ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] ✚ :: THE APPLES :: ✚ [CHANYEOL x BAEKHYUN]*

    ลำดับตอนที่ #1 : ✚ SH0T 1 :: THE APPLE 0NE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.37K
      26
      16 ส.ค. 55

    Author : MidnightSunny
    Pairing : Chanyeol x Baekhyun
    Story by : Zenumist
    Rate : PG-15






    THE APPLES *








    ll  SH0T  1  ll









    ผมทำได้แค่เพียงมองเขาอยู่ห่างๆ...

    .

    .

    .


    นี่เป็นความสัมพันธ์เพียงแค่ข้อเดียวที่ผมมีต่อเขา...








    ผมชื่อ บยอน แบคฮยอน 
    และสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกโรคจิตชอบถ้ำมองคนที่ตัวเองแอบชอบ


    และนั่นไงเขาอยู่ตรงนั้น...




    ...ปาร์ค ชานยอล...กำลังยืนอยู่ตรงนั้น







    อา...เขาหัวเราะด้วย...



    กำลังคุยอะไรกันนะ?...



    อ่า...ดูท่าทางสนุกจัง...






    อ๊ะ! ยัยผู้หญิงคนนั้น!!
    ม...ไม่นะ...




    เอามือนั่นออกไปเดี๋ยวนี้!!











    “แบคฮยอน // ห๊ะ!!”





    เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความคิดในหัวของผม...
    ผมสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันไปมองใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาแล้วยกยิ้มให้
    ให้ตายเหอะ...โด คยองซู นี่นายทำให้ฉันตกใจนะรู้บ้างรึเปล่า?




    “มึงยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ?” 




    คยองซูยกคิ้วถามเมื่อเห็นว่าผมยกมือขึ้นมาทาบอกอย่างตกอกตกใจ
    เขาเดินเข้ามาก่อนจะมองลงไปยังชั้นล่างของตึกฝั่งตรงข้ามที่ผมแอบมองชานยอลก่อนหน้านี้
    ผมหันไปตามสายตาเขาก่อนจะพบว่าชานยอลเดินหายไปที่ไหนแล้วก็ไม่อาจทราบได้...
    อา...เสียดายจังเลย...





    “เปล่านี่...ไม่มีอะไร” 





    ผมแสร้งตอบปฏิเสธพลางยักไหล่ แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้เนียนเอาซะเลย 
    เพราะคยองซูกำลังยักไหล่...ส่ายหน้าพลางถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วยกยิ้มอย่างรู้ทัน




    “แอบมองชานยอลอยู่ล่ะสิท่า...
    โถ บยอนแบคฮยอนผู้น่าสงสาร...” 




    “พูดมากน่า...ว่าแต่มึงเหอะ 
    คุยกับจงอินเสร็จแล้วหรือไง?” 




    “อืม...เสร็จแล้ว จงอินซื้อขนมมาให้น่ะ 
    อ่ะ...มันซื้อมาฝากมึงด้วย
    ซื้อมาแก้ตัว เพราะบอกว่าวันนี้มีซ้อมตอนเย็นจะไม่กลับด้วย” 




    “เฮ้! งั้นวันนี้มึงก็ว่างอะดิ!
    ไปเที่ยวกันเหอะ กูอยากกินแมคฯ
    ได้ยินมาว่าตอนนี้เฟรนช์ฟรายลดตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นเลยนะ!”




    ผมชักชวนคยองซูอย่างอารมณ์ดี 
    เพราะนานๆทีจะได้มีเวลาไปไหนมาไหนกับคยองซูหลังเลิกเรียนบ้าง
    ผมตามคยองซูที่เริ่มชักชวนให้ออกเดิน เขาหันมายกคิ้วให้ผมเป็นเชิงถาม...




    “แล้ววันนี้ไม่เข้าชมรมหรือไง?” 



    “ไม่อ่ะ...โดด”



    “มึงมันเลวว่ะแบคฮยอน”



    “อืม...ก็ไม่ปฏิเสธนี่”



    “กวนตีนมากไปแล้วรู้ตัวป่ะ?”



    “เอ๊าะเหรอ...ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย”




    “ไอ้.....สัส”




    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”




    เสียงหยอกล้อของผมกับคยองซูดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    เราหัวเราะให้กันอย่างอารมณ์ดีตามประสาเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมต้น
    เราเดินพูดคุยหยอกล้อกันไปตามทางเดินชั้นสองของตึกคณะดุริยางคศิลป์ 
    ทอดถอนอารมณ์และต่อบทสนทนากันไม่ได้หยุด...



    ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง...
    และพวกเราต่างก็ใช้เวลาหลังจากมื้อกลางวันไปเข้าห้องสมุดเพื่อสืบค้นข้อมูลทำรายงาน
    ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ 
    แต่ที่ไม่ปกติคือเมื่อครู่คยองซูได้รับโทรศัพท์จาก คิม จงอิน แฟนของเขาและถูกเรียกให้ออกไปพูดคุยกัน 
    คยองซูกับผมไม่ได้มีความลับต่อกัน หากแต่ผมก็รู้ว่ามันไม่เหมาะถ้าจะไปรบกวนเขาสองคนแบบนั้น




    ผมจึงตัดสินใจยืนรอเขาที่หน้าห้องสมุดเพียงลำพัง...แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอกนะครับ
    เพราะถ้าคยองซูไม่ได้ทิ้งผมเอาไว้ 
    ผมก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นจุดยุทธศาสตร์ในการถ้ำมองชานยอลแบบเมื่อกี้แน่ๆ...




    “แล้วสรุปจะไปใช่ไหม?”



    “ถ้ากูบอกไม่ไปมึงจะยอมไหมล่ะครับ?” 




    “ไม่ยอมว่ะ...”




    “งั้นมึงก็ได้คำตอบแล้ว” 




    "เอองั้นก็ -- ชิบหาย




    ผมที่ตั้งท่าจะต่อล้อต่อเถียงกับคยองซูก็ต้องหุบปากเงียบลงไป
    เมื่อได้เห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังเดินตรงมาทางเรา


    ปาร์คชานยอลกำลังเดินมากับเพื่อนของเขา 
    ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ คิม จงแด เขาเป็นนักร้องในวงดนตรีของชานยอล...
    พวกเขากำลังหัวเราะและพูดคุยกันไม่แตกต่างจากผมและคยองซู




    แต่ที่ไม่เหมือนกันคือตอนนี้ผมกำลังเงียบกริบ...หัวใจเต้นรัวอย่างไม่น่าเชื่อ




    ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...



    โอ้พระเจ้า...เขากำลังเดินมาใกล้ผมแล้ว!!






    “กูว่าคอร์ดนั้นน่ะต้องเปลี่ยนนะ...
    เสียงแม่งไม่ได้เข้ากันเลย กูอาจต้องดร็อปคีย์ลงซักสองคีย์มึงว่าดีไหม?”




    ชานยอลพูดกระซิบออกมาเบาๆอย่างร้อนใจ 
    ในขณะที่จงแดกำลังเดินกดมือถือไอโฟนราวกับแชทกับใครซักคนอยู่
    จงแดพยักหน้ารับไปส่งๆก่อนจะตอบกลับ...



    “เออ แล้วแต่มึงเลย...เอามึงสะดวก
    กูร้องได้อยู่แล้ว...มึงก็รู้ว่ากูเทพ” 



    จงแดพูดในขณะที่สายตายังไม่ละออกจากหน้าจอไอโฟน




    “ถุย! ครับ...ไอ้เสียงเทวดา 
    ไอ้...ไอ้เกรียนเทพบุตร” 




    ชานยอลแสร้งด่าจงแดในขณะที่เราเดินสวนกัน
    ไหล่ของเขาเฉียดมาใกล้จนเกือบจะชนกับไหล่ของผม...
    ผมแทบจะหยุดหายใจ หากแต่กลิ่นโคโลญจ์ที่วูบผ่านจมูกเข้ามาทำให้ผมต้องใจเต้น



    แต่ไม่นะ...เขากำลังเดินผ่านผมไปแล้ว...




    “งั้นเล่นคีย์ เอไมเนอร์แล้วกัน กูถนัดคีย์นี้นะ
    ใช้คอร์ดไมเนอร์ก็ดีเหมือนกัน...เพลงจะอาจจะได้อารมณ์มากขึ้น” 



    จงแดตอบชานยอลอย่างนั้น...ในขณะที่เสียงของพวกเขาเริ่มแผ่วลงไปเรื่อยๆ 
    ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่าชานยอลกำลังทำหน้าตาแบบไหน
    ใจอยากจะหันไปแต่ก็ไม่กล้า...กลัวเขาจะรู้เอาว่าผมกำลังแอบฟังอยู่




    “เออ...งั้นเดี๋ยววันนี้ลองเล่นเป็นเอไมเนอร์แล้วกัน 
    กูว่ารีบไปกันดีกว่า....เดี๋ยวอาจารย์เฉ่งกูอีก”




    ผมได้ยินชานยอลกระซิบอย่างร้อนใจก่อนที่ผมจะได้ยินเขาทั้งสองคนออกเดินไปอย่างเร่งรีบ
    คยองซูหยุดเดินแล้วหันไปมองพวกเขาทั้งสองคนก่อน...
    ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหันมองตามไปด้วย


    ผมเห็นแผ่นหลังของเขาวิ่งไปไวๆแล้วก็ต้องยกมือขึ้นทาบอก
    ยกยิ้มออกมาอย่างประหวั่นพรั่นพรึง เมื่อหัวใจกำลังเต้นรัวอย่างน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมาจากอก




    ตึกตัก....ตึกตัก...ตึกตัก....




    อา...เท่ห์จัง เขาคงคุยกับจงแดเรื่องซ้อมวงดนตรีของเขาสินะ
    หัวใจนี่ก็บ้าจริง...ทำไมต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยนะ...แค่เขาเดินผ่านไปเอง...



    ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวเงียบๆ...หากแต่ก็ไม่พ้นสายตาจับผิดของคยองซู
    เขาหลิ่วตามองผมแล้วยิ้มแซวผมแบบที่ทำให้ผมต้องเขินอายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้




    “มองอะไรของมึงวะ?” 




    “เวลามึงเขินนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะแบคฮยอน” 




    คยองซูหรี่ตามองผมก่อนจะจับคางผมเชยขึ้นแล้วบิดมันไปมาเพื่อมองมันอย่างพิจารณา
    ผมสะบัดมือของคยองซูออกก่อนจะแสร้งทำท่าขนลุกขนชันใส่เขา



    “เฮ้ย...เอามือออกไปเลย 
    แล้วก็กรุณาอย่าทำหน้าตากรุ้มกริ่มแบบนั้นใส่กูด้วย...กูขนลุก
    ไม่งั้นกูไปฟ้องจงอินอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะ”




    ผมเบะปากใส่หน้าตากวนประสาทของคยองซู 
    มองเห็นเขาหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วส่งหมัดมาชกที่ไหล่ของผม
    เราเริ่มออกเดินกันอีกครั้งแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดทันที...







    .




    .





    .









    ทันทีที่เราจับจองที่นั่งบนโต๊ะตัวหนึ่งในห้องสมุดได้
    ผมก็รีบหยิบเอาสมุด Weekly Planner ( ไรเตอร์ : ภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไรอ่ะ?) ขึ้นมาเปิดหน้าล่าสุด
    แล้วหยิบเอาปากกาเจลสีแดงแท่งโปรดขึ้นมา ก่อนจะวาดรูปหัวใจดวงเล็กๆ สองดวงตรงช่องของวันนี้



    ผมมองหัวใจที่เพิ่งเขียนลงไปแล้วยกยิ้มออกมาบางๆอย่างมีความสุข
    หากแต่ฉับพลันที่เงยหน้าขึ้นมามองคยองซูเท่านั้นแหละ...
    ผมเลยต้องรีบเจื่อนยิ้มลง เพราะคยองซูกำลังมองมาอย่างหาเรื่องจะแซวผมอีกแล้ว
    เขาส่ายหน้าให้ผมอย่างขันๆก่อนจะเอี้ยวตัวมาแย่งสมุดเล่มเล็กนั้นไปจากมือของผม...



    “เฮ้อ...มึงนี่เพ้อเจ้อว่ะแบคฮยอน ไหนเอามาดูซิ...
    อืม วันนี้มึงเจอชานยอลสองรอบ 
    เมื่อวานไม่เจอ...เออมิน่าล่ะเมื่อวานมึงถึงเหวี่ยงใส่กูจัง

    โอ้มายก๊อด!!! วันก่อนหัวใจห้าดวง! 
    นี่มึงตามเขาไปบ้านหรือไง ทำไมเจอกันตั้งห้ารอบ!!”




    คยองซูทำตาโตเมื่อได้ไล่นิ้วดูตามช่องวันที่ของผมย้อนหลัง
    ผมรีบคว้ามันกลับมาถือไว้ก่อนจะจึ๊ปากอย่างขัดใจที่เพื่อนตัวดีชอบจิกกัดผมเสียจริง
    ผมไม่ตอบคำถามหากแต่หลบสายตาคยองซูแล้วเสมองไปทางอื่น



    ใช่ครับ...ผมมักจะเขียนหัวใจเอาไว้ เพื่อแทนจำนวนครั้งที่ผมได้พบชานยอลในแต่ละวัน
    และนั่นกำลังทำให้คยองซูส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมา
    เขาหรี่ตาแล้วพรูลมหายใจยาว ก่อนจะมองตรงมาที่ผมอย่าง --- เรียกว่าไงดีละ เวทนา หรือว่า สงสาร




    “มัวแต่ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่เขาจะรู้วะแบคฮยอน
    มึงต้องทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน? มึงต้องการอะไรกันแน่?
    อยากจะสร้างสถิติผู้ชายที่แอบรักปาร์คชานยอลได้นานที่สุดหรือไง?”




    คยองซูถามผมออกมาในขณะที่ยกมือขึ้นกอดอก...
    ท่าทางของคยองซูตอนนี้ช่างน่าหมั่นไส้จริงๆ 
    แต่ผมรู้ดีว่าที่คยองซูทำแบบนี้ ก็เพราะว่าเขาเป็นห่วงผมนั่นแหละ




    “กูไม่รู้ว่าต้องทำยังไง?” ผมตอบ...




    “ก็บอกเขาไปสิ...มัวแต่มาทำอย่างนี้ชาติไหนเขาจะรู้ล่ะ” 




    “กูจะบอกเขาได้ยังไง ในเมื่อเขายังไม่รู้จักกูเลยด้วยซ้ำ”




    “ก็ทำให้เขารู้จักมึงสิ...ทำยังไงก็ได้” 




    คยองซูยักไหล่พูดกับผมอย่างไม่ค่อยจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องยากเย็นอะไรนัก
    ผมได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงไปในคอแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ




    “มึงนี่พูดเหมือนมันทำง่ายนะ...
    ถ้ามันง่ายขนาดนั้นป่านนี้กูคงเสียตัวให้เขาไปแล้วล่ะ
    นี่แค่จะทักกูยังไม่กล้าเลย มันไม่มีโอกาส”




    ผมวางสมุดในมือลงบนโต๊ะอย่างเบามือ น่าแปลกที่รักและทนุถนอมมันอย่างกับอะไรดี
    ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากมายขนาดนั้นเสียหน่อย


    มันก็เป็นแค่สมุดธรรมดา...
    แต่เป็นสมุดธรรมดาที่มีหัวใจของผมอัดแน่นเอาไว้ทั้งเล่ม...





    “มัวแต่รอโอกาสแล้วเมื่อไหร่จะได้บอกเขาวะแบคฮยอน...
    กูไม่ได้อยากเห็นมึงอกหักหรืออะไรนะ...คือที่กูจะบอกก็คือ
    ตอนนี้ตัวมึงก็เป็นเหมือนแค่อากาศธาตุ...ไม่ได้มีตัวตนในสายตาเขาเลยซักนิด
    ถ้ามึงจะช่วยทำอะไรให้เขารู้บ้างว่ามีมึงยืนอยู่ตรงนี้...
    มันจะไม่มีความหวังมากกว่าการเป็นสายลมที่พัดผ่านเขาหรือไง?” 




    คยองซูพูดเสียยาวเหยียด ก่อนที่จะขยับลุกขึ้นแล้วเดินหายไปที่หลังชั้นหนังสือ
    ปล่อยผมให้อยู่ตามลำพังและครุ่นคิดกับถ้อยคำที่เขาเพิ่งพูดออกมา....



    ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้เขาเห็นผมอยู่ในสายตาหรอกนะ
    ทุกครั้งที่ผมเห็นเขา ผมแทบจะควบคุมตัวเองไม่เคยได้
    ไม่เคยทำให้หัวใจหยุดเต้นแรงได้เลยซักครั้ง...

    แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องแค่เพียงเล็กน้อยอย่างเช่นกระพริบตา...เสยผม...
    หรือแม้กระทั่งเสียงหัวเราะที่แว่วมาจากที่ไกลๆ
    มันก็ทำให้หัวใจผมเต้นระห่ำราวกับมีมือปืนกลกระหน่ำยิงอยู่ข้างในนั้นได้ทุกที...



    แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ผมได้แต่แอบมองเขาอยู่เรื่อยไปอย่างนี้
    มันเป็นเพราะผมไม่กล้า...ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าหรือเริ่มทำอะไรทั้งนั้น
    ผมไม่เคยกล้าพอ...


    .


    .


    .


    .



    เหตุผลมันก็มีแค่นี้จริงๆ....












    TALK



    เรื่องนี้เป็นฟิคชานแบคเรื่องแรกที่เราแต่งค่ะ...
    ปกติเป็นไคโด้ตลอด ไม่เคยแต่งชานแบคซักที
    ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแม่ยกชานแบคด้วยนะคะ ช่วยติดตามกันด้วยค่ะ

    เรื่องนี้เป็นพล๊อตของเพื่อนเรานะคะ...
    เราตีโจทย์พล๊อตเรื่องนี้ไม่ค่อยแตกเท่าไหร่ แต่ก็พยายามเขียนออกมาให้อ่านกันรู้เรื่องที่สุด
    ตอนแรกอาจจะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ค่ะ เราจะรีบเอาตอนสองมีลงให้เร็วที่สุดนะ T T

    สำหรับรีดเดอร์หน้าเก่าที่รักไรเตอร์นมนเสมอมา...
    ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้นะคะ ไม่โกรธกันใช่ไหมที่เปิดเพิ่มมาอีกเรื่องแล้ว 5555555
    อย่าโกรธกันนะ...เรื่องเก่าไม่ได้ทิ้งนะคะ แต่เวลามีพล๊อตมาไรเตอร์จะเป็นโรคจิต
    มันต้องเขียน ต้องแต่ง ไม่งั้นมันจะวนเวียนอยู่ในหัวคอยรบกวนจิตใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ อึไม่ออก T T

    เพราะงั้น...เข้ามาอ่านแล้วมาเอ็นจอยด้วยกันเนอะๆๆๆ
    ถ้ารักกันก็อย่าลืมช่วยกดโหวตให้ไรเตอร์ด้วยนะคะ...แล้วถ้ามันสนุกก็รบกวนบอกต่อกันด้วย ^^
    แล้วเจอกันช็อตหน้านะคะ บ๊ายบายค่ะ <3



     

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×