ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC} Crazy Story Chankai EXO

    ลำดับตอนที่ #131 : :ม่านมายา : 4 Chanyeol x Kai x Suho

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 481
      2
      5 ต.ค. 58

    : ม่านมายา : 4

     

     

              จงอินยังคงตั้งใจฝึกซ้อมเต้นหนักขึ้นกว่าเดิม เรียนรู้เทคนิคการเต้น การร้องจากครูๆผู้ฝึกสอนที่ต่างสอนเทคนิคต่างๆอย่างหมดเปลือกไม่มีกั๊กวิชาให้กับเด็กๆที่ต่างมีความฝันของตัวเอง ถึงแม้จะมีเด็กหลายๆคนไม่ได้เดบิวต์กับค่ายก็ตาม แต่ครูฝึกสอนก็อยากให้เด็กมีความรู้ความสามารถติดตัวไปด้วย นำความรู้ที่ได้เรียนมาไปต่อยอดกับตัวเองในภายภาคหน้า

                    พอใกล้วันประเมินทักษะความสามารถ ศักยภาพของเด็กเทรนทุกคนที่ได้เข้ามาเทรนกับค่าย ที่ทุกคนต้องผ่านการประเมินนี้ถ้าใครไม่ผ่านก็ต้องรอประเมินในครั้งต่อไปและไม่มีสิทธิ์จะเลื่อนขั้นระดับมาตรฐานของเด็กเทรนที่จะสามารถเข้าคัดเลือกการเดบิวต์ ถือว่าการประเมินนี้เป็นการประเมินสำคัญของเด็กเทรนทุกคน

                    ตลอดระยะเวลาหกเดือนที่จงอินได้เข้ามาเป็นเทรนนี่ของค่าย ได้เรียนรู้ทักษะในด้านต่างๆไม่ว่าการร้อง การเต้น การแสดงที่จงอินสามารถทำมันได้ดี ฝีมือพัฒนามากขึ้นจนได้คำชมจากครูฝึกสอน แต่จงอินกลับไม่เหลิงกับคำชมนั้น แต่กลับเอาคำชมนั้นเป็นแรงผลักดันให้เขาตั้งใจซ้อมให้มันดีที่สุด

    ตรงไหนดีจงอินก็จะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ตรงไหนที่ถูกติไม่ดีจงอินก็จะนำไปปรับแก้ไข้ทำให้มันดียิ่งขึ้น ตั้งใจฝึกซ้อมทุกๆวัน ซ้อมจนดึกเพื่อให้ทุกอย่างออกมาอย่างเพอเฟอร์โดยไม่มีติ

                    และจงอินก็เป็นอยู่แบบนี้ทุกวันที่จะอยู่ซ้อมจนดึกจะกลับที่หลังเพื่อน ยิ่งใกล้วันประเมินเข้ามาจงอินก็ยิ่งซ้อมหนักทุกคืนเพื่อให้การประเมินใน ครั้งนี้ถึงแม้จะรู้ว่าท่านประธานปาร์ค ผู้บริหารคิมสามารถทำให้เขาผ่านการประเมินครั้งก็ตาม แต่จงอินไม่อยากใช้อำนาจของผู้บริหารทั้งสอง อยากให้ทุกคนเห็นว่าเขาก็มีความสามารถมากพอที่จะผ่านการประเมินจากคณะกรรมการฝ่ายประเมินทุกคน เขาจะผ่านการประเมินนี้ด้วยฝีมือของตัวเองโดยไม่ต้องใช้อำนาจของท่านประธาน

                    ตื้ดดึ้ง

                    เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นจงอินหยุดซ้อมและเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่กับพื้นขึ้นมาเปิดอ่านข้อความไลน์พอเห็นข้อความจงอินถึงกับพรั่งพรูลมหายใจ

                    เลิกซ้อมแล้วรีบกลับหอเดี๋ยวนี้

                    จงอินถอนหายใจก่อนจะเดินไปปิดเพลง เก็บของเตรียมกลับหอตามคำสั่งของท่านประธานชานยอลที่ได้ส่งข้อความมาตามให้เลิกซ้อมและรีบกลับหอเดี๋ยวนี้

                    จงอินเดินสะพายกระเป๋าออกมาจากตึก สองขาก้าวเดินมาตามที่มีแต่ความเงียบสองข้างทางมีแสงไฟส่องให้ความสว่างในยามค่ำคืน จงอินชอบที่จะเดินกลับเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองได้มีเวลาทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากขึ้น ความเงียบสงบในเวลาค่ำคืน อากาศเย็นสบายของค่ำคืนนั้นทำให้จงอินได้ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากตัว

                    จงอินเดินมาเรื่อยๆที่รู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศในยามค่ำคืนและรอยยิ้มบางๆยิ้มออกมาเมื่อเห็นรถเก๋งคันหรูจอดรออยู่ข้างริมฟุตบาทเพื่อมารอรับเขากลับหอม มันจะเป็นแบบนี้ทุกคืนที่ชานยอลและจุนมยอนจะมาจอดรถรอรับเขากลับหอด้วยกันและจะอยู่ด้วยกันยันเช้า

                    จงอินกระชับกระเป๋าเป้รีบสาวเท้าเดินมาขึ้นรถที่มีอีกสองคนรอเขาอยู่ในรถ พอขึ้นรถได้เท่านั้นจงอินก็ล้มตัวนอนหนุนตักชานยอลที่นั่งอยู่อีกริมฝั่ง ชานยอล จุนมยอนมองจงอินด้วยรอยยิ้มเอ็ดดูกับความน่ารัก ขี้อ้อนของจงอินถึงไม่ได้ทำอะไรมากแต่สำหรับชานยอล จุนมยอนมันดูน่ารัก ขี้อ้อนในสายตาไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำปั้นแต่งขึ้นมาให้พวกเขานั่นรัก แต่งจงอินเป็นตัวของตัวเองเป็นอย่างที่ตัวเองเป็นก็ทำให้เขาสองคนนั้นรักได้เต็มเป้า

                    และจงอินก็เปิดใจรับพวกเขาสองคนมากขึ้น ถึงแม้แรกๆจงอินไร้รอยยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความหมองเศร้า เจ็บปวด แต่ตอนนี้ความเศร้าเจ็บปวดนั้นกลับละลายหายไปพร้อมกับความแข็งกระด้างหยาบคายหยาบเถื่อนเอาแต่ใจของชานยอลและจุนมยอน ไม่แค่นั้นชานยอลและจุนมยอนที่ไม่เคยรักใครไม่เคยเปิดใจรับใครเข้ามาแต่เขาสองคนกลับเปิดใจให้กับจงอิน มอบหัวใจให้กับจงอินมอบความรักให้กับเด็กอายุสิบหกอย่างคิมจงอิน

                    ความจริงใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ความดีในตัวของจงอินที่สามารถเอาชนะใจ เอาชนะอคติของชานยอลและจุนมยอนให้ออกไปจากใจได้ และสิ่งที่จงอินได้รับกลับคืนมาก็คือความรักที่แท้จริงจากผู้ชายทั้งสอง

                    ถึงมันจะดูผิดแปลกจากสังคม แต่สำหรับความรักของพวกเราสามคนไม่มีคำว่าผิดไม่มีคำว่าแปลกก็ในเมื่อพวกเราสามคนรักกันด้วยใจ ถึงแม้ว่าจุดเริ่มต้นมันเริ่มต้นด้วยความเจ็บ น้ำตาก็ตาม แต่นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดความรักของพวกเขาตามมา

                    เริ่มต้นด้วยความเจ็บแต่ก็ลงเอยด้วยความรัก.............

                    “เตือนก็ไม่ยอมฟังบอกไม่ให้ซ้อมหักโหมจนดึกขนาดนี้” ชานยอลบ่นอย่างเป็นห่วงฝ่ามือใหญ่นั้นลูบผมจงอินอย่างเบามือ

                    “ก็อีกสองวันจะถึงวันประเมินแล้วนี้ครับ ผมอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดให้สมกับที่คุณสองคนให้โอกาสเด็กอย่างผม “ น้ำเสียงสบายๆไม่ได้ดูอึดอัด ลำบากใจเหมือนในช่วงแรก          ที่ต้องมาสนองตัณหากามาให้กับผู้บริหารทั้งสอง

                    “ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลยในเมื่อนายเป็นถึงเมียของท่านประธานบริษัทอย่างฉันๆจะไม่ให้นายผ่านการประเมินได้อย่างไงกัน”จงอินลุกพรึ่บขึ้นด้วยสีหน้างอบ่งบอกไม่ชอบใจ

                    “แต่เราตกลงกันแล้วนี่ครับว่าการประเมินครั้งนี้จะไม่ใช่อำนาจของคุณสองคน ผมจะใช้ความสามารถของผมเองให้กรรมการเป็นคนตัดสิน”

                    “ฉันรู้แล้ว แต่แค่ฉันเป็นห่วงนายที่จะต้องมาเห็นนายอยู่ซ้อมดึกจนทุกวัน นายหักโหมซ้อมจนไม่ดูแลตัวเองจนฉันกลัวว่านายจะบาดเจ็บเอาสักก่อนที่จะถึงวันประเมิน” ทุกสิ่งทุกอย่างที่บ่นที่พูดออกไปก็เพราะความเป็นห่วงจงอินทั้งหมด

                    “ฉันสองคนเป็นห่วงนายมาก ไม่อยากจะต้องเห็นนายเจ็บเพราะการซ้อมหนักของนาย ถ้านายบาดเจ็บขึ้นมานายก็จะหมดโอกาสที่จะเข้าประเมินในครั้งนี้” จุนมยอนช่วยพูดเสริมให้จงอินเข้าใจในความหวังดีของพวกเขาสองคน จงอินถึงกับหน้าหงอยลงเพราะทุกอย่างที่จุนมยอนพูดออกมานั้นมันถูกทั้งหมดและจุนมยอนที่ตลอดมาคอยจะให้ท้าย ใจดี ไม่ค่อยดุ ตามใจเขาทุกอย่างนั้นแต่วันนี้กลับไม่ตามใจและยังดุบ่นเขาอีก

                    “ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณสองคนต้องเป็นห่วงผม ต่อไปผมจะไม่ซ้อมจนดึกอีกแล้ว” ชานยอล จุนมยอนต่างยิ้มให้กับจงอินที่จงอินนั้นเชื่อฟังเขา ยอมรับว่าตัวเองก็ทำผิดเหมือนกันไม่ดื้อรั้นเอาชนะ

                    พอกลับมาถึงหอชานยอล จุนมยอนก็จัดการอาบน้ำให้กับจงอิน ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งชานยอลและจุนมยอนนั้นต่างไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับจงอินด้วยกันทั้งคู่ ทั้งชานยอลและจุนมยอนไม่อยากให้จงอินต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้อยากให้จงอินได้พักผ่อนบ้างหลังจากเลิกซ้อม และเขาทั้งสองก็ไม่ต้องการเป็นคนทำให้จงอินไม่ผ่านการประเมินในครั้งนี้ การประเมินที่มีความสำคัญกับเด็กเทรนทุกคนที่ได้ผ่านเข้ามาเทรนได้ฝึกทักษะในด้านๆต่างของการเป็นไอดอลของวงการ ถ้าเด็กเทรนคนไหนไม่ผ่านการประเมินโอกาสที่จะได้เดบิวต์ก็น้อยลง เพราะถือว่าเด็กคนนี้ยังไม่มีคุณภาพมากพอที่จะได้เดบิวต์ แต่ถ้าใครผ่านการประเมินมาได้โอกาสจะได้เดบิวต์แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เด็กเทรนกลุ่มนี้จะถูกจับตาดูจากนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ทีมงานด้านต่างๆและผู้ถือหุ้นของบริษัทที่จะเข้ามาคัดเลือกเด็กเทรนกลุ่มนี้เข้าไปเดบิตว์

                    ชานยอล จุนมยอนจึงไม่อยากเป็นคนตัดโอกาสของจงอินด้วยมือของตัวเอง ถึงแม้เขาสองคนจะมีอำนาจให้จงอินผ่านการประเมินได้เด บิวต์ก็ตาม แต่จงอินกลับขอไม่ให้ชานยอลและจุนมยอนใช้อำนาจการเป็นผู้บริหารทำให้เขาผ่านการประเมิน จงอินนั้นต้องการจะแสดงความสามารถของตัวเองให้กรรมการได้เห็น ให้ผ่านการประเมินในครั้งนี้ด้วยความสามารถ

                    ในเมื่อจงอินได้ขอมีหรือที่ชานยอลและจุนมยอนจะไม่ทำตาม ไม่ตามใจจงอิน เขารู้สึกประทับใจจงอินเสียอีกกับการเลือกที่จะทำด้วยตัวเอง ไม่คิดจะพึ่งหวังใครเหมือนกับเด็กคนอื่นที่พอถึงวันประเมินก็มักจะเข้ามาเสนอตัวให้กับเขาสองคนเพื่อที่จะให้ผ่านการประเมิน แต่จงอินกับแตกต่างกับเด็กพวกนั้นที่มีอำนาจอยู่ในมือแท้ๆแต่กลับไม่ใช้

                    สิ่งนี้ซินะที่ทำให้ชานยอลและจุนมยอนถึงได้หลงรักเด็กคนนี้ได้มากมาย......

                    เมื่อสัญญากับจงอินไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้ จะไม่มีสัมพันธ์รักทางกายด้วยกันจนกว่าถึงวันประเมิน ชานยอล จุนมยอนก็ต่างทำตามสัญญาที่ให้ไว้และในตอนนี้เขาทั้งสองก็ต่างทำได้เพียงอาบน้ำกับจงอิน และอย่างมากสุดก็แค่กอด แค่จูบไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

                    ได้นิดๆหน่อยๆก็ยังดีให้กระชุ่มกระชวยหัวใจของคนแก่บ้างดีกว่าไม่ได้อะไรเสียเลย....

                    ร่างเปลือยเปล่าของคนสามคนที่อยู่ใต้ฝักบัวมีสายน้ำไหลลงมากระผิวกายให้ความเย็นสดชื่นแต่ทั้งสามกลับไม่ได้เย็นสดชื่นอย่างสายน้ำเลย มีแต่ความร้อนที่ร้อนระอุในกายกับสัมผัสอันร้อนแรงของกามาที่ทางปรนเปรอสรรสร้างให้กันอย่างโหยหา

                    “ผมให้ได้แค่ข้างนอกนะครับ” เสียงแหบพร่ากระเส่าของจงอินเอ่ยบอกที่ร่างกายกำลังถูกสรรสร้างความสุขทางกามาจากสามีทั้งสอง

                    “ฉันสองคนรู้แล้วนะ ฉันไม่ผิดสัญญาที่ให้กับนายไว้”ชานยอลเอ่ยบอกที่ใบหน้าคมนั้นเคลื่อนมาใกล้และกดจูบบนกลีบปากอวบอิ่มอย่างโหยหา หื่นกระหายที่เต็มไปด้วยความต้องการที่พลุกพล่านที่อยากจะกลืนกินร่างตรงหน้าเข้าไปทั้งตัว

                    ถึงแม้จะเป็นแค่จูบ แค่กอด แค่ได้เชยชิมความหอมหวานจากผิวสีน้ำผิวด้านนอกก็ตามแต่แค่ให้เป็นแค่ร่างกายของจงอินมันก็ปลุกเร้าอารมณ์ดิบ กระตุ้นความต้องการทางเพศของชานยอลและจุนมยอนให้ลุกโชขึ้นมาได้

                    จูบเร้าร้อนรุนแรงที่ต่างตอบรับตอบสนองแลกเปลี่ยนกันอย่างดุเดือดกับอารมณ์ที่เริ่มจะฉุดรั้งเอาไว้ไม่อยู่ แค่จูบก็ทำให้ชานยอลต้องการมากขึ้น ไม่ใช่แค่ชานยอลที่ต้องการจงอินก็ต้องการมันเหมือนกัน....

                    จงอินยังมัวเมาหลงใหลอยู่กับความรักความสุขที่ผู้บริหารทั้งสองต่างสรรสร้างมอบให้ตัวเองในตอนนี้ ความสุขที่จงอินไม่สามารถบรรยายออกมาได้ว่ามันมีความสุขมากแค่ไหน จงอินรับรู้ได้ว่าความสุขทางกายที่ชานยอลและจุนมยอนต่างปรนเปรอมอบให้นั้นทำให่เด็กอย่างเขาหลายเครียด หายเหนื่อยล้าจากการซ้อมได้มาก

                    ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมหายเหนื่อยเป็นปริบทิ้งได้เท่ากับการได้เริงรักมีสัมพันธ์รักกับสามีทั้งสองของผมได้อีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้มันทำให้ผมหายเหนื่อยเป็นปริบทิ้ง คงไม่มีใครทำให้ผมหายเหนื่อยได้เหมือนกับคุณชานยอลและคุณจุนมยอนได้อีกแล้ว...

                    ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะมีวันนี้ วันที่ผมจะรักผู้ชายสองคนไปพร้อมกัน วันที่ผู้ชายใจร้ายสองคนจะมอบหัวใจและความรักให้กับเด็กอย่างผม ทั้งที่ความสัมพันธ์ของเราสามคนตั้งแต่วันแรกนั้นมีแต่ความเจ็บ มีแต่ผลประโยชน์ต่อกันเท่านั้น มันไม่ได้มาจากความรักของพวกเราเลย แต่วันนี้กลับไม่คิดเลยว่าความสัมพันธ์แค่ชั่วข้ามคืนความสัมพันธ์ที่มีแต่ผลประโยชน์จะทำให้พวกเราสามคนมารักกันได้

                    ถึงแม้ว่าคืนแรกของผมจะเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำ อดีตที่มีแต่ความเจ็บปวด แต่วันนี้ผมกับคิดว่าค่ำคืนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความรักของเราสามคน

                    “จงอิน.....”เสียงทุ้มต่ำครางกระเส่าเรียกชื่อของจงอิน จงอินนั้นต้องเอี่ยวหน้ามารับจูบจากจุนมยอนที่ยืนซ้อนโอบกอดจากด้านหลัง

                    ถึงแม้ว่าจะดูเหนื่อยกับการต้องปรนนิบัติปรนเปรอผู้ชายสองคนพร้อมกันก็ตาม แต่สำหรับผมมันไม่เหนื่อยเลย ผมกลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้ปรนนิบัติดูแลสามีทั้งสองของผมและได้รับความรักจากสามีทั้งสองของผมที่ต่างก็ทำให้ผมหายเหนื่อยหายเครียดได้เหมือนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำให้กันมันมีความสุขอยู่ในตัวของมันแล้วเหมือนกับผมและสามีทั้งสองของผม..

                    ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องยากก็ตามที่เราจะรักผู้ชายที่เดียวพร้อมกันสองคน แต่สำหรับเด็กอย่างผมมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ในเมื่อผมมั่นใจในตัวผมว่าผมรักคุณชานยอล คุณจุนมยอนไม่ต่างกัน ผู้ชายสองคนนี้ที่ผมเลือกทิ้งใครไม่ได้สักคน ผมไม่สามารถจะเสียใครไปสักคนได้ในเมื่อผมทั้งหัวใจและร่างกายของผมต้องการแค่คุณชานยอลและคุณจุนมยอน

                    ผมยอมถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ชายสองใจ มักมาก แต่ผมจะไม่ยอมเสียผู้ชายสองคนนี้ไปสักคน......

     

     

     

     

     

     

                    วันประเมินทักษะ ศักยภาพของเด็กเทรนได้มาถึง วันนี้ทีมงานพนักงานทุกฝ่ายตั้งแต่ฝ่ายคัดเลือกศิลปิน ฝ่ายทำเพลง ฝ่ายออกแบบท่าเต้น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายโปรโมตต่างๆที่เข้าร่วมประเมินเด็กเทรนทุกครั้งที่มีการประเมิน ในนี้ยังมีจุนมยอนที่ได้เป็นหนึ่งกรรมการของการประเมินในฐานะผู้บริหารฝ่ายคัดเลือกศิลปิน ส่วนท่านประธานชานยอลได้เข้ามาแค่สังเกตุการณ์ในการประเมินในฐานะผู้บริหารบริษัท

                    เด็กเทรนแต่ละคนที่เข้าประเมินในครั้งนี้ต่างประหม่ารู้สึกกดดันกับการประเมินที่กลัวจะไม่ผ่านในการประเมินของผู้มีคุณวุฒิในด้านต่างๆ ทั้งร้องทั้งเต้นทั้งแสดงที่พวกเขาจะต้องทำมันให้ดีเพื่อให้ผ่านการประเมินมีโอกาสได้เดบิวต์เหมิอนกับรุ่นพี่

                    คนอื่นรู้สึกกดดันตัวเองแต่สำหรับจงอินปล่อยใจให้สบาย ไม่กดดันตัวเอง ไม่ให้ความกดดันนั้นมาทำให้ตัวเองพลาด มาทำให้เสียโอกาสที่จะเข้ามาในชีวิตของตัวเอง จงอินจะไม่ให้ความกดดันมาทำให้ความตั้งใจความฝันของเขานั้นพังลงได้

                    พอมาถึงคิวของจงอินนั้นจงอินก็ยืนทำสมาธิร่วมรวมสมาธิให้อยู่กับตัวเองก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้องอย่างมั่นใจไม่มีความกลัว ความกดดันอะไรทั้งนั้น พร้อมที่จะแสดงโชว์ความสามารถให้กรรมการได้เห็นว่าเขาก็มีความสามารถที่จะผ่านการประเมินและได้เดบิวต์ศิลปินเหมือนอย่างรุ่นพี่

                    ชานยอลที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งลอบอมยิ้มเมื่อเห็นจงอินยืนตรงหน้ากรรมการที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่มีความกลัวกังวล กดดันใดๆออกมาให้กรรมการได้เห็น นี่แหละเป็นสิ่งที่ดีที่มีอยู่ในตัวจงอินที่เด็กคนอื่นไม่มีเหมือนอย่างกับจงอิน

                    ชานยอล จุนมยอนภูมิใจในตัวจงอินกับความพยายาม ความมุ่งมั่น ความตั้งใจของจงอินทีจะพาตัวเองก้าวไปถึงจุดฝันของตัวเอง สิ่งนี้ที่จงอินมีจะทำให้จงอินได้มันมาด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งใคร

                    การแสดงของจงอินในด้านต่างๆของจงอินเป็นที่น่าสนใจของเหล่ากรรมการยิ่งในด้านการเต้นด้วยแล้วที่แสดงออกมาชัดเจน แสดงออกมาจากใจ สื่ออารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ดีที่ตรึงตาตรึงใจของกรรมการให้มองจงอินเป็นจุดเดียว การเต้นที่ทำให้ทุกคนในห้องทึ้งอึ้งในความสามารถของเด็กคนนี้ที่น้อยนักจะทำให้กรรมการสายแข็งนั้นประทับใจได้

                    การแสดงที่น่าประทับใจของจงอินนั้นทำให้จงอินผ่านการประเมินและคะแนนกการประเมินของจงอินก็มาเป็นอันดับหนึ่ง นั้นก็ทำให้จงอินดีใจและภูมิใจในตัวเองไม่น้อยที่สามารถผ่านการประเมินได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งอำนาจของท่านประธาน

                    “ก็แหงล่ะเด็กของท่านประธานใครจะไม่ให้ผ่านประเมินไปได้” คำพูดจาเหน็บแหนบดูถูกของเด็กเทรนด้วยกันที่ไม่ผ่านการประเมินว่าออกมา จงอินนั้นทำเป็นไม่สนใจไม่แค่ต่อคำดูถูกถางถากนั้นในเมื่อมันไม่เป็นความจริงแล้วเราจะไปสนใจในคำพูดพวกนั้นทำไม

                    “ไปได้ข่าวพวกนี้มาจากไหน!!!”เสียงแข็งกร้าวตวาดถามกับสายตาขุ่นขึงมองไปยังเด็กเทรนผู้หญิงที่พูดจากดูถูกจงอินอย่างไม่น่าให้อภัย “ฉันถามว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ!!!” เสียงแข็งกร้าวถามขึ้นด้วยความโทสะที่ทุกคนตรงนั้นต่างสะดุ้งตกใจกลัวกับอารมณ์ของท่านประธาน

                    “รุ่นพี่ซันอาค่ะ” เด็กคนนั้นดังกล่าวตอบเสียงเบาด้วยความกลัว

                    “เลขาฮันคุณโทรตามซันอาให้มาพบผมด่วน!

                    “ค่ะท่านประธาน”

                    “ผมขอบอกพวกคุณไว้ตรงนี้เลยว่าจงอินเป็นคนรักของผม ถ้าใครกล้ามายุ่งหรือแตะต้องจงอินก็อย่าหาว่าผมไม่เตือน!!” ทุกคนต่างส่งเสียงฮืฮฮาซุบซิบกันเมื่อรู้ความจริง “และสิ่งที่พวกคุณต้องรู้..จงอินไม่เคยได้ใช่อำนาจของผมให้ผ่านการประเมิน เด็กคนนี้ใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อให้ผ่านการประเมิน ถ้าพวกคุณไม่เชื่อก็ถามพวกกรรมการรได้” ชานยอลตวัดสายตาไปยังกรรมการที่ทุกคนต่างพยักหน้าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจงอินไม่ได้ใช้อำนาจของท่านประธาน

                    “แต่สำหรับเรื่องการเดบิวต์มันเป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของผม ผมจะเลือกให้จงอินเดบิวต์ก็เป็นเรื่องของผมไม่เกี่ยวกับพวกคุณ”ชานยอลกวาดสายตามองเด็กเทรนพนักงานในที่นี้ทุกคน “แล้วถ้าใครเอาเรื่องนี้ไปแพร่งพรายที่อื่นให้คนนอกรับรู้ พวกคุณคงจะรู้นะว่าจะพวกคุณจะโดนอะไรจากผม” น้ำเสียงกร้าวเอาจริงของท่านประธานนั้นทำให้ไม่มีใครกล้าจะมองหน้าท่านประธานสักคน

                    “จงอินไปกับฉัน!” ไม่ต้องรอให้จงอินตอบชานยอลก็ดึงข้อมือจงอินให้เดินตามมาที่มีจุนมยอนเดินตามหลังมาด้วยรอยยิ้มชอบใจที่เพื่อนของเขานั้นประกาศกร้าวปกป้องจงอิน

                    “ทำไมคุณถึงบอกไปแบบนั้นละครับ” จงอินถามขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องทำงานของท่านประธาน

                    “ทุกคนจะได้ไม่ต้องเอานายไปพูดเสียๆหายๆทั้งที่ไม่รู้ความจริงอะไรเลย” บอกอย่างหงุดหงิด

                    “ก็มันจริงนี่ครับที่ผมเข้ามาเป็นเด็กเทรนของที่นี้ได้ก็เพราะผมเอาตัวเข้าแลกยอมนอนกับคุณสองคน” จงอินไม่เคยจะลืมความเป็นจริงในข้อนี้ที่เขาเข้าที่นี้มาได้ก็เพราะยอมนอนกับท่านประธานและคำพูดของจงอินก็ทำให้ชานยอลและจุนมยอนรู้สึกผิดไม่น้อย

                    “ถึงฉันไม่ได้ไม่บังคับนาย นายก็ได้เข้ามาเป็นเด็กเทรนของฉันเหมือนกันไม่ใช่ว่านายไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย วันนี้นายก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่านายมีความสามารถมากแค่ไหน” จุนมยอนเอ่ยขึ้น จงอินนั้นยิ้มๆให้กับสามีทั้งสอง

                    “แต่ถ้าคุณสองคนไม่ยื่นเสนอมาให้กับคุณ ผมคงไม่ได้รักคุณไม่ได้เป็นภรรยาของคุณและคงไม่ได้มายืนถึงจุดนี้ได้” จงอินไม่ได้รู้สึกไม่ดี ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับคืนแรกของเขากับผู้บริหารทั้งสอง เพราะเรื่องท่าเกิดขึ้นวันนั้นมันทำให้เขาได้มากรักผู้ชายทั้งสองพร้อมกัน “เลิกคิดถึงเรื่องอดีตเถอะครับ ในเมื่อตอนนี้เราสามคนต่างก็มีความสุขกับสิ่งที่เราเลือก” ชานยอล จุนมยอนต่างยิ้มให้กันที่ทั้งสองต่างโอบกอดจงอินมอบความรักให้กับจงอินอย่างที่พวกเขาชอบทำกันเวลาอยู่ด้วยกัน

                    “คงมีความสุขมากซิค่ะกับเซ็กส์วิตถารของพวกคุณ” น้ำเสียงเหยียดของหญิงสาวเอ่ยขึ้นที่เข้ามาอย่างถือวิสาสะ

                    “เธอจะคิดอย่างไงก็เรื่องของเธอซํนอา เพราะพวกฉันไม่แคร์เรี่องนี้อยู่แล้ว” ว่าอย่างไม่หยี่ระ สายตาเย็นชามองหญิงสาวตรงหน้า

                    “แล้วถ้ามีข่าวออกไปว่าผู้บริหารค่ายเพลงยักษ์ใหญ่มีเซ็กส์กับเด็กเทรนของตัวเองยังจะแคร์อยู่ไหมค่ะ” บอกอย่างเป็นต่อด้วยรอยยิ้มร้าย

                    “ถ้าเธอกล้าเอาข่าวของฉันไปปล่อยก็ลองดูซิว่านักข่าว สังคมจะเชื่อใครมากกว่ากันระหว่างไอดอลโนเนมเพิ่งเดไม่ถึงปีกับผู้บริหารอย่างฉันที่มีคนนับหน้าถือตาเชื่อถือได้มากกว่าเธอ” ชานยอลพูดสบายๆไม่ได้กลัวกังวลกับคำขู่ของซันอาเลย “แค่ฉันปล่อยคลิปของเธอกับผู้ชายที่เธอคั่วยอมนอนด้วยเพื่อแลกกับการได้เดบิวต์ แค่นี้เธอก็ก็ถูกสังคมประณามลงโทษไปทั้งประเทศแล้วซันอา” ยกยิ้มร้ายอย่างผู้ชนะ

                    “นี่ท่านขู่ฉัน!” เสียงงเกรี้ยวกราดตวาดใส่ท่านประธาน

                    “ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉันทำจริงถ้าเธอยังคิดเล่นงานจงอินและเอาเรื่องของฉันไปนักข่าว เรื่องของเธอได้ว่อนเนตแน่ซันอา” ซันอาสายตาเกรี้ยวกราดมองชายหนุ่มทั้งสามอย่างเจ็บแค้นใจ “แล้วการที่ฉันเรียกเธอมาที่นี้ ฉันก็ต้องการบอกกับเธอว่า....ต่อไปนี้เธอถูกปลดออกจากเมมเบอร์วงพิงค์เกิร์ลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ใช่เมมเบอร์ของวงอีกต่อไป!!” น้ำเสีบงเต็มไปด้วยความเด็ดขาด

                    “ท่านจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ ฉันเป็นจุดขายของวง แฟนคลับของฉันจะไม่มีทางปล่อยให้ฉันออกจากวงได้ พวกเขาจะต้องลุกขึ้นมาโจมตีบริษัทและเมมเบอร์ที่เหลือ!

                    “ฉันเคยบอกเธอแล้ว ฉันทำให้เธอเกิดได้ฉันก็ทำให้เธอดับได้เหมือนกัน” ขานยอลกระตุกยิ้มหัวเราะในลำคอ “เลขาฮันเข้ามาหาผมหน่อย” ขานยอลกดสายเรียกเลขาฮันไม่ถึงนาทีเลขาฮันก็เดินเข้ามา

                    “มีอะไรค่ะท่านประธาน”

                    “ไปบอกฝ่ายพีอาร์ให้ปล่อยข่าวซันอาทะเลาะกับฮโยจูจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ให้เอาคลิปเอารูปลงไปด้วย” ซันอาถึงกับหน้าชาวาบ “แต่ข่าวนี้ต้องทำให้ฮโยจูเป็นฝ่ายถูกกระทำน่าสงสารที่สุด ให้แฟนคลับเห็นว่าฮโยจูไม่ผิดที่มีเรื่องกับพี่ในวง”

                    “ค่ะท่านประธาน”

                    “เพราะเธอรนหาที่เองไม่อยู่ในส่วนของเธอ ยังคิดมายุ่งมาทำร้ายคนรักของฉันอีกเธอก็ต้องโดนแบบนี้” เสียงเหี้ยมของชานยอลบอกออมาที่สายตาสมเพชจากมองหญิงอย่างสมเพชใจ ซันอานั้นเจ็บแค้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่ถูกเล่นงานไล่ออกจากวงเพราะเด็กเทรนอย่างคิมจงอิน

                    ฉันไม่มีทางปล่อยเด็กอย่างแกเอาไว้แน่คิมจงอิน!!

     

     

     

     

    Tak

                    ใกล้จบแล้วนะคะเรื่องนี้ตอนหน้าตอนจบกันแล้วนะคะ จะจบแบบไหนจบแบบเศร้าไหมต้องรอลุ้นในตอนหน้านะคะ

                    ไรต์ได้จองฟิคเรื่องนี้แล้วนะคะ อ่านรายละเอียดได้ในตอนจองฟิคม่านมายาเลยนะคะ #มายาชานไคโฮ

     

                รายละเอียดการจอง
                http://my.dek-d.com/takzi/story/viewlongc.php?id=1099261&chapter=129
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×