ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✚ :: CURSE :: ✚ [ KAI & D.O. ]*

    ลำดับตอนที่ #11 : :::::::::: CURSE ' 10

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.17K
      6
      15 ม.ค. 56

       Author : `MR.$N0WMAN * 
    Pairing : Kim Jongin
    Xiao Luhan/Oh Sehun/Zhang Yi xing/
    Kim Junmyun/
    Krystal Jung
    Do Kyungsoo

    Rate : PG-17

     










     

    ✚ CURSE ' 10

    10 Pairing : Wu Yi Fan

     



     

    เพี๊ยะ!!!!

     

     

    ไคเงื้อมือตบหน้าคยองซูจนสุดแรง

    จนพี่ตัวเล็กล้มลงไปกองกับพื้น ถาดอาหารหล่นลงกระจัดกระจาย

    คยองซูร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มจากแรงตบของไค หากแต่พูดอะไรไม่ออก ด้วยเพราะความตกใจ

     

     

    ออกไปนะคยองซู!! ผมไม่อยากเห็นหน้าพี่

    พี่มันคนทรยศ!!! ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้!!!

     

     

     

    จงอิน...

     

     

     

    คยองซูกระซิบเสียงเครือ

    ก่อนจะหันขึ้นไปมองหน้าของคนเป็นน้องด้วยความตกใจ

     

     

     

    อย่าเรียกผมด้วยชื่อนั้นนะ!!  ไคตวาด

     

     

     

    ตัวเขาสั่นไปด้วยความโกรธ...ใบหน้าร้อนผ่าวจนเหมือนว่าเขาเองใกล้จะระเบิดเต็มที

    ไคปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม พร้อมๆ กับที่เริ่มขว้างปาข้าวของเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังกลัดกลั้นอยู่

    อยากจะให้พี่เขากลัวและออกไปจากห้องซะ แต่เห็นได้ชัดว่าคยองซูไม่ได้เป็นอย่างนั้น

     
     

    จงอิน ใจเย็นก่อนสิ...ได้โปรด!

    ฟังพี่ก่อนได้ไหม พี่ขอโทษ....”  

     

     

    คยองซูผุดลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปกอดไคเอาไว้ในอ้อมแขน

    เพื่อไม่ให้ไคได้หยิบจับหรือขว้างปาอะไรอีก

     

     

    คิดถึง...เขาคิดถึงจงอิน

    แต่ไม่ใช่จงอินที่เป็นแบบนี้...ไม่ใช่เลย....

     

     

    ปล่อยนะ! ปล่อยผม!!

    คยองซู ...ผมบอกให้ปล่อยย!!

     

     

    ไม่!! พี่ไม่ปล่อยจนกว่านายจะสงบลงและคุยกับพี่!!!

     

     

    คยองซูตวาดใส่พลางยิ่งกอดรั้งไคเอาไว้แน่นขึ้นไปอีก

    ไคร้องไห้และเหวี่ยงตัวไปมาในอ้อมแขนของคนเป็นพี่

    พยายามให้ตัวเองหลุดพ้นออกจากอ้อมแขนที่พันธนาการเขาอยู่

    ตัวของเขาใหญ่กว่าตัวของคยองซูเกือบเท่าตัว...แต่น่าแปลกที่ตอนนี้เขากลับไร้เรี่ยวแรงที่จะสะบัดคยองซูออกไป

    เพราะมันไม่ได้ถูกรัดไว้แค่ตัวของเขา...หากแต่เป็นหัวใจด้วย

     

     

    จงอิน! ช่วยฟังพี่ก่อนได้ไหม??

    พี่คิดถึงนายนะ...พี่ขอโทษ” คยองซูพูดเสียงสั่น น้ำตาไหลลงมาเปียกที่หัวไหล่ของไคเต็มไปหมด

     

     

    จนสุดท้ายแล้วไคก็ต้องหยุดดิ้นรน แต่มันไม่ใช่เพราะความเหนื่อยล้า...

    หากแต่เป็นน้ำตาและคำว่าขอโทษที่ออกมาจากปากของคยองซูต่างหากที่ทำให้เขาแทบอ่อนแรง

     

     

     

    มันเป็นแบบนี้ไม่ได้...นายจะใจอ่อนไม่ได้นะ! ไคคิดในใจพร้อมทั้งกัดริมฝีปาก

     

     

     

    ได้โปรดช่วยฟังพี่...ได้ให้โอกาสพี่แก้ตัวบ้างได้ไหม?

    พี่เข้าใจว่านายเกลียดพี่มาก แต่พี่ยังคงรักและคิดถึงนายนะ

    ....จงอิน

     

     

     

    ฉัน-บอก-ว่า...

    อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้น!!!

     

     

     

    ไคกัดฟัน...หลับตาลงอย่างเจ็บปวดเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่อยากจะหนีมันไปให้พ้นๆ

    ชื่อจริงๆ ของเขา...ตัวตนจริงๆ ของเขา ที่เขาอยากจะเอาเงินทั้งหมดที่มีอยู่ซื้อมันทิ้งไป

    หากแต่เขาหนีมันไปไม่เคยพ้นเลยซักครั้ง....

     

     

     

    พี่ขอโทษ...พี่ไม่นึกเลยว่านายจะเกลียดพี่ขนาดนี้

    พี่ดีใจมากนะ ตอนที่รู้ว่าจะได้กลับมา...พี่คิดถึงนายมาก

     

    พี่คิดไว้เสมอว่าเมื่อเจอนาย คำแรกที่พี่จะบอกกับนายคือทุกคำที่จะบอกว่าพี่คิดถึงนายแค่ไหน

    ต...แต่พี่ไม่รู้...พี่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้  พี่ขอโทษได้มั้ย...ขอโทษ....

     

     

     

    คยองซูร้องไห้สะอึกสะอื้นและซบหน้าอยู่ที่กลางหลัง เขากำลังทำให้ไคใจอ่อน

    พี่เขาซบหน้าลงมาร้องไห้กับบ่าของไคเบาๆ

    เสียงที่อุดอู้อยู่ในลำคอนั้นบ่งบอกว่าคยองซูเองเสียใจมากแค่ไหน

     

     

    ปล่อยผมได้แล้วคยองซู...พี่กำลังทำให้ผมเจ็บ” ไคพูด

     

     

    พ...พี่ขอโทษ...พี่กอดนายแรงไปสินะ นายเจ็บเหรอ?

    พ...พี่จะปล่อยนายเดี๋ยวนี้แหละไค แต่นายต้องสัญญากับพี่นะ ว่าเราจะคุยกันดีๆ

    ได้โปรดใจเย็นลงก่อน...นะ?” คยองซูกระซิบถามที่ข้างหูอย่างอ่อนโยน

     

     

    อืม” ไคตอบรับ

     

     

    เมื่อได้ฟังอย่างนั้น คยองซูจึงค่อยๆ ปล่อยไคออกจากอ้อมกอดช้าๆ

    และนั่นทำให้ไคต้องรีบสะบัดหน้าเพื่อหันกลับมามองคยองซูได้อย่างถนัดตา

     

     

    พอเถอะคยองซู...เราไม่มีอะไรต้องพูดกัน

    พี่แค่ออกไปจากห้องนี้ก็พอ

     

     

     

    ไคพูดพลางมองคนที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่ด้านหน้าของเขา

    ใบหน้าขาวเปล่งปลั่งของคยองซูมีสีแดงระเรื่อจากการร้องไห้

    ดวงตาบวมช้ำนั้นทำให้หัวใจของไคหวั่นไหว

     

    อยากจะดึงพี่เขาเข้ามากอด...อยากจะจูบให้หายคิดถึง

     

     

    หากแต่ไคต้องเก็บกลั้นไว้ เพราะเหตุผลมากมายที่ตีกันอยู่ในหัวสมองจนวุ่นวายไปหมด

     

     

    เขาเป็นคนที่ทิ้งนายไปไม่ใช่เหรอเป็นคนที่ทรยศนาย

    หล่อนทอดทิ้งนายไว้กับความเหน็บหนาวมานานหลายปี

    นายจะยอมยกโทษให้คนใจร้ายแบบนี้ได้เหรอ? ง่ายไป...มันไม่ง่ายเกินไปหน่อยเหรอ??

     

     

    ไคหลับตาลง กำหมัดแน่นอย่างอดกลั้น

    พยายามสูดหายใจลึก เพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาอีกหน

     

     

     

    พี่ไปเถอะคยองซู...ไปซะ ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว

    ผมยังไม่พร้อมจะคุยกับพี่ตอนนี้   ไม่ใช่ตอนนี้!

     

     

    ไคพูดเบาๆอย่างอดกลั้นและพยายามจะควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น

    หากแต่คำขอร้องนั่นไม่ได้ทำให้คยองซูเข้าใจได้

    หรือเรียกอีกอย่างก็คือคยองซูไม่คิดจะทำความเข้าใจมันเลยด้วยซ้ำไป

     

     

     

    ไม่นะไค...ใจเย็นลงก่อนไม่ได้เหรอ?

    เราต้องคุยกันนะ พี่ไม่อยากให้มันยืดเยื้อไปกว่านี้

     

     

    ไม่!! พี่ต้องออกไปเดี๋ยวนี้!!!!

    ผมบอกว่าผมไม่พร้อมจะคุยหรือฟังอะไรทั้งนั้น พี่ไม่เข้าใจหรือไง!

    ต่อให้พี่มีเหตุผลร้อยพันอะไรมาบอก ผมก็ไม่ฟังพี่ทั้งนั้น!

    ผมไม่ฟัง...พี่เข้าใจที่ผมพูดไหม??”

     

    ไคเริ่มตวาดอีกหน...เขาล่ะเกลียดนักกับอะไรที่มันอยู่เหนือการควบคุม

    และสถานการณ์ตอนนี้ก็จัดอยู่ในสถานการณ์ที่ไคไม่อาจจะควบคุมอะไรได้เลยซักนิด

    มันทำให้ไคเริ่มจะประสาท เขาอยากจะตะโกนหรือวิ่งหนีไปไหนก็ได้

    หรือขว้างปาข้าวของให้มันหนำใจ เพื่อที่เขาจะได้ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ ทั้งสิ้น

     

     

     

    หากแต่คยองซูก็ยังคงยืนนิ่ง ซึ่งมันทำให้ไครู้สึกโมโหยิ่งขึ้นไปอีก

    เขาไม่อยากเห็นหน้าคยองซู...แม้แต่ผิวขาวเปล่งปลั่งนั้น หรือแม้กระทั่งปลายเส้นผม

     

     

    ได้!! ถ้าพี่ไม่ออกไป...ผมจะไปเอง!

     

     

    ไม่นะจงอิน! จงอิน!!

     

     

    ไคตัดสินใจวิ่งออกจากห้องไปทันที

    โดยไม่สนใจเสียงตะโกนของคยองซูที่เรียกร้องเขาอีกต่อไป...

     

     

    *********

     

     

    ไคหลับตาลงอย่างช้าๆ เพื่อจะบรรเทาอาการแสบขัดที่ดวงตาของตัวเองในเวลานี้

    เขารู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้ หากแต่รู้สึกว่าสาสมใจอยู่เหมือนกันที่ได้ทำมันลงไป

    เขาตบหน้าคยองซู...ซึ่งเขาเองก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะกล้าทำมันลงไปได้

     

     

    เขากลับมาตายรังที่ผับอีกแล้ว

    นั่นเพราะว่าเขาไม่มีที่ไปที่อื่นเลยนอกจากที่นี่

     

    ไคกัดริมฝีปากด้วยความเสียใจ

     

     

    ...เสียใจที่ตัวเองกำลังสูญเสียการควบคุม...

    ...เสียใจที่กำลังจะกลับกลายมาเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่อ่อนแออีกครั้ง...

     

     

    หึ...นี่มันเรื่องบ้าๆ

    เรื่องที่เขาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกแล้วในชีวิตนี้

     

    โดคยองซูกลับมา...หลังจากที่ทิ้งรอยแผลเป็นร้ายกาจไว้ในใจฉัน

    มันอาจจะเนิ่นนานมาแล้ว แต่แน่นอนว่ารอยแผลนั้นยังคงไม่หายสนิท

    ไม่สิ...อันที่จริงควรจะเรียกว่ามันไม่เคยถูกสมานให้ดีขึ้นเลยต่างหาก

    ในทุกๆ วันที่ไคเผชิญกับชีวิตอันโดดเดี่ยวนั้นก็ยิ่งทำให้ปากแผลนั้นเปิดกว้างยิ่งขึ้น

    ไม่มียาใดเลยที่จะช่วยสมาน...หรือทำให้มันจางหายไป...ไม่มี

     

     

    ถ้าคิดไปแล้วมันอาจจะเหมือนเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์

    ที่พ่อมดร้ายคนหนึ่งได้เสกคำสาปใส่เขาแต่เผลอทิ้งแผลเป็นไว้

    หากแต่เขาไม่เคยจะเป็นปกติได้ เพราะแผลเป็นนั้นเจ็บตลอดเวลา

     

     

    มันก็เหมือนกับตอนนี้นั่นแหละ...ที่คยองซูได้กลับมาซ้ำเติมให้รอยแผลนั้นได้เจ็บปวดอีกครั้ง

    ผมอาจจะเหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ก็ไม่อาจจะพูดได้เต็มปากหรอกนะ

    เพราะพ่อมดน้อยในนิยายเรื่องนั้นมีเพื่อน มีคนที่รักและคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

     

    ...แต่ผมไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว...

     

     
     

     

    *********

     

     

     

    พี่พูดว่าไงนะ?”

     

     

    จงอินถามอย่างตกใจ

    เมื่อได้ยินประโยคพี่ชายคนสนิทซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของป้าคิมเพิ่งพูดออกมา

     

     

    อื้ม...พี่ได้ทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษ

    จงอิน ... พี่จะได้ไปอังกฤษแล้วนะ!

    ดูสิ...มีรายชื่อพี่อยู่ในนี้ล่ะนายเห็นมันไหม?”

     

     

    คยองซูยิ้มร่าจนแก้มแตก...พลางชี้ชวนให้จงอินมองดูรายชื่อมากมายที่ขึ้นโชว์ในหน้าจอคอมพิวเตอร์

    คยองซูกำลังปิติยินดีอย่างที่สุด...หากแต่จงอินนั้นกลับกำลังจะร้องไห้ออกมา

     

     

     

    พี่จะไปอังกฤษ?

    แล้วผมล่ะ?? พี่จะทิ้งผมไว้ที่นี่เหรอ???” จงอินตัดพ้อ

     

     

    คยองซูมองหน้าจงอินก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

    เมื่อคำถามที่คนเป็นน้องถามนั้นกำลังสร้างความลำบากใจให้เขาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

     

     

     

    พี่...พี่ขอโทษ พี่หวังว่านายจะเข้าใจ

    มันเป็นอนาคตของพี่ พี่ฝันว่าพี่จะได้ไปเรียนที่อังกฤษมานานแล้วนะจงอิน

    ตอนนี้พี่มีโอกาส พี่หวังว่านายจะยินดีกับพี่นะ

     

     

    คยองซูหลบสายตาและพูดเสียงเอื่อย

    เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อนเลยว่าจะทำยังไงกับจงอินดี

    จงอินส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

     

     

     

    ไม่! ผมไม่ให้พี่ไปหรอก ถ้าพี่ไปแล้วผมจะอยู่ยังไง

    ที่ผมยอมอยู่บ้านทุกวันนี้ก็เพราะพี่

    แต่พี่กำลังจะทิ้งผมไว้ในในนรกนี้เพียงลำพัง!!

    ไม่นะคยองซู...ผมไม่ยอม!!!

     

     

    จงอินตะโกนออกมาสุดเสียง และเริ่มร้องไห้ออกมาเมื่อไม่อาจจะห้ามตัวเองได้

    คยองซูกำลังจะทิ้งเขาไป...จงอินกำลังจะต้องอยู่เพียงลำพังในบ้านที่เป็นเหมือนนรกหลังนี้

    ไม่นะ...เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น!

     

     

     

    พี่...ขอโทษ

     

    คยองซูเอ่ยออกมาเสียงเครือ

    เขาไม่ได้คิดมาก่อนว่าจงอินจะโมโหถึงขนาดนี้

     

    งั้นผมไปกับพี่ได้ไหม?? นะ...ให้ผมไปด้วย

    ผมจะขอพ่อไปเรียนที่อังกฤษกับพี่ ขอแค่ให้เราได้อยู่ด้วยกันนะ

    ได้ไหมคยองซู....ตอบผมมาสิ???”

     

     

     

    จงอินพูดขึ้นมาอย่างมีความหวัง...เขาเดินไปยกมือเรียวของคยองซูขึ้นมาแล้วบีบมันเบาๆ

    หากแต่คยองซูกลับทำท่าทางอึกอักและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    เอ่อ...ไม่คิดว่าคงไม่ได้หรอกจงอิน...พี่ต้องไปอยู่หอพักของมหาลัยที่นั่น

    พี่ให้นายไปด้วยไม่ได้หรอก  เขาไม่อนุญาต...

    แต่พี่ไปเรียนไม่นานก็กลับมาแล้วนะจงอิน!!

    ให้พี่ไปเถอะ...ไม่สิ! ถึงนายไม่ยอมพี่ก็ต้องไป  มันเป็นอนาคตของพี่นะ จงอิน

     

    พี่กำลังจะทิ้งผมไป!! ไหนพี่บอกว่าพี่รักผมและจะดูแลฉันตลอดไปไงคยองซู!!

    พี่โกหก...พี่โกหกผม!!

     

    ตวาดออกมาในจังหวะเดียวที่ยืนขึ้นค้ำศีรษะพี่ชายตัวเล็กเอาไว้

    แล้วยื่นมือไปคว้าพี่เขาที่ต้นแขนแล้วเริ่มบีบมันด้วยแรงอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในอก

     

    น...นายกำลังจะทำอะไร?”

     

     

     

    คยองซูเอ่ยขึ้นมาอย่างหวาดกลัว เมื่อจงอินกำลังไร้สติและทำท่าทางราวกับว่าพร้อมจะบีบคอเขาได้ทุกเวลา...

    จงอินเดินเข้าไปคว้าตัวแล้วกอดคนเป็นพี่เอาไว้แน่น ตัวเขาสั่นไปด้วยความโกรธและกลัว

    พยายามคิดว่าจะทำอย่างไรให้คยองซูเปลี่ยนใจ ไม่ให้คยองซูหนีไปจากเขา

     

     

    มันอาจจะเห็นแก่ตัว แต่เขาจำเป็นต้องทำ...

    เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้...ถ้าหากขาดคยองซู

    ใครจะคอยอยู่เคียงข้างเขาล่ะ ในบ้านนี้มีเพียงคยองซูเท่านั้นที่คอยรักและใส่ใจเขา

     

    ถ้าหากว่าคยองซูไปเขาจะต้องโดดเดี่ยว ใครจะคอยดูแลเขาถ้าหากพ่อกับแม่ทุบตีเขาขึ้นมาอีกล่ะ

    ไม่...ผมจะไม่ยอมให้เขาไปไหน เพราะผมมีเขาคนเดียวเท่านั้น

     

    ไม่นะจงอิน!!

    ปล่อย! ปล่อยพี่นะ!!

     

     

    คยองซูหวีดร้อง เมื่อจงอินเหวี่ยงเขาลงไปกับเตียงนอนกว้างที่อยู่ด้านหลัง

    จงอินโถมตัวเข้าไปจูบอย่างรุนแรง โดยไม่ยอมให้คยองซูได้มีโอกาสพูดอะไรออกมาอีก

     

     

    อื้อ! จงอิน...ม...ไม่!

    ปล่อยพี่นะ ปล่อยสิ!! ฮ...ฮึก

     

    “ไม่ปล่อยพี่นั่นแหละหยุด!!

    ผมไม่ให้ไปไม่ไม่ให้ไป!!!

     

    คยองซูเริ่มร้องไห้ และเริ่มดิ้นรนขัดขืน...เขากำลังหวาดกลัวเหลือเกินที่จงอินทำตัวรุนแรงกับเขาแบบนี้

    คยองซูรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อออกแรงผลักจงอินออกไปจนสุดแขน

    จนคนที่อยู่ด้านบนพ้นออกไปจากตัว...จงอินตกลงจากเตียงนอนไปได้ในที่สุด

     

    “โอ้ย!!! คยองซูพี่ทำบ้าอะไร?!!

     

    จงอินผุดลุกขึ้นอย่างโมโห ทั้งโกรธทั้งเสียใจที่โดนทำแบบนี้

    หากแต่เมื่อได้เห็นท่าทางหวาดกลัวของคยองซูแล้ว จงอินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที

     

    ผมทำอะไรลงไป... จงอินคิด

     

    ไม่...มันเป็นความผิดของคยองซูทั้งนั้น

    คยองซูกำลังทรยศเขา คยองซูกำลังจะทิ้งเขาไป

     

    คิดในใจอย่างโมโห ก่อนจะเริ่มต้นตะโกนออกมาอีกครั้ง

     

     

     “ไปคิดดูใหม่ซะคยองซู!

    ผมไม่ยอมให้พี่ไป...พี่ต้องเปลี่ยนใจ!

    อยู่กับผมที่นี่คยองซู! ไม่งั้นพี่จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!

     

    จงอินตะโกนใส่หน้าคนเป็นพี่ ที่ตอนนี้หดตัวราวกลับกลัวเขาจะทำอย่างนั้นอีก

    หากแต่ความจริงแล้วจงอินไม่กล้าแม้แต่จะทำให้คยองซูหวาดกลัวอีกแล้ว

    ยิ่งได้เห็นน้ำตาและท่าทางของคนเป็นพี่ที่แสดงออกว่ากำลังหวาดกลัวเขานั่นแหละที่ยิ่งทำให้จงอินต้องกัดริมฝีปาก

    เขารู้สึกผิดในใจ แต่ก็ยังโกรธและเสียใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

     

    ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นพร้อมกันตอนนี้ ทำให้จงอินเริ่มสับสนราวกับจะเป็นบ้า

    เขาอยากจะออกไปจากที่ตรงนี้...ไปยังที่ๆ ไม่ต้องเห็นหน้าคยองซูอีก

     

    จงอินวิ่งออกจากบ้านไปทั้งน้ำตา...

    โดยไม่สนใจคยองซูที่ยังนอนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่บนเตียงเลยซักนิด

    มันไม่ใช่ความผิดเขา...คยองซูนั่นแหละที่ควรจะต้องร้องไห้

    และเขาไม่ควรที่จะต้องมาเสียน้ำตาแบบนี้...

     

    *********

     

     

     

    จงอินวิ่งออกจากบ้านมาและขึ้นรถแท็กซี่ที่ขับผ่านมา

    เกือบสองชั่วโมงแล้วที่จงอินนั่งร้องไห้อยู่ในรถแท็กซี่เงียบๆ

    เขาสั่งให้รถแท็กซี่ขับไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่บอกจุดหมายว่าจะไปที่ไหน

     

     

    เพราะว่าเขาไม่มีที่ไป...

    เขาไม่มีเพื่อนที่สนิทมากพอที่จะไว้ใจทุกอย่างได้ขนาดนั้น

    ทุกๆ วันที่ผ่านมา จงอินคบเพื่อนเป็นแค่เพียงทางผ่านของชีวิตที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ

     

     

    เขามีแต่เพื่อนที่เห็นแก่เงินของเขา

    ไม่มีใครจริงใจกับเขาแม้แต่คนเดียว...

     

     

    จงอินมีเพื่อนเพียงคนเดียวที่คบด้วยอย่างจริงจังคือคยองซูเท่านั้น

    คยองซูเป็นเพียงคนเดียวที่เขาให้ความสนิทและไว้วางใจ

    พวกเขากินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ทำทุกๆอย่างด้วยกันเสมอ...

    จงอินมีแค่คยองซูเท่านั้น...มีแค่พี่เขามาตลอด แต่บัดนี้คยองซูกลับจะทิ้งเขาไป

     

     

    ....ผมควรทำอย่างไรดี....

     

     

    จงอินคิดในใจ ก่อนที่จะตั้งต้นร้องไห้ออกมาอีกหน

    หากแต่คนขับแท็กซี่กลับหยุดจอดรถที่ข้างทางแล้วหันมาถามกับเขาว่า

     

     

     

    พ่อหนุ่ม...นี่ลุงขับวนรอบเมืองมาสองรอบแล้วนะ

    และนี่มันก็ดึกมากด้วย ลุงต้องกลับบ้านไปหาลูกหาเมียลุงแล้ว

    เพราะฉะนั้นพ่อหนุ่มควรกลับบ้านไปได้แล้ว...

    จะให้ลุงไปส่งที่ไหนครับ ที่เดิมหรือเปล่า?”

     

     

     

    ม...ไม่ครับ จอดตรงนี้เลยครับลุง ผมจะลงตรงนี้แหละ

     

     

     

    แต่หนุ่มน้อยนี่มันย่านผู้ใหญ่นะ...นายจะลงตรงนี้ได้ยังไง?

    ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลยแท้ๆ ลงตรงนี้ไม่ได้หรอก...ให้ลุงไปส่งที่เดิมก็แล้วกัน

     

     

    ไม่ครับลุง ผมไม่กลับบ้าน ผมจะลง!

    นี่เงินครับลุง เอาไปเลยไม่ต้องทอน...

     

     

    จงอินพูดพลางควักเงินในกระเป๋าส่งให้ลุงคนขับแท็กซี่

    ลุงทำท่าทางงกๆเงิ่นๆ อย่างไม่เห็นด้วยที่จะให้เด็กชายลงไปในที่แบบนี้

    หากแต่เมื่อจงอินยัดเงินลงไปในมือและเดินออกจากรถไป

    ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ลุงจะพยายามโน้มน้าวให้เด็กชายเปลี่ยนใจได้

     

     

    จงอินลงจากรถและลงเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยแสงสี

    ผู้คนในถนนมองเขาอย่างแปลกประหลาด

     

    จงอินสังเกตเห็นผู้หญิงที่เดินผ่านเขาไปต่างก็แต่งตัวน้อยชิ้นและแต่งหน้าจัด

    ก่อนที่เขาจะมองกลับมายังชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนม.ปลายของเขา

    จงอินตัดสินใจปล่อยชายเสื้อที่ถูกยัดอย่างเรียบร้อยให้ออกมาจากกางเกง

    และถอดเสื้อกระดุมเสื้อออกไปสองเม็ด จนแผ่นอกนั้นเปล่าเปลือยในที่สุด

     

    ถึงแม้ว่าจะยังเป็นชุดยูนิฟอร์ม

    แต่ตอนนี้เขาก็ดูกลายเป็นเด็กร้ายมากพอที่คนที่เดินผ่านจะไม่มองมาอย่างประหลาดใจอีก

     

     

    จงอินหยุดเดินและนั่งลงที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง

    เยื้องด้านหน้าร้านไปเป็นผับขนาดใหญ่ที่คนเดินเข้าออกตลอดเวลา

    จงอินเดินเข้าไปซื้อโคล่าออกมากระป๋องหนึ่ง และนั่งทอดถอนใจอยู่ที่หน้าร้านนั้นเป็นเวลานาน

     

    จงอินนั่งมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าผับและสังเกตุพวกเขา

    ทุกคนที่เดินเข้าไปและออกมายิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข

    จงอินเห็นผู้หญิงหลายคนที่แต่งตัวสวยงามและยิ้มให้กันพลางอวดเสื้อผ้าหรือกระเป๋าที่เธอถือมาด้วย

    ผู้ชายหลายคนที่ออกมาหน้าผับ ต่างก็ยืนสูบบุหรี่และหัวเราะให้กันอย่างสนุกสนาน

     

    ทำไมพวกเขาถึงมีความสุขกันขนาดนั้นนะ...

    ถ้าผมได้เข้าไปบ้าง ผมจะสามารถหัวเราะได้เหมือนพวกเขามั้ย?

     

    และทันใดนั้นจงอินก็ต้องชะงัก

    เขาหยุดมองไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินออกมาสูบบุหรี่ด้านหน้าผับ

    เขาคนนั้นเป็นชายหนุ่มที่หล่อมากๆ จนใครหลายคนต้องเหลียวหลังมองกันเป็นตาเดียว

     

     

    และจงอินเองก็เช่นกัน...เขาเองก็มองผู้ชายคนนั้นอย่างพิจารณา

    เขามีรูปร่างสูงโปร่งและผิวที่ขาวผุดผ่องราวกับไม่เคยเจอแสงแดด...

    ผมสีบลอนด์ทองและคิ้วสีเข้มนั้นทำให้จงอินรู้ว่าคนตรงหน้านั้นเป็นลูกครึ่งอย่างแน่นอน

    ริมฝีปากหยักโค้งนั้นที่เผยอออกตอนอ้าปากคาบบุหรี่ชวนให้รู้สึกหลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ

    รวมถึงดวงตาและสันจมูกนั้นสะกดสายตาของจงอินเอาไว้ไม่ให้เบือนหนีไปทางไหน

     

     

     

    ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นบริกรของผับก้มหัวให้เขาอย่างนอบน้อม

    เขาไม่เข้าใจว่าทำไม...แต่ก่อนจะได้คิดอะไรต่อไป ผู้ชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับจงอินเสียแล้ว

    และดวงตาของเขาก็สวยจริงๆ เสียด้วยสิ สวยจนตรึงจงอินไว้ไม่ให้ละสายตาไปจากเขาได้

    ดวงตาสีน้ำตาลทองทรงสเน่ห์นั้นทำเอาจงอินต้องหลบสายตาด้วยความประหม่า

    อาจจะเพราะว่าเขากำลังมองผู้ชายคนนี้ด้วยท่าทางเปิดเผยเกินไป จงอินเลยต้องรีบหลบสายตาแล้วมองไปทางอื่น

     

    ชายหนุ่มตรงหน้านั้นยกยิ้มให้จงอิน ก่อนจะหันไปสนใจโทรศัพท์ของเขาที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

    จงอินรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ชายคนนั้นละสายตากลับไป

    หากแต่เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้...เขาเลยยกกระป๋องโค้กขึ้นดื่มจนหมด และขยำกระป๋องนั้นทิ้งไป

    ก่อนจะกลับไปจ้องมองชายหนุ่มคนเดิม ที่กำลังเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าผับดังเดิม

    เขายังคงสนุกกับการพูดคุยหยอกล้อกับปลายสายไม่หยุด

     

     

    เฮ้ พ่อหนุ่มน้อย...ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะครับหื้มมม?

    มาๆไปกับพี่สิ เดี๋ยวพี่พาไปสนุกกันนะ น้องคิดเท่าไหร่ครับเนี่ยยย

    หน้าตาหล่อทะลุไส้ แถมยังใส่ชุดฟอร์มมาครบอย่างน้องนี่ต้องแพงแหงเลยสินะ

    แต่ไม่เป็นไร วันนี้พี่มีเงินมาเต็มกระเป๋า ไม่ต้องกลัว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

     

    จู่ๆ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาจงอิน

    ตัวเขาเหม็นเหล้าหึ่งไปหมด แถมยังพูดจาอะไรไม่รู้เรื่องเลยซักนิด

     

     

    แกพูดเรื่องอะไรของแกออกไปนะ...ฉันไม่ไป

     

     

     

    จงอินตะคอก เมื่อผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาคว้าข้อมือของเขาไว้

    แล้วฉุดกระชากให้เขาเดินตามไปเสียอย่างนั้น จงอินรีบสะบัดมือนั้นออก ก่อนจะเดินหนี

    หากแต่ผู้ชายคนดังกล่าวก็สาวเท้ามาคว้าข้อมือของเขาไว้อีกครั้ง

     

     

     

    อะไรก๊านนนน...พี่ดูเหมือนไม่มีเงินเหรอจ๊ะ?

    แสนวอนพอไหมพี่ทุ่มสุดตัวเลยเอ้า!

     

     

    แสนวอน?? ค่าอะไร?”  จงอินมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

     

     

    อ้าว...น้องไม่ได้ขายเหรอจ๊ะ??”

     

     

     “ขายอะไร?”

     

     

    จงอินในเวลานั้นยังเด็กมากนักที่จะเข้าใจเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นพูด

    เขาไม่เคยมาสถานที่แบบนี้มาก่อน และไม่เข้าใจว่านี่คืออะไร

     

    หากแต่ไม่ทันได้คำตอบ...เสียงนุ่มเย็นก็ดังขึ้นมาข้างหลัง

     

     

    ขอโทษด้วยนะครับ แต่เด็กคนนี้เป็นคนของผม...

     

     

    จงอินหันไปมองตามเสียง และก็ได้เห็นผู้ชายคนนั้นกำลังยืนส่งยิ้มที่มุมปากให้กับชายหนุ่ม

    รอยยิ้มนั้นดูน่ากลัวเกินกว่าจะทัดทานได้ เขาไม่ดูเหมือนชายหนุ่มรูปงามคนนั้นเลยซักนิด

    แต่จงอินกลับรู้สึกถึงเสน่ห์ที่ต่างออกไป...

     

     

     

    อ...เอ่อ...เด็กคนนี้ของคุณเองเหรอครับ?

    ผ..ผมขอโทษด้วย ผมนึกว่าเขามาขายน่ะ

    งั้นผม...ผมขอตัว” ผู้ชายคนนั้นตะกุกตะกักพูดอย่างเกรงใจ

     

     

     

    เขาก้มหัวให้ชายหนุ่มผมทองก่อนจะวิ่งหนีออกไปในที่สุด

    จงอินมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปมองยังชายหนุ่มที่มาช่วยเขาเอาไว้

     

     

    เกือบไปแล้วนะ...ฉันไม่ได้มาทำลายงานของนายใช่รึเปล่า?

    นายคงไม่ได้ขายหรอกใช่ไหม?” ชายหนุ่มคนนั้นถาม

     

     

    ขายอะไรเหรอครับ?”

     

     

    โอ! ดีจังที่นายไม่ใช่...มาทางนี้เถอะ เข้าไปข้างในกันดีกว่า

    ถ้าขืนปล่อยนายไว้ตรงนี้มีหวังได้เจอแบบนั้นอีกแน่ รีบตามมาสิ

     

     

     

    ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า หากแต่ยังคว้ามือของจงอินเอาไว้ก่อนจะบอกให้เดินตามไป

    จงอินเดินตามไปอย่างไม่อิดออด จนกระทั่งเขาเดินตามเข้าไปในผับตรงหน้าอย่างว่าง่าย

     

     

     

     

    นี่เด็กของฉัน...ช่วยไปหาคุณอันแล้วบอกให้เขาไปหาฉันที่ห้องหน่อย

    อ้อ! บอกให้เขาเอาเครื่องดื่มมาให้ฉันด้วยนะ

     

     

     

    ชายหนุ่มคนนั้นสั่งบริกรที่ก้มหัวนอบน้อมให้อย่างว่าง่าย

    ก่อนจะส่งยิ้มให้จงอินและลากเขาให้เดินตามเข้าไปข้างใน

     

     

    แต่ทันทีที่จงอินเดินลอดประตูเข้าไปภายในผับ

    แสงสว่างจากเสาไฟฟ้าและป้ายไฟที่เคยเห็นถูกแทนที่ด้วยเสียงเพลงดังกระหึ่ม

    และแสงไฟที่กระพริบไปมารอบตัวของเขา

     

     

    เหมือนจงอินถูกสะกดด้วยคลื่นมหึมาที่โถมเข้ามาใส่ตัวเขา

    ทุกอย่างดูพร่าเลือนและมองเห็นไม่ชัดเจน หากแต่นั่นทำให้จงอินรู้สึกว่าหัวใจกำลังเต้นรัวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

    ความรู้สึกเจ็บปวดที่มีมาตั้งแต่ทะเลาะกับคยองซูถูกแทนที่ด้วยเสียงเพลงกระหึ่ม

    ทุกความเศร้าในหัวสมองกำลังถูกลบล้างเมื่อจงอินได้ยืนอยู่ตรงนี้

     

     

    ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ...เราจะได้ลงมาแน่ๆล่ะ เพียงแต่นายต้องขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อน

     

     

    ชายหนุ่มผมทองเข้ามากระซิบที่ข้างหูของจงอิน ก่อนจะเรียกสติของเขาให้กลับมาได้

    จงอินเดินต่อไปอย่างว่าง่าย จนกระทั่งพวกเขาขึ้นลิฟท์มาถึงห้องๆหนึ่ง

     

     

     

    จงอินเดินเข้ามาในห้องก่อนจะสังเกตเห็นเตียงนอนและห้องชุดขนาดใหญ่

    ชายหนุ่มคนนั้นถอดชุดเสื้อหนังที่ใส่พาดลงกับเตียง

    ก่อนจะเดินไปหยิบเอาเจลแต่งผมมาเปิดแล้วเริ่มจัดแต่งทรงผมให้กับจงอินอย่างถือวิสาสะ

    หากแต่จงอินก็ไม่ได้รังเกียจที่เขาทำอย่างนั้น...

     

     

     

     

    ฉัน...ชื่อคริส นายชื่ออะไรล่ะวัยรุ่น?”  

     

     

    ชายหนุ่มที่เพิ่งแนะนำตัวถามเขาในขณะที่ป้ายเจลแต่งผมลงบนศีรษะของเขา

     

     

    ผม....ชื่อจงอินครับ” จงอินตอบ

     

     

    โอ้! ชื่อนายแปลกไปหน่อยนะ

    มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าชื่อนายน่ะมันฟังดู....ห่วยแตกมาก” คริสพูดก่อนจะยิ้มแกนๆ ส่งมาให้จงอิน

     

     

     

    ไม่เคยหรอกครับ...แต่ผมเองก็ไม่ได้ชื่นชอบชื่อนี้ซักเท่าไหร่

    พ่อแม่ของผมไม่ได้ตั้งใจตั้งชื่อนี้ให้ผมหรอกครับ

    เขาไม่ได้ตั้งใจให้ผมเกิดมาด้วยซ้ำ  ผมล่ะรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ลืมตั้งชื่อให้

     

     

    จงอินพูดขึ้นมาเรื่อย ซึ่งนั่นทำให้คริสหัวเราะออกมาอย่างขันๆ

     

     

    โอ้...นายเป็นเด็กมีปัญหาสินะ

    ถ้านายไม่ชอบฉันจะตั้งชื่อให้นายใหม่ก็ได้นะ

    หรือว่านายอยากลองตั้งเอง ไหนดูซิ! นายอยากชื่ออะไรล่ะ?”

     

     

    อ่า...ผมยังไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลยครับ

     

     

     

    อืม...งั้นฉันตั้งให้นายแล้วกัน ชื่อคิวเป็นไง

    แต่ฉันว่าไม่เวิร์คกับนายหรอกมั้งนะ

    มันแปลว่าเลขเก้าในภาษาญี่ปุ่น นายไม่ได้ชอบเลขเก้าใช่มั้ย?”

     

     “ไม่ครับ...ผมชอบเลขสิบสี่

     

     

    อา...งั้นเอาอะไรดีนะ

    นายชอบอะไรเป็นพิเศษมั้ยจงอิน?”

     

     

    ไม่รู้สิครับ” จงอินปฏิเสธพลางยักไหล่

     

     

    งั้นเรื่องตั้งชื่อเอาไว้ทีหลังแล้วกันนะ คุณอันมาพอดีเลย

    คุณอันครับ...ช่วยหาชุดที่ไซส์พอดีกับเขาหน่อย

    เด็กอะไรก็ไม่รู้หุ่นดีชะมัด...แต่โชคดีที่ผมยังสูงกว่า ฮ่าๆ

     

     

    หลังจากนั้นคุณอันก็ไปหาเสื้อผ้ามาให้จงอินใส่

    และคริสก็จัดการเลือกเฟ้นเสื้อผ้าสำหรับเขา

    ถึงแม้ในความคิดของจงอินนั้นมันดูมากเกินไปหน่อย แต่คริสกลับพออกพอใจมาก

     

     

    ดีเสียอีก เสื้อผ้าพวกนี้มันจะได้เพิ่มอายุของนายขึ้นหน่อยไง” คริสบอก

     

     

    และหลังจากนั้นจงอินก็นั่งคุยกับคริสอยู่ร่วมชั่วโมง

    คริสเป็นคนพูดจาสนุกสนานแถมยังมีเสน่ห์มาก

    ถึงแม้จะเพิ่งได้เจอกันเป็นครั้งแรก แต่จงอินก็สามารถเล่าทุกเรื่องได้อย่างสนิทใจ

    เขาเล่าทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมาจนหมด...และคริสก็รับฟังทุกอย่างๆ ตั้งใจ

    และคอยปลอบโยนเขาทุกๆครั้งที่เขาร้องไห้

     

     

     

    ตอนนี้ผมเป็นเพียงคนที่ทนอยู่กับความมืดไม่ได้เท่านั้นล่ะครับ

    แต่พระอาทิตย์ของผมกำลังจะจากผมไป...

     

     

     

    จงอินพูดพลางร้องไห้ออกมาอีกหน

    คริสจึงหยิบทิชชู่ส่งให้จงอินอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจ

     

     

    ถ้าอย่างนั้นนายก็เป็นพระอาทิตย์เสียเองเลยสิ” คริสพูด ก่อนจะยกยิ้มส่งให้จงอินที่มุมปาก

     

     

    ผมไม่เข้าใจครับ”

     

     

    ฉันจะตั้งชื่อนายว่าไค...นายชอบมันไหม?

    ไคร่า มันเป็นภาษาโบราณของชาวอัซเท็ค เป็นชื่อพิธีกรรมของการบูชาพระอาทิตย์

    คราวนี้นายจะได้เป็นพระอาทิตย์ และต่อจากนี้ความมืดมิดจะไปจากนายตลอดไป

    ฉันจะสอนนายเอง จะสอนให้นายมองข้ามเรื่องหยุมหยิมพวกนั้น

    แล้วต่อจากนี้นายจะยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง นายเชื่อใจฉันไหมไค?”

     

    คริสถาม พลางยื่นมือมาให้กับจงอินเพื่อจะดึงให้เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้

     

     

     

    ผมชอบชื่อนี้ครับ...

    และแน่นอนครับ ผมเชื่อใจคุณ” ไคยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอามือของคริสแล้วดึงตัวเองให้ลุกขึ้น

     

     

    งั้นเราลงไปข้างล่างกันเถอะ...

    ไปสนุกกันให้ลืมความเจ็บปวดทั้งหมดดีไหม?”

     

     

    คริสหลิ่วตาให้กับไคที่ตอนนี้ลุกขึ้นจากเก้าอี้มายืนข้างกายเขาแล้ว

    คริสยิ้มก่อนจะเดินนำไคออกไปจากห้อง

    และตลอดราตรีนั้นคริสและไคก็หัวเราะให้แก่กันไม่หยุด

     

     

     

     

     

     

     

     ✚ TALK 

     

    โอ้วแม่เจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา *ปาดเหงื่อ*

    แชปนี้มาแบบยืดเยื้อสุดๆ ตอนนี้เขียนยากมากค่ะแล้วก็ยาวมาก

    ตอนแรกยาวกว่านี้ตั้งใจไม่ตัด เพราะถ้าตัดรีดเดอร์ก็อาจจะไม่เข้าใจ

    ไรเตอร์เลยต้องยอมแบ่งครึ่งไปเลยย จะได้เคลียร์กันสุดๆ

    (แต่เอาจริงๆที่เอามาลงนี่ก็ตัดออกเยอะเหมือนกันนะ)

    เรื่องของคริสและอิเสี่ยยังไม่จบ และกับคยองก็ยังจะยืดเยื้อต่อไป

     

    ยังไงรอตอนหน้านะคะ ^^

    จะรีบมาลงให้หายสงสัยโดยเร็วที่สุด...

       

     

        © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×