คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : รักนะแต่..เนียน!!!
หลังจากโดนขู่ทางโทรศัพท์คุยกันเมื่อคราวก่อนว่าถ้าเขาขึ้นมากรุงเทพเมื่อไหร่อีกคนจะให้เขาเป็นคู่ซ้อมบทละครโดยเฉพาะฉากเลิฟซีน เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เขาต้องขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพจริงๆ.....แต่ไม่เป็นไรมั้งไอ้คนที่ยุ่งจนหัวหมุนคงลืมไปแล้วว่าเขาต้องขึ้นไปวันนี้ คนตัวเล็กเตรียมแพ็คกระเป๋าจัดของบางส่วนของตัวเอง ตาหวานยังคงมองโทรศัพท์ที่ไร้การติดต่อของคนงานยุ่ง
แอบเช็ครูปตามเว็บต่างๆวันนี้ไอ้ตัวพ่อนอกจากไปเรียนยังต้องไปร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนๆพี่ๆคนสนิทที่เรียนจบของมหาลัยชื่อดัง มองภาพของคนใบหน้าคมเขารู้ว่ามันเหนื่อยล้าขนาดไหน แต่ยังยิ้มยินดีกับเพื่อนๆพี่ๆได้อย่างแนบเนียนโดยเฉพาะภาพถ่ายคู่กับสาวๆซึ่งดูมันจะยิ้มร่า..........ได้แนบเนียนเกินไปไหม? L
“เฮ้อ......กุรักเมิงได้ไงวะกากแบบนี้” บ่นกับตัวเองมือเรียวปิดไอแพดและเก็บใส่กระเป๋า
สนามบิน ณ.วันที่20/07/12
บรรดาแฟนคลับที่น่ารักยังคงมาคอยรับผมอย่างดี ผมยิ้มหวานทักทายคนที่รักผม ก่อนจะไปนั่งแท็กซี่เพื่อไปเจอเพื่อนๆพี่ๆที่ไม่ได้เจอกันมานาน
เก็บรอยยิ้มฉันไว้ในใจของเธอ*****************
เบอร์คนคุ้นตาผมเว้นให้มันดังสักพักหนึ่งก่อนรับสาย
“ไอ้ริทเมิงมากรุงเทพเหรอวันนี้ ทำไมกุไม่รู้เรื่องวะ?”
“กุจะไปไหนมาไหนทำไมต้องรายงานเมิงด้วย เมิงเป็นผู้ปกครองกุเหรอไอ้กัน”
คนผิวเข้มชักสีหน้าไม่พอใจแว่บหนึ่ง....นี่เขาโดนประชดใช่ไหมนี่?
“แล้วนี่มาทำงานที่ไหนเมื่อไหร่ ตอนนี้กำลังทำอะไรและอยู่กับใคร?” ถามรัวตามประสาคนพูดเร็ว
“กุจะทำอะไรกับใครเมิงจะสนทำไม?ในเมื่อบอกไปเมิงไม่ว่างมาหากุอยู่ดี ถ้าเมิงอยากรู้แน่จริงเมิงมาถามกุด้วยตัวเองสิแล้วกุจะบอก” พูดท้าทาย
คนผิวเข้มเม้มปากแน่นเขารู้ว่าอีกคนต้องการกวนประสาทเขา แต่แทนที่เขาจะโกรธกลับกลายเป็นว่าอยากเอาชนะคำท้าทายนั่นซะอีก...มีแฟนโรคจิตเราต้องโรคจิตตาม...จิงมั๊ย?
“งั้นคืนนี้เมิงมารอรับกุที่โรงละครกุจะไปนอนกับเมิงที่คอนโด ถ้าเบี้ยวไม่มารับให้กุไปหาเองแล้วจะหาว่าคนหล่ออย่างกุไม่เตือน...หึหึหึ”
ตื๊ดดดดดดดดดดดด
ปลายสายหัวเราะเสร็จก็วางไป............โธ่!!!!ไอ้ริทเมิงไม่น่าไปท้าทายมันเลย ลืมไปว่าไอ้กันมันตัวพ่อเรื่องเอาชนะขนาดไหน?
ออกมาทานข้าวเลี้ยงเฮฮากับพี่ๆเออาร์คู่ใจและเพื่อนสนิทๆหลายคน ได้ยิ้มได้หัวเราะกับบรรยากาศเดิมๆ คิดแล้วก็คิดถึงกับวันเวลาที่เคยอยู่ร่วมทำงานกับบรรดาเพื่อนร่วมงานทุกคน
“จียอนๆๆ ถ่ายรูปกันไหม?”
“อาวสิ จียอนกำลางจะขอริทถ่ายโฟโต้ด้วยกานเลย”
ว่าแล้วก็แชะรูปกับเพื่อนสนิทของตัวเอง.....พาลไปนึกถึงภาพของไอ้คนกากที่ถ่ายรูปคู่กับเพื่อนสาวของตัวเองในงานรับปริญญาแล้ว............นี่ไม่ได้ประชดมันหรอกนะแค่อยากให้มันรู้สึกอะไรบ้าง?ที่เห็นภาพนี้ (ไม่ได้ประชดตรงไหนเนี่ยริทแบบนี้//ไรเตอร์)
เก็บรอยยิ้มฉันไว้ในใจของเธอ*****
“เมิงอยู่ไหนเนี่ยกุซ้อมเสร็จแล้วยังไม่เห็นเจอเมิงเลย”
“กุมางานเลี้ยงกับพวกพี่ๆเพื่อนๆอ่ะคิดถึงพวกเขาไม่ค่อยได้เจอ”
“อ้าวเหรอ งั้นเมิงอยู่กับพวกเขาไปเหอะ เด๋วกุไปรอเมิงที่คอนโดเองก็ได้”
“เอางั้นเหรอ.......ไม่โกรธกุนะ?” ถามให้แน่ใจอยู่ๆทำไมไอ้กากมันใจดีไวจังแฮะ
“ไม่หรอก พวกพี่เขาคิดถึงมึงเหมือนกัน กุจะรั้งเมิงมาหากุคนเดียวได้ไง? ยังไงคืนนี้เราก็ได้อยู่ด้วยกัน”
อาจเป็นข้อหนึ่งที่ทำให้ผมรักมัน ไอ้กันมักคิดถึงจิตใจของคนอื่นก่อนเสมอแคร์คนอื่นๆมากว่าตัวเอง
“อืมเด๋วริททานเสร็จแล้วจะรีบกลับนะ”
“ได้ๆเด๋วกันจะนอนรออยู่บนเตียงนะจ๊ะ”
“ไอ้บ้า!!!นอนไปเลยไม่ต้องรอเมิงเหนื่อยแล้วควรพักผ่อนเยอะๆ”
“แหมริทกุจะนอนได้ไง?ในเมื่อติวเตอร์ส่วนตัวกุอุตส่าห์ลงมาซ้อมบทให้กุทั้งที รับรองวันนี้ลูกศิษย์คนนี้จะสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติให้ได้เต็มเลย คอยดูดิ”
“ไอ้กาก ไอ้หื่น ไอ้บ้า ปัญญาอ่อน” โอ๊ยยยยยยยยยไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเป็นตัวแทนมันดี
“อ๊ะแท็กซี่มาแล้ว แค่นี้ก่อนนะเด๋วยังไงเจอกันนะ..”
คนตัวเล็กกำโทรศัพท์แน่น อยากจะด่าไอ้คนกากสักร้อยภาษา
“อ่าริท เปนรายไปคะ? ดูหน้าแดงๆม่ายซำบายหรือเปล่าคะ?”จียอนถามด้วยความสงสัย แต่คนตอบไม่ใช่เขากลับเป็นเออาร์คู่ใจของเขาเอง
“จียอนริทมันไม่ได้เป็นอะไรหรอก คนที่ไม่สบายอ่ะสงสัยจะเป็นคนโทรมาซะมากกว่า” ริทมองเหวี่ยงๆไปที่พี่แนน
“โอ๊ปป๊ะ เพื่อนของริทไม่สบายเหรอคะ ริทรีบกลับไปดูแลเพื่อนริทดีไหมคะ?”
“เออช่ายริท นี่ก็ดึกแล้วรีบกลับไปดูคนไข้ดีกว่านะ แล้วคราวนี้ช่วยรักษาโรคไข้ใจมันให้หายซะที พี่เจอมันแต่ละทีเพ้อว่าคิด......” รีบปิดปากเออาร์สาวห้าวทันที
“ไข้ใจนี่คือโรคหัวใจช่ายไหมคะ งั้นริทรีบกลับไปดูแลเพื่อนเถอะค่ะ”
ริทยิ้มแห้งๆก่อนจะพยักหน้ารับว่าจะกลับ แต่ทันทีที่หันหลังเสียงพี่แนนก็ตะโกนไล่หลังทำให้เขาต้องหันกลับไปทำหน้าเหวี่ยงอีกรอบ
“อย่าลืมให้ยาบำรุงโรคหัวใจคนไข้ด้วยนะริท555555+”
คนโดนล้อหน้าหงิก แต่ไม่ได้โกรธคนล้อ พี่แนนเป็นเออาร์คู่ใจที่คอยดูแลเขามาตลอดเหมือนพี่และเพื่อนในเวลาเดียวกัน ช่วงที่เขาไปเรียนพี่แนนก็รับหน้าทีคอยดูแลไอ้กากด้วย โดยรับหน้าที่เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลไอ้กากให้แบบไม่ให้คลาดสายตา
กลับมาที่ห้อง วันนี้ห้องดูเงียบเพราะพี่โตโน่ติดถ่ายละครต่างจังหวัดยังไม่กลับคาดว่าน่าจะกลับตอนใกล้เช้า
เปิดประตูห้องที่ไม่ได้ล็อคของตัวเอง คนผิวเข้มนอนหลับสบายอยู่บนเตียงราวกับเป็นเจ้าของเตียงซะเอง
ก้มมองหน้าคนหลับ ตาคมหวานดูอิดโรยแม้จะปิดอยู่.....คงเหนื่อยมากซินะ?
นิ้วเรียวเกลี่ยผมที่ปรกหน้าอีกคนแล้วปัดๆเซ็ตให้........ท่าทางจะยุ่งหัวฟูเชียวนะไอ้กาก?
สายตามองโดยรวมไปยังร่างที่หลับ.........ผอมลงอีกแล้วใช่ไหม?กินข้าวบ้างหรือเปล่านะ?
แล้วสุดท้ายเขาบรรจงจุมพิตแผ่วเบาไปยังหน้าผากของคนหลับ....คิดถึงมากรู้ไหม?
“อื้มมมม” คนที่หลับคราง ใบหน้าหวานสะดุ้งรีบลุกขึ้นยืน
“อ้าวกลับมาแล้วเหรอริท?” ถามงัวเงีย
“เออดิ แหมนอนซะเป็นเจ้าของเตียงเชียวนะเมิง”
“อืมขอโทษที พอดีอ่านบทเพลินไปหน่อยเลยหลับ” ยิ้มแหยๆ
“น้ำเนิ้มไม่อาบแล้วมานอนเตียงกุ ไปอาบน้ำเลยไป๊กุได้อาบบ้าง?” ดันคนที่นั่งจ้องเขา
“จ้องอะไรกุวะไอ้กัน?”
“เปล่าแค่แปลกใจวันนี้เมิงกับกุใจตรงกันเลยนี่หน่าใส่เสื้อสีเดียวกันเลย”
“ใจตรงกันอะไรกุแค่หยิบมาใส่ส่งๆแค่นั้น ทำอย่างกับสาวมอต้นที่ตื่นเต้นกับการใส่เสี้อคู่ไปได้”ด่ามันแต่ต้องเก็บรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ไม่ให้หลุดยิ้มออกมา
“ใส่เสื้อสีเดียวกันไม่พอยังใส่ของ body Gloveอีก แหมๆๆๆ”คงที่ตื่นเต็มตายังคงแซวไม่เลิก
“อะไรวะยี่ห้อนี้มันทำไม?”
“เอ๋า ก็คำว่าbody Gloveอ่านแยกคำเท่ากับ bo-dy-G-loveไงไม่เข้าใจหรือริท?”
“งงไม่เก็ทว่ะมุขนี้ไม่ผ่าน”
“โห่เข้าใจไรยากจัง ก็ Gในที่นี้ใช้แทนตัวย่อของคำว่า Gunไง? เลยกลายเป็นbody Gun love”
อึ้งพูดอะไรไม่ออก ไอ้บ้านี่มันกากเข้าเส้นหรือสมองมันเพี้ยนจนคิดอะไรแบบนี้กันแน่?
“เมิงรีบไปอาบน้ำดีกว่าไอ้กัน แล้วมานอนพักผ่อนเยอะๆสมองเมิงเอ๋อแล้วนะ” ถอนหายใจ
“อ้าว หลอกด่ากุนี่หว่า งั้นมานี่เลยมาซ้อมบทเลิฟซีนกันในห้องน้ำกันดีกว่า”ฉุดกระชากลากอีกคนเข้ามาในห้องน้ำด้วย
“เฮ้ยไอ้กันไม่เอา บทคริสมันไม่มีเลิฟซีนในห้องน้ำไม่ใช่เหรอ? ปล่อยกุนะ”เกาะขอบประตูไว้ไม่ยอมเข้าไป
“บทคริสไม่มีแต่บทกันน่ะมี เข้ามาดีๆดิริท”
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกม่ายอาววววววววววววววววววววว!!!!!”
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้....ใครอยากรู้ต้องถามสองแสบ
“ไอ้กันไอ้บ้า หื่นชะมัด” คนผิวเข้มนอนชันศอกอยู่บนเตียง ตาคมมองคนบ่นกระปอดกระแปดที่กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่
“เมิงจะใส่เสื้อผ้าอีกนานไหม? ใส่ไปเด๋วก็ต้องถอดอีก”
คนตัวเล็กหน้าแดงหันมาเหวี่ยงใส่คนพูด
“ไอ้กันพอเลย เมิงนอนพื้นเลยวันนี้กุไม่ให้เมิงนอนเตียงเดียวกับกุแล้ว”
“โธ่ริท พื้นมันแข็งนะถ้ากันไม่สบายจะทำไง? คุณหมอยิ่งไม่ค่อยมีเวลามาดูแลกันอีกต่างหาก”
เม้มปากหมั่นไส้คนอ้อน
“งั้นนอนเตียงเดียวกับกุแต่เอาหมอนข้างกั้นกลาง”
“ไม่เอาอ่ะ หมอนข้างมันแข็งไม่อุ่นไม่นุ่มแถมไม่มีกลิ่นมะนาวเหมือนกอดริทอ่ะ”
มองหน้าคนงอแงเป็นเด็ก...........ว่าแล้วเขาก็ต้องใจอ่อนกับมันอีกจนได้
“เออยอมให้กอดก็ได้ แต่ให้กอดอย่างเดียวนะห้ามทำอย่างอื่น”
คนโดนสั่งบู้ปากอย่างขัดใจ
“ถ้าไม่รับปากก็ไปนอนห้องพี่โน่เลย”
“โห่ก็ได้ ไมเป็ดใจร้ายงี้วะ กอดเฉยๆก็ได้”
คนตัวเล็กยอมนอนให้อีกคนกอด แขนแกร่งโอบรัดตัวเขาแน่นกลัวว่าเขาจะหายไป
“ทำไมยิ่งเจอเมิงกุยิ่งคิดถึงวะริท” กระซิบข้างหูเล็ก
“เพราะกุน่ารักมั้ง...”
“หลงตัวเองว่ะ?”
ตีแขนคนว่าไปหนึ่งที
“เมิงรักกุตรงไหนวะกัน?” หันหน้าไปถามคนที่กอด
“ไม่รู้ว่ะ ปากก็จัด กินก็เยอะ แถมยังขี้นอยด์ ชอบเหวี่ยง แล้วยังไม่รวมขี้แย กลัวผี ปัญญาอ่อนอีก”
คนโดนว่าเริ่มทำปากเชิดๆเตรียมเหวี่ยงคนที่บรรยายสรรพคุณเขา
“เห็นมะ ดูดิจะเหวี่ยงใสกันอีกแระ5555555+” ล้อแบบอารมณ์ดี
“ก็เมิงหลอกด่ากุ”
“ใครว่ากุหลอกด่าเมิง กุจะแค่บอกว่าทั้งๆที่เมิงเป็นแบบนั้นแต่กุก็ละสายตาจากเมิงไปไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งรักจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเนี่ย?”
“จริงไหม?”
พยักหน้ารับ
“โอเครกุหายข้องใจแระ นอนๆ”คนตัวเล็กตัดบท
“อ้าวเมิงถามกุได้ทำไมไม่ให้กุถามเมิงบ้างล่ะ?”
“จะถามอะไรกุพรุ่งนี้เช้าค่อยถามกุง่วงแล้ว”แกล้งหาว38ตลบ
“อย่ามาเนียนไอ้ริท คำถามเดียวกับเมิงเลยเมิงล่ะรักกุตรงไหน?”
“ค่อยตอบได้ไหมตอนนี้ง่วงจริงๆ”หันหลังกลับ
คนผิวเข้มลุกขึ้น พลิกตัวคนแกล้งง่วงให้หันมาสบตาเขา
“ไอ้กันเล่นไรเนี่ยดึกแล้ว”
“เมิงตอบคำถามกุมาเลย ถ้าไม่ตอบกุปล้ำแน่” ทำสีหน้าเอาจริง
“ไรวะเมิงผิดสัญญานี่หว่า บอกจะนอนกอดกุเฉยๆไง?”
“ก็เมิงไม่ตอบคำถามกุ สัญญาถือเป็นโมฆะ”
“มีงี้ด้วย”
ใบหน้าคมยิ้มพยักหน้า
คนตัวเล็กจ้องตาคมหวานที่เปล่งประกายได้ในที่มืด เห้นแล้วอยากจะเอานิ้วควักตามันไปดองเก็บไว้ดูเล่นที่บ้าน แม่งตาวิ๊งๆจนใจกุอ่อนไปหมด
พลิกตัวกลับหันหลังให้คนฟัง
“กุไม่เคยรักเมิงเลยเกลียดเมิงมากด้วยซ้ำ คนอะไรกากก็กาก ชอบงอนชอบแกล้งกุ ชอบให้กุรู้สึกวุ่นวายใจ ทำให้กุเป็นห่วง ชอบลัลล้ากับสาวๆให้กุคิดมาก........... ชอบให้กุทรมานเวลาอยู่ไกลกัน”
คนนอนฟังพลิกตัวคนที่หันหลังให้เขาให้หันหน้ามา ใบหน้าหวานแดงไปทั้งหน้า ตาหวานคลอเต็มไปด้วยน้ำตา
“ชอบพูดคิดถึงให้กุเพ้อ...ชอบคิดมากให้กุเจ็บแทน ฮือๆๆๆชอบๆๆทำให้กุหลงรัก......ฮืออออ” กำปั้นเล็กๆทุบไปที่อกกว้าง
คนโดนทุบแม้จะเจ็บแต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายได้ระบาย เขาเคยแต่คิดว่าริทไม่ค่อยสนใจเขา ไม่เคยหวานหรือหึงหวงเขา เคยแค่น้อยใจแต่ไม่คิดว่าเขาจะทำให้อีกฝ่ายกังวลและเป็นมากขนาดนี้
“กันขอโทษนะที่กันเป็นแบบนี้...........ขอโทษที่ทำให้ริทต้องมารักกัน ”
“ไม่รู้รักเข้าไปได้ไง?” หยุดร้องไห้ ปาดน้ำตาแล้วทำหน้าเหวี่ยงใส่คนรัก
“ริทๆพรุ่งนี้ใส่เสื้อคู่กันอีกได้ไหม? กันชอบเวลาคนที่กันรักแสดงออกว่าคิดถึงกันตลอด”
“เสื้อคู่ไรอีก เชิ้ตสีชมพูหรือไง?”
“ไม่ใช่ๆ ริทมีเสื้อตัวที่คล้ายของกันที่ใส่วันนี้นี่ที่เป็นสีน้ำเงินปนเขียวหน่อยๆน่ะเขียวมะนาวเน่าอ่ะ”
“เออมี แล้วเมิงมีเสื้อแบบกุหรือไงถึงจะให้ใส่เหมือนกันอ่ะ”
“ก็ริทก็ใส่เสื้อสีอื่นไว้ข้างในดิเด๋วกันจะใส่สีเดียวกับเสื้อด้านในของริท ส่วนริทก็ใส่เสื้อนอกคล้ายของกันเมื่อวาน”
“คนไม่แปลกใจเหรอวะ?” คิดทบทวน
“ ช่างดิ ดูมีความลับน่าค้นหาดีออก น๊าๆๆๆๆ” อ้อนๆๆๆๆ
“ก็ได้ๆ เอาแต่ใจชะมัด”
“เอาแต่ใจแต่ก็น่ารักเนอะ”
ตีเพี๊ยะที่แขนคนกากครั้งที่สอง
“แล้วพรุ่งนี้ริทร้องเพลงอะไร?เตรียมเพลงหรือยัง? ร้องให้กันฟังบ้างดิกันอยากฟังริทร้องเพลงให้กันฟังบ้าง?”
“ก็เพลงเดิมแหละที่เคยร้อง”
“นั่นแหละอยากฟัง นะร้องให้ฟังหน่อย”
มองเด็กดำตัวโตทำไมมันอ้อนจังวะวันนี้
“เอาแค่ท่อนเดียวนะ ฟังจบรีบนอนนะ”
“อืม”
คนตัวเล็กกระแอมเบาๆ ก่อนพลิกตัวหันมาสบตาหวานคม
ตั้งแต่เมื่อฉันรู้จัก และฉันได้มาพบเธอ
มันทำให้ฉันต้องเปลี่ยน
เปลี่ยนแปลงหัวใจฉันไป
ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
เพราะสำหรับฉันแต่ก่อนความรักคือการคว้ามา
แต่ในวันนี้ฉันเปลี่ยนความรักคือการให้ไป
เพิ่งจะรู้และเข้าใจ เมื่อฉันได้มารักเธอ
ยิ้มหวานให้คนฟังเล็กน้อย คนฟังยิ้มตอบจนแก้มบุ๋มขึ้นหลุมลึก
“เอาล่ะจบแล้วนอนได้แล้ว”
“555+แปลกๆแฮะพอริทมาหวานใจดีใส่แบบนี้”
“แปลกตรงไหนวะไอ้กัน ไม่ชอบหวานๆชอบแบบโหดๆหรือไง?”
“เปล่าเพียงแค่..............” เว้นวรรคเล็กน้อยแล้วเหลือบมองคนหน้าหวาน
“เพียงแค่อะไรวะ?”
“แค่...........มีอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้วอ่ะ” พูดจบก็รวบคนข้างๆเข้ามากอด
“เฮ้ยยยยยยยยไอ้หื่นนนนนนนนนนไหนบอกว่าจะไม่ปล้ำกุไง?” รีบดันคนที่คร่อมเขาอยู่ให้ออกห่างตัว
“โธ่ ริทอุตส่าห์ขึ้นมาเป็นติวเตอร์เลิฟซีนให้กันทั้งทีจะไม่ช่วยซ้อมให้ลูกศิษย์ตัวดำๆเหรอ?”
“ซ้อมแล้วไงในห้องน้ำอ่ะ...ม่ายอาวไอ้กันกุจะนอน”
“ในห้องน้ำมันแค่ทฤษฎีแต่เนี่ยภาคปฏิบัติเด๋วถ้าเมิงยังงอแงเด๋วกุจะข้ามขั้นไปภาคสนามด้วยเลยคอยดู”
คนตัวเล็กฟังคำขู่แล้วหน้าแดง.........
“ไอ้บ้า!!!คอยดูเหอะกุจะให้เมิงตกทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ”
ใบหน้าคมยิ้มกวนๆ
“ดีให้กุตกจะได้สอบซ่อมบ่อยๆ”
พูดจบก็ปิดปากคนช่างพูดอีกคนด้วยริมฝีปากตัวเอง คนที่ยังดื้อดึงในตอนแรกเปลี่ยนเป็นโอบรัดลูกศิษย์ตัวเอง
..........ว่าแต่ผมต้องโดนไอ้ลูกศิษย์คนนี้สอบซ่อมกี่รอบเนี่ย!!!!
……………………………………………………………………………………………
แถมๆๆๆ
จากที่งานเลิกดึกทำให้บางคนต้องอยู่ต่อกรุงเทพอีกหนึ่งวัน และไม่ต้องถามว่าคนที่คิดถึงมากๆอย่างเขาจะมานอนค้างด้วยหรือเปล่า
ตื่นเช้ารับวันใหม่ด้วยกัน ล้อเล่นหัวเราะบ้าๆบอๆใส่กัน
“เมื่อวานพี่แจ็คไปหาเมิงมานี่หว่า เด๋วกุเปิดดูข่าวดีกว่า?”
“ดูทำไมไม่มีอะไรสักหน่อย” คนตัวเล็กพูดบ่นๆก่อนเดินไปทางอื่น
พี่แจ็ค: เป็นไงบ้างคะคอนเสิร์ตที่ผ่านมาได้ข่าวว่าพาร์ธอสรพิษมีช็อตซึ้งด้วยเป็นไงบ้างคะ?
ริท : จริงๆก็ “คิดถึงกัน” และก็ดีใจมากด้วยที่มีพาร์ธนี้ในคอนเสิร์ต
หันมองคนที่นั่งข้างๆแกล้งทำเป็นแต่งตัวไม่สนใจเขา คนผิวเข้มยิ้มกว้าง....เขาขอเข้าข้างตัวเองสักหน่อยได้ไหม?
“เนียนนะริท กันนี่หมายถึงกุช่ายไหม?”
“ไม่รู้ แล้วแต่จะคิด” แม้จะบอกให้อีกคนคิดเองแต่ใบหน้าหวานกลับซ่อนรอยยิ้มของตัวเองกับความอายบนใบหน้าไม่ไหว
“แหมๆๆๆสมแล้วที่เป็นอาจารย์ของกุ เนียนขั้นเทพจริงๆ” จิ้มแก้มป่องๆเล็กน้อย
“ใครจะหลุดกระจายแบบเมิงล่ะไอ้กาก” ตีนิ้วที่จิ้มแก้มเขา
“อ๊ะๆๆๆๆ แบบนี้ยอมรับแล้วอ่ะดิว่าที่พูดเมื่อกี้นี้หมายถึงกุ คิดถึงกุออกสื่อเหรอเนี่ย?”
คนโดนแกล้งให้พูดความจริงทำหน้าเหวี่ยงใส่
“ไปๆๆออกไปได้แล้ว ไปซ้อมละคร กุเองก็จะกลับแล้วเหมือนกัน” เปลี่ยนเรื่องพูดคุย
“คร้าบๆๆได้ครับแต่กันเพิ่งจะรู้นะเนี่ย....ว่าแฟนกันเป็นคน “รักนะแต่เนียนแสดงออก”
“ชิไอ้กาก เด๋วกุจะแสดงความรักของกุด้วยการตบบ้องหูเมิงนี่แหละ” เก็บข้าวของเสร็จก็ต้องมาดันหลังคนกากให้ออกจากห้องพร้อมตัวเอง
“เอาดิแต่ถ้าตบตรงนี้เมิงเจอ ภาคสนามแน่?” แกล้งขู่คนที่ดันหลังเขา
“ไอ้.....”
คนได้โอกาสรีบจุ๊บเบาๆไปที่คนที่กำลังจะด่าเขา แล้วยิ้มกวนๆให้
“มัดจำไว้ก่อนจาก เด๋วอาทิตย์หน้าจะมาเอาคืนใหม่” พูดจบก็รีบวิ่งหนีทิ้งคนที่ทั้งเหวอทั้งอายทั้งตกใจยืนหน้าแดงคนเดียว
“ไอ้บ้ากันนนนนนนนนนนนนนนน!!!!”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นับวันรุสึกตัวเองยิ่งกากยิ่งเพ้อตามศิลปิน5555555555+ ใครงงว่างานไหนโปรดดูวันที่ในฟิคแล้วหาเองน๊า555+ชื่องานเขาลืมจำได้แต่ศิลปะอะไรสักอย่างที่พาราไดซ์ปาร์ค
แถมๆๆรูปสองแสบที่เขาเพ้อเสื้อ
เสื้อสองแสบสวยเนอะ ขอบคุณเจ้าของรูปนะคะ เครดิตตามรูปเลยค่ะ...ปล.ขอบคุณคนที่เอาภาพสองภาพนี้มาประกบคู่กันด้วยนะคะ (เขาจำไม่ได้ขอโทษด้วยนะ)
อ๊ะๆๆฝากเรื่องยาวทั้งสองเรื่องด้วยนะคะ เรื่องหนึ่งกำลังเข้มข้น ส่วนอีกเรื่องจบแล้วติดตามอ่านได้ค่ะ
ฝากเพลงหน่อย ฟังเพลงนี้แล้วคิดถึงสองแสบอีกเช่นเคย เพลง ลมหายใจเพื่อใครอีกคน....จากคนที่คิดถึงไกลๆ(คลิปเขาบอกไว้งี้อ่ะ)
http://www.youtube.com/watch?v=_-ktl-eCFsk&feature=related
ความคิดเห็น