ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ต้นรัก...ดอกหญ้า

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ ห้า (หนึ่งร้อยเปอร์เต็ม) แฮะๆแก้อีกแล้ว ขอโทษนะรีบไปหน่อยจ้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 129
      1
      16 มิ.ย. 56

    ขอโทษน่าที่ปล่อยให้คอยเก้อ แฮะๆ แก้อีกแล้วไม่โกรธหมิงน่า
     

    บทที่ ห้า

      

      รุ่งขึ้นปฐพีรีบบึ้งรถมายังบ้านว่าที่คู่หมายของตัวเองทันทีที่ฟ้าสว่าง อาจเพราะวันนี้เป็นหยุดด้วยเลยสบายใจไม่ต้องไปทำงานแต่หากย้อนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนทำให้เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยเคร่งเครียดที่แม่ของตัวเองทำอะไรลงไปแม้จะอยู่ในงานของผู้เป็นแม่สามี เปล่า แม่อาจจะไม่ได้ตบตีดอกหญ้าแต่แม่เขาใช้คำพูดที่ทำให้ดอกหญ้าติดใจเพียงแค่พูดคำนั้นก็ทำให้เธอตกใจจนสลบไปอย่างนั้นเขามองไปยังแม่ของตนก่อนที่ผู้เป็นย่าจะบอกให้อุ้มเธอ และหลังจากนั้นท่านตามมาโดยให้อาเขารับหน้าที่อธิบายให้ทุกคนฟังเองจากนั้นอุ้มร่างบางคล้ายเด็กขึ้นสู้อ้อมแขนตัวเองลิ่วเข้าบ้านด้วยความเร่งรีบจึงไม่ทันได้เห็นว่าแววตาวายุมองตามด้วยความรู้สึกหยอกแสลง

    “หญ้า อย่าเป็นอะไรไปนะเราขอร้องนะ”

    น้ำเสียงที่แผ่วปลายคำพูดที่เอ่ยขึ้นมาจากความรู้สึกที่เขากลัวจับใจกลัวว่าจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่เธอเคยมอบให้เมื่อยังเคยเป็นนักเรียนร่วมกับเด็กปกติอีกแล้ว หันหลังให้ทั้งที่เขาอยากจะทำหน้าที่แทนคู่หมั้นของเธอแต่มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะเธอไม่ได้เลือกเขาจากนั้นหันกลับไปยังประตูทั้งๆที่เพิ่งก้าวเท้าเข้าสู่บ้านงานเพื่อกล่าวคำอวยพรพร้อมกับมองของขวัญที่นำมามอบได้เพียงไม่นานให้เจ้าบ้านด้วยเคารพยิ่งโดยที่ทิ้งของขวัญเอาไว้ที่โต๊ะรับรองแขกพร้อมกับการ์ดใบหนึ่ง

    “ผมจะต้องทำอย่างไรเหรอ? ผมถึงจะลบคุณออกจากความทรงจำได้สักทีนะ?”

    มีแค่สายลมพัดผ่านคอยปลอบโยนเพียงเบาๆแล้วจากไปจากนั้นขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านเมื่อถึงแล้วสองขาก้าวไวๆไปยังชั้นบนตรงไปห้องของเขาเองโดยที่ไม่ลืมเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นพร้อมกับเป็นห่วงว่าดอกหญ้าจะรับมือไหวไม่พร้อมกับกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกหากเกิดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรและเขาเช่นใดต่อไปเมื่อไม่มีเธอแล้วในวันนั้น

    “ถ้าเราไม่อยู่แล้ว โปรดรับรู้ว่าสายลมจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนเดียวสำหรับเราเท่านั้น”

    เขาจำเสียงใสๆที่ดังขึ้นในเช้าวันที่เขาขอคำตอบจากเธอได้ไม่ลืมเลือนเพราะวันนั้นคือวันสุดท้ายที่เขาพบกับหญิงสาว ด้วยรอยยิ้มที่กระจ่างใจในก่อนเธอออกจากโรงเรียนไปโดยที่ดอกหญ้าเรียนยังไม่จบปีเลย เธอมาอยู่ที่นั่นแค่ครึ่งเทอมของปีที่เข้าไปเรียนอยากรู้จริงๆตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่หรือถึงได้หายตัวไปเฉยๆ ไม่เคยส่งคราวถึงเพื่อนบ้างเลยโดยเฉพาะเขาที่เธอเอ่ยมีแค่นั่นแล้วจากนั้นมาไม่เคยเห็นเธอปรากฏตัวที่โรงเรียนแห่งนั้นอีกเลย เขาอยากรู้เหตุผลที่เธอไปจริงๆ

    “หญ้า ที่เธอออกจากที่นั่นมาไม่ใช่เพราะฉันใช่ไหม?”

     หากคำตอบที่เอ่ยขึ้นมีเพียงแค่ความว่างเปล่าที่ทำให้เจ้าของห้องหลับตาลงเพราะรู้สึกปวดร้าวกระบอกตาจากเกิดความรู้สึกภายในที่มากับหยดน้ำเอ่อคลอลงสู่ใบหน้าคมสายตาที่บ่งบอกทนความคิดถึงและขมขื่นที่ไม่ได้เจอกับเธอมาเนิ่นนาน หากเจอกลับแตะต้องตัวเธอไม่ได้ จนเขาไม่อยากจะเชื่อว่าความคิดถึงจะทรมานได้ถึงเพียงนี้คิดถึงกลับพบไม่ได้ เจอหน้าก็ทำได้เพียงแค่มองอยากพูดคุยเหมือนแต่ก่อนก็ทำไม่ได้ต้องทรมานกับความรู้สึกที่เป็นได้แค่เพียงเพื่อนกันหากเขากลั้นความรู้สึกได้นั่นคงจะดีกว่านี้และจะไม่ต้องข่มขื่นอย่างที่เป็นมาเนิ่นนานและเขาก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับการที่ไม่ต้องถูกรัก

    หากเมื่อคืนเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดที่ยังคงนึกถึงเเหตุและผลที่ตามมาด้วยความเคร่งเครียดที่แม่ของตัวเองทำอะไรลงไปแม้จะอยู่ในงานของผู้เป็นแม่สามี เปล่า แม่อาจจะไม่ได้ตบตีดอกหญ้าแต่แม่เขาใช้คำพูดที่ทำให้ดอกหญ้าติดใจเพียงแค่พูดคำนั้นก็ทำให้เธอตกใจจนสลบไปอย่างนั้นเขามองไปยังแม่ของตนก่อนที่ผู้เป็นย่าจะบอกให้อุ้มเธอ และหลังจากนั้นท่านตามมาโดยให้อาเขารับหน้าที่อธิบายให้แขกฟังจากนั้นอุ้มร่างบางคล้ายเด็กขึ้นสู้อ้อมแขนของตัวเองแล้วลิ่วเขาบ้านด้วยความเร่งรีบจึงไม่ทันได้เห็นว่าวายุมองตามเขาด้วยความรู้สึกหยอกแสลง  ใช่เขารู้ว่าเจ้าน้องชายเขานะรักเธอแต่ที่เขาดูไม่ออกก็คือดอกหญ้ามากกว่าว่าเธอคิดอย่างไรกับการหมั้นหมายครั้งนี้ บ้านที่เขามาหลายครั้งหลายคราไม่เคยรู้สึกว่ามันอึ้มครึ้มอย่างนี้มาก่อนเลยหากเขาเดินเลยไปยังหลังบ้านเมื่อได้คำตอบจากคนเป็นน้องสาวว่าเธออยู่สวนหลังบ้าน ปฐพีมองหญิงสาวอย่างสงสารรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อมองตามสายตากลมโตมองไปยังรอบๆบริเวณบ้านอย่างเหม่อลอยโดยที่เจ้าตัวนั่งบนเก้าอี้ชิงช้าไหวไปมาเพราะใจยังคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เข้ามาในงานไม่นานหนักที่ใต้ต้นพญาสัตบรรณ5 ที่ห่างกลุ่มผู้คนที่กันเดินเข้ามาสายตาของหลายคู่มองไปยังหน้างานที่มีเสียงของพิธีกรกำกับดำเนินรายการอยู่บนเวที ที่มีป้ายว่า‘ฉลองครบรอบวันเกิด63ปีให้คุณแม่ค่ะ’สีแดงปรากฏอยู่ล้อมรอบด้วยดอกกุหลาบขาวดอกใหญ่ตรงกลางแซมใบและก้านน้ำตาลอ่อนช้อยด้วยลายเส้นโค้งส่วนหน้างานที่เธอต้องผ่านไปยังงานมีทั้งนลิลและกรองที่กำลังต้อนรับแขกเรื่อมากหน้าหลายตาโดยที่ไม่มีผู้เป็นแม่อยู่หน้างานแต่หากมองไปรอบๆก็จะเห็นว่าคนเป็นแม่เดินมาทางนี้และนั่นทำให้เขาไม่ได้ปกป้องหญิงสาวจากการถูกละลานของผู้เป็นแม่เพราะเขาถูกผู้เป็นย่าสอยหนีบตามไปพบท่านหญิงกฤษณาด้วยโดยที่ทิ้งเธอไว้กับผู้เป็นอา จากนั้นเป็นอย่างไรนะเขาไม่รู้และกลับมายังจุดที่เดิมแต่ปรากฏว่าเธอยื่นหน้าแดงก่ำ หากจุดที่เธอยื่นอยู่นะผู้คนยื่นล้อมรอบเป็นกลุ่มๆย่อมๆ ร่างสูงก้าวยาวๆอย่างหวั่นๆว่าอย่าให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะกับวันเกิดของผู้เป็นย่าเลย หากคำภาวนาของเขาไม่เป็นผลเมื่อมากจุดหมายซึ่งมาพบกับดอกหญ้านอนสลบอยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่มคนหนึ่งคือวายุจากนั้นจึงเขาคุกเข่าลงแล้วขอเปลี่ยนตัวกับคนเป็นน้องชาย สบตากันสักพักหนึ่งสุดท้ายคนที่ยอมคือวายุโดยพึมพำเบาๆว่า

    “ฝากดูแลหญ้าด้วยนะครับ?”

    หากก่อนที่วายุจะทันได้ลุกขึ้นก็มีเสียงจากร่างสูงที่กำลังมองดูร่างบางตอบเบาๆทว่าหนักแน่นว่าโดยไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าของคนที่อยู่ในอ้อมแขนเลย

    “ไม่ต้องเป็นห่วง พี่จะไม่ปล่อยให้น้องเป็นอะไรไปหรอก”

    หลังจากที่ฟังคำตอบแล้ววายุทำได้แค่มองตามเท่านั้น

    เธอคือดวงใจของพี่ดินเสมอมา และตลอดไปหากคำพูดนั้นไม่ได้เอ่ยออกไปจากนั้นอุ้มร่างบางไม่ได้สติขึ้นสู่อ้อมแขนเดินลิ่วเข้าบ้านหลังใหญ่โดยสายตาเขาตวัดไปยังมารดา แล้วพึมพำเบาๆกับตัวเองว่า  ถ้าน้องเป็นอะไรไปพี่จะไม่ให้อภัยตัวเองอีกเลย ใช่เพราะเขาคนเดียวที่ดึงดันพาเธอมา โดยที่เขาไม่เคยคิดว่าแม่จะใจร้ายกับผู้หญิงตัวเล็กๆและเธอยังเป็นเด็กพิเศษ6แค่เพียงเพราะเขาจะแต่งงานกับดอกหญ้าเท่านั้นเองหรือ เสียงถอนหายใจออกจากร่างสูงยื่นอยู่ข้างๆเสาชิงช้าที่ขยับตัวหมายจะเข้ามานั่งใกล้ๆร่างบางที่กระตุกเบาๆด้วยความตกใจและนั่นทำให้เขารีบนั่งลงข้างๆพร้อมกับจับข้อมือบางเอาไว้ก่อนที่จะลุกเดินหนีไปและพร้อมกับเอ่ยเบาๆว่า

    “น้อง... พี่ขอโทษครับ”

    สายกลมโตมองมือที่โดนกุมไว้เงยหน้าดูทั้งสองข้างก่อนกระตุกเบาๆเป็นการประท้วงเขา หากเมื่อเงยหน้าเห็นดวงตาฉายแววคมกล้าของว่าที่คู่หมั้นที่มองมายังตนก่อนจะหลุบตาลงสู่ปลายเท้าพร้อมเสียงใสๆถามขึ้น

    “ขอโทษ? เรื่องอะไร?”

    ดวงตากลมโตฉายแววระลึกได้พร้อมๆกับปลดมือตัวเองจากมือเขาพร้อมกับที่ใช้ปลายยันพื้นเบาๆให้ชิงช้าแกว่งก่อนที่เสียงใสๆตอบเบาๆว่า

    “ไม่ใช่ความผิดของคุณดินนี่ค่ะ”

    เพียงได้ยินที่เธอใช้สรรพนามเหินห่างทำเอาเขาไม่เข้าใจ ก็เมื่อคืนเธอยังใช้คำนามที่คุ้นเคยกันอยู่ แต่นี่ยังไงมันเกิดอะไรขึ้น

    “เมื่อคืนนี้เรียกว่าพี่ดินอยู่เลย แล้ววันนี้ทำไมถึงเปลี่ยนไปละครับ หญ้า?”

    เธอมองเลยไปยังแปลงดอกไม้ที่อยู่ข้างหลังของชายหนุ่มก่อนอธิบายอย่างสั้นๆว่า

    “เพราะทุกอย่างคือการแสดงละครไงค่ะ”

    จริงอยู่ที่เขาอยากรู้แม้จะเป็นคำตอบที่เขาไม่อยากจะรับรู้จากปากเธอ แต่เขาไม่เคยคิดว่าที่เกิดขึ้นสำหรับเธอมันคือการเล่นละคร ตลกจริงๆแต่ความรู้สึกนะมันไม่ใช่เลย

    “หึๆใจร้ายไปหน่อยนะ”

    หากเจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ก็รู้แล้วว่าการโดนหลอกนะมันเป็นอย่างไร โดยเฉพาะกับคนที่เราแคร์มากที่สุดเป็นคนทำหลอกให้ดีใจแต่ท้ายที่สุดแล้วสำหรับเธอมันคือการแสดงให้คนอื่นเห็นยังงั้นหรือ

    “ทำไมหรือ?”

    เปลือกตาบางหลับตาลงข่มกลั้นความรู้สึกที่เขาสื่อถึงเธอได้ไม่ให้ออกมาทางสายตาจากนั้นก็เหลือเพียงแค่ลมหายใจแผ่วๆ

    “คุณดินคงต้องการเหตุผลใช่ไหม?”

    หากคำตอบที่เธอตอบเป็นการตัดบัวอย่าให้เหลือใยเธอก็จะทำมันหากการกระทำนั่นมันจะให้เขาหรือใครไม่ต้องรับรู้กับเรื่องเธอที่ตั้งใจปกปิดมันเอาไว้เป็นพอเพราะยิ่งรู้จักก็ยิ่งกลัวความผูกผันระหว่างเราจะยิ่งเพิ่มขึ้นเงยหน้ามองสบตาตรงๆเอ่ยขึ้นว่า

    “คุณย่อมรู้ดีค่ะว่าแม่คุณไม่ชอบหน้าฉันอ๋ออีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ฉันกลัวว่าแฟนฉันจะเข้าใจผิด ขอตัวก่อนค่ะ”
    หญิงสาวค่อยๆลุกขึ้นและลงไปยังสนานหญ้าและตัดเข้าบ้านเพื่อขึ้นสู่ชั้นบนทั้งๆที่หยดน้ำจากดวงตาต้องแก้มใสๆทั้งสองข้างของตัวเองที่เจ้าตัวไม่กล้าใช้มือปาดทิ้งเพราะกลัวว่าคนที่จากมาจะรู้



    #_______________________________________________________________________________

     

        5 .พญาสัตบรรณ หรือ สัตบรรณ ตีนเป็ด ตีนเป็ดต้น หัส-บัน จะบัน ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris อยู่ในวงศ์ Apocynaceae เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 12-20 เมตร เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาครเป็นพืชท้องถิ่นดั้งเดิมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้ในทุกภาคมีลักษณะเป็นเปลือกหนาแต่เปราะ ผิวต้นมีสะเก็ดเล็กๆ สีขาวปนน้ำตาลกรดดูจะมียางสีขาวลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลักษณะเป็นชั้นๆ เปลือกชั้นในสีน้าตาล มีน้ายางสีขาว ใบเป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งมีใบประมาณ 5-7 ใบ ก้านใบสั้น แผ่นใบรูปรีแกมรูปขอบขนานถึงรูปหอกแกมรูปขอบขนาน หรือรูปมนแกมรูปบรรทัด ปลายใบเป็นติ่งเล็กน้อย ใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม ด้านล่างมีสีขาวนวล ถ้าเด็ดก้านใบจะมียางสีขาว ลักษณะใบยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลม ขนาดใบยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร ออกดอกสีเขียวอ่อนเป็นช่อตามปลายกิ่ง ปากท่อของกลีบดอกมีขนยาวปุกปุย ดอกมีกลิ่นฉุนรุนแรง สูดดมเพียงเล็กน้อยจะรู้สึกกลิ่นหอม หากสูดดมมากจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ช่วงค่ำจะส่งกลิ่นแรงกว่าเวลาอื่นๆ ดอกเป็นกลุ่มคล้ายดอกเข็มช่อหนึ่งจะมีกลุ่มดอกประมาณ 7 กลุ่ม ดอกมีสีขาวอมเหลือง ปกติจะออกดอกในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมผลเป็นฝักยาว ฝักคู่หรือเดี่ยว ลักษณะเป็นเส้นๆ กลมเรียวยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตก มีขุยสีขาวคล้ายฝ้ายปลิวไปตามลมได้ในฝักมีเมล็ดเล็กๆ ติดอยู่กับขุยนั้น
    6.เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ (Children with Learning Disabilities) 

     

     ดอกหญ้าจะเป็นอะไรกันแน่ และพี่ดินจะรู้ความจริงไหมคะ?





                             



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×