StarDaojj
ดู Blog ทั้งหมด

การออกกำลังกายโดยการวิ่ง

เขียนโดย StarDaojj

ประโยชน์ของการวิ่งเหมือนกับการเดินซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพกาย หัวใจ กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดความเครียด และยังมีผลป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจ การวิ่งสามารถทำได้คนเดียว ทำได้ทุกแห่งแต่จะต้องมีการฝึกฝน

การ วิ่งจะเผาผลาญพลังงานมากกว่าการเดินประมาณว่าคนที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมจะใช้พลังงานไป 12.5 กิโลแคลอรีทุกหนึ่งนาทีที่วิ่ง คนที่นำหนักมากจะใช้พลังงานในการวิ่งมากกว่าน้ำหนักน้อย
 

ประโยชน์ของการวิ่ง

ประโยชน์ ของการวิ่งจะเหมือนกับการเดินออกกำลังกาย แต่ข้อดีของการออกกำลังกายคือใช้เวลาน้อยกว่าการวิ่งและมีผลดีต่อหัวใจ มากกว่าการเดิน ข้อเสียของการวิ่งเมื่อเทียบกับการเดินคือมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อได้ บ่อยกว่าการเดิน

การเริ่มต้นการวิ่ง

ผู้ เชี่ยวชาญแนะนำว่าหากคุณคิดจะออกกำลังกายโดยการวิ่งไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าใด ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีทีมีอาการดังต่อไปนี้ หลังแพทย์ประเมินสภาพว่าสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ ท่านอาจจะเริ่มต้นโดยการเดินให้มาก ทำงานบ้าน ใช้บันไดแทนการขึ้นบันไดเลื่อนหลังจากนั้นจึงเริ่มต้นการออกกำลังกายโดยการเดิน

ร่างกายของคนเรานั้นถูกออกแบบมาให้ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่ปัจจุบันพวกเราเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิต ไปมาก อุปกรณ์ต่างๆ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์มากขึ้น อย่างจะเปลี่ยนช่องทีวีซักทีก็ต้อง มีรีโมต ทำให้ไม่ต้องลุกขึ้นมาเดินเพื่อเคลื่อนไหวและออกแรง ทำให้โรคภัยไข้เจ็บตามมามากมาย


 

หากท่านต้องการออกกำลังกายที่บ้าน โดยใช้ ลู่วิ่งไฟฟ้า ขอแนะนำ ลู่วิ่งไฟฟ้าเพราะไม่เกะกะพื้นที่

"การวิ่ง" เป็นวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากเลยทีเดียว สามารถป้องกันโรคหัวใจ  สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ดังนั้น เรามาเรียนรู้วิธีการวิ่งอย่างถูกวิธีเพื่อให้การ ออกกำลังกายของเรานั้นได้รับประโยชน์สูงสุดกันดีกว่า

-    ควรวิ่งโดยใช้แรงจากโคนขาไม่ควรลงด้วยปลายเท้า

-    วิ่งให้ยาวๆ จนกว่ากล้ามเนื้อจะเมื่อยล้า กล้ามเนื้อจะใช้พลังจาก ไกลโคเจน เมื่อไกลโคเจนหมดกล้ามเนื้อจะเริ่มสะสมและเริ่มสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะมีการสะสมที่มากกว่าเดิม ทำให้เราวิ่งได้ไกลขึ้น

-   วิ่งเร็วๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง การวิ่งเร็วๆ จะทำให้ร่างการทำงานหนักจนรับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้ต้องไปใช้วิธีให้พลังงานแบบไม่ใช้ออกซิเจน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เล้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เป็นการป้องกันการเป็นโรคหัวใจไปในตัวตามวิถีธรรมชาติ

- เวลาวิ่งให้หายใจโดยใช้กระบังลม ทุกวันนี้ด้วยชีวิตที่เร่งรีบทำให้คนส่วนใหญ่หายใจแบบตื้นๆ และสั้นๆ ซึ่งไม่ใช่การหายใจที่ถูกต้อง ให้เปลี่ยนมาฝึกหายใจโดยใช้กระบังลม เพื่อให้การหายใจของเรานั้นลึกขึ้น และยาวขึ้น หรือ อาจจะฝึกโดยการนอนหงายและนำหนังสือมาวางไว้บนหน้าท้อง สังเกตว่าถ้าหนังสือขยับขึ้นก่อนสูดลมหายใจเข้าและลดลงก่อนหายใจออกเป็นอัน ว่าใช้ได้


บทความที่เกี่ยวข้อง ลู่วิ่งไฟฟ้า

 

ความคิดเห็น

jailoiley
jailoiley 9 ธ.ค. 58 / 13:13
5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการวิ่ง

 

ลบความเชื่อผิดๆ แล้วออกไปวิ่งกันเถอะ

 

 

สาวๆ หลายคนหลีกเลี่ยงการวิ่ง เพราะได้ยินเขาว่ากันว่า เรามี 5 ความเชื่อที่ได้ยินกันมานานในกลุ่มคนที่ไม่นิยมการวิ่งมาฝากกัน พร้อมข้อเท็จจริงที่ว่า จริงหรือไม่

 

 

1.วิ่งแล้วปวดหลัง

 

ไม่จริง อาการปวดหลัง ไม่ได้มาจากการวิ่ง แต่มาจากท่าวิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่าหลังค่อม ให้หลังเหยียดตรง และไหล่เอนไปข้างหลังเล็กน้อย แกว่งแขนตามธรรมชาติ อีกสาเหตุคือ วอร์มอัพไม่มากพอที่จะทำให้กล้ามเนื้อที่แผ่นหลังคลายตัว เวลาวิ่งร่างกายจะบิดตัวเองไปตามแรงเหวี่ยงของสมดุลของร่างกาย หากวอร์มอัพไม่มากพอ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้

 

 

2.วิ่งแล้วน่องใหญ่

 

ไม่จริง สาวๆ ที่กลัวได้น่องปูดเป็นของแถม เลยเลี่ยงที่จะวิ่ง ความจริงแล้ว การออกำลังกายใดๆ ที่ไม่ได้ใช้แรงกล้ามเนื้อเต็มที่ จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มขนาด โดยเฉพาะการวิ่ง เป็นการใช้งานกล้ามเนื้อทีละน้อย แต่บ่อยๆ นานๆ ช่วยฝึกความอดทนของกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันบริเวณกล้ามเนื้อน่อง ทำให้น่องกระชับขึ้น ไม่ทำให้น่องโตขึ้นแน่นอน ยกเว้นว่าสาวๆ จะไปออกกำลังกายอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น ปั่นจักรยาน เวทเทรนนิ่ง เป็นต้น

 

 

3.วิ่งทำให้หน้าอกหย่อนยาน

 

ไม่จริง เรื่องของหน้าอก ความจริงแล้วไม่เกี่ยวเลย จะช่วยกระชับมากขึ้น เนื่องจากการวิ่งจะมีการขยับของข้อศอกตลอดเวลา เพียงแต่สาวๆ อาจรู้สึกแรงเหวี่ยงหรือการสะเทือนขณะวิ่ง  เลยคิดว่าจะทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย แนะนำว่าให้สวมสปอร์ตบราในการวิ่งหรือออกกำลังกาย จะทำให้กระชับและไม่เจ็บเวลาเกิดการกระเทือน

 

 

4.วิ่งมากข้อเสื่อม

 

ไม่จริง การวิ่งที่ถูกวิธีอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการเสื่อมเร็วของข้อต่อได้มากกว่าการไม่วิ่ง หรือไม่ออกกำลังกายเลย เพราะแรงกดและการปล่อยอย่างเป็นจังหวะจากการวิ่ง จะเพิ่มการหมุนเวียนน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ ซึ่งเป็นสารอาหารให้เซลล์กระดูกอ่อน กระตุ้นการสร้างและซ่อมส่วนที่สึกหรอ และลดความเสี่ยงต่อข้อเสื่อม

 

แหล่งที่มาของบทความสุขภาพนี้ http://health.haijai.com/3685/

 

บทความศัลยกรรมอื่นๆ ulthera ปากกระจับ ปลูกผม กำจัดขน