ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [C0MPLETE] ✚ :: BE MY BABY :: ✚ [KAI x D.O.]*

    ลำดับตอนที่ #2 : ✚ BE MY BABY :: TW0

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.87K
      39
      30 ก.ย. 55

     

    Author : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo

    Story : Jackboiz

    Rate : PG - 15

     

     

     

    Be my Baby*


     

     



     

    ‘0.02’


     









    “จงอิน...คยองอยากกินไอติม  ไอติมมม”

     
     

    เสียงเล็กๆของคยองซูดังขึ้นในขณะที่กระตุกชายเสื้อของผมถี่รัว

    ผมหันไปมองเขาที่กำลังเงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋วและมืออีกข้างก็ชี้ไปที่ร้านไอศกรีมฝั่งตรงข้าม

    เราอยู่กันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพราะคยองซูต้องการหาซื้อของเข้าบ้าน

     

     

    ใช่ครับ...ฟังไม่ผิดหรอก ไอ้เด็กนี่กลายเป็นเจ้าของบ้านผมไปแล้ว

    แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้ไอ้เด็กนี่ทำความสะอาดบ้านทุกวันซะเอี่ยมเชียว

    ที่วันนี้มาหาซื้อก็คือบันไดเล็กๆเพื่อให้คยองซูปีนขึ้นไปล้างจานและทำกับข้าว...

    (ดูเอาเถอะ นี่สรุปใครโตกว่ากัน?)

     

     

    “หืม...อยากกินไอติมเหรอ?

    แต่ฉันรีบนี่นา ไม่กินได้ไหม?” ผมถามในขณะที่หลิ่วตาอย่างไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

     

     

    “งื้อออออออ แต่คยองอยากกินนน

    ให้คยองกินน้า นะครับบบบ จงอินนนน”

     

     

    เด็กน้อยเริ่มย่ำเท้าอยู่กับที่เหมือนเด็กเอาแต่ใจ

    เสียงกระเง้ากระงอดเล็กๆนั้นทำเอาผมใจอ่อน

    ยอมรับเลยจริงๆว่าเวลาไอ้เด็กนี่ทำแบบนี้ล่ะขัดใจไม่เคยลงเลยซักครั้ง

    เอากันตามจริงที่คยองซูอายุ  9 ขวบก็จริง แต่นิสัยจริงๆล่ะอย่างกับเด็ก 6-7 ขวบ ตามสไตล์ลูกคุณหนูพ่อเลี้ยงด้วยเงิน

     

     

    “เอ้าๆ...งั้นก็ไปกินไอติมกันก็ได้”

     

     

    ผมถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจูงมือเด็กน้อยให้เดินไปทางฝั่งตรงข้าม

    คยองซูยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีและก็ฮัมเพลงเด็กๆของเขาออกมาในขณะที่กระโดดโลดเต้นดูน่ารัก

    ผมยกยิ้มเมื่อเห็นอย่างนั้น เอากันตามจริงตอนนี้อย่างกับเลี้ยงลูก

    แม้ว่าจะยังหนุ่มก็เถอะ...แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนักหรอกที่ต้องมาเลี้ยงเด็กแบบคยองซู

    ถึงแม้ว่าบางครั้งจะเอาแต่ใจและดื้อเงียบ แต่อย่างน้อยเขาก็เรียบร้อยและน่ารัก...

     

     

    “จงอิน...จงอินน”

     


     

    คยองซูเรียกผมแบบนี้เสมอ...บางทีมันก็น่ารำคาน แต่สุดท้ายแล้วยังไงผมก็ต้องหันไปหาเขาอยู่ดี

     
     

     

    “หืม? มีอะไรอีกล่ะ”

     
     

    “จงอินชอบไอติมรสอะไร?” เขาถามในขณะที่ยื่นเมนูนั้นมาตรงหน้าผม ทั้งๆที่ยังไม่ได้เปิดออกอ่าน

     


     

    “ฉันเหรอ? ฉันไม่กินอ่ะ...นายกินเถอะ เดี๋ยวฉันนั่งรอ”

     


     

    “งื้อออ ไม่เอาไม่เอาครับ...ถ้าจงอินไม่กินคยองก็ไม่กิน”

     


    “อ้าว...แล้วมานั่งในร้านแล้วเนี่ยนะ”

     


     

    “คยองกินคนเดียวไม่หมดหรอก มันเยอะไป

    คยองจาให้จงอินเลือก แล้วคยองจะกินกับจงอิน” เด็กน้อยยิ้มร่าพลางเอาเมนูยื่นมาจิ้มที่แขนของผม

     


     

    “งั้นคยองก็เลือกเลยสิ...ฉันกินได้หมดล่ะ” ผมตอบแบบขอไปที

     

     


    “ไม่อาววว คยองจะกินที่จงอินเลือก

    จงอินเลือก จงอินเลือก จงอินเลือกน้า”

     

     

     

    เด็กน้อยยังคงจิ้มเมนูเล่มหนานั้นมาที่เขียนผม

    เสียงเล็กๆนั้นดังขึ้นเจื้อยแจ้วฟังดูน่ารำคาน

    แต่ถ้าคุณมาเห็นหน้าตาตอนเขาอ้อนตอนนี้คุณไม่มีทางปฏิเสธลงแน่ๆล่ะ

     

     

    “อ่า...งั้นเอาช็อคโกแลตก็ได้ กับวานิลลานะ ดีไหม?” ผมถามเขา

     

     
     

    “เย้! คยองชอบวานิลลา”

     



     

     เด็กน้อยยกมือขึ้นไปในอากาศอย่างดีอกดีใจ

    ผมยกยิ้มออกมาบางๆเมื่อเห็นอย่างนั้นก่อนจะหันไปสั่งไอศกรีมกับพนักงานสาวที่ยืนรออยู่

    และไม่นานเท่าไหร่...ไอศกรีมกถูกยกมาวางอยู่ตรงหน้า

     

     

    “จงอิน...จงอินนน” คยองซูเรียกผมอีกแล้ว

     


     

    “อะไร?” ผมก็ถามอย่างนี้อีกแล้ว

     


     

    “คยองตักเองไม่ได้ครับ...จงอินช่วยคยองหน่อย”





    เด็กน้อยทำหน้ามู่ ถือช้อนไอติมคันยาวในมือแล้วดันถ้วยไอศกรีมมาตรงหน้าผม

    ผมเงยหน้าขึ้นจากมือถือที่กำลังกดๆจิ้มๆอยู่แล้วก็ถึงบางอ้อ

    เพราะแก้วไอศกรีมเป็นแก้วทรงสูง...และมันก็สูงจนบังหัวไอ้เด็กเตี้ยนั้นไปได้เลย

    แค่แขนยังเอื้อมไม่ถึง...จะเอาปัญญาที่ไหนตักกิน

     


     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ไอ้เตี้ยเอ๊ยยย”  ผมหัวเราะเยาะเขา คยองซูเบะปากใส่แล้วเอาช้อนนั้นมาตีที่มือผมทีหนึ่ง

     


     

    “โอ้ยย ทำบ้าอะไรของนายน่ะ” ผมร้องออกมาไม่ได้จริงจังนัก

     

     

    “จงอินพูดกับคยองไม่เพราะเลย!” คยองซูมุ่ยหน้า

     



     

    “อะไร...เตี้ยนี่ไม่เพราะตรงไหน”  ผมถาม

     


     

    “ไม่เพราะ! คำว่าเตี้ยเป็นคำหยาบ!!” เขาตอบพลางบึนปากใส่ผมหนักไปกว่าเดิมอีก

     


     

    “อ่ะ...โอเคๆ งั้นไม่พูดก็ได้

    เอาช้อนมา แล้วมานั่งตรงนี้สิ เดี๋ยวฉันป้อนนะดีไหม?”

     
     

     

     ผมเจรจาขอสงบศึก เพราะไม่งั้นปากไอ้เด็กตรงหน้านี่ต้องหลุดออกมาแหงๆเลย

    ก็ดูเอาเถอะ เล่นบึนออกมาซะขนาดนั้น

     
     

     

    “เย้ๆๆๆๆ จงอินใจดี คยองรักจงอิน”

     
     

     

    คยองซูพูดพลางกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม

    ผมคว้าช้อนมาจากเขาแล้วตักจ้วงไอศกรีมป้อนไอ้เด็กเตี้ยตรงหน้าไปเรื่อยๆ

    มีบางทีที่เห็นว่าเด็กน้อยกินดูน่าอร่อย จึงตักขึ้นมากินเองบ้าง...

     

     

    ผมยกยิ้มออกมาเมื่อคยองซูเอียงคอไปมาตามเสียงเพลงที่ทางร้านเปิด

    มองไปทั่วร้านก็เห็นคนกำลังหันมามองและซุบซิบนินทาอย่างเปิดเผย





    เธอดูสิ...ยังหนุ่มอยู่เลยแท้ๆมีลูกแล้วอ่ะ น่าเสียดายจัง

     

     

    นั่นสิเธอ...โดนผู้หญิงทิ้งรึเปล่าน่ะ

     


     

    น่าสงสารนะ แล้วก็ต้องมาเลี้ยงลูกคนเดียว

     
     

     
     

    เสียงซุบซิบนั้นดังขึ้นมาอย่างเปิดเผย...ผมถอนหายใจออกมาเบาๆแต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายนักหรอก

    เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาก็งี้ตลอด แล้วก็ไม่รู้จะแก้ตัวไปทำไมในเมื่อเขาก็ไม่ได้รู้จักมักจี่ผมอยู่แล้ว

     


     

    “จงอินน คยองเอาเชอร์รี่...ขอเชอร์รี่ให้คยองครึ่งนึงนะ”

     


     

    คยองซูกอดแขนผมแล้วพูดอ้อน

    เขากัดริมฝีปากล่างแล้วส่งสายตามาอ้อนวอนผมพลางกระพริบตาปริบๆ

     

     

    “เอาไปเลย...ฉันไม่ชอบกินเชอร์รี่หรอก”

     

     

    ผมปฏิเสธไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ความจริงก็ชอบเหมือนกัน แต่เห็นว่าเด็กน้อยอยากกินเลยไม่ใจดำคิดจะแย่งหรอก

     


     

    “เย้ๆๆๆๆๆ ป้อนๆ”

     

     

    คยองซูพูดพลางอ้าปากขอให้ผมหยิบเชอร์รี่ให้เขา

    ผมหยิบมันเข้าไปในปากเขา และเขาก็ดันงับนิ้วผมเล่นนิดหนึ่ง

     
     

    “อ๊าก...อย่ากัดดิคยองซู”

     

     

    “เอิ๊กกๆๆๆๆๆๆๆๆ” คยองซูหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่ได้เห็นผมสะบัดมือไปมาเพื่อคลายความเจ็บ

     

     

    “ลูกคุณน่ารักจังเลยนะคะ...กี่ขวบแล้วเอ่ยเด็กน้อย”

     

     

    พนักงานสาวเดินมาเสิร์ฟน้ำที่โต๊ะแล้วยกยิ้มแซวผมกับคยองซู

    หากแต่ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรเลย คยองซูก็รีบตอบตัดหน้าผมไปทั้งๆที่ยังเคี้ยวเชอร์รี่ยังไม่หมดปากเลยด้วยซ้ำ

     

     

    “ไม่ใช่นะ...ไม่ใช่   ป่ะป๊าคยองซูไม่ใช่จงอินนะ

    ป่ะป๊าคยองอยู่เมืองนอก คยองไม่ได้เป็นลูก แต่เป็นเจ้าสาวของจงอิน”

     


     

    พรวดดด!!!



     

    ผมสำลักน้ำที่กินอยู่ออกมาเล็กน้อย...พนักงานสาวทำหน้าเสียก่อนจะเอ่ยขอโทษแล้วเดินออกไป

    ผมไอสำลักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองคยองซูที่ยังนั่งเคี้ยวเชอร์รี่อยู่ไม่ประสีประสา

     


     

    “แค่ก! จะบ้าหรือไง

    ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนั้นเนี่ย?” ผมถาม

     


     

    “ก็ละครที่เมื่อวานจงอินเปิดทิ้งไว้แล้วหลับไปไงครับ

    คยองอยากดูการ์ตูนโปโรโระ แต่หารีโมทไม่เจอก็เลยนั่งดูละครแทน

    คยองเห็นคนในจอเค้าพูดแบบนี้แล้วก็ทำแบบนี้!

     


     

    คยองซูไม่พูดเปล่า...เขาปีนเก้าอี้ขึ้นมาแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบที่ปากของผม!!!

     


     

    โอ้...มาย...ก๊อด!!!!!

     


     

    โอเค...ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมทีวีต้องจัดเรตติ้งสำหรับเด็ก...

     



     

    “เฮ้ย...คยองซู!! ทำอะไรน่ะคนเยอะแยะ”

     


     

    ผมถามออกไปก่อนจะจับตัวเด็กน้อยให้กลับไปนั่งลงตามเดิม

    คยองซูมองตาแป๋วอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยังทำหน้าตาประสีประสาไม่รู้เรื่อง

     

     

    “โอย...กูจะบ้า” ผมยกมือขึ้นกุมขมับ...ก่อนที่คยองซูจะยกมือเล็กๆนั้นตีที่หลังของผม

     


     

    “จงอินพูดไม่เพราะ! คยองจะตี! ตี!

     

     

    คยองซูพูดพลางระดมทุบเข้ามาที่หลังของผมไปเรื่อยๆ...ผมกลอกตาไปมาก่อนจะจับมือเล็กนั้นมากุมเพื่อให้เขาหยุดตี

     



     

    “พอแล้ว...นายต้องฟังฉันก่อน อย่าไปพูดแบบนี้กับใครอีกโอเคไหม?

    มัน...ไม่เหมาะที่จะพูดกับใครข้างนอกนะ  ทั้งเป็นเจ้าสาวของฉัน...ทั้งไอ้ที่ทำเมื่อกี้ด้วย

    ทีวันนั้นล่ะทำเป็นปิดตา...วันนี้ทำซะเอง หมายความว่าไงเนี่ย”

     



     

    “ก็ในทีวีทำได้นี่ครับ...

    แต่วันนั้นพี่คนนั้นเขาจับก้นจงอิน คยองก็เลยปิดตา” คยองซูเอียงคอแล้วบอกผมตาใส...







    “อ่า...เอาเถอะน่า!

    เอาเป็นว่าห้ามพูดอีกเข้าใจไหม?”  ผมบอกเขาอีกครั้ง

     



     

    “ครับ...คยองซูไม่พูดแล้ว

    จงอินป้อนคยองอีกนะ...ป้อนอีก”

     




     

    เด็กน้อยยิ้มกว้างเมื่อเห็นจงอินถอนหายใจออกมาแต่ก็ยังตักไอศกรีมส่งเข้าปากให้

    คยองซูตีแขนพึ่บพั่บดีอกดีใจที่จงอินตามใจตัวเอง

    และไม่นานเท่าไหร่ไอศกรีมถ้วยใหญ่นั้นก็หมดลงเพราะพวกเขาทั้งคู่จนได้

     

     

     

     
     

    ************







     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาในระหว่างทางที่จงอินและคยองซูขับรถกลับบ้าน

    ทันทีที่โทรศัพท์ดังจงอินก็รีบเอื้อมมือไปกดปิดเสียงเอาไว้เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะตื่นขึ้นมาซะก่อน

    เพราะทันทีที่พวกเขาก้าวขึ้นรถมา คยองซูก็หลับสนิททันทีโดยที่ไม่ได้บอกได้กล่าวไว้ล่วงหน้าเลย

    โธ่เอ๊ย...เด็กหนอเด็ก...

     
     

     

    “ฮัลโหล...ว่าไงไอ้จงแด” ผมกระซิบตอบกลับคนปลายสายไป เพราะไม่อยากจะกวนให้คยองซูตื่น





    เห้ย...หายหัวไปไหนมาวะไอ้จงอิน ไม่เห็นมึงมาที่ผับเลย

    คืนนี้มาเจอกันหน่อยดิ๊ มึงลืมไปแล้วเหรอวะว่าวันนี้วันอะไร?

     


     

    เสียงของจงแดดังขึ้นมาจากปลายสาย

    เพื่อชักชวนให้ผมไปพบปะกับเขาเหมือนที่เรามักจะทำในคืนวันอาทิตย์แบบนี้



    ตั้งแต่ที่คยองซูมาอยู่ด้วย ผมก็ไม่ได้ออกไปท่องราตรีเหมือนปกติ

    เพื่อนๆเองก็โทรมาชวนผมอยู่บ่อยๆแต่ผมเองก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง...

    และผมรู้ว่าวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้แน่ๆ...เพราะผมเพิ่งนึกออกว่าวันนี้เป็นวันเกิดของจงแด

     


     

    “เออ...กูไม่ได้ลืมนะ แต่ช่วงนี้กูไม่สะดวกนิดหน่อย” ผมตอบเขาไปก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าไปในซอยของหมู่บ้าน

     

     
     

    'ไม่รู้ล่ะ...ช่วยโผล่กบาลของมึงมาให้พวกกูเห็นหน่อยเหอะ

    หวังว่ามึงจะเข้าใจที่กูพูดนะ...แล้วเจอกันคืนนี้ แค่นี้ล่ะ'

     


     

    “อ้าวเฮ้ย! ไอ้จงแด...ไอ้เวร!

     


     

    จงแดพูดก่อนจะตัดบทวางสายไป...ผมสบถออกมาอย่างขัดใจแต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านี้

    เหลือบไปมองเด็กตัวน้อยแค่นิดหน่อยเมื่อเผลอพูดคำหยาบ

    ก่อนจะพบว่าตอนนี้เด็กน้อยยังหลับสบายอยู่ที่เบาะด้านข้างคนขับไม่ขยับเขยื้อน

    รู้สึกว่าโชคดี...เพราะว่าถ้าตอนนี้ตื่นอยู่ผมอาจจะโดนมือเล็กๆนั้นฟาดเอาซะแล้วล่ะ...




    เออ...ว่าแต่ทำไมต้องกลัวคยองซูตีด้วยล่ะเนี่ย?

     


     

    จงอินคิดพลางขมวดคิ้ว...ส่ายศีรษะไปมาก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้าน

    สะกิดเรียกเด็กน้อยที่นอนคอพับคออ่อนอยู่ที่เบาะด้านข้างแล้วแต่ก็ไม่ยอมตื่น

    จนจงอินต้องถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจอุ้มคยองซูขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดแล้วพาเข้าบ้านไป

     


     

    เดินไปวางเด็กน้อยลงบนเตียงกว้าง...ผมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นคยองซูกลิ้งตัวตะแคงข้างแล้วหลับต่อ

    เป็นเด็กนี่ดีนะ ไม่ต้องคิดต้องเครียดอะไรมาก เหนื่อยก็นอน หิวก็กิน สบายซะจริงๆ

    แน่ล่ะ...จะต้องเครียดอะไรให้มากมายล่ะ ในเมื่อเพิ่งเกิดมาดูโลกได้แค่เก้าปีเท่านั้นเองนี่

     

     

    จงอินเดินไปเปิดแอร์ให้คยองซูก่อนจะหันหน้าขึ้นมองนาฬิกาบนผนัง

    ตอนนี้ก็เกือบสามทุ่มแล้วและเขาก็คิดว่าคยองซูคงหลับยาวไปจนเช้าแน่...




    ตัดสินใจหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำเพื่อเตรียมไปงานฉลองวันเกิดจงแด

    แต่ที่ไม่ค่อยแน่ใจนักก็เพราะไอ้เด็กตาแป๋วที่กำลังนอนอยู่บนเตียงของเขานี่แหละที่ทำให้ต้องหยุดคิดนานขนาดนี้

    แต่เมื่อสุดท้ายแล้วเมื่อเขามั่นใจว่าคยองซูจะไม่ตื่นขึ้นมาจนกว่าจะเช้า เขาจึงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัวทันที...

     
     

     

     

    ************

     





     

    “เฮ้ยไรวะ? มาถึงที่แล้วมาทำหน้าเป็นตูด...ไปดิ้นหน่อยเด่ะ

    แก้วนี่ด้วย   ยุงจะวางไข่แล้วนะเฮ้ย...ยกมั่งอะไรมั่งเหอะ”


     
     

    เสียงของปาร์คชานยอลดังขึ้นมาในขณะที่เกาะไหล่ผมเอาไว้แล้วโยกศีรษะตามจังหวะเพลง

    ผมไม่ตอบเขาแต่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย รู้สึกไม่สนุกเอาซะเลยเพราะในใจมัวแต่ห่วงพะวงคนตัวเล็กที่อยู่ที่บ้าน

    แม้ว่าเสียงเพลงที่เปิดดังขึ้นมาจะเป็นเพลงที่ผมชอบมาก

    นี่ถ้าเป็นสองอาทิตย์ก่อนผมคงเมาปลิ้นแล้วเต้นรั่วๆ หิ้วสาวหรือหนุ่มซักคนกลับไปต่อที่ห้องด้วย..




    แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว...

     


     

    เป็นห่วง...ที่ทิ้งให้คยองซูอยู่บ้านคนเดียว

    เป็นห่วง...ไม่รู้ว่าตื่นมาไม่เจอใครแล้วจะร้องไห้รึเปล่า...

     
     

    ที่บ้านไม่มีโทรศัพท์ และคยองซูเองก็ไม่มีมือถือ

    นี่ถ้าจะตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน แล้วใครจะเปิดไฟให้ล่ะ?

    ถ้าในระหว่างที่ผมไม่อยู่ที่บ้านจะเกิดอะไรขึ้นไหม??

     

     

    โอ...บ้าชิบ นี่ผมคิดมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?

    ทำไมต้องให้เด็กคนเดียวมาเปลี่ยนชีวิตผมขนาดนี้?

     


     

    “เฮ้ย...เงียบทำไมวะ? ป่ะ...ไปเต้นตรงโน้นด้วยกันดิ”




    "ไม่ล่ะ...กูจะกลับแล้ว  ฝากบอกจงแดด้วยว่าสุขสันต์วันเกิด"




    ชานยอลถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นจงอินเงียบไป...

    หากแต่จงอินสะบัดแขนของชานยอลที่เลื่อนขึ้นมาโอบที่บ่าออกไป

    แล้วเก็บเอากระเป๋าตังค์และมือถือที่วางใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากร้านทันที

     


     

    “เฮ้ย! ไอ้จงอิน! จงอิน!!!

     


     

    เสียงของชานยอลดังขึ้นมาเพื่อหวังจะหยุดผมให้หันกลับไปหา แต่ผมไม่ได้สนใจมัน

    ยกนาฬิกาขึ้นดูก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆจะตีสองแล้ว...

    ก็ได้แต่หวังว่าคยองซูจะยังไม่ตื่นขึ้นมาหรอกนะ...

    .

    .

    .


    อย่าเพิ่งตื่นขึ้นมาล่ะคยองซู...

     



     

    ********



     

     

    ผมวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในบ้าน

    ขับรถกลับมาด้วยความไวสูง ใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นก็มาถึงบ้านแล้ว

    ผมปาดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะไขกุญแจบ้านแล้ววิ่งไปที่ประตูห้องนอน

    เห็นมันเปิดอยู่แล้วก็รู้สึกผิดเหลือเกิน...

    .

    .

    .

     
     

    เสียงร้องไห้ลอดดังออกมาจากข้างในนั้น...

     


     

    “คยองซู....”

     

     

    “จงอิน!!! ฮือออออ  จงอินนนนน”

     

     

    ผมเดินเข้าไปในห้องนอนและพบว่าเด็กน้อยกำลังนอนคุดคู้อยู่ในผ้าห่มและร้องไห้

    ไฟทุกดวงในบ้านปิดสนิทเพราะว่าผมเผลอปิดไว้เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะตื่น

    แต่ก็ไม่ได้คาดคิดเอาไว้  ว่าถ้าหากคยองซูตื่นขึ้นมาแล้วเขาจะเปิดมันเองได้ยังไง?

     

     

    หัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม...คิดแล้วเชียวว่าไม่ควรจะออกไปเลย

    คยองซูกระเด้งตัวลงมาจากเตียงทันทีแล้ววิ่งมากอดผมไว้

    ผมอ้าแขนรับเขาเข้ามากอด พร้อมทั้งลูบหัวเบาๆอย่างปลอบโยน

    ...ผมไม่น่าปล่อยให้คยองซูอยู่คนเดียวเลย...

     
     

     

    “จงอินไปไหนมา! คยองตื่นมาไม่เจอจงอิน  คยองกลัว...ฮือออ”

     


     

    เด็กน้อยร้องไห้หนัก สะอื้นจนตัวโยนในขณะที่ซบหน้าลงกับบ่าของผม

    ผมปรับลมหายใจให้เป็นปรกติก่อนจะรีบพูดปลอบคยองซูอย่างช้าๆ

     

     

    “ฉ...ฉันอยู่นี่แล้วไง กลัวอะไรล่ะ...หืม?”

     

     

    “จงอินไม่อยู่...คยองเดินหาทั่วบ้านเลย แต่จงอินไม่อยู่ คยองนึกว่าจงอินจะทิ้งคยองไปแล้ว

    คยองพยายามไม่ดื้อเพราะกลัวจงอินจะทิ้งคยอง...   ฮือ...กลัวจงอินจะทิ้งคยองเหมือนที่พ่อทิ้งคยอง”

     


     

    เด็กน้อยร้องไห้จ้า...กอดผมไว้เสียแน่นเชียวในขณะที่สะอื้นออกมา

    ผมเพิ่งมารู้สึกผิดเต็มหัวใจก็ตอนนี้...

    ใครบอกว่าเด็กไม่มีอะไรให้คิด นี่ไง...คยองซูกำลังเปิดเผยมันออกมากับผม

    อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็เก็บงำความรู้สึกของตัวเองเอาไว้มาตลอด....




    เพราะ
    เขาไม่เคยร้องไห้หาพ่อมาก่อนเลย...

     

     
     

    “ไม่เอานะ...จงอินอยู่ตรงนี้แล้วนะคยองซู

    ไม่ร้องนะ ไม่ไปไหนหรอก ฉันจะไม่ทิ้งคยองซู” ผมกระซิบในขณะที่ลูบหัวทุยของเขาเบาๆ

     

     
     

    “ส...สัญญานะ...

    จงอินห้ามทิ้งคยองไปนะ....นะครับ”  

     
     

     

    คยองซูเอ่ยสะอึกสะอื้น แต่ก็ยังไม่วายผละตัวออกมายื่นนิ้วก้อยให้กับผม

    น้ำตายังไหลอาบแก้มป่องๆนั้นและคยองซูก็ยังคงสะอึก

    แต่ดวงตาใสแป๋วและท่าทางน่ารักนั้นทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

     

     

    “อืม...สัญญาสิ ไม่ทิ้งหรอก

    ฉันจะทิ้งนายได้ยังไงเล่าเด็กบ้า

    มานี่สิ...กลับไปนอนเถอะนะ ฉันไม่ไปไหนแล้ว”

     

     

    “ห...ให้คยองนอนกับจงอินนะ ค...คืนนี้จงอินกอดคยองนะ”

     

     

    เด็กน้อยสะอึกในขณะพูด...ถึงแม้ว่าผมจะลุกขึ้น แต่เขาก็ยังตามมากอดขาของผมเอาไว้แน่น

    ราวกับว่าเขาไม่อยากจะให้ผมหายไปไหนอีกแล้ว...

     
     

     

    “อืม...ได้สิ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะกอดคยองซูเอง

    มานี่มาเด็กดี...เด็กดีต้องไม่ร้องไห้ตอนนอนนะ”  

     

     
     

    ผมพูดแกล้งเขา คยองซูหยุดร้องไห้ไปทันทีแต่ก็ยังสะอึกอยู่เล็กน้อย

    ผมอุ้มเขาขึ้นไปนอนบนเตียงก่อนจะเลื่อนตัวลงไปนอนข้างเขา

    คยองซูปรี่เข้ามากอดเอวผมทันที...ทำเอาผมต้องหัวเราะออกมาอย่างขันๆ

     

     
     

    “ฉันไม่ไปไหนหรอกน่า...หลับได้แล้ว นี่ตีสองกว่าแล้วนะ

    พรุ่งนี้ฉันต้องพานายไปสมัครเรียนนะเด็กดื้อ...ถ้านายตื่นสายฉันฆ่านายแน่”

     

     

    “ไม่สายหรอกครับ...คนที่จะสายเป็นจงอินต่างหาก” คยองซูพูดค้านผมแต่ก็หลับตาลงอย่างว่าง่าย

     

     

    “ยอกย้อนอีกแหน่ะ...รีบนอนไปเลยไป

    ฝันดีนะคยองซู...” ผมบอกเขา

     


    "ฝันดีครับจงอิน..."  คยองซูตอบกลับ



     

    ผมนอนตะแคงข้างแล้วกอดคยองซูไว้

    เด็กตัวเล็กกอดผมแน่นเข้าไปอีกแล้วเริ่มหลับตานอน

     

     

    และไม่นานเท่าไหร่ลมหายใจของคยองซูก็เข้าออกเป็นจังหวะ  บ่งบอกให้รู้ว่าเขาเข้าสู่นิทราไปแล้ว...

    แต่ที่มันน่าตลกก็คือ...นอกจากเขาจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาเป็นพักๆเพื่อมองผมแล้ว

    เขายังกระชับกอดเล็กๆที่โอบรอบเอวผมอยู่ตลอดเวลาเสียด้วย...

     
     

    ผมนอนนิ่งแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเพราะกลัวว่าน้องเขาจะไม่สบายตัวและสะดุ้งตื่น

    แม้จะเมื่อยแต่ก็ยอมเพราะไม่อยากให้คยองซูต้องร้อนใจอีก

     

     

    ผมมองไปที่แก้มป่องๆของคยองซูและจมูกเล็กๆที่ขึ้นสีแดงเพราะผ่านการร้องไห้

    ยกมือขึ้นมาบีบมันเบาๆทีหนึ่งแล้วกระซิบเสียงแผ่ว

    เป็นเสียงที่ดังอยู่ในลำคอและแทบจะไม่ได้ยินเป็นคำพูดออกมาเสียด้วยซ้ำ...

     

     

     

    “ไม่ต้องกลัวหรอกน่าเด็กบ้า...เพราะว่านายอยู่ตรงนี้

     

    .

    .

    .

     

     
     

    แล้วฉันจะหนีไปไหนได้ยังไง?” 














    ✚ TALK



    อร๊ากกกกกก คยองน่ารักอ่ะ น่ารักกกกก T/////////T
    หลงรักน้องคยองในฟิคตัวเอง ฮรืออออออ

    หลังๆอาจจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องนะคะ พอดีไรเตอร์ง่วงมั่กมาก 
    ไว้พรุ่งนี้ตื่นแล้วจะมาแก้คำผิดให้นะคะ จุ๊บๆ

    ไม่มีไรละ...ไปนอนล่ะ 
    บรายยยยยส์


    - ไรเตอร์นมน -




    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×