NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #96 : ปลอมตัว(RE2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      32
      12 มี.ค. 62

    ยามค่ำคืน ทหารเรือ4คนของนาวาโลนส่องไฟไปยังโกอิ้งแมรี่จากบนสะพานเหล็ก


    "ที่ว่าเรือโจรสลัดลำนี้ตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นความจริงเหรอ?"ทหารที่ส่องไฟอยู่ถาม

    "ไม่อยากจะเชื่อเลย"ทหารที่ถือปืนเล็งอยู่ข้างๆพูด

    "แต่ว่าป้อมปราการนาวาโลนของพวกเรา ขึ้นชื่อในเรื่องการป้องกันดุจกำแพงเหล็กเชียวนะ"ทหารเรือคนที่3พูด"นอกจากจะตกมาจากท้องฟ้าแล้ว เรือโจรสลัดคงบุกเข้ามาถึงที่นี่ไม่ได้หรอก"

    "ได้ยินว่าไม่มีใครอยู่ข้างในเรือลำนั้นเลยด้วย"ทหารเรือคนที่4พูด"แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีกาแฟที่ดื่มค้างไว้กับบุหรี่ ราวกับว่าเมื่อกี้ยังทีคนอยู่ตรงนั้นเลยล่ะ แล้วก็ห้องที่อยู่ข้างในนั่น.."

    "ทองเป็นภูเขา!!!!"ทหารเรือคนที่1กับ2พูด

    "ชู่ว!!!!"ทหารเรือคนที่3บอกให้เงียบ

    "รู้สึกว่านั่นจะเป็นทองที่ฝังอยู่ในซากเมืองโบราณมาหลายร้อยปีแล้ว"ทหารเรือคนที่4บอก

    "เรื่องน่าขนลุกพรรค์นี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย"ทหารเรือคนที่2กล่าว

    "ระ...เรือผีสิงรึ?"ทหารเรือคนที่3ถามเสียงหวาดผวา

    "พวกมันคงโดนคำสาปของซากเมืองโบราณจมหายไปจากโลกแน่ๆ"ทหารเรือคนแรกกล่าว

    ข่าวลือเรื่องโกอิ้งแมรี่กระจายไปทั่วในยามค่ำคืน

    ______________________

    เช้าวันรุ่งขึ้น กองทัพเรือเริ่มออกปฎิบัติการเต็มกำลัง

    "ติดต่อถึงหน่วย4 หน่วย6 หน่วย10 ในสังกัดนาวาโลน ในสังกัดนาวาตรีเดรค ให้แต่ละหน่วยแบ่งเป็นสองกลุ่ม เตรียมพร้อมรบ"ผู้หมวดคริสโตเฟอร์ออกคำสั่งผ่านลำโพง

    ในห้องแต่งตัวพวกทหารกำลังใส่ชุดอยู่ ทหารเรือคนนึงกำลังดึงกางเกงขึ้น อีกคนนึงกำลังส่องกระจกผูกเน็กไท

    "จะเรือผีสิงหรืออะไรไม่รู้ล่ะ พวกมันคิดจะมีเรื่องกับป้อมนาวาโลนของเราเชียวรึ"

    "เร็วๆเข้าเถอะ"ทหารเรือที่ดึงกางเกงขึ้นเสร็จแล้วดึงเพื่อนเขาออกจากห้อง
    _______________________

    "หัวหน้าหน่วยมาที่ห้องบัญชาการที่1โดยด่วน"เสียงหมวดคริสโตเฟอร์ยังดังไปทั่วฐานทัพ

    ซันจิเฝ้ามองผ่านตะแกรงเพดานที่กลุ่มทหารเรือวิ่งผ่านข้างล่างเขา

    "นาวาโลน อย่างนี้นี่เอง เป็นแบบนั้นเองรึ?"โซโลมองพวกทหารเรือ"ดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้ามาติดอยู่ใจกลางป้อมปราการของกองทัพเรือซะแล้วสิ ทำยังไงดี? คุณกัปตัน"

    ซันจิมองลูฟี่กำลังนอนหลับอยู่ในช่องระบายอกาศ

    "เจ้านี่ไม่สนอะไรเลยแฮะ"ซันจิพูดเสียงท้อแท้ เขาต้องจับตาดูลูฟี่ไม่ให้ก่อเรื่อง

    ____________________

    โจนาธานมองจากระเบียงนอกห้องทำงาน ดูเรือโกอิ้งแมรี่โดนลากไปตามทางน้ำ

    "นำเรือโจรสลัดเข้าเก็บในอู่ที่88 แล้วจะจัดการสืบสวนอย่างเต็มกำลังครับ"เดรครายงานผู้บัญชาการ

    "อืม"โจนาทานตอบรับ

    "ก๊อกๆๆ"มีคนเคาะประตูและทหารเรือเดินเข้ามา

    "รายงานครับ"ทหารเรือถือแมลงโทรสารมาด้วย"เรือสแตนมาเลย์ ขอเข้าเทียบท่าครับ"

    "ว่าไงนะ"เดรคถามซ้ำ

    "สถานการณ์ของเรากำลังฉุกเฉิน ให้ทางนั้นรออีกสักพักได้มั้ย? เราประสบพายุมีผู้บาดเจ็บมากมาย นี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เราต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยด่วน"

    ทหารปลายสายแมลงโทรสารอยู่บนเรือที่เสียหายและมีทหารนอนอยู่บนเปล

    "ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเป็นเรือจากศูนย์ใหญ่"เดรคกล่าว"แต่ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีโจรสลัดซุ่มอยู่ภายในป้อม คงให้เข้าเทียบท่าไม่ได้ ขืนให้เรือจากภายนอกเข้ามาตอนนี้มีหวังวุ่นวายกัน..."

    "เปิดประตูได้เลย"โจนาธานแทรกขึ้นมา เดรคหันไปมองด้วยความประหลาดใจ"อนุญาติให้เทียบท่าได้ รีบจัดเตรียมทีมแพทย์เร็วเข้าเถอะ"

    "ครับ"ทหารเรือที่ถือแมลงโทรสารยกมือทำความเคารพและเดินออกจากห้องไป

    "ท่านผบ."เดรคพูดขึ้น

    "คิดบ้างรึเปล่าว่าคนที่บาดเจ็บในแกรนไลน์จะรู้สึกใจเสียขนาดไหน? นายเองก็คงเข้าใจสินะ"โจนาธานกล่าว

    "แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่ว่า...."

    "ฉันน่ะนานๆทีก็อยากจะเอาจริงบ้างสักครั้งเหมือนกัน เอาน่า รับรองไม่ปล่อยให้หนีออกไปนอกป้อมได้หรอก"

    โจนาธานหยิบใบค่าหัว5ใบขึ้นมาดู

    "ว่าแต่ทำไมต้องมาที่นาวาโลนนี่ด้วย? มังกี้ D ลูฟี่"โจนาธานจ้องมองไปที่ใบค่าหัว100ล้านเบรีของลูฟี่ เขาไม่ได้ใส่ใจรองกัปตันที่มีค่าหัว80ล้านเบรี หรือหน่วยต่อสู้ที่ดีที่สุดสองคนที่มีค่าหัว60ล้านเบรีกับ10ล้านเบรี และเจ้าหญิงที่ต้องจับเป็น32ล้านเบรี

    _____________________

    ในห้องควบคุมประตูหลักทหารเรือกำลังเปิดประตูให้เรือเข้าเทียบท่า

    "ให้เรือเข้าเทียบท่าได้"

    "เข้ามาในแนวคุ้มกันที่1เลย"

    "เตรียมสะพานสำหรับลูกเรือ"

    ทหารเรือสองคนวิ่งไปทางสะพาน ขณะที่ด้านหลังมีชายผมเขียวคุ้นเคยเดินผ่าน โซโลไม่ได้ปลอมตัวและอยู่ในชุดปกติของเขา มันเป็นแค่โชคดีที่ทหารเรือไม่เห็นเขา

    "เจ้าบ้าโซโล..."เซียร์มองจากตรงประตู เธอรู้สึกเหลือเชื่อที่ทหารเรือไม่เห็นโซโล"จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายเนี่ย"

    เซียร์เดินตามมาอย่างระวัง

    "ป้อมนี้ใหญ่ชะมัด ยังไงก็เถอะ ที่นี่มันที่ไหนหว่า จะกลับดีมั้ย?"โซโลพูด

    "กลับก็บ้าแล้วยะ"เซียร์พูดดังไม่น้อย และโชคดีที่ทหารไม่ได้ฟัง

    พวกเขากำลังทำตัวให้โดนจับทั้งคู่

    ประตูเปิดออกและเรือทั้ง3ลำเข้ามา

    ____________________

    ภายในฐานทัพเรือ นามิลอบเข้ามาในฐานได้ แต่การเดินสำรวจเป็นเรื่องยาก

    "มันยังไงกันนะ โครงสร้างของป้อมปราการนี้"นามิพูดหลบมุมเมื่อทหารเรือ3คนเดินผ่าน"ใหญ่เกินไปจนมองเห็นโดยรวมไม่ทั่วเลย"

    เมื่อทหารเรือไปหมดแล้ว นามิเดินไปทางตรงกันข้าม

    "แต่ยังไงก็ต้องรีบเผ่นไปจากที่นี่ซะแล้ว"นามิพูดกับตัวเอง"ขืนปล่อยไว้นานจะยิ่งหนีได้ลำบากขึ้น"

    นามิวิ่งไปเปิดประตูบานสีเขียว

    "ทุกคนหายไปไหนกันหมดนะ?"นามิพูดขณะเปิดประตูออกไป

    เธอเดินออกมาที่ระเบียงและตกใจกับสิ่งที่เห็น

    "ไม่จริง นี่มันอะไรกัน ใหญ่เกินไปแล้ว แล้วเรือแมรี่ล่ะ?"นามิรู้สึกตัวว่าเรือโจรสลัดของพวกเขาหายไป"เรือแมรี่ไม่อยู่ เดี๋ยวก่อนสิ เรือแมรี่ล่ะ!? ทองคำของพวกเราหายไปไหนแล้ว!? ทองๆๆๆ อุตส่าห์ได้มาอย่างยากลำบากขนาดนั้นแท้ๆ"

    นามิถอนหายใจแล้วหันไปเห็นเรือ3ลำจอดเทียบท่า

    "เรือ แถมยังเป็นเรือของกองทัพด้วย"นามิกล่าว
    ___________________

    "หน่วย31สินะ ไปที่ตึก7บล็อกBเลย"ทหารจี8สั่ง

    ___________________

    "มีเรือลำใหม่เข้าเทียบท่า งั้นก็แสดงว่าที่นี่ไม่ใช่ทะเลสาบ มีทางเชื่อมต่อกับทะเลภายนอก ไชโย ต้องรีบหาทุกคนให้เจอแล้วไปตามหาเรือโกอิ้งแมรี่ ถ้าเรามั่วนิ่มเข้าไปตอนกำลังชุลมุนกันอยู่ แล้วปลอมตัวเป็นคนของที่นี่ล่ะก็ ต้องหาข้อมูลได้บ้างแน่ ลูฟี่ คิรัวร์ เซียร์ วีวี่และโซโลน่ะพวกทหารเรือต้องรู้จักหน้าตาดีแน่ แต่ยังดีนะที่ไม่รู้จักเราไปด้วยน่ะ"

    "แกร็ก"ประตูเปิดออก

    "แย่แล้ว"นามิหันไปมองชายสองคน

    พวกเขาค่อนข้างสูง คนแรกตัวอ้วนใหญ่และผิวสีน้ำตาล เขาชื่อมาเลย์ โรเบิร์ต

    อีกคนร่างสูงและผอม มีผมสีม่วงและหนวดโค้งๆ เขาชื่อมาเลย์ จาค็อป

    พวกเขาทั้งคู่ต่างพกอุปกรณ์ทำอาหาร

    "ป้อมนี่มันยังไงกัน"โรเบิร์ตบ่น

    "อย่างกับเขาวงกตแน่ะ"จาค็อปเสริม

    "นี่เธอ ห้องครัวอยู่ที่ไหนรู้บ้างรึเปล่า?"โรเบิร์ตถาม

    "ครัว?"นามิทวน ทหารเรือพวกนี้ไม่ได้พยายามจับเธอ เธอรีบพยักหน้ายิ้ม"รู้สิคะๆ ห้องครัวใช่มั้ย"

    "พวกเราเพิ่งมากับเรือลำเมื่อกี้"โรเบิร์ตกล่าว

    "แย่ชะมัด ดันหลงทางซะได้"จาค็อปกล่าว

    "น่าสงสารจัง ฉันเองตอนที่มาอยู่ที่นี่เมื่อ5ปีก่อนก็หลงทางอยู่เรื่อยเลยละคะ"นามิพูดเรื่อยเปื่อย

    "เธออยู่ที่นี่ตั้ง5ปีเชียวรึ"โรเบิร์ตกล่าว

    "งั้นช่วยนำทางไปที่ห้องครัวให้ทีสิ"จาค็อปพูดอีกคน

    "ที่จริงจะขอความช่วยเหลือจากกุ๊กที่นี่คงไม่เหมาะ แต่ครั้งนี้ขอร้องเถอะนะ"โรเบิร์ตกล่าว

    "ไม่น่ามั่วเลยเรา"นามิคิดในใจ

    "พวกเราน่ะมาจากมารีจัวร์ สร้างบุญคุณไว้ไม่เสียหลายหรอก"จาค็อปกล่าว

    "ท่าจะไม่ละมั้ง"นามิคิดในใจ

    "นะ น้องสาวคนสวย"โรเบิร์ตกล่าว

    "แค่นี้ง่ายมากค่ะ"นามิพาทั้งสองเดินเข้าไปในฐาน และพยายามนำทางพวกเขาในฐานที่เธอก็ไม่รู้ทาง

    "พวกคุณสองคนรู้อะไรเกี่ยวกับป้อมนี้บ้างมั้ยคะ?"นามิถาม พยายามหาข้อมูล

    "ไม่เลย ก็พวกเราสองพี่น้องเป็นกุ๊กนี่นา"จาค็อปตอบ

    "เป็นกุ๊กที่มีชื่อพอสมควรในกองทัพเรือเชียวนะ"โรเบิร์ตกล่าว

    "แหม คนดังรึเนี่ย"นามิถาม

    "ฮี่ๆๆๆ"โรเบิร์ตหัวเราะ"พึ่งจะได้รับหน้าที่ให้มาเป็นเชฟที่ห้องครัวของที่นี่น่ะ"

    "ตอนอยู่ที่มารีจัวร์ เราเคยทำให้คนระดับนายพลพอใจในรสชาติมาแล้ว ระดับมันต่างกับพวกกุ๊กทั่วไปแถวบ้านนอกที่ทำอาหารตามใจชอบ ก็เลยต้องแสดงฝีมือให้เห็นซะก่อนว่าต่างชั้นกัน"จาค็อปกล่าว

    "ไม่มีใครถามเรื่องนั้นซะหน่อย"นามิบ่นอยู่ในใจ"ยังไงก็ต้องรีบสลัดเจ้าพวกนี้แล้วปลอมตัวหรือทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นหาข่าวไม่ได้แน่"

    "แหม สมกับเป็นกุ๊กในตำนาน"เธอร้องหันไปมองพวกเขา"ที่เหลือก็เลี้ยวตรงหัวมุมนี่แล้วเลี้ยวขวาแยกแรกแล้วตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายอีก2ครั้งก็จะถึงครัวค่ะ"

    "อ๋อ"จาค็อปเดินไปทางด้านข้างที่นามิบอก

    "ขอบใจมาก"โรเบิร์ตตามไป

    "ไปล่ะ"นามิรีบวิ่งหนีหายไป

    "แล้วแยกแรกที่ว่ามันตรงนี้รึ?"จาค็อปสงสัย

    พวกเขาหันกลับไปจะถามนามิแต่เธอหายไปแล้ว

    "หือ?"สองพี่น้องหันมามองหน้ากัน พวกเขาหลงทางอีกแล้ว

    ____________________

    นามิเดินออกมาจากห้องเก็บเสื้อผ้า สวมใส่ชุดทหารเรือและสวมหมวกปลอมเป็นผู้ชาย พร้อมทั้งผ้ากันเปื้อน

    "เท่านี้ก็เรียบร้อย"นามิกล่าวขณะใส่หมวกให้เรียบร้อย

    "นามิคาเสะ คิรัวร์!!"นามิตกใจ แต่เธอรู้ว่าปลอมตัวอยู่

    นามิมองร้อยโทแมทธิวพร้อมทหารเรือเดินผ่านทางไป

    "ที่บอกว่าเรือผีสิงก็หมายถึงเรือของเจ้าหมวกฟางลูฟี่ยังไงล่ะ"แมทธิวบอกทหารเรือทั้งสอง"แถมท่านผบ.โจนาธานยังมีคำสั่งลับให้พวกเราที่สังกัดหน่วยพันตรีเดรคจับตัวพวกมันมาให้ได้ จงคิดไว้ซะว่าพวกมันเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด"

    นามิรีบคว้าไม้กวาดมาเริ่มทำเป็นเช็ดพื้น

    "นามิคาเสะ คิรัวร์!? นักดาบที่น่าสะพรึงกลัว อดีตนักล่าค่าหัวงั้นสินะ ได้ยินว่าเป็นผู้ใช้วิชาดาบเพลิง เก่งไม่แพ้สายโรเกียเลยนะ"ทหารเรือคนแรกพูด

    "นอกจากนั้นยังมี นักล่าโจรสลัด โซโล, แม่มดขาว อนาตาเซีย, เจ้าหญิงโจรสลัด วีวี่ด้วยครับ"ทหารเรือคนที่สองพูด

    "ยังไงก็เถอะต้องจับตัวพวกมันแล้วทำให้นึกเสียใจที่มาที่นี่ให้ได้"แมทธิวกล่าว พวกเขาเดินเลี้ยวมุมด้านหน้าไป

    "มันบอกว่าจะทำให้ใครเสียใจนะ?"โซโลเดินออกมาจากทางด้านข้าง

    "อย่าออกไปสิ"เซียร์เตือน

    "โซโล เซียร์"นามิมองพวกมีค่าหัวทั้งสองคน

    "โอ้ ไง นามิ"โซโลหันมาทักทาย

    "โป๊ก!!!!!"นามิทุบไม้กวาดใส่โซโลกับเซียร์

    "ทำไมพวกนายถึงซี้ซั้วเดินกร่างแบบนั้นกันยะ!?"นามิตะโกน

    "มันเจ็บนะยัยบ้า!!!"โซโลตะโกน

    "เดินถือดาบสามเล่มกร่างแบบนั้นแค่แป๊ปเดียวก็ความแตกแล้ว"นามิพูดแล้วมองเซียร์"เธออยู่ด้วยแล้วทำไมไม่เตือนเขา"

    "ฉันเตือนแต่เขาไม่ฟัง"เธอถอนหายใจ

    นามิเข้ามาฉวยเอาดาบ3เล่มของโซโล

    "อย่าให้ฉันพลอยติดร่างแห่ไปด้วยสิ"นามิกล่าว

    พวกเขาทั้งสามได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้

    "ยังไงก็เถอะ รีบซ่อนตัวเร็ว"นามิวิ่งไปทางประตู

    "เฮ้ ดาบของฉันนะ"โซโลวิ่งตามไป เซียร์ก็ตามไปด้วย

    พวกเขาออกไปที่ระเบียง ทหารเรือเดินผ่านไปโดยไม่สนใจมองประตูที่เปิดอยู่

    "ได้เวลาไปกินข้าวกันแล้วล่ะ"

    "หิวชะมัดเลย"

    "ไปแล้วล่ะ"เซียร์พูดขณะแอบมองผ่านประตู

    "ไม่เห็นจะต้องทำตัวลับๆล่อๆเลยนี่ ถ้ามีเรื่องขึ้นมาจะซัดมันเลยก็ยังได้"โซโลกล่าว

    "บ้า ทุกคนอยู่ไหนยังไม่รู้เลย ขืนทำแบบนั้นละก็..."นามิกล่าว

    "ก็ไปตามหาทุกคนให้ครบสิ"โซโลกล่าว

    "มันก็จริงอยู่ เอ๊ยไม่สิ!! เรือแมรี่เองก็หายไปด้วยนะ"นามิกล่าว

    "ไม่มีปัญหาหรอกน่า ที่สำคัญวิวดีออกจะตายไป"โซโลเดินไปที่ขอบระเบียง"ตอนที่มาถึงนี่มันดึกแล้วก็เลยไม่ทันรู้นะเนี่ย ดีจังแฮะ นี่นามิ ยูริกะ ถ้ายืนดูตรงนี้อีกเดี๋ยวพวกนั้นก็คง---"

    "อย่ามัวพูดบ้าๆได้มั้ย ยังไงก็เถอะ นายน่ะอยู่เฉยๆตรงนี้เลย ชอบทำตัวเป็นเด็กขี้หลงทางอยู่เรื่อยให้ตายสิ"นามิโยนดาบไปยังพุ่มไม้นอกรั้วกั้น

    "นี่เธอ จะทำอะไรกับดาบของคนอื่น"โซโลรั้วพยายามคว้าดาบแต่มันตกไปไกลขึ้น

    "ลืมเรื่องดาบก่อนแล้วฟังฉัน"นามิสั่ง

    "ลืมไปซะ"โซโลกัดฟัน

    "ฉันจะอธิบายนายให้เข้าใจ"นามิทำราวกับพูดกับเด็ก"ถ้าหาคนอื่นๆเจอแล้วจะรีบมารับ รอไปเลย"

    นามิจะหันกลับเข้าฐานแต่เจอทหารเรือทันที ขณะที่เทียร์หลบหลังกำแพงทัน

    "นี่แกน่ะ ทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ"

    นามิหันไปก็เห็นว่าเป็นชายร่างใหญ่สวมชุดผ้ากันเปื้อน หนวดเครายาวและที่โพกหน้าผากสีแดง เขียนว่า'หัวหน้ากลุ่ม'ของเด็กรับใช้

    "อย่ามัวอู้อยู่ตรงนั้นได้มั้ย รีบทำความสะอาดซะ"

    "รับทราบค่ะ"นามิยกมือทำความเคารพและตามหัวหน้าไป

    นามิเดินผ่านทหารเรือที่สวมหมวกและผมสีดำปิดตาซ้ายไว้ เธอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

    "ภารโรง...นี่เธอปลอมตัวดีสุดแล้วเหรอ?"

    นามิหัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงคิรัวร์ เธอหันไปดูชายหนุ่มในชุดทหารเรือเดินไปที่ระเบียงที่โซโลกับเซียร์อยู่

    "คิรัวร์"นามิคิดในใจ แต่เธอโดนบังคับให้ต้องตามหัวหน้ากลุ่มไป

    คิรัวร์ที่ปลอมตัวมาในชื่อเกรย์เดินมาที่ระเบียงและเห็นเซียร์

    "คิรัวร์"แม้จะปลอมตัวอยู่ แต่เซียร์มั่นใจว่าใช่เพื่อนเธอ

    "ว่าไงนะ...เฮ้ยๆๆ"โซโลพยายามคว้าดาบแล้วล้มเหลว มันตกลงไปไกลกว่าเดิม โซโลเอามือจับราวออกไปนอกรั้วกั้นพยายามคว้าดาบ

    "อยากได้คนช่วยไหม?"เซียร์ถาม โซโลหันไปมอง

    เซียร์สร้างลมช่วยเอาดาบโซโลมา

    "บอกทีว่านายมีแผนหนีจากที่นี่"

    "แน่นอน"เขาตอบ

    "เยี่ยม ฉันร่วมด้วย"โซโลกล่าว

    "ฉันด้วยนะ"เซียร์กล่าว

    "ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่ามันคืออะไร"คิรัวร์กล่าว

    "นายไม่ต้องบอก"โซโลตัดบท"สมองลูฟี่ครั้งก่อนพาเราหนีจากปืนใหญ่และกระโดดบนบอลลูนปลาหมึก นามิโยนดาบของฉันลงบนต้นไม้ ไม่ว่าแผนนายคืออะไรฉันจะร่วมมือด้วย"

    "แม้จะต้องอยู่ที่นี่สักพัก?"คิรัวร์ถาม

    "แน่นอน"โซโลเห็นด้วย

    _________________

    "วุ่นวายไปหมดเพราะเรือผีสิงเนี่ยแหละ"

    "เอาน่ารีบๆกินข้าวแล้วไปทำงานต่อเถอะ"

    ตะแกรงด้านบนเปิดออก ซันจิมองทางเดินที่ไร้คน

    "เรือผีสิง?"ซันจิกล่าว

    "เจอแล้วเหรอของกิน?"ลูฟี่ยืนหน้าออกไป

    "รู้สึกว่าโรงอหารจะอยู่ทางนั้นนะ"ซันจิกล่าว

    "โรงอาหาร"ลูฟี่จะพุ่งลงไป แต่ซันจิจับขาไว้ก่อน ทำให้ร่างลูฟี่ยืดหัวชนพื้นเต็มๆ

    "ดึงฉันทำไม!!!!"

    "อย่าใจร้อนสิ"

    "ฉันอยากกินข้าวอ่ะ"ลูฟี่ยืนกราน

    ซันจิโดดผ่านช่องระบายอากาศลงมาทับลูฟี่เต็มๆ

    "ข้าว ข้าวจ๋าข้าว"ลูฟี่ยังคลานไปแม้จะโดนซันจินั่งทับ

    "ดื้อจริงเลยแฮะ"ซันจิกล่าว

    "ใครน่ะ!!!!"ทหารเรือวิ่งมาจากอีกมุมและชักปืน"อย่าขยับนะ"

    แต่เมื่อพวกเขาหันปืนก็ไม่พบใคร

    "แปลกจังแฮะ"ทหารเรือคนแรกกล่าว

    "คิดไปเองมั้ง"ทหารเรืออีกคนกล่าว

    "ก็เครียดมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่นาคงจะล้าไปหน่อย"ทหารเรือคนแรกพูดแล้วทั้งสองเดินไป

    "ยังไงก็รีบไปกินข้าวก่อนดีกว่า"ทหารเรือคนที่สองบอก

    ทหารเรือทั้งสองเข้าประตูสีเขียวใหญ่ไป

    ในห้องเก็บเสื้อผ้า ซันจิยกมือปิดปากลูฟี่เอาไว้

    "หนอย อีกนิดเดียวเกือบจะถูกพวกมันเจอตัวแล้วนะ"กุ๊กบอกกัปตัน

    ซันจิเงยหน้าขึ้นไปเห็นชุดกุ๊กทหารเรือที่แขวนไว้

    เวลาต่อมาซันจิกับลูฟี่ต่างปลอมตัวใส่ชุดกุ๊ก ทั้งสองต่างสวมหมวกเชฟ แต่ลูฟี่ดึงหมวกเชฟใส่ทับหมวกฟางของเขาทำให้ดูแบนๆ

    "ใช้ได้แล้ว แต่งตัวแบบนี้คงไม่มีใครสงสัยเราแน่"ซันจิกล่าว

    "ได้กลิ่นหอมๆด้วย"ลูฟี่กล่าว

    ซันจิเดินไปยังประตูเขียวใหญ่ที่ทหารเรือสองคนเดินเข้าไป

    "ห้องนี้เป็นห้องครัวเหรอ"ซันจิดูในห้องที่มีกุ๊กกำลังทำอาหารอยู่"ท่าทางน่าสนุกดีนี่"
    _____________________

    "นี่ มีเรือลำใหม่มาอีกแล้วล่ะ"ชินปาจิซุบซิบกับบิลลี่

    "อะไรนะ งั้นก็จวนจะมาแล้วสิเนี่ย เจ้าพวกน่ารำคาญนั่น"บิลลี่กล่าว

    "ได้ยินว่าพี่น้องคู่นั้นจะมาประจำการอยู่ที่นี่ด้วย"ทอมกล่าว

    "ครั้งแรกคือสิ่งสำคัญ"กุ๊กร่างสูงใหย่ผมสีน้ำตาลกล่าว"ทำให้มันร้องไอ้หย่าไปเลย"

    "โอ้!!!!"กุ๊กหลายคนร้อง

    กุ๊กคนนึงเอาเนื้อทอดลงไปส่งกลิ่นหอมโชยไป

    ____________________

    "เนื้อ กลิ่นเนื้อชัดๆเลย"ลูฟี่เดินไปที่ประตูพร้อมน้ำลายไหล

    "รู้จักคำว่าอดทนกับเขาบ้างรึเปล่าเนี่ย?"ซันจิถาม

    "ฉันรู้จักแค่คำว่ากินเนื้อไม่มีอั้นกับขอเพิ่มอีกเท่านั้นแหละ"

    "แค่นั้นเองรึเนี่ย"ซันจิพูดแล้วลูฟี่ก็ดันประตูเปิดเข้า"เฮ้ย ลูฟี่

    "ข้าว ข้าวจ๋าข้าว!!!"ลูฟี่ตะโกนเมื่อเข้าไปด้านใน

    และนั่นทำให้พวกเขาตกเป็นเป้าสายตาของกุ๊กในครัว

    "พวกนายเองเหรอ พี่น้องมาเลย์ที่ว่าน่ะ?"บิลลี่ถาม

    "มาเลย์?"ลูฟี่ทวน

    "โธ่เว้ย"ซันจิยกมือกุมหัว

    __________________________

    โรเบิร์ตกับจาค็อป มาเลย์ตัวจริงยังหาทางมายังห้องครัวอยู่ พวกเขาเปิดเข้าห้องเก็บเครื่องทำความสะอาด

    "ที่นี่เหรอ?"โรเบิร์ตถาม

    "ไม่รู้"จาค็อปกล่าว

    ___________________________

    "โอ๊ส!!!"ลูฟี่ยอมรับว่าเป็นพี่น้องมาเลย์

    "พวกนายคือกุ๊กฝีมือเฉียบที่เพิ่งมาจากมารีจัวร์สินะ"ชินปาจิกล่าว

    "หา?"ลูฟี่งง

    "ตึง!!"ทอมกระแทกผักผลไม้ลงโต๊ะ"เห็นว่าบ่นใหญ่เลยนี่ ที่ต้องมาป้อมปราการบ้านนอกทั้งที่ไม่อยากจะมา"

    "นินทาพวกเราว่าทำอาหารส่งเดชด้วยสินะ"บิลลี่กล่าว

    "ปากกล้าไม่เบานี่"ชินปาจิกล่าว

    "อะไรเนี่ย? พวกเราโดนเข้าใจผิดว่าเป็นใครกันล่ะเนี่ย"ซันจิกล่าว

    "บ่นโน้นบ่นนี่อยู่ได้ไม่เห็นรู้เรื่อง ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว เอาข้าวมาให้กินเร็ว"ลูฟี่ตะโกน

    "พวกนายเองเหรอ?"ตอนนั้นเองเสียงเจสสิก้าก็ดังขึ้น

    ลูฟี่กับซันจิหันไปมองเชฟสาวทำอาหาร

    "เจ้าบ้าที่ใช้วัตถุดิบราคา1ล้านเบรีทุกมื้อ เพื่อทำดินเนอร์ให้พวกคนใหญ่คนโตที่มารีจัวร์"

    "ว้าว!!!!"ลูฟี่กับซันจิร้อง ลูฟี่ร้องเพราะเนื้อย่าง ซันจิร้องเพราะสาวสวย

    "ถึงจะเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่สั่งการมาก็เถอะ"เจสซิก้าหันมามองพวกเขา"แต่ที่นี่คือห้องครัวที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของนาวาโลน"

    ซันจิกำลังยิ้มเมื่อเห็นสาวสวย แต่เขาหุบยิ้มเมื่อเห็นเจสซิก้ามองเขาตาดุ

    "ถ้าเป็นพ่อครัวที่ฉันไม่ยอมรับละก็ รับรองไม่ให้เข้ามาแม้แต่ก้าวเดียวแน่"

    "ใช่แล้วๆๆๆ"พวกกุ๊กโห่ร้อง

    "สมกับเป็นคุณเจสซิก้า"บิลลี่กล่าว

    "ป้อมปราการแห่งนี้ มีพวกบ้าระห่ำกว่า1,000คนประจำการอยู่"เจสซิก้าพูดพลางโยนเนื้อที่ทอดอยู่จากกระทะขึ้นไปบนอากาศ"กุ๊กของที่นี่จะต้องทำอาหารตอบสนองให้พวกนั้นพอใจ เพื่อเติมพลังให้กับกระเพาะของทุกคน เพื่อเหล่าทหารที่สู้รบอยู่ในแนวหน้า ทุกเช้าและทุกมื้อ เราจะพลาดกันไม่ได้แม้แต่เส้นผมสักเส้น"

    เนื้อที่เจสซิก้าโยนไปพุ่งลงไปใส่จานวางอยู่เรียบร้อยหมด

    "ระดับมันต่างกับพวกกุ๊กสั่วๆที่พึ่งพาวัตถุดิบแล้วทำคุยโอ๋"เจสซิก้ากล่าว

    "ไอ้นั่นน่ะให้ฉันกินได้รึเปล่า?"ลูฟี่ถาม

    "ลืมไปแล้วรึไง อาหารน่ะอยู่ตรงนี้ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำด้วยจิตใจ"เจสซิก้ากล่าวเอามือแตะกลางอก

    ซันจิหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ

    "สรุปแล้วอยากจะสอนเรื่องอาหารให้ฉันคนนี้งั้นสินะ?"ซันจิถาม

    "ฉันไม่คิดจะพูดจาใหญ่โตอะไรขนาดนั้นหรอก ก็แค่อยากให้คนที่พูดแบบนั้นได้เห็นถึงศักดิ์ศรีเท่านั้นเอง ไม่ว่าพวกนายจะเป็นใคร เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับที่นี่เลยสักนิด แต่ว่านะ ถ้าไม่ใช่ยอดฝีมือที่เชื่อใจได้ล่ะก็ รังแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเท่านั้นเอง ขอบอกให้ชัดเลยละกัน ตราบใดที่ทำให้ฉันยอมรับไม่ได้ ก็อย่ามาอวดอ้างว่าเป็นกุ๊กที่นาวาโลนแห่งนี้"

    "อย่างนี้นี่เอง น่าสนุกดีนี่มาดมัวแซล"ซันจิกล่าว

    _______________________

    คำท่าทายกระจายไปถึงทหารเรือที่มากินข้าว

    "อะไรกันน่ะ"

    "เอะอะอะไรกัน"

    "รู้สึกว่าพวกกุ๊กจะประชันอาหารกันแล้วล่ะ"พวกทหารเรือต่างแออัดยืนดูจากหน้าต่าง

    "หมอนั้นเป็นกุ๊กที่มาจากศูนย์ใหญ่เหรอ?"

    _____________________

    ซันจิกับลูฟี่ยืนอยู่ข้างๆเจสซิก้า บนโต๊ะเต็มไปด้วยวัตถุดิบมากมาย

    "จะใช้วัตถุดิบแบบไหนฉันไม่ว่าหรอกนะ"เจสซิก้าบอกผู้ท้าทาย"กติกาง่ายมาก ให้แต่ละคนทำอาหารสำหรับ100คน ส่วนผลลัพธ์จะให้พวกทหารที่กินเป็นคนตัดสิน"

    "ยังไงก็ไม่เข้าใจนักหรอกนะ แต่ชักตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว"ลูฟี่กล่าว

    "จะเริ่มเมื่อไหร่ก็ได้"ซันจิวางชุดมีดของเขา

    "ปู้น!!!!"พ่อครัวตัวใหญ่ผมน้ำตาลเป่าแตรเริ่มศึก

    กุ๊กของนาวาโลนเริ่มคัดวัตถุดิบออกมา

    "การต่อสู้ครั้งนี้ถึงตายก็ยอมแพ้ไม่ได้"ชินปาจิแล่ปลา

    "คัดสรรค์เฉพาะส่วนที่อร่อยเท่านั้น"ทอมกำลังสับเนื้อ

    ข้างๆบิลลี่กำลังคัดเอาผักกาดคุณภาพดีสุดใส่ตะกร้า

    "หือ?"ลูฟี่งงขณะที่ซันจิมองดูอีกฝ่ายทำอาหารเงียบๆ

    เจสซิก้ามองซันจิที่ยังไม่เริ่มทำอาหาร

    "คิดจะยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่ทำงั้นรึ?"เจสซิก้าคิดในใจ

    และเวลาก็ผ่านไปจนกุ๊กนาวาโลนทำอาหารสำหรับ100คนเสร็จ

    "เรียบร้อย"ทอมประกาศ

    "100ที่"บิลลี่เสริม

    "เป็นไง"ชินปาจิเยาะเย้ย

    "สุดยอดเลยทำเสร็จแล้วเหรอเนี่ย น่ากิน"ลูฟี่จะยื่นมือไปที่อาหาร

    "หยุดเลยนะ"เจสซิก้าตบมือลูฟี่ลงไป

    "ง่ายจะตายไป ก็พวกเราทำอาหารให้คนพันคนทุกมื้อเลยนี่"บิลลี่กล่าว

    "รวดเร็วเหมือนปลาวาฬที่ว่ายข้ามมหาสมุทร"ชินปาจิเสริม

    "นี่แหละกระดูกสันหลังของนาวาโลน"ทอมกล่าว

    ซันจิไม่พูดอะไรแต่คว้าวัตถุดิบที่กุ๊กนาวาโลนไม่เลือก ปลาทูน่าที่ยังมีเนื้อเหลืออยู่และถือตะกร้าหัวผักกาดไว้

    "ทำอะไรน่าเสียดายชะมัด"ซันจิพูดขณะตั้งเศษปลาทูน่าที่แทบจะเหลือแต่กระดูกไว้ด้านหน้า

    "คิดจะทำอะไรน่ะ?"ชินปาจิถาม

    "ตึกๆๆๆ"ซันจิลงมือหั่นเนื้อและกระดูกที่เหลือให้เป็นผงเล็กๆเต็มไปหมด

    "เจ้านั่น"ทอมตื่นตระหนก

    "หรือว่า"บิลลี่ร้อง

    "คิดจะเอาส่วนที่พวกเราไม่ได้ใช้"ชินปาจิกล่าว

    "บดก้างกับหัวปลาทูน่าให้เละ"ซันจิตัดมีดบดหัวปลาทูน่า และเอาเครื่องในใส่จานกวนมัน"ส่วนเครื่องในเอามากวนให้แหลก"

    "โห่!!!"พวกทหารเรือเฝ้ามองดูอยู่

    "จากนั้นก็เอามานวดกับเศษผัก"ซันจิบีบมันทำเป็นก้อนเนื้อกลมๆใส่จานและทิ้งลงหม้อใหญ่"ทอดด้วยน้ำมัน"

    "ต้มจนกว่าส่วนที่เป็นไขมันในเนื้อจะละลาย"ซันจิต้มมันและหยิบขึ้นมาชิมนิดหน่อย

    "ต่อไปก็ใช้ซอสสูตรพิเศษที่ทำจากน้ำซุปเปลือกหอย"ซันจิเอาซอสเทลงบนลูกชิ้นปลา

    "ทำให้เครื่องในหายเหม็นคาวน่ากินขึ้น รสชาติอันเข้มข้นจะทำให้ร่างกายที่อ่อนล้ารู้สึกปลอดโปล่ง"ซันจิอธิบาย

    ซันจิเอาชามเปลือกมันฝรั่งมาเทเครื่องเทศใส่ปรุงรส

    "นอกจากนี้เครื่องเคียงที่เหมาะสมเองก็เป็นสิ่งสำคัญ เปลือกของโกโบกับเปลือกของมันฝรั่งมีสารอาหารมากกว่าเนื้อในซะอีก เป็นแหล่งอาหารในอุดมคติของทหาร"ซันจิพูดพลางตัดบดเปลือกให้เป็นผง

    กุ๊กนาวาโลนและทหารเรือต่างพากันมองซันจิทำอาหารต่อไป

    "ใบของบรอกโคลีเอามาทำเป็นน้ำสลัดที่กลิ่นหอมนุ่มนวล"ซันจิพูดแล้วเทน้ำสลัดใส่จานทั้ง100ที่"นี่ล่ะ ควิชีน อา ลา คาร์ท"

    ซันจิทำอาหาร100จานเสร็จ เจสซิก้า กุ๊กและทหารเรือนาวาโลนมองด้วยความตะลึง

    "ที่นี่เป็นสนามรบใช่มั้ย?"ซันจิเตือนทุกคน"ถึงทำอาหารได้อร่อยสักแค่ไหน ถ้าขาดแคลนวัตถุดิบก็จะลำบากสุดๆเลยไม่ใช่เรอะ"

    "อะ..."เจสซิก้าประหลาดใจ

    "จะ1หมื่นเบรีหรือ1ล้านเบรีก็เถอะ วัตถุดิบน่ะจะใช้สูญเปล่าไม่ได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าวัตถุดิบแบบไหนก็ต้องทุ่มเมความรักให้ นั่นแหละหน้าที่ของกุ๊ก เหมือนกับมอบความรักให้เลดี้ทุกคน ตาแก่คนนึงสอนฉันมาแบบนี้แหละ"

    ซันจิก้าวถอยหลังและจุดบุหรี่สูบ ทหารเรือที่หิวโหยต่างโดดข้ามเข้ามากินอาหารของซันจิ

    "จิตใจปลอดโปร่งขึ้นเยอะเลย

    "รสชาติแบบนี้ไม่เคยกินมาก่อนเลย"

    "อร่อย"

    "โธ่เว้ย"บิลลี่สบถด่าตัวเอง"พวกเราที่ไม่อยากแพ้กุ๊กชื่อดัง ดันทำเรื่องแบบเดียวกับเจ้าพวกนั้นเข้าซะแล้ว ดันใช้แต่ส่วนที่อร่อยที่สุด"

    "อาหารของนาวาโลนมันต่างกับอาหารฟุ่มเฟื่อยของคนใหญ่คนโต เป็นอาหารที่ทำให้พวกทหารมีชีวิตต่อไปได้"ทอมกล่าว"ทั้งที่นั่นเป็นความมุ่งมั่นของคุณเจสซิก้าแท้ๆ"

    "แต่พวกเรากลับปู้ยี่ปู้ยำวัตถุดิบตามใจชอบ"ชินปาจิกล่าว

    "...."เจสซิก้ามองซันจิที่ทหารเรือยังอร่อยกับอาหารเขา

    "86...87...88..."

    เจสซิก้าหันไปมองและตกใจ ลูฟี่ใช้จังหวะที่ทุกคนหันไปสนใจการทำอาหารของซันจิไปกินอาหารของกุ๊กนาวาโลน

    "89...90"ท้องยางของลูฟี่พองขึ้นเพราะเทอาหารในจานใส่ปาก"91.....92...93...94..."

    กุ๊กนาวาโลนมองลูฟี่ที่กินเกลี้ยงทั้ง100จาน

    "สุดยอด เคยมีใครกินอาหารของพวกเราอย่างเอร็ดอร่อยขนาดนี้บ้างมั้ยเนี่ย"บิลลี่ร้อง

    "99.....100"ลูฟี่กินอาหารจานสุดท้ายหมดก่อนจะเปลี่ยนสีหน้า"อึก...!!!"

    "เป็นอะไรไป"เจสซิก้าถามขณะที่เธอและชินปาจิเข้าไปดูลูฟี่ที่ดูจะเจ็บท้อง

    "เป็นอะไรรึเปล่า"ชินปาจิถาม

    "ทำใจดีๆไว้"เจสซิก้าเสริม

    "อร่อย!!!!!"ลูฟี่ตะโกนขึ้นมาทำให้กุ๊กทุกคนต่างล้ม ลูฟี่เอามือจับท้อง"อิ่มแล้วๆ แน่นท้องจังเลย"

    "หึหึหึ"เจสซิก้ายิ้ม

    "ไปกันเถอะ"ซันจิเดินเข้ามา

    "อื้อ ไม่มีอะไรคาใจแล้วนี่นา"ลูฟี่พูดแล้วลุกขึ้น เจสซิก้าเองก็ยืนขึ้น"ขอบใจมากนะที่เลี้ยวข้าวฉัน"

    "ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะมีเรื่องกับคนสวยๆอย่างคุณนักหรอก"ซันจิพูดขณะเดินผ่านเจสซิก้า"เอาไว้เจอกันใหม่นะมาดมัวแซล"

    "เดี๋ยวก่อน"เจสซิก้าเรียกไว้

    "ยังจะเอาอะไรมาให้กินอีกเหรอ?"ลูฟี่ถาม

    "ทำให้ฉันคนนี้ต้องขายหน้าแล้วคิดจะหนีไปเลยรึ"เจสซิก้าหันมามองทั้งคู่"ชักถูกใจแล้วสิ ความตะกละกับความมุ่นมั่นนั่น พวกนายสองคน ตั้งแต่วันนี้เป็นพวกพ้องของเราแล้วนะ"

    "โอ้!!!!!"กุ๊กต่างโห่ร้อง

    "ฮี่ๆๆๆ"ลูฟี่หัวเราะ

    "มันต้องอย่างงี้สิ คุณเจสซิก้า"ซันจิหันไปมองตาเป็นรูปหัวใจ

    ลูฟี่กับซันจิสามารถปลอมตัวเป็นพี่น้องมาเลย์ในโรงอาหารได้สำเร็จ

    _____________________

    "ฮ้าว!!!!!"โจนาธานเอนตัวหาววอดบนเรือพายที่เขาให้สิบโทท็อดช่วยพายให้ เขาหยิบกล้องมาส่อง"ปุบปับคงหาเจอทันทีไม่ได้แน่"

    "มันแน่อยู่แล้วครับท่านผบ."ท็อดเห็นด้วย"ถึงเป็นโจรสลัดก็เถอะ คงไม่มาอยู่ในที่ที่หาเจอได้ง่ายหรอกครับ แถมใครมันจะรอเราในที่โล่งแจ้งล่ะครับ?"

    "ก็นะ จะมีใครมาซ่อนตัวอยู่ในที่เด่นสะดุดตาแบบนี้กัน"โจนาธานพูดขณะส่องกล้องไปรอบๆ"แต่ว่า ในบรรดาโจรสลัดพวกนั้นก็มีอยู่คนสองคนที่ใจกล้าไม่เบาเหมือนกันแหละ"

    "จะมีเหรอครับคนแบบนั้น?"ท็อดถาม

    "ปังๆๆๆ"เสียงปืนดังขึ้นมา"โรโรโนอา โซโล และอนาตาเซีย!!!!"

    โจนาธานได้ยินหันกล้องไปทางนั้น และเห็นนักดาบผมเขียวฟันใส่ทหารเรือคนนึง

    "อา!!!!!"ทหารเรือคนนั้นล้มลงพื้น

    "วันนี้ดูท่าจะไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่าซะแล้ว"โจนาธานบอกท็อด"รีบเรียกกำลังเสริม ร้อยโทแมทธิวน่าจะลาดตระเวณอยู่พร้อมหน่วยของเขา"

    "ทันทีครับท่าน"สิบโทท็อดหยิบแมลงโทรสารออกมา"ร้อยโทแมทธิว เราพบโรโรโนอา โซโลและอนาตาเซีย อยู่บนระเบียงชั้น4ที่น่าจะใกล้กับตำแหน่งของคุณ พวกเขาจัดการทหารเรือไปคนนึงแล้ว เราต้องการกำลังเสริมโดยด่วน"

    "กำลังไป"แมทธิวตอบกลับผ่านแมลงโทรสาร"ผมจะให้หน่วยผมทั้งหมดไปรวมตัวที่นั่น"

    ______________________

    "เราเป็นจุดสนใจพวกเขาแล้ว"คิรัวร์พูด โซโลฟันเขาตื้นๆที่ตาแดงข้างขวา"จำไว้ ห้ามฆ่า"

    "ตกลง"โซโลกล่าว

    "โอเค"เซียร์พยักหน้า ตอนนี้เธอเปลี่ยนธนูดำของเธอเป็นคทาสีขาว

    โซโลกับเซียร์หันหน้าออกจากระเบียง แต่เกรย์เข้าจับขาโซโลไว้ทำให้โซโลสะดุดล้มลงพื้น

    "เฮ้ ปล่อยสิฟะ"โซโลกระทืบเท้าใส่เกรย์

    "อั๊ก!!!!"เกรย์ร้องขณะที่กลิ้งไปริมระเบียงและกอดฝักดาบ3เล่มไว้ที่หน้าอก

    "เฮ้ย ดาบฉัน"โซโลตะโกนขณะที่เขาถือเพียงวาโดอิจิมอนจิ ทหารเรือคว้า3ฝักดาบที่ซังไดคิเทซึและยูบาชิริยังอยู่ในฝัก

    "ปัง!!!"ประตูเปิดออกอย่างรุนแรง แมทธิวและคนของเขา10คนอยู่ข้างหลัง"นักล่าโจรสลัด โซโล แม่มดขาว พวกแกถูกจับกุมแล้ว"

    "ฝันเถอะ"โซโลสบถ

    "แว็บ"แสงส่องมาจากคทาสีขาวแล้วก็มีไม้กวาดโผล่มาเธอเริ่มบิน

    "มันเป็นแม่มดจริงๆด้วย"

    "อย่าให้บินหนีไปได้"แมทธิวสั่ง"ยิงเดี๋ยวนี้"

    "ใครหนีกัน....เขี้ยวสิงโต!!!"

    "คลื่นตัดนภา!!!"

    "ตูมๆๆๆ.....ฉัวะ!!!!"กระแสลมจากเวทของเทียร์ทำให้ทหารเรือหลายสิบคนถูกซัดกระเด็น ขณะที่โซโลฟันผ่านแมทธิวล้มลงพื้นไป

    "เอาล่ะ"โซโลเดินกลับมาหาเกรย์"นายมีของของฉัน เอาดาบฉันคืนมา"

    "แกร็ก!!!"ทันใดนั้นเอง มีเบ็ดตกปลามาเกี่ยวคทาและดึงหลุดจากมือเซียร์ที่ประมาท

    แม้จะเป็นแผนแต่ทุกคนก็คาดไม่ถึง

    "แย่แล้ว...กรี๊ดดด!!!"

    คทาหลุดมือแล้วไม้กวาดก็กลายเป็นแสงหาย ทำให้เธอร่วงเกือบตกทะเลแต่จับราวกั้นไว้ ส่วนคทาตกทะเลตามแผน

    โซโลกับเซียร์มองลงไปดูชายที่มีหนวดเฟิ้มและผมสีส้มใช้ตะขอเบ็ดดึงตัวเองขึ้นมาที่ระเบียงชั้น4นี้

    "สวัสดี"โจนาธานทักทาย"คุณด้วยสาวน้อย ขอโทษที่ต้องเสียมารยาท"

    "ย๊าก!!!!"เกรย์พุ่งขึ้นมาจากพื้นและชกโซโลล้มลงพื้นไป

    "เหอะ"ทางด้านเซียร์หยิบแผ่นยันต์ออกมาแต่โดนคิรัวร์ชักมีดออกมา

    พอดีกับได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น

    "ปัง!!!"เรือเปิดมาอีก เป็นกลุ่มทหารเรือกลุ่มใหม่มาถึง

    เกรย์หลบกระสุนเพลิงจากแผ่นยันต์แม่มดขาวและเอาดาบจ่อที่คอเซียร์ท่ามกลางสายตาทหารเรือ

    "ยอมแพ้ซะ"เสียงหนึ่งดังขึ้น

    โจนาธานตามขึ้นมามาถึงระเบียงมองโจรสลัดทั้งคู่

    "ยินดีต้อนรีบสู่นาวาโลนของฉัน"โจนาธานพูดต้อนรับโจรสลัด"ก่อนอื่นก็2ตัวแรก"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×