ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC} Crazy Story Chankai EXO

    ลำดับตอนที่ #25 : :THE LEGEND: CHANKAI 3

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 784
      0
      1 พ.ค. 57


     

    :The legend: 3 chankai

     

                ลิขิตสวรรค์ที่ถูกลิขิตเอาไว้แล้วก็ไม่มีใครฝืนลิขิตนั้นได้ ถึงต่อให้หนีไปให้ไกลมากแค่ไหน ต่อให้อยู่กันไกลมากแค่ไหนสุดท้ายสวรรค์ก็ให้คนทั้งสองมาบรรจบมาพบกันกับความเจ็บปวด ความพลั้งเผลอใจของคนทั้งสองที่เต็มใจเป็นของกันและกันด้วยคำว่ารัก สุดท้ายก็ต้องเจ็บปวดไม่ต่างด้วยกันกับคำว่ารัก

                    รักคำนี้ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างอาหลาน รักไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างองค์ชายผู้สูงศักดิ์ทั้งสอง

                    แค่ฐานันดรศักดิ์ก็ค้ำคอทั้งสองไม่ให้กันได้ แต่นี้กลับต้องมากับรักต้องห้ามของสายเลือดเดียวกัน ที่มิควรจะรักกัน แต่ถึงอย่างนั้นในเมื่อทำผิดลงไปแล้ว หัวใจของทั้งสองต่างมอบให้กันแล้ว ไม่มีอะไรที่จะห้ามความรักของคนทั้งสองได้ ถึงแม้รู้ว่าเจ็บก็ยอมเพื่อที่จะรักกัน

                    แค่คำว่ารักก็ทำให้องค์ชายน้อยยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อรักกับองค์รัรชทายาทที่มีศักดิ์เป็นอาแท้ๆของตน

                    “ท่านแม่ข้าไม่เข้าวังได้ไหม ข้าไม่อยากเข้าวัง ข้าอยากเป็นจงอินคนเดิม เป็นชาวบ้านธรรมดาที่สามารถรักท่านชานยอลได้”เสียงสั่นเครือเอ่ยขอผู้เป็นมารดาที่หลังจากรู้ความจริงยุนอาก็เชิญองค์ชายชานยอลเสด็จเข้ามาในบ้านที่มีจงอินเคียงข้าง

                    “จงอินเจ้าจะไม่เข้าวังไม่ได้ เสด็จพ่อของเจ้ารอเจ้ากับแม่ของเจ้าอยู่ ถ้าเจ้าไม่เข้าวังเสด็จพ่อของเจ้าจะเจ็บปวดเสียใจมากแค่ไหนที่โอรสในพระองค์ยอมกลับมาหา”องค์ชายชานยอลเอ่ยขึ้น ถึงไม่อยากให้จงอินเข้าวังในฐานะองค์ชายน้อยของฝ่าบาทซึงกิก็ตาม แต่มันเป็นพระประสงค์ของฝ่าบาทที่เฝ้ารอโอรสและพระมเหสีมาตลอดสิบห้าปี

                    “จงอินเจ้าต้องเข้าวังกับแม่ เข้าวังไปหาพ่อของเจ้า ไปอยู่เคียงข้างพ่อของเจ้า พ่อของเจ้าต่างเฝ้ารอเราสองมานับนานหลายปี”ยุนสวมกอดลูกชายที่ได้แต่นิ่งน้ำตารินไหล “จงอินเจ้าฟังแม่นะ เรื่องของเจ้ากับองค์ชายชานยอลเจ้าต้องบอกให้เสด็จพ่อของเจ้าให้รู้ เจ้าต้องกราบทูลความจริงกับเสด็จพ่อของเจ้า แม่เชื่อว่าเสด็จพ่อของเจ้าจะช่วยเหลือเจ้าได้และไม่บังคับให้เจ้ากับองค์ชายชานยอลแยกจากกัน ไม่บังคับความรักของเจ้าทั้งสอง เสด็จพ่อกับแม่ผ่านเรื่องราวความเจ็บปวดมาด้วยกันและเข้าใจความรู้สึกของเจ้ากับองค์ชายชานยอลดี”ยุนอาเช็ดอาตาให้กับลูกชาย

                    “เสด็จพ่อจะยอมรับความรักของข้ากับองค์ชายใช่ไหมท่านแม่”ยุนอายิ้มเป็นคำตอบ

                    “เสด็จพ่อของเจ้าต้องยอมรับความรักของเจ้ากับองค์ชาย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไป เสด็จพ่อของเจ้าพระทัยดีและทรงรักเจ้ามากจงอิน”ยุนอาบอกด้วยรอยยิ้มที่นางรู้ว่าชายคนรักจะทำทุกอย่างเพื่อตนและลูก “องค์ชายชานยอลท่านจะต้องบอกเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทรู้ เพื่อที่จะไม่เป็นที่ขุ่นหมองมัวใจกัน ฝ่าบาทจะได้ช่วยองค์ชายเรื่องนี้ หม่อมชั้นคิดว่าฝ่าบาทจะยอมรับความรักองค์ชายกับองค์ชายน้อย”ยุนอาเงยหน้าขึ้นมามององค์รัชทายาทที่สีหน้าไม่สู้ดีนักที่เป็นกังวลกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับจงอินชายอันเป็นที่รัก ที่ไม่สามารถเลิกรักจงอินได้ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นอาหลานก็ตาม

                    “หม่อมชั้นเชื่อว่าทุกอย่างมีทางแก้ไข ในเมื่อเราทุกคนไม่สามารถฝืนลิขิตสวรรค์ได้เราก็ต้องเดินผ่านมันไปได้ เมื่อที่หม่อมชั้นสามารถผ่านความเจ็บปวดนั้นมาได้”ยุนอายิ้มน้อยๆให้กับองค์รัชทายาทที่คลายกังวลและยังมีคนคอยชี้ทางอย่างพระมเหสียุนอาให้เดินข้ามทางความเจ็บปวดนี้ไป

                    ได้เมื่อหนีลิขิตสวรรค์ไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับกับมัน ให้ทุกอย่างเป็นไปตามลิขิตที่วางเอาไว้ ถึงแม้รู้ว่าจะต้องเจออะไรก็ตามในภายภาคหน้า แต่ถ้าเราเชื่อมั่นเชื่อใจกันและกันก็ไม่มีอะไรที่จะแยกความรักของเราทั้งสองไปได้.......

     

     

                    สารจากนกพิราบที่ส่งมาจากองค์ชายชานยอลมายังวังหลวงเพื่อให้ฝ่าบาทซึงกิได้รับรู้ว่าตอนนี้ตามหาพระมเหสียุนอา องค์ชายน้อยเจอตามพระประสงค์ของฝ่าบาทซึงกิ

                    ข้อความในสารทำให้ฝ่าบาทซึงกิสรวญยิ้มอย่างมีความสุข สุดท้ายความเจ็บปวดได้จบลงเสียที พระองค์จะทรงได้เจอกับหญิงสาวคนรักและโอรสอีกครั้งหลังจากต้องแยกจากกันนับนานปี

                    “ฝ่าบาทจะเสด็จไปไหนพะยะคะ”องค์รักษ์ทูลถาม ฝ่าบาทสรวญยิ้มอย่างอารมณ์ดี

                    “ข้าจะไปตำหนักพระพันปี”บอกแค่นั้นด้วยรอยยิ้มและเสด็จออกไปที่มีแค่องค์รักษ์วูบินตามเสด็จ

                    รอยยิ้มของฝ่าบาทซึงกิที่หายไปจากพระพักตร์ของพระองค์เกือบสิบห้าปี เวลานี้ได้กลับมารอยยิ้มอีกครั้งที่สร้างความอิ่มเอมใจให้กับพระพันปีไม่น้อย ที่ได้เห็นรอยยิ้มของฝ่าบาทซึงกิที่นางรักเหมือนกับลูกอีกคน หลังจากพระมเหสีองค์ก่อนสวรรค์นางก็คอยดูแลฝ่าบาทซึงกิมาตลอด ให้คำปรึกษากับฝ่าบาทซึงกิในฐานะมารดาของฝ่าบาท

                    “แล้วฝ่าบาททรงจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ”พระพันปีตรัสถาม

                    “ข้าจะแต่งตั้งยุนอาเป็นพพระมเหสีของข้าให้ทุกคนรับรู้ แต่งตั้งองค์ชายน้อยให้เป็นองค์ชายอย่างถูกต้องตามกฎของวังหลวง”ตรัสบอกด้วยรอยยิ้ม พระมเหสีชินเฮก้มหน้าอย่างเศร้าใจที่จะไม่ได้เคียงคู่กับฝ่าบาทซึงกิอีกต่อไป “พระมเหสีชินเฮเจ้าไม่ต้องกังวลไปว่าข้าจะใจร้ายกับเจ้า ข้าจะยังให้เจ้าอยู่ในวังหลวง อยู่ในฐานะชายาของข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องโดนพวกขุนนางใต้เท้าพวกนั้นประณาม”

                    “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตาหม่อมชั้น”ทูลบอกด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ

                    “หม่อมชั้นทรงดีใจกับฝ่าบาทเหลือเกิน แต่หม่อมชั้นคิดว่าหลังจากพระมเหสียุนอาเสด็จกลับมา พวกใต้เท้า ขุนนางต่างต้องหาเรื่องไม่ให้ฝ่าบาทแต่งตั้งพระมเหสียุนอาและองค์ชายน้อยได้อย่างแน่นอน”พระพันปีทรงบอกออกมาอย่างเป็นกังวล

                    “พระพันปีไม่ต้องทรงกังวลไป ข้าจะไม่ยอมให้พวกใต้เท้าพวกนั้นขัดเราได้ เราจะไม่ยอมพวกขุนนางพวกนั้นอีกแล้ว ข้าจะไม่ให้คนพวกนั้นเป็นใหญ่กับข้าได้”ฝ่าบาทซึงกิตรัสบอกอย่างจริงจัง หนักแน่นที่รอบนี้จะไม่ยอมเป็นรองพวกขุนนางที่คิดจะเป็นใหญ่ในวังหลวง

                    “ฝ่าบาทหม่อมชั้นมีบ้างอย่างอยากให้ฝ่าบาททรงช่วยองค์รัชทายาท ช่วยให้องค์รัชทายาทไม่ต้องตกเป็นเครื่องมือของอดีตพระสนมเยจิน”น้ำเสียงกังวลทูลบอก

                    “อดีตพระสนมมากวนใจอะไรพระพันปีอีกรึ มาบีบบังคับให้พระพันปีต้องทำการใดอีก”

                    “นางต้องการให้หลานสาวของนางมาเป็นพระสนมขององค์รัชทายาท นางต้องการให้หม่อมชั้นเป็นคนพูดกับองค์รัชทายาทเพื่อให้องค์รัชทายาทรับหลานสาวนางเข้ามาถวายตัว”ฝ่าบาทซึงกิถึงกับส่ายหน้ากับการคิดการใหญ่ของอดีตพระสนม

                    “เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง รอให้องค์รัชทายาทกลับเข้าวังมาก่อน ข้าจะช่วยไม่ให้คนพวกนั้นใช้องค์รัชทายาทเป็นเครื่องมือให้กับคนพวกนั้น”

                    “ขอบพระทัยฝ่าบาทมากเพคะที่ทรงดีกับหม่อมชั้นและองค์รัชทายาทมาโดยตลอด”

                    “ไม่ต้องขอบใจข้าเพราะที่ข้าช่วยท่าน ทำเพื่อท่านเพราะข้ารักท่านเหมือนกับพระมารดาของข้าคนหนึ่งและองค์ชายชานยอลก็เป็นน้องของข้า ข้าก็ต้องช่วยเหลือน้องและคนที่บุญคุณกับข้า”ฝ่าบาทซึงกิตรัสบอกอย่างใจจริง พระพันปีทรงซาบซึ้งใจไม่น้อยกับความเมตตาของฝ่าบาทซึงกิที่ดีกับนางและองค์รัชชาทายามาโดยตลอด

     

     

                   

                    ตลอดการเดินทางองค์ชายน้อยหรือองค์ชายจงอินได้แต่ซึมเศร้า ใบหน้าหมองเศร้ากับความเจ็บปวดที่เกาะกินในใจ ถึงจะดีใจที่จะได้เจอพระพักตร์ของพระบิดาแต่ก็ต้องเจ็บปวดเสียใจที่ตนจะไม่สามารถแสดงความรักกับองค์ชายชานยอลได้ แม้ถึงจะอยู่ใกล้กัน

                    “จงอินเจ้าอย่าได้เศร้าไปเลย ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บปวดข้าก็เจ็บปวดไม่ต่างจากเจ้า”องค์ชายชานยอลตรัสบอกคนรักที่นั่งอยู่ด้านหน้าที่เขาคุมม้าให้วิ่งไปตาม

                    “ข้ากลัวว่าเสด็จพ่อจะไม่ยอมให้องค์ชายมารักกับข้า กลัวว่าเสด็จพ่อจะใจร้ายกับข้าและท่าน”

                    “เสด็จพ่อของเจ้าไม่ใช่คนใจร้าย เสด็จพ่อของเจ้าจะต้องเข้าใจความรักของข้ากับเจ้า เจ้าอย่าคิดมากไปเลยจงอิน ถึงเราสองคนจะรักกันเปิดเผยไม่ได้ แต่ก็ยังมีเสด็จแม่ของเจ้า มีเสด็จพ่อของเจ้ารับรู้ความรักของเราสองคน แค่นี้เจ้าต้องกลัวอะไรอีกจงอินของข้า”ใบหน้าหวานเคล้าน้ำตาหันมามองชายคนรัก “เจ้าจงเชื่อใจข้า เชื่อความรักของข้าที่มีให้เจ้า แค่เจ้าเชื่อในความรักก็จะไม่มีใครจะแยกเราสองคนได้”องค์ชายตรัสบอกออกมา

                    “ข้าเชื่อความรักของท่าน”องค์ชายชานยอลถึงกับยิ้มออกมาและควบม้าให้เร็วเพื่อจะถึงวังหลวงก่อนค่ำ

                    การกลับมาขององค์รัชทายาทเป็นที่แตกตื่น ตื่นตระหนกให้กับราวขุนนาง ใต้เท้าและพระสนมของฝ่าบาทซึงกิไม่น้อยเมื่อได้เห็นคนที่องค์รัชทายาททรงพาเสด็จกลับมาด้วย

                    ฝ่าบาทซึงกิมายืนรอรับคนรักและโอรสหน้าตำหนัก รอยยิ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดีใจที่ได้เจอยุนอาและลูกชายที่พลัดพลาดมาตลอดสิบห้าปี

                    “ยุนอาดวงใจของข้า”ฝ่าบาทซึงกิเดินเข้ามาหาหญิงคนรัก สวมกอดอย่างดีใจทั้งน้ำตาที่ยุนอาสวมกอดชายอันเป็นที่รักทั้งน้ำตา ภาพตรงหน้าสร้างรอยยิ้มให้กับเหล่าข้าราชบริพาลไม่น้อย

                    “ยุนอาข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน เจ้ารู้ไหมข้าคิดถึงเจ้ากับลูกเหลือเกิน ข้าเฝ้ารอให้เจ้ากับลูกกลับมาหาข้า”

                    “พระองค์ไม่ต้องทรงเฝ้ารออีกต่อไปแล้ว  ตอนนี้หม่อมชั้นพาลูกของเรากลับมาหาพระองค์แล้ว”ยุนอาบอกด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา “จงอินเจ้าเข้ามาหาเสด็จพ่อของเจ้าซิ”ยุนอาหันไปเรียกลูกชายที่ยืนอยู่ด้านหลัง จงอินเดินเข้ามาหาพระบิดา ฝ่าบาทโอบกอดลูกชายทั้งน้ำตา อ้อมกอดนี้ที่ตั้งใจมอบให้ลูกชายมานานแสนนาน วันนี้พระองค์ได้มอบอ้อมกอดแสนอบอุ่นให้กับลูกชายเป็นครั้งแรก

                    จงอินสวมกอดแสนอบอุ่นที่เฝ้าหามาตลอดสิบห้าปี อ้อมกอดที่อยากได้รับจากผู้เป็นพ่อที่ตลอดชีวิตนี้จงอินคิดมาตลอดว่าไม่มีโอกาสแต่ตอนนี้มันกลับเป็นจริงแล้วที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ

                    “องค์ชายน้อยพ่อรักเจ้ามากรู้ไหม พ่อจะไม่ให้เจ้ากับแม่ของเจ้าลำบากอีกต่อไปแล้ว”ตรัสบอกกับโอรส ลูบผมของลูกชายที่สวมกอดทั้งน้ำตา ช่างเป็นภาพตราตรึงใจให้กับเหล่าทหาร นางกำนัลไม่น้อยแต่ก็สร้างความริษยา อิจฉา เคียดแค้นให้กับพระสนมองค์อื่นและอดีตพระสนมเยจินที่ต้องการเป็นใหญ่

                    ภาพของสามพ่อแม่ลูกที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ตอนนี้ทีฝ่าบาทพาองค์ชายจงอินมายังตำหนักกลางที่จัดเตรียมไว้ให้องค์ชายจงอินตั้งแต่แรกที่ตำหนักนี้ยังมีองค์รัชทายาทอยู่ใกล้ๆที่ฝ่าบาทต้องการให้องค์รัชทายาทคอยดูแลองค์ชายจงอินแทนตน

                    “ตำหนักนี้พ่อเตรียมไว้ให้เจ้า พอพ่อรู้ว่าจะมีเจ้าพ่อก็เก็บตำหนักนี้ไว้ให้เจ้าเพียงผู้เดียว”จงอินมองดูรอบๆ “แต่เจ้าไม่ต้องกลัวไปว่าเจ้าจะอยู่คนเดียว นอกจากเจ้าแล้วยังมีอาของเจ้าอยู่กับเจ้าด้วย”จงอินหันไปมองคนที่ถูกพาดพิง แอบดีใจลึกที่จะได้อยู่กับคนรัก “องค์ชายชานยอลพี่ฝากเจ้าดูแลหลานด้วย พี่จะให้เจ้าเป็นคนคอยสอนหลานในด้านต่างๆในวังหลวงนี้ คงไม่เป็นการลำบากไปใช่ไหมองค์ชายชานยอล”

                    “ไม่พะยะคะ หม่อมชั้นเต็มใจจะดูแลองค์ชายจงอินด้วยหัวใจของหม่อมชั้น”องค์ชายชานยอลทรงนั่งทรุดเข่า จงอินเห็นชายคนรักนั่งก็นั่งข้างคุกเข่าข้างๆต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาทซึงกิ ยุนอาบอกเด็กทั้งสองด้วยรอยยิ้ม

                    “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าสองคน ทำไมเจ้าสองคนถึงต้องนั่งคุกเข่าต่อหน้าพ่อด้วย”ฝ่าบาททางถามอย่างไม่เข้าใจ

                    “พระองค์ทรงฟังลูกและองค์ชายชานยอลอธิบายและทรงอย่างกริ้วลูกกับองค์ชายเลย”ยุนอาแตะแขนให้ฝ่าบาทซึงกิใจเย็นลง

                    “จงอินเจ้าบอกพ่อมาซิว่าเจ้ากับอาของเจ้าต้องการจะบอกอะไรพ่อ”จงอินเงยหน้าขึ้นมามองทางมารดา ยุนอาพยักหน้าให้ลูกชายตอบความจริงไป

                    “เสด็จพ่อหม่อมชั้นกับองค์ชายชานยอลไม่สามารถเป็นอาหลานกันได้ หม่อนชั้นรักองค์ชายชานยอล หม่อมชั้นกับองค์ชายชานยอลเราสองคนมีความสัมพันธ์เกิดเลยอาหลานแล้วพะยะคะ”ฝ่าบาทตกพระทัยไม่น้อยเมื่อรู้ได้ความจริง

                    “องค์รัชทายาทเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไง องค์ชายจงอินเป็นหลานของเจ้า เจ้าทำเช่นนี้ได้เช่นไร!!!”ตรัสด้วยความกริ้ว

                    “เสด็จพ่อเราสองคนรักกันด้วยที่เราสองคนไม่รู้ว่าเป็นอาหลาน องค์ชายชานยอลไม่มีความผิด เสด็จพ่อยังทรงกริ้วองค์ชายเลย”จงอินออกรับแทนทั้งน้ำตา “เสด็จพ่อข้าขอร้องให้เสด็จพ่อยอมรับความรักของข้ากับองค์ชายชานยอลด้วยเถิด ข้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีองค์ชายชานยอล ได้โปรดอย่าขัดขวางความรักของเราสองคนเลย”จงอินอ้อนวอนทั้งน้ำตาอย่างเจ็บปวด ฝ่าบาทซึงกิคุกเข้าจับไหล่เล็กของลูกชายให้ลุกขึ้นมา

                    “องค์ชายจงอินพ่อไม่อยากขัดความรักของเจ้ากับอาของเจ้า แต่ถ้าพวกขุนนางรู้คนพวกนั้นจะขับไล่เจ้าออกจากวัง ไม่ให้เจ้าอยุ่ในวังกับพ่อ เจ้าจะต้องลำบากเพราะความรักของเจ้า”ไม่ใช่จะไม่ยอมรับความรักของลูกชายกับน้องชาย แต่คำว่าฐานันดร สายสัมพันธ์ทางสายเลือดค้ำคอคนทั้งสองอยู่

                    “แต่ลูกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีองค์ชายชานยอล ลูกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคนที่ลูกรัก”เฝ้าบอกอย่างเจ็บปวด

                    “ท่านพี่ได้โปรดอนุญาตให้ข้าได้รักกับองค์ชายจงอินด้วยเถิด ถึงแม้ว่าจะต้องลำบากมากแค่ไหนข้าก็ยอม ขอแค่ให้ข้าได้รักเฝ้าดูแลองค์ชายจงอินใกล้ๆ”

                    “พระองค์ทรงอนุญาตให้ลูกได้รักกันเถิด มันเป็นสิ่งที่สวรรค์ได้ลิขิตเอาไว้แล้ว เราไม่สามารถจะฝืนลิขิตได้”ยุนอาเอ่ยขึ้น ฝ่าบาทซึงกิมองลูกชายและน้องชายอย่างสับสน

                    “พ่อจะให้เจ้ารักกับอาของเจ้า แต่ความรักของเจ้าต้องเป็นความลับไม่ให้ใครล่วงรู้ จนกว่าพ่อจะกำจัดพวกขุนนางฉ้อโกงไปให้พ้นเมือง เจ้าต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ห้ามให้ใครรู้ความสัมพันธ์ของเจ้าสองคนเด็ดขาด”องค์ชายทั้งสองยิ้มออกมาทั้งน้ำตาและโอบกอดกันด้วยรอยยิ้มที่ฝ่าบาทซึงกิยอมให้รักกัน

                    ฝ่าบาทซึงกิ ยุนอามององค์ชายทั้งสองด้วยรอยยิ้มและปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพัง ที่ทั้งสองกลับมาตำหนักของตัวเอง ฝ่าบาทซึงกิยังทรงหนักใจเรื่องขององค์ชายชานยอลไม่น้อย

                    “พระองค์ยังทรงเป็นกังวลเรื่องลูกอีกหรือเพคะ”ยุนอาถามขึ้นเมื่อเข้ามาในตำหนัก

                    “ยุนอาเจ้ารู้ไหม อดีตพระสนมเยจินทรงบีบบังคับให้พระพันปีรับหลานสาวของพระสนมเยจินเข้ามาเป็นสนมขององค์รัชทายาท ซึ่งข้าคิดหาวิธีที่จะไม่ให้องค์รัชทายาทรับสนมเข้ามา แต่พอข้ารู้เรื่องของลูกทำให้ข้าทำเรื่องนี้ไม่ได้”

                    “แล้วพระองค์จะทรงทำอย่างไงต่อไป หม่อมชั้นคิดว่าพระสนมเยจินคงไม่ยอมเรื่องนี้แน่”

                    “คงต้องให้องค์ชายชานยอลเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ดี และข้ารู้ว่าองค์ชายชานยอลต้องปฎิเสธการรับสนมและนั้นจะทำให้อดีตพระสนมไม่พอใจและหาเรื่องบีบบังคับให้ข้าไปกดดันองค์ชายชานยอลและคงให้พวกขุนนางออกตัวในการรับสนมเข้ามา”

                    “ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องเกิดความวุ่นวายในวังหลวง และอดีตพระสนมจะต้องกล่าวหาลูกเป็นกาลกิณีของบ้านเมืองและให้ราษฎรขับไล่องค์ชายจงอินออกจากวังหลวง”

                    “สิ่งนี้แหละที่ข้ากลัว แต่ข้าก็ไม่ทำร้ายความรักของลูก ข้าเข้าใจความรู้สึกอันเจ็บปวดที่ไม่ได้อยู่คนเป็นที่รักมันเจ็บปวดมากแค่ไหน ข้าถึงยอมรับให้ลูกรักกัน”ความเจ็บปวดที่ผ่านมาทำให้ฝ่าบาทไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บปวดเหมือนกับตน “แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไปข้าจะใช้อำนาจของข้าปปกป้องลูกและความรักของลูก ข้าจะไม่ให้ลูกต้องมาเจ็บปวดเหมือนกับเราสองคนอีก”ฝ่าบาทตรัสบอกออกมาและโอบกอดคนรักด้วยความรักที่มีให้กัน

     

     

     

                  สองร่างโอบกอดยู่แท่งบรรทม ใบหน้าหวานซบกับอกแกร่งของชายอันเป็นที่รัก ริมฝีปากอุ่นร้อนจุมพิจบนหน้าผากมนอย่างรักใคร่ ดวงตาเล็กกลมเจือไปด้วยประกายแห่งความสุขช้อนขึ้นใบหน้าหล่อเหล่าของชายอันที่รัก ไม่มีความสุขใดเท่ากับอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นอันที่รัก

                    “ท่านพี่ข้าดีใจที่สุดที่เสด็จพ่อยอมให้เราสองคนรักกัน ไม่กริ้วโกรธท่านพี่และข้า”เสียวหวานพร้อมกับรอยยิ้มฉายออกมาที่มันทำให้องค์ชายชานยอลหักห้ามใจไม่ได้ต้องกดจูบลงกลีบปากชมพู

                    “พี่บอกเจ้าแล้วว่าเสด็จพ่อของเจ้าเป็นผู้จิตใจดี ไม่ใจร้ายอย่างที่เจ้าคิดเจ้ากลัวแต่แรก ที่สำคัญความเจ็บปวดของเสด็จพ่อเจ้าและเสด็จแม่ของเจ้าทำให้ท่านทั้งสองยอมรับความรักของเราสองคน เพื่อไม่ให้เราสองคนต้องเจ็บปวดเหมือนกับท่านอีก”

                    “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นท่านพี่ห้ามทิ้งข้าเด็ดขาดรู้ไหม ข้ายอมผิดกับประเวณีเพื่อรักกับท่านพี่ รักอาของตัวเอง รักชายด้วยกัน”มือใหญ่จับปลายคาง สายตาจ้องมองสบประสานเต็มไปด้วยความรัก

                    “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายภาคหน้า พี่จะไม่ยอมทิ้งเจ้า รักเจ้าเพียงคนเดียวดวงใจของข้า”ใบหน้าหวานยิ้มบางๆเต็มไปด้วยความสุขก่อนที่ริมฝีปากหนาจะทาบทับประกบจูบริมฝีปากบางที่องค์ชายเล็กยอมรับสัมผัสเผยอริมฝีปากออกให้องค์รัชทายาทได้สอดปลายลิ้นร้อนเข้าไปเก็บเกี่ยวความหอมหวานด้านใน แขนเรียวบางตวัดโอบกอดคอแกร่งให้โน้มลงมาจูบถนัดถนี่ขึ้น

                    แสงจันทร์สาดส่องลงกระทบร่างคนทั้งสองที่บรรจงมอบความสุขในค่ำคืนแสนหวาน ร่างอันอาภรณ์ของทั้งสองต่างโอบกอด สรรค์สร้างความสุข ความรักให้แก่กันไปตามครรลองธรรมของความรัก

                    หัวใจต่างเรียกร้อง ต่างโหยหากันและกันทำให้บทเพลงรักในค่ำคืนช่างเร้าร้อน ความร้อนแผดเผาไปทั้งกายของคนทั้งสองที่ยังคงถ่ายทอดความสุขให้กันอยู่บนเตียง ความสุขที่ไม่มีใครจะแยกองค์ชายทั้งสองได้ในเวลานี้

                    ความสุขที่ทั้งสองตักตวงเก็บเอาไว้ก่อนที่วันข้างหน้าจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดของหัวใจ ความเจ็บปวดไม่มีใครฝืนลิขิตได้

                    ธิดาเทพแตฮีกำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่ในตำหนักธิดาเทพ สีหน้าเป็นกังวลไม่น้อยเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าขององค์รัชทายาทและองค์ชายจงอินกับความพลัดพลาดที่จะเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง

                    “ไม่มีใครฝืนลิขิตของสวรรค์ได้ พระองค์ทั้งสองต่างทำผิดกฎสวรรค์ด้วยกันทั้งคู่ นี้คือบทลงโทษของสวรรค์ที่องค์ชายทั้งสองต้องได้รับความผิดขององค์ชาย”ธิดาเทพแตฮีบอกด้วยเสียงเศร้า ไม่มีทางไหนที่จะแก้ไขช่วยเหลือองค์ชายทั้งสองได้เลย

                    ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎเป็นไปตามลิขิตของสวรรค์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้......

     

                   

                    การกลับมาขององค์ชายจงอิน พระมเหสียุนอาสร้างไม่พอใจให้กับหลายฝ่าย เพราะการกลับมาของทั้งสองจะเป็นการขัดทางของพระสนมคนอื่นที่ต้องการขึ้นเป็นใหญ่และพวกขุนนางที่ต้องการใช้พระสนมเป็นการเบิกทางให้ก้าวขึ้นเป็นใหญ่ในภายหลัง ถ้าพระสนมคนใดเป็นที่ต้องตาต้องใจ พอพระทัยของฝ่าบาทก็มีสิทธิ์จะเป็นคนโปรดได้และมีโอรสให้กับฝ่าบาทซึงกิในภายภาคหน้า ถึงพระสนมต่างรู้ดีว่าฝ่าบาทไม่เคยเสด็จมาหาแต่ต่างก็รอเวลารอโอกาสได้รับใช้ฝ่าบาท

                    พอพระมเหสียุนอากลับทุกอย่างกลับพังลง ฝ่าบาททรงไม่เสด็จหาผู้ใดและยังแต่งตั้งพระมเหสียุนอาเป็นพระมเหสีเอก ส่วนพระมเหสีชินเฮก็ยังทรงตำแหน่งพระมเหสีแต่เป็นแค่พระมเหสีรองที่ยุนอาไม่ต้องการให้ฝ่าบาทถดถอยตำแหน่งพระมเหสีชินเฮ

                    ส่วนองค์ชายจงอินฝ่าบาททรงคืนตำแหน่งให้และป่าวประกาศให้ทั่งราชสำนัก ราษฎรได้รับรู้การกลับมาขององค์ชายจงอินโอรสของฝ่าบาทซึงกิกับหญิงคนรัก ที่ราษฎรต่างปลื้มปิติยินดีที่ได้รับรู้ข่าวน่ายินดีของวังหลวง ที่ทุกคนต่างยอมรับพระมเหสีและองค์ชายกันทั่วหน้า

                    องค์ชายจงอินที่ต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมายในวังก็ทรงได้องค์ชายชานยอลเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ การวางตัวให้สมกับตำแหน่งในองค์ชายทีไม่ใช่เด็กชาวบ้านธรรมดาที่ชอบวิ่งเล่น ซุกซนเหมือนแต่ก่อน

                    “ท่านอาข้าไม่เรียนได้ไหม ให้ข้าไปหาจุนมยอนเถอะนะ ข้าอยากเล่นกับจุนมยอน”สรรพนามที่เอ่ยเรียกเฉพาะอยู่ต่อหน้าเหล่านางกำนัล เหล่าทหารที่จะมาเรียกท่านพี่เวลาอยู่กันสองคนไม่ได้ ที่เวลานี้องค์ชายชานยอลต้องรับบทเป็นอาของหลานชายจอมขี้อ้อน จอมซน

                    “องค์ชายเจ้าจะมาวิ่งเล่นเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วนะ เจ้าเป็นองค์ชายแล้วไม่ใช่จงอินเด็กชาวป่าชาวเขาเหมือนแต่ก่อน ที่คอยแต่วิ่งเล่นไปวันๆ”โดนดุเอ็ดจงอินยู่ปากอย่างขัดใจ

                    “ก็ข้าเบื่อ ข้าเหงานี่ ข้าอยากไปหาจุนมยอนบ้าง จุนมยอนนะสบายกว่าข้าอีกไม่ต้องทำอะไรเลย”องค์ชายส่ายหน้าน้อยๆกับความดื้อเอาแต่ใจขององค์ชายจงอิน

                    “ถ้าเบื่อมากเรากลับเข้าตำหนักกัน พี่จะทำให้เจ้าหายเบื่อ”กระซิบบอกให้ได้ยินกันสองกัน ใบหน้าหวานเห่อแดงซ่านเมื่ออีกฝ่ายชวนเข้าตำหนัก

                    “ข้าไปหาเสด็จพ่อเสด็จแม่ดีกว่า อยู่กับท่านอาแล้วข้าเบื่อที่สุด”กลบเกลื่อนความเขินอายและลุกเดินออกไปยังองค์ชายชานยอลมองตามยิ้มๆและลุกเดินตามองค์ชายจงอินไปยังตำหนักของฝ่าบาทซึง

                    พอมาถึงตำหนักก็ต้องยืนรออยู่หน้าตำหนักเมื่อนางกำนัลบอกว่าอดีตพระสนมเยจินเสด็จมาเข้าเฝ้าฝ่าบาท พระมเหสีอยู่ในตำหนัก แค่ได้ยินชื่อของพระสนมเยจินองค์ชายชานยอลถึงกับวิตกกังวล การมาเข้าเฝ้าของพระสนมเยจินจะต้องเป็นเรื่องของตนที่คงมาบีบบังคับให้ฝ่าบาทและพระมเหสีให้องค์ชายชานยอลรับพระสนมเข้ามา

                    ไม่นานอดีตพระสนมเยจินพร้อมกับหลานสาวเดินออกมาจากตำหนักพร้อมด้วยรอยยิ้มเดินเข้ามาหาองค์ชายต้องสองและโค้งคำนับให้กับองค์ชายทั้งสองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และเดินออกไป

                    องค์ชายจงอินอยากรู้ว่าอดีตพระสนมเยจินและหลานมาเข้าฝ่าบาทด้วยเรื่องไรกันและดูจากสายตาแล้วคงหนีไม่พ้นเรื่องขององค์รัชทายาท องค์ชายจงอินรีบเสด็จเข้าไปในตำหนักทันทีด้วยความร้อนใจ

                    “เจ้าสองคนมาก็ดีเลย พ่อมีเรื่องต้องบอกกับเจ้าสองคน”น้ำเสียงหนักใจเป็นกังวลตรัสบอกกับองค์ชายทั้งสอง

                    “เสด็จพ่อมีเรื่องอันใดกับข้าและท่านพี่ อดีตพระสนมมารบกวนจิตใจอะไรเสด็จพ่อ”ถามด้วยความร้อนรนใจ

                    “องค์ชายจงอินเจ้ารู้แล้วเจ้าต้องใจเย็น อย่าใจร้อนทำอะไรวู่วามเด็ดขาด”พระมเหสียุนตรัสบอกกับลูกชาย

                    “อดีตพระสนมเยจินต้องการให้องค์รัชทายาทรับหลานสาวของนางเป็นสนม”

                    “ข้าไม่ยอม!!!”เสียงกร้าวขึ้นมาทันใดแต่ก็ต้องลดอารมณ์ลงเมื่อโนพระมเหสียุนอาส่งสายตำหนิ

                    “องค์ชายจงอินพ่อก็ยังไม่ได้รับปากนางว่าจะให้องค์ชายชานยอลรับหลานสาวนางเข้ามา พ่อแค่บอกนางเรื่องนี้ให้องค์ชายชานยอลเป็นคนตัดสินใจเอาเอง และพ่อรู้ว่าองค์ชายชานยอลคงไม่ยอมพ่อจึงจะให้องค์ชายชานยอลไปว่าราชการต่างเมืองเพื่อแก้ปัญหานี้”ฝ่าบาทตรัสบอกทุกอย่างกับองค์ชายทั้งสอง

                    “ทำไมต้องให้องค์ชายชานยอลไปด้วยเสด็จพ่อ ไหนเสด็จพ่อบอกลูกแล้วว่าจะไม่จับแยกเราสองคน”น้ำเสียงผิดหวังเอ่ยบอกออกมา

                    “ถ้าพ่อไม่ทำเช่นนี้ อดีตพระสนมเยจินต้องบีบบังคับให้พ่อจัดการเรื่องนี้อย่างออกหน้าออกตา เจ้ารู้อะไรไหมพระสนมเยจินนางบอกกับพ่อว่าถ้าองค์ชายชานยอลไม่ยอมรับหลานสาวนางเป็นพระสนม นางจะให้เหล่าขุนนางขับไล่ลูกออกจากวังและให้แม่ของเจ้าได้รับโทษจากเหล่าขุนนางที่อดีตแม่ของเจ้าเป็นเทพธิดาและทำผิดกฎของวังหลวงมาก่อน พ่อไม่อยากให้เจ้ากับแม่ของเจ้าต้องถูกทำร้ายอีกแล้ว พ่อจึงต้องทำเช่นนี้”

                    “ถ้าให้องค์ชายชานยอลไปว่าราชการ  ลูกขอเสด็จตามไปด้วย ลูกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีองค์ชายชานยอล”เสียงสั่นเอ่ยขอกับฝ่าบาท

                    “เจ้าทำเช่นนั้นไม่ได้จงอิน ถ้าเจ้าไปกับองค์ชายด้วย เรื่องจะยุ่งยากมากขึ้นและความสัมพันธ์ของเจ้ากับอาของเจ้าจะถูกเปิดเผย  เจ้าต้องอยู่ที่นี้เพื่อทำหน้าที่แทนองค์ชายชานยอล”พระมเหสียุนอาบอกกับลูกชาย จงอินถึงกับน้ำใสๆไหลออกมาอย่างเจ็บปวด

                    “องค์ชายชานยอลเจ้าเป็นคนเดียวที่จะตัดสินเรื่องนี้ พี่ช่วยเจ้าได้แค่นี้”องค์ชายชานยอลหันมามองคนข้างกาย มือกุมกันไว้

                    “หม่อมชั้นจะเสด็จไปว่าราชการต่างเมือง หม่อมชั้นจะยอมทำเพื่อคนที่หม่อมชั้นรักและบ้านเมือง”ถึงจะเจ็บต้องพลัดพลากแต่เพื่อบ้านเมืองและคนรักรองค์ชายชานยอลก็ยอม

                    “จงอินเจ้าฟังพ่อ ถึงตอนนี้เจ้ากับองค์ชายชานยอลจะต้องพลัดพลาดกัน แต่กาลหน้าเจ้ากับองค์ชายชานยอลจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แค่รอให้พ่อจัดการพวกขุนนางและอดีตพระสนมที่คิดกบฏต่อบ้านเมือง เมื่อนั้นเจ้าจะได้อยู่กับคนที่เจ้ารัก”เห็นลูกชายร้องไห้เสียใจฝ่าบาทซึงกิต้องปลอบและหาทางที่จะช่วยให้ลูกชายได้อยู่กับคนที่เรา การพลัดพลาดแยกจากพระองค์รู้ดีเจ็บมากแค่ไหน เข้าใจความเจ็บนั้นดีจึงไม่อยากให้ลูกชายและน้องชายต้องเจ็บปวดเหมือนกันตนในอดีต

     

                    กลับมาตำหนักองค์ชายจงอินได้แต่ซึมเศร้า น้ำตารินไหลอย่างเจ็บปวดที่จะต้องแยกจากกับชายคนรัก องค์ชายชานยอลเห็นคนรักเจ็บปวดร้องไห้ก็เจ็บปวดไม่แพ้กันและเข้ามาโอบกอดปลอบประโลมคนรักไม่ให้เจ็บปวดไปมากว่านี้

                    “จงอินเจ้าไม่ต้องร้องไห้ไป พี่ไม่ได้จากเจ้าไปไกลสักหน่อย พี่แค่ไปดูงานต่างเมืองถ้าเจ้าคิดถึงพี่เจ้าก็ขอเสด็จพ่อไปหาพี่ก็ได้ ให้ทหารม้าเร็วไปส่งข่าวให้กับพี่ก็ได้”ฝืนทำเข็มแข็งถึงแม้จะเจ็บก็ตาม

                    “ข้าไม่อยากอยู่ห่างกับท่านพี่เลย ข้าไม่อยากคนเดียวที่ไม่มีท่านพี่”เสียงสั่นไหวเจ็บปวดเอ่ยบอกออกมา

                    “เจ้าไม่มีพี่อยู่ด้วยแต่เจ้าก็ยังมีเสด็จพ่อเสด็จแม่ของเจ้า ทุกคนจะอยู่กับเจ้าดูแลเจ้าแทนพี่”จับไหล่เล็กดันออก โน้มหน้าจูบซับน้ำตาคนรัก “เจ้าต้องเข้มแข็ง เจ้าต้องช่วยเสด็จพ่อจัดการพวกกบฏ เจ้าต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าไม่ได้อ่อนแอที่คนพวกนั้นคิดจะเอาเจ้ามาเป็นเครื่องมือเพื่อล้มล้างเสด็จพ่อของเจ้า”

                    “ข้าจะทำอย่างที่ท่านพี่บอก ข้าจะจัดการคนพวกนั้นเพื่อช่วยเสด็จพ่อและเพื่อท่านพี่ที่จะได้กลับมาอยู่กับข้า”องค์ชายชานยอลยิ้มบางๆ

                    “เก่งมากคนดีของพี่ เจ้าต้องทำเพื่อพี่ เพื่อเสด็จพ่อของเจ้า เพื่อบ้านเมืองของพวกเรา ถ้าเราจัดการคนพวกนั้นได้พี่กับเจ้าจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันที่จะไม่มีใครมาแยกเราสองคนออกจากกันได้”รั้งร่างบางเข้ามาสวมกอดทั้งสองโอบกอดกันแนบแน่นก่อนที่จะไม่มีได้กอดกันอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

                   

     

    3 เดือนผ่านไป

                หลังจากองค์ชายชานยอลเสด็จออกมาว่าราชการเพื่อจะไม่ต้องรับพระสนมเข้ามาที่มันสร้างความไม่พอใจให้กับอดีตพระสนมเยจินและหลานสาวไม่น้อย แต่ใช่ว่าพระสนมเยจินจะหยุดแค่นี่ที่นางก้าวต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาทซึงกิถึงอย่างไงองค์ชายชานยอลจะต้องรับหลานสาวของตนเข้ามาเป็นสนม ถ้าไม่ยอมรับทั้งพระมเหสียุนอาและองค์ชายจงอินจะต้องเดือดร้อนไปตามกัน

                    ฝ่าบาทซึงกิที่อยากจะลงโทษจัดการอดีตพระสนมที่กล้าสามหาวกับตนแต่ก็ฝ่าบาทซึงกิก็ทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ ในเมื่อยังมีคนหนุนหลังอดีตพระสนมอยู่มาก ถ้าจะทำอะไรจะต้องจัดการพวกขุนนางที่สนับสนุนอดีตพระสนมเยจินให้หมดสิ้น

                    องค์ชายจงอินตั้งแต่วันที่องค์ชายชานยอลต้องเสด็จออกจากวังก็ได้แต่ซึมเศร้า ไม่ยอมเสวยอะไรมากนัก ถึงต่อหน้าเหล่าทหาร นางกำนัล เหล่าขุนนางต่างๆทำเป็นเข้มแข็งแต่จริงแล้วองค์ชายจงอินอ่อนแรง เหนื่อยล้าเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องแอบมาร้องไห้ในตำหนักเพียงผู้เดียว

                    “องค์ชาย!!!”จุนมยอนที่เข้ามารับใช้และเห็นองค์ชายจงอินเป็นลมหมดสติอยู่กับพื้นรีบเข้ามาประคองและสั่งให้คนไปตามพระมเหสีและฝ่าบาทมาดูอาการขององค์ชายจงอิน

                    “วูบินเจ้าไปตามมาหมอหลวงมา!!!”ฝ่าบาทตรัสสั่งเสียงกร้าว

                    “ฝ่าบาทขอให้หม่อมชั้นเป็นคนตรวจรักษาองค์ชายเองเพคะ”ธิดาเทพแตฮีแทรกขึ้นมาที่ฝ่าบาท พระมเหสีต่างยอมให้ธิดาเทพเข้ามาดูอาการ

                    “ธิดาเทลูกเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้เป็นลมหมดสติเช่นนี้”พระมเหสียุนอาถามด้วยความเป็นห่วง

                    “องค์ชายจงอินไม่ได้เป็นอะไรมาก อาการขององค์ชายจงอินการตั้งประสูติการเพคะ”ฝ่าบาทซึงกิ พระมเหสียุนอาถึงกับมีพระพักตร์ตกใจ

                    “จะเป็นไปได้อย่างไงกัน องค์ชายเป็นชายไม่ใช่เป็นหญิงแล้วจะตั้งประสูติกาได้อย่างไง”

                    “องค์ชายสามารถท้องได้ องค์ชายมีร่างกายอย่างกับหญิง ซึ่งมันเป็นบทลงโทษของสวรรค์”พระมเหสีบอกออกมาทั้งน้ำตา นี้คือสิ่งที่สวรรค์ได้ลงโทษคนทั้งสอง

                    “ถ้าเรื่องนี้เพ่งพรายออกไป องค์ชายจะต้องถุกขับไล่ออกจากวัง องค์ชายจะถูกกล่าวหาเป็นถูกกาลกิณี”ฝ่าบาทตรัสบอกอย่างเจ็บปวด “ข้าไม่ยอมให้ลูกต้องถุกลงโทษ ต้องถุกตราหน้าจากผู้ใดทั้งนั้น ข้าจะไม่ยอมเสียลูกเสียหลานของข้า!!!

                    “ฝ่าบาทมันพอมีทางที่จะช่วยองค์ชายได้ หม่อมชั้นทรงขอให้องค์ชายอยู่ในความดูแลของหม่อมชั้นในตำหนัก ตำหนักธิดาเทพไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ถ้าหม่อมชั้นไม่อนุญาต”ธิดาเทพแตฮีเอ่ยบอกอย่างเรียบนิ่ง “ฝ่าบาทและพระมเหสีต้องทำเป็นองค์ชายป่วยหนักและต้องให้หม่อมชั้นรักษาองค์ชาย ถ้าเราทำเช่นนี้จะไม่มีใครรู้ว่าองค์ชายทรงตั้งประสูติกา”

                    “ข้ายอมขอแค่ให้ลูกเราปลอดภัย ขอแค่ไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกเราและหลานเราได้”ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเพื่อลูกและหลาน

                    “รอให้องค์ชายฟื้นก่อนแล้วพระองค์ทรงพาองค์ชายไปหาหม่อมชั้นที่ตำหนัก หม่อมชั้นขอตัวกลับไปที่ตำหนักก่อน”ธืดาเทพโค้งให้กับฝ่าบาทซึงกิแล้วเดินออกไป พระมเหสียุนอามองลูกชายทั้งน้ำตา ทำไมลูกชายของตนต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ด้วย ทำไมสวรรค์ถึงต้องลงโทษกันขนาดนี้ แค่นี้ทุกคนก็ทรงเจ็บกันมากพอแล้ว

     

     

     

    TALK

                ครบ100 แล้วตอนนี้ดราม่ากันน่าดู ไม่มีหวานเลยกะว่าจะมีฉากหวานๆให้อ่านกันหน่อยแต่ก็ไม่มี

                    อ่านแล้วอย่าลืมเม้นและติดแท๊ก #ficcz


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×