ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✚ :: CURSE :: ✚ [ KAI & D.O. ]*

    ลำดับตอนที่ #18 : ::::::::::::::::: CURSE ' 17

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.75K
      10
      1 ก.พ. 56

     

      Author : `MR.$N0WMAN * 
    Pairing : Kim Jongin
    Xiao Luhan/Oh Sehun/Zhang Yi xing/
    Kim Junmyun/Krystal Jung/Do Kyungsoo
    Rate : PG - 16

     






     

    ✚ CURSE ' 17









    ไคนอนเบิกตาโพลงในความมืด และกำลังรู้สึกหนักใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป

     

    เขานอนกับคยองซู....เขาทำมันลงไปแล้ว

     

    เคยคิดว่าเราไม่อาจจะมีเวลาอย่างนี้ด้วยกันอีก แต่ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น?

    บางทีมันคงเป็นลิขิตของพระเจ้าล่ะมั้ง...

    พระเจ้าอาจจะกำลังแก้แค้นเขา ที่เขาไม่เคยคิดเชื่อในพระเจ้าเลย เขาไม่เคยนับถือหรือคิดถึงมัน...

     

    ไคหลับตาลงอย่างเจ็บปวดเมื่อรู้สึกว่าตัวเองช่างอ่อนแอเหลือเกิน

     

    ใช่...ไคยอมยกโทษพี่เขาง่ายเกินไป โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

    อาจเป็นเพราะว่าส่วนลึกในหัวใจของเขานั้นปรารถนาให้คยองซูกลับมาและยังรอคอยอยู่ตลอดเวลา

    หัวใจเจ้ากรรมเลยไม่อาจจะปฏิเสธได้...

     

     

     

     

    กัดฟันพลางหันไปมองคนเป็นพี่ที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆ อย่างเป็นสุข

    ริมฝีปากสีแดงปลั่งของคยองซูนั้นกระตุกยิ้ม อา...น่าตลกจัง ไคไม่เคยฝันดีเลยซักครั้งตั้งแต่เกิดมา

    เขาไม่เคยคิดว่าฝันครั้งไหนเป็นเรื่องดี...เพราะว่าทุกครั้งที่ตื่นมา ฝันที่เคยได้พบเจอมันก็ไม่เคยเป็นจริงอยู่แล้ว

    เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียกว่ามันเป็นฝันดี ไคก็ขอเรียกมันเป็นฝันร้ายดีกว่า

     

     

     

    ยกมือขึ้นไปเกลี่ยไรผมที่ลงมาปรกหน้าขาวนั้นออก ก่อนจะจ้องมองมันอย่างหลงใหล

    อา...อากาศที่อังกฤษคงจะดีมากสินะ คยองซูถึงได้ผิวขาวสวยอย่างนี้

    ตอนอยู่ที่นั่นจะเคยมีผู้ชายคนไหนมาเกาะแกะวุ่นวายไหมนะ คิดแล้วก็โมโหที่พี่เขาน่ารักขึ้นมากขนาดนี้

    ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี...หากแต่ดวงตากลมโตของพี่เขาก็ยังคงสุกใสเหมือนเดิม เปล่งประกายจนต้องใจสั่นทุกครั้งที่มอง...

    ไคหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง จึงพบว่ามันใกล้จะรุ่งเช้าเต็มที...

    กัดริมฝีปากเมื่อได้คิดว่าตัวเองควรจะทำยังไงต่อไป...เขาเลือกที่จะนอนพักผ่อนได้ หากแต่ไคไม่ต้องการจะทำอย่างนั้น

     

     

    ไคค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากเตียงอย่างช้าๆ พยายามไม่ให้คยองซูตื่นขึ้นมาในตอนนี้

    เขาไม่รู้จะทำตัวอย่างไรถ้าหากคยองซูตื่นขึ้นมา เขาไม่เคยสานสัมพันธ์กับใครต่อจากการมีเซ็กส์มาก่อน

    หรืออาจจะเคย...แต่ไคเองก็แทบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

    ว่าทุกครั้งน่ะเขาทำตัวยังไงนะ เวลาที่ต้องเจอหน้ากับคู่นอนของตัวเองในตอนเช้าหลังจากที่ตื่นขึ้นมา

     

    เขาไม่นับรวมถึงแบคฮยอน เพราะเขากับแบคฮยอนน่ะไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ให้กันเสียหน่อย มีแค่เซ็กส์เท่านั้น

    ที่อยู่ด้วยกันได้เป็นอาทิตย์เพราะเขาไม่เคยเรียกร้องหรือแม้แต่จะพูดขอให้ไคสานต่อ

    จนตอนนี้แล้วเขาก็หายไปอย่างที่เห็นนั่นแหละ...

    อ่า...จะว่าไปตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนกันละ มาปั่นหัวกันแล้วก็หายตัวไปซะเฉยๆ มันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?

     

     

    ไคถอนหายใจพลางหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่ตรงราวแขวนแล้วเดินเข้าห้องน้ำ

    รู้สึกอ่อนเพลียและมึนงง หากแต่เขาเองก็ไม่ได้มีอารมณ์จะนอนลืมตาต่อไปหรอกนะ

    จึงตัดสินใจรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดทำงาน ก่อนจะทิ้งข้อความแปะเอาไว้บนกระจก

     

     

    - ไปทำงาน คืนนี้อาจจะไม่กลับบ้าน -

     

     

    มองข้อความนั้นก่อนจะหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงแล้วเดินจากมา

    แม้จะรู้ว่าที่ทำลงไปนั้นออกจะเย็นชาอยู่สักหน่อย จะเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงนอกจากหนีไปซะเพื่อตั้งตัวซะก่อน

    หวังเพียงแค่ว่าคยองซูจะเข้าใจเขาบ้าง...หลังจากที่ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปแบบนี้

     

     

     

    ลูกเสือที่ดุร้ายน่ะ ไม่มีวันทำให้เชื่องได้ในวันเดียวหรอกนะ...คยองซู

     

     


     

    *********

     

     

     

    ก๊อก...ก๊อก...

     

     

     

     

    ไคสะดุ้งตื่นหลังจากเสียงที่เคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นผ่านความเงียบ

    เขาส่ายหน้าเพื่อขับไล่ความง่วงงุนออกไป ก่อนจะพยายามลืมตาให้กว้างหวังจะเรียกสติของตนให้กลับมาดังเก่า

    แอร์เย็นฉ่ำในห้องทำงานของเขา หลังจากมื้อเที่ยงแสนเอร็ดอร่อยนั้นทำให้ไคเคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว

    เหลือบไปมองนาฬิกาในคอมพิวเตอร์และก็พบว่ามันเป็นเวลาห้าโมงกว่าๆ แล้ว

     

     

    โอ...นี่เขาหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?

    อาจเป็นเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนเลย ก็เลยสลบไปนานขนาดนี้ล่ะมั้ง

     

     

    อ่า...มองแฟ้มงานที่เปิดค้างไว้ก่อนจะยืดตัวบิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน

    จนเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง...ไคจึงอ้าปากหาวก่อนจะตอบกลับไป

     

     

    อืม...เข้ามาได้เขาตอบรับเสียงเคาะนั้น ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง

     

     

    เงยหน้าไปมองคนที่เข้ามาซึ่งก็ไม่ใช่ใครเลย นอกจากคริสตัลที่แต่งตัวน้อยชิ้นคนนั้น

    ไคมองแม่เลขาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะถอนหายใจ รู้สึกว่าขัดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นหล่อนแต่งตัวแบบนั้น

    ไอ้สวยมันก็สวยอยู่หรอกนะ...แต่บางทีแค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว

     

     

    นี่คริสตัล...ตั้งแต่พรุ่งนี้ช่วยแต่งตัวให้เสื้อผ้ามันเยอะกว่านี้ซักชิ้นสองชิ้นเถอะนะไคบ่นออกมาพลางถอนหายใจ

     

     

    เอ๋...เจ้านายสนใจมันด้วยหรือคะ? ฉันไม่เห็นเจ้านายจะว่าอะไรเลยก่อนหน้านี้

    แถมช่วงก่อนยังชอบมองฉันบ่อยๆ...แล้วทำไมจู่ๆ ถึงไม่ชอบซะแล้วล่ะ?”

     

     

    คริสตัลหัวเราะเสียงใส แต่ก็อดประหลาดใจไม่ได้ที่คนหื่นๆ อย่างไคขอให้เธอแต่งกายมิดชิด

    คริสตัลเดินมาวางแฟ้มงานสีดำไว้เบื้องหน้าคนเป็นเจ้านายก่อนจะยิ้มกว้าง

    เธอหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะของไคและเริ่มพูดคุยกับเจ้านายของเธออย่างไม่นึกเกรงใจ

     
     

    “อ๋าาา....หรือว่าฉันต้องใส่สูทเหมือนผู้ชายถึงจะดูเร้าใจมากกว่า?เธอพูดต่อเมื่อหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้เรียบร้อยแล้ว

     
     

    เหอะ ตลกล่ะ...ฉันก็แค่กลัวว่าเธอจะเป็นปอดบวมตายซะก่อน

    ฉันชอบมองอะไรๆ ของเธอก็จริงนะ แต่ถ้าเห็นเยอะเกินไปความน่าสนใจมันก็ลดน้อยลงตามความเคยชิน

     

     

    โธ่...งั้นเจ้านายก็ช่วยสนใจฉันบ้างสิคะ ซักวันหรือสองวันหรือซักอาทิตย์ก็ได้

    ฉันเองก็เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน ปกติฉันไม่ค่อยชอบแต่งตัวเท่าไหร่หรอกค่ะ

    ตั้งแต่มาทำงานที่นี่เจ้านายรู้ไหมว่าฉันหมดเงินกับค่าเสื้อผ้ากับเครื่องสำอางไปเยอะขนาดไหนน่ะ เฮ้อ...

     

     

    คริสตัลบ่นพลางทำหน้ายู่ เธอดูน่ารักมากๆ...แต่ไคกลับรู้สึกว่าเฉยสนิท

    ไครู้สึกแปลกใจ...เพราะในตอนนี้เขาปราศจากเสียงหัวใจเต้นถี่

    มันไม่เหมือนทุกทีเวลาที่คริสตัลชอบโชว์เนื้อหนังวับๆ แวมๆ ให้เขาเห็นอย่างจงใจ

    ปกติก็มีใจสั่นบ้าง...เอื้อมมือไปแต๊ะอั๋งก็บ่อย

    แต่ครั้งนี้น่ะเฉยสนิทจริงๆ...เพราะในหัวสมองตอนนี้กลับคิดถึงพี่ชายตัวเล็กขึ้นมาแทนซะอย่างนั้น

     
     

    บ้าจัง...นี่ผมเป็นไข้คยองซูกำเริบหรือไง?

     

     

    แล้วเธอจะฝืนแต่งตัวทำไมล่ะ เป็นตัวของตัวเองซะสิ

    มายั่วฉันน่ะไม่ได้ผลหรอกนะเด็กโง่ จะบอกเอาไว้ซะให้รู้ซะก่อน

    ถ้าฉันเกิดสนใจเธอจริงๆ เธอก็เตรียมเปลี่ยนงานใหม่ได้เลย...

    ถ้าไม่ติดว่าเธอจะลีลาเด็ดจนเกินห้ามใจล่ะฝันไปได้เลยว่าฉันจะปล่อยให้มีครั้งที่สอง

     

     

    “โอ...ปากคอเลาะร้ายซะเหลือเกินนะคะ เจ้านายใครเนี่ย?” เธอหรี่ตาลงแล้วเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยเพื่อตำหนิผม

     

     

    “ก็เรื่องจริง...นี่ถ้าไม่ใช่เธอฉันคงไม่พูดหรอก

    ถ้าอยากจะอยู่กับฉันนานๆ ก็ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวฉันเสียใหม่นะซูจองอ่า

    ฉันไม่ได้ใจดีหรือไม่ก็หล่อเหมือนเทวดาหรอกนะ ถึงแม้ว่าหน้าตาของฉันจะบ่งบอกว่าฉันเป็นคนแบบนั้นก็เถอะ”

     

     

    “เจ้านายน่ารักออกนะคะ...ถ้าไม่ดุฉันแล้วก็บ่นจุกจิกท่านก็เป็นผู้ชายที่น่ารักดี

    แต่กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงและผู้ชายของท่านนี่ไม่ใช่น้อยๆ ถ้าฉันอยากจะใช้เต้าใต่ก็ใช่ว่าจะสำเร็จ

    เขาบอกกันว่าเจ้านายน่ะไร้หัวใจ...

    ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เอาแต่เปลี่ยนคู่นอนไปวันๆ แบบนี้คงจะมีหัวใจอย่างใครเขาหรอก”

     

    คริสตัลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายอกสบายใจ และหยิบเอาเอกสารที่ไคเซ็นต์ค้างไว้ไปเปิดดูความเรียบร้อย

    อาจจะดูขวานผ่าซากและถือวิสาสะไปซักหน่อยที่จะเป็นบทสนทนาของเลขา

    แต่คริสตัลน่ะรู้ลิมิตตัวเองดีว่าพูดอะไรได้มากน้อยแค่ไหน

    เพราะอย่างน้อยเธอเองก็มั่นใจเอามากๆ ว่าไคน่ะทั้งรักทั้งเอ็นดูเธอมากเหลือเกิน

     

    “รู้ไว้ก็ดี...เพราะงั้นก็เลิกแต่งตัวอย่างนี้ได้แล้ว

    ขออะไรหวานๆ ดูบ้างเถอะ เผื่อว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศให้ฉันมีอารมณ์อยากจะทำงานมากขึ้นซักนิด

    หรือไม่...ฉันก็อาจจะสนใจเธอขึ้นมาบ้างก็ได้นะ หึ...เอาไว้ถึงเวลานั้นแล้วฉันจะบอกแล้วกัน

    แต่ความจริงแล้วฉันไม่ได้ต้องการให้เธอทำตามฉันหรอกนะ

    แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ...เพราะแค่นี้เธอก็น่ารักมากๆ อยู่แล้ว

    และเธอไม่จำเป็นต้องพยายามเพื่อฉันขนาดนั้นหรอก ฉันไม่ได้มีค่าอะไรให้เธอต้องทุ่มเทขนาดนั้น...”

     

    ไคพูดพลางหัวเราะในลำคอ

    ก่อนจะยื่นมือออกไปรับแฟ้มเอกสารที่คริสตัลจัดการดึงมันออกและจัดเรียงใหม่ส่งให้เขา

    ไคยื่นมือไปลูบที่ศีรษะคริสตัลเบาๆ ด้วยอย่างเอ็นดู...

    บอกไม่ได้หรอกว่าเอ็นดูเพราะอะไร...อาจจะเพราะว่าเธอช่างพูดช่างเจรจาและน่ารัก

    หรืออีกนัยหนึ่งแล้ว ลึกๆเขาเองก็อยากจะมีน้องสาว...อยากได้เป็นฝ่ายดูแลและให้ความรักกับใครบ้าง

     

     

    โธ่...พูดตัดพ้อกันเกินไปแล้วค่ะเจ้านาย เอาเป็นว่าฉันจะพยายามปรับปรุงนะคะ

    เจ้านายไม่ต้องรู้เหตุผลหรอกค่ะว่าฉันทำเพราะอะไร

    คิดแค่ว่าฉันแต่งหน้าแต่งตัวเพราะอยากจะเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้เจ้านายก็แล้วกันนะคะ ตกลงไหม?

     

     

    คริสตัลพูดพลางยิ้มออกมาส่งให้คนเป็นเจ้านาย

    ก่อนจะเปิดแฟ้มข้อมูลที่ถือมารายงานให้ไคได้ทราบ

     

     

    นี่เป็นข้อมูลผลกำไรของเดือนนี้ค่ะ ฝ่ายบัญชีเพิ่งส่งมาเมื่อเช้า

    ส่วนนี่เป็นหนังสือสัญญาที่คุณซันนี่เธอส่งมาให้เมื่อวาน...

    ข้างในเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับโฉนดที่ดินของคุณซูโฮที่ญี่ปุ่น และเกี่ยวกับสัญญาที่คุณซันนี่เธอส่งมาให้

    อ่า...เจ้านายคงรู้ว่ามันหมายความว่าอะไรนะคะ?”

     

    คริสตัลพูดพลางขยิบตาส่งมาให้คนเป็นเจ้านายอย่างน่ารัก

    ไคเบิกตากว้างเมื่อได้ฟังก่อนจะรีบคว้าเอาแฟ้มเอกสารนั้นไปเปิดดูทันที

     

     

    อะไรนะ? ยัยซันนี่ทำสำเร็จแล้วเหรอ?!

    เยี่ยมมาก! เยี่ยมจริงๆ ทำยังไงซูโฮถึงยอมนะ

    ทั้งๆ ที่ฉันกับคุณซองอาเกลี้ยกล่อมแทบตายแท้ๆ

     

    ไคยกยิ้มอย่างตื่นเต้น กัดริมฝีปากอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้เปิดดูเอกสารปึกหนาที่แม่ญาติสาวตัวแสบส่งมาให้

    คริสตัลเองก็หัวเราะคิกคักออกมาเหมือนกันเมื่อเห็นอย่างนั้น เธอยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะตอบกลับคนเป็นเจ้านาย

     

     

    โธ่... ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย

    ก็เจ้านายไม่มี อะไรดีๆ ที่ฉันหรือคุณซันนี่เธอมีเสียหน่อยนี่คะ

     

     

    คริสตัลยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะส่งสายตามาให้ไคอย่างมีความหมาย

    อ่า...ยัยเด็กแก่แดดนี่ บางทีก็ชักจะรู้เรื่องอย่างนี้ดีมากไปแล้วมั้ง

     

     

    โอ...ฉันขอเขกหัวเธอซักทีเถอะยัยเด็กแก่แดด

    ฉันล่ะหวังจังเลยว่าเธอจะไม่เอาฉันไปนินทากับคนอื่นแบบที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้หรอกนะ

     

     

    โอ๊ย...เจ้านายล่ะก็ ตัวฉันเองมีจรรยาบรรณเลขามากพอหรอกค่ะ

    ฉันไม่มีทางนินทาเจ้านายได้หรอก ในเมื่อฉันออกจะรักและนับถือเจ้านายขนาดนี้

    ความจริงเจ้านายน่าจะยิ้มอย่างนี้บ่อยๆ นะคะ...ดูน่ารักน่าหยิกออก เห็นแล้วแทบตกหลุมรัก

     

     

    ฮ่าๆ! เธอนี่ปากดีนะยัยเด็กบ้า...คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกเธอมาเป็นเลขา

    ปากคอเลาะร้ายแบบนี้ล่ะฉันชอบ แต่ฉันขอเตือนเธอไว้อย่างนึงนะ

    ถ้าไม่อยากจะเสียใจล่ะก็  อย่าบังอาจตกหลุมรักฉัน...ไม่อย่างนั้นเธออาจจะเสียใจไปตลอดกาลก็ได้...

    ฉันไม่มีอย่างคนอื่นเขาหรอกนะ...ไอ้หัวใจง่อยๆ แบบนั้นที่พวกผู้หญิงอย่างเธอต้องการน่ะ”

     

     

    ไคหัวเราะกระแนะกระแหนเลขาสาวของเขาอย่างอารมณ์ดีที่เธอกล้าต่อปากต่อคำกับเขา...

    หากแต่วินาทีต่อมาเขาก็เห็นว่าเลขาสาวนั้นเงียบไปในอึดใจ เธอกัดริมฝีปากก่อนจะมองหน้าไคอย่างมีความหมาย

    .....เกิดความเงียบที่น่าอึดอัดขึ้นในฉับพลันทันใด....

     

    คริสตัลหัวเราะเบาๆ ในลำคออย่างรู้สึกขำขัน

    ตวัดสายตาขึ้นมองเขาก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะมานั่งที่พนักเก้าอี้ของไคอย่างเชื่องช้า

    หล่อนโน้มใบหน้าสวยนั้นลงมาเสียใกล้ชิด ราวกับว่าคนเป็นเลขาจะโน้มตัวลงมาช่วงชิงริมฝีปากของไค -- หากแต่ไม่ใช่

    หล่อนหยุดชะงักในขณะที่ใบหน้าของเราทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่คืบ

    ไครู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อยที่เห็นคริสตัลทำท่าทางและสายตาอย่างนั้น....

     

    เพราะสายตานั้นดูเย็นชาและไม่เจือความน่ารักร่าเริงแบบฉบับของหล่อนอย่างทุกที....

     

    ปากคอฉันเลาะร้ายนั่นก็เพราะว่าฉันไม่ได้แตกต่างอะไรกับเจ้านายนักหรอกค่ะ

    ฉันว่าเราน่ะเหมือนกันหลายอย่างนะคะ ทั้งภาพลักษณ์ที่ดูดี แต่อีกตัวตนหนึ่งน่ะราวกับเป็นปีศาจ

    คนเราก็มักจะเป็นอย่างนี้เสมอล่ะค่ะท่าน...ยิ่งภายนอกดูน่ารักมากเท่าไหร่ ภายในกลับยิ่งร้ายกาจมากขึ้นเท่านั้น...

    ถ้าเจ้านายจะบอกว่าตัวเองไม่มีหัวใจอย่างนี้ก็ดีแล้วนะคะ แต่ขอร้องให้เป็นแบบนี้ไปตลอดแล้วกัน

    เพราะถ้าเจ้านายมีความรักขึ้นมาเมื่อไหร่...ฉันคงลำบากใจที่จะลงมือทำทุกอย่างให้มันเด็ดขาด...”

     

     

    พูดเสร็จก็ก้มลงจูบที่เปลือกตาของคนเป็นเจ้านายของเธอแผ่วเบา...

    ไคไม่ได้ปฏิเสธเพราะสัมผัสเพียงแค่นี้ไม่ได้เรียกว่าล่วงเกินเขา หรือจะกระตุ้นเขาให้ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่านี้

     

    เลขาสาวถอนจูบออกแล้วเผยยิ้มออกมา...โดยไม่ได้สนใจเลยว่าบรรยากาศภายในห้องนี้มันเงียบจนน่าอึดอัดแค่ไหน

    ไคตวัดสายตาขึ้นมองเด็กสาวตรงหน้า และเขาเองก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

    มันหมายความว่าอะไรกันนะที่หล่อนหมายถึง...อะไรกันนะที่หล่อนต้องการจะบอกอะไรกับเขา...

    หากแต่ไม่ทันได้ถาม ก็มีคนเคาะประตูหน้าห้องและเปิดมันเข้ามาเสียก่อน

    และโดยไม่ได้รอให้ให้ไคตอบรับคนที่เคาะประตูก็ถือวิสาสะเปิดมันเข้ามาแล้ว...

     

    และมันก็เป็นเช่นเดียวกับละครน้ำเน่าที่เราเคยเห็นกันทั่วไปจนชินตา...

    ไอ้เรื่องบังเอิญงี่เง่าที่มักจะสร้างปัญหาให้กับตัวละครให้นิยายน้ำเน่ามานักต่อนัก

    ในตอนแรกไคคิดว่าละครก็คือละคร...ชีวิตของคนเรามันคงไม่ได้มีเรื่องบังเอิญที่น่าตลกขนาดนั้น

    แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลยซักนิด...

     

    ไคและคริสตัลหันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนที่เขาจะต้องเหลือกตา...

    เพราะคนหน้าห้องนั้นเป็นเพียงคนเดียว...

    ที่ไคไม่อยากให้เห็นว่าเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นในท่าทางพิสดารและส่อแววให้ชวนเข้าใจผิดแบบนี้

     

     

     

     

    ใช่แล้วครับ มันจะเป็นใครไปได้ซะอีกล่ะ....

    โด คยองซู....ผมมั่นใจว่าเขาคือคนที่พวกคุณกำลังคิดอยู่นั่นแหละ

     

     

    ค...คยองซู!

     

     

    ไคร้องขึ้นมาอย่างตระหนก พลางผลักคริสตัลที่นั่งเกยอยู่บนตักให้ออกห่าง

    รีบผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วโดยไม่แน่ใจว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น

    เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบากเมื่อได้เห็นสายตาที่เจือแววเสียใจปนโกรธของคนเป็นพี่ที่ส่งมา...

     

    คริสตัลแปลกใจที่ไคทำท่าทางอย่างนั้น

    เพราะท่าทางลุกลี้ลุกลนผิดปรกติของเจ้านายทำให้เธอต้องหันไปมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นอย่างพิจารณา

    เขาเป็นใครกันนะถึงได้มีอิทธิพลมากพอจะทำให้เจ้านายของเธอต้องหวั่นวิตกขนาดนี้

     

     

    พ...พี่มาที่นี่ทำไมคยองซู?” ไคถาม เขารู้สึกพิลึกพิลั่นขึ้นมาชอบกลที่น้ำเสียงของตัวเองกระตุกสั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจแบบนี้

     

     

    แล้วทำไมพี่จะมาไม่ได้ล่ะ นายช่วยบอกเหตุผลพี่หน่อยได้ไหม?

    นายไม่อยากให้พี่มา เพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสได้คั่วเลขาของนายหรือไง?”

     

    คนตัวเล็กพูดประชดประชันตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับว่าเขากำลังจะร้องไห้อยู่มะรอมมะร่อ

    ไคหลับตาลงอย่างจนตรอกเมื่อรู้สึกว่าคยองซูกำลังจะคิดเป็นตุเป็นตะไปกันใหญ่...

     

     

    ม...ไม่ใช่นะคยองซู

    นี่คริสตัล...เธอน่ะออกไปก่อน แล้วปล่อยให้ฉันได้อยู่กับเขาตามลำพัง

    ห้ามใครติดต่อฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย เข้าใจไหม

     

     

    ไคหันไปสั่งเลขาที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า

    ก่อนที่หล่อนจะเดินเยื้องย่างออกจากห้องไปโดยที่ยังมองหน้าของคยองซูอย่างไม่ได้นึกเกรงกลัวจนถือว่าไร้มารยาท

    ไครู้สึกโกรธเล็กน้อยที่เลขาสาวนั้นมองคยองซูอย่างไม่คิดจะให้เกียรติ

    แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้...เพราะสายตาของคยองซูที่ส่งไปหาคริสตัลนั้นก็ไม่ได้มีความเป็นมิตรเช่นกัน

     

     

    ทันทีที่คริสตัลออกจากห้องไป ไคก็หันกลับไปสนใจพี่ชายตัวเล็กที่ยืนทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่ตรงหน้า

    ดวงตากลมโตนั้นหรุบตาลงต่ำ...มันแดงก่ำแล้วกับว่าเขาพร้อมจะระเบิดน้ำตาออกมาได้ทุกเวลา

     

    “คยองซู...พี่ไม่น่าลำบากมาถึงที่นี่เลย”

     

    ไคปลดกระเป๋าใบใหญ่ที่คนเป็นพี่ถือมาไปวางไว้ที่โซฟารับแขกของตัวเอง

    ก่อนจะหันมามองคนเป็นพี่ที่ยกสองแขนขึ้นกอดตัวเองไว้แล้วหลบสายตาของเขา...

    ริมฝีปากนั้นถูกขบกัดโดยคนเป็นเจ้าของจนมันเป็นสีแดงเปล่งและสั่นระริก...

     

    ภายในห้องเงียบสนิทและมีความรู้สึกตึงเครียด...เมื่อพี่เขาเลือกที่จะหลบสายตาและเงียบกริบแบบนี้

     

     

    “คยองซู...ที่พี่เห็นมันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดนะ” ไคแก้ตัวอย่างอ่อนแรง...

     

    พี่รู้ดีว่าพี่เห็นอะไร... นายหลอกพี่ทำไมจงอิน?

    นายบอกสิว่าที่นายทำทุกอย่างเมื่อคืนนายการโกหก

    อา...นั่นสินะ...นายคงโกรธพี่มาก... และนี่คือสิ่งที่พี่ต้องเจอต่อจากนี้ใช่ไหม? นี่คือการแก้แค้นใช่ไหมจงอิน?

    นายรู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่านายกำลังทำร้ายจิตใจพี่แค่ไหน??”

     

     

    ม...ไม่ใช่นะคยองซู  มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด

     

     

    หัวใจกรีดร้องอย่างร้อนรนและโกรธขึ้ง

    ไครู้สึกโกรธที่คยองซูนั้นคิดไปเองคนเดียวและไม่คิดแม้แต่จะฟังคำแก้ตัวของเขาบ้าง

    ซ้ำยังเอาแต่คิดว่าทุกอย่างที่เขาทำลงไปเมื่อคืนคือการแก้แค้นซะอีก...

     

    ก็ดีนี่จงอิน...น่าจะปล่อยให้พี่เขาคิดไปอย่างนั้น...

    นายน่าจะเอาคืนเขาบ้าง...เอาให้เขาเจ็บแสบเหมือนที่เขาเคยทำกับนายสิ...

     

     

    เหอะ! นี่อยากจะให้แก้แค้นมากเลยใช่มั้ย?? นี่มันน้อยไปด้วยซ้ำกับที่พี่เคยทำกับผม

    อย่าเรียกว่านี่คือการแก้แค้นเลยคยองซู! เพราะถ้าผมจะทำจริงๆน่ะ ผมไม่ทำแค่นี้แน่!

    อย่าท้าผมอีกคยองซู...ถ้าเป็นเรื่องแค่นั้นล่ะผมจะทำมันเมื่อไหร่ก็ได้ จำใส่หัวเอาไว้ด้วย!!!

     

     

    บ้าชิบ...ทำอะไรลงไปวะ? ทำไมต้องพูดออกไปแบบนี้ด้วย

     

    ไคตวาดออกไปเพราะแรงอารมณ์และโทสะที่กำลังเดือดพล่าน

    หากแต่ทันทีที่หลุดปากออกไป หัวใจก็เต้นรัวเร็วจนมันทำงานแทบไม่เป็นปกติ...

    มันเต้นด้วยเพราะความรู้สึกผิดที่วิ่งพล่านอยู่เต็มอก...

     

    คยองซูน้ำตาร่วงหลังจากที่ได้ฟังคนเป็นน้องพูดทำร้ายจิตใจอย่างไม่ได้คาดคิด

    เขาเองปรารถนาในใจว่าไคคงไม่ได้คิดอะไรร้ายกาจอย่างที่เขากำลังคิดอยู่

    หากแต่เห็นได้ชัดว่าคยองซูคิดผิด...

     

    ไคกัดปากอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นน้ำตาเม็ดใสๆ นั้นไหลรินลงมาที่แก้มขาวของคนเป็นพี่

    เขาหลับตาลงอย่างยากลำบาก และรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าเสียเต็มประดาเมื่อได้ทำออกไปแบบนั้น

    ไม่รอช้าเมื่อคิดได้ว่าตนเองกำลังทำร้าย ไคก็เดินไปคว้าเอาคนเป็นพี่มาไว้ในอ้อมกอด

     

     

    หยุดร้องไห้ซะคยองซู...หยุดซักที! พี่กำลังทำให้ผมเสียใจนะ...ผมขอโทษ

     

    คนเป็นน้องกระซิบอย่างระมัดระวัง...รับรู้ว่าคยองซูกำลังตัวสั่นระริกเมื่อน้ำตานั้นไหลลงมาราวกับเขื่อนแตก

     

    น...นายจะไม่ให้พี่เจ็บ ไม่ให้พี่ร้องไห้ได้ยังไง...ในเมื่อนายทำให้พี่เป็นแบบนี้

    นายจะเจ็บปวดอะไรล่ะ?? ในเมื่อนายเป็นคนทำมันทุกอย่าง

    นายคิดว่าพี่เป็นยังไงเหรอตอนที่ตื่นมาแล้วไม่เจอนาย...

    ในหัวพี่คิดแต่ว่านายกำลังแก้แค้นพี่...พี่เอาแต่คิดว่าทุกอย่างเมื่อคืนเป็นแค่เรื่องโกหก

    เจ็บนะ...มันเจ็บมาก....

     

     

    คยองซูพูดตัดพ้อในขณะเดียวกับที่พยายามดิ้นรนจะออกจากอ้อมกอดของคนเป็นน้อง

    สองมือทุบรัวที่แผ่นอกของคนตัวสูงนั้นเพื่อให้ปล่อยตนออกจากพันธนาการ

    หากแต่ยิ่งพยายามจะดิ้นรนเท่าไหร่ ไคกลับยิ่งกอดเขาไว้แนบแน่นไปอีก

    มันไม่ใช่แค่กอดเท่านั้นที่พันธนาการคยองซูเอาไว้...หากแต่เป็นหัวใจของเขาด้วย

     

     

    ไม่ใช่....ไม่ใช่ผมหรอกคยองซู แต่พี่ต่างหากที่เป็นคนทำมันทุกอย่าง

    ผมจะเจ็บปวดถ้าพี่เจ็บ...หัวใจผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกแทงเมื่อพี่ร้องไห้

     

    “...............”

     

     

    ไม่เข้าใจเลย...ไม่เข้าใจ เขาควรจะเชื่อมันดีไหม?

    เชื่อในทุกๆ คำที่น้องเขาพูดออกมาราวกับว่ายังรักรักมีใจ

    เชื่อมั่นในหัวใจตัวเอง ว่าน้องเขาเองก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างที่คยองซูคิด

     

    “แล้วสิ่งที่พี่เห็นคืออะไรเหรอจงอิน?

    ทั้งหมดที่เห็นน่ะพี่แค่ตาฝาดไปเองอย่างนั้นใช่ไหม?”

     

    เอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ ไคกลอกตาส่งให้ราวกับเอือมระอาเหลือเกินที่เขาเอาแต่งอแงอย่างนี้

     

    พอเถอะ...หยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว

    ผมไม่ได้มีอะไรกับเลขาของผมทั้งนั้นโอเคไหมคยองซู?

    และอย่าคิดอะไรแบบนั้นอีกนะ...พี่เห็นผมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนั้นหรือไงฮึ?

    พี่ไม่เชื่อมันเลยหรือไง...ว่าผมพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับพี่

     

     

    คนเป็นน้องกระซิบที่ข้างหูเบาๆ จนทำให้คยองซูใจสั่น

    หัวใจเต้นดังตึกตักจนตัวเองยังรู้สึกว่ามันน่ารำคาญ

    มือหนาเลื่อนเข้ามากอบกุมมือของเขาไว้อย่างแผ่วเบา...

    ...และอ่อนโยนจนคยองซูไม่อาจจะทำใจเชื่อได้ว่านี่คือการหลอกลวง...

     

     

    นายพูดจริงหรือเปล่าที่บอกพี่ว่าเราจะเริ่มต้นกันใหม่

    นายไม่ได้แกล้งหลอกให้พี่ตายใจแล้วจะปั่นหัวกันเล่นใช่ไหม?

    บอกพี่สิว่าทุกอย่างที่นายทำไม่ใช่การหลอกลวงหรือแก้แค้น

    นายยังคงรักพี่ใช่ไหม...จงอิน?

     

    แม้จะได้ยินชื่อเรียกที่ไม่เคยรู้สึกชื่นชอบจากปากของคนตัวเล็ก

    หากแต่ในตอนนี้เขาไม่ได้ตะขิดตะขวงใจเลยซักนิดถ้าจะได้ยินมันออกมาจากปากของพี่เขา

    หากว่าพี่เขาต้องการจงอินคนเดิมกลับมา...มันจะยากอะไรล่ะถ้าเขาจะทำเพื่อคนตัวเล็กอีกซักหน

    แม้ว่าเขาจะเคยสาบานว่าจะฝังกลบอดีตทุกอย่างให้มันจมดิน...

    แต่ถ้าหากกล่องความทรงจำในอดีตที่แสนสำคัญของคิมจงอินและคิมไครายังมีคยองซูอยู่ในนั้น...

    ในโลกของเด็กที่ชื่อคิมจงอิน...โด คยองซูจะเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของเขา...

     

    ไคผละกอดออกมามองดวงตาแดงช้ำของคยองซู ยกนิ้วเรียวขึ้นปาดน้ำตาให้คนเป็นพี่

    ก่อนจะก้มลงไปมอบจุมพิตแสนหวาน...

     

     

    ให้จูบนี้แทนสัญญาของผมได้ไหม?”

     

     

    “.......................”

     

     

    คยองซูกระพริบตาปริบๆ

    พยายามคิดว่าจูบนี้จะเป็นดั่งสัญญาที่คนเป็นน้องจะรักษาไว้กับเขาจริงๆ

    เขารู้ดีว่ามันยากเหลือเกินที่จะทำใจให้เชื่อ...หลังจากที่ทุกอย่างดูจะเลวร้ายไปเสียหมดแบบนี้

     

    แต่รอยจูบที่หนักแน่นและแผ่วหวาน...กอปรกับดวงตาที่มั่นคงแน่วแน่ของคนเป็นน้อง

    ถ้าหากมันคือการโกหก...มันต้องเป็นคำโกหกหลอกลวงที่ขาวสะอาดเอามากๆ

    เป็นคำโกหกที่อบอุ่นและอ่อนโยนที่สุด และคยองซูก็ยินยอมพร้อมใจที่จะต้องรับฟังมันซ้ำๆ อีกร้อยล้านหน

     

     

    ฟังฉันนะคยองซู...ตลอดเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมา ผมสูญเสียหลายอย่างที่พี่เคยรู้จักไปจนหมด

    ผมไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหน...ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรักเลย

    ถ้าพี่อยากจะได้จงอินคนเดิมกลับมา พี่ต้องอดทนและเชื่อใจผู้ชายที่ชื่อไคคนนี้

    มันอาจจะเนิ่นนานจนทำให้พี่เจ็บปวด...ผมอาจจะทำให้พี่เสียใจยิ่งกว่าวันนี้

    แต่พี่จะโกรธไหมถ้าผมจะขอให้พี่รอ....ช่วยรอจนกว่าวันนั้นจะมาถึง

    รอวันที่ผมจะกลับมามีหัวใจเหมือนเดิม มีหัวใจที่รักได้เพียงแค่พี่...เหมือนอย่างวันที่คิมจงอินเคยมี

     

     

    เสียงกระซิบแผ่วหวานค่อยๆ ดังกังวานเมื่อคนเป็นน้องโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้

    สายตาของเราสองคนยังคงตราตรึงกันและกันไว้ไม่ห่าง

    คยองซูไม่อาจจะถอนสายตา เพราะหัวใจกำลังบอกว่าอย่าเพิ่งหวั่นไหวไปกับคำพูดสวยหรูของน้องเขา

     
     

    พยายามที่จะมองลึกเข้าไปในดวงตา...แต่แน่นอนว่าเขาไม่เห็นอะไรในนั้น

    คยองซูหวั่นใจเหลือเกิน...หวั่นใจว่าจงอินอาจจะหลอกเขา

    แต่น่าตลกเหลือเกิน เมื่อทุกอย่างที่เขาตั้งแง่ขึ้นมาลบทุกการกระทำอ่อนโยนของน้องเขานั้นมันไม่ได้ผลเลยซักนิด

    เสียงหัวใจที่กำลังเต้นรัวเร็วในอกจนแทบระเบิดนั้น...มันกำลังบังคับให้คยองซูทำได้เพียงแค่เชื่อจงอินอย่างสุดหัวใจ

     

     

    พี่จะรอ....ตราบที่นายยินดีจะให้พี่รอ

     

     

    กระซิบเสียงแผ่วก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลริน

    ปล่อยตัวปล่อยใจกับรสจูบที่คนเป็นน้องมอบให้กับเขา

    ในสมองของคยองซูก่อนหน้านี้อาจจะมีหลากหลายความคิดตีกันจนวุ่นไปหมด

    หากแต่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่า...มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่เขาคิดและตระหนักถึงมันได้

     

     

    ว่าถึงแม้รักนี้จะหลอกลวง...ถึงแม้ว่ามันอาจจะทำให้เขาต้องเจ็บปวดแค่ไหน

     

    .

    .
    .

     

    คยองซูยินดีและเต็มใจที่จะยอมรับมันต่อจากนี้....ตลอดไป 

      Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×