ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    =\/=ปริศนาในอดีตที่ใครๆต่างก็อยากรู้=\/=

    ลำดับตอนที่ #1 : ~"นูเรมเบิร์ก"อนุสรณ์"ฮิตเลอร์"ในสงครามโลกครั้งที่ 2~

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 241
      0
      21 เม.ย. 49



    คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีผู้แพ้และผู้ชนะตลอดกาล" ยังคงใช้ได้ดีในยุคสมัยปัจจุบัน


    เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจมนุษย์เราได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 30 เมษายน ที่ญวนรำลึก "30 ปี ไซ่ง่อนแตก" หรือวันที่ 9 พฤษภาคม วันครบ "60 ปี วีอีเดย์"(Victory in Europe) ที่กองทัพรัสเซียมีชัยเหนือกองทัพนาซีเยอรมัน

    แม้กระทั่งวันครบ "400 ปีที่สมเด็จพระนเรศวรฯ บุกเข้ากรุงหงสาวดี"

    เหตุการณ์ในอดีตสอนให้เราเรียนรู้ถึงความยิ่งใหญ่ การมีอำนาจ ความทะเยอทะยานของผู้นำคนแล้วคนเล่า ขณะเดียวกันชัยชนะและการปราชัยก็เป็นอนุสรณ์เตือนใจ

    ที่สำคัญคือ ซากปรักหักพังและการบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าดีหรือเลว ก็ยังคงอยู่กับมนุษย์ต่อไปตราบนานเท่านาน


    ประเทศเยอรมนี เมืองที่เคยรุ่งเรืองสมัยที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ก้าวขึ้นมาบริหารปกครองประเทศ ในนามของนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 60 ปีที่ผ่านมา

    ฮิตเลอร์ที่ใครๆ ก็นึกถึงแต่บุคลิกที่เป็นเผด็จการกับหนวดจิ๋มเหนือริมฝีปาก ฮิตเลอร์ที่แสนจะโหดร้ายป่าเถื่อน ฆ่าแทบล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว แต่อีกแง่หนึ่งเขาคนนี้แหละที่ส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาทางด้านการทหาร อาทิ เรือเหาะ จรวด รถถัง ฯลฯ แม้กระทั่งความก้าวหน้าเกี่ยวกับอวกาศของสหรัฐอเมริกาที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ก็มีที่มาจากชาวเยอรมันที่นำความรู้เรื่องจรวดที่ได้จากการค้นคว้าในยุคของฮิตเลอร์นี่เอง

    ฮิตเลอร์ขึ้นมาบริหารประเทศภายใต้ความกดดันรอบด้าน การพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ถือเป็นการสิ้นสุดจักรวรรดิเยอรมัน จากการที่ต้องเสียดินแดน ต้องรับสนธิสัญญาที่เสียเปรียบหลายๆ ประเทศ การจำกัดกองกำลังทหาร ฯลฯ แม้จะเป็นคนออสเตรียแต่ความที่รักเยอรมันนักหนา เมื่อเขาขึ้นมามีอำนาจจึงทำการปรับปรุงประเทศตามความคิดและอุดมการณ์ของตนเอง เริ่มตั้งแต่ด้วยการควบคุมสื่อต่างๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ไว้ในมือ ยุบรัฐต่างๆ มาขึ้นกับรัฐบาลกลาง

    กวาดล้างยิว กำจัดศัตรูทางการเมือง กำจัดพรรคคอมมิวนิสต์ที่กำลังขยายอิทธิพล แล้วเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงให้กับเยอรมันให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการสะสมกำลังทหาร อาวุธ ทั้งทางเรือและอากาศ


    เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วฮิตเลอร์ก็เริ่มต้นทำสงคราม ด้วยการบุกโปแลนด์ รุกประเทศต่างๆ ในยุโรป ตั้งแต่อังกฤษ ฝรั่งเศส กระทั่งรัสเซีย จนเกือบจะได้ครองทวีปยุโรปทั้งทวีป แต่เมื่อฝ่ายพันธมิตร ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นแกนนำรวบรวมกำลังพล รุมล้อมเยอรมนี ที่สุดเยอรมนีก็ต้องพบกับการปราชัยในหลายยุทธภูมิ

    ฮิตเลอร์ต้องสูญเสียทหารไปเกือบ 3,000,000 คน บาดเจ็บอีก 7,000,000 คน แล้วยังมีความเสียหายทางเศรษฐกิจอีกจำนวนมหาศาล ฮิตเลอร์ต้องกระทำอัตวิบากกรรม เยอรมนีจึงต้องยอมพ่ายแพ้ในสงคราม และถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศทันที ปัจจุบันเยอรมนีได้กลับมารวมเป็นประเทศเดียวกัน


    *นูเรมเบิร์ก* เป็นเมืองที่อยู่ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองมิวนิก โดยเดินทางโดยรถไฟจากมิวนิกไปประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ นับเป็นอนุสรณ์สงครามแห่งหนึ่งของกองทัพนาซี

    เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแคว้นบาวาเรีย และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการค้าที่สำคัญ ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11

    ก่อนสงครามเมือง นูเรมเบิร์กได้ถูกจัดตั้งเป็นศูนย์กลางของการบริหาร มีที่ทำการรัฐสภาที่ยิ่งใหญ่ มีสนามที่ใช้ระดมพลจำนวนนับแสนคน

    แม้จะถูกทำลายลงไปเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยพยายามรักษารูปแบบเดิมและเสน่ห์เก่าๆ ของเมืองไว้ ปัจจุบันสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ยังคงปรากฏเป็นอนุสรณ์ถึงความรุ่งเรืองและการปราชัยในวันวานได้เป็นอย่างดี


    *ที่ทำการรัฐสภา* (Congress Hall) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ก่อด้วยหินทรายสีแดงเชื่อมติดต่อกันเป็นรูปโค้งเกือกม้า สูง 3 ชั้น มีช่องประตูหน้าต่างเป็นรูปโค้งและสี่เหลี่ยม ตรงกลางอาคารเป็นสนามขนาดใหญ่ มีอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขวางอยู่ด้านหน้าทั้งสองด้าน

    รัฐสภาแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการประชุมรัสภา เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อพันธมิตรบุกเข้าโจมตีนูเรมเบิร์ก รัฐสภาแห่งนี้ถูกทำลายลง

    ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในรูปแบบเดิม โดยใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ และศูนย์ข้อมูลในการศึกษาประวัติศาสตร์

    ทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์มีบันไดเหล็ก นำทางให้เดินเข้าไปสู่ภายในที่มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ สร้างด้วยเหล็กและกระจก ซึ่งอยู่ทางด้านเหนือของอาคาร ภายในมีศูนย์ข้อมูล ทั้งที่เป็นเอกสาร ซีดี ฯลฯ จำหน่ายพร้อมกับเครื่องฟังบรรยาย

    ทางเดินเข้าชมในพิพิธภัณฑ์ แม้จะอยู่ในตัวอาคารเดิมแต่ได้รับการออกแบบยกพื้นขึ้นใหม่ มีทางเชื่อมติดต่อกัน นำเข้าไปชมรูปถ่ายขนาดใหญ่ที่ว่าด้วยเรื่องราวของสงคราม มีห้องชมภาพยนตร์ขนาดเล็กๆ หลายห้องฉายเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสงครามตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

    ตอนสุดท้ายของอาคารมีประตูกระจกเปิดออกไปด้านนอกตัวอาคารของรัฐสภาที่เป็นสิ่งก่อสร้างเดิม ให้ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

    ส่วนด้านล่างของรัฐสภาจัดเป็นศูนย์ข้อมูล รวบรวมเอกสาร เรื่องราวของสงคราม และเป็นเวทีที่ใช้ในการศึกษาด้านวิชาการ


    *สถานที่ระดมพล* ตั้งอยู่ใกล้กับรัฐสภา โดยมีสระน้ำขนาดใหญ่ขวางกั้น

    ลักษณะเป็นอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ ก่อสร้างด้วยหินทราย ยาวเกือบ 500 เมตร ตรงกลางอัฒจันทร์สร้างเป็นเวทีสูงขึ้น มีลูกกรงเหล็กกั้น

    เมื่อ 60 ปีก่อน ฮิตเลอร์เคยยืนตรวจแถวทหารจำนวนนับแสนคนเพื่อระดมพล หรือสวนสนามแสดงแสนยานุภาพในการสงคราม มีประชาชนจำนวนมากนั่งชมการระดมพลของเหล่าทหารเนืองแน่นไปหมด

    ใครที่ได้เข้าไปชมอาจจะยังพอจินตนาการถึงภาพของฮิตเลอร์และบรรดานายพลทหารที่เคยยืนอยู่ท่ามกลางทหารรับหมื่นนับแสนคน แม้ว่าปัจจุบันจะเหลือแต่ความเงียบเหงา ว่างเปล่า แต่ก็ยังปรากฏร่องรอยให้เห็นเป็นอัฒจันทร์ที่รอบด้านถูกทำลายลงหมด ตรงกลางเป็นถนนคอนกรีตและสนามหญ้ากว้าง


    *สระน้ำขนาดใหญ่* ตั้งอยู่บริเวณรัฐสภากับสถานที่ระดมพล เป็นสระน้ำที่มีน้ำใสสะอาด มีฝูงนก ฝูงเป็ดอาศัยอยู่ บริเวณโดยรอบมีถนนคอนกรีต ใช้เป็นที่ออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน และเล่นล้อสเก็ตช์ของเยาวชน

    ภายในเมืองนูเรมเบิร์กยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง และอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ น่าชมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะวิหารเซนต์ลอเรนซ์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม

    เหล่านี้คืออนุสรณ์สถานอันยิ่งใหญ่ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ ซึ่งชาวเยอรมันยังคงรักษาไว้โดยไม่เกี่ยงงอนว่าจะเป็นหลักฐานแสดงถึงความรุ่งเรืองหรือความปราชัยของตนที่ผ่านมา

    แต่ด้วยคิดว่าจะใช้เหตุการณ์ในอดีตให้เป็นเครื่องเตือนใจ สอนคนในชาติให้รู้จักเรียนรู้อดีต เพื่อสร้างปัจจุบันและอนาคตให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×