คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : นักดาบทมิฬ คิรัวร์ VS สกายบรีดเดอร์ โอม(RE2)
เหล่ากองทัพเทพทั้ง5ต่างมองคนทะเลสีฟ้าและแชนเดียร์ทั้ง4ล้มลงพื้น
"สมกับเป็นท่านโอม"ทหารเทพคนนึงกล่าว
"ตอนนี้คนที่รอดอยู่ที่ชั้นบน
มีทหารเทพ4คน เท่ากับมีแชนเดียร์5คนและคนทะเลสีฟ้า2คน งูยักษ์ ฟูซ่าและโฮลี่
รวมแล้ว12คนกับอีก3ตัว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนรอดแค่7คนตามที่ก็อดพยากรณ์ไว้
เอาล่ะ มาสู้กันต่อเลยดีกว่า"โอมนับจำนวน
"โซโล"คิรัวร์พูดขณะลุกขึ้นมา"งูนั้นไม่ได้เคี้ยวตอนกลืน
หมายความว่ายังอยู่ครบดี ดูเหมือนฉันจะมีงานให้นายทำแล้ว
ระหว่างที่ฉันจัดการไอ้โล้นนั้น นายหาทางผ่างูนั้นและช่วย นามิ
อัศวินนภาและเด็กผู้หญิงออกมา"
"โอม
แกนะแก"พวกแชนเดียร์มองโอม
"บังอาจทำกับไวเปอร์และเพื่อนของเราโครว"แชนเดียร์คนแรกเล็งธนู
"ผู้ชายที่มีค่าแค่ไรฝุ่นเมื่ออยู่ต่อหน้าก็อด
มันสำคัญขนาดนั้นเชียวรึ?"โอมถาม
"ไวเปอร์คือหัวใจของพวกเราทุกคน"คนที่ถือธนูตะโกน
"พวกเราต่างก็รับรู้ถึงเกียรติภูมิของแชนเดียร์ร่วมกันมา"คนที่ถือขวานยาวกล่าว
"เพื่อทวงเอาบ้านเกิดที่ถูกแย่งชิงไปกลับคืนมา"แชนเดียร์คนที่สามเป็นคนร่างเตี้ยและหัวล้าน
ถือทวนที่เป็นเหมือนเขากวาง
"สุนัขรับใช้ของเอเนล
ไม่มีวันเข้าใจสายสัมพันธ์ของแชนเดียร์ได้หรอก"มือธนูกล่าว
"อย่าว่าแต่เข้าใจเลย
กระทั่งสงสารหรือรู้สึกร่วมด้วยก็ไม่มีสักนิด
สรุปแล้วเปล่าประโยชน์ทุกอย่าง"โอมกล่าว
"ตายซะเถอะโอม"มือธนูเล็งใส่โอม
"ซูม!!!"ทหารเทพของเอเนลคนนึงโดดไปหามือธนูแชนเดียร์
แชนเดียร์ยิงธนูออกไปแต่โดนฟันทิ้งด้วยฝีมือคิรัวร์
"ซูม!!!!"มือธนูแชนเดียร์รีบกระโดดหลบทหารเทพมองคิรัวร์"บ้าเอ๊ย
ไอ้คนทะเลสีฟ้า"
"ยังไงมันก็พลาดอยู่ดี"โอมบอกคิรัวร์
"อาจใช่
แต่ฉันเป็นคนที่จะโค่นแก"คิรัวร์กล่าวอย่างมั่นใจ
"ฉันไม่กลัวคนทะเลสีฟ้าหรอก"โอมแสยะยิ้มอย่างดูถูก"ไคลแม็กซ์แล้ว
โฮลี่ ใช้ไอ้นั่นจัดการเลย"
"โฮ่งๆๆ"โฮลี่เดินซ้ายขวาไปมาและพุ่งไปข้างหน้า โฮลี่โดดไปบนตึกและโดดมาหามือธนูแชนเดียร์ด้านหลัง
"ตึง!!!"แชนเดียร์พุ่งลงไปกระแทกพื้นและนั่งลงพิงซากปรัก
"กริ๊ก"อิฐจมลงไปเพราะน้ำหนักตัวและทำให้หลวดหนามเหล็กพุ่งมากมายพุ่งมาเฉือนร่างเขา
"โฮ่ง"โฮลี่ลงมายืนที่พื้นหลังจัดการแชนเดียร์ได้
"วิ่งเลยโฮลี่"โอมสั่ง
"แฮ่ะๆๆๆ"โฮลี่วิ่งไปรอบๆซากปรักและทำให้กับดักหลวดหนามรอบๆทำงาน
"ผลุบๆๆๆแกร๊กๆๆๆ"หลวดหนามต่างโผล่ขึ้นมาก่อตัวเป็นเหมือนกรงขังพุ่งไปเหนือหัวทุกคนในซากปรัก
"มันคิดจะทำอะไร?"แชนเดียร์ถือขวานกล่าว
"โธ้เว้ย
เจ้าหมานั่นมันวิ่งไปรอบๆเพื่อแบบนี้เอง แย่ล่ะสิ"แชนเดียร์ตัวเตี้ยกล่าว
ตอนนี้หลวดหนามพุ่งไปสูงจนก่อตัวเป็นโดมแล้ว
"นี่แหละคือแก่นแท้ของบททดสอบเหล็ก"ทหารเทพของเอเนลพูดขึ้น"เดธแม็ตซ์กุหลาบขาว"
"มันอยากขังพวกเราไว้"โครวกล่าว
"ไม่ต้องลงทุนปิดล้อมกันก็ได้
ยังไงก็ไม่คิดหนีอยู่แล้ว"โซโลกล่าว
"แกอาจจะไม่"โอมบอกโซโล"แต่เพื่อนแกหนีการจับกุมของฉันเมื่อวานนี้
ครั้งนี้ไอ้โง่4คนที่ขวางทางฉันหายไปแล้ว มันไม่มีทางหนีรอดอีก"
โอมมองไปที่คิรัวร์
"ฉันจะทำให้แกรู้ว่าทำไมฉันถึงเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของก็อดเอเนล
เมื่อฉันจัดการแกแล้ว"
"เม
เจ้าหน้าโง่เอ๊ย"ทหารเทพเอเนลคนนึงกล่าว"ไม่ได้มีไว้หนีอย่างเดียวซะหน่อย"
"แต่มีเอาไว้เพื่อสกัดกั้นต่างหากเล่า"
"แล้วมันยังไงล่ะ?"โซโลถาม
"สรุปคือ..."ไวเปอร์โดดขึ้นไปและยกเท้าเตะใส่ทหารเทพคนนึง
"เปรี้ยง!!!!"ทหารเทพพุ่งไปชนหลวดหนามและร้องอย่างเจ็บปวดก่อนล้มลงพื้น
"ถ้าไปแตะโดนหนามนั่นก็ไม่จบง่ายๆอย่างงั้นสินะ"ไวเปอร์พูด
"ขอบคุณสำหรับคำเตือน"โครวยืนอยู่หลังเขา
"จะเก็บพวกแกให้หมดเลย
อยากลุยเข้ามายังไงก็เชิญ"โซโลกล่าว
"เรื่องนั้นทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยโม้เถอะ"โอมกล่าว
"ดูเหมือนแกจะไม่เข้าใจ
ฉันไม่ได้โดนขังไว้ที่นี่ แกโดนขังไม่ให้หนีได้ต่างหาก"คิรัวร์กล่าว
"เหลือ10คนกับอีก3ตัว"โอมกล่าว
______________________
รากิวิ่งมาตามมิลกี้โร้ดเพื่อเอาคำเตือนของคามาคิริไปบอกไวเปอร์
"ไวเปอร์
สมัยเด็กๆ นายเคยพร่ำบอกฉันถึงขนาดนั้น"
ย้อนอดีต
ไวเปอร์กับรากิสมัยยังเด็กนั่งอยู่บนใบไม้ขนาดใหญ่มองไปยังหมู่บ้านแชนเดียร์
"บรรพบุรุษของพวกเราแชนเดียร์เดิมทีอาศัยอยู่ในทะเลสีฟ้าที่เมืองศักดิ์สิทธิ์แชนโดรา
ยอดนักรบกาลูการ่าเป็นผู้ปกป้องเมืองของพวกเราเอาไว้ แต่ว่า400ปีก่อน
แชนโดราถูกพัดลอยขึ้นมาอยู่บนเกาะท้องฟ้าด้วยน็อคอัพสตรีม
กลับไปทะเลสีฟ้าไม่ได้แล้ว เรื่องนั้นเป็นเรื่องน่าลำบากใจอยู่แล้วแท้ๆ"
ไวเปอร์มีสีหน้าโกรธขึ้นมา
"แต่ทั้งอย่างนั้น
เจ้าพวกที่อยู่เกาะท้องฟ้ากลับละเมอหาว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์
แล้วก็เข้ามาแย่งชิงดินแดนแห่งนั้น บรรพบุรุษของพวกเราถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิด
ไม่อาจกลับไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป กระทั่งจะเข้าไปสัมผัสแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทำไม่ได้"
ไวเปอร์กัดฟันกรอด
"ในช่วย400ปีนั่น
พวกเราแชนเดียร์ถูกลบหลู่ให้อับอายมาโดยตลอด อัปเปอร์ยาร์ดแห่งนั้นคือของพวกเรา
จะทวงกลับคืนมาให้ดู บ้านเกิดของพวกเรา ศักดิ์ศรีของบรรพบุรุษ"
จบการย้อนอดีต
รากิยังมุ่งไปตามทางมิลกี้โร้ด
ความโกรธของไวเปอร์เติบโตขึ้นและในที่สุดไวเปอร์กลายเป็นผู้นำนักรบแชนเดียร์
เขายิ่งมุ่งมั่นจะทวงบ้านเกิดคืน
รากินึกถึงคำพูดของคามาคิริ
"ถ้ากำจัดเอเนลได้ วาสแค่กระเป๋าเดียวนั่นก็จะไม่ใช่ความหลงใหลอีกต่อไป
กลับกันเถอะ ไปยังบ้านเกิดเมื่อ400ปีก่อนของแชนเดียร์กัน"
ก่อนจะไปสู้ไวเปอร์ก็บอกนักรบคนอื่นๆ
"คนที่เตรียมใจไม่พร้อมก็รออยู่ที่นี่แหละ
ไม่มีใครว่าหรอก"
"นี่ไวเปอร์
พวกเราน่ะเตรียมใจมาพร้อมแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ"แชนเดียร์กล่าว
"แต่ครั้งนี้เราต้องพร้อมที่จะทอดทิ้งคนที่ล้มระหว่างต่อสู้เอาไว้"ไวเปอร์พูดทำให้หลายคนตกใจ"เหยียบย่ำพวกพ้องก้าวข้ามไป
เพื่อให้คนอื่นๆไปข้างหน้าต่อได้ วันนี้แหละฉันจะเด็ดหัวเอเนล"
สกีของรากิเร่งเครื่องพุ่งไปข้างหน้า
เธอพุ่งขึ้นไปบนต้นถั่วยักษ์
รากิไม่ต้องสู้กับคนทะเลสีฟ้าเหมือนไวเปอร์กับโครว
เธอเลยขึ้นไปถึงซากปรักชั้นบนได้ในเวลาไม่ถึงนาที
จากนั้นเธอก็เห็นงูยักษ์อยู่ในซากปรักโดยมีไวเปอร์อยู่ข้างหน้า
"ฟุ่บ!!!!"คิรัวร์โดดหลบดาบแส้ของโอมที่พุ่งเข้ามา
รากิโดดลงจากกระดานทิ้งมันลงเมฆเกาะและวิ่งไปที่ยังโดมสีขาว
"ไวเปอร์!!!!"รากิตะโกนเรียก"ค่อยยังชั่วหาเจอซะที"
"รากิ?"ไวเปอร์ลดเบิร์นบาซูก้าลงหันไปมองเธอ
"ไวเปอร์
ฟังให้ดีๆนะ"รากิตะโกน
"นี่เธอ ทำไมมาอยู่ตรงนี้?"ไวเปอร์ถาม
"ฉันเอาคำพูดของคามาคิริมาบอกนาย"รากิตอบขณะเธอเดินเข้ามามาใกล้โดม
"ไม่ว่าใครก็ชนะไม่ได้แน่"คามาคิริกล่าว
"รีบหนีไป
ไวเปอร์!!! อย่าสู้นะ!!!!"รากิเตือน
รากิมาถึงโดมและเดินช้าลง
"เธอรู้ใช่ไหมว่าเราอยู่ในกรง?"อารินหันมาถามโซโลที่หันมาสนใจทางนี้
"ซูม!!!!"โครวตวัดกรงเล็บไฟใส่หมายักษ์
มันกระเด็นไป เขาหันไปมองไวเปอร์
"รากิ
เธอไม่ควรมาที่นี่"โครวกล่าว
"เอเนลมันอยู่ในป่า"รากิบอกไวเปอร์เมื่อมาถึงกรงขัง
"เฮ้ย รากิ"ไวเปอร์ตะโกน
"เอเนลคือสายฟ้าที่ผู้คนหวาดกลัวว่าเป็นพระเจ้าตั้งแต่สมัยโบราณ"รากิพูดต่อไป
ไวเปอร์ทิ้งบาซูก้าวิ่งมาจัดลวงหนามที่กรงแล้วตะโกน
"อย่าเข้ามา
รีบไปจากที่นี่ซะ!!!"ไวเปอร์ตะโกน มือเขาบาดเจ็บจากเมฆเหล็กแต่เขาไม่สนใจ
"ไม่มีทางสู้มันได้เลย"รากิต้องบอกคำเตือนให้หมด
"รากิเงียบซะ!!!"โครวตะโกน"ถ้าเธอยังพูดชื่อเขา
เขาจะมา.....หาเธอ"
โครวเสียงเบาลงขณะที่ไวเปอร์เบิกตากว้าง
"เปรี๊ยะ!!"รากิชะงักเมื่อได้ยินเสียงสายฟ้าด้านหลังเธอ
"ไวเปอร์"รากิพูดเบาๆขณะที่หันไปมองด้านหลังเธอ
เอเนลยืนอยู่ตรงนั้น
"เรียกฉันอย่างงั้นรึ?"เอเนลถามรากิ
"เอเนล"รากิมองสัตว์ประประหลาดที่เธอตั้งใจจะมาเตือนผู้นำเธอ
"ดูไว้ซะโซโล"คิรัวร์พูดขณะยังจ้องมองโอม"เราอาจต้องสู้กับเขา"
"หึ
โทษของคำพูดนั้นคือความตาย"โอมกล่าว
"อย่านะ เอเนล
หยุดเดี๋ยวนี้นะ
ยัยนั่นสละสิทธิ์การต่อสู้ไปแล้ว!!!"ไวเปอร์ตะโกนทั้งมือที่เปื้อนเลือด
"รากิ
หนีไป!!!!"โครวตะโกน
รากิกลัวจนขยับไม่ได้ขณะที่เอเนลเดินเข้ามาหา
เธอยกปืนจ่อที่หน้าอกเอเนล"
"รากิ
อย่าลงมือนะ!!!"ไวเปอร์ตะโกน
"ปังๆ"รากิยิงใส่หน้าอกเอเนลสองครั้ง
"เจ้าโง่เอ๊ย
มัวแต่ห่วงคนอื่น
คิดว่าจะรอดจากที่นี่ไปได้งั้นรึ"ทหารเทพคนนึงกล่าวแล้วโดดไปหาไวเปอร์
เอเนลโดนยิงทะลุหน้าอก2นัดแค่มองอย่างเบื่อหน่าย
รากิได้เห็นพลังน่าสะพรึงกลัวแล้วนึกถึงคำพูดของคามาคิริ
"เจ้านั่นมันไร้เทียมทาน
เจ้านั่นคือสายฟ้าที่สมัยก่อนผู้คนหวาดกลัวว่าเป็นเทพ มันคือเทพเจ้าตัวจริง"
ทหารเทพของเอเนลมาด้านหลังไวเปอร์และทาบแอ็กซ์ไดอัลที่หลัง
แต่ไวเปอร์ยังจ้องไปที่รากิกับเอเนล
"แกเสร็จแน่ไวเปอร์"ทหารเทพตะโกน
"เปรี้ยง!!!!"โครวพุ่งเข้ามายกเท้าเตะใส่ทหารเทพกระเด็นลอยขึ้นบน
แล้วตวัดกรงเล็บเพลิง
"ฉัวะ...พรึ่บ!!!"โครวฟันทหารเทพคนนั้นและหน้าอกมีเพลิงลุกไหม้ไปกระแทกลวดหนาม
โครวหันไปมองรากิกับเอเนล
"ยัยโง่เอ๊ย"ไวเปอร์สบถ
รากิตัวสั่นหันไปมองผู้นำและเพื่อนเธอ
"รีบหนีไป..."
"เปรี๊ยะ!!!"สายฟ้าช็อตใส่เธอ
"ม่าย!!!!!!"โครวตะโกน
ไวเปอร์ไม่เคยได้ยินโครวกรีดร้องมาก่อนเลย
เขานึกถึงความทรงจำกับเพื่อนสมัยเด็กจนเติบโตเป็นนักรบด้วยกัน
รากิล้มลงพื้นร่างของเธอไหม้เกรียม
ปืนไรเฟิลเธอตกอยู่ข้างๆ
"ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะมองไปที่ไวเปอร์
"เอเนล"ไวเปอร์จ้องเขม็งที่ก็อด
"แกกล้าดียังไง
รากิไม่เกี่ยวนะ!!!!"โครวตะโกน
"อ่อนหัดกว่าที่คิดซะอีกนะ
นักรบแห่งแชนเดียร์ไวเปอร์ ผู้หญิงคนนี้เองก็เป็นนักรบ
ฉันไม่เคยแบ่งแยกลูกแกะที่มาท้าทายกันหรอก อย่าเพิ่งรีบตายซะล่ะ"
เอเนลพูดจบแล้วกลายเป็นสายฟ้าหายไป
ภายในกรงขัง
ทหารเทพของเอเนลสองคนยังสู้กับแชนเดียร์สองคนอยู่
คิรัวร์ยืนอยู่ข้างโซโลโดยยังจ้องไปที่โอม
ขณะที่โซโลมองไปยังไวเปอร์กับโครวที่กรง
"นั่นน่ะรึ
พระเจ้า?"โซโลกล่าว
"เขาก็แค่ผู้กินผลไม้ปีศาจสายโรเกียเข้าไปเหมือนเอส
สโม๊คเกอร์และคล็อกโคไดล์"คิรัวร์เตือนเขา
"ยังมีรองเท้าบู๊ตพิเศษอยู่ไหม?"โซโลถาม
"แน่นอน"คิรัวร์ยกเท้าเคาะพื้น"ดูซิว่าก็อดจะทำยังไงเมื่อสู้กับเรา"
"แกกล้าหมิ่นประมาทก็อดเอเนล"โอมโกรธ
และยกดาบตวัดอีกครั้ง"ไอเซนวิป"
ใบมีดพุ่งเข้าไปหาคิรัวร์
"โซโล
จัดการงูซะ"คิรัวร์พูดพร้อมโดดหลบแส้ดาบ แต่ดาบโค้งตามเขามา
"ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหน
ในกรงนี้ไม่มีอะไรหลบมีดฉันได้"โอมกล่าว
"ฉันไม่ได้หนี
แค่กำลังเตรียมพร้อม"คิรัวร์โดดลงไปที่ตึกดาดฟ้าซากปรักนึงและตั้งท่าดาบ
"กระทิงขวิด!!!!!!"
"เปรี้ยง!!!!"
คิรัวร์แทงดาบใส่ดาบของโอม
แม้มันจะแข็งเหมือนเหล็ก แต่ก็ยังเบาเหมือนเมฆ การตีหนักจากส่วนบนของคิรัวร์ทำให้ดาบพุ่งจมลงดินไป
โอมโดนตรึงเพราะดาบจมลงดินไป
คิรัวร์โดดมาและตวัดดาบ
"ตูม!!!!"โอมโดดหลบคลื่นดาบและหดดาบกลับมา
ขึ้นมายืนบนซากปรักมองลงมาที่คิรัวร์
"แกทำได้ดีกว่าที่ฉันคิดไว้
คนทะเลสีฟ้า"โอมชมเล็กน้อย
"ฉันทำได้ดีกว่านั้น
ฉันชนะแกได้"คิรัวร์กล่าว
เมื่อโซโลได้รับคำสั่งจากรองกัปตันก็มองงูยักษ์ที่กินพวกนามิเข้าไป
ไวเปอร์หยิบบาซูก้าพาดบ่าหันไปบอกโครว
"โครว
นายจัดการไอ้หมานั่น
ฉันมีเรื่องต้องจัดการ"ไวเปอร์พูดแล้วพุ่งไปข้างหน้า"งูยักษ์!!"
ไวเปอร์กับโซโลอยู่คนละทาง
แต่ก็พุ่งมาเจอบนทางใหญ่วิ่งไปหางูยักษ์
"อย่ามาเกะกะได้มั้ย"ไวเปอร์เล็งปืนไปที่โซโล
"เคร้ง!!!"แต่โซโลฟันดาบหันปืนไปด้านข้างและยิงพลาด"ตูม!!!"
"โฮลี่
ใช้ขาหน้าเลย"โอมบอกหมาของเขา
โฮลี่โดดเด้งเข้ามาหาทั้งสามคนและยกขาเสยขึ้นเตะฟูซ่า
"เปรี้ยง!!!!!"ฟูซ่าโดนเตะกระเด็นลงไปนอนหมดสภาพ
ขณะที่โครวต้องทิ้งสัตว์พาหนะลงดาดฟ้าตึกนึง
"ฮึ้ย
มาขวางทางอีกแล้ว"โซโลตวัดดาบใส่โครว
"เคร้ง!!!"ไวเปอร์ยกสเก็ตสกัดดาบเอาไว้
"แก...กรงเล็บเพลิง!!!!"โครววิ่งมาฟันกรงเล็บใส่โซโล
โซโลกลิ้งตัวหลบได้ทัน
"แอ็กซ์.."ทหารเทพโดดเข้ามาด้านหลังไวเปอร์
แต่ไวเปอร์ยกเท้าสเก็ตหนีบหัวและส่งเขากระแทกพื้นตัวฝังลงดิน
โอมยังยืนอยู่บนซากปรักมองคิรัวร์
"เหลืออีก10คนกับ2ตัว"โอมกล่าว
"ฟ่อ!!!"งูยักษ์ร้องคำรามมองเหล่าทหารเทพ
โจรสลัดและแชนเดียร์
__________________
"อูย"นามิลุกขึ้นมองในท้องของงูยักษ์
นามิหันไปเห็นไอซ่านอนอยู่บนท้องของปีแอร์
มันช่วยชีวิตไอซ่าและรับแรงกระแทกแทนเธอ
"ค่อยยังชั่ว
ดูเหมือนว่าจะไม่บาดเจ็บอะไรสักเท่าไหร่นะ"นากิกล่าว
"แกร็กๆๆ"นามิได้ยินเสียงชุดเกราะหันไปดู
"ที่นี่มันที่ไหน?"กันโฟลมองดูถ้ำแปลกๆที่มีซากปรักเต็ม
"ข้างในท้องงูน่ะสิ"นามิตอบเขา"พวกเราถูกกลืนเข้ามาไงล่ะ"
"อ้อ
จริงด้วยสิ รู้สึกกระเพาะจะยาวมากด้วย"กันโฟลกล่าว
"นี่ไอซ่า
ไม่เป็นไรนะ?"นามิเดินเข้าไปดูไอซ่าบนท้องปีแอร์
"อึก..."ไอซ่าสะอื้น
เธอเปิดตามองทุกอย่างรอบตัว
"ปิเอ!!"ปีแอร์ตื่นและแปลกใจเหมือนสาวน้อย
"ที่นี่ที่ไหน?"ไอซ่าถาม
"ข้างในท้องงู
รู้สึกตัวซะบ้างสิ ซื้อบื้อจังเลยนะ"นามิบ่น
"ท้องงู!!!"ไอซ่าตกใจ
"เอาล่ะ
ตอนที่ยังไม่โดนมันย่อยรีบออกไปข้างนอกกันเถอะ"นามิบอกหันไปมองเวฟเวอร์เธอ"เวฟเวอร์คงยังไม่พังมั่ง"
"ว่าแต่ทำไมพวกเจ้าถึงไม่อยู่บนเรือ?"กันโฟลถาม
"ถูกไล่ล่าก็เลยทำได้แค่หนีมาน่ะสิ"นามิขณะคุกเข่าตรวจดูเวฟเวอร์
"อ้อ
ว่าแต่เด็กคนนั้นเป็นพวกแชนเดียร์นี่?"กันโฟลมองไอซ่า
"จอมเทพ"ไอซ่าตกใจเมื่อเห็นกันโฟล
หยิบไม้ออกมาวิ่งเข้าหาอดีตจอมเทพ"ต้องกำจัดทิ้ง"
นามิจับคอเสื้อหลังและดึงเธอล้มลงพื้น
"พอซะทีได้มั้ย"นามิกล่าว
ไอซ่าชี้อาวุธที่กันโฟล
แต่เขายิ้มให้เธอและหัวเราะ ทำให้ไอซ่ายอมเลิกโจมตีเขา
นามิยิ้มยักไหล่ให้อัศวินนภา
"ว่าแต่...พังกระเพาะนี่ออกไปได้มั้ยนะ?"กันโฟลเดินไปที่กำแพงเอาทวนจิ้มมันเบาๆ
"อย่าพูดบ้าๆได้มั้ย
ขืนน้ำย่อยทะลักออกมาแล้วจะทำยังไง!!!"นามิตะโกน"อยากตายนักรึไงยะ
หัดใช้สมองซะบ้างสิ"
"แหม
ข้าแค่ล้อเล่น"กันโฟลดึงทวนกลับมาลูบปลายทวน
"พูดอะไรออกมาน่ะ
อัศวินประหลาดนี่ต๊องจริงๆด้วย ถ้ามีใครบ้าพอจะทำแบบนั้นจริงๆล่ะก็
อยากเห็นด้วยตาคู่นี้ชะมัด"นามิกล่าว
พวกเขาดังได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา
กันโฟลยกทวนเขาขึ้น ไอซ่ากอดแขนนามิไว้
"เสียงฝีเท้า
ที่แบบนี้ทำไมถึง..."นามิกล่าว
"ใครน่ะ?"กันโฟลถาม
แต่คนที่เดินมาปีนขึ้นมาบนซากอิฐให้พวกเขาเห็นว่าเป็นลูฟี่
"นามิ
ตาลุงประหลาด"ลูฟี่มองทั้งสองคนทั้งที่ร้องไห้
"นี่เจ้า..."กันโฟลกล่าว
"ลูฟี่!?"
"พวกเธอทำอะไรกันอยู่น่ะ? ถึงมาอยู่ในถ้ำประหลาดนี่"ลูฟี่ถาม
"นายนั่นแหละมาทำอะไรอยู่ในนี้?"นามิถาม
"ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้ต่างหากล่ะ"ลูฟี่ตอบร้องคร่ำครวญ
"ไม่อยากจะเชื่อเลย
ขนาดลูฟี่ยังถูกงูกลืนเข้ามา คนอื่นคงปลอดภัยดีสินะ"นามิกล่าว
"หา? ฉันอยู่คนเดียว...งูเหรอ!?"ลูฟี่รู้ตัว
"ใช่สิ เพราะงั้นถึงได้มาอยู่ที่นี่ไงล่ะ"นามิกล่าว
"งั้นเหรอ
แบบนั้นแย่เลยนะ พวกเธอถูกงูกินอย่างนั้นรึเนี่ย"ลูฟี่กล่าว
"ก็...บอก...ว่า"นามิพุ่งเข้าไปดึงจมูกลูฟี่"นายเองก็เหมือนกันแหละ
ที่นี่ก็คือข้างในท้องของงูยักษ์ไงล่ะยะ!!!"
นามิปล่อยมือ
จมูกของลูฟี่หดกลับแต่ยาวคล้ายกับอุซป
"อย่าดึงจมูกฉันสิ
อย่าดึงสิ"ลูฟี่พูดก่อนจะเห็นจมูกตัวเอง"เลียนแบบอุซป"
นามิ
กันโฟลและไอซ่าเหงื่อตกขณะจมูกลูฟี่หดกลับเหมือนเดิม
"ใครกันน่ะ
ตาบ้านี่?"ไอซ่าถาม
"ไม่อยากจะบอกเลยนะ
กัปตันน่ะ กัปตันเรือของพวกเราเอง"นามิถอนหายใจ
"ปิเอ!!!"ปีแอร์ร้องออกมา
"อะไรกันเจ้าเป็นกัปตันรึนี่?"กันโฟลแปลกใจกับเรื่องนี้"โลกคงจบสิ้นแน่ๆ"
"จะคิดแบบนั้นมันก็ไม่แปลก"นามิยอมรับ
"ไม่รู้ตัวเลยรึเนี่ยว่าถูกกิน
ซื้อบื้อชะมัด"ไอซ่าบอกลูฟี่
"หา!!!!
งั้นที่นี่ก็คือข้างในกระเพาะของงูยักษ์ตัวนั้นน่ะสิ!? ฉันเองก็ถูกกินรึเนี่ย!!"ลูฟี่ร้อง
ในที่สุดก็รู้ตัว
"ก็พูดให้ฟังอยู่นี่ไงเล่า"นามิกล่าว"เสื้อผ้านายก็ถูกย่อยแล้วนี่"
"จริงด้วย"ลูฟี่มองเสื้อผ้าเขา
เสื้อผ้าเขาขาดและรองเท้าแตะหายไป"นี่ งั้นรีบค้นหารูทวารเจ้านี่กันเถอะ
"รูทวาน?"กันโฟลถาม
"คิดจะออกไปทางไหนกันยะ!!!"นามิตบหน้าเขา
"ถูกกินเข้าไปก็ต้องออกทางก้นสิ
ฉันพูดผิดตรงไหน?"ลูฟี่ถาม
"ไม่เอา เดี๋ยวก็ถูกย่อยไปก่อนสิยะ!!!"นามิทุบหัวลูฟี่
"นามิน่ากลัวอ่ะ"ไอซ่ากล่าว
"ผู้หญิงทะเลสีฟ้านี่ดุร้ายแฮะ"กันโฟลกล่าว
"ยังไงก็เถอะตอนนี้
งูตัวนี้กำลังอารมณ์เสียอยู่ ก็เลยพาลกินเราเข้ามาด้วย
รีบออกไปจากที่นี่ตอนที่มันยังไม่อาละวาดเถอะ"นามิกล่าว
"อารมณ์เสียงั้นเหรอ?"ลูฟี่ถาม
"ใช่สิ
ท่าทางจะหงุดหงิดน่าดูด้วย อาละวาดซะมั่วซั่วเลย"นามิกล่าว
"ทำไมถึงหงุดหงิดขนาดนั้นล่ะ?"ลูฟี่ถาม
"ก๊อง"นามิ
กันโฟลและไอซ่าต่างนึกขึ้นได้ ลูฟี่โดนงูกินก่อนพวกเขาจะมา
"หรือว่า"
"นี่นายอาละวาดอยู่ในนี้ตลอดเวลาเลยเหรอ?"นามิถาม
"กะจะทะลวงออกไปข้างนอกน่ะ"ลูฟี่ตอบ"ฮะๆๆๆ"
"เอ่อ...ฝีมือเจ้าเองรึนี่?"
"อาละวาดไปทั่วจนท้องหิวแล้ว"ลูฟี่พูดพลางลูบท้อง
นามิโกรธจนกำหมัดแน่น"พอจะมีของกินอะไรบ้างมั้ย?"
แต่ลูฟี่ก็เห็นนามิตัวสั่น
"เป็น...เป็นอะไรเหรอ?"ลูฟี่ถาม
"บ้าไม่มีใครเกิน!!!!"นามิชกใส่ลูฟี่
"ตึงๆๆๆๆ
______________________
งูยักษ์ก็เจ็บไปด้วยเมื่อนามิทุบลูฟี่ใส่กระเพาะของมัน
"ฟ่อๆๆ!!!!"มันร้องคำรามขดตัวไปมา
______________________
ภายในกระเพาะงูสั่นสะเทือน
ลูฟี่ นาม กันโฟล ไอซ่า และปีแอร์ต่างตกลงไปด้านล่าง
_______________________
"ฟ่อ!!!!!"งูยักษ์ร้องคำรามและร้องไห้
"ขู่คำรามเหมือนงูบ้าเลยนะ"ไวเปอร์คุกเข่ากับพื้นมองงูยักษ์"อย่างงี้ก็สวยสิ"
"ยัยนามิคงไม่โดนย่อยไปแล้วนะ"โซโลพูด
"อย่าเพิ่งโดนมันย่อยซะล่ะ
ไอซ่า"
งูกระแทกตัวลงไปยังจุดที่ทั้งสองอยู่
ทั้งคู่ต่างโดดหลบ ไวเปอร์ขึ้นไปอยู่เหนือหัวงู
"ฉันจะรีบผ่าท้องเจ้านั่นให้"ไวเปอร์เล็งปืนที่งู"ตูมมมม!!!!"
ด้านโซโลที่ยืนบนพื้นตวัดดาบ2เล่มในมือ
"เพลงดาบ72ประการ!!!!"
"ตูมมมมม!!!!บรึ้มมมม!!!!!"คลื่นดาบอากาศพุ่งไปโดนหน้ามัน
ตามด้วยเพลิงฟ้าของไวเปอร์โดนหัวมัน
งูยักษ์มีรอยไหม้บนหัวและรอยขีดข่วนบนตัว
"ตูม!!!!"ไวเปอร์ลงมาบนซากปรักยิงเบิร์นบาซูก้าด้านข้างงูยักษ์
แต่มันพลาดหัวและโดนปลายลิ้นงูแทน
"ปราบพยัคฆ์!!!!"โซโลพุ่งเข้าไปฟันที่จุดเดิม
แต่ไม่อาจเจาะผิวหนังมันได้ ทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วน
งูยักษ์ปิดปากแล้วพุ่งมากระแทกโซโล
เขาโดดหลบไป ก่อนมันจะเข้าไปหาไวเปอร์
______________________
"กรงเล็บเพลิง"โครวตวัดกรงเล็บแต่โฮลี่หักหลบเปลวเพลิงได้น่าอัศจรรย์
โครวพุ่งมาด้านข้างและฟันใส่
โฮลี่โดดหลบและกระแทกเท้าเข้ากลางอก
"เปรี้ยง!!!!"โครวโดนอัดกระเด็นกระแทกกำแพง
โฮลี่โดดตีลังกาและพุ่งลงมาทับ
"เฮ้ย!!!!"โครวรีบหนีแทบไม่ทัน
______________________
"ไอเซนวิป!!!!"โอมตวัดดาบแส้พุ่งไปหาคิรัวร์
แต่เขาโดดหลบไปได้ ทำให้ดาบฟันโดนกำแพงด้านหลัง
โอมพลางเอานิ้วยกแว่นกันแดดขึ้น
"เอาล่ะ
มาถึงฉากสุดท้ายแล้ว"โอมกล่าว
________________________
"ฟ่อๆๆๆๆ"งูยักษ์พุ่งอาละวาดไปทั่วซากปรักไล่ตามไวเปอร์
"ตูมๆๆๆ"ไวเปอร์พุ่งตัวไปในอากาศและยิงเบิร์นบาซูก้าไม่หยุด
"ฉัวะๆๆ"ใกล้ๆโซโลก็คอยฟันดาบใส่มัน
และต้องรีบหลบไม่ให้โดนเบิร์นบาซูก้าของไวเปอร์
โซโลวิ่งผ่านซากปรักพยายามหลบเศษหินที่ตกลงมา
"ต้องรีบหาทางจัดการเจ้างูบ้านั่น"โซโลคิดในใจ
"สำเร็จมั้ย?"ไวเปอร์ยืนบนซากปรักมองกลุ่มควันคอยดูผลจากการระดมยิง
"ฟ่อ!!!!!"งูยักษ์โผล่ออกมาจากกลุ่มควันพุ่งมาหาแชนเดียร์
ไวเปอร์กระโดดหลบไปก่อนที่มันจะพังตึก
"ไม่ได้ผลอีกรึเนี่ย!!"ไวเปอร์สบถขณะลอยอยู่เหนืองู"งั้นก็ต้องยิงต่อไปเรื่อยๆ"
"ตูมๆๆๆ"ไวเปอร์ยิงและถอยหลังเมื่องูยักษ์พุ่งมา
ทางด้านโซโลมองเห็นเกล็ดของมันหลุดจากรอยฟันที่ตัวเองทำไว้
"บางทีถ้าเราโจมตีจุดนั้นจะทำให้มันบาดเจ็บได้"เขาคิดในใจ
"วิชาสามดาบ พร108ประการ!!!!"
"เฟี้ยว!!!!.....ตูมมมมม!!!!"คลื่นดาบพุ่งเข้าไปกระแทกงูยักษ์
"ฟ่อ!!!!!"งูยักษ์แผดร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อเลือดไหลทะลักออกมา
"เยี่ยม"โซโลร้องดีใจ
"นักดาบทะเลสีฟ้านั่นทำอะไร?"ไวเปอร์ที่ยิงอยู่ด้านข้างเห็นโซโลสร้างแผลให้งูได้"เขาทำให้มันบาดเจ็บขณะที่ปืนฉันไม่ได้ผล
แต่ตอนนี้ฉันยิงไปที่แผลนั่นได้แล้ว"
แต่ทั้งโซโลและไวเปอร์ไม่ได้สังเกตหางของมันที่ตวัดฟาดเข้ามา
"ตูม!!!!"ทั้งสองต่างโดนอัดกระแทกพุ่งไปชนซากปรัก
_____________________
"วิชา4ดาบ
มหาดาบรัศมีกระจาย"
คิรัวร์ตวัดดาบให้เกิดคลื่นสีแดงพัดไปทั่ว
แต่โอมเอียงตัวหลบได้ง่ายดาย
"ไอเซนวิป"โอมตวัดแส้เข้ามา
คิรัวร์หลบแส้ไปด้านข้าง
"เสียใจนะพลาดอีกแล้วไอ้หัวโล้น"คิรัวร์กล่าว
"แกเรียกฉันว่าหัวโล้นเพราะอยากทำให้ฉันโกรธ"โอมรู้ทันคิรัวร์"ฉันโกนผมให้หัวล้านเพราะฉันเลือกเอง
มันจะไม่ทำให้ฉันโกรธและคนทะเลสีฟ้าอย่างแกจะไม่ผ่านบททดสอบฉัน"
"หัวล้านทำอะไรมันไม่ได้
งั้นต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องเขากับเทพคุมกฎอีก4คน
พวกเขาดูเหมือนพยายามแข่งขันกันเอง"
"รู้ไหมฉันนึกถึงการต่อสู้เมื่อวาน
พวกแก5คนรุมฉัน การต่อสู้จบลงโดยฉันหนีไปได้
เป้าหมายของพวกแกคือฆ่าและพิพากษาฉัน ดูเหมือนฉันจะชนะและแกแพ้"
"ฉันไม่ได้แพ้"โอมแย้ง
เขายังพยายามสงบใจตัวเอง"ฉันไม่เคยแพ้ ไอ้โง่4ตัวนั้นมันมาขวางทางฉัน"
"งั้นฉันก็แค่ต้องชนะแกอีกครั้ง"คิรัวร์ยังพูดเรื่องที่โอมแพ้"บอกฉันหน่อยสิ
เอเนลตอบสนองยังไงเมื่อ5นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดกลับไปโดยล้มเหลวที่จะจัดการคนทะเลสีฟ้า"
โอมจับดาบเขาแน่นขึ้น
"ไม่ต้องตอบ
ฉันจะบอกให้เอง"คิรัวร์พูดต่อไป"เอเนลมาหาฉันและเสนอให้เข้าร่วมกับเขา
เขาเสนอให้ฉันเป็นเทพคุมกฎหลังเห็นพวกแก5คนไร้ความสามารถที่ควรโดนปลด"
"ไม่มีใครปลดฉันได้"โอมโต้แย้งเสียงดัง"เจ้า4ตัวนั้นอาจเป็นไปได้
แต่ฉันคือนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของก็อดเอเนล เขาจะไม่แทนที่ฉัน"
"แน่ใจหรือ?"คิรัวร์ถามกลับ"เขามีปฎิกิริยายังไงเมื่อไอ้อ้วนโดนเพื่อนฉันโค่น
ตอนที่ฉันชนะชูร่า นายกับฉันต่างรู้ว่าไอ้หัวแมงมุมนั้นมันโง่
ฉันไม่รู้ว่าอารินจัดการไอ้ลมนั้นยังไง แต่ความจริงก็คือ พวกแก5คนเป็นของเล่นของเอเนลที่มีค่าอยู่บ้าง
แต่ไร้ค่าเมื่อของเล่นพัง รู้ไหมเกิดอะไรขึ้นกับของเล่นที่พัง ถูกโยนทิ้ง
นั่นคือสิ่งที่เขาจะทำกับพวกนาย"
"ไม่
เขาจะไม่ทำ!!!!"โอมตะโกน
"แกแพ้ไปแล้ว"
"ฉันไม่ได้แพ้!!!!!"เอเนลฟาดแส้ดาบใส่คิรัวร์
"เปรี๊ยะๆๆๆ!!!"คิรัวร์เร่งความเร็ว"โซล!!!"
"ฟ้าว!!!!"คิรัวร์เร็วกว่าเดิมมากและหลบแส้ดาบพุ่งมาหาโอม"จาเวรินทันเดอร์!!!!"
"เปรี้ยง!!!!!!!"โอมโดนเตะเข้าเต็มหน้าพร้อมสายฟ้าสีแดงที่ช็อตใส่
"ตึง!!!!"โอมกระเด็นไปชนซากปรักด้านหลังพังทลายลงมา
"อึก..."โอมดึงเอาอิฐที่ทับตนออกไปลุกขึ้นยืน"ฉะ...ฉันบาดเจ็บ"
"ฉันเสียสมาธิและมันโทราปั่นป่วน
นั่นเป็นวิธีที่เขาชนะชูร่า ฉันต้องใจเย็นและอย่าให้เขาปั่นหัวอีก"
"เฮ้
แว่นกันแดด"คิรัวร์ถือแว่นกันแดดเขาในมือ
โอมเบิกตากว้างเมื่อเห็นคิรัวร์ขโมยแว่นกันแดดเขาไป
"อ้อ
หลุดมือ...กร็อบ!!"คิรัวร์ทิ้งลงพื้นและเหยียบมันแตก
"นั่นของรักของฉัน
ไอเซนวิป!!!"
แส้ดาบพุ่งมาหาคิรัวร์
"เปรี๊ยะ!!!!"คิรัวร์พุ่งมาด้วยความเร็วสูงอีกครั้งและเขามาอยู่ด้านหลังโอม
"วิชา2ดาบ
พายุทอร์นาโด"
"ฟุ่บ"โอมรับโดดหลบดาบไป
แต่ยังเหลือพายุหมุนอยู่
"ซูมมมม!!!!พายุพุ่งเข้าอัดใส่โอมและแรง
โอมที่กระเด็นล้มไปลุกขึ้นมา
เพราะแว่นกันแดดหายไป ทำให้เห็นดวงตาที่โกรธเกรี้ยวของเขาได้ง่าย
แต่โอมสูดลมหายใจและสงบลง
"ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว"โอมกล่าว"แกยุยงคู่ต่อสู้และทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาเสียสมาธิและทำพลาด
เพราะความจริงการโจมตีของแกไม่ได้แข็งแกร่ง
ในเรื่องกำลังทั้งนักดาบและไวเปอร์ต่างเหนือกว่าแก ตอนนี้ฉันรู้แล้วแกต่อสู้ยังไง
ฉันจะไม่ได้แกหลอกได้อีก"
"เพลิงผลาญ"คิรัวร์ตวัดดาบชินโซริวส่งคลื่นเพลิงใส่
โอมโดดไปด้านข้างอย่างง่ายดายด้วยมันโทรา
"ไม่ได้ผลแล้ว"โอมพูดแล้วตวัดดาบ
แส้ดาบตวัดเข้ามา
คิรัวร์รีบโดดหลบไปและหนีไป
โอมหดดาบกลับขณะเฝ้ามองดูคิรัวร์วิ่งหนีไป
"ไม่มีใครหนีบททดสอบเหล็กของฉันได้
แกไม่มีวันซ่อนตัวได้ ฉันใช้มันโทรารู้ตำแหน่งแกได้ตลอด"
"ไอเซนวิป"
แส้ดาบพุ่งมาหาคิรัวร์พังกำแพงด้านข้างมา
แต่คิรัวร์โดดหลบไปได้และเลี้ยวไปมุมอื่น
"การปั่นหัวมันไม่ได้ผลแล้ว"คิรัวร์คิดในใจ"เขาอาจเมินเฉยคำพูดฉันทุกอย่าง
หมายความว่าต้องสู้ศึกระยะไกลซึ่งฉันเสียเปรียบมาก"
"ไวจริงๆ"โอมสบถในใจ
"วิ่งหนีได้ตามสบาย
แกไม่มีวันหลบการโจมตีของฉันพ้นหรอกน่า ก็เหมือนกับที่มนุษย์
ไม่สามารถรอดพ้นจากสิ่งที่เรียกว่าความตายไปได้น่ะแหละ
ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดีเถอะ"
คิรัวร์ยังวิ่งผ่านซากปรัก
"พูดไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ"โอมพูดแล้วเตรียมฟันอีกครั้ง"สัญชาตญาณตระหนักถึงความตายคงไม่มีอยู่ในตัวแกอย่างงั้นสินะ
รู้สึกถึงความโง่ของตัวเองซะที แกน่มัวแต่นึกถึงขุมทองและการแก้แค้น
ก็เลยมองกฎเกณฑ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ออก เป็นแค่ตัวตนเล็กๆ น่าเศร้านัก"
ขณะที่คิรัวร์วิ่งผ่านก็เจอทหารเทพพุ่งมาด้านหน้า
"ตายซะเถอะ
คนทะเลสีฟ้า"ทหารเทพตะโกน
"ฉันไม่มีธุระอะไรกับแก"คิรัวร์พูดแล้วตวัดดาบ
"ฉัวะ!!!!"ทหารเทพโดนฟันที่กลางอกเลือดพุ่งลงไปนอน
_______________________
"เสียงหายไปอีกเสียงนึงแล้ว"โอมกล่าวขึ้นมา"คนที่ยังรอดอยู่ในซากเมืองแห่งนี้
เหลือ8คนกับ2ตัว ไม่สิ..."
"ไอเซนวิป!!!"โอมตวัดดาบแส้ไปด้านหลัง
"รับมือโอม"แชนเดียร์ถือขวานโดดพุ่งเข้ามา
"7คนกับ2ตัว"โอมกล่าว
"ฉัวะ!!!!"แชนเดียร์โดนฟันล้มลงพื้น
ช่วงที่โอมเสียจังหวะไปจัดการแชนเดียร์ก็เป็นโอกาสให้คิรัวร์พุ่งเข้ามา
"ควันอำพราง!!!"คิรัวร์ฟันดาบลงพื้น
เกิดควันไปทั่วบริเวณ
"ม่านควันเหรอ
ไม่มีประโยชน์หรอกน่า"โอมกล่าว
ในจังหวะนั้นคิรัวร์โยนอัญมณีแปรธาตุของตนทิ้งลงพื้นไปรอบๆตัวโอม
"ตึง!!!!"โอมเจอแรงกดรอบตัวไม่ให้ขยับไปไหนได้
"รับไปซะ
กากบาทอัคคี"คิรัวร์พุ่งเข้ายกดาบฟัน
"ไอเซนแบ็ก"
ดาบของโอมกลายเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นมาคลุมด้านบนและครอบพื้นดิน
"ตูม!!!!"โล่นั้นแกร่งพอจะแรงฟันของคิรัวร์ได้
"อั๊ก อะไรเนี่ย
กำแพงเหล็ก"คิรัวร์กล่าวขณะถอยออกไปเจ็บหัวพอสมควร
โอมก็ถอยไปไม่ให้เข้าใกล้ระยะ"แอเรีย"ของคิรัวร์
"ดาบเล่มนี้คือเมฆเหล็ก"โอมยกดาบไว้บนบ่า"แกคิดว่าเมฆมีรูปร่างที่แน่นอนรึไง"
"หนอยแน่"คิรัวร์กัดฟันกรอด
"ไอเซนแฟน"โอมตวัดดาบแส้มาเหมือนงู
ทำให้คิรัวร์หัวหันไปด้านหลังหลบมัน
"ไอเซนฟอร์ด"
คิรัวร์โดดหลบดาบแส้ที่พุ่งมากับพื้น
"ไอเซนฟลูเร่"
คิรัวร์หลบไปด้านข้างเกือบไม่พ้น
ก่อนจะตวัดดาบ
"ไอเซนวิป!!!!"
"วิชา3ดาบ
มังกรเพลิง!!!!"
"ฟ้าว!!!!/ตูมมมม!!!"
มังกรเพลิงและดาบแส้พุ่งปะทะกัน
ก่อนที่ดาบของคิรัวร์จะแพ้
"ถูกปัดได้"คิรัวร์ตกตะลึงและรีบโดดหลบดาบแส้ไป
กำลังจะฟันอีกครั้ง
"ไอเซนวิป"แต่โอมฟันพุ่งเข้ามาเร็วกว่า
คิรัวร์โดดเสริมด้วยสายฟ้าหลบไป เขาโดดหนีลงไปด้านล่างตึกหนีไป
โอมมองดูคิรัวร์วิ่งหนีไปจากบนยอดดาดฟ้า
"แกมีเพลงดาบและอาวุธแปลกๆที่น่าสนใจดีเหมือนกันนี่
คนทะเลสีฟ้า แต่ว่า ยังไม่เลิกคิดทำอะไรซ้ำซากอีกรึ?"
คิรัวร์วิ่งไปเรื่อยๆ
ขณะที่โอมแค่เดินไปอย่างช้าๆ
"แกน่ะกำลังคลาดสายตาจากฉัน
แต่ฉันกลับรู้ตำแหน่งของแกได้เหมือนกับอยู่ในฝ่ามือของตัวเอง"โอมกล่าว
____________________
"ฟุ่บๆๆๆ"โครวกำลังหลบหมัดโฮลี่ที่พุ่งเข้าใส่
หมัดของเธอพังซากปรักด้านหลัง
โฮลี่ยกขาเตะแชนเดียร์ตัวเตี้ย
เขาหลบแทบไม่ทัน
"หนอย
นักรบแชนเดียร์ไม่แพ้หมาอย่างแกหรอก"แชนเดียร์คนนั้นกล่าวยกกระบองเขากวางขึ้นเหนือศีรษะ
"โฮ่ง!!!!"โฮลี่ชกหมัดโดนกลางอกแชนเดียร์ลอยกระเด็น
"อ๊าก!!!!"แชนเดียร์ล้มลงพื้นและโครวถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากับหมาเทพคุมกฎ
"หนอยแน่"โครวกัดฟันกรอด
___________________
"หายไปอีกคนนึงแล้ว
ที่นี่ก็เหลือ5คนกับอีก2ตัว"โอมพูดและมองไปกำแพงด้านข้าง"อีกเดี๋ยว 4คนกับอีก2ตัวแล้ว"
ตอนนี้โอมกับคิรัวร์ยืนเผชิญหน้าโดยมีกำแพงซากปรักขวางกั้น
"แกคงจะเป็นยอดนักดาบของทะเลสีฟ้า
พวกพ้องของแกเองก็ทำได้ไม่เลวเลย แต่ว่าหัวใจของแกถูกฉันเล็งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
วิงวอนต่อพระเจ้าสิ กัปตันโจรสลัดแห่งทะเลสีฟ้า"
"บ้าหรือเปล่า
เกิดมาฉันไม่เคยวิงวอนต่อพระเจ้าเลย"คิรัวร์ตั้งท่าดาบ โอมก็รับรู้ได้
"น่าเศร้านัก
คนเราน่ะมันต่างกันก็แค่จะตายช้าหรือเร็วเท่านั้นแหละ
งั้นก็ตามใจแกละกัน"โอมกล่าว
"ขอลองไม้ตายใหม่กับแกเลยก็แล้วกัน"คิรัวร์ตั้งท่าดาบ
เขาถือดาบอามาเทราสุกับดาบเท็นเซกะไว้
"นี่คือไม้ตายสุดยอดของฉัน
ไอเซนเรเปีย!!!!"
ดาบแส้พุ่งมาเป็นเส้นตรงหมายแทงทะลุ
"ตึง!!!!"ดาบแส้พุ่งทะลุกำแพงและฟันใส่คิรัวร์
"วิชา4ดาบ
แสงมังกรทอง88ดวงดาว"คิรัวร์ตวัดดาบไปพร้อมทั้งตวัดเท้าวายุสร้างคลื่นลม
"แว็บ!!!!"เกิดประกายแสงสร้างม่านสีทองไว้
พร้อมปรากฎร่างมังกรสีทองที่น่าเกรงขาม
"ก๊าซ!!!!"มันพุ่งตรงเข้าชนกับไอเซนเรเปียร์
"อั๊ก!!!"เมื่อโดนมังกรทองอัด โอมถึงกับโดนลากถอยไปหลายเมตร"พลังบ้าอะไรกัน"
"เปรี๊ยะๆๆๆ....เพล้ง!!!"เมฆเหล็กของโอมโดนพลังมังกรทองแตกสลายไป
"เมฆเหล็กถูกทำลาย"โอมตกใจ
ก่อนที่มังกรทองจะพุ่งและปากมันเข้ากัดใส่เขา
"ซูม!!!!!!!.....ฉัวะ!!!!/อ๊ากกกกก!!!!!"
โอมโดนฟันเลือดพุ่ง
ตัวโดนความร้อนไหม้เกรียมและล้มลงพื้น
"นี่สำหรับช็อปเปอร์"คิรัวร์พูดพลางเก็บดาบ
______________________
เหนือสนามรบขึ้นไป
เซียร์กำลังให้เจ้ากริฟฟินช่วยพาไปบนยอด
"ทองคำน่าจะอยู่ที่วังเทพเอเนล
ต้องลองไปดูหน่อย"
_______________________
"ว๊ากกกก!!!!"ลูฟี่
นามิ ไอซ่า กันโฟลและปีแอร์ต่างร่วงตกไป
ในตอนนั้นกันโฟลเห็นไอซ่ากำลังร่วงตกไป
เขารีบเข้าไปจับเธอไว้และรับซากอิฐใหญ่ที่มาชนด้านหลัง
"ทางตันรึเนี่ย!!!!!"นามิตะโกนเมื่อเห็นทางข้างหน้าโดนปิดด้วยซากปรัก
"ลูกโป่งยางยืด!!!"ลูฟี่พองตัวเองเป็นบอลลูน
นามิ กันโฟล ไอว่าและปีแอร์ต่างกระแทกแล้วล้มลงพื้นอย่างปลอดภัย
"ให้ตายสิ
ถ้ำประหลาดนี่มันโหดร้ายสุดๆเลย"ลูฟี่กล่าว
"ก็บอกว่าไม่ใช่ถ้ำไงเล่า"นามิกล่าว"ที่นี่มันข้างในท้องงูต่างหาก"
"นามิ
ไม่เป็นไรใช่รึเปล่า?"ลูฟี่มองไปรอบๆและเห็นโครงกระดูกใส่เสื้อยืดสีเหลืองคุ้นตา"นามิ
เฮ้ นามิ ทำใจดีๆไว้ นามิ!!!!"
"โป๊ก!!!"นามิเข้ามาทุบหัวกัปตันด้านหลัง
"ฉันอยู่ทางนี้ยะ"
ไอซ่าลืมตาตื่นและพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนอัศวินนภา
"ปล่อยนะ
คิดจะรัดฉันให้ตายรึไง!?"ไอซ่าทุบใส่อกเขา
"ปลอดภัยดีสินะ"กันโฟลยิ้มให้เธอ
ไอซ่ารีบลุกจากตัวเขาและหันไปหยิบทวนชี้ไปที่เขา
"ทำอะไรน่ะไอซ่า!!!"นามิร้อง
"เจ้านี่มันเป็นศัตรู
ศัตรูที่แย่งชิงบ้านเกิดไปจากพวกเราแชนเดียร์
ฉันจะต้องเด็ดหัวมันให้ได้"ไอซ่ากล่าว
"เธอเนี่ยน้า
เด็ดหัวอัศวินประหลาดที่นี่แล้วจะได้อะไรขึ้นมา?"นามิถาม
"ก่อนที่เอเนลจะมา เจ้านี่เคยเป็นผู้นำของชาวท้องฟ้า
ผู้นำของชาวท้องฟ้าที่ขับไล่พวกเราแชนเดียร์ออกไปจากบ้านเกิด"
"นั่นมันเรื่องเมื่อ400ปีก่อนแล้วนะ"นามิเตือนเธอ"คนคนนี้ไม่ได้ลงมือเองซะหน่อย"
"ถ้าคอของข้าช่วยให้เจ้าสงบใจลงได้
อยากจะบีบแค่ไหนก็เชิญเถอะ"กันโฟลตอบทำให้ไอซ่า
นามิและลูฟี่ประหลาดใจ"แต่ว่า
ลำพังคอของข้าไม่ได้ทำให้ทุกอย่างมันจบสิ้นลงไปได้หรอก
เปลี่ยนแปลงความขัดแย้งระหว่างแชนเดียร์กับชาวท้องฟ้าไม่ได้เลยสักนิด
เรื่องบรรพบุรุษของข้าแย่งชิงบ้านเกิดมาจากแชนเดียร์
ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันแหละว่าควรจะขอโทษยังไงดี
ได้แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้ ข้าน่ะมันไร้พลัง
ถ้าทำได้ก็อยากจะยกหัวให้กับแต่ละคน พวกแชนเดียร์แต่ละคน
ที่แสวงหาบ้านเกิดจนต้องตายไปตลอด400ปีมานี่ ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
"อัศวินประหลาดน่ะ
พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนบนท้องฟ้าอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ทั้งที่เป็นแบบนี้แต่ที่นี่กลับ..."
"ใครจะยอมอยู่อย่างสงบด้วยเล่า"ไอซ่าร้อง"กับพวกคนเลวน่ะ"
"ไม่ใช่พวกคนเลวซะหน่อย ที่เลวก็คือ
จิตใจที่ปฎิเสธจะอยู่ร่วมกับคนต่างเผ่ามากกว่าจริงมั้ยล่ะ?"นามิกล่าว
ไอซ่ากัดฟันมองชายชราที่นั่งเฉบๆไม่ได้ป้องกันตัวเอง
"ย๊าก!!!!"เธอกรีดร้องยกทวนจะแทง
"ไอซ่า"นามิร้อง
"หมับ!!!!"ลูฟี่เข้ามาหยุดทวนไว้ก่อนจะแทงโดนกันโฟล
"ทำไมต้องห้ามด้วย
เจ้าบ้า!!!"ไอซ่าตะโกน
"ขอโทษกันแล้วนี่นา
จะเอาชีวิตเขาได้ยังไง"ลูฟี่กล่าว
ไอซ่าปล่อยมือจากทวนทรุดลงพื้นและร้องไห้
____________________
ด้านโรบินอยู่หน้าต้นถั่วยักษ์
"เมืองแห่งขุมทองแชนโดรา
ระฆังทองที่น่าจะอยู่ใจกลางเมืองนั่น ตอนนี้กลับไม่มี
ที่หอระฆังนั่นอาจมีโพเนกลีฟสลักเอาไว้ก็ได้"โรบินหันหลังเริ่มเดินไปในเมืองอีกครั้ง"ถ้าเป็นไปตามที่เราคาดการณ์
เมืองนี้คงจะปกป้องโพเนกลีฟเอาไว้จนล่มสลาย ตอนนี้มันอาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
หอระฆังที่สลักโพเนกลีฟไว้ ถ้าอย่างนั้นมันอยู่ที่ไหนล่ะ?"
โรบินมองไปที่พื้นแล้วเห็นรางแปลกๆ
"นี่มันรางรถไฟ? มีร่องรอยขนอะไรบางอย่างออกไป
ยังใหม่อยู่เลยนี่ มันยังไงกันแน่?"
"ฮ่าๆๆๆ"เสียงหัวเราะดังจากข้างหลังเธอ"ยอดเยี่ยมใช่มั้ยล่ะ
ถึงจะลอยขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้า แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่เอาไว้ เมืองแชนโดรา ฮ่าๆๆ
เมืองแห่งตำนานถูกเมฆห่อหุ้มเอาไว้และยังคงความอลังการเอาไว้ไม่เสื่อม
ในที่สุดฉันก็ค้นพบมันจนได้ เจ้าพวกโง่รุ่นก่อนๆ
มันไม่ได้รู้สึกถึงเมืองนี้เลยสักนิด"
"นายเป็นใคร?"โรบินถาม
"เทพไง"เอเนลตอบ
"....."โรบินมองเงียบๆขณะที่เอเนลกินแอปเปิ้ล
"ยอดเยี่ยมจริงๆ
เป็นนักโบราณคดีของทะเลสีฟ้างั้นรึ? ขนาดพวกเรากว่าจะค้นพบซากเมืองนี่ก็ยังกินเวลาตั้งหลายเดือนเลยทีเดียว
แต่เธออ่านตัวหนังสือของที่นี่ก็เลยหาเจอได้ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ แต่ว่า
ขุมทองที่ต้องการน่ะไม่เหลือแล้ว เธอมาช้าไป2-3ปีนะ"
"ขุมทอง? จะว่าไปก็หาไม่เจอจริงๆด้วยสิ
คนที่ขนมันออกไปคือนายเองรึ?"โรบินถาม
"ถูกต้องแล้ว ทองคำสุกวาวนั่นมันเหมาะสมกับฉันคนนี้ที่สุด"
"งั้นก็รวมถึงระฆังทองคำที่อยู่ที่นี่ด้วยน่ะสิ"โรบินกล่าว
"ระฆังทองคำเหรอ?"เอเนลงุงงง
"ไม่รู้งั้นรึ?"โรบินคิดในใจ
"งั่มๆๆๆ"เอเนลกินแอปเปิ้ลหมดแม้แต่แกนของมัน
"น่าสนใจมาก
เธอน่ะ อ่านตัวหนังสือออกเลยรู้อะไรงั้นสินะ?"เอเนลถาม
"ไม่หรอก
น่าเสียดายจริงๆ"โรบินยอมรับ"ถ้ามันไม่อยู่ตอนที่นายมาถึงที่นี่ล่ะก็
มันก็คงไม่ได้ลอยขึ้นมาบนฟ้าด้วย ระฆังทองคำยักษ์อันภาคภูมิของแชนโดรา
กับหอระฆังใหญ่ที่เก็บสิ่งนั่นเอาไว้ ฉันมีธุระกับหอระฆังนั่น"
"เดี๋ยวสิ
มีสิ"เอเนลนึกขึ้นได้"มีอยู่สิ ของแบบนั้นน่ะ มันลอยขึ้นมาบนฟ้าด้วย 400ปีก่อน
ตอนที่เกาะนี้ถูกพัดขึ้นมาบนท้องฟ้า สรุปก็คือ วันที่อัปเปอร์ยาร์ด
เกาะแห่งเทพถือกำเนิดขึ้นมา
เห็นว่าได้ยินเสียงระฆังขนาดใหญ่ดังกังวานไปทั่วอาณาจักรด้วย
เมื่อ400ปีก่อน
ชาวท้องฟ้าจ้องมองเกาะจายาครึ่งนึงถูกดึงขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้าพร้อมเสียงระฆัง
"คนแก่ที่อาณาจักรนี้ต่างก็เรียกขานกันว่าเสียงเพลงแห่งเกาะ
อย่างนี้นี่เอง ระฆังนั่นทำด้วยทองคำอย่างนั้นสินะ วิเศษจริงๆ
อีกไม่นานก็จะจบเกมแล้ว แค่8นาทีเท่านั้น ไหนๆแล้ว
ลองค้นดูให้ทั่วอาณาจักรก่อนละกัน ระฆังทองคำน่ะ ฮ่าๆๆๆ"
"ระฆังทองอยู่บนท้องฟ้างั้นรึ
งั้นโพเนกลีฟก็..."โรบินครุ่นคิด
"ฮ่าๆๆๆ--"เสียงหัวเราะเอเนลหยุดลงเมื่อเขาได้ยินเสียงในป่า"ที่ปลายเกาะ...มีหนอนแมลงอยู่ตัวนึงด้วย"
_____________________
คนแปลกหน้าวิ่งผ่านป่า
วิ่งไปยังเรือโกอิ้งแมรี่ตามเสียงแตร
_____________________
โคนิสกำลังวาดผ้าไว้บนหน้าผากของซันจิ
"แข็งใจเอาไว้หน่อยนะคะคุณอุซป
คุณซันจิ"โคนิสกล่าว
"ยังไม่ลืมตาขึ้นมาอีกรึเนี่ย?"ปากายาเข้ามาถาม
โคนิสพยักหน้า
"แต่ว่า..อาการจะต้องดีขึ้นแน่ๆค่ะท่านพ่อ"
"ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว
ผู้คนที่มีจิตใจอ่อนโยนขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะอาการแย่ลงได้หรอก คุณโคนิส
คำภาวนาของพ่อคือ อากจะให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างชื่นมื่นบนท้องฟ้าอันแสนสงบสุข
นั่นรวมถึงลูกด้วยนะ"
"ท่านพ่อ"
"ซู!!!!"เสียงซูดังขึ้นมา
พวกเขาเดินออกมาจากห้องเก็บของซูก็ยังร้องต่อไป
"มีอะไรรึซู?"ปากายาถาม"หิวข้าวเหรอ?"
"ซู มีอะไรเหรอ? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?"โคนิสถามบ้าง
"ซูๆๆ"ซูร้องตอบ มันได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าตรงนี้
พวกเขามองเห็นคนที่คลานออกมาจากป่า
สักครู่ต่อมา
ปากายากับโคนิสลงจากเรือไปหาชายคนนั้นขณะที่ซูยังอยู่ที่เรือ
ชายแปลกหน้าสวมเสื้อคลุมสีขาว แต่เต็มไปด้วยบาดแผล
"หรือว่าคุณจะเป็น...."ปากายารู้ตัว
"เมื่อ6ปีก่อนฉันเคยต่อสู้ร่วมกับท่านกันโฟล"
"งั้นก็เป็นทหารเทพจริงๆด้วย"ปากายากล่าว
"พวกเราถูกขังในห้องที่ปิดตาย...แฮ่กๆๆ"ชายคนนั้นพยายามพูดอย่างยากลำบาก
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"ปากายาถามหันไปมองลูกสาวเขา"คุณโคนิส
ปฐมพยาบาลเร็ว"
"ค่ะ
ท่านพ่อ"โคนิสจะกลับไปเอากล่องปฐมพยาบาล
"เดี๋ยว"อดีตทหารเทพเรียกไว้"ที่เกาะแองเจิ้ล
ภรรยากับลูกฉันยังอยู่"
"ทุกคนต้องเป็นห่วงคุณแน่ๆ"ปากายากล่าว
"ช่วยไปบอกพวกเขาที
เอเนลมัน...คิดจะทำลายทุกสิ่ง...สกายเปียจะตกสู่ทะเลสีฟ้า"อดีตทหารเทพกล่าว"อาณาจักรนี้กำลังจะหายไป"
"เรื่องนั้น
ไม่จริงน่า"ปากายาตกตะลึง
"ไม่มีเวลาแล้ว
รีบไปบอกให้ทีเถอะ
เอเนลมัน..."อดีตทหารเทพจับคอเสื้อปากายา"คิดจะกวาดล้างผู้คนที่อยู่บนท้องฟ้าทั้งหมด"
"กวาดล้างผู้คนบนท้องฟ้าเรอะ?"ปากายาทวน"เดี๋ยวก่อนสิครับ
ขืนทำแบบนั้นละก็ ก็อดเอเนลเองก็ไม่มีที่อยู่ด้วยน่ะสิ"
"มันมีเรือ
เรืออาร์คแม็กซิม!!!"
"เรืออาร์คแม็กซิม?"ปากายากล่าว
_____________________
เอเนลยืนขึ้น
ตัวเขาเต็มไปด้วยสายฟ้า
"ทำอะไร?"โรบินถาม
_____________________
โคนิสเงยหน้าขึ้นและเห็นแสงจากท้องฟ้า
"พวกเราน่ะถูกบังคับให้สร้างเรือลอยฟ้านั่นมาตลอด6ปี"อดีตทหารเทพตะโกน
ปากายาดันแขนเขาไปข้างหลังผลักโคนิสไป
"คำภาวนาของพ่อคือ
อากจะให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างชื่นมื่นบนท้องฟ้าอันแสนสงบสุข
นั่นรวมถึงลูกด้วยนะ"
โคนิสตกลงไปที่เรือโกอิ้งแมรี่และมองสายฟ้าพุ่งลงมา
"ตูมมมม!!!!"สายฟ้าของเอเนลกลืนอดีตทหารเทพและปากายาหายไป
"ท่านพ่อ!!!!!!"
ความคิดเห็น