ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้ามภพมาพบรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 นอน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 246
      5
      28 ต.ค. 56





    “มึงมันไอ้โจรนักต้มตุ๋นนี่”

     

                ไอ้หน้าสวยบอกกับผมแบบนั้นแล้วก็กระชากตัวผมขึ้นมา นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรวะ?อยู่ๆก็มีคนทักว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋นสองคนแล้ว

     

    สองคน?.........หรือว่า?

     

    “เฮ้ย แกชื่ออะไร?”

     

    “มึงอย่าทำเป็นไม่รู้จักกู มึงรู้จักกูดี วันนี้กูเจอมึงกูจะลากตัวมึงไปให้เจ้าเมืองตัดสินประหารตัวมึง”

     

    “เฮ้ยยยยย เดี๊ยวดิ มึงเข้าใจผิดเว้ย ฉันไม่ได้เปนคนทำอะไร? มึงชื่อรุจใช่ไหม?” ลองทายดูว่าจะถูกไหม?

     

    “นั่นไงมึงรู้จักกูแล้วทำเป็นไม่รู้จัก ไอ้สัตว์กูอยากจะเอาดาบนี่แทงมึงให้ดับนัก” ปลายดาบแหลมจ่อมาที่ท้องเขาจนคนโดนจ่อต้องแขม่วหน้าท้องเกร็งเพราะกลัวโดน

     

    “คือ กูจะบอกยังไงมึงดีเนี่ย มึงเข้าใจผิด” ตกใจก็ตกใจ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงวะ?สลับเวลากับไอ้ผีที่เข้าไอ้ริทแน่ๆเลย

     

    “นั่น แหวนกู มึงเอาแหวนกูไปทำไม? แล้วน้ำอินทร์เมียกูมึงเอาไปไว้ไหน?”

     

    “น้ำอินทร์...ชื่อเดียวกับคู่หมั้นกูเลยว่ะ”

     

    รุจเอาดาบจ่อคอคนปากพล่อย

     

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยอย่าเล่นงี้ดิวะ ปาดคอขึ้นมาจริงๆตำรวจจับมึงแน่”

     

    “มึงเอาน้ำอินทร์ไปไว้ไหน?” รุจถามกร้าว

     

    “กูไม่ได้เอาไป”

     

    “มึงอย่ามาโกหก กูเห็นว่ามึงไปกับน้ำอินทร์”

     

    ผัวะ!!!!!!!! โตโน่ชกเต็มแรง

     

    “หัดสงบบ้างซิวะ กุบอกกุไม่ได้เอาไปก็ไม่ได้เอาไปดิ ไอ้เชี่ย กุจะกลับยุคเดิมของกูยังไงวะเนี่ย?”

     

                ร่างสูงโปร่งที่โดนชกจนล้ม ยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากตัวเอง ไอ้โจรนักต้มตุ๋นนี่บังอาจชกหน้าเขา กล้าที่จะทำร้ายทหารอย่างเขา

     

    เฟี๊ยบ!!!!!!!!!

     

    “โอ๊ยยยยยย ไอ้บ้านี่มันเจ็บนะเว้ย” โตโน่โวยทันทีที่อีกคนฟาดดาบโดนเขาอย่างเฉี่ยวๆ  ตาตี่มองแขนตัวเองที่มีเลือดออก

     

    “มึงจะไปไหน? กูจะให้มึงกลับไปรับโทษกับกู”

     

    “ใครจะไปกับมึง กูจะกลับบ้าน”

     

    “กูจะทำให้มึงง้างปากออกมาให้ได้ว่าเอาน้ำอินทร์ไปซ่อนไว้ไหน?” กระชากร่างโปร่งเข้ามาหาตัวเองอย่างแรง มือใหญ่กำรอบแขนที่รอยบาดแผลของอีกคน

     

                โตโน่พยายามดันร่างไอ้บ้าไร้สติให้พ้นตัว โดยเฉพาะมือใหญ่ที่จิกเข้าไปในแผลเขาอย่างจงใจพยายามแกะบิดมันแต่ยิ่งเขาทำมันยิ่งเพิ่มแรงกดทำให้เลือดไหลมากขึ้นกว่าเดิม

     

    “โจรอย่างมึงเจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก แผลเล็กๆนี่มันไม่ได้แค่เสี้ยวหนึ่งแผลใจกูที่มึงเป็นคนก่อไว้เลย”

     

    “ไอ้เวรนี่ กูเจ็บ กูบอกว่ากูไม่รู้จักมึง ไม่รู้จักเมียมึงโง่ อึก หรือเปล่าเนี่ย?”

     

    “ไอ้ปลิ้นปล้อน”

    .

    .

     

    “โอ๊ยยยยยยยยเจ็บๆๆๆ มึงจะลากกูไปไหนเนี่ย?”โตโน่บอกไอ้แรงควายนี่ที่กำลังลากเขา ตัวมันก็สูงกว่าเขาไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมแรงมันอย่างกับวัวกับควายแบบนี้เนี่ย ไอ้แรงนี่ไม่เท่าไหร่สมองนี่ยังหนาอีก

     

    แกร๊งงงงงง!

     

    “เฮ้ยยยยย อย่าบอกนะว่ามึงจะล่ามกู กูไม่ใช่สัตว์นะเว้ย” โตโน่รีบว๊ากเมื่อเห็นไอ้สมองทึ่มแรงควายนี่กำลังใช้โซ่ล่ามขาเขาไว้

     

    “เศษสวะอย่างมึงอยู่โรงเลี้ยงสัตว์แบบนี้แหละดีแล้ว”

     

    “มึงน่ะสิ ไอ้สมองนิ่ม สมองทึบๆเกินกว่าจะเป็นคน”

     

    “ปากดีนะนัก กูจะขังมึงไว้ในนี้ไม่ให้ข้าวให้น้ำมึงกินดูซิปากมึงจะแข็งถึงไหน?”

     

    “เฮ้ยยย กูบอกว่ากู........”

     

                รุจปิดประตูโรงเลี้ยง เสียงโครมครามยังคงดังอยู่ข้างใน ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนหยิบแหวนของตัวเองออกมาจากกระเป๋าแล้วสวมกลับเช่นเคย

     

    “แหวนคู่นี่ทำมาจากเหล็กไหลผสมเงิน ผ่านพิธีกรรมมาเรียบร้อยแล้ว แหวนสองวงนี้มันจะอยู่คู่กันไปตลอด แม้เจ้าของที่สวมมันจะห่างไกลกันมันก็จะนำพาคนทั้งคู่มาอยู่ด้วยกันเช่นเดิม”

     

    คำของพระอาจารย์ที่มอบแหวนให้เขาตอนแต่งงาน แหวนของเขากับน้ำอินทร์..

     

    .......แต่ทำไมไอ้ต้มตุ๋นนั่นถึงมีแหวนเขาได้ ทั้งๆที่เขาทิ้งมันไปแล้ว

    …….ทำไมแหวนของเขาถึงนำตัวมันกลับมาให้เขาแทนที่จะเป็นน้ำอินทร์

    .........ทำไม?

     

     

    .........................................................................................

     

    “เหวออออออออออออออออออ”

     

    “เป็นอะไรครับริท?” คนผิวเข้มรีบวิ่งมาตามเสียงของคนรักที่ไม่ใช่คนรักของเขา(เอ๊ะ ชักงง)

     

    “ไอ้กล่องนี่ทำไมมันมีคนเข้าไปอยู่ได้ยังไง?” ชี้ไปที่โทรทัศน์

     

    “นั่นคือโทรทัศน์ เป็นเหมือน เอ่อ เครื่องกระจายข่าวสาร หรือเครื่องบันเทิงแบบพวก เอ่อ แบบหนังตะลุงไง? แต่มันเป็นเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สมัยก่อนคงไม่มี”

     

    “เล่นละครกันครับ เรื่องนี้เป็นละครรีเมคถูกทำหลายรอบแล้วครับ” คนผิวเข้มนั่งอธิบายคนตัวเล็กข้างๆเตียง คนหน้าหวานดูยังตื่นเต้นกับไอ้รีโมทที่สามารถกดเปลี่ยนกล่องสี่เหลี่ยมที่เรียกว่าโทรทัศน์

     

    “ดูนี่สิ อย่างกับข้ามีเวทมนต์” แม้จะไม่ได้ใช้คำว่า กู มึง เช่นเดิมแล้ว แต่ในความรู้สึกเขาก็ยังขัดหูอยู่ดี

     

    “ไอ้นั่นเขาเรียกรีโมท เอาไว้เปลี่ยนช่อง พอได้แล้วครับนอนได้แล้ว” กันหยิบรีโมทมาจากมืออีกคนแล้วกดปิด คนตัวเล็กทำหน้าขัดใจ และเสียงฮึดฮัดในลำคอ

     

    โครมมมมมมมม!!!!!!!

     

    “โอ๊ยยยยเจ็บนะครับริท” กันร้องเสียงดัง เมื่ออยู่ๆเขาที่กำลังจะขึ้นไปนั่งบนเตียงโดนร่างเล็กถีบลงมานอนกองข้างล่าง

     

    “ไพร่อย่างเอ็งอย่าสะเออะมาร่วมนอนเคียงข้างข้า ยังไงเอ็งก็มีใบหน้าของไอ้ฆาตรกรนั่นข้าเกลียดเอ็ง”

     

    “อ้าว แล้วจะให้กันไปนอนไหนล่ะครับ บังกะโลมีอยู่ห้องเดียว”

     

    “แล้วแต่เอ็งเลย ข้าจะนอนแล้ว ถ้าข้าเห็นเจ้าย่างกรายขึ้นมานอนบนนี้หรือในห้องนี้ข้าจะฆ่าเอ็งแน่คอยดู” จากแค่บนเตียงโดนยึดอาณาเขตเป็นทั้งห้องไปซะแล้ว -*- 

     

    ร่างหนามองคนที่นอนบนเตียง ถึงแม้ข้างในจะไม่ใช่ริท แต่ยังไงคนๆนี้ก็คือริท ไม่มีทางที่เขาจะว่าหรือทำร้ายคนรักเขาได้หรอก

     

    “งั้นฝันดีนะครับ”

     

     

    .........................................................................................................

     

    “ง่วงนอนแล้วอ่ะ” กันมองคนที่นั่งหาวหวอดๆ ไอ้เตี้ยนี่มันจะบ่นอีกนานไหมนี่ วันนี้ทั้งวันเขาฟังมันบ่นมาตลอด

     

    “อ้าวทำไมกางมุ้งเดียวล่ะ?” ริทมองมุ้งสีขาวที่ถูกกางขึ้น แต่ไม่สนใจรีบคลานเข่ามุดเข้าไปในมุ้งทันที

     

    “เฮ้ย กูไม่ได้กางให้มึงนอน ออกไป!มึงเป็นตัวประกันเด๋วกูจะผูกมึงเอาไว้ป้องกันมึงหนี”

     

    “ม่ายเอาจะนอนนี่ นอนข้างนอกก็โดนยุงกัดดิ ไม่ต้องผูกไม่หนีหรอก” ริทพยายามเกาะเสื่อเอาไว้เพราะโดนไอ้คนผิวเข้มนี่ดึงลากขาให้เขาออกจากที่นอนแสนสบาย(ที่นี่)

     

    “ถึงไม่มัดกูก็ไม่ให้นอน จะนอนด้วยกันได้ยังไง?” คนผิวเข้มเริ่มหงุดหงิด

     

    “ถ้านายไม่เข้ามาข้างใน งั้นนายก็นอนข้างนอกไป ฉันจะนอนในนี้” ร่างเล็กยื่นคำขาด คนผิวเข้มมองหน้าคนหาเรื่อง

     

    “ออกมานี่เลย ยังไงก็ไม่ให้นอน” ใช้แรงกระชากครั้งสุดท้ายกระชากขาคนตัวเล็ก ร่างกำยำกว่าจับข้อเท้าอีกคนแน่นแล้วลากออกมาจากที่นอนของเขา

     

    “ไอ้กัน ไอ้บ้า ริทจะนอนนี่” ขาเล็กที่ถูกดึงยกเท้ายึกยักจะถีบคนที่จับเขา

     

    “อย่ามาเรียกชื่อข้าห้วนๆ แม่งตบคว่ำ” ง้างมือจะทำท่าตบ คนตัวเล็กเชิดหน้าขึ้นไม่มีท่าทางกลัวแม้แต่น้อย

     

    “นอนข้างนอกนี่แหละ ให้ยุงมันดูเลือดชั่วๆของมึงออกซะบ้าง”

     

    “ไม่เอา ไอ้บ้าๆๆๆ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ลูกเจ้าเมือง อื้มมมมมม”

     

    “ปากนี่ กูฟังมามาทั้งวันแล้ว หุบปากซะที” เอาผ้าปิดปากร่างเล็กคนโดนปิดดิ้นขลุกขลักๆ

     

                ริทมองคนใจร้ายที่หน้าตาเหมือนแฟนตัวเอง ไอ้ดำนี่มันจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ

     

    คนตัวเล็กมองหน้าคนผิวเข้มแล้วทำตาตก บีบน้ำตาเล็กน้อย คนมองสะอึก

     

    “เป็นอะไรไปอีกล่ะ ไหนมึงเป็นอะไรหรือร้องไห้คิดถึงแม่มึงในนรก” คนผิวเข้มแก้มัดที่ปาก

     

    ทันทีที่แก้ออก ร่างเล็กก็ทิ้งตัวกระโดดงับหูไอ้คนที่จับเขามัด

     

    “โอ๊ยยยยยยยยยยยเจ็บบบบบบบบบบ” ผลักหัวทุยที่กัดหูตัวเอง ตาคมจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง มือใหญ่บีบคอเล็กแน่น

     

    “กูจะทำยังไงกับมึงดีเนี่ย?”

     

    “ไม่ต้องทำยังไง? แก้มัดและให้ฉันนอนในมุ้งด้วยกับนาย ฉันจะไม่ดื้อ ไม่ทำร้ายนายอีก”

     

    “ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นตัวประกัน กูอยากจะฆ่ามึงยิ่งนัก”

     

    “ก่อนจะฆ่าให้นอนก่อนได้ไหม ง่วงแล้ว” คนหน้าหวานพูดเสียงเรียบ

     

                กันถอนหายใจ มือใหญ่ลูบหูตัวเองป้อยๆ นี่ทำไมเขาต้องมายอมไอ้ตัวเล็กนี่ด้วย ที่จริงแค่เขาฆ่ามันทิ้งก็น่าจะพอแล้ว

     

     

    “เจ็บไหมที่หูอ่ะ ดูหน่อยสิเมื่อกี้แค่โมโหไปหน่อย” คนที่เข้ามานั่งในมุ้งก่อนหันไปถามคนที่กำลังคลานเข้ามุ้งตามมา

     

    “อย่ามายุ่งกับกู กูเอาคืนมึงแน่” ร่างเล็กถอนหายใจเบื่อคนดื้อ จนต้องดึงแขนอีกคนให้ล้มลงมาทางเขา

     

    “มึงจะทำไรอีกเนี่ย?” คนที่อยู่ๆโดนดึงจนล้มมานอนหนุนตักอีกฝ่ายยื้อตัวลุกขึ้น แต่โดนคนที่เรียกตัวเองว่าหมอกดหัวเอาไว้

     

    “อยู่นิ่งๆดิ เด๋วกัดอีกรอบซะดีมะ?”

     

    กันฟังคำขู่อีกคน เขาไม่ได้กลัวว่าจะโดนกัดหรอกนะ แต่เพราะรำคาญเลยยอมๆมันไปไม่งั้นเขาจะไม่ได้นอน

     

    “หูไม่ขาด เป็นแค่รอยๆเด๋วก็หาย..เด๋วริทเป่าเพี้ยงให้นะ....โอมมมมมมมม เพี้ยงจงหายนะ”คนฟังอมยิ้มขัน

     

    “นั่นมันการรักษาของหมอตำราไหนกัน”

     

    “หมอริทนี่แหละ เอาล่ะ หายแล้ว ไม่เจ็บแล้วเนอะ”

     

    คนผิวเข้มลูบหูตัวเอง มันก็ไม่ค่อยเจ็บเหมือนที่มันว่า

     

    “เอาล่ะนอนกันได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าใช่ไหม? แล้วเราจะไปหาของป่ากันไหม? หรือยังไงอ่ะ ฉันตื่นเต้น”

     

    “ง่วงจะนอน”

     

    “นี่ๆนอนหลับแล้วเหรอ ที่นี่มืดน่ากลัวอ่ะ เปิดไฟหน่อยได้ไหม?”

     

    “รำคาญ บอกว่าจะนอน” คนผิวเข้มหันมาตวาด

     

    “แค่นี้ก็ทำเป็นดุ ระวังโกรธมากๆเส้นเลือดในสมองแตกแล้วจะหาว่าหมอไม่เตือน ชิ”

     

    “ถ้าเจ้าไม่หุบปากข้าจะเอาผ้ามามัดปากเจ้า”

     

    “เออนอนก็ได้”





    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    บางทีฮาชื่อตอนตัวเอง สาเหตุที่เขาต้องตั้งชื่อตอนเพราะเอาจริงๆเขาจำไม่ได้เวลากลับมาแก้เนื้อเรื่อง5555555555+


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×