NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #89 : นักดาบทมิฬ คิรัวร์ VS สกายบรีดเดอร์ โอม(RE2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 892
      31
      27 ก.พ. 62

    เหล่ากองทัพเทพทั้ง5ต่างมองคนทะเลสีฟ้าและแชนเดียร์ทั้ง4ล้มลงพื้น

     

    "สมกับเป็นท่านโอม"ทหารเทพคนนึงกล่าว

     

    "ตอนนี้คนที่รอดอยู่ที่ชั้นบน มีทหารเทพ4คน เท่ากับมีแชนเดียร์5คนและคนทะเลสีฟ้า2คน งูยักษ์ ฟูซ่าและโฮลี่ รวมแล้ว12คนกับอีก3ตัว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนรอดแค่7คนตามที่ก็อดพยากรณ์ไว้ เอาล่ะ มาสู้กันต่อเลยดีกว่า"โอมนับจำนวน

     

    "โซโล"คิรัวร์พูดขณะลุกขึ้นมา"งูนั้นไม่ได้เคี้ยวตอนกลืน หมายความว่ายังอยู่ครบดี ดูเหมือนฉันจะมีงานให้นายทำแล้ว ระหว่างที่ฉันจัดการไอ้โล้นนั้น นายหาทางผ่างูนั้นและช่วย นามิ อัศวินนภาและเด็กผู้หญิงออกมา"

     

    "โอม แกนะแก"พวกแชนเดียร์มองโอม

     

    "บังอาจทำกับไวเปอร์และเพื่อนของเราโครว"แชนเดียร์คนแรกเล็งธนู

     

    "ผู้ชายที่มีค่าแค่ไรฝุ่นเมื่ออยู่ต่อหน้าก็อด มันสำคัญขนาดนั้นเชียวรึ?"โอมถาม

     

    "ไวเปอร์คือหัวใจของพวกเราทุกคน"คนที่ถือธนูตะโกน

     

    "พวกเราต่างก็รับรู้ถึงเกียรติภูมิของแชนเดียร์ร่วมกันมา"คนที่ถือขวานยาวกล่าว

     

    "เพื่อทวงเอาบ้านเกิดที่ถูกแย่งชิงไปกลับคืนมา"แชนเดียร์คนที่สามเป็นคนร่างเตี้ยและหัวล้าน ถือทวนที่เป็นเหมือนเขากวาง

     

    "สุนัขรับใช้ของเอเนล ไม่มีวันเข้าใจสายสัมพันธ์ของแชนเดียร์ได้หรอก"มือธนูกล่าว

     

    "อย่าว่าแต่เข้าใจเลย กระทั่งสงสารหรือรู้สึกร่วมด้วยก็ไม่มีสักนิด สรุปแล้วเปล่าประโยชน์ทุกอย่าง"โอมกล่าว

     

    "ตายซะเถอะโอม"มือธนูเล็งใส่โอม

     

    "ซูม!!!"ทหารเทพของเอเนลคนนึงโดดไปหามือธนูแชนเดียร์

     

    แชนเดียร์ยิงธนูออกไปแต่โดนฟันทิ้งด้วยฝีมือคิรัวร์

     

    "ซูม!!!!"มือธนูแชนเดียร์รีบกระโดดหลบทหารเทพมองคิรัวร์"บ้าเอ๊ย ไอ้คนทะเลสีฟ้า"

     

    "ยังไงมันก็พลาดอยู่ดี"โอมบอกคิรัวร์

     

    "อาจใช่ แต่ฉันเป็นคนที่จะโค่นแก"คิรัวร์กล่าวอย่างมั่นใจ

     

    "ฉันไม่กลัวคนทะเลสีฟ้าหรอก"โอมแสยะยิ้มอย่างดูถูก"ไคลแม็กซ์แล้ว โฮลี่ ใช้ไอ้นั่นจัดการเลย"


    "โฮ่งๆๆ"โฮลี่เดินซ้ายขวาไปมาและพุ่งไปข้างหน้า โฮลี่โดดไปบนตึกและโดดมาหามือธนูแชนเดียร์ด้านหลัง

     

    "ตึง!!!"แชนเดียร์พุ่งลงไปกระแทกพื้นและนั่งลงพิงซากปรัก

     

    "กริ๊ก"อิฐจมลงไปเพราะน้ำหนักตัวและทำให้หลวดหนามเหล็กพุ่งมากมายพุ่งมาเฉือนร่างเขา

     

    "โฮ่ง"โฮลี่ลงมายืนที่พื้นหลังจัดการแชนเดียร์ได้

     

    "วิ่งเลยโฮลี่"โอมสั่ง

     

    "แฮ่ะๆๆๆ"โฮลี่วิ่งไปรอบๆซากปรักและทำให้กับดักหลวดหนามรอบๆทำงาน

     

    "ผลุบๆๆๆแกร๊กๆๆๆ"หลวดหนามต่างโผล่ขึ้นมาก่อตัวเป็นเหมือนกรงขังพุ่งไปเหนือหัวทุกคนในซากปรัก

     

    "มันคิดจะทำอะไร?"แชนเดียร์ถือขวานกล่าว

     

    "โธ้เว้ย เจ้าหมานั่นมันวิ่งไปรอบๆเพื่อแบบนี้เอง แย่ล่ะสิ"แชนเดียร์ตัวเตี้ยกล่าว

     

    ตอนนี้หลวดหนามพุ่งไปสูงจนก่อตัวเป็นโดมแล้ว

     

    "นี่แหละคือแก่นแท้ของบททดสอบเหล็ก"ทหารเทพของเอเนลพูดขึ้น"เดธแม็ตซ์กุหลาบขาว"

     

    "มันอยากขังพวกเราไว้"โครวกล่าว

     

    "ไม่ต้องลงทุนปิดล้อมกันก็ได้ ยังไงก็ไม่คิดหนีอยู่แล้ว"โซโลกล่าว

     

    "แกอาจจะไม่"โอมบอกโซโล"แต่เพื่อนแกหนีการจับกุมของฉันเมื่อวานนี้ ครั้งนี้ไอ้โง่4คนที่ขวางทางฉันหายไปแล้ว มันไม่มีทางหนีรอดอีก"

     

    โอมมองไปที่คิรัวร์

     

    "ฉันจะทำให้แกรู้ว่าทำไมฉันถึงเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของก็อดเอเนล เมื่อฉันจัดการแกแล้ว"

     

    "เม เจ้าหน้าโง่เอ๊ย"ทหารเทพเอเนลคนนึงกล่าว"ไม่ได้มีไว้หนีอย่างเดียวซะหน่อย"

     

    "แต่มีเอาไว้เพื่อสกัดกั้นต่างหากเล่า"

     

    "แล้วมันยังไงล่ะ?"โซโลถาม

     

    "สรุปคือ..."ไวเปอร์โดดขึ้นไปและยกเท้าเตะใส่ทหารเทพคนนึง

     

    "เปรี้ยง!!!!"ทหารเทพพุ่งไปชนหลวดหนามและร้องอย่างเจ็บปวดก่อนล้มลงพื้น

     

    "ถ้าไปแตะโดนหนามนั่นก็ไม่จบง่ายๆอย่างงั้นสินะ"ไวเปอร์พูด

     

    "ขอบคุณสำหรับคำเตือน"โครวยืนอยู่หลังเขา

     

    "จะเก็บพวกแกให้หมดเลย อยากลุยเข้ามายังไงก็เชิญ"โซโลกล่าว

     

    "เรื่องนั้นทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยโม้เถอะ"โอมกล่าว

     

    "ดูเหมือนแกจะไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้โดนขังไว้ที่นี่ แกโดนขังไม่ให้หนีได้ต่างหาก"คิรัวร์กล่าว


    "เหลือ10คนกับอีก3ตัว"โอมกล่าว

     

    ______________________

     

    รากิวิ่งมาตามมิลกี้โร้ดเพื่อเอาคำเตือนของคามาคิริไปบอกไวเปอร์

     

    "ไวเปอร์ สมัยเด็กๆ นายเคยพร่ำบอกฉันถึงขนาดนั้น"

     

    ย้อนอดีต

     

    ไวเปอร์กับรากิสมัยยังเด็กนั่งอยู่บนใบไม้ขนาดใหญ่มองไปยังหมู่บ้านแชนเดียร์

     

    "บรรพบุรุษของพวกเราแชนเดียร์เดิมทีอาศัยอยู่ในทะเลสีฟ้าที่เมืองศักดิ์สิทธิ์แชนโดรา ยอดนักรบกาลูการ่าเป็นผู้ปกป้องเมืองของพวกเราเอาไว้ แต่ว่า400ปีก่อน แชนโดราถูกพัดลอยขึ้นมาอยู่บนเกาะท้องฟ้าด้วยน็อคอัพสตรีม กลับไปทะเลสีฟ้าไม่ได้แล้ว เรื่องนั้นเป็นเรื่องน่าลำบากใจอยู่แล้วแท้ๆ"

     

    ไวเปอร์มีสีหน้าโกรธขึ้นมา

     

    "แต่ทั้งอย่างนั้น เจ้าพวกที่อยู่เกาะท้องฟ้ากลับละเมอหาว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เข้ามาแย่งชิงดินแดนแห่งนั้น บรรพบุรุษของพวกเราถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิด ไม่อาจกลับไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป กระทั่งจะเข้าไปสัมผัสแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทำไม่ได้"

     

    ไวเปอร์กัดฟันกรอด

     

    "ในช่วย400ปีนั่น พวกเราแชนเดียร์ถูกลบหลู่ให้อับอายมาโดยตลอด อัปเปอร์ยาร์ดแห่งนั้นคือของพวกเรา จะทวงกลับคืนมาให้ดู บ้านเกิดของพวกเรา ศักดิ์ศรีของบรรพบุรุษ"

     

    จบการย้อนอดีต

     

    รากิยังมุ่งไปตามทางมิลกี้โร้ด

     

    ความโกรธของไวเปอร์เติบโตขึ้นและในที่สุดไวเปอร์กลายเป็นผู้นำนักรบแชนเดียร์ เขายิ่งมุ่งมั่นจะทวงบ้านเกิดคืน

     

    รากินึกถึงคำพูดของคามาคิริ


    "ถ้ากำจัดเอเนลได้ วาสแค่กระเป๋าเดียวนั่นก็จะไม่ใช่ความหลงใหลอีกต่อไป กลับกันเถอะ ไปยังบ้านเกิดเมื่อ400ปีก่อนของแชนเดียร์กัน"

     

    ก่อนจะไปสู้ไวเปอร์ก็บอกนักรบคนอื่นๆ

     

    "คนที่เตรียมใจไม่พร้อมก็รออยู่ที่นี่แหละ ไม่มีใครว่าหรอก"

     

    "นี่ไวเปอร์ พวกเราน่ะเตรียมใจมาพร้อมแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ"แชนเดียร์กล่าว

     

    "แต่ครั้งนี้เราต้องพร้อมที่จะทอดทิ้งคนที่ล้มระหว่างต่อสู้เอาไว้"ไวเปอร์พูดทำให้หลายคนตกใจ"เหยียบย่ำพวกพ้องก้าวข้ามไป เพื่อให้คนอื่นๆไปข้างหน้าต่อได้ วันนี้แหละฉันจะเด็ดหัวเอเนล"

     

    สกีของรากิเร่งเครื่องพุ่งไปข้างหน้า เธอพุ่งขึ้นไปบนต้นถั่วยักษ์

     

    รากิไม่ต้องสู้กับคนทะเลสีฟ้าเหมือนไวเปอร์กับโครว เธอเลยขึ้นไปถึงซากปรักชั้นบนได้ในเวลาไม่ถึงนาที

     

    จากนั้นเธอก็เห็นงูยักษ์อยู่ในซากปรักโดยมีไวเปอร์อยู่ข้างหน้า

     

    "ฟุ่บ!!!!"คิรัวร์โดดหลบดาบแส้ของโอมที่พุ่งเข้ามา

     

    รากิโดดลงจากกระดานทิ้งมันลงเมฆเกาะและวิ่งไปที่ยังโดมสีขาว

     

    "ไวเปอร์!!!!"รากิตะโกนเรียก"ค่อยยังชั่วหาเจอซะที"

     

    "รากิ?"ไวเปอร์ลดเบิร์นบาซูก้าลงหันไปมองเธอ

     

    "ไวเปอร์ ฟังให้ดีๆนะ"รากิตะโกน


    "นี่เธอ ทำไมมาอยู่ตรงนี้?"ไวเปอร์ถาม

     

    "ฉันเอาคำพูดของคามาคิริมาบอกนาย"รากิตอบขณะเธอเดินเข้ามามาใกล้โดม

     

    "ไม่ว่าใครก็ชนะไม่ได้แน่"คามาคิริกล่าว

     

    "รีบหนีไป ไวเปอร์!!! อย่าสู้นะ!!!!"รากิเตือน

     

    รากิมาถึงโดมและเดินช้าลง

     

    "เธอรู้ใช่ไหมว่าเราอยู่ในกรง?"อารินหันมาถามโซโลที่หันมาสนใจทางนี้

     

    "ซูม!!!!"โครวตวัดกรงเล็บไฟใส่หมายักษ์ มันกระเด็นไป เขาหันไปมองไวเปอร์

     

    "รากิ เธอไม่ควรมาที่นี่"โครวกล่าว


    "เอเนลมันอยู่ในป่า"รากิบอกไวเปอร์เมื่อมาถึงกรงขัง


    "เฮ้ย รากิ"ไวเปอร์ตะโกน

     

    "เอเนลคือสายฟ้าที่ผู้คนหวาดกลัวว่าเป็นพระเจ้าตั้งแต่สมัยโบราณ"รากิพูดต่อไป

     

    ไวเปอร์ทิ้งบาซูก้าวิ่งมาจัดลวงหนามที่กรงแล้วตะโกน

     

    "อย่าเข้ามา รีบไปจากที่นี่ซะ!!!"ไวเปอร์ตะโกน มือเขาบาดเจ็บจากเมฆเหล็กแต่เขาไม่สนใจ

     

    "ไม่มีทางสู้มันได้เลย"รากิต้องบอกคำเตือนให้หมด

     

    "รากิเงียบซะ!!!"โครวตะโกน"ถ้าเธอยังพูดชื่อเขา เขาจะมา.....หาเธอ"

     

    โครวเสียงเบาลงขณะที่ไวเปอร์เบิกตากว้าง

     

    "เปรี๊ยะ!!"รากิชะงักเมื่อได้ยินเสียงสายฟ้าด้านหลังเธอ

     

    "ไวเปอร์"รากิพูดเบาๆขณะที่หันไปมองด้านหลังเธอ เอเนลยืนอยู่ตรงนั้น

     

    "เรียกฉันอย่างงั้นรึ?"เอเนลถามรากิ

     

    "เอเนล"รากิมองสัตว์ประประหลาดที่เธอตั้งใจจะมาเตือนผู้นำเธอ

     

    "ดูไว้ซะโซโล"คิรัวร์พูดขณะยังจ้องมองโอม"เราอาจต้องสู้กับเขา"

     

    "หึ โทษของคำพูดนั้นคือความตาย"โอมกล่าว

     

    "อย่านะ เอเนล หยุดเดี๋ยวนี้นะ ยัยนั่นสละสิทธิ์การต่อสู้ไปแล้ว!!!"ไวเปอร์ตะโกนทั้งมือที่เปื้อนเลือด

     

    "รากิ หนีไป!!!!"โครวตะโกน

     

    รากิกลัวจนขยับไม่ได้ขณะที่เอเนลเดินเข้ามาหา เธอยกปืนจ่อที่หน้าอกเอเนล"

     

    "รากิ อย่าลงมือนะ!!!"ไวเปอร์ตะโกน

     

    "ปังๆ"รากิยิงใส่หน้าอกเอเนลสองครั้ง

     

    "เจ้าโง่เอ๊ย มัวแต่ห่วงคนอื่น คิดว่าจะรอดจากที่นี่ไปได้งั้นรึ"ทหารเทพคนนึงกล่าวแล้วโดดไปหาไวเปอร์

     

    เอเนลโดนยิงทะลุหน้าอก2นัดแค่มองอย่างเบื่อหน่าย

     

    รากิได้เห็นพลังน่าสะพรึงกลัวแล้วนึกถึงคำพูดของคามาคิริ

     

    "เจ้านั่นมันไร้เทียมทาน เจ้านั่นคือสายฟ้าที่สมัยก่อนผู้คนหวาดกลัวว่าเป็นเทพ มันคือเทพเจ้าตัวจริง"

     

    ทหารเทพของเอเนลมาด้านหลังไวเปอร์และทาบแอ็กซ์ไดอัลที่หลัง แต่ไวเปอร์ยังจ้องไปที่รากิกับเอเนล

     

    "แกเสร็จแน่ไวเปอร์"ทหารเทพตะโกน

     

    "เปรี้ยง!!!!"โครวพุ่งเข้ามายกเท้าเตะใส่ทหารเทพกระเด็นลอยขึ้นบน แล้วตวัดกรงเล็บเพลิง

     

    "ฉัวะ...พรึ่บ!!!"โครวฟันทหารเทพคนนั้นและหน้าอกมีเพลิงลุกไหม้ไปกระแทกลวดหนาม

     

    โครวหันไปมองรากิกับเอเนล

     

    "ยัยโง่เอ๊ย"ไวเปอร์สบถ

     

    รากิตัวสั่นหันไปมองผู้นำและเพื่อนเธอ

     

    "รีบหนีไป..."

     

    "เปรี๊ยะ!!!"สายฟ้าช็อตใส่เธอ

     

    "ม่าย!!!!!!"โครวตะโกน

     

    ไวเปอร์ไม่เคยได้ยินโครวกรีดร้องมาก่อนเลย เขานึกถึงความทรงจำกับเพื่อนสมัยเด็กจนเติบโตเป็นนักรบด้วยกัน

     

    รากิล้มลงพื้นร่างของเธอไหม้เกรียม ปืนไรเฟิลเธอตกอยู่ข้างๆ

     

    "ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะมองไปที่ไวเปอร์

     

    "เอเนล"ไวเปอร์จ้องเขม็งที่ก็อด

     

    "แกกล้าดียังไง รากิไม่เกี่ยวนะ!!!!"โครวตะโกน

     

    "อ่อนหัดกว่าที่คิดซะอีกนะ นักรบแห่งแชนเดียร์ไวเปอร์ ผู้หญิงคนนี้เองก็เป็นนักรบ ฉันไม่เคยแบ่งแยกลูกแกะที่มาท้าทายกันหรอก อย่าเพิ่งรีบตายซะล่ะ"

     

    เอเนลพูดจบแล้วกลายเป็นสายฟ้าหายไป

     

    ภายในกรงขัง ทหารเทพของเอเนลสองคนยังสู้กับแชนเดียร์สองคนอยู่

     

    คิรัวร์ยืนอยู่ข้างโซโลโดยยังจ้องไปที่โอม ขณะที่โซโลมองไปยังไวเปอร์กับโครวที่กรง

     

    "นั่นน่ะรึ พระเจ้า?"โซโลกล่าว

     

    "เขาก็แค่ผู้กินผลไม้ปีศาจสายโรเกียเข้าไปเหมือนเอส สโม๊คเกอร์และคล็อกโคไดล์"คิรัวร์เตือนเขา

     

    "ยังมีรองเท้าบู๊ตพิเศษอยู่ไหม?"โซโลถาม

     

    "แน่นอน"คิรัวร์ยกเท้าเคาะพื้น"ดูซิว่าก็อดจะทำยังไงเมื่อสู้กับเรา"

     

    "แกกล้าหมิ่นประมาทก็อดเอเนล"โอมโกรธ และยกดาบตวัดอีกครั้ง"ไอเซนวิป"

     

    ใบมีดพุ่งเข้าไปหาคิรัวร์

     

    "โซโล จัดการงูซะ"คิรัวร์พูดพร้อมโดดหลบแส้ดาบ แต่ดาบโค้งตามเขามา

     

    "ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหน ในกรงนี้ไม่มีอะไรหลบมีดฉันได้"โอมกล่าว

     

    "ฉันไม่ได้หนี แค่กำลังเตรียมพร้อม"คิรัวร์โดดลงไปที่ตึกดาดฟ้าซากปรักนึงและตั้งท่าดาบ

     

    "กระทิงขวิด!!!!!!"

     

    "เปรี้ยง!!!!"

     

    คิรัวร์แทงดาบใส่ดาบของโอม แม้มันจะแข็งเหมือนเหล็ก แต่ก็ยังเบาเหมือนเมฆ การตีหนักจากส่วนบนของคิรัวร์ทำให้ดาบพุ่งจมลงดินไป

     

    โอมโดนตรึงเพราะดาบจมลงดินไป คิรัวร์โดดมาและตวัดดาบ

     

    "ตูม!!!!"โอมโดดหลบคลื่นดาบและหดดาบกลับมา ขึ้นมายืนบนซากปรักมองลงมาที่คิรัวร์

     

    "แกทำได้ดีกว่าที่ฉันคิดไว้ คนทะเลสีฟ้า"โอมชมเล็กน้อย

     

    "ฉันทำได้ดีกว่านั้น ฉันชนะแกได้"คิรัวร์กล่าว

     

    เมื่อโซโลได้รับคำสั่งจากรองกัปตันก็มองงูยักษ์ที่กินพวกนามิเข้าไป

     

    ไวเปอร์หยิบบาซูก้าพาดบ่าหันไปบอกโครว

     

    "โครว นายจัดการไอ้หมานั่น ฉันมีเรื่องต้องจัดการ"ไวเปอร์พูดแล้วพุ่งไปข้างหน้า"งูยักษ์!!"

     

    ไวเปอร์กับโซโลอยู่คนละทาง แต่ก็พุ่งมาเจอบนทางใหญ่วิ่งไปหางูยักษ์

     

    "อย่ามาเกะกะได้มั้ย"ไวเปอร์เล็งปืนไปที่โซโล

     

    "เคร้ง!!!"แต่โซโลฟันดาบหันปืนไปด้านข้างและยิงพลาด"ตูม!!!"

     

    "โฮลี่ ใช้ขาหน้าเลย"โอมบอกหมาของเขา

     

    โฮลี่โดดเด้งเข้ามาหาทั้งสามคนและยกขาเสยขึ้นเตะฟูซ่า

     

    "เปรี้ยง!!!!!"ฟูซ่าโดนเตะกระเด็นลงไปนอนหมดสภาพ

     

    ขณะที่โครวต้องทิ้งสัตว์พาหนะลงดาดฟ้าตึกนึง

     

    "ฮึ้ย มาขวางทางอีกแล้ว"โซโลตวัดดาบใส่โครว

     

    "เคร้ง!!!"ไวเปอร์ยกสเก็ตสกัดดาบเอาไว้

     

    "แก...กรงเล็บเพลิง!!!!"โครววิ่งมาฟันกรงเล็บใส่โซโล โซโลกลิ้งตัวหลบได้ทัน

     

    "แอ็กซ์.."ทหารเทพโดดเข้ามาด้านหลังไวเปอร์

     

    แต่ไวเปอร์ยกเท้าสเก็ตหนีบหัวและส่งเขากระแทกพื้นตัวฝังลงดิน

     

    โอมยังยืนอยู่บนซากปรักมองคิรัวร์

     

    "เหลืออีก10คนกับ2ตัว"โอมกล่าว

     

    "ฟ่อ!!!"งูยักษ์ร้องคำรามมองเหล่าทหารเทพ โจรสลัดและแชนเดียร์

     

    __________________

     

    "อูย"นามิลุกขึ้นมองในท้องของงูยักษ์

     

    นามิหันไปเห็นไอซ่านอนอยู่บนท้องของปีแอร์ มันช่วยชีวิตไอซ่าและรับแรงกระแทกแทนเธอ

     

    "ค่อยยังชั่ว ดูเหมือนว่าจะไม่บาดเจ็บอะไรสักเท่าไหร่นะ"นากิกล่าว

     

    "แกร็กๆๆ"นามิได้ยินเสียงชุดเกราะหันไปดู

     

    "ที่นี่มันที่ไหน?"กันโฟลมองดูถ้ำแปลกๆที่มีซากปรักเต็ม

     

    "ข้างในท้องงูน่ะสิ"นามิตอบเขา"พวกเราถูกกลืนเข้ามาไงล่ะ"

     

    "อ้อ จริงด้วยสิ รู้สึกกระเพาะจะยาวมากด้วย"กันโฟลกล่าว

     

    "นี่ไอซ่า ไม่เป็นไรนะ?"นามิเดินเข้าไปดูไอซ่าบนท้องปีแอร์

     

    "อึก..."ไอซ่าสะอื้น เธอเปิดตามองทุกอย่างรอบตัว

     

    "ปิเอ!!"ปีแอร์ตื่นและแปลกใจเหมือนสาวน้อย

     

    "ที่นี่ที่ไหน?"ไอซ่าถาม

     

    "ข้างในท้องงู รู้สึกตัวซะบ้างสิ ซื้อบื้อจังเลยนะ"นามิบ่น

     

    "ท้องงู!!!"ไอซ่าตกใจ

     

    "เอาล่ะ ตอนที่ยังไม่โดนมันย่อยรีบออกไปข้างนอกกันเถอะ"นามิบอกหันไปมองเวฟเวอร์เธอ"เวฟเวอร์คงยังไม่พังมั่ง"

     

    "ว่าแต่ทำไมพวกเจ้าถึงไม่อยู่บนเรือ?"กันโฟลถาม

     

    "ถูกไล่ล่าก็เลยทำได้แค่หนีมาน่ะสิ"นามิขณะคุกเข่าตรวจดูเวฟเวอร์

     

    "อ้อ ว่าแต่เด็กคนนั้นเป็นพวกแชนเดียร์นี่?"กันโฟลมองไอซ่า

     

    "จอมเทพ"ไอซ่าตกใจเมื่อเห็นกันโฟล หยิบไม้ออกมาวิ่งเข้าหาอดีตจอมเทพ"ต้องกำจัดทิ้ง"

     

    นามิจับคอเสื้อหลังและดึงเธอล้มลงพื้น

     

    "พอซะทีได้มั้ย"นามิกล่าว

     

    ไอซ่าชี้อาวุธที่กันโฟล แต่เขายิ้มให้เธอและหัวเราะ ทำให้ไอซ่ายอมเลิกโจมตีเขา นามิยิ้มยักไหล่ให้อัศวินนภา

     

    "ว่าแต่...พังกระเพาะนี่ออกไปได้มั้ยนะ?"กันโฟลเดินไปที่กำแพงเอาทวนจิ้มมันเบาๆ

     

    "อย่าพูดบ้าๆได้มั้ย ขืนน้ำย่อยทะลักออกมาแล้วจะทำยังไง!!!"นามิตะโกน"อยากตายนักรึไงยะ หัดใช้สมองซะบ้างสิ"

     

    "แหม ข้าแค่ล้อเล่น"กันโฟลดึงทวนกลับมาลูบปลายทวน

     

    "พูดอะไรออกมาน่ะ อัศวินประหลาดนี่ต๊องจริงๆด้วย ถ้ามีใครบ้าพอจะทำแบบนั้นจริงๆล่ะก็ อยากเห็นด้วยตาคู่นี้ชะมัด"นามิกล่าว

     

    พวกเขาดังได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา กันโฟลยกทวนเขาขึ้น ไอซ่ากอดแขนนามิไว้

     

    "เสียงฝีเท้า ที่แบบนี้ทำไมถึง..."นามิกล่าว

     

    "ใครน่ะ?"กันโฟลถาม

     

    แต่คนที่เดินมาปีนขึ้นมาบนซากอิฐให้พวกเขาเห็นว่าเป็นลูฟี่

     

    "นามิ ตาลุงประหลาด"ลูฟี่มองทั้งสองคนทั้งที่ร้องไห้

     

    "นี่เจ้า..."กันโฟลกล่าว

     

    "ลูฟี่!?"

     

    "พวกเธอทำอะไรกันอยู่น่ะถึงมาอยู่ในถ้ำประหลาดนี่"ลูฟี่ถาม

     

    "นายนั่นแหละมาทำอะไรอยู่ในนี้?"นามิถาม

     

    "ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้ต่างหากล่ะ"ลูฟี่ตอบร้องคร่ำครวญ

     

    "ไม่อยากจะเชื่อเลย ขนาดลูฟี่ยังถูกงูกลืนเข้ามา คนอื่นคงปลอดภัยดีสินะ"นามิกล่าว

     

    "หาฉันอยู่คนเดียว...งูเหรอ!?"ลูฟี่รู้ตัว


    "ใช่สิ เพราะงั้นถึงได้มาอยู่ที่นี่ไงล่ะ"นามิกล่าว

     

    "งั้นเหรอ แบบนั้นแย่เลยนะ พวกเธอถูกงูกินอย่างนั้นรึเนี่ย"ลูฟี่กล่าว

     

    "ก็...บอก...ว่า"นามิพุ่งเข้าไปดึงจมูกลูฟี่"นายเองก็เหมือนกันแหละ ที่นี่ก็คือข้างในท้องของงูยักษ์ไงล่ะยะ!!!"

     

    นามิปล่อยมือ จมูกของลูฟี่หดกลับแต่ยาวคล้ายกับอุซป

     

    "อย่าดึงจมูกฉันสิ อย่าดึงสิ"ลูฟี่พูดก่อนจะเห็นจมูกตัวเอง"เลียนแบบอุซป"

     

    นามิ กันโฟลและไอซ่าเหงื่อตกขณะจมูกลูฟี่หดกลับเหมือนเดิม

     

    "ใครกันน่ะ ตาบ้านี่?"ไอซ่าถาม

     

    "ไม่อยากจะบอกเลยนะ กัปตันน่ะ กัปตันเรือของพวกเราเอง"นามิถอนหายใจ

     

    "ปิเอ!!!"ปีแอร์ร้องออกมา


    "อะไรกันเจ้าเป็นกัปตันรึนี่?"กันโฟลแปลกใจกับเรื่องนี้"โลกคงจบสิ้นแน่ๆ"

     

    "จะคิดแบบนั้นมันก็ไม่แปลก"นามิยอมรับ

     

    "ไม่รู้ตัวเลยรึเนี่ยว่าถูกกิน ซื้อบื้อชะมัด"ไอซ่าบอกลูฟี่

     

    "หา!!!! งั้นที่นี่ก็คือข้างในกระเพาะของงูยักษ์ตัวนั้นน่ะสิ!ฉันเองก็ถูกกินรึเนี่ย!!"ลูฟี่ร้อง ในที่สุดก็รู้ตัว


    "ก็พูดให้ฟังอยู่นี่ไงเล่า"นามิกล่าว"เสื้อผ้านายก็ถูกย่อยแล้วนี่"

     

    "จริงด้วย"ลูฟี่มองเสื้อผ้าเขา เสื้อผ้าเขาขาดและรองเท้าแตะหายไป"นี่ งั้นรีบค้นหารูทวารเจ้านี่กันเถอะ

     

    "รูทวาน?"กันโฟลถาม

     

    "คิดจะออกไปทางไหนกันยะ!!!"นามิตบหน้าเขา

     

    "ถูกกินเข้าไปก็ต้องออกทางก้นสิ ฉันพูดผิดตรงไหน?"ลูฟี่ถาม

     

    "ไม่เอา เดี๋ยวก็ถูกย่อยไปก่อนสิยะ!!!"นามิทุบหัวลูฟี่

     

    "นามิน่ากลัวอ่ะ"ไอซ่ากล่าว

     

    "ผู้หญิงทะเลสีฟ้านี่ดุร้ายแฮะ"กันโฟลกล่าว

     

    "ยังไงก็เถอะตอนนี้ งูตัวนี้กำลังอารมณ์เสียอยู่ ก็เลยพาลกินเราเข้ามาด้วย รีบออกไปจากที่นี่ตอนที่มันยังไม่อาละวาดเถอะ"นามิกล่าว

     

    "อารมณ์เสียงั้นเหรอ?"ลูฟี่ถาม

     

    "ใช่สิ ท่าทางจะหงุดหงิดน่าดูด้วย อาละวาดซะมั่วซั่วเลย"นามิกล่าว

     

    "ทำไมถึงหงุดหงิดขนาดนั้นล่ะ?"ลูฟี่ถาม

     

    "ก๊อง"นามิ กันโฟลและไอซ่าต่างนึกขึ้นได้ ลูฟี่โดนงูกินก่อนพวกเขาจะมา

     

    "หรือว่า"

     

    "นี่นายอาละวาดอยู่ในนี้ตลอดเวลาเลยเหรอ?"นามิถาม

     

    "กะจะทะลวงออกไปข้างนอกน่ะ"ลูฟี่ตอบ"ฮะๆๆๆ"

     

    "เอ่อ...ฝีมือเจ้าเองรึนี่?"

     

    "อาละวาดไปทั่วจนท้องหิวแล้ว"ลูฟี่พูดพลางลูบท้อง นามิโกรธจนกำหมัดแน่น"พอจะมีของกินอะไรบ้างมั้ย?"

     

    แต่ลูฟี่ก็เห็นนามิตัวสั่น

     

    "เป็น...เป็นอะไรเหรอ?"ลูฟี่ถาม

     

    "บ้าไม่มีใครเกิน!!!!"นามิชกใส่ลูฟี่

     

    "ตึงๆๆๆๆ

     

    ______________________

     

    งูยักษ์ก็เจ็บไปด้วยเมื่อนามิทุบลูฟี่ใส่กระเพาะของมัน

     

    "ฟ่อๆๆ!!!!"มันร้องคำรามขดตัวไปมา

     

    ______________________

     

    ภายในกระเพาะงูสั่นสะเทือน ลูฟี่ นาม กันโฟล ไอซ่า และปีแอร์ต่างตกลงไปด้านล่าง

     

    _______________________

     

    "ฟ่อ!!!!!"งูยักษ์ร้องคำรามและร้องไห้

     

    "ขู่คำรามเหมือนงูบ้าเลยนะ"ไวเปอร์คุกเข่ากับพื้นมองงูยักษ์"อย่างงี้ก็สวยสิ"

     

    "ยัยนามิคงไม่โดนย่อยไปแล้วนะ"โซโลพูด

     

    "อย่าเพิ่งโดนมันย่อยซะล่ะ ไอซ่า"

     

    งูกระแทกตัวลงไปยังจุดที่ทั้งสองอยู่ ทั้งคู่ต่างโดดหลบ ไวเปอร์ขึ้นไปอยู่เหนือหัวงู

     

    "ฉันจะรีบผ่าท้องเจ้านั่นให้"ไวเปอร์เล็งปืนที่งู"ตูมมมม!!!!"

     

    ด้านโซโลที่ยืนบนพื้นตวัดดาบ2เล่มในมือ

     

    "เพลงดาบ72ประการ!!!!"

     

    "ตูมมมมม!!!!บรึ้มมมม!!!!!"คลื่นดาบอากาศพุ่งไปโดนหน้ามัน ตามด้วยเพลิงฟ้าของไวเปอร์โดนหัวมัน

     

    งูยักษ์มีรอยไหม้บนหัวและรอยขีดข่วนบนตัว

     

    "ตูม!!!!"ไวเปอร์ลงมาบนซากปรักยิงเบิร์นบาซูก้าด้านข้างงูยักษ์ แต่มันพลาดหัวและโดนปลายลิ้นงูแทน

     

    "ปราบพยัคฆ์!!!!"โซโลพุ่งเข้าไปฟันที่จุดเดิม แต่ไม่อาจเจาะผิวหนังมันได้ ทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วน

     

    งูยักษ์ปิดปากแล้วพุ่งมากระแทกโซโล เขาโดดหลบไป ก่อนมันจะเข้าไปหาไวเปอร์

     

    ______________________

     

    "กรงเล็บเพลิง"โครวตวัดกรงเล็บแต่โฮลี่หักหลบเปลวเพลิงได้น่าอัศจรรย์

     

    โครวพุ่งมาด้านข้างและฟันใส่ โฮลี่โดดหลบและกระแทกเท้าเข้ากลางอก

     

    "เปรี้ยง!!!!"โครวโดนอัดกระเด็นกระแทกกำแพง

     

    โฮลี่โดดตีลังกาและพุ่งลงมาทับ

     

    "เฮ้ย!!!!"โครวรีบหนีแทบไม่ทัน

     

    ______________________

     

    "ไอเซนวิป!!!!"โอมตวัดดาบแส้พุ่งไปหาคิรัวร์ แต่เขาโดดหลบไปได้ ทำให้ดาบฟันโดนกำแพงด้านหลัง

     

    โอมพลางเอานิ้วยกแว่นกันแดดขึ้น

     

    "เอาล่ะ มาถึงฉากสุดท้ายแล้ว"โอมกล่าว

     

    ________________________

     

    "ฟ่อๆๆๆๆ"งูยักษ์พุ่งอาละวาดไปทั่วซากปรักไล่ตามไวเปอร์

     

    "ตูมๆๆๆ"ไวเปอร์พุ่งตัวไปในอากาศและยิงเบิร์นบาซูก้าไม่หยุด

     

    "ฉัวะๆๆ"ใกล้ๆโซโลก็คอยฟันดาบใส่มัน และต้องรีบหลบไม่ให้โดนเบิร์นบาซูก้าของไวเปอร์

     

    โซโลวิ่งผ่านซากปรักพยายามหลบเศษหินที่ตกลงมา

     

    "ต้องรีบหาทางจัดการเจ้างูบ้านั่น"โซโลคิดในใจ

     

    "สำเร็จมั้ย?"ไวเปอร์ยืนบนซากปรักมองกลุ่มควันคอยดูผลจากการระดมยิง

     

    "ฟ่อ!!!!!"งูยักษ์โผล่ออกมาจากกลุ่มควันพุ่งมาหาแชนเดียร์ ไวเปอร์กระโดดหลบไปก่อนที่มันจะพังตึก

     

    "ไม่ได้ผลอีกรึเนี่ย!!"ไวเปอร์สบถขณะลอยอยู่เหนืองู"งั้นก็ต้องยิงต่อไปเรื่อยๆ"

     

    "ตูมๆๆๆ"ไวเปอร์ยิงและถอยหลังเมื่องูยักษ์พุ่งมา

     

    ทางด้านโซโลมองเห็นเกล็ดของมันหลุดจากรอยฟันที่ตัวเองทำไว้

     

    "บางทีถ้าเราโจมตีจุดนั้นจะทำให้มันบาดเจ็บได้"เขาคิดในใจ

     

    "วิชาสามดาบ พร108ประการ!!!!"

     

    "เฟี้ยว!!!!.....ตูมมมมม!!!!"คลื่นดาบพุ่งเข้าไปกระแทกงูยักษ์

     

    "ฟ่อ!!!!!"งูยักษ์แผดร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อเลือดไหลทะลักออกมา

     

    "เยี่ยม"โซโลร้องดีใจ

     

    "นักดาบทะเลสีฟ้านั่นทำอะไร?"ไวเปอร์ที่ยิงอยู่ด้านข้างเห็นโซโลสร้างแผลให้งูได้"เขาทำให้มันบาดเจ็บขณะที่ปืนฉันไม่ได้ผล แต่ตอนนี้ฉันยิงไปที่แผลนั่นได้แล้ว"

     

    แต่ทั้งโซโลและไวเปอร์ไม่ได้สังเกตหางของมันที่ตวัดฟาดเข้ามา 

     

    "ตูม!!!!"ทั้งสองต่างโดนอัดกระแทกพุ่งไปชนซากปรัก

     

    _____________________

     

    "วิชา4ดาบ มหาดาบรัศมีกระจาย"

     

    คิรัวร์ตวัดดาบให้เกิดคลื่นสีแดงพัดไปทั่ว แต่โอมเอียงตัวหลบได้ง่ายดาย

     

    "ไอเซนวิป"โอมตวัดแส้เข้ามา

     

    คิรัวร์หลบแส้ไปด้านข้าง

     

    "เสียใจนะพลาดอีกแล้วไอ้หัวโล้น"คิรัวร์กล่าว

     

    "แกเรียกฉันว่าหัวโล้นเพราะอยากทำให้ฉันโกรธ"โอมรู้ทันคิรัวร์"ฉันโกนผมให้หัวล้านเพราะฉันเลือกเอง มันจะไม่ทำให้ฉันโกรธและคนทะเลสีฟ้าอย่างแกจะไม่ผ่านบททดสอบฉัน"

     

    "หัวล้านทำอะไรมันไม่ได้ งั้นต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องเขากับเทพคุมกฎอีก4คน พวกเขาดูเหมือนพยายามแข่งขันกันเอง"

     

    "รู้ไหมฉันนึกถึงการต่อสู้เมื่อวาน พวกแก5คนรุมฉัน การต่อสู้จบลงโดยฉันหนีไปได้ เป้าหมายของพวกแกคือฆ่าและพิพากษาฉัน ดูเหมือนฉันจะชนะและแกแพ้"

     

    "ฉันไม่ได้แพ้"โอมแย้ง เขายังพยายามสงบใจตัวเอง"ฉันไม่เคยแพ้ ไอ้โง่4ตัวนั้นมันมาขวางทางฉัน"

     

    "งั้นฉันก็แค่ต้องชนะแกอีกครั้ง"คิรัวร์ยังพูดเรื่องที่โอมแพ้"บอกฉันหน่อยสิ เอเนลตอบสนองยังไงเมื่อ5นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดกลับไปโดยล้มเหลวที่จะจัดการคนทะเลสีฟ้า"

     

    โอมจับดาบเขาแน่นขึ้น

     

    "ไม่ต้องตอบ ฉันจะบอกให้เอง"คิรัวร์พูดต่อไป"เอเนลมาหาฉันและเสนอให้เข้าร่วมกับเขา เขาเสนอให้ฉันเป็นเทพคุมกฎหลังเห็นพวกแก5คนไร้ความสามารถที่ควรโดนปลด"

     

    "ไม่มีใครปลดฉันได้"โอมโต้แย้งเสียงดัง"เจ้า4ตัวนั้นอาจเป็นไปได้ แต่ฉันคือนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของก็อดเอเนล เขาจะไม่แทนที่ฉัน"

     

    "แน่ใจหรือ?"คิรัวร์ถามกลับ"เขามีปฎิกิริยายังไงเมื่อไอ้อ้วนโดนเพื่อนฉันโค่น ตอนที่ฉันชนะชูร่า นายกับฉันต่างรู้ว่าไอ้หัวแมงมุมนั้นมันโง่ ฉันไม่รู้ว่าอารินจัดการไอ้ลมนั้นยังไง แต่ความจริงก็คือ พวกแก5คนเป็นของเล่นของเอเนลที่มีค่าอยู่บ้าง แต่ไร้ค่าเมื่อของเล่นพัง รู้ไหมเกิดอะไรขึ้นกับของเล่นที่พัง ถูกโยนทิ้ง นั่นคือสิ่งที่เขาจะทำกับพวกนาย"

     

    "ไม่ เขาจะไม่ทำ!!!!"โอมตะโกน

     

    "แกแพ้ไปแล้ว"


    "ฉันไม่ได้แพ้!!!!!"เอเนลฟาดแส้ดาบใส่คิรัวร์

     

    "เปรี๊ยะๆๆๆ!!!"คิรัวร์เร่งความเร็ว"โซล!!!"

     

    "ฟ้าว!!!!"คิรัวร์เร็วกว่าเดิมมากและหลบแส้ดาบพุ่งมาหาโอม"จาเวรินทันเดอร์!!!!"

     

    "เปรี้ยง!!!!!!!"โอมโดนเตะเข้าเต็มหน้าพร้อมสายฟ้าสีแดงที่ช็อตใส่

     

    "ตึง!!!!"โอมกระเด็นไปชนซากปรักด้านหลังพังทลายลงมา

     

    "อึก..."โอมดึงเอาอิฐที่ทับตนออกไปลุกขึ้นยืน"ฉะ...ฉันบาดเจ็บ"

     

    "ฉันเสียสมาธิและมันโทราปั่นป่วน นั่นเป็นวิธีที่เขาชนะชูร่า ฉันต้องใจเย็นและอย่าให้เขาปั่นหัวอีก"

     

    "เฮ้ แว่นกันแดด"คิรัวร์ถือแว่นกันแดดเขาในมือ

     

    โอมเบิกตากว้างเมื่อเห็นคิรัวร์ขโมยแว่นกันแดดเขาไป

     

    "อ้อ หลุดมือ...กร็อบ!!"คิรัวร์ทิ้งลงพื้นและเหยียบมันแตก

     

    "นั่นของรักของฉัน ไอเซนวิป!!!"

     

    แส้ดาบพุ่งมาหาคิรัวร์

     

    "เปรี๊ยะ!!!!"คิรัวร์พุ่งมาด้วยความเร็วสูงอีกครั้งและเขามาอยู่ด้านหลังโอม

     

    "วิชา2ดาบ พายุทอร์นาโด"

     

    "ฟุ่บ"โอมรับโดดหลบดาบไป แต่ยังเหลือพายุหมุนอยู่

     

    "ซูมมมม!!!!พายุพุ่งเข้าอัดใส่โอมและแรง

     

    โอมที่กระเด็นล้มไปลุกขึ้นมา เพราะแว่นกันแดดหายไป ทำให้เห็นดวงตาที่โกรธเกรี้ยวของเขาได้ง่าย แต่โอมสูดลมหายใจและสงบลง

     

    "ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว"โอมกล่าว"แกยุยงคู่ต่อสู้และทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาเสียสมาธิและทำพลาด เพราะความจริงการโจมตีของแกไม่ได้แข็งแกร่ง ในเรื่องกำลังทั้งนักดาบและไวเปอร์ต่างเหนือกว่าแก ตอนนี้ฉันรู้แล้วแกต่อสู้ยังไง ฉันจะไม่ได้แกหลอกได้อีก"

     

    "เพลิงผลาญ"คิรัวร์ตวัดดาบชินโซริวส่งคลื่นเพลิงใส่

     

    โอมโดดไปด้านข้างอย่างง่ายดายด้วยมันโทรา

     

    "ไม่ได้ผลแล้ว"โอมพูดแล้วตวัดดาบ

     

    แส้ดาบตวัดเข้ามา คิรัวร์รีบโดดหลบไปและหนีไป

     

    โอมหดดาบกลับขณะเฝ้ามองดูคิรัวร์วิ่งหนีไป

     

    "ไม่มีใครหนีบททดสอบเหล็กของฉันได้ แกไม่มีวันซ่อนตัวได้ ฉันใช้มันโทรารู้ตำแหน่งแกได้ตลอด"

     

    "ไอเซนวิป"

     

    แส้ดาบพุ่งมาหาคิรัวร์พังกำแพงด้านข้างมา แต่คิรัวร์โดดหลบไปได้และเลี้ยวไปมุมอื่น

     

    "การปั่นหัวมันไม่ได้ผลแล้ว"คิรัวร์คิดในใจ"เขาอาจเมินเฉยคำพูดฉันทุกอย่าง หมายความว่าต้องสู้ศึกระยะไกลซึ่งฉันเสียเปรียบมาก"

     

    "ไวจริงๆ"โอมสบถในใจ

     

    "วิ่งหนีได้ตามสบาย แกไม่มีวันหลบการโจมตีของฉันพ้นหรอกน่า  ก็เหมือนกับที่มนุษย์ ไม่สามารถรอดพ้นจากสิ่งที่เรียกว่าความตายไปได้น่ะแหละ ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดีเถอะ"

     

    คิรัวร์ยังวิ่งผ่านซากปรัก

     

    "พูดไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ"โอมพูดแล้วเตรียมฟันอีกครั้ง"สัญชาตญาณตระหนักถึงความตายคงไม่มีอยู่ในตัวแกอย่างงั้นสินะ รู้สึกถึงความโง่ของตัวเองซะที แกน่มัวแต่นึกถึงขุมทองและการแก้แค้น ก็เลยมองกฎเกณฑ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ออก เป็นแค่ตัวตนเล็กๆ น่าเศร้านัก"

     

    ขณะที่คิรัวร์วิ่งผ่านก็เจอทหารเทพพุ่งมาด้านหน้า

     

    "ตายซะเถอะ คนทะเลสีฟ้า"ทหารเทพตะโกน


    "ฉันไม่มีธุระอะไรกับแก"คิรัวร์พูดแล้วตวัดดาบ

     

    "ฉัวะ!!!!"ทหารเทพโดนฟันที่กลางอกเลือดพุ่งลงไปนอน

    _______________________

     

    "เสียงหายไปอีกเสียงนึงแล้ว"โอมกล่าวขึ้นมา"คนที่ยังรอดอยู่ในซากเมืองแห่งนี้ เหลือ8คนกับ2ตัว ไม่สิ..."

     

    "ไอเซนวิป!!!"โอมตวัดดาบแส้ไปด้านหลัง

     

    "รับมือโอม"แชนเดียร์ถือขวานโดดพุ่งเข้ามา

     

    "7คนกับ2ตัว"โอมกล่าว

     

    "ฉัวะ!!!!"แชนเดียร์โดนฟันล้มลงพื้น

     

    ช่วงที่โอมเสียจังหวะไปจัดการแชนเดียร์ก็เป็นโอกาสให้คิรัวร์พุ่งเข้ามา

     

    "ควันอำพราง!!!"คิรัวร์ฟันดาบลงพื้น เกิดควันไปทั่วบริเวณ

     

    "ม่านควันเหรอ ไม่มีประโยชน์หรอกน่า"โอมกล่าว

     

    ในจังหวะนั้นคิรัวร์โยนอัญมณีแปรธาตุของตนทิ้งลงพื้นไปรอบๆตัวโอม

     

    "ตึง!!!!"โอมเจอแรงกดรอบตัวไม่ให้ขยับไปไหนได้

     

    "รับไปซะ กากบาทอัคคี"คิรัวร์พุ่งเข้ายกดาบฟัน

     

    "ไอเซนแบ็ก"

     

    ดาบของโอมกลายเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นมาคลุมด้านบนและครอบพื้นดิน

     

    "ตูม!!!!"โล่นั้นแกร่งพอจะแรงฟันของคิรัวร์ได้

     

    "อั๊ก อะไรเนี่ย กำแพงเหล็ก"คิรัวร์กล่าวขณะถอยออกไปเจ็บหัวพอสมควร

     

    โอมก็ถอยไปไม่ให้เข้าใกล้ระยะ"แอเรีย"ของคิรัวร์

     

    "ดาบเล่มนี้คือเมฆเหล็ก"โอมยกดาบไว้บนบ่า"แกคิดว่าเมฆมีรูปร่างที่แน่นอนรึไง"

     

    "หนอยแน่"คิรัวร์กัดฟันกรอด

     

    "ไอเซนแฟน"โอมตวัดดาบแส้มาเหมือนงู ทำให้คิรัวร์หัวหันไปด้านหลังหลบมัน

     

    "ไอเซนฟอร์ด"

     

    คิรัวร์โดดหลบดาบแส้ที่พุ่งมากับพื้น

     

    "ไอเซนฟลูเร่"

     

    คิรัวร์หลบไปด้านข้างเกือบไม่พ้น ก่อนจะตวัดดาบ

     

    "ไอเซนวิป!!!!"

     

    "วิชา3ดาบ มังกรเพลิง!!!!"

     

    "ฟ้าว!!!!/ตูมมมม!!!"

     

    มังกรเพลิงและดาบแส้พุ่งปะทะกัน ก่อนที่ดาบของคิรัวร์จะแพ้

     

    "ถูกปัดได้"คิรัวร์ตกตะลึงและรีบโดดหลบดาบแส้ไป กำลังจะฟันอีกครั้ง

     

    "ไอเซนวิป"แต่โอมฟันพุ่งเข้ามาเร็วกว่า คิรัวร์โดดเสริมด้วยสายฟ้าหลบไป เขาโดดหนีลงไปด้านล่างตึกหนีไป

     

    โอมมองดูคิรัวร์วิ่งหนีไปจากบนยอดดาดฟ้า

     

    "แกมีเพลงดาบและอาวุธแปลกๆที่น่าสนใจดีเหมือนกันนี่ คนทะเลสีฟ้า แต่ว่า ยังไม่เลิกคิดทำอะไรซ้ำซากอีกรึ?"

     

    คิรัวร์วิ่งไปเรื่อยๆ ขณะที่โอมแค่เดินไปอย่างช้าๆ

     

    "แกน่ะกำลังคลาดสายตาจากฉัน แต่ฉันกลับรู้ตำแหน่งของแกได้เหมือนกับอยู่ในฝ่ามือของตัวเอง"โอมกล่าว

     

    ____________________

     

     

    "ฟุ่บๆๆๆ"โครวกำลังหลบหมัดโฮลี่ที่พุ่งเข้าใส่ หมัดของเธอพังซากปรักด้านหลัง

     

    โฮลี่ยกขาเตะแชนเดียร์ตัวเตี้ย เขาหลบแทบไม่ทัน

     

    "หนอย นักรบแชนเดียร์ไม่แพ้หมาอย่างแกหรอก"แชนเดียร์คนนั้นกล่าวยกกระบองเขากวางขึ้นเหนือศีรษะ

     

    "โฮ่ง!!!!"โฮลี่ชกหมัดโดนกลางอกแชนเดียร์ลอยกระเด็น

     

    "อ๊าก!!!!"แชนเดียร์ล้มลงพื้นและโครวถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากับหมาเทพคุมกฎ

     

    "หนอยแน่"โครวกัดฟันกรอด

    ___________________

     

    "หายไปอีกคนนึงแล้ว ที่นี่ก็เหลือ5คนกับอีก2ตัว"โอมพูดและมองไปกำแพงด้านข้าง"อีกเดี๋ยว 4คนกับอีก2ตัวแล้ว"

     

    ตอนนี้โอมกับคิรัวร์ยืนเผชิญหน้าโดยมีกำแพงซากปรักขวางกั้น

     

    "แกคงจะเป็นยอดนักดาบของทะเลสีฟ้า พวกพ้องของแกเองก็ทำได้ไม่เลวเลย แต่ว่าหัวใจของแกถูกฉันเล็งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว วิงวอนต่อพระเจ้าสิ กัปตันโจรสลัดแห่งทะเลสีฟ้า"

     

    "บ้าหรือเปล่า เกิดมาฉันไม่เคยวิงวอนต่อพระเจ้าเลย"คิรัวร์ตั้งท่าดาบ โอมก็รับรู้ได้

     

    "น่าเศร้านัก คนเราน่ะมันต่างกันก็แค่จะตายช้าหรือเร็วเท่านั้นแหละ งั้นก็ตามใจแกละกัน"โอมกล่าว

     

    "ขอลองไม้ตายใหม่กับแกเลยก็แล้วกัน"คิรัวร์ตั้งท่าดาบ เขาถือดาบอามาเทราสุกับดาบเท็นเซกะไว้

     

    "นี่คือไม้ตายสุดยอดของฉัน ไอเซนเรเปีย!!!!"

     

    ดาบแส้พุ่งมาเป็นเส้นตรงหมายแทงทะลุ

     

    "ตึง!!!!"ดาบแส้พุ่งทะลุกำแพงและฟันใส่คิรัวร์

     

    "วิชา4ดาบ แสงมังกรทอง88ดวงดาว"คิรัวร์ตวัดดาบไปพร้อมทั้งตวัดเท้าวายุสร้างคลื่นลม

     

    "แว็บ!!!!"เกิดประกายแสงสร้างม่านสีทองไว้ พร้อมปรากฎร่างมังกรสีทองที่น่าเกรงขาม

     

    "ก๊าซ!!!!"มันพุ่งตรงเข้าชนกับไอเซนเรเปียร์


    "อั๊ก!!!"เมื่อโดนมังกรทองอัด โอมถึงกับโดนลากถอยไปหลายเมตร"พลังบ้าอะไรกัน"

     

    "เปรี๊ยะๆๆๆ....เพล้ง!!!"เมฆเหล็กของโอมโดนพลังมังกรทองแตกสลายไป

     

    "เมฆเหล็กถูกทำลาย"โอมตกใจ ก่อนที่มังกรทองจะพุ่งและปากมันเข้ากัดใส่เขา

     

    "ซูม!!!!!!!.....ฉัวะ!!!!/อ๊ากกกกก!!!!!"

     

    โอมโดนฟันเลือดพุ่ง ตัวโดนความร้อนไหม้เกรียมและล้มลงพื้น

     

    "นี่สำหรับช็อปเปอร์"คิรัวร์พูดพลางเก็บดาบ

     

    ______________________

     

    เหนือสนามรบขึ้นไป เซียร์กำลังให้เจ้ากริฟฟินช่วยพาไปบนยอด

     

    "ทองคำน่าจะอยู่ที่วังเทพเอเนล ต้องลองไปดูหน่อย"

     

    _______________________

     

     

    "ว๊ากกกก!!!!"ลูฟี่ นามิ ไอซ่า กันโฟลและปีแอร์ต่างร่วงตกไป

     

    ในตอนนั้นกันโฟลเห็นไอซ่ากำลังร่วงตกไป เขารีบเข้าไปจับเธอไว้และรับซากอิฐใหญ่ที่มาชนด้านหลัง

     

    "ทางตันรึเนี่ย!!!!!"นามิตะโกนเมื่อเห็นทางข้างหน้าโดนปิดด้วยซากปรัก

     

    "ลูกโป่งยางยืด!!!"ลูฟี่พองตัวเองเป็นบอลลูน นามิ กันโฟล ไอว่าและปีแอร์ต่างกระแทกแล้วล้มลงพื้นอย่างปลอดภัย

     

    "ให้ตายสิ ถ้ำประหลาดนี่มันโหดร้ายสุดๆเลย"ลูฟี่กล่าว

     

    "ก็บอกว่าไม่ใช่ถ้ำไงเล่า"นามิกล่าว"ที่นี่มันข้างในท้องงูต่างหาก"

     

    "นามิ ไม่เป็นไรใช่รึเปล่า?"ลูฟี่มองไปรอบๆและเห็นโครงกระดูกใส่เสื้อยืดสีเหลืองคุ้นตา"นามิ เฮ้ นามิ ทำใจดีๆไว้ นามิ!!!!"

     

    "โป๊ก!!!"นามิเข้ามาทุบหัวกัปตันด้านหลัง

     

    "ฉันอยู่ทางนี้ยะ"

     

    ไอซ่าลืมตาตื่นและพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนอัศวินนภา

     

    "ปล่อยนะ คิดจะรัดฉันให้ตายรึไง!?"ไอซ่าทุบใส่อกเขา

     

    "ปลอดภัยดีสินะ"กันโฟลยิ้มให้เธอ

     

    ไอซ่ารีบลุกจากตัวเขาและหันไปหยิบทวนชี้ไปที่เขา

     

    "ทำอะไรน่ะไอซ่า!!!"นามิร้อง

     

    "เจ้านี่มันเป็นศัตรู ศัตรูที่แย่งชิงบ้านเกิดไปจากพวกเราแชนเดียร์ ฉันจะต้องเด็ดหัวมันให้ได้"ไอซ่ากล่าว

     

    "เธอเนี่ยน้า เด็ดหัวอัศวินประหลาดที่นี่แล้วจะได้อะไรขึ้นมา?"นามิถาม


    "ก่อนที่เอเนลจะมา เจ้านี่เคยเป็นผู้นำของชาวท้องฟ้า ผู้นำของชาวท้องฟ้าที่ขับไล่พวกเราแชนเดียร์ออกไปจากบ้านเกิด"


    "นั่นมันเรื่องเมื่อ400ปีก่อนแล้วนะ"นามิเตือนเธอ"คนคนนี้ไม่ได้ลงมือเองซะหน่อย"

     

    "ถ้าคอของข้าช่วยให้เจ้าสงบใจลงได้ อยากจะบีบแค่ไหนก็เชิญเถอะ"กันโฟลตอบทำให้ไอซ่า นามิและลูฟี่ประหลาดใจ"แต่ว่า ลำพังคอของข้าไม่ได้ทำให้ทุกอย่างมันจบสิ้นลงไปได้หรอก เปลี่ยนแปลงความขัดแย้งระหว่างแชนเดียร์กับชาวท้องฟ้าไม่ได้เลยสักนิด เรื่องบรรพบุรุษของข้าแย่งชิงบ้านเกิดมาจากแชนเดียร์ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันแหละว่าควรจะขอโทษยังไงดี ได้แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ข้าน่ะมันไร้พลัง ถ้าทำได้ก็อยากจะยกหัวให้กับแต่ละคน พวกแชนเดียร์แต่ละคน ที่แสวงหาบ้านเกิดจนต้องตายไปตลอด400ปีมานี่ ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ"

     

    "อัศวินประหลาดน่ะ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนบนท้องฟ้าอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ทั้งที่เป็นแบบนี้แต่ที่นี่กลับ..."

     

    "ใครจะยอมอยู่อย่างสงบด้วยเล่า"ไอซ่าร้อง"กับพวกคนเลวน่ะ"


    "ไม่ใช่พวกคนเลวซะหน่อย ที่เลวก็คือ จิตใจที่ปฎิเสธจะอยู่ร่วมกับคนต่างเผ่ามากกว่าจริงมั้ยล่ะ?"นามิกล่าว


    ไอซ่ากัดฟันมองชายชราที่นั่งเฉบๆไม่ได้ป้องกันตัวเอง

     

    "ย๊าก!!!!"เธอกรีดร้องยกทวนจะแทง

     

    "ไอซ่า"นามิร้อง

     

    "หมับ!!!!"ลูฟี่เข้ามาหยุดทวนไว้ก่อนจะแทงโดนกันโฟล

     

    "ทำไมต้องห้ามด้วย เจ้าบ้า!!!"ไอซ่าตะโกน

     

    "ขอโทษกันแล้วนี่นา จะเอาชีวิตเขาได้ยังไง"ลูฟี่กล่าว

     

    ไอซ่าปล่อยมือจากทวนทรุดลงพื้นและร้องไห้

     

    ____________________

     

    ด้านโรบินอยู่หน้าต้นถั่วยักษ์

     

    "เมืองแห่งขุมทองแชนโดรา ระฆังทองที่น่าจะอยู่ใจกลางเมืองนั่น ตอนนี้กลับไม่มี ที่หอระฆังนั่นอาจมีโพเนกลีฟสลักเอาไว้ก็ได้"โรบินหันหลังเริ่มเดินไปในเมืองอีกครั้ง"ถ้าเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ เมืองนี้คงจะปกป้องโพเนกลีฟเอาไว้จนล่มสลาย ตอนนี้มันอาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง หอระฆังที่สลักโพเนกลีฟไว้ ถ้าอย่างนั้นมันอยู่ที่ไหนล่ะ?"

     

    โรบินมองไปที่พื้นแล้วเห็นรางแปลกๆ

     

    "นี่มันรางรถไฟมีร่องรอยขนอะไรบางอย่างออกไป ยังใหม่อยู่เลยนี่ มันยังไงกันแน่?"

     

    "ฮ่าๆๆๆ"เสียงหัวเราะดังจากข้างหลังเธอ"ยอดเยี่ยมใช่มั้ยล่ะ ถึงจะลอยขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้า แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่เอาไว้ เมืองแชนโดรา ฮ่าๆๆ เมืองแห่งตำนานถูกเมฆห่อหุ้มเอาไว้และยังคงความอลังการเอาไว้ไม่เสื่อม ในที่สุดฉันก็ค้นพบมันจนได้ เจ้าพวกโง่รุ่นก่อนๆ มันไม่ได้รู้สึกถึงเมืองนี้เลยสักนิด"

     

    "นายเป็นใคร?"โรบินถาม

     

    "เทพไง"เอเนลตอบ

     

    "....."โรบินมองเงียบๆขณะที่เอเนลกินแอปเปิ้ล

     

    "ยอดเยี่ยมจริงๆ เป็นนักโบราณคดีของทะเลสีฟ้างั้นรึขนาดพวกเรากว่าจะค้นพบซากเมืองนี่ก็ยังกินเวลาตั้งหลายเดือนเลยทีเดียว แต่เธออ่านตัวหนังสือของที่นี่ก็เลยหาเจอได้ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ แต่ว่า ขุมทองที่ต้องการน่ะไม่เหลือแล้ว เธอมาช้าไป2-3ปีนะ"


    "ขุมทองจะว่าไปก็หาไม่เจอจริงๆด้วยสิ คนที่ขนมันออกไปคือนายเองรึ?"โรบินถาม


    "ถูกต้องแล้ว ทองคำสุกวาวนั่นมันเหมาะสมกับฉันคนนี้ที่สุด"


    "งั้นก็รวมถึงระฆังทองคำที่อยู่ที่นี่ด้วยน่ะสิ"โรบินกล่าว

     

    "ระฆังทองคำเหรอ?"เอเนลงุงงง


    "ไม่รู้งั้นรึ?"โรบินคิดในใจ

     

    "งั่มๆๆๆ"เอเนลกินแอปเปิ้ลหมดแม้แต่แกนของมัน

     

    "น่าสนใจมาก เธอน่ะ อ่านตัวหนังสือออกเลยรู้อะไรงั้นสินะ?"เอเนลถาม

     

    "ไม่หรอก น่าเสียดายจริงๆ"โรบินยอมรับ"ถ้ามันไม่อยู่ตอนที่นายมาถึงที่นี่ล่ะก็ มันก็คงไม่ได้ลอยขึ้นมาบนฟ้าด้วย ระฆังทองคำยักษ์อันภาคภูมิของแชนโดรา กับหอระฆังใหญ่ที่เก็บสิ่งนั่นเอาไว้ ฉันมีธุระกับหอระฆังนั่น"

     

    "เดี๋ยวสิ มีสิ"เอเนลนึกขึ้นได้"มีอยู่สิ ของแบบนั้นน่ะ มันลอยขึ้นมาบนฟ้าด้วย 400ปีก่อน ตอนที่เกาะนี้ถูกพัดขึ้นมาบนท้องฟ้า สรุปก็คือ วันที่อัปเปอร์ยาร์ด เกาะแห่งเทพถือกำเนิดขึ้นมา เห็นว่าได้ยินเสียงระฆังขนาดใหญ่ดังกังวานไปทั่วอาณาจักรด้วย

     

    เมื่อ400ปีก่อน ชาวท้องฟ้าจ้องมองเกาะจายาครึ่งนึงถูกดึงขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้าพร้อมเสียงระฆัง

     

    "คนแก่ที่อาณาจักรนี้ต่างก็เรียกขานกันว่าเสียงเพลงแห่งเกาะ อย่างนี้นี่เอง ระฆังนั่นทำด้วยทองคำอย่างนั้นสินะ วิเศษจริงๆ อีกไม่นานก็จะจบเกมแล้ว แค่8นาทีเท่านั้น ไหนๆแล้ว ลองค้นดูให้ทั่วอาณาจักรก่อนละกัน ระฆังทองคำน่ะ ฮ่าๆๆๆ"

     

    "ระฆังทองอยู่บนท้องฟ้างั้นรึ งั้นโพเนกลีฟก็..."โรบินครุ่นคิด

     

    "ฮ่าๆๆๆ--"เสียงหัวเราะเอเนลหยุดลงเมื่อเขาได้ยินเสียงในป่า"ที่ปลายเกาะ...มีหนอนแมลงอยู่ตัวนึงด้วย"

     

    _____________________

     

    คนแปลกหน้าวิ่งผ่านป่า วิ่งไปยังเรือโกอิ้งแมรี่ตามเสียงแตร

     

    _____________________

     

    โคนิสกำลังวาดผ้าไว้บนหน้าผากของซันจิ

     

    "แข็งใจเอาไว้หน่อยนะคะคุณอุซป คุณซันจิ"โคนิสกล่าว

     

    "ยังไม่ลืมตาขึ้นมาอีกรึเนี่ย?"ปากายาเข้ามาถาม

     

    โคนิสพยักหน้า

     

    "แต่ว่า..อาการจะต้องดีขึ้นแน่ๆค่ะท่านพ่อ"

     

    "ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว ผู้คนที่มีจิตใจอ่อนโยนขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะอาการแย่ลงได้หรอก คุณโคนิส คำภาวนาของพ่อคือ อากจะให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างชื่นมื่นบนท้องฟ้าอันแสนสงบสุข นั่นรวมถึงลูกด้วยนะ"

     

    "ท่านพ่อ"

     

    "ซู!!!!"เสียงซูดังขึ้นมา พวกเขาเดินออกมาจากห้องเก็บของซูก็ยังร้องต่อไป

     

    "มีอะไรรึซู?"ปากายาถาม"หิวข้าวเหรอ?"

     

    "ซู มีอะไรเหรอเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"โคนิสถามบ้าง


    "ซูๆๆ"ซูร้องตอบ มันได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าตรงนี้

     

    พวกเขามองเห็นคนที่คลานออกมาจากป่า

     

    สักครู่ต่อมา ปากายากับโคนิสลงจากเรือไปหาชายคนนั้นขณะที่ซูยังอยู่ที่เรือ ชายแปลกหน้าสวมเสื้อคลุมสีขาว แต่เต็มไปด้วยบาดแผล

     

    "หรือว่าคุณจะเป็น...."ปากายารู้ตัว

     

    "เมื่อ6ปีก่อนฉันเคยต่อสู้ร่วมกับท่านกันโฟล"


    "งั้นก็เป็นทหารเทพจริงๆด้วย"ปากายากล่าว

     

    "พวกเราถูกขังในห้องที่ปิดตาย...แฮ่กๆๆ"ชายคนนั้นพยายามพูดอย่างยากลำบาก

     

    "เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"ปากายาถามหันไปมองลูกสาวเขา"คุณโคนิส ปฐมพยาบาลเร็ว"

     

    "ค่ะ ท่านพ่อ"โคนิสจะกลับไปเอากล่องปฐมพยาบาล

     

    "เดี๋ยว"อดีตทหารเทพเรียกไว้"ที่เกาะแองเจิ้ล ภรรยากับลูกฉันยังอยู่"

     

    "ทุกคนต้องเป็นห่วงคุณแน่ๆ"ปากายากล่าว

     

    "ช่วยไปบอกพวกเขาที เอเนลมัน...คิดจะทำลายทุกสิ่ง...สกายเปียจะตกสู่ทะเลสีฟ้า"อดีตทหารเทพกล่าว"อาณาจักรนี้กำลังจะหายไป"

     

    "เรื่องนั้น ไม่จริงน่า"ปากายาตกตะลึง

     

    "ไม่มีเวลาแล้ว รีบไปบอกให้ทีเถอะ เอเนลมัน..."อดีตทหารเทพจับคอเสื้อปากายา"คิดจะกวาดล้างผู้คนที่อยู่บนท้องฟ้าทั้งหมด"

     

    "กวาดล้างผู้คนบนท้องฟ้าเรอะ?"ปากายาทวน"เดี๋ยวก่อนสิครับ ขืนทำแบบนั้นละก็ ก็อดเอเนลเองก็ไม่มีที่อยู่ด้วยน่ะสิ"

     

    "มันมีเรือ เรืออาร์คแม็กซิม!!!"

     

    "เรืออาร์คแม็กซิม?"ปากายากล่าว

     

    _____________________

     

    เอเนลยืนขึ้น ตัวเขาเต็มไปด้วยสายฟ้า

     

    "ทำอะไร?"โรบินถาม

     

    _____________________

     

    โคนิสเงยหน้าขึ้นและเห็นแสงจากท้องฟ้า

     

    "พวกเราน่ะถูกบังคับให้สร้างเรือลอยฟ้านั่นมาตลอด6ปี"อดีตทหารเทพตะโกน

     

    ปากายาดันแขนเขาไปข้างหลังผลักโคนิสไป

     

    "คำภาวนาของพ่อคือ อากจะให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างชื่นมื่นบนท้องฟ้าอันแสนสงบสุข นั่นรวมถึงลูกด้วยนะ"

     

    โคนิสตกลงไปที่เรือโกอิ้งแมรี่และมองสายฟ้าพุ่งลงมา

     

    "ตูมมมม!!!!"สายฟ้าของเอเนลกลืนอดีตทหารเทพและปากายาหายไป

     

    "ท่านพ่อ!!!!!!"

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×