คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ✚ BE MY BABY :: THIRTEEN
Author : MR.$N0WMAN*
Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo
Story : Jackboiz
Rate : PG - 15
Be my Baby*
‘0.13’
แต่กลายเป็นความเสี่ยงที่เราไม่กล้าเสี่ยงหรือไม่กล้าที่จะลงมือทำ
ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำบางคำออกไป...
ถ้าคุณคิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้คุณมีความสุข ก็จงมุ่งไปหามันทันทีเถอะ...
เพราะในจังหวะของชีวิตที่เกิดขึ้นแล้วนั้น
เราอาจจะไม่สามารถย้อนกลับมาบนถนนสายเดิมนี้ได้อีกครั้ง...
จงอินตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยอาการวิงเวียนที่ศีรษะและอาการปวดเมื่อยทั่วทั้งร่างกาย
ร่างกายแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆเมื่อขยับตัวอยู่บนเตียงนุ่ม และนั่นทำให้เขาต้องร้องครางออกมาเบาๆ
จงอินค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมามองไปรอบๆอย่างงุนงง
และเขาก็ต้องรับรู้ได้ว่าเขาเองไม่เคยชินเลยกับการที่หันไปข้างๆแล้วไม่เห็นคนตัวเล็กอยู่ตรงนั้น
จงอินหันไปมองที่นาฬิกาตรงหัวเตียงอย่างเชื่องช้า
ก่อนจะพบว่าตอนนี้สายมากแล้วและเขาจำแทบไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาตื่นสายขนาดนี้คือเมื่อไหร่...
คยองซูมักจะเป็นคนที่ปลุกผมเสมอ..
.และผมก็เพิ่งมารู้สึกตัวเดี๋ยวนี้เองว่าผมไม่อาจจะตื่นเองได้อีกแล้วถ้าไม่มีเขาคอยปลุกแบบนี้
ผมตื่นสาย...เพราะเมื่อคืนกว่าข่มตาให้นอนหลับได้ก็เกือบจะรุ่งเช้าแล้ว
ผมยังอยู่ในชุดที่เดินตากฝนเมื่อคืน...แต่ตอนนี้มันแห้งสนิทไปแล้วเพราะแอร์คอนดิชันเนอร์ที่ผมเปิดเอาไว้จนเย็นฉ่ำ
ผมค่อยๆยันตัวขึ้นมานั่งอย่างช้าๆ รู้สึกว่าโลกหมุนไปหมดเพราะอาการวิงเวียนที่ศีรษะ
การนอนไม่หลับมันทรมานอย่างนี้เองเหรอ?
ผมเองไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดแบบนี้มาก่อนเพราะตัวผมเองเป็นคนที่หลับง่ายถึงง่ายมากๆ
แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าร่างกายของผมไม่ใช่ของผมเลยซักนิด....มันเจ็บปวดและขยับไม่ได้ตามที่ใจสั่งเลย
แต่ผมก็พยายามจะฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นมาเพื่อที่ผมจะต้องลุกขึ้นไปทำในสิ่งที่ผมครุ่นคิดถึงมันอยู่ตลอดทั้งคืน...
ผมต้องไปแก้ตัวกับเชา...ผมปรารถนาว่าผมยังมีโอกาส...
ผมต้องบอกให้เขาได้รู้ว่าแท้จริงแล้วผมรู้สึกกับเขายังไง...
ถึงแม้ว่าผมจะเริ่มวันนี้สายเกินไป....
แต่กับการบอกความรู้สึกที่แท้จริงของผมให้น้องเขาได้รู้....
.
.
หากผมเริ่มมันตอนนี้...ผมหวังว่ามันคงจะไม่สายเกินไปใช่ไหม?
************
คยองซูตื่นเช้าเหมือนทุกวันที่เคยทำตามปกติ...
แต่เขากลับนอนกระพริบตาปริบๆและอยู่นิ่งๆแบบนี้มาร่วมครึ่งชั่วโมงได้แล้ว
เพราะตอนนี้เขากลับเลื่อนลอยเพียงเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอะไรต่อไปดี
ทุกเช้าที่เขาตื่นขึ้นมา ภารกิจแรกที่เขาต้องทำคือการปลุกจงอินให้ตื่นนอน
หลังจากนั้นถึงจะลงไปทำข้าวเช้าแล้วรอให้เขาลงมากิน และเริ่มต้นวันตามปกติ
คยองซูรู้สึกขัดใจที่ชีวิตประจำวันของเขาแต่ละอย่างนั้นมักจะมีจงอินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอๆ
แม้ว่าจะกิน จะเดิน จะนอน หรือแม้กระทั่งหายใจ...มันเป็นเรื่องของจงอินทั้งนั้น...
คยองซูไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงด้วยซ้ำ
เขาอยู่กับจงอินมาทั้งชีวิต...ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่จงอินเท่านั้นในทุกๆวันของเขา
รักตั้งแต่เมื่อไหร่นะเหรอ...คุณอาจจะไม่เชื่อที่ผมพูดก็ได้ แต่ผมรักเขาตั้งแต่แรกที่เห็นจนกระทั่งเดี๋ยวนี้
ผมพยายามจะทำทุกอย่างให้เขาประทับใจ ให้เขาไม่ทิ้งผมไปเหมือนพ่อของผม
ผมแค่ต้องการจะอยู่กับเขานานๆ หรือตลอดไปได้เลยก็คงจะดี
แต่ในตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าควรจะทำยังไงดี...
ระหว่างหยุดรักเขาและตัดใจ หรือ... รักเขาต่อไปถึงแม้ว่าเขาจะรังเกียจผมก็ตาม
ไม่ว่าจะเลือกทางไหนผมก็เจ็บอยู่ดี...
เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นมาในขณะที่ผมเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องต่างๆอยู่ในความเงียบงัน
เสียงนั้นทำให้ผมสะดุ้ง...ผมแข็งนิ่งไปอย่างกับหิน
และไม่แน่ใจนักว่าควรจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไหมว่าใครกันแน่ที่โทรเข้ามา
ผมยังไม่พร้อมจะคุยกับจงอินตอนนี้...หากแต่ในใจของผมเองก็วาดหวังไว้เหลือเกินว่าคนที่โทรมาจะเป็นเขา
ผมยังคงนิ่งและไม่กระดุกกระดิก...แต่หัวใจกลับประท้วงเหลือเกินให้ผมหันไปหยิบมือถือขึ้นมากดรับเสียที
หากแต่อีกใจหนึ่งผมเองก็ไม่อยากจะรับ ผมรู้ดีว่าผมยังไม่พร้อมจะพูดกับเขา
และเรื่องมันอาจจะแย่ไปกว่าเดิมก็ได้ถ้าเราฝืนคุยกันแบบไร้เหตุผลแบบทุกที...
โทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง...จนกระทั่งผมเองเริ่มจะทนใจตัวเองไม่ไหว
ใช่...ถ้าเป็นจงอินผมไม่เคยทนได้ซักที ผมรักเขาและมันยากจริงๆที่จะทำเป็นไม่สนใจเขา
ผมรีบผุดลุกนั่งขึ้นแล้วรีบควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ใต้หมอนขึ้นมาเปิดฝาพับดูตรงหน้าจอ
ก่อนหัวใจกลับรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อเบอร์ที่ขึ้นบนหน้าจอนั้นกลับไม่ใช่คนที่ผมหวังไว้
นี่ไม่ใช่จงอิน....หากแต่เป็นจงฮยอน....
ใช่สิ...เขาจะโทรมาทำไมในเมื่อเขาเกลียดผมแล้ว
เขาคงมีความสุขสินะที่ตอนนี้ไม่ต้องทะเลาะกับผมให้ลำบากใจ
ไม่มีใครที่จะดื้อหรือทำตัวเอาแต่ใจกับเขาอีกแล้วนี่...
ผมคิดในขณะที่กัดริมฝีปาก...หลับตาลงครู่หนึ่งเพราะรู้สึกว่าน้ำตากำลังจะไหล
หากแต่เพียงชั่วครู่หนึ่งก็ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะกดรับสายของจงฮยอนไปแล้วยกขึ้นแนบหู
“ว่าไงจงฮยอน?” ผมกรอกเสียงทักเขาผ่านสายโทรศัพท์
“ตื่นแล้วเหรอ? ฉันไม่ได้โทรมาปลุกนายใช่เปล่า?”
จงฮยอนถามผมตอบกลับมาอย่างห่วงใย
และเพียงแค่คำถามนั้นถูกเอ่ยขึ้นมา มันก็ทำให้ผมรู้สึกผิดกับเขามากเหลือเกิน
เมื่อวานผมตอบรับรักของจงฮยอนแล้ว...
ตอบรับมันออกไป...ทั้งๆที่ผมไม่เคยรักเขาเลย...
“อื้ม...ฉันตื่นแล้ว ไม่ได้โทรปลุกหรอก
มีอะไรหรือเปล่าจงฮยอน” ผมถามเขากลับไป
“ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วโทรไปไม่ได้เหรอ?” เขาตอบกลับผมมาทันควัน
“........................”
จู่ๆความรู้สึกอึดอัดก็แล่นขึ้นมาในบทสนทนาของเราเสียอย่างนั้น
ผมเองรู้สึกผิดอยู่เต็มหัวใจและไม่ได้รู้สึกชอบใจเลยที่เขาถามอย่างนั้น
ผมรู้ดีว่าจงฮยอนเป็นคนดีและห่วงใยผมเสมอ
มันคงจะดีถ้าผมรักเขา...แต่หัวใจกลับไม่ยอมฟังเหตุผลที่สมองกำลังพร่ำบอกผมอยู่เลย...
“ช่างเถอะ...ตอนนี้อยู่ที่บ้านพี่แบคฮยอนใช่ไหม?
แต่งตัวเถอะคยองซู เดี๋ยวฉันจะไปรับที่บ้านพี่แบคฮยอนตอนสิบโมงนะ”
จงฮยอนถอนหายใจก่อนจะพูดกับผม
มันไม่ได้เป็นประโยคที่ขอร้องให้ผมรับปาก...
แต่มันเป็นประโยคคำสั่งที่ไม่ได้ฟังแล้วเสียความรู้สึกก็เท่านั้น
“เราจะไปไหนกันเหรอ?” ผมถามเขา
“ก็แค่ไปที่ไหนซักที่หนึ่ง...เพื่อคุยกัน
ในเมื่อตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว
มันคงไม่ผิดอะไรหรอกถ้าเราจะไปเดทด้วยกันซักหน่อยนี่จริงไหม?”
จงฮยอนตอบกลับมาด้วยคำถาม แต่ผมรู้ดีว่าเขาเองก็ไม่ได้ต้องการเอาคำตอบ
ผมเงียบไปเพื่อรอให้เขาพูดต่อ และไม่นานหลังจากที่เขาถอนหายใจ เขาก็พูดออกมาอีกครั้ง
“งั้นก็ตกลงตามนี้แหละนะ...เจอกันตอนสิบโมงนะคยองซู”
“อื้ม...”
เขาพูดก่อนจะกดตัดสายไป...
ผมบอกลาเขา จากนั้นจึงถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วจ้องดูหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกอึดอัด
ผมเองไม่ได้รังเกียจจงฮยอน...แต่ที่แน่ๆผมก็ไม่ได้รักเขาเช่นกัน
ผมดีใจที่อย่างน้อยคนที่ผมจะเรียกได้ว่าเป็นแฟนของผมคือจงฮยอน
แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่เคยอยู่ในแผนของผมมาตั้งแต่เริ่มต้นเสียด้วยซ้ำ...
ผมรักจงฮยอน...แต่มันเป็นความรักแบบเพื่อนเท่านั้น
ผมรักที่เขาใส่ใจและดูแลผมเสมอ และเป็นคนที่รับฟังความทุกข์ของผมเวลาที่ผมไม่สบายใจ
ยิ่งรู้สึกแย่ไปใหญ่เมื่อได้คิดถึงทุกเรื่องที่ผมมักจะเอาไปปรึกษาเขา ซึ่งก็มีแต่เรื่องของจงอินเท่านั้น
เขาเป็นคนดีเหลือเกิน...จงฮยอนน่ะ
ดีมากเกินไปจนผมคิดว่าผมไม่สมควรจะได้รับความรักจากเขา
เขาทนได้ยังไงกันนะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา...เขารักผมมาตลอดได้ยังไง?
อา...แต่นั่นก็เป็นคำถามเดียวกับที่ผมควรจะถามตัวเองเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
ว่าผมทนรักจงอินแค่เพียงคนเดียวได้ยังไงนะตลอดเวลาที่ผ่านมา...ความรักนี่ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง...
โชคดีที่บ้านของแบคฮยอนมีห้องรับรองแขกจึงทำให้ผมได้นอนตามสะดวก
ผมจึงหยิบเอาผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนราวแขวนขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทันที...
************
จงอินนั่งอยู่ในรถมาซักพักใหญ่ๆแล้ว หากแต่เขากลับมัวแต่นั่งถอนใจและไม่กล้าลงไปจากรถเสียที
ที่หลังรถมีตุ๊กตาจระเข้สีเขียวตัวยักษ์ยัดอยู่ด้านหลังเต็มพื้นที่จนไม่เหลือที่ว่าง...
ผมไม่รู้ว่ามันจะช่วยให้คยองซูหายโกรธได้ยังไง แต่ที่แน่ๆผมคิดออกแค่วิธีนี้เท่านั้น
มันอาจจะดูเด็กๆแต่มันอาจจะช่วยย้ำเตือนความทรงจำระหว่างเราได้บ้าง
ทั้งๆที่ผมเองรู้ดีว่าควรจะบอกกับเขาไปตามความรู้สึกที่แท้จริง
แต่เอาเข้าจริงเมื่อผมมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ฟู่ว....
ผมถอนหายใจออกมาเมื่อตัดสินใจเดินลงจากรถ
เปิดประตูหลังออกกว้างแล้วก็ดึงเอาไอ้ตุ๊กตาสีเขียวยักษ์ที่ผมยัดเอาไว้ออกมาแบกไว้กลางหลัง
เดินเข้าไปในบ้านของแบคฮยอนด้วยความรู้สึกกังวล
เพราะผมกลัวว่าคยองซูจะไม่อยากเจอหน้าหรือพูดคุยกับผม
แต่ถึงยังไงวันนี้ผมก็จะพาน้องเขากลับไปบ้านให้ได้...ขอปฏิญาณกับตัวเองในใจไว้เลย...
เพราะผมรู้ซึ้งแล้วว่าการที่ไม่มีเขาในบ้านของเราน่ะมันเงียบเหงามากแค่ไหน...
ผมวางตุ๊กตาคร๊องที่หน้าประตูบ้านของแบคฮยอนแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง...
รู้สึกหน่วงๆในหัวใจ เพราะว่ากลัวไปหมดทุกอย่าง...
กลัวว่าน้องเขาจะไม่อยากคุย กลัวว่าน้องเขาจะไม่เชื่อคำที่ผมพูด
...หรือแม้กระทั่งกลัวว่าวันนี้น้องเขาจะไม่ยอมกลับบ้านไปพร้อมกับผม...
ผมรู้สึกวิงเวียนศีรษะอยู่เนืองๆ และทั้งวันนี้ก็รู้สึกอ่อนเพลียแม้ว่าจะไม่ได้ลงแรงทำอะไรมากนักก็ตาม
ผมกดกริ่งก่อนจะยืนรออยู่ซักพักแบคฮยอนจึงเดินมาเปิดประตู
เขาถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นผม...ก่อนจะยืนพิงกรอบประตูไว้แล้วกอดอกแน่น
“ว่าไงมึง...รู้ตัวบ้างหรือยัง?” แบคฮยอนถามผม
“ชัดเจนเลยมึง...อย่าถามอีกรอบนะ เดี๋ยวกูจะเปลี่ยนใจ”
ผมตอบก่อนจะกลืนน้ำลายลงไปในคออย่างยากลำบาก...
แบคฮยอนหัวเราะในลำคอก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆแล้วมองผมอีกครั้ง
“ดีใจที่มึงฉลาด...กูนึกว่ามึงจะใช้เวลานานกว่านี้ซะอีกนะ
แต่มึงมาสายไปหน่อยไหมครับ”
แบคฮยอนถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วมองหน้าผมอย่างจะบอกว่า ‘มึงไม่น่าเลย’
ผมได้แต่ขมวดคิ้วที่แบคฮยอนทำอย่างนั้น ก่อนจะเอ่ยถามเขาอย่างสงสัย
น่าแปลกใจที่รู้สึกร้อนรนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...
“มึงหมายความว่ายังไง?” ผมขมวดคิ้วก่อนจะถามเขา
“ ไอ้น้องจงฮยอนมารับคยองซูออกไปเดทตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว”
“อะไรนะ!! ไอ้เด็กนั่น!!
แล้วมันพาคยองซูไปไหน! ทำไมมึงถึงอนุญาตให้คยองซูไปวะ!!”
ผมตะคอกใส่หน้าแบคฮยอนอย่างโมโห...
ก่อนที่แบคฮยอนจะกรอกตาอย่างเอือมระอาแล้วเอานิ้วขึ้นมาจิ้มที่หน้าผากของผมเบาๆสองสามที
“ขอโทษทีนะ แต่กูไม่ใช่พ่อเขา...และในเมื่อน้องเขาอยากจะออกไป ยังไงกูก็ห้ามไม่ได้
ถ้ามึงเกิดอยากจะหึงอะไรขึ้นมาล่ะก็อย่าเอามันมาลงที่กูเลย
ไปที่สวนสาธารณะเคสิ...อยู่ห่างจากนี่แค่สองโล
จงฮยอนบอกว่าจะพาคยองไปเดินเล่นที่นั่น...เผื่อว่าน้องเขาจะได้ไม่ต้องคิดถึงมึง” แบคฮยอนตอบ
“มึงหยุดพูดถึงความดีของไอ้เด็กนั่นได้แล้ว!
ไม่สิ! มันไม่ดีโว้ย!
กูจะไปตามคยองกลับมา!!”
ผมตะคอกตอบกลับไปอย่างโมโห...รู้สึกว่าเดือดจัด เพราะหึงจนเลือดขึ้นหน้า
ใช่ครับ...ตอนนี้ผมกล้าพูดคำว่า 'หึง' ออกมาได้เต็มปากเต็มคำ อย่างที่ไม่คิดจะปิดบังอะไรอีกต่อไปแล้ว...
แบคฮยอนยกยิ้มออกมา เขาเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆแล้วกระซิบด้วยรอยยิ้ม
“เอาสิ งั้นก็รีบไปเลย...ถัดจากนี่ไปสองบล็อก มันอยู่ตรงข้ามกับธนาคาร
แต่สวนสาธารณะมันใหญ่หน่อยนะ...กูขอให้มึงโชคดีนะเพื่อน”
************
ผมแบกตุ๊กตาคร๊องไว้ที่กลางหลังทั้งๆที่เอาแต่คิดอยู่ในหัวว่าทำแบบนี้มันไม่เข้าท่า
ผมไม่รู้ว่าจะแบกมันมาทำไมเหมือนกันแต่ที่แน่ๆตอนนี้ผมมาไกลเกินกว่าจะเอามันกลับไปยัดไว้ในรถได้แล้ว
วันนี้แสงแดดออกจะสดใสเกินไปจนทำให้ผมเหงื่อแตกหลังจากที่วิ่งมาจนถึงสวนสาธารณะที่แบคฮยอนบอกไว้
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองแล้วหัวเราะกับผมยกใหญ่
แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรพวกเขา...เพราะคนๆเดียวที่ผมสนใจและตามหาก็คือคยองซูเท่านั้น...
แต่ในสวนสาธารณะที่กว้างใหญ่แห่งนี้คยองซูจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ??
เพราะถึงแม้ว่าผมจะวิ่งวุ่นไปทั่วทั้งสวนแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเราเลยซักนิด..
.
.
นายอยู่ที่ไหนนะคยองซู...
************
ท่ามกลางแสงแดดอุ่นในเช้าวันอาทิตย์ทำให้ผู้คนในสวนสาธารณะนั้นดูหนาแน่น
ผู้คนมากมายอยู่เดินสวนกันในสวนสาธารณะ ที่มีแสงแดดอ่อนและอากาศจัดได้ว่าดีมากสำหรับเช้าวันอาทิตย์แบบนี้
ทุกอย่างดูดีสำหรับการออกมาเดินเล่นเปิดหูเปิดตาและออกมานั่งรับแสงแดด
แต่คยองซูกลับลอบถอนหายใจออกมาเบาๆในระหว่างที่เดินอยู่
และในตอนนี้เขากลับไม่ได้รับรู้ถึงความสวยงามของสวนสาธารณะแห่งนี้เลยซักนิด
"นายเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอ...ว่าถ้าเราถอนหายใจหนึ่งครั้ง
ความสุขจะบินหายไปจากเราครั้งหนึ่ง..." จงฮยอนถามขึ้นในขณะที่เขาก็นั่งอยู่ข้างๆผม
ผมเพิ่งจะรับรู้ว่าเราแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลยตั้งแต่มาถึง
เพราะผมก็เพิ่งมารู้สึกตัวว่าเขานั่งอยู่ข้างๆก็ตอนที่เขาพูดออกมาอย่างนี้
ผมหันไปสนใจเขา...และมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเสมอยามที่ผมได้มองหน้าเขา
....ความรู้สึกผิด...
"ขอโทษนะ" ผมตอบเขา
จงฮยอนมองไปบนท้องฟ้าแล้วส่ายหน้า
เขาหัวเราะน้อยๆ...แต่ผมไม่แน่ใจนักว่าเขาหัวเราะจริงๆหรือเปล่า
"ขอโทษสำหรับอะไรล่ะ?
เรื่องที่ถอนหายใจเมื่อกี้
หรือเรื่องที่ลากฉันเข้าไปประชดพี่เขาเมื่อวาน?" จงฮยอนถาม ใบหน้าของเขายังคงยิ้มระรื่น...
"..............................."
ผมเงียบกริบ ไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรออกไป
ผมไม่อยากทำให้เขารู้สึกไม่ดี
และไม่ต้องการให้เขารู้สึกว่าผมคบเขาเพื่อประชดจงอินด้วย...
ทั้งๆที่มันก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ....ผมก็แค่ประชดพี่เขาไปอย่างนั้นเอง....
จงฮยอนยิ้มออกมาบางๆเมื่อเห็นผมก้มหน้าลงมองพื้น
และเมื่อเขาเห็นว่าผมไม่พูดอะไร เขาจึงพูดต่อ...
"นายน่าจะบอกเขาซะว่าเราไม่ได้คบกัน... แต่ก็แล้วแต่นาย...อยากจะบอกเขาตอนไหนก็ได้นะ
ถ้าอยากจะอ้างชื่อฉันไปเรื่อยๆก็ได้ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก
เผื่อคนโง่นั่นจะได้รู้ตัวบ้างว่ากำลังทำอะไรอยู่"
จงฮยอนพูดขึ้นก่อนจะยกกระป๋องโค๊กในมือขึ้นดื่ม
ผมหันขึ้นไปมองหน้าเขาก่อนจะถามด้วยความแปลกใจ
"นายหมายความว่ายังไง?"
"นายคงไม่คิดว่าเราจะคบกันจริงหรอกใช่ไหม?
เพราะถ้านายคิดอย่างนั้นจริง นายคงจะทำร้ายฉันมาก
ฉันไม่คิดจะคบกับนายหรอกคยองซู
ฉันรู้ดีว่าฉันไม่ควรไปต่อสู้แย่งชิงอะไรที่ไม่ใช่ของฉันมาตั้งแต่แรก...และฉันมั่นใจว่ายังไงหัวใจนายก็ไม่มีวันเป็นของฉันด้วย
เพราะงั้นแล้ว...ก็อยู่ที่นายจะตัดสินใจล่ะ ว่าจะเอายังไงต่อไป"
จงฮยอนพูดออกมาเบาๆราวกับว่าปลงตกในสิ่งที่พูดออกมา
และเมื่อผมได้ฟัง...มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดเขาไปอีก...
"ฉันขอโทษนะจงฮยอน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ
ฉันไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไง...นอกจากขอโทษ"
ผมกระซิบตอบเขา รู้สึกว่าจะร้องไห้ขึ้นมาอยู่มะรอมมะร่อ
แต่จงฮยอนกลับหัวเราะออกมาก่อนจะเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆก่อนจะพูดปลอบใจกับผม
"ไม่เอาน่า...ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษซักหน่อย...ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นด้วยซ้ำ
ฉันก็แค่คิดว่านายประชดพี่เขาไปอย่างนั้นแหละ
และฉันก็ไม่ได้เฮิร์ทอะไรนักหรอก ดีซะอีก...ยิ่งนายทำอย่างงี้ฉันก็จะได้ตัดใจจากนายเร็วๆไง"
จงฮยอนยกมือขึ้นมาลูบหัวผม
และนั่นทำให้น้ำตาของผมที่กลั้นไว้ไหลลงมาราวกับเขื่อนแตก
จงฮยอนเป็นคนดีเหลือเกิน...
มันคงดีถ้าผมรักเขา...หรือทำใจให้รักเขาได้
แต่ความจริงคือผมไม่ได้รักเขา และไม่เคยรักเขา
และไม่ว่าเขาจะดีกับผมเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรที่จะรักเขามากขึ้นเท่านั้น...
"น...นายเป็นคนดีนะจงฮยอน...ฉันรู้ว่านายจะเจอคนดีๆที่เหมาะกับนายแน่ๆ
และฉ...ฉันคิดว่าใครคนนั้นจะเป็นคนที่โชคดีมากๆด้วย...รู้ใช่ไหม?"
ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตา...รู้สึกดีที่จงฮยอนยกยิ้มบางๆเพื่อปลอบใจผม
มือของเขายังคงลูบที่หัวของผมเพื่อปลอบใจ
แต่จู่ๆเขาก็ชะงักและขมวดคิ้วขึ้นมาเฉยๆ...
ผมล่ะแปลกใจจังที่จู่ๆเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก...เพราะสายตาของเขาที่กำลังมองไปด้านหลังของผม
"ม...มีอะไรเหรอ?"
ผมถามพลางหันไปมองตามสายตาของเขา
หากแต่จงฮยอนกลับจับให้ผมหันกลับมาแล้วยกยิ้มกว้าง
"ฉันขอโทษนะคยองซู...แต่นี่เพื่อนายนะ"
จงฮยอนพูดจบก่อนที่เขาจะโน้มเข้ามาใกล้ผม
เราห่างกันแค่คืบเดียวเท่านั้น...เขากำลังจะจูบผม
แต่เมื่อริมฝีปากนั้นกำลังจะเคลื่อนเข้ามาประกบ....
เขากลับยกนิ้วโป้งของเขาขึ้นมากั้นระหว่างกลางริมฝีปากของเราทั้งคู่เอาไว้
แต่ผมยังคงไม่เข้าใจว่าเขาทำอย่างนั้นทำไม?
ผมอยากจะถามเขาเมื่อเขาเอียงคอกดริมฝีปากส่งไปที่ปลายนิ้วโป้งของเขาเอง...
ผมได้แค่นั่งแข็งทื่อและเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ
ก่อนที่คำตอบจะมาอย่างรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน...
"เอาปากห่วยๆของนายออกไปจากคยองซูของฉันนะไอ้เด็กงี่เง่า!!!!!"
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังแล้วซักพักสัมผัสของจงฮยอนก็ถูกกระชากออกไป
ผัวะ!!!!
"จงอิน!!!"
ผมร้องออกมาเมื่อจงอินถลาเข้ามาต่อยจงฮยอนจนหน้าหัน
เหงื่อเม็ดใสไหลเต็มหน้าเขาและสิ่งที่ทำให้ผมสะดุดกึกคือตุ๊กตาขนาดมหึมา
ที่เขาเพิ่งขว้างมันลงไปกับพื้นก่อนจะถลามาต่อยจงฮยอน
....ตุ๊กตาพี่คร๊องที่ผมเคยบอกเขาว่าอยากได้...
"ย...หยุดนะจงอิน!! หยุดซี่!!!"
ผมรีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนเขาเอาไว้ เมื่อเห็นว่าจงอินกำลังเงื้อหมัดขึ้นสูงอีกหน
จงอินหันมาจ้องหน้าผมอย่างโกรธเคือง...ก่อนที่เขาจะพูดสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินจากปากเขา
ถึงแม้ว่ามันจะกำกวมแต่ผมกลับมั่นใจว่าความหมายนั้นไม่ผิดไป...
หัวใจของผมกำลังเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก
เขาพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?
"นายทำอย่างนี้ได้ยังไง?!!
ริมฝีปากของนาย! ตัวนาย! แม้กระทั่งหัวใจนาย!!
ทั้งหมดนั่นเป็นของฉัน...ของฉันคนเดียวเท่านั้น!!
นายยอมให้มันจูบนายได้ยังไง?!!"
จงอินตวาดใส่หน้าผมเสียงดังก้อง...เขาหายใจหอบและเหงื่อก็อาบใบหน้าซีดๆราวกับกระดาษของเขา
ผมสาบานได้ว่าตั้งแต่อยู่กับเขามาเป็นสิบปี เขายังไม่เคยออกแรงวิ่งหรือทำอะไรให้ตัวเองต้องเสียเหงื่อเลยซักครั้ง...
แต่ตอนนี้เขากลับแบกพี่คร๊องมาหาผมถึงที่นี่...
พระเจ้า...บอกผมสิว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่...
"หึ! กว่าจะรู้ตัวนะครับพี่จงอิน
โมโหสินะครับ...แต่ขอโทษด้วยนะที่ผมจูบคยองซูไปแล้ว"
จงฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย...จนจงอินต้องหันขวับไปกระซิบขู่กับเขาอย่างเดือดดาล
ท่าทางของเขาเย็นชาและโกรธขึ้งจนน่ากลัว...
"หุบปากของนายไปเลยก่อนที่ฉันจะเลาะฟันนายหลุดจากปาก"
"หยุดว่าจงฮยอนได้แล้วจงอิน!
พี่มาที่นี่ทำไม?!"
ผมตวาดใส่หน้าพลางผลักอกเขาเมื่อเห็นว่าพี่เขากำลังเดินตรงเข้าไปหาจงฮยอนแล้วทำท่าว่าจะหาเรื่อง
ผมรู้สึกดีใจที่เขามาหาผม...แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรมาทำท่าทางอย่างนี้
ผมไม่ได้รู้สึกดีหรอกนะ...กับท่าทางของเขา
"ฉันมาตามนายกลับบ้าน" เขาหันกลับมาหาผม แล้วจ้องมองด้วยสายตาเว้าวอน...
ผมกลืนน้ำลายลงไปในคออึกใหญ่...
อย่านะคยองซู แค่นี้ก็จะใจอ่อนให้พี่เขาแล้วเหรอ? ไม่นะ...ห้ามใจอ่อนนะ..
"เพื่ออะไร?...บอกเหตุผลมาสิว่าทำไมคยองต้องกลับไปกับจงอิน"
ผมถามเขาเสียงเรียบ...แม้ว่าหัวใจจะพองโตเมื่อเห็นทุกอย่างที่ทำให้คิดเองเออเองว่าจงอินอาจจะรักผมอยู่บ้าง
ผมรู้สึกถึงความหวังที่เขาไม่เคยหยิบยื่นให้ผมมาก่อน...
และสิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้คือการยืนยันให้แน่ใจ...ทำให้ทุกสิ่งมันแน่ชัด...
จงอินหน้าซีดเผือด...หัวใจกำลังเต้นรัวเพราะสายตาจริงจังจนน่าใจหายที่น้องเขาส่งมาให้
เขายังคงเหนื่อยหอบ...และมีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะเป็นลมอยู่มะรอมมะร่อ...
ผมไม่แน่ใจว่านี่ถึงเวลาที่ต้องบอกเขาแล้วหรือเปล่า...ผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม
แต่ไม่ได้หรอก...นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่ผมจะได้บอกกับคยองซู
ก็แค่พูดออกไปเท่านั้นเองไอ้จงอิน...มันถึงเวลาที่ต้องบอกเขาแล้ว...
"ม...ไม่มีหรอก...ฉันไม่มีเหตุผลจะลากให้นายกลับไปบ้าน -- บ...บ้านของเรา
แต่ฉันแค่มีบางอย่างจะมอบให้นายก็เท่านั้น...
ฉ...ฉันไม่รู้ตอนนี้มันสายไปหรือเปล่า
แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันไม่อาจจะมอบให้ใครได้อีกแล้ว...นอกจากนายเท่านั้น"
จงอินกระซิบตอบผมด้วยเสียงลมหายใจขาดห้วง
หน้าของเขาซีดเผือดราวกับกระดาษ
และตอนนี้เขากำลังยืนโอนเอนจะล้มแหล่มิล้มแหล่
หากแต่ผมยังคงถามเขาต่อไป...
ไม่หรอก...ยังแน่ใจอะไรไม่ได้หรอกจนกว่าเขาจะพูดมันออกมา
"อ...อะไร...ความเป็นผู้ปกครองหรือไง?
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมอบมันให้คยองหรอก คยองไม่อยากได้"
ผมกระซิบถามเขาอย่างประชดประชัน
หากแต่คำพูดนั้นกลับทำให้จงอินรีบส่ายหน้าอย่างแรงจนตัวโยน
ก่อนที่เขาจะตอบคำถามด้วยข้อความที่ทำให้หัวใจของผมพองโต...
หัวใจแทบจะกระโจนออกจากอกเมื่อคำพูดนั้นถูกเอ่ยออกมา
"ม...ไม่ใช่... แต่เป็นหัวใจของฉัน หัวใจของฉันเป็นของนายนะคยองซู ทั้งตัวฉัน ใจฉัน --- ทั้งหมดของฉัน"
ตึกตัก...ตึกตัก....ตึกตัก....
หัวใจของผมเต้นแรงเพิ่มเป็นทวีคูณเมื่อคำๆนั้นถูกเอ่ยออกมาจากปากของเขา
ผมเห็นจงฮยอนหัวเราะในลำคอแต่รอยยิ้มนั้นก็ดูจริงใจมากกว่าตอนที่เราคุยกันก่อนหน้านั้น
จงอินหน้าซีดเผือดพลางจ้องหน้าผมอย่างประหม่า...
เหงื่อเม็ดเล็กๆเม็ดหนึ่งกำลังไหลลงมาเข้าตาเขา
และโอ...มันบ้าชะมัดที่มือของผมกลับยกขึ้นไปเช็ดมันออกโดยอัตโนมัติ
วูบ....
วินาทีที่ถูกมือเล็กนั้นสัมผัส
ราวกับมีไฟฟ้าแลบแปลบปลาบขึ้นมาในตัวของจงอินขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัวเป็นสีขาว...
ก่อนที่ใบหน้าของคยองซูจะลอยกลับขึ้นมาอีกครา...แต่มันก็ช่างเลือนรางเหลือเกิน
"จงอิน!! จงอิน!!!"
เสียงของเด็กตัวเล็กเรียกผมอย่างตื่นตระหนก เขาถลาเข้ามาหาผมและจงฮยอนก็เช่นกัน...
ผมอยากจะตอบเขา แต่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจจะทำได้...
.
.
และโลกทั้งใบก็ดับวูบลงไปในพริบตา....
✚ TALK
โอยยยยย...ครบร้อยเปอร์ซักทีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไรเตอร์ขอโทษนะคะ อย่างอนไรเตอร์เลยนะ
ตอนนี้ไรเตอร์อยู่พัทยา มาเที่ยวกับเพื่อนๆค่ะ ><
ที่มาอัพช้าเพราะว่าไวฟายที่รีสอร์ทมันอ่อนล้าแรงกำลังมากค่ะ OTZ
อัพไม่ได้เลยอ่า...ขอโทษน้าาาาาา ขอโทษจริงๆ T^T
อ่ะๆ...เค้าเอารูปมาฝากกกกกกกกก ดูแล้วยกโทษให้ไรเตอร์ด้วยน้าา
รักนะคะ มายรีดเดอร์ ♥
- ไรเตอร์นมน. -
ความคิดเห็น