NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #38 : Phase 37 : The Open Door

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 842
      29
      16 มี.ค. 64

    บัสเตอร์ โซล เซนติเนล ลงจอดบนพื้น อีกฝั่งนึงดูเอลกับบลิตซ์ก็ลงมาเช่นกัน และนักบินทั้ง5ก็ออกจากหุ่นพวกเขา อิซาคลงถึงพื้นและจ้องเอเลน่า ความตึงเครียดปกคลุมระหว่างพี่น้อง


    เลออนลงมาจากแพนเธอร์และเมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมทีมทั้งสามโดยเฉพาะลูกพี่ลกน้อง เขาก็ยิ้มดีใจที่ซาอูลยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับดีอัคก้าและซาอูลหลังการรบที่เกาะมาแชลด์


    อิซาคชักปืนเล็งไปที่พวกเขา อดีตเพื่อนร่วมทีมทั้งสามเกร็ง


    “อิซาค นายกำลังทำอะไร”ดีอัคก้าถาม


    “ฉันน่ะไม่โง่พอจะเชื่อคำพูดของศัตรูหรอกน่าเข้าใจไหม”อิซาคบอกเพื่อนสนิท


    “อิซาค ใจเย็นๆ”เลออนพูดเดินมาจับไหล่อิซาค”ถ้านายอยากฟังคำอธิบายคุณต้องเปิดโอกาสให้เขาพูดจริงๆ”


    เลออนหันกลับมายิ้มให้พวกเขา


    “ดีใจที่นายยังมีชีวิตอยู่นิโคล และหลังจากดีอัคก้ากับซาอูลถูกจับตัวไป...มันยากจะทำใจรับว่าเราจะไม่ได้เจอพวกคุณอีก”


    “ขอบใจเลออน ฉันดีใจที่รู้ว่ามีคนคิดถึงฉันมาก”ซาอูลยิ้มกวนประสาทใส่อิซาค


    "เลออน ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ก็หมายความว่าพวกเขาเป็นคนทรยศ”


    “เราไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับนายอิซาค และเราไม่เคยคิดทรยศแพลนท์ แต่...”


    “ถ้าอย่างงั้นทำไม”อิซาคแทรกเขา”ทำไมถึงอยู่ข้างสไตรค์ได้ล่ะ หุ่นที่เกือบจะฆ่านิโคล”


    “เราแค่ไม่เห็นด้วยกับซาฟท์ที่เอาแต่สั่งให้เราไปไล่ฆ่าเนเชอรัลอย่างเดียว”นิโคลตอบ


    @@@@@@@@


    ห้องทดลองของเมนเดล

     

    "ที่นี่คือสถานที่ต้องห้าม เป็นซากความฝันของเหล่าคนโง่เขลาที่คิดจะท้าทายพระเจ้า"ราอูลมองไปรอบๆห้องทดลอง

     

    จากนั้นดวงตาเขามองตรงไปที่คิระ

     

    "เธอจะรู้รึเปล่าว่าพ่อแม่ของเธอในตอนนี้น่ะไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอหรอกนะจะบอกให้"ราอูลกล่าว

     

    คิระได้ยินแล้วเบิกตากว้างขึ้น มีหลายครั้งที่เขาเคยคิดถึงเรื่องนี้ แต่เขาเชื่อมาตลอดว่านั่นเพราะพ่อแม่เขาเป็นเนเชอรัลและเขาเป็นโคออดิเนเตอร์ แต่ถ้าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่เขาจริงๆ

     

    "มันก็คงอย่างงั้นละนะ ถ้ารู้ละก็ คงจะเติบโตแบบนั้นไม่ได้หรอก โตมาเป็นเด็กหนุ่มธรรมดา ที่ไม่รู้เบื้องหลังของตัวเองเลย ตอนที่ได้ยินชื่อเธอจากอัสรันก็ไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนั้น ว่าเธอคือคนคนนั้น ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้วซะอีกนะ เด็กฝาแฝดคู่นั้น โดยเฉพาะเธอด้วย เพราะเธอเป็นจุดสนใจของบลูคอสมอสในยุคนั้น เหมือนๆกับดร.ฮิบิกิผู้ให้กำเนิดเธอขึ้นมายังไงล่ะ"

     

    "เรื่องอะไรกันเนี่ย?"คิระกระซิบมือสั่นระริก

     

    "แต่เธอก็รอดมาได้แล้วก็เติบโตขึ้น และสร้างผลงานความมีอยู่ของเธอด้วยการรบยังไงล่ะ"ราอูลกล่าว"เพราะอะไรกันล่ะมันทำให้แม้แต่คนอย่างฉันเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้วสิ เชื่อเรื่องความฝันบ้าๆที่เจ้านั้นมันฝันเห็นน่ะ"

     

    "ผมน่ะ นี่จะบอกว่าตัวผมเป็นอะไรอย่างงั้นเหรอ คุณอยากจะพูดอะไรอย่างงั้นเหรอ?"คิระตะโกน

     

    มูฮึดฮัดด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลเมื่อคำพูดของคนโรคจิตเข้าไปในหัวคิระ

     

    "เธอคือความฝันของมนุษย์ชาติ โคออดิเนเตอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด"ราอูลกล่าว

     

    คิระแข็งทื่อ มันหมายความว่ายังไง

     

    "เด็กที่เกิดจากการผสมเทียมที่ดร.ฮิบิกิสร้างขึ้นมาตามความปรารถนาของตนเอง เธอเกิดมาด้วยวิธีนั่นแหละ และผลสำเร็จเพียงหนึ่งเดียวด้วย ลูกชายของเขา ที่เหลือรอดมาจากการเสียสละของพี่น้องจำนวนมากไง"


    คิระตกใจวางปืนลงตัวสั่นระริก เขามองที่ร่างในหลอดแก้ว ถ้าสิ่งที่ราอูลพูดเป็นจริง ถ้าเขาเกิดที่นี่ นั่นหมายความว่าทารกในครรย์ที่ตายทั้งหมดที่นี่เป็นพี่น้องของเขาเหรอ เขาทรุดลงเล็กน้อยกับความจริงที่หลั่งไหลออกมาและตระหนักว่าทั้งชีวิตเขามีแต่เรื่องโกหก ทุกสิ่งที่เขาเคยรู้มาเป็นเรื่องโกหก


    "อย่าไปฟังนะคิระ อย่าไปใส่ใจเรื่องบ้าๆที่มันยัดใส่หัวนาย!!!"เขาพูดกับเพื่อนที่สับสนพยายามเขย่าเขาจากอาการเหม่อลอย


    "และเธอเอลเนสตี้...ไม่สิ โนอา ฮิบิกิ!! มีเด็กกี่คนที่เกิดมาต้องตายเพราะงานพ่อแม่ของเธอ? เกิดมาพิการ? บ้า? และทั้งหมดเพื่อให้กำเนิดคุณ...สิ่งที่พ่อแม่ของเธอหวังไว้คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา ชีวิตที่เสียไปคงจะมีคุณค่าบ้าง"ชายสวมหน้ากากโผล่มาจากใต้โต๊ะ"แต่เธอเป็นความล้มเหลวที่ใหญ่ที่สุดของเขาและมันทำลายความฝันของพวกเขาด้วย บอกตามตรงว่าฉันประหลาดใจที่พวกเขาไม่ได้ฆ่าความล้มเหลวที่น่าสมเพชอย่างเธอทันทีที่เกิดมา"


    "ฉันบอกให้แกหุบปาก!!!!"เอลยิงปืนใส่ราอูลอีกครั้ง"พอกันทีกับคำโกหกของแก ฉันไม่ตกหลุมพรางของแกหรอก

    "ทั้งหมดที่ฉันพูดน่ะเป็นความจริงนะ"ราอูลตอบอย่างสุภาพ

    "แล้วหลักฐานอยู่ที่ไหน"เอลตะโกนกลับไป"ทุกอย่างที่แกแสดงให้เราเห็นคือภาพถ่าย มันอาจจะมาจากไหนก็ได้ มันไม่เพียงพอจะเป็นหลักฐานเรื่องเล่าของแก"

    "ลองมองไปทางซ้ายสิโนอาคุง"ราอูลเยาะเย้ยเขาด้วยการเรียกชื่อจริง

    เอลหันไปทางซ้าย มีหลายประตูริมกำแพง ประตูทุกบานมีชื่อเขียนไว้ มันเป็นสำนักงาน สายตาเขาแสกนชื่อมาจนเจอประตูบานหนึ่ง ร่างของเขาแข็งทื่อขณะที่ดวงตาเขาจับจ้องไปคำที่เขียนไว้ประตูนั้น

    ดร.ฮิบิกิ ออโรร่าและอลิเซียร์

    ชื่อชายที่เขาไม่รู้จัก ชื่อแม่และป้าของเขา เขาพยายามปฎิเสธคำพูดของราอูล แต่เขาไม่อาจปฎิเสธมันได้อีกต่อไป

    แต่มันไม่สมเหตุสมผล แม่ของเขาเป็นหมอ เธอดูแลคนป่วย รักษาคนเจ็บ พวกเขาพยายามจะช่วยชีวิต พวกเขาจะไม่ทำงานในสถานที่บ้าคลั่งแบบนี้ 

    ทันใดนั้นราอูลลุกขึ้นยิงอีกรอบ มูโดดดึงวัยรุ่นทั้งสองลงไปที่พื้น หลังจากนั้นก็ลุกยิงสองนัดใส่ครูเซ่ซึ่งรีบถอยไปในทางเดินที่ว่างเปล่า เอลสาปแช่งตัวเองที่เสียสมาธิขณะดวลปืน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนี้ เขาต้องจัดการเรื่องนี้ภายหลัง มูเหลือบมองเขา เอลโบกมือให้

    "ไม่เป็นไร เราต้องจัดการเขา"


    อาวด์ช่วยพาคิระที่ตกตะลึงก้าวไปที่บันได คิระอยู่ในความความงุงงงและตกตะลึง เขาอยู่ในสภาพแย่มาก มูต้องช่วยเก็บปืนจับแขนให้เขารีบเดินลงบันไดตามอาวด์ไป

     

    "ตั้งสติไว้หน่อยสิเจ้าบ้า หลงไปกับนิทานแบบนั้นได้ไงกันเล่า"มูพยายามปลอบเขา


    สิ่งนั้นทำให้คิระหลุดจากอาการเหม่อลอยได้บ้าง เขาพยักหน้าอย่างอ่อนแรง ทั้งสามคนไล่ตามครูเซ่ไป


    @@@@@@@@

     

    ท่าเรือโคโลนี่เมนเดล

     

    ที่ท่าเรือเมนเดล ยานทุกลำซ่อมแซมเกือบเสร็จแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังรอโดมิเนียนและยานคุ้มกันหรือกองกำลังซาฟท์ที่อีกด้านนึงของโคโลนี่เคลื่อนไหว แต่ที่สำคัญคือกลุ่มนักบินพวกเขาที่หายเข้าไปในโคโลนี่


    “มียานระดับนาสก้า5ลำอยู่ข้างหลังเรา?“


    “ใช่”จอห์นตอบกลับจากห้องนักบินของเขา”กลุ่มของฮิลด้าเพิ่งกลับมายืนยัน นี่จะเป็นปัญหา”


    “ใช่ ตอนนี้เราขาดโมบิลสูทที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา"วอลเฟลกล่าว"ฉันพูดได้ว่าเราพอรับมือกองกำลังซาฟท์กับกองทัพโลกได้ แต่ฉันไม่มั่นใจถ้าต้องปะทะพวกมันพร้อมกัน และฉันไม่คิดว่าเราจะสู้กับ6ตัวนั้นโดยไม่มีคิระกับเอลได้"


    “นักบิน6คนนั้นไม่เหมือนนักบินคนอื่นๆที่ฉันเคยพบมาก่อน พวกเขาเก่งพอๆกับเอซของซาฟท์ แต่พวกนั้นดุร้ายและบ้าบิ่น หุ่นของพวกเขาทรงพลังมาก เราต้องหวังว่าคิระ เอลกับคนอื่นๆจะกลับมาก่อนทั้งสองกลุ่มจะเคลื่อนไหว”จอห์นกล่าว


    @@@@@@@@


    เอเทอนอล


    อัสรันรออยู่ในห้องนักบินนานแล้ว เขารู้สึกกังวลมาก พวกคิระควรติดต่อมาได้แล้ว และเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป

     

    "ผมจะเข้าไปตามหาพวกเขา"อัสรันกล่าว

     

    "ไม่อนุญาติค่ะ อัสรันต้องประจำที่ไว้จนกว่าจะมีคำสั่งค่ะ"ลักซ์ปรากฎขึ้นบนหน้าจอ

     

    "แต่ว่า นี่ยังไม่กลับมาทั้ง7เครื่องเลยนะครับ"อัสรันกล่าว

     

    "ถ้าอย่างงั้นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลยนะค่ะ เราจะแบ่งกำลังรบออกไปมากกว่านี่ โดมิเนียนเองอาจจะเปิดฉากโจมตีเมื่อไหร่ เราก็ไม่รู้ค่ะ ถึงแม้ว่า..."เธอหยุดชั่วครู่แต่พูดต่อไป"พวกเอลจะไม่กลับมาเลยก็ตามที แต่ว่าพวกเราก็ยังคงต้องสู้ต่อไปไม่ใช่เหรอค่ะ"

     

    อัสรันไม่มีทางเลือก ลักซ์พูดถูกต้อง พวกเขาไปช่วยใครไม่ได้ในตอนนี้ ถ้าโดมิเนียนและกันดั้มทั้ง6โจมตีอีกครั้งหรือพวกซาฟท์โจมตี เขาต้องอยู่ที่นี่ ได้แต่หวังว่าทุกคนจะกลับมาอย่างปลอดภัย


    "อัสรัน ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง"เอเลน่ากล่าว"แต่พวกเขาต้องการเราที่นี่ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวพวกเขา พวกเขาจะกลับมาฉันมั่นใจ"


    บนสะพานชิซุกะและอลิเซียแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขารู้สึกเช่นเดียวกับเอเลน่า สิ่งที่ทำให้พวกเธอกังวลคือเด็กๆจะอยู่ในสภาพแบบไหนเมื่อกลับมา


    @@@@@@@@


    ภายในโคโลนี่

     

    ทางด้านมู เอลและคิระเดินผ่านลึกเข้ามาในห้องแล็บช้าๆ อาการบาดเจ็บของมูแย่ลงเรื่อยๆ เขารู้ว่าต้องรีบให้หน่วยแพทย์รักษา แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องฆ่าราอูล ทั้งสามเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยขวดยาและเวชภัณฑ์

     

    คิระกับมูหมอบอยู่หลังโต๊ะ ขณะที่เอลอยู่หลังตู้

     

    "ฉันจะบอกความลับของฉันให้ฟังด้วยก็แล้วกัน"พวกเขาเห็นเงาสะท้อนบนกำแพง ราอูลค่อยๆเดินบันไดมา

     

    "ฉันน่ะไม่ใช้คนที่เกิดมาอย่างปกติธรรมดา เหมือนกับพวกเนเชอรัลหรอกนะ เป็นมนุษย์ที่เกิดมาจากการดัดแปลงพันธุกรรมต่างหากเล่า"

     

    "โคออดิเนเตอร์คนแรกของมนุษย์ชาติจอร์จ เกล็น หึหึๆๆ..."ราอูลหัวเราะ กดแผงไฟให้ห้องสว่างขึ้น

     

    "หลังจากความวุ่นวายที่เจ้านั้นนำมา คิดว่าหลังจากนั้นแล้วมันจะขยายวงกว้างออกไปอีกแค่ไหนกัน หลังจากนั้นแล้ว พวกแกรู้รึเปล่าว่าพวกมนุษย์ได้เริ่มต้นอะไรขึ้นมาอีก"

     

    "ความฝันที่ใช้เงินมหาศาลซื้อมายังไงล่ะ ไม่ว่าใครก็อยากสมหวัง ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากทำลายมันทิ้งหรอก"ราอูลกล่าว

     

    "เพราะงั้นถึงได้ท้าทายสินะ เพื่อที่ความฝันจะเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ยังไงล่ะ แล้วผลลัพย์ที่ได้คืออะไร!"


    คิระเสียใจกับเรื่องทั้งหมด เป็นอีกครั้งที่คิระคิดว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ ขณะที่มูพอแล้วกับเกมบ้าและเอลก็ด้วย


    "หุบปาก!!"เอลตะโกนยืนขึ้นยิงใส่ชายคนนั้น


    ราอูลหลบกระสุนทุกนัด กระสุนที่เล็งมาอย่างดีพุ่งเข้าที่แขนข้างซ้ายและผลักเขากระเด็น เขารีบกลับไปหลบหลังตู้


    "หลังสร้างคิระสำเร็จ พ่อแม่ตัวจริงของเธอไม่ดีขึ้นเลยโนอาคุง"ราอูลเล็งไปที่เอล"พวกเขาพยายามที่จะพัฒนามนุษย์ชาติขึ้นไปอีกขั้นของวิวัฒนาการเพื่อสร้างมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่เหนือกว่า ไม่ใช่เนเชอรัล ไม่ใช่โคออดิเนเตอร์ พ่อที่แท้จริงของเธอดร.ฮิบิกิกับอลิเซีย โนวา เลฟฟอร์ต ที่กลายมาเป็นผลทดลองล้มเหลว"


    เอลเนสตี้เบิกตากว้างเมื่อราอูลบอกว่าป้าอลิเซียร์ของเธอเป็น...แม่...ของเขา


    คิระเบิกตากว้าง ถ้าอย่างงั้นเอล...หรือโนอา เป็นน้องชายต่างแม่ของเขา


    "พวกเขาใช้วิธีการสร้างพี่ชายเธอเป็นฐานการทดลองเพื่อสร้างมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ แต่สุดท้ายเด็กหลายร้อยต้องตายหรือพิการทางจิตใจ มีเด็กกี่คนที่ต้องทุกข์ทรมาณและตายเพื่อให้กำเนิดเธอ มีกี่คนที่ต้องตายเพื่อให้กำเนิดความล้มเหลว! เด็กอย่างฉัน...ฉัน"ราอูลหยุดชั่วขณะเหมือนจะหลงอยู่ในความคิดเขา


    เขาส่ายหัวก่อนจะพูดต่อโดยสายตาหันไปมองคิระแทน


    "บอกฉันทีว่ามีอะไรอยากจะให้ฉันบอกให้มิสอัลสตาร์ก่อนฉันจะทำสิ่งที่ควรทำเมื่อหลายสิบปีก่อน"


    "อะไรนะ"คิระพูดอย่างเงียบๆ"ยังไง?"


    "เธอนอนหลับอยู่ในห้องของฉันและเธอก็ใส่ป้ายชื่อสุนัขของเธอด้วยถ้าฉันจำไม่ผิด"ราอูลแสยะยิ้มโรคจิต


    ดวงตาของคิระเบิกกว้างเมื่อใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นตกตะลึงชั่วครู่ก่อนเปลี่ยนเป็นสีหน้าโกรธเกรี้ยว


    "ไอ้สารเลว!!"คิระคำรามพุ่งเข้าไปหาครูเซ่


    แต่ราอูลไม่ได้ยิงเขา เขายืนอยู่ตรงนั่นขณะที่คิระวิ่งเข้ามาหา ก่อนที่คิระจะมาถึงราอูลก็อัดท้องคิระ คิระสะดุดกลับโดนหมัดขวาที่หน้า เขาล้มลงพื้น คิระเงยหน้าขึ้นเห็นราอูลเล็งที่หัวเขา


    "ไม่!!"เอลตะโกนย้ายจากที่กำบังยิงใส่ราอูล


    แต่ราอูลเหมือนจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขาและวิ่งไปที่กำบังก่อนที่เอลจะเหนี่ยวไก ราอูลไปหลบมุมกำแพงขณะที่คิระหาที่กำบัง


    "ไม่เหมือนคนโง่ที่ออร์บ ฉันไม่โง่พอจะเผชิญหน้ากับเธอด้วยความรู้เล็กน้อย"ราอูลเยาะเย้ย


    "เพราะความอยากรู้ ความต้องการ จนทำให้ลืมไปแล้วว่าเราทำไปเพื่ออะไร เล่นสนุกกับชีวิตโดยปากก็พล่ามไปว่าชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ"

     

    "หุบปากซะที"มูยิงปืนใส่ราอูล เขาไปหลบในมุมห้อง มูวิ่งออกไป ราอูลเริ่มยิงใส่เขา

     

    "ไม่ว่าจะรู้อะไร ไม่ว่าจะได้อะไรมามันก็ไม่ต่างกันหรอก มนุษย์นี่สุดยอดจริงๆนะ"ราอูลยังคงยิงทำลายจอภาพและขวดยา"ถ้าอย่างงั้นก็ฆ่ากันต่อไปให้พอใจเถอะ ถ้าต้องการแบบนั้นแล้วละก็"

     

    "พูดบ้าอะไร!!! อย่าทำปากดีไปหน่อยเลยน่า"มูยิงใส่ราอูล มันเฉียดโดนเส้นผมเขา ราอูลยิงใส่วัตถุงทรงกลมให้มันตกลงมากระทบโต๊ะ เศษกระจายไปทั่วทำให้มูกลับไปหลบ ขณะที่แม็กกระสุนเปล่าของราอูลตกลงมา

     

    "ก็เพราะฉันมีสิทธิน่ะสิ ฉันเป็นผู้เดียวในจักรวาลนี่ เป็นผู้มีสิทธิลงโทษมวลมนุษย์ทั้งหมดยังไงเล่า"

     

    "อย่ามาพูดมากเลยน่าไอ้บ้า"มูตะโกน 

     

    "จำไม่ได้รึไงมู"ราอูลพูดขณะเปลี่ยนแม็กกระสุน"ว่าในอดีตเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ฉันกับแกเคยพบกันครั้งนึง ก่อนจะมาสู่สนามรบนี่ยังไงล่ะ"


    คำพูดนั้นจุดประกายบางอย่าง ความทรงจำที่ลืมไปนาน ตอนนั้นเขาอายุสิบขวบ ไม่กี่เดือนก่อนพ่อแม่เขาจะเสียชีวิต เขาพบเด็กชายอายุเท่ากัน เด็กชายมีดวงตาสีฟ้าและผมสีบลอนด์เหมือนเขา และเขาดูเหมือนมากจริงๆ พวกเขาอาจถูกเข้าใจผิดเป็นพี่น้องกันได้ง่ายๆ เด็กชายไม่พูดอะไร เขาจ้องมองเขาไม่กี่อึดใจก่อนจะจากไป เขาจำได้ว่าเด็กชายเงียบงันและสายตาที่ว่างเปล่าและไร้วิญญาณของเขาเป็นอย่างไร


    ไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น เขาเดินผ่านห้องทำงานของพ่อแง้มประตูเล็กน้อยและได้ยินเสียงพ่อคุยกับคนรับใช้


    "เขาเป็นทายาทของฉัน ก็ยังดีกว่าลูกของผู้หญิงคนนั้นนั่นแหละ เฝ้าดูแลแล้วก็สั่งสอนให้ดีด้วย อย่าให้เหมือนกับเจ้าโง่คนนั้นเด็ดขาดนะ"พ่อของเขากล่าว


    มูตกตะลึง ทำไมความทรงจำนั้นถึงกลับมา

     

    "ฮะๆๆ ฉันคือผลผลิตของคนโง่ ที่เชื่อว่าเงินซื้อได้แม้แต่ความตายของตัวเอง เป็นร่างโคลนนิ่งที่ไม่ได้ความของอันดา ฟลาก้า พ่อของแกยังไงล่ะ"

     

    "อะไรนะ!!!"มูตกตะลึงแต่สงบอย่างรวดเร็ว


    "โคลนของพ่องั้นเหรอนิทานหลอกเด็กของแก ใครอยากจะไปเชื่อกัน!!!"

     

    "ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่เสียใจด้วยนะที่มันเป็นความจริง"ราอูลกล่าว

     

    "อีกไม่นานประตูบานสุดท้ายก็จะเปิดออก"ราอูลพูดขณะเดินเข้าไปหามู

     

    "ฉันจะเปิดมันเอง และโลกนี้ก็จะจบสิ้นลง โลกแห่งความลโมภไร้ที่สิ้นสุด เจ้าพวกที่มันกำลังได้ใจอยู่ตอนนี้ ให้พวกมันได้สมความตั้งใจซะ"

     

    "คุณมู!!!"คิระพุ่งมาจากที่ซ่อนพุ่งไปข้างหน้า ราอูลหันมายิงปืนใส่คิระ

     

    "คิระ"มูโผล่จากมุมห้องเล็งปืนไปที่ราอูล

     

    "ใครจะยอมให้แกทำได้กันเล่า"คิระหยิบเศษโลหะ

     

    ตอนนั้นมีหลายอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา คิระโดนยิงที่ไหล่พร้อมกับที่ราอูลโดนมูยิงเข้าที่แขน เศษโลหะหลุดจากมือคิระที่กำลังจะขว้างไปโดนหน้ากากของราอูลหล่นลงพื้นเผยให้เห็นหน้าตาของเขา

     

    เอลกับคิระตกตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าที่เหมือนพ่อของมูเปี๊ยบ

     

    "เฮอะ!! แค่พวกแกจะทำอะไรได้เล่า ไม่มีใครหยุดมันได้แล้ว ไม่มีใครหยุดพายุแห่งความแค้นของจักรวาลได้อีกต่อไปแล้ว"ราอูลวิ่งหนีไป

     

    "หยุดนะ...อึ๊ก..!!!!"มูจะไล่ตาม แต่เพราะเสียเลือดมากทำให้เขาล้มลงพื้น คิระกับอาวด์รีบเข้ามาหาเขา

     

    "ไปกันเถอะครับ ลุกไหวไหมครับ?"คิระถาม

     

    "ก็พอไหว ไปจากที่นี่กันเถอะ

      

    คิระช่วยพยุงมูขึ้นมาและเดินออกจากที่นี่ไป เอลหยุดรวบรวมภาพและบันทึกทั้งหมดเท่าที่หาได้และรีบตามคิระกับมูไป


    @@@@@@@@

    ด้านนอกโคโลนี่เมนเดล


    โดมิเนียนและยานคุ้มกันซ่อนอยู่หลังกลุ่มอุกกาบาต เพื่อซ่อนตัวจากเรดาห์ของศัตรู การต่อสู้ครั้งก่อนไม่เป็นอย่างที่นาทาลหวังไว้ อย่างแรกเลยคือเธอไม่คิดว่าจะต้องต่อสู้กับยานที่เคยประจำการมาก่อน


    ปัญหาที่สองคือโมบิลสูทซึ่งเธอไม่อาจเข้าใจได้ พวกเขามีสไตรค์ ,บัสเตอร์ , โซล , บลิตซ์ รวมทั้งโมบิลสูท4ตัวที่พลังงานไม่มีวันหมด ใครขับโมบิลสูทพวกนั้นนาทาลก็ไม่รู้ แต่หากลูกเรือไม่ได้เปลี่ยน ก็น่าจะเป็นคิระ และบางทีมูหรือเซเรนอาจขับGซี่รี่ย์2ใน5ตัว แต่มีนักบินอีก4คนที่เธอไม่รู้และเดาไม่ออกว่าเป็นใคร


    ปัญหาสุดท้ายที่เธอเพิ่งได้รับรายงานว่ามียานนาสก้า5ลำด้านหลังโคโลนี่ยังไม่เคลื่อนไหวทำให้เธอกังวลมาก

     

    "ถ้าเคลื่อนไหวก่อนจะเสียเปรียบนะค่ะ น่าเสียดายที่คงรับประกันว่าจะสำเร็จไม่ได้"นาทาลเตือน การที่ซาฟท์ยังไม่เคลื่อนไหว ทำให้เธอกังวลว่าอีกฝ่ายวางแผนอะไรไว้

     

    "แค่บอกว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ตามความจริงน่ะใครๆก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ แต่หากทำจนสำเร็จได้สิถึงจะเรียกว่าชั้นยอด นี่แหละเป็นหลักเบื้องต้นของโลกธุรกิจ"

     

    "แต่ที่นี่คือสนามรบนะคะ หากผิดพลาดหมายถึงความตาย"

     

    "โลกธุรกิจมันก็เหมือนกันนั่นแหละ หรือว่าคุณจะเป็นคนที่ออกรบก็เมื่อรู้ว่าชนะแน่ๆเท่านั่นรึยังไง"อัสราเอลถามเธอแล้วยิ้มกว้าง นาทาลมีสีหน้าไม่พอใจ อัสราเอลไม่สนใจและหันกลับไปมองโคโลนี่

     

    "มันก็โอเคอยู่หรอกนะ ถ้าบางทีถ้าไม่พยายามสักหน่อยก็จะเป็นผู้ชนะไม่ได้หรอก จะให้อยู่เฉยๆแบบนี้คงไม่ได้หรอก พยายามหน่อยนะครับ ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะเอาลูกเสือออกมาได้ยังไงล่ะจริงไหม"

     

    CPUทั้ง6ดื่มยากัมม่าเข้าไปแล้วก็เข้ามาในหุ่นเพื่อเตรียมออกไปรบอีกครั้ง

     

    "ถ้าพลาดคราวนี้จะโดนดุอีกอย่างงั้นเหรอ"ชานี่ถามขณะปิดฝาครอบหมวกนิรภัยนักบิน

     

    "ให้ตายสิ ใช้งานไม่เกรงใจเลยตาลุงคนนั้นน่ะ"โครโตกล่าว

     

    "ช่วยไม่ได้ ฆ่าคนอื่นดีกว่าให้ตัวเองโดนฆ่านั่นแหละ"ออร์ก้ากล่าว

     

    "ฉันไม่สนเขา ฉันอยากจะฉีกร่างพวกมัน"


    "ตราบใดที่ฉันยังเต้นรำต่อได้"หลุยส์พูดแบบสาวๆ คนอื่นเห็นว่าเธอเปลี่ยนไปมีบุคลิกภาพเหมือนเด็กเมื่อดื่มกัมม่า นิโคตินเข้าไป เมื่อมันออกจากระบบเธอก็เป็นปกติมากขึ้น แม้ว่ายังเหมือนCPUมากกว่ามนุษย์ทั่วไป


    เอ็กซ์เท็นเด็ดทั้ง6ก็เตรียมตัวและพร้อมโจมตีอีกครั้ง ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไป สไตรค์แด็กเกอร์ที่เหลือจากยานกองทัพโลก2ลำตามมาติดๆ


    @@@@@@@@@


    อาร์คแองเจิ้ล

     

    คอนโซลของไซกระพริบสีแดง

     

    "กัปตัน กองทัพโลกมาแล้ว"ไซกล่าว

     

    ทุกคนเครียดขึ้นมาทันที นักบินที่เก่งที่สุดของพวกเขาหายไปเกือบหมด รวมถึง2เครื่องที่แข็งแกร่งที่สุด มันไม่ง่ายที่จะต่อสู้

     

    "กองทัพโลกมาแล้วค่ะ นำมาโดยโดมิเนียนระยะ50 กรีน บราโว่ค่ะ"มิลี่รายงาน

     

    "ทั้งหมดเข้าสู่สถาวะรบระดับ1"เมอริวสั่ง


    @@@@@@@@@


    อีกด้านหนึ่งของเมนเดล


    เวอซาเรียส


    กองกำลังซาฟท์อยู่ในสภาวะสับสน ไม่มีการติดต่อจากผู้บัญชาการ สเลน เลออนหรืออิซาคมาระยะหนึ่งแล้ว


    อาเดส ชิโฮะและซายะยืนรอบนสะพานเดินเรือ


    “กัปตันอาเดส กองทัพโลกเคลื่อนไหวแล้ว”ทหารรายงาน


    “ผบ.ล่ะ?ข้างในเป็นยังไงบ้าง?”อาเดสถาม


    “เราควรเข้าไปตรวจสอบไหมค่ะ”ซายะถาม


    “ไม่ ยังไม่ได้”กัปตันตอบ”ผู้บัญชาการสั่งให้รออยู่ที่นี่และเราต้องรอพวกเขา”

    @@@@@@@@@


    โคโลนี่เมนเดล


    ด้านนอกอาคาร ดิอัคก้า นิโคลและซาอูลอธิบายเรื่องที่พวกเขาเข้าร่วมกับอาร์คแองเจิ้ล ซิลเวอร์วิงซ์และสหพันธ์มนุษย์ เลออนมองอย่างตึงเครียดเพราะอิซาคยังชี้ปืนที่พวกเขา


    "นั่นคือสาเหตุที่ผบ.วอลเฟลและกองยานที่11เข้าร่วมกับลักซ์ ไคลน์"อิซาคถาม”อัสรันด้วยเหรอ?”


    นักบินซาฟท์ทั้งสามพยักหน้า


    “แต่เพราะอะไรล่ะ?”อิซาคถาม”ทำไมถึงต้องทรยศ?”

     

    "นักบินของฟรีด้อมน่ะคือคิระที่เคยเป็นนักบินของสไตรค์มาก่อน เขา อัสรันและเอลเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และคนที่บังคับอาเชอร์แพ็คของเรเวนก็คือลักซ์ ไคลน์"ดีอัคก้ากล่าว”หลังการต่อสู้ที่เกาะมาแชลด์ เธอกลับแพลนท์หลังหายไปนานเพื่อพาเอลไปรักษาตัว”


    อิซาคประหลาดใจ นี่เป็นสาเหตุที่อัสรันลังเลจะสู้กับสไตรค์มาก

     

    "พวกนายอยากจะพูดอะไร!!!"อิซาคถาม

     

    "ฉันไม่ได้อยากฆ่าใคร ฉันแค่อยากจะปกป้องแพลนท์เอาไว้ แต่ฉันยอมรับวิธีของซาฟท์ไม่ได้อีกต่อไป"นิโคลถอนหายใจ


    “หุบปากนิโคล”อิซาคตะโกน

     

    "เขาไม่ใช่คนเดียว ฉันไม่เคยต้องการจะเข้ากองทัพ ฉันแค่ถูกครอบครัวบังคับ แม้มีสงครามฉันก็ไม่เคยคิดเป็นทหาร แต่นับตั้งแต่เรื่องที่ออร์บ ฉันรู้สึกเป็นฉันพบจุดหมายที่จะต่อสู้เป็นครั้งแรก ว่าฉันควรจะออกรบในฐานะทหาร"ซาอูลกล่าว

     

    "แต่มันเป็นการทรยศ"อิซาคตะโกน

     

    "ลองนึกดูสิ อิซาค เลออน ซาฟท์ในตอนนี้สู้เพื่ออะไร"ดีอัคก้าถาม"อลาสก้า ปานามา วิคตอเรีย ออร์บ สงครามนี้มันบ้ามากขึ้นทุกทีและมันเพื่ออะไร?"

     

    อิซาคกับเลออนเงียบไม่ตอบคำถาม ตอนนั้นเองโคโลนี่ก็เกิดการสั่้นสะเทือนอย่างรุนแรง

     

    "อิซาค เลออน สเลน ได้ยินไหม ถอยได้"เสียงครูเซ่ดังมาจากเครื่องสื่อสารที่แขนพวกเขา

     

    ดิอัคก้า นิโคลและซาอูลหันกลับไปที่โมบิลสูทของพวกเขา อิซาคเล็งปืนไปทางพวกเขา เอเลน่าหันมามองพี่ชาย

     

    "ถ้าเห็นเราเป็นศัตรูของซาฟท์ยิงได้เลย"ดีอัคก้ากล่าว

     

    "แกกำลังโดนหลอกอยู่นะ"อิซาคตะโกน


    “ฉันสงสัยว่าพวกเราคนไหนกันแน่ที่โดนหลอก”ดีอัคก้าตอบ จากนั้นเธอหันไปมองพี่ชายตรงๆ”ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำถูกต้องรึเปล่า แต่ฉันจะไป”


    “ฉันขอแนะนำอะไรหน่อยนะอิซาค เลออน ระวังผบ.หน้ากากของเราไว้หน่อย เราเชื่อว่ามีคนบอกเป้าหมายแท้จริงของแผนสปริทเบรคให้กองทัพโลกรู้ ฉันเชื่อว่าเป็นนายพลครูเซ่”


    พวกเขาปีนกลับขึ้นไปในหุ่นทิ้งอิซาคกับเลออนไว้


    @@@@@@@@@


    สเลนนั่งอยู่ในค็อกพิทเกวซใกล้กับตึกที่ราอูล มูและคนอื่นๆเข้าไป เขาสามารถยิงเอลเนสตี้ที่ออกจากอิคารุกะได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการชนะเอลในการต่อสู้ การจัดการเขาที่สู้ไม่ได้ไม่มีความหมาย เขาต้องการพิสูจน์ว่าเขาเหนือกว่ามันโดยไม่เกี่ยวกับสมรรถนโมบิลสูท


    ราอูลวิ่งออกจากตึกไปยังเกวซที่เสียหาย สเลนออกมาจากที่ซ่อน


    “สเลน พาฉันกลับเวอซาเรียสเดี๋ยวนี้”


    “ครับ”


    ในตอนนั้นเองดูเอลกับบลิตซ์ก็ปรากฎตัว


    “อิซาค ฉันได้ตัวผบ.แล้ว เราจะกลับ”


    “รับทราบ”ทั้งสองตอบ หุ่นทั้ง3บินกลับไปที่ยาน


    @@@@@@@ 

    ด้านนอกโคโลนี่เมนเดล


    อาร์คแองเจิ้ล คุซานางิ ซิลเวอร์วิงซ์ เอเทอนอลและนาสก้า3ลำปล่อยโมบิลสูท

     

    จัสติสบบินนำออกมาพร้อมอาเธน่าและเอ็มวันแอสเทรย์

     

    "พวกเธอคอยคุ้มกันยานเถอะ ฉันจะรับมือ4เครื่องนั้นเอง"อัสรันกล่าว

     

    “จะบ้าเหรอ 6ตัวนั้นจะฉีกนาย2คนเป็นชิ้นๆถ้าไปคนเดียว”ลิซแย้ง


    “ใช่ แต่พี่ชายของเธอจะอัดเขาถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ”จอห์นกล่าวขณะที่ฟาร์ไซท์ออกจากโอดิน


    “เขาไม่จำเป็นต้องปฎิบัติกับฉันเหมือนเป็นเด็ก”


    “เขาเป็นพี่ชายเธอ เขาแค่ห่วงใยเธอ เธอนำแอสเทรย์ป้องกันยาน ฉันจะช่วยอัสรันกับเลช่ารับมือ4ตัวนี้”


    “ก็ได้”อาเธน่าถอยกลับ ขณะที่จัสติส แร็กนาร็อค เอ็กเซียและฟาร์ไซท์พุ่งไปข้างหน้าพร้อมต่อสู้กับตัวใกล้สุด

     

    "เจ้านั้นไง"ชานี่กล่าว

     

    "เฮ้ยๆ เครื่องตัวผู้สีขาวหายไป"ออร์ก้ากล่าว


    “สีฟ้าก็ด้วย”โรสลินกล่าว


    คนอื่นแสยะยิ้มเล็กน้อยมองไปที่ทไวไลท์โดยไม่รู้ตัว

     

    "งั้นคราวนี้ก็จับสองตัวนั้นให้ได้"โครโตกล่าว


    เควินคำรามเมื่อเห็นฟาร์ไซท์


    “ไอ้ตัวนั้น มันขี้ขลาดและเจ้าเล่ห์ มันเป็นของฉัน”

     

    ฟอร์บิดเดน คาลามิตี้ ไดเวอร์เจนต์และเรดเดอร์ หมุนวนรอบจัสติสกับแร็กนาร็อค ในขณะที่เมอร์ซาสยิงมิสไซล์ใส่ฟาร์ไซท์


    ทไวไลท์แทบไม่สนใจคนอื่น สายตาหลุยส์หันไปมองซิลเวอร์วิงซ์ เขาอยู่ที่ไหน? ปีศาจที่ขโมยหัวใจเธออยู่ที่ไหน?


    ด้วยความโกรธที่คู่ปรับหาย เธอพุ่งเข้าโจมตียานโดยหวังจะดึงอิคารุกะออกมา


    อีกฝ่ายเปิดฉากยิง แต่นานะหลบและยิงกลับด้วยเวอชิลกังและสกอเปี้ยนตัดแขนขาแอสเทรย์และจินน์

    @@@@@@@


    บนเอเทอร์นอล ลักซ์เฝ้าดูและหวังว่ายานเธอจะสนับสนุนโมบิลสูทได้มากกว่านี้


    มีทีเออร์ยังใช้ไม่ได้อีกเหรอค่ะ"ลักซ์ถาม

     

    "ยังชาร์จอยู่ครับ"ดาร์คอสต้ากล่าว


    ลักซ์รู้สึกกดดันเมื่ออัสรันต้องรับมือด้วยจัสติส

     

    "อ้อมไปหลังอุกกาบาตซะ"เมอริวสั่งแล้วหันไปทางไซ

     

    "แล้วยานนาสก้าล่ะ?"

     

    "ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเลยครับ"ไซตอบ

     

    "กัปตันค่ะ ฟรีด้อมกับอิคารุกะค่ะ ไม่สิ ทุกคนกลับมาแล้วค่ะ"มิลี่ตะโกน ทำให้หลายคนโล่งใจ

     

    "ผู้พันบาดเจ็บสาหัสครับ"

     

    เมอริวลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นสไตรค์ที่เสียหายหนักถูกฟรีด้อมดึงพามาที่ยาน ทั้ง6เครื่องเข้ามาจอดในโรงเก็บยาน ฟรีด้อมพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่สไตรค์,นีโอบลิทซ์,บัสเตอร์และโซลถูกซ่อมแซม พวกทหารช่างเชื่อมต่อสายไฟเพื่อชาร์ตพลังงานหุ่น


    @@@@@@@@

     

    ทางฝั่งของจัสติส อัสรันขว้างบีมบูมเมอแรงใส่คาลามิตี้และเรดเดอร์ ฟอร์บิดเดนเข้ามาปัดบีมบูมเมอแรงกระเด็นไป คาลามิตี้ยิงบีมแคนน่อนใส่จัสติส อัสรันหลบบีมไปด้านข้าง

     

    "ชานี่ เราต้องจับไอ้ตัวนี่"โครโตตะโกน

     

    "รู้แล้วน่ากำลังทำอยู่ไง"ชานี่ตะโกน

     

    เรดเดอร์ยิงลูกตุ้มออกไป จัสติสก้มหลบและยิงแบ็คแพ็คของจัสติสใส่เรดเดอร์ โครโตหลบทันเฉียดฉิว


    เซเรนสกัดลำแสงใหญ่ด้วยโล่ของเอ็กเซียและปล่อยมิสไซล์ใส่ฟอร์บิดเดน ชานี่ร้องออกมาเมื่อหุ่นเขาโดนอัด

     

    ทางด้านฟาร์ไซท์ จอห์นหลบหลังซากอุกกาบาตขณะที่เมอซาสยิงใส่เขาอย่างดุเดือด

     

    "ออกมาสิไอ้ขี้ขลาด"เควินตะโกน ศัตรูเขากำลังผลุบโผล่เข้าออกที่นี่เหมือนกับหนู


    "ทำไมฉันต้องต่อสู้อย่างลูกผู้ชายเมื่อศัตรูของฉันไม่ต่างจากสัตว์”จอห์นถามยิงจากด้านหลังโลหะชิ้นใหญ่

     

    เมอซาสหลบทันและยิงปืนแกตลิงใส่เธอ แต่ฟาร์ไซท์ถอยหนีไปแล้ว


    “ไอ้บ้า เลิกซ่อนตัวซะที!!”

     

    "เปรี้ยง!!!!"ทันใดนั้นเองบีมบูมเมอแรงพุ่งเข้ามาตัดปืนแกตลิงซ้ายมือเขา ลำกล้องยิงมิสไซล์ที่ขาขวาโดนบีมไรเฟิลยิงทำลาย

     

    "อะไรกัน"เควินรีบหลบบีมไรเฟิลหลายนัดที่พุ่งเข้ามาและมองคนยิง


    ฟรีด้อมปรากฎตัวโดยมีอิคารุกะอยู่ข้างหลัง


    “คุณอลาริค เป็นไรไหมครับ”


    “ฉันสบายดี”จอห์นตอบออกจากจุดซ่อนตัว”อัสรันกับเลช่าต้องการความช่วยเหลือ อีก5ตัวกำลังสู้กับพวกเขาอยู่”


    “รับทราบ เราจะไปช่วยพวกเขา”คิระพูดบินออกไป”ระวังตัวด้วย”


    “ไม่ต้องห่วง หมาบ้านี่ไม่มีทางจับเหยี่ยวได้ไม่ว่ามันพยายามแค่ไหนก็ตาม”


    @@@@@@@@@@@

     

    เวอซาเรียส

     

    เฟรย์สะดุ้งเมื่อประตูเปิดออก เธอลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นราอูลรีบเข้ามาที่โต๊ะ ทั้งหอบและร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาณ เขาดึงลิ้นชักควานหากล่องยา เขาหยิบมากลืนเข้าไปและหยิบเอาหน้ากากสำรองมาสวมไว้ เฟรย์เข้าไปหาเขาด้วยสีหน้ากลัวนิดๆ

     

    ราอูลค่อยๆฟื้นตัวจากความเจ็บปวดและกดเครื่องสื่อสาร

     

    "อาเดส!!"

     

    "หัวหน้า เป็นไรไหมครับ"อาเดสถาม แต่ราอูลไม่สนจะตอบ

     

    "วาเซเรียสออกยานได้ เตรียมกองกำลังโมบิลสูทให้พร้อม ส่งสัญญาณบอก นอย,เฮลดาริง,เฮลชิงเกอร์,ไฮดร้า ให้รู้ด้วย"

     

    "แต่ว่า..."

     

    "จะให้นั่งสังเกตการณ์อยู่ตรงนี้รึไงกัน หุ่นยนต์ตัวนั้น อย่าปล่อยให้กองกำลังโลกได้หุ่นพวกนั้นไปเด็ดขาดนะ ฉันจะออกไปด้วย เตรียมซีคเอาไว้ให้พร้อม เดี๋ยวจะไปที่สะพานเดินเรือ"

     

    ราอูลปล่อยมือจากเครื่องสื่อสารและหอบหายใจ เขาหันไปทางเฟรย์และยิ้มให้

     

    "เอาล่ะ เธอช่วยงานฉันหน่อยนะ เป็นการเดิมพันครั้งสุดท้าย ว่าประตูจะเปิดออกหรือเปล่าไงล่ะ"


    เฟรย์สวมชุดอวกาศ ทหารซาฟท์สองคนพาเธอมาที่ยานกู้ภัยและบอกให้เธอเข้าไปข้างใน จากนั้นประตูก็ปิด

     

    "ท่านผบ.คิดอะไรอยู่นะ?"

     

    "คงมีแผนไรสักอย่าง ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เราทำตามคำสั่งก็พอแล้ว"


    ทั้งคู่จากไปโดยปล่อยให้เธออยู่คนเดียว เฟรย์กำแผ่นดิสก์ในมือ เธอเอาแต่บอกว่าเธอต้องส่งไปให้กองกำลังโลก แล้วสงครามก็จะจบลง


    @@@@@@@@@


    โดมิเนียน


    “ยานนาสก้า5ลำกำลังเคลื่อนมาหาเราครับ”


    นาทาลชะงัก กองกำลังซาฟท์รอให้กลุ่มของเธอเข้าสู้กับอาร์คแองเจิ้ลเพื่อจะได้เข้าโจมตีขณะพวกเขาสู้กันหรือไม่


    “มีการติดต่อมาครับ”


    “อะไรนะ?”


    นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่เธอไม่คาดคิด


    “ขอแจ้งข่าวยานชั้นอาร์คแองเจิ้ลของกองกำลังโลก”เสียงผู้บัญชาการซาฟท์ดังขึ้น”ก่อนจะเริ่มการต่อสู้เราต้องการส่งเชลยศึกคืนให้ท่าน”


    นาทาลและอัสราเอลสับสน ศัตรูคิดจะทำอะไร? พวกเขาพูดถึงเชลยศึกคนไหน


    อาร์คแองเจิ้ลและโดมิเนียนยังคงจับจ้องคู่ต่อสู้อย่างใกล้ชิด เกือบทุกการเคลื่อนไหวถูกตอบโต้และสกัดได้ โมบิลสูททั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้เปรียบ เมอริวกัดฟันแน่นขณะเธอพยายามหาทางทำอะไรกับการโจมตีของนาทาลและยานของเธอ


    “กัปตัน ยานซาฟท์กำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา”


    เมอริวและลูกเรือตกใจ ถ้ากองยานของซาฟท์เคลื่อนไหว มีโอกาสที่อาร์คแองเจิ้ลและยานลำอื่นๆจะโดนโจมตีสองด้าน


    @@@@@@@@@


    เวอซาเรียส


    อิซาคกับเลออนรอออกตัวอีกครั้ง สเลนอยู่ถัดจากเขาในเกวซและผู้บัญชาการในซี้ด ด้านหลังเขาชิโฮะในซี้ดดีปอาร์มของเธอและซายะในเกวซสีม่วง ขณะที่อิซาคคิดถึงเรื่องการพูดคุยระหว่างเขากับเพื่อนร่วมทีม


    มีบางอย่างในกองทัพที่เขามองไม่เห็นรึเปล่า? เขาไม่เคยกังวลเรื่องการเมืองมาก่อน เขาใส่ใจการต่อสู้และชัยชนะเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มสงสัย


    “อิซาค?”


    อิซาคถูกดึงกลับมาเมื่อได้ยินเสียงชิโฮะ ใบหน้าเธอปรากฏขึ้นบนจอ


    “อิซาค มีอะไรรึเปล่า”


    “เปล่า ไม่มีอะไร”


    “เป้าหมายเราคือเอเทอนอลและกองยานที่11 เบอร์ตันและนิออนจะเล็งยานลำอื่น”


    อิซาคก้าวขึ้นช่องปล่อยและออกไปสู่สนามรบ เมื่อหุ่นซาฟท์ออกไปหมดแล้ว ราอูลได้สั่งสะพานเดินเรือ


    “ส่งพ็อดออกไป”


    “ครับท่าน”


    @@@@@@@@@

     

    เฟรย์รู้สึกได้ถึงแรงสั่นขณะพ็อดปล่อยออกสู่อวกาศ เธอหลับตาและภาวนาอย่างเงียบๆเพื่อความปลอดภัยของเด็กและให้สงครามจบลงเร็วๆ พ็อดลอยเข้าสู่สนามรบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×