ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคสั้น 3*8 special

    ลำดับตอนที่ #4 : ขอบคุณที่รักกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 752
      4
      9 ก.ค. 55





    6.กค.55 ซ้อมรันทรูรอบสุดท้ายก่อนขึ้นคอนจริง

     

    “อยู่ไหนแล้วไอ้ริท?” เสียงพี่ชายโทรมาถามสถานที่ของเจ้าตัว คนตัวเล็กที่เพิ่งลงเครื่องหมาดๆด้วยชุดนักศึกษาพยายามรับโทรศัพท์ตอบคำถาม

    “ลงจากเครื่องแล้วพี่กำลังนั่งรถจะไปถึงแล้ว ว่าแต่ทำไมเป็นพี่โน่โทรมาล่ะไอ้กันไปไหน?”

    “อ้าวนี่พี่ชายโทรหาไม่ได้ช่ายไหม? ได้ๆวันหลังกุไม่โทรหาเมิงอีก” ทำเสียงน้อยใจแม่งคนอุตส่าห์เป็นห่วงยังจะถามถึงอีกคน

    “โอ๋ๆๆๆพี่ ริทดีใจที่พี่โทรมาแต่แค่อยากรู้ว่าตอนนี้ไอ้กันมันไปไหนแค่นั้น ไม่เห็นติดต่อริทเลย?” เอาใจพี่ชายสุดฤทธิ์

    “ไอ้กันเหรอ ไม่สบายนิดหน่อยนี่ซ้อมได้รอบหนึ่งก็ขอตัวไปพัก มันบอกให้พี่โทรหาเอ็งว่าเอ็งใกล้ถึงหรือยังได้ตื่นมาซ้อมต่อ”

    “ไอ้กันไม่สบายเหรอพี่? เปนไรมั่ง?” คนเพิ่งรู้ข่าวถามอย่างตกใจ

    “ไม่รู้ว่ะต้องให้ว่าที่คุณหมอมาดูอาการ”  พูดแล้วก็แกล้งเหลือบไปมองไอ้น้องชายตัวดีอีกคนที่นั่งยิ้มแอบฟัง ในมือถือสคริปต์ให้คนหล่ออย่างผมพูดตามที่มันเขียน...............(แม่ง..ไอ้พระเอกต้องให้กุเปนคนเลวหลอกนางเอกตลอด)

    “ได้ๆริทจะรีบไป พี่โน่บอกให้กันนอนพักเยอะๆนะ” คนเป็นห่วงรีบสั่ง

    “อืมพี่จะบอกให้มันนอนนนนนนนนนนนเยอะๆๆ” มองกลับไปที่คนที่ทำท่านอนแบ๊วๆแล้วอยากจะยกพระบาทถีบมันจริงๆ

    “แค่นี้นะพี่”

    “อืมๆ”

     

     

    “55555555555555+วิ้วววววววววววริทจะมาแล้ววววววววววว” คนบงการแผนทั้งหมดตะโกนอย่างดีใจทันทีที่พี่ชายตัวเองกดวางโทรศัพท์

    “แหม ไม่ค่อยเลยนะเมิง เขียนด้นเปนสคริปต์ให้กุพูดเลยนะแม่งให้กุโกหกตลอด กุยิ่งโกหกไม่เนียนอยู่”

    “เหรอออออออออ” มองไอ้คนทำหน้าเหรอแล้วคันเท้าจริงๆ

    “เมิงเหอะไม่ป่วยจริงโดนไอ้ริทฆ่าแน่ๆ”

    “ผมป่วยจริงเหอะพี่ เนี่ยตัวก็ร้อน ตัวก็ปวด ยิ่งตรงหัวใจนี่โครตเจ็บ.......” ทำท่าจับที่หัวใจตัวเองแล้วแสดงสีหน้าเจ็บปวดสุดชีวิต

    “ไอ้กันกุช่วยใช้เท้านวดให้เมิงไหม? เมิงได้หายปวดตัว ส่วนตัวเมิงที่ร้อนๆกุจะเอาน้ำเย็นมาช่วยราด” โตโน่พูดแบบหมั่นไส้ไอ้น้องชายเต็มที่

    “โห่ พี่โน่ถึงพี่จะช่วยผมยังไง ไอ้หัวใจผมที่เจ็บนี่ยังไงก็ต้องให้หมอเขารักษา”

     

    โตโน่มองลอดหลังไอ้คนกากเห็นว่าที่หมอของไอ้กากนี่เดินมาด้านหลังของมันแล้ว แถมยังทำหน้าตาหมั่นไส้ไอ้คนพูดนี่แบบสุดๆ  คนตัวเล็กรีบชู่ว์ปากไม่ให้พี่ชายบอก.......ในเมื่อน้องขอพี่ก็จัดให้

     

    “หมออะไรของเมิงวะไอ้กัน ไอ้ริทน่ะเหรอ ไหนบอกว่ากลัวมันลืมกรรไกรไว้ในท้องไม่ช่ายเหรอ?”

    “ใครหมายถึงไอ้ริทพี่ กันหมายถึงหมอสาวๆต่างหากเล่า อย่างไอ้ริทอ่ะให้มันรักษาตัวเองให้สูงก่อนแล้วค่อยมารักษากันดีกว่า55555555+”

    “คิดงั้นเหรอไอ้กากกกกกกกกกกกก” คนที่ฟังเหตุการณ์มานานพูดแทรกขึ้นมา คนที่เพิ่งหัวเราะเสียงดังรีบหันไปมองต้นเสียงด้านหลังตัวเอง

     

    “เมิงเสร็จแน่ไอ้กัน” โตโน่เดาเหตุการณ์ล่วงหน้าทันที

     

     

     

     

                คนที่เพิ่งมาถึงรีบเดินไปเก็บข้าวของของตัวเองและของกินที่ได้มาจากแฟนๆ ตามมาด้วยคนที่รู้ตัวว่าโดนโกรธเดินตามต้อยๆมาด้วย

    “งอนกันเหรอริท?”

    เงียบไม่มีเสียงตอบรับ

    “อย่าโกรธกันน๊า หัวใจของกันไม่ให้หมอที่ไหนรักษาหรอกถ้าไม่ใช่หมอริท” ทำเสียงอ้อนแกล้งกระแซะแขน

    เงียบแถมยังเดินหนี

    คนกากเกาหัวเล็กน้อย เอาวะตัวเองเป็นคนหลอกทำให้อีกคนงอนก็ต้องง้อ

    “ริท!!!”ตะโกนเรียก เจ้าของชื่อหันมาทำหน้าเซ็งๆจ้องคนเรียกว่าเรียกเขาทำไม?

     

    แมลงปอปีกบาง

    เจ้ากางปีกสวย

    ฝากบอกเธอด้วย

    ว่าฉันคิดถึง

     

    ท่องกลอนให้แล้วก็ขยิบตาให้นิดนึงพร้อมยิ้มหวาน 

     

                พอได้ยินกลอนนี้ของมันแล้วคนที่ฟังก็อดยิ้มตามไม่ได้ กลอนเก่าที่มันเคยส่งมาให้พร้อมการแปลงเนื้อกลอนเดิมเสร็จสรรพ นึกถึงตอนได้ยินกลอนนี้จากมันครั้งแรกยังอดด่ามันไม่ได้ว่าเลี่ยน

    “ยิ้มแบบนี้หายงอนกันแล้วช่ายป่ะ?”

    “ใครงอน กุไม่ได้งอนเมิงซะหน่อย”

    “โหยไม่จริง ทำหน้าเหวี่ยงเป็นตูดเป็ดแบบนี้นี่นะไม่ได้งอนกัน”

    “ตอนแรกกุไม่งอนแค่น้อยใจเมิงชอบหลอกกุ แต่ถ้าเมิงยังกากใส่กุอีกกุจะงอนเมิงจริงๆ”

    “จ้ะๆไม่ทำแล้วจ้ะ ไปซ้อมกันดีกว่านะจ๊ะ” คนเกรงใจแฟนตอบแบบนอบน้อม

     

     

                ซ้อมพูดคุยวางตำแหน่งการเล่นว่าจะเล่นอะไรบ้าง? ส่วนใหญ่มุขที่พวกเขาใช้มักจะแค่ร่างว่าจะทำอะไรแค่ไหนแต่จะเขียนสคริปต์เปนคำพูด เอาไว้ด้นสดหน้างานเอา อาจมีหลุดสคริปต์ไปบ้างแล้วแต่สถานการณ์ ซ้อมเสร็จคนที่ผ่านการซ้อมมาหมาดๆนั่งทรุดตัวลงทั้งสามคน

     

    โตโน่หันมองกัน

    กันหันมองริท

    ริทหันมองกัน

     

    “เฮ้ยๆๆๆไอ้สองตัว ตรงนี้มีกุอยู่ด้วยนะเว้ย ไอ้ริทเมิงต้องมองพี่ดิ”

    “มองผมก็ถูกแล้วนี่พี่ พี่จะให้ไอ้ริทมองพี่ทำไม?”คนตอบไม่ใช่คนโดนถามแต่เป็นคนที่โดนมอง

    “อ้าว ไอ้กันไอ้กาก”ตบหัวทีหนึ่งข้อหาทำตัวหน้าหมั่นไส้

     

    “พรุ่งนี้แล้วซินะ คอนเสิร์ต5678 อยากให้ถึงไวๆจังแหะอยากรู้ว่าจะเป็นยังไง?” คนตัวเล็กพูดลอยๆ รอยยิ้มขึ้นหน้าเมื่อนึกถึงหน้าบรรดาแฟนคลับที่รักพวกเขามาดูพวกเขาเล่นคอนเสิร์ต

    “อืม มันคงสนุกแน่ๆ” คนกากยิ้มตอบคนตัวเล็ก

    “ไม่ใช่แค่สนุกแน่ๆซิวะ มันต้องสนุกแบบสุดๆดิ ในเมื่ออสรพิษรวมตัวกันทั้งที” ตบบ่าน้องชายทั้งสองคน

     

    มองหน้ากันสามคนก่อนยิ้มพร้อมกัน มือสามมือวางซ้อนทับกันก่อนจะบูมร่วมแรงร่วมใจกัน

     

    “อสรพิษ ไฟท์ติ้งง!!!!!!

     

     

    วันคอนจริง 5678 in concert

     

    “ไหวไหมไอ้กัน” ริทเดินมามองเพื่อนผิวเข้มตัวเองที่เพิ่งฉีดยาเส้นเสียงอักเสบมา

     

    คนโดนถามมองหน้าว่าที่คุณหมอยิ้มๆ

    “ไหวดิ ต่อให้เป็นมากกว่านี้ยังไงก็จะขึ้นให้ไหว”

    “นี่เมิงยังคิดจะเป็นมากกว่านี้อีกเหรอ? ดูแลตัวเองด้วยดิช่วงนี้มีงานหนักพักผ่อนบ้างเหอะ”

    “งั้นขอพักตรงนี้ก่อนได้ไหม?” ล้มตัวนอนหนุนตัก

     

                คนตัวเล็กตั้งท่าจะผลักหัวอีกคนออกเพราะกลัวคนมาเห็น แต่เห็นสีหน้าคนเหนื่อยอ่อนแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ

    “อย่าทำให้เป็นห่วงมากได้ไหม?” ลูบผมที่ปรกหน้าใบหน้าคม

    มือเรียวคว้ามือนุ่มแล้วจูบเบาๆตรงฝ่ามือ

    “อืม ขอโทษ”

    คนผิวเข้มเงยหน้ามองคนที่ก้มต่ำลงมา

    “ริท”

    “อะไร?”

    “วันจันทร์มีสอบจะอ่านหนังสือก่อนไหม? เด๋วกันไปนอนที่อื่นก็ได้”

    คนตัวเล็กส่ายหัวก่อนยิ้มบางๆให้

    “ตอนนี้ขอเป็นริท เดอะสตาร์ก่อนแล้วกันเด๋วพรุ่งนี้ค่อยกลับไปเป็น นศพ.”

     

    คนที่ยังกุมมือไม่ได้ปล่อยกระชับมือจับแน่นขึ้นอีกก่อนจะพามืออีกคนไปวางไว้บนอกข้างซ้ายของตัวเอง

    “ขึ้นเวทีค่อยเป็น ริท เดอะสตาร์ได้ไหม? ตอนนี้ช่วยเป็นริทของกันก่อน”

     

    คนที่ได้สัมผัสเสียงเต้นของหัวใจอีกคน ยิ้มเศร้าๆ พยักหน้ารับ

    “อืม”

     

     

     

     

     

     

    โชว์ต่างๆที่ถูกคัดสรรมาเพื่อแฟนๆทุกคนถูกโชว์เรื่อยๆจนถึงช่วงทอร์คของอสรพิษ เรื่องราวที่ถูกวางเอาไว้ในสคริปต์

     

                คนตัวเล็กที่ความจำดีพยายามพูดเชื่อมโยงให้ไม่ออกนอกสคริปต์มากเท่าไหร่เพราะกลัวจะออกทะเลจนทอร์คยาวเกิน แต่ติดตรงที่ไอ้คนกากที่วันนี้ดูมันจะลัลล้าเป็นพิเศษ แม้จะรู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามมัน

     

    “กันทำไมวันนี้คึกจังวะ?”     ถามเหมือนกวนตีนบนเวที แต่ปรากฏว่าไอ้คนคึกกลับตอบคำตอบมาทำให้ยิ่งเหวอ

    “ก็มีความสุข”.............. แน่ะ..ยังมายิ้มให้กุอีกมีความสุขก็เก็บอาการหน่อยดิวะเด๋วมีพิรุธ (คนตัวเล็ก)

     

    เรื่องราวต่างๆดำเนินไปเรื่อยๆ มีขัดกันบ้าง ด่ากันบ้างตามประสาคนชอบทะเลาะกันหน้าสื่อ (แต่หลังสื่อ....)

     

    ตามธรรมเนียมอสรพิษต้องมีการกอดกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเป็นหนึ่งเดียวกัน อาจเพราะผมลืมหลบหรือไอ้กากนี่มันตั้งใจไม่รู้ ทำให้ปากชนเข้ากับช่วงระหว่างคางมันพอดี

     

    คนได้กำไรหันมาสบตาหวานอีกคน ..................โอ๊ยยยยยย อยากจะลากเป็ดลงไปหลังเวทีตอนนี้ชะมัด!!!!

     

    ทำตามสคริปต์ต่อ ไอ้คนกากยังคงกากและกวนเขาต่อไปซึ่งหลายๆทีเข้าชักออกนอกสคริปต์แล้ว มันตั้งใจกวนประสาทเขามากกว่า

     

    “กัน เราเลิกเป็นเพื่อนกันเหอะ?” พูดแบบเซ็งๆ

    “อืม คิดมานานแล้วเหมือนกัน” คนได้โอกาสรีบตอบ คนตัวเล็กรู้ตัวทันทีว่าเผลอพูดอะไรที่เข้าข้างมันขึ้นมา

     

                โตโน่เห็นน้องชายสองคนนอกสคริปต์กัน แถมยังเป็นเรื่องที่ถ้าไม่มีใครห้ามมีหวังคอนนี้กลายเป็นคอนงานแต่งมันแน่ ดูท่าทางไอ้กากมันคึกอยู่ด้วย..ชักเดาใจไอ้น้องชายผิวเข้มไม่ถูก

     

    “เฮ้ย ถ้าเราเลิกกันแล้วเราจะเอาอะไรกินเล่า เห็นฮั่นเต้นไหม?” แถไปอีกเรื่องหนึ่ง แล้วมาเต้นเพื่อเรียกความสนใจจากคนดูแทนไอ้ตัวแสบสองตัวนั่น

     

    หลังจากพูดคุยทะเลาะกันก็ถึงคิวที่พี่ชายพูดเข้าเพลงพิมพ์ไว้ในใจ เพลงพิเศษที่ใครก็ไม่รู้แต่งให้ (>///<)

     

    ............เธออยู่สูงดั่งดวงดาว

    เห้ย!!!เมิงมาชี้กุทำไมไอ้กันคนอื่นเขาเริ่มสงสัยกันอยู่....โชคดีที่เป็นคนมีสติติดตัวตลอดเวลาทำให้แกล้งแถเป็นทำท่ายืดตัวสูงขึ้นแล้วเก็ก

     

    คนที่ทำไปโดยไร้สติเพิ่งรุสึกตัวว่าเผลอชี้นิ้วไปที่เจ้าของเนื้อเพลงที่เขาแต่งให้เลยรีบกลับลำเรือหันไปชงทางพี่โน่ทันที

     

    ....คนธรรมดาอย่างฉันก็ทำได้แค่มอง...

     

    โตโน่ยิ้มกริ่มตั้งแต่เห็นไอ้คนคึกนี่ชี้อีกคนแล้วก็อดขำไม่ได้ ....ทำอะไรไม่คิดเลยนะเมิงไอ้กัน แต่อย่างว่าน้องพลาดพี่ก็ต้องช่วย ยอมให้มันชงตัวเองไป

     

     

     

    เพลงเพื่อดาวดวงนั้นถูกขับร้องอีกรอบตอนจบ ดวงดาวทั้ง26ดวงต่างมองไปยังแฟนคลับที่รักเขา น้ำตาแห่งความตื้นตัน ไหลเองไม่รู้ตัว โตโน่โอบน้องชายคนตัวเล็กเอาไว้

    “เมิงไม่ต้องกลัวแฟนคลับลืมเมิงนะริท ยังไงเขาก็ยังรักเมิง”

     

    ร่างเล็กพยักหน้าเข้าใจ

     

                ช่วงอังกอร์ปิดคอน คนผิวเข้มพยายามมองหาเพื่อนสนิท แต่อีกคนดูเหมือนจะงอนเขาที่เขาแกล้งนอกสคริปต์ไปเยอะเลยไม่ยอมหันมาสบตาด้วย

     

    จบคอนเสิร์ต อำลาแฟนๆ

     

     

    “ริทททททททททททททททรอกันด้วย” คนผิวเข้มรีบวิ่งตามเพื่อนสนิท

    “ไม่รอ คนอะไร?พาออกนอกสคริปต์ตลอดนี่ถ้าไม่มีพี่โน่ช่วยไม่รุกุจะกู้หน้ายังไง?”

    “ก็ปล่อยให้มันแป๊กไปก็ได้ เชื่อดิไม่มีใครสนใจหรอก”

    “เหรออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ!!!!” เดอะสตาร์ที่อยู่บริเวณที่ได้ยินต่างประสานเสียงกัน

    “พี่ว่าพี่สนใจตั้งแต่วันนี้เมิงคึกอะไรแล้วแหละไอ้กัน นี่ถ้าข่าวที่เมิงป่วยออกไปต้องมีคนสงสัยเพิ่มมากขึ้นว่าทำไมเมิงถึงยังคึกได้ขนาดนี้” พี่เก่งรีบมาขู่

    “ช่ายกุเหนด้วยกับพี่เก่ง กุว่าป่านนี้ห้องลับเมิงสกิลประโยคพวกเมิงกันไม่ได้นอนแน่” ไอ้เซนมาสมทบ

    “แล้วอีกอย่าง เมิงสองตัวอยู่บนเวทีสายตามองกันตลอด” โตโน่พูดแล้วก็ตบหัวน้องชายคนละที “แม่งคนเดียวไม่เหงาเท่าสามคนเลย ชิ” ทำท่าน้อยใจน้อง

     

    ริทมองไอ้ตัวต้นเหตุอย่างคาดโทษ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะสำนึกกลับยิ้มให้

    “ดีแล้วให้มันหลุดๆซะบ้าง?อย่างน้อยมันก็กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำของพวกเขาว่าเราสองคนเคยหวานใส่กันแค่ไหน?” สวมนิ้วตัวเองลงช่องว่างระหว่างนิ้วของอีกคนก่อนจะกุมแน่น

    “เมิงไม่กลัวหรือไอ้กัน”

    “ถ้ากุกลัว กุกลัวเมิงลืมกุมากกว่า”

    “อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!”แบบประสานเสียง

    “ปล่อยได้แล้วมือน่ะ?รีบไปงานเลี้ยงต่อดีกว่าคิดถึงครูแหม่ม” คนที่เขินรีบดึงมือตัวเองกลับแล้วหนีจากตรงจุดที่โดนล้อ

    “55555555+ รอกันด้วยดิริท”

     

     

     

    งานเลี้ยงจบ เดอะสตาร์ที่เหนื่อยมาด้วยกันต่างเฮดีใจกับความสำเร็จของคอนเสิร์ต

     

    ถึงเวลาต้องแยกย้าย..............

     

    เขากับริทขอตัวแยกออกมาก่อน โดยอ้างว่าไปเอาของ........ของที่เรียกว่า “เวลาส่วนตัว”

     

    “คอนจบอารมณ์ไม่จบว่ะริท?”

    “ไม่จบอะไรวะ? คึกขนาดนั้นยังมีแรงต่ออีกเหรอ?” ถามคนที่สวมกอดเขาด้านหลัง

    “อืม อยากยืดคอนต่ออีกสัก5ปี กุจะได้อยู่กับเมิงทุกวัน”

    “ไอ้บ้า คอนบ้าอะไรจัด5ปี” ทำท่าจะหัวเราะแต่ก็หัวเราะไม่ออกเพราะรู้ว่าอีกคนพูดถึงอะไร?

    “กุชอบป้ายไฟเมิงนะ รักริทรอริท เวลาได้เห็นมันทำให้กุรู้ว่ากุไม่ได้รอเมิงคนเดียวแต่มีหลายคนที่รอเมิงเป็นเพื่อนกุ ทำให้กุไม่เหงา”

    “อืม แต่นี่แค่กุหายไปแค่สองเดือน แต่อีกห้าปีข้างหน้ากุก็ไม่รู้ว่าแฟนๆยังรอกุอยู่ไหม?”

    “ความรักที่แฟนๆให้เมิงก็คงเหมือนที่กุให้เมิง ความรักของกุไม่ได้อยู่ที่ใจแต่มันอยู่ในความทรงจำทุกช่วงเวลาที่ได้รู้จักเมิงมันวนเวียนเป็นส่วนหนึ่งของกุตลอดไม่จางหายไป”

     

    หมุนตัวกลับมองหน้าคนพูดแบบชัดๆ สีหน้าจริงจังปนเศร้า

     

    “จริงไหม?” ยิ้มกว้างเพื่อคลายบรรยากาศเศร้าๆ

    “ไม่จริง”

    “อ้าววววววววววไอ้กาก ปล่อยกุเลย” พอโดนกวนกลับคนที่กำลังซึ้งรีบผลักคนที่กอดให้พ้นตัว

    “5555555555+ล้อเล่นน่า ไม่มีใครหน้าไหนลืมริทได้หรอกเชื่อดิ”

    “ทำไมวะ?”

    “ก็นักร้องเตี้ยๆ แก้มยุ้ยๆ ชอบทำหน้าเหวี่ยงๆ ทำตัวเกรียนๆ แต่น่ารักมีแค่ริทคนเดียวนี่หน่า”

    คนที่เหมือนจะโดนชมเริ่มทำหน้าเหวี่ยง

    “เมิงลืมกุไปเลยก็ได้นะไอ้กาก ชิ กลับไปกุจะลืมเมิงเลยคอยดู”

    “5555555+ เมิงจะลืมได้เร้อ คนหล่อๆ ร้องเพลงเพราะ แถมเพอร์เฟคแบบกุเนี่ย หายากนะ”

    “เด็กขอนแก่นหน้าตาดีเยอะแยะจะตาย กุจะสนใจทำไมไอ้หมาดำสุพรรณ”

    “โอ๊ยยยยยเจ็บเลยนะริท ว่ากันเป็นหมาได้ไง กันเป็นไก่ต่างหาก แต่จะเป็นหมาก็ได้เพราะหมาดำสุพรรณได้คู่กับหมาปั๊กขอนแก่น”

     “55555+...........เห็นไหมล่ะว่า...หมากันทั้งสองคน” จุ๊บปากคนหน้าแดงเบาๆ

     “ไอ้กันนนนนนนนนนน!!! คนโดนขโมยจูบเรียกชื่อไอ้โจรจอมขโมย

     

     

     

    “เฮ้ยๆๆๆ ไอ้สองตัวนี้มากอดอะไรกันสองคนในนี้วะ? บ้านช่องไม่มีให้กลับกันหรือไง?” โตโน่ที่เดินมาเอาของเหมือนกัน....(มาขัดความสุขของพวกมันต่างหากช่ายมะโตโน่//ไรเตอร์/ถั่วต้ม//โตโน่)

    “มีให้กลับพี่แต่ยังอยากอยู่ต่ออีกหน่อย เพราะเด๋วริทต้องกลับไปนศพ.ต่อ...เฉพาะตอนนี้ที่กันจะได้ริทของกันกลับคืนมากันอยากอยู่กับริทของกันต่ออีกหน่อย”

     

    คนที่แกล้งมาขัดความสุขเริ่มรุสึกผิด....เขาลืมไปว่ามันสองตัวยังไงก็เป็นคนรักกันย่อมอยากอยู่ด้วยกันบ้าง

    “เอองั้นพี่ไม่กวนแระ แล้วรีบๆล่ะคนเริ่มทยอยกลับกันหมดแล้วเด๋วโดนสงสัย”

    น้องชายทั้งสองคนพยักหน้า

     

                หลังจากพี่ชายออกไปจากห้องใบหน้าคมก็ซบลงบนบ่าเล็ก แขนเล็กโอบรอบลำตัวคนที่สูงกว่า ต่างคนต่างเงียบไม่พูดหยอกล้อกัน อาจเพราะอยากซึมซับสัมผัสนี้เอาไว้ให้นานที่สุด

     

    “กันกลับกันเหอะ” ร่างเล็กเอ่ยปากเพราะเห็นว่านานมากแล้วกลัวคนอื่นคอย

    “อืม”ใบหน้าคมพยักหน้า

     

    หันมาสบตาใบหน้าหวานอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มให้อีกคน

     

    ....ร่ำลาด้วยรอยยิ้มที่มี เพื่อเริ่มคิดถึง “กัน” เสมอ เพื่อรอกลับมาพบเจอ พิสูจน์ว่ารักหนึ่งคำจะให้จดจำตลอดไป............

     

    เพลงของตัวเองถูกร้องผ่านคนผิวเข้ม ใบหน้าหวานยิ้มไปทั้งหน้า

     

    ....การเดินทางอาจทำให้เราต้องไกลไม่เสียใจที่ครั้งหนึ่งเราได้พบ “กัน”

     

    ถึงคราวที่คนแต่งเพลงยิ้มบ้าง เมื่อเจ้าของเนื้อเพลงร้องเพลงนี้ตอบกลับมา

     

    “แล้วพบกันใหม่นะกัน บาย” โบกมือลา

    “อืมแล้วเจอกันนะริท”

    กำลังจะเดินออกจากห้องอยู่ๆก็มีเสียงเรียกชื่อเขาเต็มยศทำให้ต้องหันกลับมามองคนเรียก

     

    “นักศึกษาแพทย์เรืองฤทธิ์!!!

    “หา?”

    “เรียนจบไวๆแล้วรีบกลับมาดูแลหัวใจกันด้วยนะ”

    “5555555555+ไอ้บ้า!!!!

     

    ยิ้มครั้งสุดท้ายของวันนี้...........รอยยิ้มริทของกัน คนผิวเข้มมองคนที่เดินจากไป

     

    “จะกี่ปีกันก็จะรอริทนะ รอวันที่ริทกลับมา............ริทของกัน”

     

     

     

     ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ..ด้นสดตามรงส. แทบจบไม่ลงเพราะรู้ว่าสองแสบต้องจากกันอีกแล้วทำใจไม่ค่อยได้ อีกนานไหม?ที่จะได้เจอกันอีก รุสึกเศร้าแทนพวกมันสองคน TT^TT

    ......ก็รู้ว่างานเลี้ยงย่อมมีการเลิกลา....แต่ใจเราไม่เลิกรักกัน...

    ปล.ฟินตายคาช็อตงานคอน5678  สายตาเสือแต่ละภาพนี่สื่อออกมาหมด

    คนเยอะแค่ไหนนภัทรไม่กลัว........เพราะสายตาที่มองเห็นแต่ริท ฮิ้ววววววววว


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×