ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 :: NEVER MIND! ซิงเกิลแป๊บดิ

    ลำดับตอนที่ #7 : CHAP-6 = Too hot, So hot, Very hot!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.72K
      26
      15 ม.ค. 59

    B E R L I N ❀



    NEVER MIND! ซิงเกิ้ลแป๊บดิ

    CHAPTER 6 = Too hot, So hot, Very hot









               “นี่คุณ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ผมหิวแล้วนะ” แบมแบมนั่งพิมพ์เอกสารในแมคบุ๊คไป ก็บ่นไปพร้อมๆกัน

    มาร์คที่กำลังหั่นไส้กรอกสลับกับผัดอาหารในกระทะบนเตามือเป็นพัลวัน ลอบถอนหายใจเบาๆ “มันคงเสร็จไปนานแล้วนะครับ ถ้าคุณจะมาช่วยผมทำตั้งแต่แรก”         

    “ไม่เอาหรอก ผมไม่ชอบทำอาหาร” แบมแบมเบะปาก “ยุ่งยาก ซื้อเขากินง่ายกว่าตั้งเยอะ”

    “เพราะแบบนี้ยังไงล่ะครับ ถึงได้ยังโสด”

    “เอ๊ะ นี่คุณยังไงกันแน่เนี่ย การที่ผมทำอาหารไม่เป็น มันเกี่ยวอะไรกับการที่ผมจะโสดหรือไม่โสดกันล่ะ” ถึงกับฉุน วางมือจากงานเลยทีเดียว

    มาร์คยิ้มพอใจที่ทำให้อีกคนเป็นแบบนี้ได้ แม้มันจะดูเหมือนการแกล้งกันของเด็กไปหน่อยก็ตามเถอะ “คุณไม่เข้าใจหรอก”

    “ทำไม มันยากอะไรนักหนา ผมถึงจะเข้าใจไม่ได้” ดีไซเนอร์หนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาดุ่มๆไปยังโซนห้องครัวทันที

    “ก็ช่วงเวลาตอนที่ได้ทำอาหารกับคนที่เรารักน่ะ มันมีค่ามากเลยนะครับ ช่วยกันทำ ให้เราได้กินของดีๆ รสชาติอร่อยไปด้วยกัน สนุกดีออก” หันไปคนกระทะต่อ

    “เรื่องแค่นี้เอง ซื้อมาก็กินด้วยกันได้เหมือนกันนั่นล่ะ” แบมแบมกอดอก

    “คุณต้องเพิ่มนิสัยละเอียดอ่อนให้มากขึ้นนะครับ”

    “นี่คุณกำลังหลอกด่าผมอยู่รึเปล่า”

    “คุณคิดมากเกินไปครับ” ปิดท้ายด้วยรอยยิ้มจืดๆ ก่อนจะตักอาหารใส่จานมาวางที่โต๊ะ

    แบมแบมเลือกนั่งเก้าอี้ข้างๆอีกฝ่ายแทนที่จะเป็นฝั่งตรงข้าม มองอาหารที่เสร็จแล้วท้องก็ชักจะร้องขึ้นมานิดๆ “งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ”

    “กินให้อร่อยนะครับ” คุณผู้ชายแว่นหนาเตอะมองอีกฝ่ายลงมือกินแล้วก็ยิ้มน้อยๆ “อร่อยมั้ยครับ”

    “ก็พอทน...”

    “แค่พอทนเองเหรอครับ”

    “อร่อย” กระแทกเสียง “อร่อยมากกกกกกกก”

    เสียงหัวเราะของมาร์คดังขึ้นเบาๆ จากนั้นจึงลงมือกินในส่วนของตัวเองบ้าง

    “นี่คุณ สรุปว่าคุณตกปากรับคำเล่นเป็นแฟนผมแล้วนะ ห้ามชิ่ง ห้ามเปลี่ยนใจเด็ดขาดนะ” แบมแบมเคี้ยวไปก็ทวงสัญญาไป

    “ถึงผมพูดว่าไม่ตอนนี้คุณก็คงไม่ฟังแล้วล่ะครับ”

    “อะไร คุณได้ผมแล้วนะ” ยักคิ้ว

    “ได้คุณ” มาร์คทวนคำ “ตอนไหนครับ”

    แม้จะทำปากเก่งแค่ไหน แต่จริงๆแล้วใบหน้าของแบมแบมก็ขึ้นสีแดงอยู่พอสมควร “จะต้องให้ทวนท่าด้วยเหรอคุณ”

    “ผม...” มาร์คขมวดคิ้ว “เรื่องวันก่อนน่ะเหรอครับ”

    “อะไรกัน อย่าบอกนะว่าคุณลืมแล้วน่ะ”

    “ผมยังไม่ได้ลืมครับ แต่นั่น...มันก็....”

    “ก็อะไรคุณ” ยักคิ้วหลิ่วตา “พูดสิ พูด...”

    “คุณนี่มันจริงๆเลยนะครับ” มาร์คอ่อนใจ “ผมยังไม่ได้มีอะไรกับคุณสักหน่อย”

    “โหย ทำขนาดนั้นแล้วยังมีหน้ามาพูดอีกนะคุณ” แบมแบมใช้ตะเกียบชี้หน้า “รู้มั้ยกว่าผมจะล้างคราบของคุณออก...”

    “เรากินอาหารกันอยู่นะครับ” มาร์คจำต้องขัดริมฝีปากกล้านั่น

    “เฮอะ” จิ๊ปาก “กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ยังจะมีหน้ามาพูดว่ายังไม่ได้ทำ”

    “คุณแบมแบม...” กดเสียงต่ำ

    แต่อีกฝ่ายยังลอยหน้าลอยหน้า “ทำไม โมโหหรอ จะดึงผมเข้าไปจูบอีกเหรอ เอาสิ เอาเลย” ยื่นหน้าทำปากจูจุ๊บอีกต่างหาก

    มาร์คเอื้อมมือไปดึงจานอีกฝ่ายมาไว้กับตน “งั้นคุณก็ไม่ต้องทานต่อแล้ว อันนี้ผมเป็นคนทำ”

    “เฮ้ย ไม่ได้นะ” รีบตระครุบกลับ “ครัวผม ของนี่ผมก็ซื้อมา คุณอย่ามาโมเม”

    “ถ้าอย่างนั้นก็รีบกินได้แล้วครับ” ส่ายหัวให้กับความขี้ยั่วของอีกคน

    แบมแบมหน้างอ “เกลียดคุณจัง”

    “ขอบคุณครับ” มาร์ครับคำแล้วจึงจัดการอาหารตรงหน้าต่อ

    ดีไซเนอร์หนุ่มจึงต้องรีบลงมือกินบ้างเพราะกลัวจะโดนแย่งไปอีกครั้ง

    ทั้งคู่ต่างกินอาหารต่อไปเงียบๆจนหมดจาน จากนั้นมาร์คจึงเดินไปหยิบจานผลไม้ที่หั่นชิ้นแล้วแช่ตู้เย็นไว้ออกมาวางเป็นของหวานล้างปาก

    “ใครได้คุณเป็นแฟนนี่โคตรโชคดีเลยรู้มั้ย” แบมแบมเคี้ยวเต็มปาก

    มาร์คยิ้ม “ตอนนี้...คนที่โชคดีก็คุณไง”

    เจอมุกหยอดซึ่งๆหน้าแบบนี้ใครจะไปต่อได้ถูกกันล่ะ แบมแบมแทบจะสำลักสิ่งที่กินอยู่ “ผมขอถอนคำพูด”

    มาร์คยิ้ม ไม่ว่าอะไร ก่อนจะเหลือบสายตามองหน้าตักตัวเองที่อีกฝ่ายเลื่อนขามาวางพาดทับไว้ “ซนอีกแล้วนะครับ” ดูจังหวะการถูกไถกับเป้ากางเกงเขาอย่างเฉียดๆก็พอจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายจงใจ

    ยักไหล่ “เมื่อย อยากวาง”

    “คุณนี่ไม่เคยเข็ดเลยจริงๆนะครับ”

    “ก็เวลาคุณหงุดหงิด หรือโมโหนี่มันดูน่าแกล้งขึ้นไปอีกนี่นา”

    มาร์คส่ายหัว “แล้วเวลาอยู่ห้องนี่แต่งตัวแบบนี้ตลอดเลยเหรอครับ” กวาดสายสายมองตั้งแต่ากางเกงขาสั้นที่เรียกได้ว่าสั้นจริงๆ จนเผยให้เห็นต้นขาเขียน แล้วไหนจะเสื้อไร้แขนที่แหวกข้างกว้างซะเขาเห็นไปถึงไหนต่อไหน

    “เปล่าหรอก ธรรมดาก็ใส่ปกตินั่นล่ะ แต่นี่ใส่มายั่วคุณเฉยๆ เผื่อคุณจะมีอารมณ์” ตอบหน้าตาเฉย

    “ผมจะทำยังไงกับคุณดีเนี่ย” ถึงกับต้องนวดขมับ

    “ทำไมล่ะคุณ” เลิกคิ้ว “ผมน่ารักออก ไม่ชอบผมเหรอ”

    “หยุดทำแบบนั้นครับ” มาร์คดุเมื่ออีกฝ่ายเอนตัวมาด้านหน้าจงใจให้เขาเห็นแผ่นอกเนียนที่ลอดผ่านเสื้อตัวบางมาให้ดู “ถ้าคุณเป็นน้องเป็นนุ่งผมจริงๆ ผมจะฟาดให้ก้นลายเลย”

    “ไม่ใช่น้องก็ฟาดได้นะ”

    “สนุกมั้ยครับ ปั่นหัวผมเล่นเนี่ย”

    “สนุกมากกกก” หัวเราะปิดท้ายแล้วจึงเอนตัวไปนั่งพิงเก้าอีเหมือนเดิม หยิบชิ้นผลไม้มากิน

    “แค่เถียงกับคุณผมก็เหนื่อยแล้วครับ”

    “ทำใจเถอะคุณ คุณยังต้องเหนื่อยกับผมไปอีกนาน” แบมแบมคาบชิ้นแอปเปิ้ลไว้ในปากแล้วกลับยื่นหน้าเอาอีกด้านไปจ่อไว้กับปากของมาร์ค “อื้อออ...” ส่งเสียงร้องเร่งในลำคอ

    มาร์คจำต้องกัดอย่างเลี่ยงไม่ได้ครึ่งหนึ่ง มองเจ้าของร่างเนียนๆที่ยกยิ้มพอใจเคี้ยวส่วนที่อยู่ในปากตัวเอง

    “ชิ้นนี้อร่อยที่สุดเลยแฮะ”

    “รีบกินให้หมดเถอะครับ ผมจะไปล้างจาน” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนทันที เพราะวันนี้เขาโดนแกล้งจนน่าจะเกินขีดจำกันต่อวันที่จะต้านทานไหวแล้ว

    “โหย อะไรอะคุณ” แบมแบมหน้างอ “ป๊อดอะ”

    “ผมไม่ได้ขี้ขลาด”

    “ถ้าไม่ขี้ขลาดก็คงตายด้านแหงๆ” แบมแบมหยิบผลไม้อื่นมาเคี้ยว “ถ้าเป็นคนอื่นนะ เจอผมทำขนาดนี้ ป่านนี้เราโยกกันอยู่บนเตียงแล้ว คุณนี่มัน...”

    มาร์คชะงักมือที่จับฟองน้ำ พูดขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าอีกฝ่าย “อย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณครับ”

    แบมแบมที่จับน้ำเสียงความไม่พอใจนั้นได้จำต้องหยุดดื้อทันที เสไปนั่งกินผลไม้ต่อเงียบๆ

    “แล้วก็อย่าลดคุณค่าตัวเองด้วยการพูดอะไรทำนองนั้นด้วย ผมไม่ชอบ”

    “อือ...”

    “อืออะไรครับ” วางจานไว้บนชั้น

    “เข้าใจแล้วไงครับคุณ” จ๋อยสนิทเลย

    “ครับ” มาร์ครับคำสั้นๆแล้วจึงล้างพวกเครื่องครัวประกอบอาหารที่ทำไว้ต่อ

    ดีไซเนอร์หนุ่มเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบไป และตัวเองก็คงจะทำผิดจริงๆจึงยอมลุกขึ้นพร้อมกับจานผลไม้ที่หมดแล้ว นำไปยื่นลงในอ่างล้าง ส่วนตัวเองก็เดินมาสวมกอดคุณผู้ช่วยจากด้านหลัง เอียงซบหัวกับไหล่บ่าอีกคน

    “ขอโทษ...”

    “ครับ”

    “ที่ดื้อ...”

    “ครับ”

    “ที่แกล้งด้วย...”

    “ครับ”

    แบมแบมเม้มปากให้กับการพูดคำต่อคำ กระชับวงแขนรอบเอวอีกฝ่ายแน่นขึ้น “อย่าโกรธผมเลยนะคุณ”

    “ก็ไม่พอใจนิดหน่อย แต่ไม่ได้โกรธหรอกครับ”

    “ปากผมก็ไม่ดีแบบนี้ล่ะ อย่าถือสาผมเลยนะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาจะต้องมาง้อคนที่เชยหลุดโลกอย่างคนตรงหน้านี้ด้วย แต่แค่อีกฝ่ายทำท่าทีเย็นชาแบบเมื่อครู่เขาก็ไม่ชอบใจแล้วล่ะ

    “ปล่อยเถอะครับ ผมล้างจานเสร็จแล้ว”

    “ยังโกรธผมอยู่รึเปล่า” ยังไม่ยอมปล่อยแขน

    มาร์คยกมือมาจบหลังมือที่สอดรัดอยู่ตรงหน้าท้องตนเบาๆ “เลิกทำท่าทีเซื่องซึมได้แล้วครับ ผมไม่ได้โกรธคุณจริงๆ” ค่อยๆดึงสองมือนั้นแยกจากกัน พลิกตัวหันไปเผชิญหน้าด้วย “ดูหน้าคุณตอนนี้สิครับ บู้บี้ไปหมดแล้ว”

    “ก็ผมไม่อยากให้คุณโกรธผมนี่นา”

    “ผมก็ไม่ได้โกรธคุณครับ เลิกทำหน้าแบบนี้ได้แล้ว” มาร์คเน้นย้ำอีกครั้ง แบมแบมจึงยิ้มออกจนได้

    “เวลาคุณดุนี่ผมกลัวจริงๆนะ”

    มาร์คยิ้มเล็กน้อย​ “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าดื้อครับ”

    “ได้ทีข่มผมใหญ่เลยนะ” กำมือชกหน้าท้องเบาๆ

    “นานๆครั้งก็พอครับ”

    แบมแบมยื่นมือมาจูงมือคุณผู้ช่วยอิมพอร์ตจากอีกซักโลกหนึ่งให้เดินไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน “นี่คุณ ผมว่าถ้าเราจะเล่นละครให้เนียน เราต้องมาทำความรู้จักกันแบบเร่งด่วนเลยนะ”

    “รู้จัก?” ทวนคำ “ผมว่าคุณก็รู้จักผมแล้วนี่นา”

    “ไม่ใช่ นี่มันผิวเผินไป เราจะต้องรู้จักกันและกันเหมือนว่าเราเป็นคู่รักกันจริงๆ”

    “ผมงงครับ” ขมวดคิ้ว

    “คุณนี่เข้าใจอะไรยากจริงๆ” แบมแบมเอ็ด “คุณชอบสีอะไร”

    “ดำครับ” ตอบงงๆ

    “ดีเลย ผมชอบสีทองนะ” พยักหน้า “แล้วงานอดิเรกของคุณคืออะไร แบบเวลาว่างๆชอบทำอะไร”

    “อ่านหนังสือครับ”

    “เชยสะบัด ผมชอบวาดรูป ชอปปิ้ง” ทำท่านึก “แล้ว...”

    “เดี๋ยวก่อนครับ” จำต้องขัดขึ้น “ทำไมเราต้องมานั่งซักประวัติกันด้วยเหรอครับ ผมไม่เข้าใจ”

    “เอ้า ก็เผื่อตอนที่แม่ผมเจอคุณแล้วเขาทดสอบเราทั้งคู่ขึ้นมา คุณตอบไม่ได้ แผนการก็จบเห่กันพอดีน่ะสิ คุณน่ะยังรู้จักแม่ผมน้อยเกินไป”

    “ผมว่าไอ้ของพวกนี้มันไม่ได้ผลหรอกนะครับ ถ้าเราจะมานั่งท่องจำเหมือนข้อสอบแบบนี้”

    “จะให้ทำยังไงล่ะครับคุณมาร์ค” แบมแบมขึ้นเสียงประชด “ผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย ที่ๆคุณชอบไป หนังสือที่คุณชอบอ่าน อาหารที่คุณชอบกิน สัตว์เลี้ยงที่คุณมี และคุณเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผมเช่นกัน”

    มาร์คยกมือแตะริมฝีปากอีกฝ่ายให้พูดเบาและช้าลง “ใจเย็นๆครับ อย่าโวยวาย”

    “ผมไม่ได้โวยวาย” แบมแบมร้อง

    “อยู่ใกล้กันแค่นี้ ไม่ต้องตะโกนก็ได้ครับ” ย้ำอีกครั้ง

    “นี่สรุปผมได้คุณมาเล่นเป็นแฟนหรือเป็นพ่อกันแน่เนี่ย” ร้องอย่างขัดใจ

    “ผมก็แค่คิดว่าการจะรู้เรื่องพวกนี้มันไม่ควรมาจากการท่องจำ แต่มันต้องมาจากการสังเกตและใช้ชีวิตร่วมกันไปเราก็จะจำได้เองนะครับ”

    “นี่คุณไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่ผมวานคุณเลยรึไงเนี่ย” แบมแบมกอดอก “ผมมีเวลาไม่มาก ผมไม่มีเวลาไปเรียนรู้เรื่องของคุณ และคุณก็ไม่มีทางรู้จักผมได้หมดเปลือกในเวลาไม่ถึงสามเดือนนี่หรอกครับ”

    มาร์คจำต้องเงียบลงเมื่อโดนเสียงสะบัดแบบนี้ใส่

    “ผมเคยมีแฟนมาก่อนนะครับคุณ ผมรู้น่าว่าไอ้คนคบกันมันต้องทำยังไง แต่คุณก็เห็นนี่ผมแค่อยากได้ใครสักคนไปบอกแม่ผมว่าผมมีแฟนแล้ว จำนวนเวลามันต่างกัน”

    “คุณก็เลยไม่สนว่าผมจะรู้สึกยังไงเลยน่ะเหรอครับ” มาร์คเอ่ยถาม

    “รู้สึก” แบมแบมทวนคำอีกรอบ “รู้สึกอะไรของคุณ”

    ผู้ช่วยหนุ่มเม้มปากเล็กน้อย “เปล่าหรอกครับ”

    “ถ้าคุณมีอะไรก็พูดมาตรงๆสิ ทำไมจะต้องทำอะไรให้มันดูลึกลับตลอดเวลาด้วย ชีวิตมันง่ายแค่นี้ทำไมต้องทำให้มันยากด้วย”

    “ผมว่าคุณกำลังโมโห”

    “ใช่ ผมกำลังโมโหคุ​ณ โมโหมากด้วย” ขมวดคิ้วจนยุ่ง

    “ใจเย็นๆสิครับ อย่าเสียงดัง”

    “ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เลิกปลอบผมแบบนั้น”

    “แค่ที่คุณยังโวยวายแบบนี้มันไม่ต่างจากการทำตัวเหมือนเด็กเลยนะครับ”

    “ฮึ่ย!!!!” แบมแบมกระแทกเสียง

    “โอเคครับ ผมผิดเอง” มาร์คยอมรับ “ผิดเองที่เข้าใจจุดประสงค์จริงๆของคุณไม่หมด แล้วก็คิดต่างมุมกับคุณ”

    “อย่ามาประชดผมนะ”

    “ผมเปล่าประชดครับ” มาร์คอธิบาย “เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเข้าใจชัดเจนแล้ว คุณเลิกอารมณ์เสียได้แล้วนะครับ”

    “ฟังยังไงก็ประชด”

    “ไม่ได้ประชดครับ ผมอธิบายจริงๆ”

    “ผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ววันนี้” แบมแบมหันหน้าไปอีกทาง

    “โกรธผมเหรอครับ”

    “คุณกลับไปก่อนเถอะ”

    มาร์คจ้องมองอีกคนแล้วก็ถอนหายใจ “แบมแบม...”

    ดีไซเนอร์ชื่อดังถึงกับต้องหันกลับมามอง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายเรียกชื่อตนโดยที่ไม่มีคำว่าคุณนำหน้า

    “อย่าโกรธผมเลยนะ” พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่แววตาที่อยู่ภายใต้แว่นกรอบหนานั่นก็ทำให้แบมแบมรู้สึกประหลาด

    “คุณ...”

    “ผมขอโทษ แต่อย่าเป็นแบบนี้” เอื้อมมือมาบีบหลังมือแบมแบมเบาๆ “อย่าทะเลาะกัน”

    “เอ่อ...”

    “ถ้าไม่พอใจอะไร อย่าทิ้งไว้ข้ามวัน อย่าพูดคำไม่ดีต่อกัน เพราะเวลาผ่านไป เราจะย้อนมานั่งเสียใจที่ไม่พูดกันดีๆ”

    “...”

    “ได้มั้ยครับ ให้อภัยผมนะ”

    แบมแบมพยักหน้าลงในที่สุด ก่อนจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อโดนอีกฝ่ายรวบตัวเข้าไปกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว “อะไรคุณ...”

    “เปล่า แค่อยากกอดคุณเฉยๆครับ”

    “บ้า...”

    “แล้วผมกอดได้รึเปล่าครับ”

    “ได้ไม่ได้คุณก็กอดอยู่นี่ไง”

    มาร์คยิ้ม “นั่นสินะครับ”

    แบมแบมรู้สึกได้เป็นอย่างดีว่าคนตรงหน้าตนนั้นพกพาความเป็นผู้ใหญ่มาอย่างเต็มเปี่ยมแถมยังรู้จักวิธีรับมือกับนิสัยเสียของเขาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

    ชักจะน่ากลัวมากเกินไปแล้วนะคุณมาร์ค ไร้นามสกุล

    ความอบอุ่นจากร่างที่เขาซุกอยู่ กลิ่นน้ำหอมจางๆที่ไม่เข้ากับการแต่งตัวเฉิ่มเชยนี่เอาซะเลย

    เขาว่าเขาได้กลิ่นบุหรี่เล็กน้อยด้วยนะ แต่เอาเถอะ ไม่อยากถามอะไรที่ขัดกับบรรยากาศตอนนี้ เพราะการนั่งนิ่งๆอยู่ในอ้อมแขนใครสักคนแบบนี้

    ก็เป็นสัมผัสที่ให้ความรู้สึกดีแบบที่เขาไม่ได้รับมานานมากแล้ว เป็นปี สองปี หรือนานกว่านั้นเขาก็ชักจำไม่ได้

    รู้แค่ว่าตรงนี้ ตอนนี้ เวลานี้...มันยอดเยี่ยมไปเลย

     

    ดีเสียใจหัวใจเขาแอบเต้นผิดจังหวะ มันถี่กว่าปกติเสียอีก

    เรื่องนี้มันชักจะแปลกๆแล้วนะเนี่ย ทำยังไงดีล่ะ

     

     

     

     

     








     - - - - - -

    #ผู้ชายของแบม on twitter : )



    กลับมาแล้วนะคะ!! หลังจากห่างหายไปนาน ยังไม่ลืมใช่มั้ยเอ่ย

    ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอ่านเยอะ (ดีใจมากกกกค่ะ)

    ตอนต่อไป ถ้ากระแสดี จะรีบกลับมาเลยนะคะ

    ใบ้ว่า แฟนเก่าคนที่สอง จะได้ออกฉากแล้ว ใครน้า.. อะไร .. จู..จู..เนียร์


    หืม? เม้น และโหวต และสกรีมแท็กเยอะๆนะคะ


    สวนจีน.


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×