NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #17 : Phase 17 : Operation Akatsuki

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.13K
      53
      17 ม.ค. 65

    เฟส 17 : ปฏิบัติอากาสึกิ

    12 มีนาคม , CE71

    ญี่ปุ่น , ฮอนชู

    ภายในท่าเรือชิมิสึ อาร์คแองเจิ้ลและเรือ3ลำของกองกำลังป้องกันคิวชูได้แวะเข้ามาเติมเสบียงและเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปของปฏิบัติการบนเกาะฮอนชู รถถังและทหารของยูราเซียถูกคัดแยกจากเรือกองทัพโลกและจัดหาใหม่ ส่วนใหญ่ใช้คลังแสงซาฟท์ที่หน่วยคอมมานโดญี่ปุ่นยึดได้และเจ้าหน้าที่ถูกจับถูกคุมตัวไว้ในค่ายกักกันชั่วคราวโดยมีลวดหนามล้อมรอบ และถูกป้องกันแน่นหนาโดยทหารยูราเซีย แต่ก็มีเหตุแทรกซ่อน ทหารจำนวนมากจากสาธารณรัฐเอเชียตะวันออกต้องการแก้แค้นนักโทษซาฟท์ เช่น ทรมาณหรือประหารชีวิตเพื่อตอบโต้การปิดล้อมและการยึดครองที่พลเมืองของตนได้รับความเดือดร้อน แต่นายพลชิราโทริสั่งให้ทุกคนวางมือบอกว่ากฏสงครามห้ามทำร้ายเชลยศึก

    สำหรับกันดั้มไมสเตอร์ เขานั่งเงียบๆบนลังหน้า00ไรเซอร์ เหนื่อยกับการเสี่ยงภัยครั้งก่อน เขากำลังควบคุมทหารของสหพันธ์ที่พยาบาทไม่ให้ทำร้ายนักโทษของซาฟท์ และทีมของเขาเตรียมพร้อมปฏิบัติการภายใน6ชั่วโมง ไลท์เตอร์สไตรค์เกอร์ถูกเปลี่ยนเป็นไอน์สไตรค์แพ็คมาตรฐาน เขายังได้ประชุมกับนายพลชิราโทริ เพื่อหารือแผนปฏิบัติการอากาสึกิ ซึ่งจะเป็นศึกที่หนักหนาเพราะซาฟท์จะเน้นการป้องกันมากกว่าตอบโต้เชิงรุก ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาตั้งใจจะต้านกองทัพโลกไว้จนกว่าจะได้กำลังเสริมจากคาร์เพนทาเรีย

    ขณะเขาเอนตัวบนลังเพื่อพักผ่อน เขาพบขวดน้ำห้อยอยู่ข้างหน้าเขา ซึ่งเขาพบว่ามูยื่นมันให้เขาพร้อมรอยยิ้ม

    "ต้องบอกว่านายเป็นผู้บัญชาการ"

    เซ็ตสึนะกลอกตารับขวดจากชายผมบลอนด์"มู ผมบอกแล้วให้เรียกเซ็ตสึนะ ผมไม่ใช่ผู้บัญชาการจริงๆด้วยซ้ำ"

    "แต่เธอทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่ฉันเคยทำ"เหยี่ยวแห่งเอนดีเบี่ยนอุทาน"ไม่ใช่ทุกวันที่จะได้เห็นผู้คนท้าทายโอกาส"

    เซ็ตสึนะมีรอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาก่อนจะดื่มน้ำ ต้องใช้เวลาทำให้ตัวเองเย็นลง

    "ทันทีที่นักบินและเจ้าหน้าที่พักผ่อนเพียงพอ เราจะต้องเตรียมพร้อมโจมตีซาไกมิซาโตะในยามรุ่งสาง เราสามารถสร้างความเสียหายให้กับวัสดุและอาวุธได้ แต่จะใช้เวลาไม่นานก่อนพวกเขาจะได้รับกำลังเสริมจากดินแดนที่ถูกยึดโดยซาฟท์"

    "โดยพื้นฐานเราต้องโจมตีพวกเขาขณะกำลังฟื้นตัวจากคิวชู"มูคาดเดา เขายืนยันเมื่อเซ็ตสึนะพยักหน้า"และเมื่อซาไกมิซาโตะถูกยึดแล้วเราสามารถเรียกกองเรือเอเชียตะวันออกจากเซียงไฮ้เพื่อเสริมกำลังและทรัพยากรให้ฮอนชู ฉลาดมากที่คิดไปถึงจุดนั่น"

    "ถ้าเรายึดซาไกมิซาโตะได้ ซาฟท์จะเพิ่มการป้องกันมากขึ้นรับการโจมตีที่จะเกิด เราต้องระวังและรอบคอบเนื่องจากมีแนวโน้มว่ามันจะไม่ง่ายเหมือนเดิม"

    มูขมวดคิ้ว ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เซ็ตสึนะบอกเขา ก่อนที่เขาจะตอบได้นอยแมนด์ก็เดินเข้ามาหา

    "ผู้บัญชาการเซย์เอย์"

    "อืม"

    "กัปตันอยากพบที่สะพาน"เขาบอก มูกับเซ็ตสึนะมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนเด็กหนุ่มจะพยักหน้า ทั้งสองเดินไปที่อาร์คแองเจิ้ล

    พวกเขามาที่สะพานเดินเรือ เมอริวกับนาทาร์ลคุยกันจนกระทั่งหันไปเมื่อเซ็ตสึนะและมูเข้ามา

    "กัปตันราเมียส ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น"

    "ยานไม่มีอะไรต้องห่วงเซ็ตสึนะ"เมอริวรับรองเขา"ต้องบอกว่ามีเทพธิดานำโชคที่เรามาไกลถึงตรงนี้"

    "ใช่แล้ว"เซ็ตสึนะเห็นด้วยกับเธอ"แม้ผมต้องขอโทษสำหรับสาเหตุที่คุณและลูกเรือมาถึงที่นี่และการเดินทางยาวนานไปยังอะลาสก้า"

    "แม้เราได้รับคำสั่งมา เราไม่สามารถปล่อยเธอไว้ในที่โล่งได้ หลังสิ่งที่เธอและคนอื่นๆได้ทำเพื่อปกป้องยานลำนี้"

    "และก็เพราะว่าพลเอกฮาเบอร์ตันได้สั่งให้เราปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย"นาทาร์ลกล่าวแทรก เซ็ตสึนะเลิกคิ้วกับคำสั่งเฉพาะเจาะจง"ด้วยเกรงว่าซาฟท์จะไล่ตามคุณและหุ่นของคุณหลังการต่อสู้ในวงโคจร"

    เซ็ตสึนะสงสัยว่าพลเอกมีวาระซ่อนเร้นของตัวเองหรือไม่ เขาไปไกลถึงขั้นสั่ง เขาไปไกลถึงขั้นสั่งกู้ภัย เขาไม่ได้ไว้วางใจเขาจริงๆเพราะเขาคือผู้ดูแลโปรเจ็กGซึ่งมีเป้าหมายต่อกรโมบิลสูทของซาฟท์

    แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ไว้วางใจฮาเบอร์ตัน เขามีพรสวรรค์ ความเป็นผู้นำ และการเสียสละจนถึงจุดที่เขาสละกองยานเพื่อส่งอาร์คแองเจิ้ลมาที่อะลาสก้า เขาเป็นหนึ่งในคนที่รู้เรื่องบลูคอสมอสและมีอิทธิพลต่อกองทัพโลก แต่มีแนวโน้มว่าเขาไม่สามารถดำเนินการตามความเสี่ยงที่จะถูกปลดจากกองบัญชาการหรือก่อให้เกิดข้อพิพาทภายในที่อาจทำให้สิ่งต่างๆแย่ลงได้ สำหรับตอนนี้เซ็ตสึนะต้องเล่นด้วย แต่ก็ต้องเหนื่อยหน่าย โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงานของฮาเบอร์ตันในกองทัพ

    "เฮ้ ผู้บัญชาการคนนี้ช่วยชีวิคคนมากมาย"มูกล่าวด้วยรอยยิ้มจับไหล่ของเซ็ตสึนะ"ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกองยานที่8และผู้ลี้ภัยเฮลิโอโปลิส ถ้าโมบิลสูทของเขาไม่เข้าสู่โหมดทำลายล้าง"

    เซ็ตสึนะขมวดคิ้วกับความเห็นของมูต่อระบบแทรนซั่ม แต่ดวงตาเมอริวกับนาทาร์ลเบิกกว้างขึ้นเมื่อตระหนักถึงหุ่นของกันกั้มไมสเตอร์

    "นั่นทำให้ฉันนึกได้เซ็ตสึนะ"เมอริวหันไปหาเขา"สิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น มันคืออะไร"

    เมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อนอีกต่อไป(และรู้สึกอึดอัดที่จะอธิบายอีกครั้ง) เซ็ตสึนะถอนหายใจกับตัวเองและนั่งลงใกล้ๆ

    "สิ่งที่คุณเห็นตอนนั้นคือระบบพิเศษที่ติดตั้งในกันดั้มหรือรู้จักในชื่อแทรนซั่ม จุดประสงค์หลักมันคือเร่งประสิทธิภาพและความสามารถโดยรวมของหุ่นฉัน3เท่าจากปกติในระยะเวลาที่จำกัด โดยใช้สองแหล่งพลังพิเศษในกันดั้มของผม"

    มูผิวปากกับคำอธิบายเกี่ยวกับหุ่นของเซ็ตสึนะโดยสังเกตว่าผู้บัญชาการสวมหน้ากากไม่มีโอกาสได้สู้กับเซ็ตสึนะในตอนนี้ และเมอริวดูประหลาดใจ ตอนนี้เห็นว่าเหตุใดการช่วยเหลือเซ็ตสึนะถึงดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จอห์น อลาริคเลิกคิ้ว

    "พูดตามจริง ฉันเดาว่ามันมีข้อเสียในการใช้ระบบนี้เหรอ?"

    "การใช้ระบบจะทำให้การจ่ายพลังงานในเครื่องลดลงมาก และต้องจัดหาใหม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันจะไม่ใช้ในสถานการณ์เช่นคิวชูหรือซาไกมินาโตะ"

    "คิดว่าเซเลสเชี่ยลบีอิ้งสามารถใช้ระบบแบบนี้ได้"เมอริวพูดด้วยความกลัวเล็กน้อยที่เซ็ตสึนะไม่ใช่คนเดียวที่สามารถปลดปล่อยความกลัวที่วงโคจร"ฉันขอโทษเซ็ตสึนะ แต่มันยากจะเชื่อว่าคุณและกลุ่มของคุณต่อสู้กับการปกครองทั้งหมดโดยมีเพียงคุณและกลุ่มของคุณ"

    "ไม่ต้องขอโทษกัปตันราเมียส ผมเพียงได้รับข้อมูลของตัวเองในโลกคู่ขนานเท่านั้น สำหรับคนทั้งโลกมันเป็นแค่นิทานหลอกเด็ก"

    "ฉันรู้สึกเสียใจกับพวกที่ชื่อA-LAWS"มูบ่นไม่ชอบกลุ่มนี้สักนิดหลังพวกเขาได้รับการบอกเล่าถึงลักษณะการกดขี่ของพวกเขาที่อาร์เทมิส"คงจะปวดหัวสำหรับพวกเขาที่จะเผชิญหน้าคนอย่างเธอและกลุ่มของเธอ"

    "หุ่นที่A-LAWSและESFครอบครองนั้นใช้แทรนซั่มเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธพวกเขาได้ และผมขอบอกว่าการโค่นล้มการปกครองA-LAWSไม่ใช่การเดินในสวนอย่างที่คิด"

    เจ้าหน้าที่กองทัพโลกทั้ง3และอดีตผู้บัญชาการหน่วยพิเศษซาฟท์หน้าซีดเมื่อนึกถึงกองทัพโมบิลสูททั้งหมดใช้ระบบที่ตัวเดียวอย่างเซ็ตสึนะอาจทำลายทั้งกองยานได้ หากพวกเขาสามารถทำสงครามกับซาฟท์หรือกองทัพโลกได้ แพลนท์จะถูกบุกในเวลาอันสั้นขณะที่กองทัพโลกจะล่มสลายโดยใช้เวลานานกว่า

    "กองทัพในโลกนั้นสามารถใช้ระบบนั้นได้หรือ"นาทาร์ลพึมพำ แสดงให้เห็นถึงภาพที่น่ากลัว

    "ถูกแล้ว"เซ็ตสึนะะยืนยันแต่ถอนหายใจอย่างมั่นใจ"แต่ถ้ามีสิ่งใดปลอบใจได้คือการใช้ระบบจะทำให้แหล่งพลังงานพวกเขาพังทลายลง พูดง่ายๆคือพวกเขาใช้เฉพาะแทรนซั่มประเภทระเหยเมื่อเทียบกับเซเลสเชี่ยลบีอิ้งเนื่องจากพวกนั้นไม่มีแผนผังที่เหมาะสมที่จะใช้มันโดยแหล่งพลังงานไม่ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย"

    "ยังไงก็ไม่สบายใจที่กองทัพใช้ระบบเดียวกับที่นายมี"มูโต้กลับ เมอริวมองนาทาร์ลและสังเกตเห็นท่าทางที่ค่อนข้างครุ่นคิดของเธอ

    "มีอะไรรึเปล่านาทาร์ล"

    "ฉันว่าตอนนี้เรารู้ความสามารถหุ่นของเธอแล้ว"นาทาร์ลจับคางครุ่นคิด"เธอใช้ระบบนี้เพื่อฝ่าด่านตะวันออกไม่ได้เหรอ?"

    มูและเมอริวมองหน้ากัน คิดว่าวิธีนี้ง่ายกว่าถ้าพวกเขาฝ่าไปตรงๆแต่ไม่แน่ใจ เพราะอาจทำให้เซ็ตสึนะคิดว่าพวกเขากำลังเอาเปรียบเขาและหุ่นของเขา และพวกเขาก็รู้ว่ากันดั้มไมสเตอร์ไม่พบว่าแนวคิดนั้นน่าสนใจเช่นกัน

    โชคดีเซ็ตสึนะรู้วิธีจัดการเรื่องนี้ตั้งแต่เขาได้รับแจ้งเรื่องการปิดล้อมของซาฟท์

    "ผมไม่แนะนำให้ใช้แทรนซั่มเมื่อเผชิญศัตรูจำนวนมากเช่นการปิดล้อมทางทะเล การใช้ระบบจะทำให้พลังงานสำรองของผมหมดลงในปริมาณที่รุนแรงก่อนที่ซาฟท์จะเคลื่อนเข้ามาและเทกองกำลังที่อาจบุกเรือได้"

    "ถ้าซาฟท์จะวางกองเรือป้องกันไม่ให้ใครไปที่อะลาสก้า ฉันว่าเขามีประเด็น"มูสนับสนุนเซ็ตสึนะ"ฉันไม่คิดว่าเขาจะจัดการมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นบนเรือเลย ฉันโหวตให้ไปทางยาว"

    "นอกจากนี้เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยยูราเซียให้เป็นอิสระเพื่อเดินทางต่อไป"เซ็ตสึนะเตือนพวกเขาอย่างหนักแน่นไม่ให้ใช้ระบบทุกครั้งที่ทำได้"ไม่ใช่กวาดล้างกองยานซาฟท์ทั้งหมด"

    "ไปบอกกองยานที่6"มูพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ"แต่ฉันจะบอกว่านายใช้มันเมื่อนายจำเป็นจริงๆเท่านั้น"

    "เรายอมรับเรื่องนี้เซ็ตสึนะ แต่ฉันต้องบอกเธอว่าฉันต้องแจ้งนายพลฮาเบอร์ตันถึงพัฒนาการล่าสุดนี้"

    "เรื่องนั้นรอได้"เซ็ตสึนะบอกเธอ

    @@@@@@@@

    “ผมสงสัยว่าทำไมพวกเธอไม่คืนให้เอง”นิโคลคิดขณะยืนหน้าห้องหน่วยโนวา เขาเคาะประตู2-3ครั้งไม่มีใครตอบ เขาเปิดประตูเข้าไปทันที

    ข้าวของในห้องกระจัดกระจาย และริกะกำลังค้นลิ้นชักอันนึง นิโคลกระแอมในลำคอ เด็กผมส้มหยุดนิ่งหันมามองนิโคลด้วยความตกใจ

    “อ๊ะ นิโคล”เธอทักทายลุกขึ้นปัดฝุ่นเครื่องแบบ”ฉันไม่ได้สังเกตว่าเธอเข้ามา”

    “ไงริกะ ผมมารบกวนรึเปล่า”

    “ไม่ ไม่เลย”เธอยืนยัน พยายามทำน้ำเสียงปกติ แต่เด็กหนุ่มผมเขียวมองเธอ ซึ่งอ่านได้ชัดเจนว่า”คุณแน่ใจหรือ?”

    “ฉันแค่กำลังหาของที่สำคัญมาก”เธอยอมรับพร้อมกับถอนหายใจ

    “นี่เหรอ”นิโคลล้วงกระเป๋าและหยิบของที่คุ้นเคยออกมา

    “ใช่ นี่แหละ”ริกะพูดอย่างตื่นเต้นหยิบพวงกุญแจขึ้นมามองดูด้วยความโล่งใจ”ฉันตามหามันมาทั้งวัน”

    นิโคลมองดูด้วยความอิ่มเอมใจ เขาต้องยอมรับว่าการเห็นเธอยิ้มแบบนั้นช่างน่ารักจริงๆ เดี๋ยว น่ารัก ฉันกำลังคิดอะไรอยู่

    “แล้วเธอเจอมันที่ไหน”เธอถาม

    “ก็…มากาเร็ตกับคอร์ทนี่เจอมันหลังจากที่เธอซ่อมหุ่นเสร็จ”เขาอธิบาย แต่สังเกตเห็นตาขวาเธอกระตุกและทำให้เขาพูดต่ออย่างรวดเร็ว”และพวกเธอขอให้ผมเอามาให้คุณ”

    “เอ่อ…”ออร่าเธอเริ่มเป็นปกติ”ฉันเดาว่าพวกเธอคงไม่อยากเอามาคืนเอง”น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและอันตราย ทำให้นิโคลกลืนน้ำลาย

    “ก็โทษไม่ได้ที่พวกเธอพยายาม ยังไงก็ตาม ขอบคุณที่นำสิ่งนี้มาให้ฉัน”เธอกล่าวขอบคุณก่อนกลับไปมองพวงกุญแจ”นี่…เป็นหนึ่งในเครื่องประดับเล็กๆที่ฉันมีจากเอริค”

    ทำให้นิโคลเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ”เอริค…ชื่อเขาคือเอริค ออมเบรรึเปล่า”

    “ใช่ เขาเป็นพี่ชายของฉัน พี่ชายต่างแม่”เธอกล่าว น้ำเสียงเธอคิดถึงนักบินที่จากไปบ่งบอกถึงมิตรภาพที่ใกล้ชิด เธอหันกลับไปมองนิโคล สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม”ฉันเสียใจกับความสูญเสียของคุณที่เฮลิโอโปลิส”

    “ความรู้สึกมันคนละแบบกัน ริกะ”นิโคลพูดพร้อมกับขอโทษ ระหว่างนี้ต้องเปลี่ยนเรื่อง”แต่ เอ่อ…จะแก้ไขยังไงดีล่ะ”

    เด็กผมส้มมองไปรอบห้องและตระหนักถึงความยุ่งเหยิงที่เธอก่อ ทำให้เธอเกาหัวอย่างเขินอาย เธอหันกลับมาเห็นนิโคลยกโต๊ะมาตั้งใหม่

    “ผมจะช่วยแล้วกัน”นิโคลพูดด้วยรอยยิ้ม เด็กสาวมองเขาครู่นึงก่อนจะยิ้มรับ ยอมรับความช่วยเหลือของเขา

    @@@@@@@@

    “นายดูเครียด”

    อัสรันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคนอื่นด้านหลัง อัสรันหันกลับเห็นแบล็คเซเฟอร์ยืนอยู่ข้างหลังด้วยแววตาว่างเปล่า เขายืนขึ้นและทำความเคารพ ทำให้อิลลิเทียร์ยิ้มอย่างสนุกสนาน

    “ไม่ต้องมากพิธีหรอกเมื่อเราอยู่ด้วยกันสองคนและไม่ต้องเรียกฉันพันตรีตลอดเวลา”

    “ผมจะจำไว้เทียร์”อัสรันพูดอย่างลังเลเมื่อเรียกชื่อเธอ”แต่ทำไมทีมไม่เคยเรียกชื่อคุณเลย”

    “ฉันพยายามบอกพวกเขา แต่มันติดเป็นนิสัย”หญิงผมเขียวพูดสั้นๆ”และฉันเลือกจะไม่เตือนซ้ำ”

    “ผมก็ว่าอย่างนั้น”อัสรันพูด หันไปมองทะเล”แต่ผมหวังว่าการกระทำของอิซาค…”

    “ไม่ใช่ความรับผิดชอบของนาย อัสรัน”เทียร์กล่าว”นายควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ และจูลด์ควบคุมอารมณ์ไม่ได้”

    “แต่เขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของฉัน”อัสรันบอกเหตุผล”ฉันควรหยุดเขาตอนที่ฉันทำได้ แต่…ฉันไม่ได้ทำ”

    “ถ้ามีใครที่ฉันตำหนิทัศนคติของเขา ก็คงเป็นผบ.ครูเซ่”อิลลีเทียร์บ่นพึมพำ ลักษณะโดยรวมของทีมสะท้อนว่าเขาไร้กังวลกับพฤติกรรมของสมาชิกในทีม”คุณกำลังช่วยเอลฟ์แมนออกจากสนามรบ ในขณะที่จูลด์ต้องการล้างอายความภาคภูมิใจของเขามากกว่าอะไร นายไม่ควรขอโทษสำหรับการกระทำของเขา”

    อัสรันถอนหายใจ ยอมรับคำพูดของเธอเพราะสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง แต่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรับผิดชอบบางส่วนต่อการกระทำของอิซาค อัสรันตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง

    “ผมขอทราบเหตุผลที่คุณมาที่นี่ได้ไหม”

    “เช่นเดียวกับคุณ พยายามสูดอากาศบริสุทธิ์และคลานเครียดก่อนภารกิจของเรา”เทียร์ให้เหตุผลก่อนเสริม”และอาจเพราะนายดูกังวลตั้งแต่เราลงมาที่โลก”

    “ไม่มีเรื่องให้กังวลมากหรอก…”อัสรันตอบก้มหน้าครุ่นคิดเกี่ยวกับภารกิจที่หน่วยเขาต้องเจอ

    “นายก็รู้”เทียร์เหลือบมองเขากอดอก”ฉันไม่แนะนำให้ซ่อนปัญหาที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคุณ”

    “มันเป็นการรบกวนหรืออะไรก็ตามที่นายอยากเรียก แต่ถ้านายไม่สามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง อะไรทำให้นายไม่คุยกับใครเกี่ยวกับเรื่องนี้”

    “ผมไม่มี”อัสรันยืนกราน”ผมแค่คิดว่าเราควรทำยังไงกับยานมีขาและนักบินโมบิลสูท แต่โอกาสจะน้อยมากถ้าบลูแฟลชมาขวางทาง”

    พันตรีพยักหน้า แต่หลังวิเคราะห์เพิ่มอีกเล็กน้อย เธอเห็นว่ามีบางอย่างหรือใครบางคนบนยานกองทัพโลกที่อัสรันมีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ 

    “ใช่ครับ”อัสรันยอมรับก่อนส่ายหัว”แต่คุณคงไม่เข้าใจว่าทำไม”

    “ฉันไม่เข้าใจถ้านายไม่บอกฉัน เป็นเพราะพวกเขาไม่ใช่เหรอที่ไอแมนและคนอื่นตาย”เทียร์ถาม อัสรันเมินเธอและหันไปมองทะเล”หรือเป็นเพราะมีคนที่เธอรู้จักอยู่บนยานลำนั้น”

    อัสรันสั่นสะท้านในประโยคสุดท้าย พยายามเต็มที่ที่จะไม่แสดงท่าทีสงสัย เพราะถ้าพวกเขารู้ตัวตนของนักบินสไตรค์และอิคารุกะ มีโอกาสที่พวกเขาจะทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อโน้มน้าวนักบิน เห็นชัดซาฟท์ไม่ลังเลจะจัดการกับคนใกล้ชิด 

    ความพยายามของอัสรันนั้นล้มเหลว เธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขารู้จักใครบางคนบนยานมีขา แต่เธอรู้ดีว่าไม่ควรพูดออกไป เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวและอาจส่งผลต่อความสามารถของเขา

    “ไม่ว่ายังไงก็ตาม นายสามารถขอให้ฉันช่วยได้เสมอ”เธอสั่งเขาด้วยความจริงใจขณะนายผมน้ำเงินแปลกใจกับคำพูดของเธอ”และเราทุกคนเป็นทหารซาฟท์ ฉันจะทำให้แน่ใจว่าหน่วยของฉันจะไม่ทำร้ายนักบินสไตรค์ ขอให้สัญญาเลย”

    “ผมจะจำไว้…ขอบคุณครับผู้พัน”

    อิลลีเทียร์หัวเราะเล็กน้อย”ฉันบอกแล้วอย่าเรียกฉันอย่างนั้น”

    @@@@@@@@

    "อย่างที่ทุกคนทราบ อีกไม่นานกองทัพซาฟท์จะมาเสริมกำลังที่ท่าเรือซาไกมินาโตะ"เซ็ตสึนะพูดกับเจ้าหน้าที่อาร์คแองเจิ้ล กองทหารคิวชูและยูราเซียในห้องประชุม"นั่นคือเหตุผลที่นายพลชิราโทริและผมตัดสินใจโจมตีตอนรุ่งสาง เมื่อเจ้าหน้าที่ถูกจัดกลุ่มแยกกัน"

    "นี่ทำให้กองทัพซาฟท์ที่ท่าเรือไม่ทันตั้งตัว"ชิราโทริกล่าว"ด้วยความเสียหายที่ท่าเรือคืนก่อน นี่เป็นโอกาสโจมตีตอนพวกมันอ่อนแอ เมื่อเราเปิดทางให้ท่าเรือถูกยึดได้ เราจะสามารถติดต่อกองเรือเอเชียตะวันออก ตลอดจนใช้ท่าเรือเป็นฐานทัพหน้าไปยังกองบัญชาการซาฟท์ที่โตเกียว"

    กัปตันเชวาเลียยกมือขึ้น

    "ถ้าเรายึดท่าเรือได้ นั่นจะไม่ทำให้ซาฟท์ระดมกำลังปกป้องเมืองอื่นๆหรือ"เช่น โอซาก้า เกียวโต"

    "นั่นเป็นแผนกัปตันเชวาเลีย ถ้าเรายึดท่าเรือได้ซาฟทืจะเสริมการป้องกันโตเกียว เนื่องจากเมืองอย่างโอซาก้า เกียวโต มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์น้อย และนี่เป็นการป้องกันพวกเขาเช่นกัน จากการใช้ท่าเรือเป็นฐานปิดกั้นพันธมิตรจากเซียงไฮ้หรือเป็นฐานทัพหน้าต่อท่าเรือชิมิสึ"

    ทุกคนเดาว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสามารถหุ่นของเซ็ตสึนะที่เทียบได้กับทั้งกองทัพ อาจมากกว่านั้นด้วยซ้ำ และถ้าซาฟท์ระดมพลจำนวนมากเพื่อป้องกันเขา พวกเขารู้ว่าการยึดเมืองไม่ง่ายเหมือนตอนชิมิสึ

    "เสบียงและยุทธโธปกรณ์ไม่เป็นปัญหา"นาทาร์ลกล่าว"อย่างไรก็ตาม ตามรายงานล่าสุด ซาฟท์เริ่มย้ายกอกำลังจำนวนมากไปที่โตเกียว เนื่องจากพวกเขาได้รับคำสั่งจากแอพิลิอุส"

    "หมายความว่าพวกนั้นยอมทิ้งซาไกมินาโตะเหรอ"มูถาม

    "ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะนั่นทำให้ท่าเรือใกล้สุดเปิดโล่ง เว้นแต่มันเป็นกับดัก ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน"

    ทหารเริ่มกระซิบกันเอง เมื่อเห็นจำนวนและอาวุธด้อยกว่าซาฟท์อย่างชัดเจน บางคนเดาว่านี่เป็นการฆ่าตัวตาย แต่บางคนตั้งใจแน่วแน่จะปลดปล่อยประเทศจากการยึดครองของซาฟท์"

    "ปฏิบัติการอากาสึกิอาจเป็นงานยากที่สุดที่พวกคุณเผชิญ แต่นี่เป็นโอกาสเดียวสำหรับประเทศนี้ และด้วยทรัพยากรจำกัดของเรา เราไม่อาจหวังให้เป็นศึกที่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด มีเพียงสองสิ่งที่ผมขอจากพวกคุณทุกคน ร่วมกันและสามัคคี เราไม่อาจปล่อยให้เรื่องส่วนตัวหรือการแข่งขันมาขัดขวางความร่วมมือที่ทุกคนมีได้หากมีศัตรูร่วมกัน"

    เจ้าหน้าที่คนอื่นๆนิ่งเงียบขณะฟังชายที่รู้จักในนามคิชิน ผู้กอบกู้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด

    "นี่คือเหตุผลที่ผมขอสิ่งนี้จากพวกคุณอีกครั้ง ผมสามารถไว้วางใจความร่วมมือของคุณกับคนอื่นได้ไหม"

    "ได้ครับผู้บัญชาการ"มีเสียงตอบรับจากทั้งยูราเซียและเอเชียตะวันออก ทุกคนเต็มใจปฏิบัติตามคำแนะนำของเขาเพื่อนำพวกเขาไปสู่ชัยชนะ ขณะที่ชิราโทริทำได้เพียงยิ้มเมื่อผู้บัญชาการของแอตแลนติกกลายเป็นความหวังของคนญี่ปุ่น

    "จะว่ายังไงดี เขาเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน และเขาก็ทำมามากแล้ว"มูกระซิบกับเมอริว"เขาน่าจะอยู่ในรายชื่อท็อปของซาฟท์และวีรบุรุษของคนญี่ปุ่น"

    “ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นผู้พัน”

    @@@@@@@@@@

    เวลา4.58 ฐานทัพซาฟท์ที่ซาไกมินาโตะ เจ้าหน้าที่จำนวนมากอพยพทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และกำจัดโมบิลสูทที่ใช้การไม่ได้หรือเสียหายอย่างหนัก เป็นเรื่องยากสำหรับช่างที่จะทำเสร็จ คลังแสงและอุปกรณ์โมบิลสูทจำนวนมากถูกทำลายในการโจมตีของกองทัพโลกที่นำโดยบลูแฟลช เซลเชื้อเพลิงจากบ่อน้ำมันถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการพาวเวลแห่งกองทหารรักษาซาไกมินาโตะกุมหัวเขาขณะอ่านรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับความเสียหายของฐานทัพและเสียยานวอสโกลอฟ2ลำ โมบิลสูทอย่างน้อย8แห่ง บ่อน้ำมัน3แห่ง แต่แล้วเสียงเตือนภัยดังขึ้นทำให้เขาตื่นตัว

    "ผู้บัญชาการ เราตรวจพบสัญญาณจากตะวันออก ดูเหมือนจะเป็นโมบิลสูท"

    กองทัพโลกได้โจมตีอีกครั้งตอนรุ่งสาง เขาถ่ายทอดคำสั่ง

    "ส่งโมบิลสูททุกเครื่องออกไปและอพยพคนเจ็บต่อไป แจ้งผู้บัญชากาตวูฟให้รู้ด้วย"

    บนท้องฟ้า ห้องนักบินคิระส่งเสียงเตือนดูจอเรดาห์

    "เซ็ตสึนะ โมบิลสูทจำนวนมากมุ่งหน้ามาหาเรา"

    "ฉันรู้ เก็บพวกมันให้พ้นทางและจัดการให้ได้มากที่สุด"กันดั้มไมสเตอร์สั่ง เขาและทีมเลี้ยวซ้าบเพื่อหลบเลี่ยงกระสุนและมิสไซล์"เราต้องซื้อเวลาให้อาร์คแองเจิ้ลไปถึงเขตชานเมืองทางใต้ที่ท่าเรือได้"

    "รับทราบ"

    "กัปตันราเมียส นายพลชิราโทริ ได้เวลาแล้ว"เสียงเซ็ตสึนะดังขึ้นในอาร์คแองเจิ้ลซึ่งค่อยๆเข้าใกล้ท่าเรือ เมอริวหันไปหานาทาร์ลซึ่งพยักหน้า

    "วอแบต เฮลดาร์ท แวเรียต เตรียมพร้อม"นาทาร์ลสั่งให้ระบบอาวุธทำงาน"เล็งไปที่แนวป้องกันท่าเรือซาไกมินาโตะรอคำสั่งจากฉัน"

    ที่สำนักงานกัปตัน นายพลชิราโทริได้ยินคำสั่งเซ็ตสึนะและสั่ง

    "กองยานหุ้มเกราะที่14 , 9 และ10 เราอยู่ในที่แจ้งสำหรับการยิง ยิงตรงไปยังแนวป้องกันด้านนอกท่าเรือ แต่อย่าเล็งไปที่อาคาร มีพลเรือนอยู่ข้างใน"

    "รับทราบนายพล กำลังไป"มอร์แกนตอบก่อนสั่งกลุ่มที่มาถึงภายหลัง"ได้ยินคำสั่งแล้ว ถอยออกไป"

    รถถัง เครื่องยิงมิสไซล์และปืนใหญ่จัดตำแหน่งบนเนินเขาซึ่งเมืองอยู่ตรงหน้า

    เซ็ตสึนะหยุดครู่หนึ่ง ตรวจพื้นที่เพิ่มเติมและมองหาบ้านพลเรือนที่อาจโดนระเบิดไปด้วย แต่กลับพบว่าไม่มีประชาชนอยู่ในพื้นที่ และคาดว่าถูกอพยพไปแล้ว 

    "เซ็ตสึนะ เราประจำตำแหน่งแล้ว"เมอริวบอกกันดั้มไมสเตอรืซึ่งหลังสังเกตสักพักใหญ่แล้ว ก็ติดต่อสไตรคืกับเรเวน"คิระ คริส ถอยกลับไปอาร์คแองเจิ้ลรวมกลุ่มกับมูและจอห์น เราได้ตามเป้าหมายแล้ว"

    กันดั้มถอยกลับและเมอริวได้สัญญาณ"ยิงเลย"

    "ยิงได้"นาทาร์ลและมอร์แกนตะโกน กองทัพเอเชียตะวันออก-ยูราเซียเริ่มทิ้งระเบิดอย่างไร้ปราณีใส่แนวป้องกันและโครงสร้างทหารของท่าเรือ บางนัดโดนศูนย์บัญชาการ

    การทิ้งระเบิดกินเวลา1นาที พวกเด็กๆบนสะพานเฝ้าดูด้วยความสงสารและหวาดกลัว

    "นี่ไม่เหมือนหนังแอคชั่นที่เราดู"

    "นี่มันแย่มาก"เฟลท์พึมพำ ตระหนักว่าพวกเขาทำไม่ต่างจากซาฟท์ที่เฮลิโอโปลิส มิลลี่ ไซและคาสึอิก็รู้สึกเช่นกัน

    "หยุดยิง"เซ็ตสึนะสั่งกระทันหัน"ฉันได้ภาพศูนย์บัญชาการ ประจำที่ไว้"

    จอภาพหลัด ฉายภาพชายในชุดเครื่องแบบสีขาวยกมือยอมจำนนพร้อมเจ้าหน้าที่2คน

    "พวกเขายอมแพ้"

    "หลังสิ่งที่เราเพิ่งทำไป คิดว่าพวกเขามีทางเลือกไหม"จอห์นถาม

    "เราจะส่งกำลังไปพื้นที่นั้นคุมศูนย์บัญชาการ จากนันเราจะพยายามติดต่อพลเรือจัตวาฟงจากเซียงไฮ้"เขากล่าว"นี่เป็นอีกหนึ่งชัยชนะ"

    "แต่มันยังไม่จบ"เซ็ตสึนะแทรก รู้ว่าเป้าหมายอยู่ใกล้แค่เอื้อม"นี่เป็นเพียงเฟสแรกของปฏิบัติการอากาสึกิ"

    @@@@@@@@@@

    "ทีมซาล่าและโนว่าไปที่สะพานทันที การประชุมฉุกเฉินเป็นไปตามกำหนด”เสียงประกาศดัง

    ริกะออกมาจากห้องพบคนของหน่วยซาล่า นิโคลพยักหน้า ทั้งสองเดินอย่างรวดเร็วไปที่สะพาน 

    ทีมซาล่าและโนว่ารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะกลางซึ่งมีแผนที่รายละเอียดเกี่ยวกับหมู่เกาะญี่ปุ่นวางเครื่องหมายส่วนต่างๆของเกาะ

    "เกิดอะไรขึ้นที่นี่"นิโคลถามขณะมาเล่ยกแขนขึ้นตอบเขา

    "เราได้รับแจ้งจากผู้บัญชาการวูล์ฟที่สำนักงานใหญ่โตเกียว"ชายหนุ่มผมบลอนด์บอกเขา"ทุกอย่างไม่ดีสำหรับพวกเขา ยานมีขาและบลูแฟลชถูกพบแล้ว และกำลังเป็นหัวหอกในการยึดหมู่เกาะคืนให้กองทัพโลกอีกครั้ง"

    คำแถลงเพียงอย่างเดียวทำให้ทั้งสองทีมสั่นคลอน พวกเขาได้รับรายงานว่าซาฟท์ได้บังคับใช้การปิดล้อมที่ขัดขวางไม่ให้เรือกองทัพโลกใดๆเข้ามาที่เกาะ ซึ่งกองทัพปัจจุบันของกองทัพโลกไม่น่าจะทะลวงได้ เอเชียตะวันออกล้าหลังด้านเทคโนโลยี

    "ทันทีที่ความพยายามในการบุกโจมตีฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพโลกที่คิวชูถูกขับไล่ พวกเขาเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะโจมตีกองทหารที่ฮอนชูด้วยกลยุทธ์ตีแล้วหนี"อิลลีเทียร์เริ่มตรวจสอบรายงานจากโตเกียว เธอหรี่ตาลงสังเกตการเคลื่อนไหวอันชาญฉลาดของกองทัพโลก"และฉันต้องยอมรับว่าพวกเขาคำนวณกลยุทธ์มาเป็นอย่างดี"

    "ด้วยการบุกท่าเรือซาไกมินาโตะและบ่อน้ำมันตะวันตกเฉียงเหนือ พวกเขาล่อโมบิลสูทไปกลางเกาะก่อนโจมตีชิมิสึ"อัสรันสังเกตการเคลื่อนไหวของผู้บัญชาการวูล์ฟสยดสยอง"และกองทัพโลกรู้ว่าซาฟท์จะไม่เสี่ยงยึดท่าเรือที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของบลูแฟลช"

    "ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทำลายแหล่งน้ำมันส่วนใหญ่ของเกาะและแหล่งพลังงานที่จำเป็นสำหรับโมบิลสูทของซาฟท์ภายในเกาะ"นิโคลกล่าวเพิ่มเติมด้วยความกังวล"มันเหมือนกับพวกเขากำลังใช้ยุทธวิธีบิสครีตบนเกาะ"

    "และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว"คอทนี่ย์กล่าวเมื่อเห็นความเสียหายที่เกิดจากรายงานที่มอบให้ทั้ง2หน่วย"ปฏิบัติการจู่โจมแม้จะมีความเสียหายหนักก็ตาม พวกเขาใช้ความเร็วและอำนาจการยิงของยานมีขาและโมบิลสูทเพื่อปิดผนึกและจำกัดการสูญเสียสำหรับการโจมตีในอนาคตต่อฐานซาฟท์อื่นๆ"

    "ที่แย่กว่านั้นคือเราเพิ่งได้รับรายงานว่ากองกำลังป้องกันที่ซาไกมินาโตะได้ล่มสลายเมื่อผู้บัญชาการพาวเวลถูกบังคับให้ยอมจำนนต่อศัตรูโดยเปิดท่าเรือให้เรือรบพันธมิตรสร้างเส้นทางขนเสบียง"เทียร์แทรกและหน้าบึ้ง"และมีแนวโน้มว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะยึดโตเกียวคืนมา โดยพื้นฐานแล้วมันคือคลังเสบียงและศูนย์บัญชาการใหญ่สำหรับซาฟท์ทั้งหมดบนเกาะญี่ปุ่น"

    "ยังไงก็ตาม โปรดติดต่อกัปตันวิลเลอร์ รอยซ์ ให้เตรียมคอสแตร์ทันที หุ่นของเราสมบูรณ์แล้ว นี่อาจเป็นเวลาดีที่จะสกัดกั้น"

    คำพูดของเธอทำให้เกิดความเงียบ โดยสังเกตว่าทั้งสองหน่วยขาดความกระตือรือร้นและไม่เต็มใจจะไล่ตามยานลำนี้ เธอไม่สามารถตำหนิพวกเขาได้ ท้ายที่สุดพวกเธอกำลังต่อสู้กับโมบิลสูทที่โค่นกองยานที่ส่งมาโจมตีในวงโคจร มันเป็นความทรงจำหลอกหลอนผู้ที่มีชีวิตอยู่เพื่อเล่าเรื่องราว

    "ฉันรู้ว่าพวกคุณทุกคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับภารกิจของเรา"เธอพูดด้วยเสียงกังวลและจริงใจ"แต่ถ้ามีบางอย่างที่ทำให้พวกเราได้เปรียบ มันอาจไม่สามารถเปิดใช้งานได้ คือระบบพิเศษเนื่องจากภูมิศาสตร์และสภาพแวดล้อม"

    หูของนักบินโมบิลสูททุกคนเงี่ยหูฟังคำพูดของเธอและรู้สึกทึ่งกับสิ่งนี้ในทันที พวกเขารู้ว่าเธอกำลังพูดถึงระบบที่เกือบจะกวาดล้างพวกเขา

    "หายังไงค่ะพันตรี"ริกะถาม

    "จากการทบทวนและวิเคราะห์รูปแบบของบลูแฟลช ไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะเปิดใช้งานในเขตเมืองอย่างโตเกียว แม้จะมีโมบิลสูทหลายสิบตัวและจะใช้มันหากสู้ในที่เปิดโล่ง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่เราสามารถใช้เป็นประโยชน์ได้"

    "แต่เราแน่ใจได้ไหมว่าเด็กนั่นจะไม่มีอะไรในแขนเสื้ออีกแล้ว"ดีอัคก้าถาม"ฉันจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นมีอะไรใหม่ๆทุกครั้งที่เราเจอเขา"

    "ฉันไม่คิดว่าเขาอยู่ในจุดสูงสุดของความสามารถเขา แต่ก็มีโอกาสดีที่เขามีแนวโน้มจะจำกัดความสามารถของเขาในสนามรบ เมื่อพิจารณาว่าชาวโตเกียวส่วนใหญ่ยังอยู่ในเมืองเมื่อซาฟท์ยึดฮอนชู"

    "และเขาจะไม่ใช้ระบบหุ่นของเขาหากมีพลเรือนจำนวนมากเข้ามาพัวพัน"ชิโฮะสรุปและเทียร์พยักหน้าให้เธอ"นั่นเป็นการคาดเดาหรือพันตรี"

    "ถูกต้อง"เทียร์พลางลูบคางของเธอ"จำไว้ว่าแม้จำนวนกองทัพจะไม่มีนัยสำคัญแม้มีกำลังเสริมจากเซียงไฮ้ก็ตาม แต่จงระมัดระวังทุกกรณีและอย่าแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อศัตรู เป็นสิ่งที่พวกเขาใช้ประโยชน์ได้ทุกเมื่อ"

    หน่วยซาล่าและโนว่าพยักหน้าอย่างเข้าใจและเชื่อฟัง โดยนึกถึงความโกรธที่อาจนำไปสู่หายนะ โดยเฉพาะกับหน่วยซาล่า

    "ถ้าคุณมีความกังวลใดๆคุณต้องละทิ้งมันโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในภารกิจ"แบล็คเซเฟอร์สั่งอย่างหนักแน่น"แต่วิธีหนึ่งที่ตอบโต้ความแตกแยกคือเชื่อใจคนที่อยู่ข้างคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องถามสิ่งนี้จากพวกคุณทุกคน ฉันเชื่อใจคุณในความร่วมมือกับภารกิจนี้ได้ไหม"

    "ครับ"ทุกคนประสานเสียง ทำให้เทียร์ถอนหายใจโล่งอก

    @@@@@@@@@@

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×