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×