คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #92 : กาลูการ่าและโนแลนด์(RE2)
ในเมืองแองเจิ้ลบีสต์
ทุกคนกำลังพยายามหนีลงทะเลจนท่าเรือแออัด
"เร็วเข้า
เร่งมือหน่อย"
"หัวหน้า!!!"ไวท์เบเร่ต์วิ่งเข้ามา"ถ้าไม่ใช้เรือที่อยู่ตรงท่าเทียบเรือละก็คงขึ้นกันไม่หมดแน่ครับ"
"ใช้ทางอ้อมก็แล้วกัน"แม็คกินลีย์เห็นว่าท่าเรือนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามของจุดอพยพ"พวกนาย
ใช้ไดอัลฉุกเฉินสร้างแม่น้ำกันเลย"
"ครับ"
แม็คกินลีย์กัดฟันนึกถึงคำเตือนของโคนิส
"ทุกคน
รีบไปที่สุดขอบเมฆเถอะ ไปที่คลาวเอนด์ รีบหนีไปที่ทะเลสีฟ้าเถอะค่ะ"
"ก็อดเอเนลกำลังจะลบอาณาจักรแห่งนี้ทิ้ง
ขืนอยู่ที่นี่ละก็ทุกคนต้องไม่รอดกันแน่ๆ"
"ตั้งแต่6ปีก่อน
สิ่งที่พวกเรารู้กันดีที่สุดก็คือ เอเนล...เขามีพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถมอบความสิ้นหวังให้แก่พวกเราได้
และเวลานั้นได้มาถึงต่อหน้าพวกเรากันแล้วด้วย
มัวแต่เฝ้ารอปาฎิหาริย์แล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะคะ!? ก่อนที่จะภาวนา
ก่อนที่จะละสายตาจากความเป็นจริง เราต้องทำในสิ่งที่ตัวเราทำได้ซะก่อน
ถ้ามัวแต่ยอมหมอบเป็นผู้รับเคราะห์จะไม่ต่างไปจากที่แล้วๆมา
ถ้าไม่ยอมเคลื่อนไหวละก็
ถึงจะมานั่งแค้นใครสักคนทีหลังก็ปกป้องชีวิตตัวเองไม่ได้หรอก เอ้า
ตัดสินใจทิ้งอาณาจักรเถอะค่ะ"
"ชาวเมืองยังเหลืออยู่อีกเยอะแค่ไหน?"แม็คกินลีย์ถาม
"ยังเหลืออีกครึ่งนึงครับ"หน่วยไวท์เบเร่ต์ตอบ
"อย่าให้เอาสัมภาระขึ้นเรือ
เราต้องพาทุกคนออกทะเลให้ได้"แม็คกินลีย์สั่ง
"ครับ!!!!"
______________________
เรือสกายเปียหลายลำมุ่งหน้าลงจากไฮเวย์ไปที่ทะเลสีขาวด้านล่าง
อามาซอนยกกล้องมาถ่ายทุกคนที่กำลังหนีอย่างเมามัน
"หยุดนะ
จ่ายค่าออกนอกเมืองมาคนละ2พันล้านเอ็กซ์โทลซะดีๆ"อามาซอนกล่าว
"คุณอามาซอน
คุณเองก็รีบหนีเข้าเถอะ เร็วเข้า ไปที่คลาวเอนด์
อาณาจักรนี้น่ะจะล่มสลายแล้ว"
ไม่มีใครสนใจจ่ายค่าผ่านทาง
อามาซอนหยุดถ่ายรูป
"เอ๋?"
______________________
โคนิสที่เฝ้ารออยู่บนเรือรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลง
"ลมหยุดพัดแล้ว?"
ทุกอย่างเงียบไปหมด
"เปรี้ยง!!!!"สายฟ้าพุ่งลงมาฟาดใส่ต้นไม้นึงไฟลุกล้มครืนไป
______________________
สายฟ้าพุ่งลงมาตกใส่กลางถนนด้านหลังชาวท้องฟ้ากลุ่มสุดท้ายที่กำลังหนี
"วิ่งเร็วๆ"
______________________
กลุ่มหมวกฟางมองฟ้าผ่าลงมาใส่ผืนดินอัปเปอร์ยาร์ด
______________________
เอเนลยืนขึ้นจากบัลลังก์เดินไปที่หน้าเรือ
"ได้เวลาพอดี
เอาล่ะ มาเริ่มงานเลี้ยงกันเลยดีกว่า"
เอเนลยื่นมือออกไป
ตัวเขามีประกายสายฟ้าออกมา
"เปรี้ยงๆๆๆ"ฟ้าผ่าเริ่มพุ่งลงมารุนแรงมากกว่าเดิม
"มามารากัน(สายฟ้าพิโรธ)"
สายฟ้าที่ใหญ่กว่าเดิมเริ่มเข้าทำลายทั้งต้นไม้
มิลกี้โร้ดและแผ่นดินของอัปเปอร์ยาร์ด
_____________________
"รีบถอยไปจากเกาะเร็ว"
"อย่ามัวชักช้า"
"สายฟ้าค่อยๆใหญ่ขึ้นมาแล้ว"
"เรือที่ท่าถูกทำลายหมดเลย"
"ไปทางตะวันออกของหาด"หน่วยไวท์เบเร่ต์ตะโกน"เร็วๆเข้า
ยังมีเรืออยู่อีก วิ่งไปทางตะวันตก"
"เร็วๆเข้าเถอะ
ทิ้งสัมภาระไปซะ"
___________________
"ตูมๆๆๆ"สายฟ้าตกลงมายังทะเลใกล้เรือแมรี่
โคนิสปิดตาและกอดซูไว้
__________________________
แชนเดียร์ก็กำลังหนีหลังจากได้รับคำเตือนจากชาวท้องฟ้า
"หัวหน้าเผ่า
รีบขึ้นเรือเถอะครับ"แชนเดียร์บอกหัวหน้าเผ่าที่ยืนอยู่หน้ารูปปั้นนักรบถือหอก
กาลูการ่า
"ยอดนักรบกาลูการ่า
ได้โปรด ปกป้องทุกคนด้วย"หัวหน้าเผ่าอธิษฐาน
_________________________
คิรัวร์ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงดัง
เขาเห็นเมฆดำขนาดใหญ่บนท้องฟ้า
"คิรัวร์คุงเธอฟื้นแล้ว"โรบินกล่าว
คิรัวร์มองไปก็เห็นว่าเขาหนุนตักโรบินอยู่
เขามองไปรอบๆเห็นโซโล
กันโฟล ปิแอร์ ไวเปอร์ โครว ไอซ่า วีวี่ เซียร์ อุซปและซันจิอยู่รอบๆ
ด้านหลังเป็นเถาวัล์ยักษ์
"เกิดอะไรขึ้น
ฉันจำได้ว่าโดนสายฟ้าเอเนลช็อตสลบไป?"คิรัวร์ถาม
"ลุกขึ้นมองดูสิ"โซโลกล่าว
"และรีบออกจากตักเธอได้แล้ว"วีวี่หงุดหงิด
คิรัวร์ลุกขึ้นและเห็นบอลสายฟ้าด้านบนกำลังฟาดสายฟ้าทำลายล้างลงมาที่อัปเปอร์ยาร์ดและเกาะแองเจิ้ล
"ลูฟี่กับนามิล่ะ?"คิรัวร์ถาม
ทุกคนเล่าสถานการณ์ตั้งแต่ตอนเขาสลบไปให้ฟัง
ตอนนี้นามิขี่เวฟเวอร์พาลูฟี่ไปจัดการเอเนล
______________________
เอเนลบนเรืออาร์คแมคซิมที่กำลังลอยขึ้นไป
"แถวนั้นเองรึ?
หมู่บ้านที่ซ่อนตัวของพวกนักรบแชนเดียร์ที่น่ารังเกียจ
เดิมทีก็เป็นพวกคนทะเลสีฟ้า คงดีใจที่ได้กลับบ้านเกิดสินะ ฮ่าๆๆๆ เอ้า
ลงไปที่โลกเบื้องล่างเถอะ"
"ตูม!!!!!"สายฟ้าพุ่งไปใส่หมู่บ้านของแชนเดียร์ระเบิดหายไป
"หมู่บ้านของพวกเรา"แชนเดียร์ที่อยู่บนเรืออพยพร้องขึ้น
"แง!!!!"เด็กที่ร้องไห้กอดแม่พวกเขา
"เกือบไปแล้ว
ขืนออกมาช้าล่ะก็มีหวังเละเป็นผงแน่"แชนเดียอีกคนกล่าว
ไฟไหม้จากสายฟ้าแพร่ไปทั่วหมู่บ้าน
กลางเปลวเพลิงมีรูปปั้นยอดนักรบกาลูการ่ายืนตระหว่านเหนือเปลวไฟ
_____________________
"ขอสาบานต่อยอดนักรบกาลูการ่า
จงสุมไฟแห่งแชนโดรา"
คำพูดของหัวหน้าเผ่าสะท้อนในใจของไวเปอร์
"ไวเปอร์!!!"ไอซ่าคว้ามือพยายามตะโกนเรียกเขา
แต่ไวเปอร์กำลังหวนนึกความทรงจำสมัยเด็ก
"ไวเปอร์
บรรพบุรุษของเจ้า ยอดนักรบกาลูการ่า
มีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ยังไงก็ต้องทวงบ้านเกิดกลับคืนมาให้ได้"
"เหตุผลอีกอย่างนึง?"ไวเปอร์ถาม
"ใช่แล้ว
นั่นแหละคือเหตุผลสำคัญที่สุดสำหรับกาลูการ่า ฟังนะ ยอดนักรบกาลูการ่าน่ะ
มีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง"
"เพื่อนสนิทของกาลูการ่า?"
"ใช่แล้วเมื่อ400ปีก่อน
ชื่อของคนที่แวะมาเยือนกาลูการ่านั้นก็คือ มองบลัง โนแลนด์
บนเกาะหัวกะโหลกจายา
กาลูการ่าเป็นที่รู้จักในฐานะปีศาจ คอยปกป้องเกาะจากคนนอก
หมู่บ้านแชนเดียร์กำลังติดโรคระบาดจากคิเนซึ พายุได้พัดเรือคณะสำรวจจากอาณาจักรลุบนีลมาขึ้นฝั่งที่เกาะจายา
ชาวแชนเดียร์ที่ไร้หนทางรักษาโรค
ตัดสินใจสังเวยสายบริสุทธิ์ มูส ลูกสาว กาลูการ่าต่อเทพคาชิ
โนแลนด์ฆ่าคาชิและช่วยมูสไว้ กาลูการ่าแทงหอกใส่เขา
โนแลนด์สัญญาว่าเขาสามารถรักษาโรคระบาดนี่ได้
หัวหน้าเผ่าให้เวลาโนแลนด์ถึงพระอาทิตย์ตกดินวันรุ่งขึ้น
ไม่งั้นลูกเรือของเขาจะเป็นเหยื่อบูชายัญ
โนแลนด์ใช้เวลาทั้งคืนตามหาต้นโคนีเพื่อทำยารักษาโรคให้ชาวแชนเดียร์จนเจอ
แต่ดังเกิดแผ่นดินไหวทำให้โนแลนด์ติดอยู่ในรอยแยก
กาลูการ่ามาเจอและเฝ้าดูโนแลนด์ดิ้นรนจนกระทั่งลูกเรือเขาโดนประหารชีวิต
โนแลนด์พยายามคุยกับกาลูการ่า บอกว่าการบูชายัญไม่มีความหมาย
แต่กาลูการ่ายึดมั่นในความเชื่อตน พวกเขาดำเนินชีวิตแบบนี้มาหลายศตวรรษ
เวลาผ่านไปถึงตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ลูกเรือโนแลนด์และมูสถูกนำตัวไปแท่นบูชาเพื่อจุดไฟเผา
โนแลนด์บอกว่ากาลูการ่าไม่รู้สึกผิดรึไงที่ฆ่าผู้หญิงที่ไม่มีความผิด
บอกว่ามันไม่ใช่การกระทำของมนุษย์ กาลูการ่าเปิดเผยว่ามูสคือลูกสาวของเขาเอง
เขามีความเชื่อต่อเทพของเขา และต้องเสียสละครอบครัวเพื่อช่วยคนของเขา
ลูกของคาชิได้ปรากฎตัว กาลูการ่าบอกว่ามันมาเพื่อแก้แค้นโนแลนด์
โนแลนด์บอกเรื่องโรคคิเนซึที่เคยเกิดที่บ้านเกิดของเขา
ซึ่งปัจจุบันหาทางรักษาหายได้โดยใช้เปลือกต้นโคนาที่เขาไปเก็บมาได้
ก่อนที่ลูกของคาชิจะพุ่งไปฆ่าโนแลนด์ กาลูการ่าแทงหอกใส่มันตาย
เขาถามโนแลนด์อีกครั้งว่าช่วยหมู่บ้านของเขาได้ไหม โนแลนด์บอกว่าได้
กลุ่มคณะเดินทางของโนแลนด์ได้ช่วยรักษาโรคให้กับชาวแชนเดียร์
พวกเขาต้อนรับพวกโนแลนด์เข้าหมู่บ้าน กาลูการ่ากับโนแลนด์ยังพบงูอีกตัว
หลานของคาชิที่ยังเป็นงูตัวเล็ก
กาลูการ่าได้พากลุ่มของโนแลนด์ไปดูเมืองขุมทองแชนโดร่าและระฆังทอง
พร้อมให้ลูกเรือโนแลนด์ขนสมบัติในเมืองขุมทองนอกจากระฆังทองไปเต็มเรือได้
มิตรภาพดำเนินต่อไปจนกระทั่งกลุ่มของโนแลนด์ได้ตัดต้นไม้ในป่าไปหลายร้อย
ทำให้ชาวแชนเดียร์โกรธ กาลูการ่าเข้าโจมตีโนแลนด์
บอกว่าที่ไม่ฆ่าพวกเขาเพราะเรื่องที่ช่วยแก้โรคระบาด
กลุ่มของโนแลนด์ต้องเดินทางกลับ
คืนสุดท้ายมูสได้มาอธิบายพวกโนแลนด์ว่าชาวแชนเดียร์เชื่อว่าเมื่อวิญญาณตายลงจะกลับคืนสู่ต้นไม้
การตัดต้นไม้จึงเท่ากับดูหมิ่นบรรพบุรุษพวกเขา
โนแลนด์ละอายใจและให้คนของเขาทิ้งทองทั้งหมดไว้และเดินทางกลับ
แต่วันที่โนแลนด์ออกเดินทาง
มูสได้เข้าไปหาพ่อและบอกเรื่องต้นไม้ที่พวกโนแลนด์ตัดเป็นต้นไม้ที่ตายแล้วและเป็นตัวแพร่กระจายเชื้อโรค
เพื่อไม่ให้โรคคิเนซึกลับมา กาลูการ่าเสียใจและรีบวิ่งไปที่ชาย
ร้องตะโกนบอกโนแลนด์ว่าขอให้เขากลับมาอีกครั้ง
โนแลนด์ยิ้มและสัญญาว่าจะกลับมาอีกครั้ง
5ปีต่อมา
โนแลนด์เล่าเรื่องเมืองขุมทองและการผจญภัยมากมายให้ฟัง
ผู้คนไม่แน่ใจว่าเมืองขุมทองแชนโดราเป็นเรื่องจริงรึไม่
กษัตริย์ลูบนิลได้สั่งให้ออกเรือไปยังแชนโดรา โดยพระองค์จะติดตามไปพร้อมทหาร
แต่ลูกเรือโนแลนด์ไม่ต้องไป แต่ก่อนที่โนแลนด์จะไปถึง1ปี
เกิดน็อคอัพสตรีมทำให้ครึ่งนึงของจายาพุ่งขึ้นไปบนอยู่ท้องฟ้า
เมื่อคณะเดินทางมาถึงโนแลนด์ก็ตกใจที่หมู่บ้านและเมืองขุมทองหายไปแล้ว
กษัตริย์โกรธและสั่งประหารชีวิตโนแลนด์ และถูกเรียกว่าเป็นจอมโกหก
ขณะที่จอมเทพอ้วนๆผู้ครองสกายเปียเมื่อ400ปีก่อน โลภเมื่อเห็นวาสขนาดใหญ่ และสั่งบุกโจมตีขับไล่แชนเดียร์จากบ้านเกิด
"ยอดนักรบกาลูการ่าตะโกนไปเรื่อยๆ"หัวหน้าเผ่าเล่าเรื่องให้เด็กน้อยไวเปอร์"และขอแค่ลั่นระฆังแค่ครั้งเดียวก็พอ
เพราะเชื่อมั่นว่าไฟแห่งแชนโดรา จะเล่าขานทุกสิ่งด้วยเสียงดังกังวานของมัน
ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ แต่ว่า ระฆังกลับไม่เคยดังเลยสักครั้ง
มีเรื่องเล่าจากเหล่านักเดินเรือทะเลสีฟ้าที่มายังหมู่บ้านแห่งนี้ว่า
โนแลนด์ผู้มีพระคุณ
ซึ่งศรัทธาในเมืองของพวกเราถูกเรียกว่าจอมโกหกและยอมตายไปโดยที่ไม่ยอมปฎิเสธตัวตนของแชนโดราเลยสักคำ
แต่ว่ากาลเวลาช่างยาวนานนัก ยอดนักรบกาลูการ่าเองก็ต้องต่อสู้อย่างดุเดือดบนท้องฟ้าแห่งนี้จนตายไป
ความนึกคิดอันนั้นจึงส่งไปไม่ถึง นั่นแหละ
สิ่งที่ยอดนักรบกาลูการ่ายังค้างคาใจอยู่"
"จะยังส่งไปถึงมั้ยนะ?
เสียงของระฆังใบนั้น
ถึงจะลั่นเอาตอนนี้ เสียงก็คงไปถึงตัวโนแลนด์ได้สินะ"
"นั่นสินะ"หัวหน้าเผ่าร้องไห้ออกมา"ก็ที่นี่อยู่ใกล้สวรรค์ที่สุดนี่นา"
"ไวเปอร์!!!!"ไอซ่ายังเรียกนักรบแชนเดียร์ที่มองหมู่บ้านเขาโดนทำลาย"ต้องรีบหนีแล้วนะไม่งั้นตายแน่
นี่ ไวเปอร์"
"เอเนล
แกมีสิทธิอะไรที่จะมาช่วงชิงทุกสิ่งไปล่ะ!?"
______________________
"ฮ่าๆๆๆ
ที่นี่คือท้องฟ้า อาณาเขตของพระเจ้า ทุกสิ่งมันขวางหูขวางตา ทั้งคน ทั้งต้นไม้
ทั้งดิน ควรจะกลับไปยังที่ที่ควรอยู่ได้แล้ว
ทุกสิ่งจงกลายเป็นฝนตกลงไปยังทะเลสีฟ้าซะ!!!"
"เปรี้ยง!!!!"สายฟ้าแผ่ออกจากตัวเขา
ยิ่งทำให้สายฟ้าที่ผ่าลงไปรุนแรงขึ้น
_____________________
"เร็วเข้า
เกาะแองเจิ้ลทนไม่ไหวแล้ว"แม็คกินลีย์ตะโกน
"มีผู้บาดเจ็บอยู่เยอะน่าดูเลยครับ"หน่วยไวท์เบเร่ต์มารายงาน
"ยังไงก็เถอะรีบเอาขึ้นเรือแล้วค่อยรักษา"
"ไปที่ทะเล"
"เร็วเข้า"
"แค่คิดว่าถ้าสาวน้อยคนนั้นมาเตือนช้าไปก็เสียววูบแล้ว
จะปลอดภัยรึเปล่านะ เธอคนนั้น"แม็คกินลีคิดในใจ
"เฟี้ยว..."ทันใดนั้นสายฟ้าก็พุ่งลงมาทางนี้"เปรี้ยงงง!!!"
___________________
โคนิสยังคงเงียบและหลับตากอดซูอยู่บนโกอิ้งแมรี่
___________________
"เรือจะขึ้นไปถึงปลายยอดที่อยู่บนฟ้านั่นเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว"โรบินมองเรืออาร์คแม็กซิมที่ลอยขึ้นไปเรื่อยๆ
"เอเนลมันคิดจะทำอะไรที่นั่นกันแน่นะ?"กันโฟลถาม
"ระฆังทองคำที่อยู่ที่นั่นไงล่ะ"โรบินตอบ
"ระฆัง?"กันโฟลทวน
ไวเปอร์หันไปมอง
___________________________
"ฮ่าๆๆๆ
เหล่าทูตสวรรค์ที่หนีกันพล่าน อย่างกับฝูงมดแตกรังไม่มีผิดเลย
จงกลับสู่ที่เดิมซะเถอะ สกายเปีย"
"ตูมมมมม!!!!!"ฟ้าขนาดใหญ่ผ่าลงไปใส่เกาะแองเจิ้ล
"นั่นมันอะไรน่ะ?"เรือที่อยู่หน้าประตูสวรรค์มองไปบนเพดานเมฆเกาะชั้นบน
"ทะเลสีขาวเป็นโพรงไปเลย"
"ไม่มีธุระอะไรกับตำหนักเทพที่แสนคิดถึงนี่แล้ว"เอเนลกล่าว
"เปรี้ยง!!!!"เอเนลทำให้สายฟ้าผ่าลงมาทำลายตำหนักเทพ
"รวมทั้งเมืองแชนโดราที่อยู่ข้างใต้นั่นด้วย"
"เปรี้ยง!!!!"สายฟ้าพุ่งลงไประเบิดซากเมืองโบราณพังเสียหาย
"อาณาจักรนี้ยังมีอีกแค่สิ่งเดียวที่ฉันต้องการ
นั่นคือหอระฆังที่เก็บระฆังทองคำ
หือ..."เอเนลได้ยินเสียงบางอย่างจากมันโทรา"ที่ด้านหลังนี่มีเสียงอยู่สองเสียง"
___________________
"ให้ตายสิ
ทำไมถึงเร็วอย่างนี้นะ"นามิบ่น
เหนือขึ้นไปลูฟี่กำลังวิ่งตามเรืออาร์คแม็กซิม
เขาเชื่อว่าเธอยังอยู่บนนั้น
"นามิ
ขอให้ปลอดภัยนะ นอกจากนี้ ยังไงก็ไม่ยกระฆังทองให้แกแน่ เอเนล!!!!"ลูฟี่ตะโกน
___________________
"ระฆังทอง?"ไวเปอร์กล่าว
โรบินเงยหน้าจากช็อปเปอร์ไปที่นักรบแชนเดียร์"เมื่อกี้เธอบอกว่าอย่างงั้นสินะ?"
"ใช่"โรบินตอบ
"พวกนายพูดอะไรกันอยู่เนี่ย?"อุซปถาม
"เธอพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่เอเนลจะยิงสายฟ้าและแฟนเธอเข้ามาช่วย"โครวกล่าว
"เขาไม่ใช่แฟนฉัน"โรบินแย้ง"เขาเป็นเพื่อนฉัน"
"ฉันเดาว่าพวกเธอคงสนิทกันมาก"โครวยิ้มอย่างมีเลศนัย
"เอเนลต้องการสิ่งนั่นสินะ
แล้วมันอยู่ที่ไหนกัน?"ไวเปอร์ถาม
"เฮ้ย
เดี๋ยวก่อนสิ"อุซปตะโกน"นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องแบบนั้น
เห็นแล้วใช่มั้ย สายฟ้าเมื่อกี้น่ะ ถ้าไม่รีบหนีละก็ตายแน่ๆ!!!"
โรบินไม่สนใจชี้ไปที่ต้นถั่วยักษ์
"อยู่บนต้นถั่วยักษ์นี่แหละ
ใกล้ๆส่วนยอด"โรบินตอบ
"ทำไมกัน
ทำไมเธอถึงรู้ได้!?"ไวเปอร์ถาม
"ไปรอที่เรือกันก่อนเถอะ
สัญญากับนามิแล้วไง"อุซปพยายามบอกทุกคน"อีกเดี๋ยวยัยนั่นก็คงพาลูฟี่กลับมาแล้วด้วย"
"ใช่แล้วล่ะไวเปอร์"ไอซ่าเห็นด้วย
"ซากเมืองแชนโดราที่อยู่ข้างใต้นี่
โดนเถาวัลย์เจาะทะลุพื้นดินขึ้นมา ตรงใจกลางของเมืองพอดี"โรบินยังอธิบายต่อ
อุซปได้คลานไปยังหลุมขนาดใหญ่ที่เอเนลทำไว้ตอนนำทุกคนมายังแชนโดรา
"ดูนี่ก่อนสิ
เฮ้ จะซากเมืองหรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่มันพังยับเยินเลย
คราวหน้าพวกเราอาจจะต้องเป็นแบบนั้นบ้างก็ได้"อุซปตะโกน
"ส่วนใจกลางเมืองนั่นเป็นที่ตั้งของหอระฆังที่เก็บรักษาระฆังทองเอาไว้
มันเขียนเอาไว้ในแผนที่ที่หาเจอในซากเมืองน่ะ"โรบินกล่าว
"นี่...เล่นเมินกันเลยรึเนี่ย?"อุซปกล่าว
"สรุปแล้วระฆังโดนแรงกระแทกจากการถูกเถาวัลย์เสียบ
จนกระเด็นลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าที่สูงกว่านั้นอีก"โรบินอธิบาย
"ที่ข้างบนนี้น่ะเหรอ?"ไวเปอร์มองขึ้นไป
"มีเสียงเพลงแห่งเกาะ"กันโฟลคิดในใจ
โรบินนึกย้อนกลับไปตอนพวกเขาออกจากเรือมาตามหาขุมทอง
ก่อนงูยักษ์เข้าโจมตี
"เฮ้ นี่
ที่เมืองขุมทองมีระฆังทองอยู่ด้วยสินะ"ลูฟี่ถาม
_____________________
เรืออาร์คแม็กซิมได้มาถึงยอดต้นถั่ว
"เอาล่ะ
บินพ้นยอดต้นถั่วยักษ์ซะที ว่าไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีใครมาตามหาของที่หายไปเมื่อ400ปีก่อนจนถึงท้องฟ้าเหนือกว่าตำหนักเทพล่ะนะ
เอาล่ะ อยู่ตรงไหนนะ?"เอเนลกวาดตามองหา"ระฆังทองคำที่ว่า"
_____________________
ลูฟี่วิ่งขึ้นมาจนทะลุเมฆเกาะมาถึงตำหนักเทพที่เหลือแต่ซาก
"ที่นี่มันอะไรกัน?"
เหนือขึ้นไปเอเนลก้มลงมองลูฟี่
"เจ้านั่นเองรึ
มีตุ้มถ่วงแบบนั้นยังลากมาได้อีก"เอเนลกล่าว
"หาเจอแล้ว"ลูฟี่มองขึ้นไปเห็นเอเนลและวิ่งขึ้นต้นถั่วยักษ์"รออยู่ตรงนั้นก่อนเถอะ
เอเนล!!!"
"ยุ่งจริง"เอเนลพูดแล้วให้เมฆสายฟ้าส่งฟ้าผ่าใส่ลูฟี่
"เปรี้ยง!!!!"ลูฟี่โดดหลบได้ทัน
แต่ส่วนยอดโดนสายฟ้าหักโค่นพังครืนลงไป
"ว๊ากกกก!!!!"ยอดต้นถั่วยักษ์ตกลงไปและพาเขาไปด้วย
"ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะขณะที่ลูฟี่ตกลงไป
_________________
"อึก...!!!"ไวเปอร์เลือดไหลออกมาขณะที่เขาพยายามเดินไปทางต้นถั่วยักษ์
"ไวเปอร์
คิดจะทำอะไรน่ะ?"ไอซ่าถาม"อย่าบอกนะว่าจะปีนเถาวัลย์นี่ขึ้นไป"
"นายไปถึงบนนั้นในสภาพนี้ไม่ได้แน่"โครวกล่าว
อุซปส่องแว่นขึ้นไปแล้วเห็นบางอย่างใหญ่โตตกลงมา
"ทุกคน
รีบถอยออกจากเถาวัลย์เร็ว!!!!!"อุซปตะโกนแล้วส่องดูอีก"มีบางอย่างกำลังตกลงมา!!!"
ทุกคนต่างรีบหลบขณะที่ยอดเถาวัลย์พุ่งลงมาปักพื้น
"ยอดของเถาวัลย์
เกิดอะไรขึ้นนะ?"โรบินร้อง
"เฮ้ๆ
อย่าบอกนะว่าพวกลูฟี่เองก็ตกลงมาด้วยน่ะ"อุซปมองไปรอบๆ
"ไวเปอร์"ไอซ่าร้องขณะที่ไวเปอร์พยายามลุกขึ้น"ไม่ได้นะ
ไม่ได้ ร่างกายแบบนั้นไม่ไหวหรอก โทรมจะแย่อยู่แล้วนะ นอกจากนั้น
ถึงจะปีนขึ้นไปตอนนี้ ก็คงไล่ตามเอเนลที่ลอยอยู่บนฟ้าไม่ทันอยู่ดี"
"มันอยู่.....มันอยู่ที่ข้างบนนี้
ระฆังแห่งความหวังของยอดนักรบกาลูการ่า"ไวเปอร์กล่าว
"กาลูการ่าเหรอ?"โครวทวน
"ใช่แล้ว
นั่นแหละคือเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเรา"ไวเปอร์จ้องต้นถั่วยักษ์"เอเนล
ใครจะยอมยกให้คนอย่างแกกันเล่า"
________________________
เหนือขึ้นไปลูฟี่ยังเกาะใบขนาดใหญ่ที่งอกจากเถาวัลย์ไว้ได้
เขาอยู่ใต้เมฆเกาะที่เคยเป็นตำหนักเทพ
"ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะ"สารรูปแบบนั้นคิดจะปีนขึ้นมาตรงนี้ยังไงกัน"
"หนอย!!!"ลูฟี่พยายามดึงตัว
แต่ลูกตุ้มทองคำถ่วงไว้
"ฮ่าๆๆ รออยู่ตรงนั้นไปสักพักเถอะ
มีขอบสนุกๆจะให้แกดูด้วย"เอเนลพูดแล้วหายตัวไป
ลูฟี่มองไปในระยะไกล
เมฆสายฟ้ากลายเป็นหลุมทำให้มีแสงส่องผ่านมา
"จริงสิ
ตอนที่เจ้านั่นไม่อยู่ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง"ลูฟี่พยายามยกลูกตุ้มทองคำขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ"ต้องใช้ไอ้นั่นแล้ว"
ลูฟี่ยืดแขนไปมาให้ลูกตุ้มขึ้นลงไปมาหลายครั้ง
"โย่โย่ยางยืด!!!!"ลูฟี่ดึงขึ้นมา
แรงเหวี่ยงส่งลูฟี่ลอยขึ้นฟ้ากลับไปที่ตำหนักเทพ
"หมอนั่นทำอะไรของเขาเนี่ย?"นามิถาม
ลูฟี่หล่นลงมาที่ตำหนักเทพ
"ดีล่ะ
เป็นไปตามที่คาดเอาไว้เลย"ลูฟี่กล่าว
"วู้ม!!!!"นามิขึ้นมาถึงเมฆเกาะตำหนักเทพ
"จะรีบปีนขึ้นไปบนเรือเดี๋ยวนี้แหละ.....เปรี้ยง!!!"ลูฟี่โดนเวฟเวอร์เข้ามาทับตัวเอง
"ลูฟี่"นามิเห็นกัปตันเธอนอนอยู่ใต้เวฟเวอร์"ในที่สุดก็ตามทัน"
"นามิ
ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ?"ลูฟี่ถาม
"ก็มารับนายกลับไปน่ะสิยะ
ซันจิ วีวี่ และอุซปเป็นคนมาช่วยฉันเอาไว้ ตอนนี้รออยู่ข้างล่าง"นามิกล่าว
"อย่างนี้นี่เอง
งั้นรึ ค่อยยังชั่ว"ลูฟี่กล่าว
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ..."นามิถูกตัดด้วยเสียงสั่นสะเทือน"เดี๋ยวก่อน"
ลูฟี่กับนามิหันไปมองหลุมสว่างกลางเมฆสายฟ้าค่อยๆมืดเพราะเมฆทรงกลมลอยผ่านรู
"นั่นมันอะไร?"นามิถาม"เมฆสายฟ้า
เปลี่ยนรูปร่างไปแล้ว"
_____________________
คนที่เหลือบนเกาะแองเจิ้ลตกใจเมื่อเห็นก้อนเมฆสายฟ้า
"ท้องฟ้ามัน..."
"ช่วยด้วย"
"ไม่นะ
ใครก็ได้ช่วยด้วย"
"ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว"
"ไปที่ทะเล
ไปที่ทะเลเร็วเข้า"หน่วยไวท์เบเร่ต์สั่ง
"บนท้องฟ้า มีลูกบอลยักษ์ลอยอยู่ด้วย!!!"
_____________________
"แบบนี้แย่แน่ๆ
ภายในเมฆสายฟ้าที่ถูกห่อหุ้มด้วยม่านกลมๆนั่น
มีกระแสลมรุนแรงกับกระแสไฟฟ้าอัดอยู่แน่นเลย"นามิกล่าว
_______________________
"เปรี๊ยะๆๆ"สายฟ้าแล่นบนก้อนกลมสีดำ
"ที่ด้านบนของเกาะแองเจิ้ล"ไอซ่ากล่าว
ขณะที่เธอ กันโฟล ไวเปอร์ โครว โรบิน อุซป วีวี่ เซียร์
คิรัวร์และโซโลต่างจ้องไปยังก้อนสีดำออกมาจากเมฆ
"เมฆสายฟ้ากลายเป็นทรงกลม"โรบินกล่าว
"ฝันร้ายชัดๆ
นี่มันไม่ใช่ภาพในโลกนี้แล้ว"อุซปกล่าว
"ข้างบนนี้
กำลังจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"กันโฟลกล่าว
_____________________
"ฮ่าๆๆ
สวรรค์คือของฉัน จงสำนึกกันไว้เถอะ ถ้ามีพลังของฉันกับเรืออาร์คแม็กซิมละก็
ย่อมทำเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ได้อยู่แล้ว
___________________
ชาวท้องฟ้าที่อพยพไปมองบอลสีดำตกลงมา
"ดูตรงนั้นสิ
มันจะตกใส่เกาะแองเจิ้ลแล้ว"
อีกด้านนึงของทะเลสีขาว
แชนเดียร์มองดูลูกบอลสีดำด้วยความกลัวเช่นกัน
"แย่ล่ะสิ"
"โธ่ ไม่ทันแล้วรึนี่"
"รีบหนีเร็วเข้า"
"กลัวแล้ว"
__________________
ทุกคนเฝ้ามองบอลสายฟ้าสีดำที่ตกลงไปทับใส่เกาะแองเจิ้ล
"ตูมมมมมม!!!!!"
ทุกคนมองไม่เห็นอะไรเมื่อแสงสีขาวส่องเข้ามา
เมื่อระเบิดหยุดลงและแสงจางลงแล้ว
พวกเขาเห็นเกาะแองเจิ้ลถูกแทนที่ด้วยหลุมขนาดใหญ่
________________________
"บอลสีดำนั้น...มันทำลายทั้งเกาะ"อุซปมองเกาะแองเจิ้ลที่เสียหายจากระเบิด"คิดจะไม่ให้รอดกลับไปกันเลยรึไง"
"เอเนล"กันโฟลทรุดลงพื้นด้วยความตกใจ"มันทำลายบ้านเกิดของเรา
ช่างโหดเหี้ยมอะไรอย่างนี้ ใครก็ได้หยุดมันที"
"เห็นนั่นไหม
สายฟ้าและระเบิดนั่น รีบหนีเถอะเดี๋ยวเราก็โดนเป็นรายต่อไปหรอก"อุซปร้อง
"เราไปไม่ได้"คิรัวร์พูดชัดเจน
"หมายความว่าไง?
ทำไมไม่ได้?"อุซปถาม
"เพราะลูฟี่จะลั่นระฆัง เราต้องรอเขาที่นี่"คิรัวร์กล่าว
คิรัวร์เล่าถึงตอนที่เดินอยู่ในป่าก่อนงูยักษ์จะเข้าโจมตี
"เฮ้ นี่
ที่เมืองขุมทองมีระฆังทองอยู่ด้วยสินะ"ลูฟี่กล่าว
"ตามบันทึกของโนแลนด์ล่ะก็ใช่
เห็นเขียนไว้ว่ามีอยู่จริงๆด้วยล่ะ"โรบินกล่าว
"ก็แล้วยังไงล่ะ?"โซโลถาม
"มีอะไรเหรอ?"เซียร์ถาม
"ฮี่ๆๆ
ฉันนึกเรื่องดีๆออกแล้วยังไงล่ะ"ลูฟี่กล่าว
"อะไรล่ะ?
อะไร?"ช็อปเปอร์เร่ง
"เขาอยากลั่นระฆังยักษ์นั่น"คิรัวร์ตอบแทน
"ใช่แล้ว"ลูฟี่เห็นด้วย"ถ้าเราลั่นระฆังยักษ์นั่น
พวกตาลุงที่รออยู่ข้างล่างนั่นกับลิงพวกนั้นจะได้ยินกันรึเปล่านะ?"
คนอื่นต่างยิ้มหรือหัวเราะเบาๆ
"เนอะ
คงได้ยินใช่มั้ย?"ลูฟี่ยิ้ม
"หมอนั่น
เป็นคนที่พูดแล้วต้องทำให้ได้"คิรัวร์กล่าว
"งั้น
หมอนั่นก็...."อุซปกล่าว
"พูดแบบนั้นก็จริง
แต่ว่าสถานการณ์แบบนี้..."โรบินกล่าว
"ระฆัง"ไวเปอร์กล่าวขึ้น"จะลั่นระฆังงั้นรึ?"
"อื้อ"คิรัวร์ยืนยัน"ถึงนามิจะห้ามยังไงหมอนั่นคงไม่ยอมกลับมาแน่
สิ่งที่หมอนั่นเล็งไว้คือสิ่งเดียวกับเอเนลนั่นแหละ"
________________________
ลูฟี่มองขึ้นไปบนเรืออาร์คแม็กซิมของเอเนล
"ตอนนี้บนเรือไม่มีใครอยู่"ลูฟี่เห็นว่าเอเนลไม่อยู่"บางทีฉันอาจขึ้นไปที่นั่นและยืดแขนไปถึงเมฆ"
"เดี๋ยว
นายไปที่นั่นไม่ได้"นามิแย้ง
"ฉันบอกเธอแล้วฉันต้องทำ"ลูฟี่กล่าว
"ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น"นามิแทรกเขา"ถ้าอยากขึ้นไปข้างบนก็ฟังฉันซะ"
______________________
เอเนลกระโดดลงไปบนเมฆเกาะ
และเดินไปหาแสงสีทองที่เขาเห็นข้างหน้า
"นี่เองรึ"เอเนลตะโกนเสียงดัง"งดงามจริงๆ
นี่คือหอระฆังอันทรงเกียรติของแชนโดราเมืองในตำนานงั้นสินะ วิเศษจริงๆ
ช่างเหมาะสมกับพระเจ้าอย่างฉันยิ่งนัก ระฆังบอกการเริ่มต้นของศึกที่กินเวลากว่า400ปีของอาณาจักรนี้
แต่สุดท้าย มันก็เป็นเพียงการต่อสู้อันยาวนานที่สูญเปล่าจนได้
เพราะอีกไม่นานทุกสิ่งจะต้องหายไปจนหมด"
______________________
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เราจะส่งพวกนายไปบนท้องฟ้าให้ได้"คริคเก็ตบอกกลุ่มหมวกฟาง
"ฉันจะลั่นระฆังให้ได้!!!"ลูฟี่ตะโกน
______________________
ความคิดเห็น