ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC} Crazy Story Chankai EXO

    ลำดับตอนที่ #37 : : Time of love : chankai 3 END

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 860
      2
      9 มิ.ย. 57

    : Time of love: chankai 3

     

              ยูราไม่อยากจะคัดค้านบีบบังคับให้หลานชายต้องอยู่ที่นี้แต่เธอก็ขอร้องให้จงอินนอนห้องเดียวกับชานยอลก่อนที่จะต้องบินไปอยู่ญี่ปุ่น ยูราต้องการให้จงอินได้รู้หัวใจตัวเองก่อนที่จะสายไปที่เพิ่งมารู้ว่าตัวเองนั้นก็มีใจให้กับลูกชายของเธอเหมือนกัน ยูรามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเจ้าลูกชายตัวดีก็มีใจให้กับจงอินเหมือนกัน

                    “คุณน้าว่าจะได้ผลหรอครับ”จุนมยอนถามขึ้นอย่างเป็นห่วง คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จงอินจะกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง ยูรายิ้มให้หลานชายไม่อยากให้คิดมาก

                    “น้าเชื่อว่าการที่เราทำแบบนี้จะทำให้จงอินรู้ใจตัวเองเหมือนกัน”ยูราบอกด้วยความมั่นใจ สายตามองลูกชายและหลานชายที่อยู่ในห้องนั่งเล่นที่ดูเหมือนชานยอลอยากจะชวนน้องคุยแต่ไม่กล้า ยูรายิ้มๆกับการสิ้นลายของเจ้าลูกชายตัวแสบ

                    เจ้าชานยอลถึงเวลาที่แกต้องทำเพื่อหัวใจของแกแล้ว

                    ภายในห้องหลังจากแยกกย้ายกันเข้าห้องมานอน จงอินก็ล้มตัวนอนคลุมโปรงที่ไม่สนใจพี่ชายร่วมห้องเลย ชานยอลหน้าเศร้าไม่น้อยที่จงอินทำเป็นหมางเมินกับเขาและรู้สึกผิดที่เล่นกับน้องจนเกินไปทำให้น้องเกลียดเขาแบบนี้

                    “ถ้าแกคิดว่าแกรักน้อง แกมีความสุขที่ขาดน้องไม่ได้แกก็ควรทำอะไรสักอย่างก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป”คำพูดของแม่ดังเข้ามาในความคิด ชานยอลมองหลังน้องชายก่อนที่จะตัดสินใจอะไรสักอย่าง

              ชานยอลเดินมาล้มตัวนอนบนเตียงข้างๆกับจงอินที่นอนหลังหันให้ ชานยอลตะแคงนอนข้างและวาดแขนโอบกอดเอวสอบของน้องชาย  จงอินตกใจไม่น้อยแต่ก็ทำนอนนิ่งทำเป็นไม่สนใจทั้งที่หัวใจเต้นโครมคราม เต้นรัวกับสัมผัสอันอบอุ่นที่ถูกพี่ชายกอด

                    “พี่ขอโทษถ้าพี่ทำให้จงอินโกรธ ไม่พอใจ พี่ต้องขอโทษเราด้วย”น้ำเสียงเศร้ารู้สึกผิดเอ่ยบอกกับคนที่เขากอดอยู่ถึงแม้จงอินจะเงียบแต่ชานยอลก็รับรู้ได้ว่าจงอินยังไม่หลับแค่แกล้งทำเป็นหลับ “พี่รู้ว่าเราสองคนยังเด็กเกินไป จงอินแค่สิบสองแต่พี่ก็อยากบอกให้จงอินรู้ไว้ว่าพี่รู้สึกดีเป็นพิเศษกับจงอิน ถึงแม้ตลอดมาเราสองคนจะทะเลาะกันมาตลอดเวลาก็ตาม ต่อยตีกันตลอดพี่ก็รู้สึกผิด รู้สึกไม่ดีกับเราและยิ่งเห็นเราเฉยชาใส่พี่แบบนี้ พี่ยิ่งเจ็บและผิดไม่น้อย”ชานยอลร่ายยาวอยากให้น้องชายรับรู้ความในใจของตน

                    “ตลอดสองสัปดาห์ที่เราไม่นอนกับพี่ ไม่คุยกับพี่ เมินเฉยใส่พี่ เรารู้อะไรไหมมันทำให้พี่รู้อะไรบ้างอย่างในหัวใจของพี่ บ้างอย่างที่ทำให้พี่รู้ว่าพี่ขาดเราไม่ได้จงอิน”จงอินกัดริมฝีปากแน่น สกัดกั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา “มันอาจจะเร็วเกินไปแต่พี่ก็อยากจะบอกให้เรารู้ว่าพี่รักเรานะจงอิน รักเด็กดื้อเด็กแสบอย่าง”จงอินที่หลับตาน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็ทำเป็นไม่รับไม่รู้ถึงแม้ว่าหัวใจของจงอินจะดีใจไม่น้อยที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของพี่ชายที่เป็นคู่กัดกันมาตลอดสองปี

                    ทำไมพี่มาบอกตอนนี้ มาบอกในวันที่สายไป......

     

                    ชานยอลตื่นมาตอนเช้าก็ไม่พบจงอินนอนอยู่บนเตียงด้วย ชานยอลไม่ได้เอะใจว่าจงอินไปไหนถึงมันจะเป็นวันเสาร์ก็ตามเพราะจงอินมักตื่นเช้าเป็นปกติและจะลงไปช่วยแม่เขาทำงานบ้านช่วงวันหยุดและนี้ก็คงเป็นอีกวันที่จงอินจะลงไปช่วยแม่เขาทำงานบ้าน

                    ชานยอลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและเดินลงมาจากห้องก็พบความผิดปกติที่วันนี้ดูบ้านเงียบ ไม่มีใครอยู่สักคนแม้แต่แม่ของเขา ชานยอลถอยหายใจอย่างเบื่อหน่ายเมื่อถูกทิ้งไว้คนเดียวอีกตามเคย

                    ชานยอลเดินเข้ามาในครัวหาอะไรทานที่แม่ได้เตรียมไว้ให้เขาเรียบร้อยและพร้อมโพสอิสที่ติดไว้ตรงตู้เย็นที่ข้อความทำให้ชานยอลตกใจไม่น้อย

                    เจ้าลูกชายตัวดีถ้าแกไม่อยากเสียน้องไป ไม่อยากอยู่ห่างกับน้องก็รีบตามมารั้งน้องกลับบ้านไม่ให้ไปญี่ปุ่น ตอนนี้แม่กับจุนมยอนออกมาส่งน้องที่สนามบิน น้องจะขึ้นเครื่องตอนสิบโมง ถ้าแกยังฉลาดพอก็รีบตามมาแล้วกัน

    จากแม่ที่ต้องการหนูจงอินเป็นสะใภ้

                    ชานยอลไม่ต้องครุ่นคิดให้เสียเวลารีบมองนาฬิกาที่ข้อมือที่ตอนนี้มันแปดโมงสิบนาทีเขามีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงที่จะต้องไปถึงสนามบินเพื่อไปรั้งจงอินไม่ให้ไปญี่ปุ่น

                    ชานยอลเรียกแท็กซี่หน้าบ้านที่ในใจภาวนาให้ไปทันก่อนที่จงอินจะขึ้นเครื่อง ในใจของชานยอลมีแต่ความกังวลดลัวจะไปรั้งจงอินไม่ทัน ทุกอย่างตอนนี้มันทำให้ชานยอลกระวนวายใจไปหมด ได้แต่หงุดหงิดหัวเสียกับการจราจรที่คับคั่งและรถยังติด

                    รถห่าจะมาติดอะไรวันนี้ว่ะ!!!!

                    ชานยอลได้แต่บ่นด่าเมื่อเห็นรถยังไม่เคลื่อนตัวและยกข้อมือมาดูเวลา ตอนนี้เก้าโมงตรงแต่เขายังไม่ถึงสนามบินเลย ขอให้เครื่องดีเลทด้วยเถอะ

                    “ลุงเหยียบสองร้อยเลย”พอผ่านไฟแดงได้จงอินถึงกับสั่งคนขับรถให้เหยียบความเร็วเท่าที่เร็วได้

                    “ไอ้หนูก่อนจะถึงที่หมายลุงกับหนูได้กลับบ้านเก่าแน่”หันมาตอกกลับเสียงดุเด็กหนุ่มที่ดูจะรีบร้อนจนเกินเหตุ

                    ชานยอลได้แต่ร้อนรุ่มกระวนกระวายใจที่ยังไม่ถึงสักที เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆจนจะถึงเก้าโมงครึ่งแล้ว

                    “เอาถึงแล้วไอ้หนู”ลุงคนขับหันมาบอกที่ชานยอลรีบกวักเงินมาให้และรีบวิ่งเข้าในแอร์พอร์ตทันที วิ่งตามหาแม่ ตามหาจงอินหวังว่าจงอินยังจะไม่ขึ้นเครื่องไป

                    “แม่!!”ชานยอลเห็นแม่ก็รีบตะโกนเรียกและวิ่งเข้ามาหาแม่กับจุนมยอนที่ยืนอยู่เกทแปด “จงอินละแม่”ชานยอลถามขึ้นเมื่อไม่เห็นจงอิน ยูรามองหน้าจุนมยอนและมองหน้าชานยอลด้วยใบหน้าเศร้าลำบากใจ “จงอินขึ้นเครื่องไปแล้ว”

                    ชานยอลถึงกับทรุดนั่งอย่างหมดแรงเขามาไม่ทันจงอิน เขาต้องเสียจงอินไปจริงๆ

                    “จงอินฝากนี้มาให้นาย”จุนมยอนยื่นจดหมายมาให้ชานยอล ชานยอลรีบเปิดอ่านทันที

                    สิ่งที่พี่พูดเมื่อคืนผมรับรู้หมด แต่พี่มาบอกผมสายไป มาบอกตอนที่ผมจะไปญี่ปุ่นแล้ว ถ้าพี่รอผมไหว ยังรักผมอยู่ผมก็จะกลับมาหาพี่ แต่พี่รักคนอื่นแล้วลืมผมไปแล้วผมก็จะไม่กลับมาหาพี่ผมจะอยู่ที่ญี่ปุ่นไม่ยอมกลับมาเกาหลีเพราะผมไม่อยากกลับมาหาคนโลเล ใจโลเล โกหกอย่างพี่

                    ชานยอลอ่านจดหมายที่จงอินทิ้งไว้ให้เขาก็ยังมีความหวังว่าจงอินจะกลับมาถึงจะช้าก็ตามแต่ก็ยังดีกว่าที่จงอินทิ้งเขาไปไม่บอกลา

                    “พิสูจน์หัวใขของแกให้ได้นะไอ้ลูกชาย”ยูราตบบ่าลูกชาย

                    “ถ้านายทำได้นายก็จะได้จงอินกลับมาชานยอล”จุนมยอนยิ้มให้กับอีกฝ่ายเป็นกำลังใจ

                    “ผมจะพิสูจน์ให้จงอินเห็นว่าผมรักจงอินจริงและจะรอจงอินกว่าจะกลับมาได้และผมจะไม่มีใครนอกจากจงอิน”ยูรา จุนมยอนหันมายิ้มให้กันเมื่อได้ฟังคำสัญญาคำมุ่งมั่นของชานยอลที่จะรอจงอินจนกว่าจงอินจะกลับมา

                    “งั้นแม่ว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า กลับไปรอจงอินที่บ้านจนกว่าจงอินจะกลับมาหาเรา”ยูราโอบไหล่ลูกชายและพาลูกชายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ลาดจอดรถ

                    “จงอินพี่หวังว่าเราจะทำตามที่พูดนะ”จุนมยอนบอกยิ้มๆและเดินตามสองแม่ลูกไปที่รถ

     

     

    ชานยอลกลับมาถึงบ้านก็ขอตัวขึ้นห้องทันด้วยท่าทางที่เศร้าสร้อย ไม่สดใสร่าเริงเหมือนกับทุกวัน ถึงแม้ว่าปากจะบอกไม่เป็นไร จะรอจงอินกลับบ้านแต่ในใจของชานยอลก็ไม่ได้ยิ้มเหมือนอย่างที่เห็น

                    ยูราถึงกับส่ายหน้าถอนหายใจออกมากับอาการของลูกชายที่ดูจะเป็นมากเหลือเกิน ถึงอยากจะ สงสารอยากจะช่วยลูกก็ตามแต่อยากให้ลูกชายรู้สึกผิดกับการกระทำตัวเองบ้าง อยากให้ลูกชายเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นบ้างว่าเวลาโดนแกล้ง ทำร้ายความสึกมันเสียใจ เสียความรู้สึกมากแค่ไหน เขาอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นตัวสอนลูกชายจอมแสบ

                    ยูรา จุนมยอนปล่อยให้ชานยอลอยู่คนเดียวตามลำพังในห้อง ให้ชานยอลอยู่กับตัวเองมากขึ้น ให้คิดมากขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าชานยอลผ่านจุดนี้โตขึ้นชานยอลจะไม่เล่นกับความรู้สึกของใครอีก ไม่ทำให้ใครต้องมาเสียความรู้สึกเพราะความคึกคะนองของตัวเอง

                    “จุนมยอนเราไปเรียกชานยอลมาทานได้แล้ว”ยูราเห็นว่าตั้งแต่เที่ยงลูกชายยังไม่ลงมาทานอะไรก็เอ่ยไหว้วานให้จุนมยอนขึ้นไปเรียกเจ้าลูกชายลงมาทานข้าว

                    “ชานยอลคุณน้าให้มาตามนายลงไปทานข้าว”จุนมยอนเดินเข้ามาในห้องที่เจ้าของห้องมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม

                    “ชั้นไม่หิว ชั้นยังไม่อยากทาน”ตอบออกมาที่ยังอยู่ในผ้าห่ม แต่เสียงที่แปลกๆไปของชานยอลทำให้จุนมยอนรับรู้สิ่งปกติจากเจ้าเพื่อนตัวสูง

                    จุนมยอนเดินเข้ามาใกล้ๆชานยอลที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม จุนมยอนดึงผ้าห่มที่คลุมเจ้าเพื่อนตัวสูงอยู่ออก ภาพที่เขาเห็นตอนนี้ทำให้เขากลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่

                    “ปาร์คชานยอลร้องไห้  ฮ่าๆๆๆ”จุนมยอนหัวเราะลั่นเมื่อเห็นชานยอลนอนร้องไห้ใต้ผ้าห่ม จุนมยอนไม่รอเช้าล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาและถ่ายรูปชานยอลไว้เป็นหลักฐาน “นายเสร็จชั้นแน่ชานยอล ชั้นจะส่งรูปนี้ให้จงอินดู ให้ดูว่าไอ้พี่หูกางขี้แกล้งนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะโดนทิ้ง ฮ่าๆๆๆ”

                    “อย่านะจุนมยอน นายอย่าส่งให้จงอินเด็ดขาด”ชานยอลลุกขึ้นจะแย่งโทรศัพท์จุนมยอนมาลบรูปทิ้ง

                    “เสียใจด้วยนะเพื่อน ชั้นจะส่งให้จงอินดูและชั้นจะให้น้ายูราดูด้วยว่าลูกชายตัวแสบต้องศิโรราบให้กับว่าที่ลูกสะใภ้”จุนมยอนแลบลิ้นให้กับชานยอลและรีบวิ่งลงไปข้างล่าง ชานยอลได้แต่พ่นลมหายใจ งานนี้โดนล้อไปสิบชาติ

                    ชานยอลลงมาทานข้าวใบหน้าหงอยเหงาและยิ่งถูกจุนมยอนยิ้มแซวยิ้มล้อเลียนที่คนเป็นแม่ก็เป็นกับเขาด้วย ชาวนยอลทำหน้าหงิกงอง้ำเมื่อถูกคนทั้งสองเล่นงาน

                    “แม่นี้ดูคนไม่ผิดจริงๆที่เลือกหนูจงอินมาเป็นลูกสะใภ้”ยูรายิ้มแซวลูกชาย

                    “แม่พูดอะไรของแม่ ผมไม่ได้เป็นมากสักหน่อย”แก้ตัวทำเป็นไม่ยอมรับ

                    “จุนมยอนเดี๋ยวโทรไปหาจงอินที่ญี่ปุ่นนะว่าไม่ต้องกลับมาแล้ว คนที่นี้ไม่ได้จริงจังอะไรด้วย”

                    “ไม่ได้นะแม่ แม่จะทำร้ายจิตใจลูกชายสุดหล่อของแม่ไม่ได้”ชานยอลเสียงดังขัดขึ้นมาทันที

                    “ไหนแกบอกไม่ได้เป็นอะไรไงเจ้าลูกชาย แล้วแกจะห้ามแม่ทำไม”

                    “โห....แม่ผมก็พูดไปนั้นไม่อยากโดนแม่กับจุนมยอนแซวก็เท่านั้น แค่นี้ผมก็โดนแม่กับจุนมยอนแกล้งผมซะเละแล้ว”ยูรา จุนมยอนหัวเราะยิ้มออกมา

                    “นี่ชั้นส่งรูปนั้นให้จงอินแล้วนะ  บ้างที่จงอินเห็นรูปแล้วอาจสงสารนายรีบกลับมาเกาหลีก็เลยได้”

                    “ถ้าเป็นอย่างที่นายพูดก็ดีซิ ถ้าจงอินกลับมาได้วันนี้ได้ก็ดีชั้นจะยอมทำตามที่จงอินสั่งทุกประการ”

                    “ยอมจริง?”จุนมยอนถาม

                    “จริง ชั้นยอมหมดขอแค่จงอินกลับมาก็พอ ถึงไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้ชั้นก็ยอมหมด”จุนมยอน ยูรายิ้มให้กันอย่างรู้กัน

                    “ถ้าจงอินได้ยินมันคงจะรีบกลับมาหานายเลยชานยอล”จุนมยอนพูดมีลับลม

                    “แต่คงไม่มีทางหรอก ในเมื่อจงอินอยู่ญี่ปุ่นและไม่ได้ยินเสียงหัวใจของชั้นที่มีให้กับเขา”จุนมยอนถึงกับหัวเราะกับความเสี่ยวของเพื่อนหูกาง ไม่เว้นแต่ยูราถึงกับทนไม่ได้กับความเสี่ยวของลูกชายวัยสิบห้า

                    “ชานยอลลูกอิ่มแล้วหรอ ลูกทานไปนิดเดียวเองนะ”ยูราเอ่ยถามลูกชายเมื่อลุกออกจากโต๊ะอาหาร

                    “ผมกินไม่ลงครับแม่ ไม่มีจงอินผมทานอะไรไม่ลง”

                    “พ่อพระเอกมากกก”จุนมยอนว่าแซะกับอาการที่เป็นหนักของชานยอล ชานยอลหันมามองน้อยๆและเดินขึ้นห้องไป

                    “น้าไม่เชื่อเลยว่าเจ้าตัวแสบของน้าจะเป็นหนักได้ขนาดนี้ เราโทรบอกจงอินเถอะให้รีบกลับมาก่อนที่เจ้าชานยอลจะระทมใจ ตรอมใจตายไปก่อน”ยูราว่าติดตลกยิ้มๆให้กับหลานชายที่ร่วมมือกันแกล้งชานยอล

                    ชานยอลนอนหันหน้าเข้ากำแพง ใบหน้าหงอย เศร้าไม่น้อย มือบางลูบที่นอนว่างเปล่าที่เคยมีใครคนหนึ่งนอนอยู่ข้างเขา แต่วันนี้กลับไม่มีคนคนนั้นนอนอยู่ด้วย ยิ่งคิดแล้วยิ่งเศร้าใจไม่น้อย ชานยอลคนโง่เอ้ยไม่น่ารู้ใจตัวเองช้าเลย ไม่น่าจะไปแกล้งน้องมันแบบนั้น เป็นไงละตัวเองต้องมานอนร้องไห้คิดถึงน้องมันแบบนี้

                    “ไอ้ชานยอลคนโง่เอ่ย ทำอะไรไม่รู้จักคิดเป็นไงละน้องนี่ไปเลย”ชานยอลโวยวายกับตัวเอง คนที่เปิดประตูเข้ามาถึงกับยิ้มขำ “จุนมยอนถ้านายจะหัวเราะเยาะชั้นออกไปเลย ชั้นไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะกับนายตอนนี้”ชานยอลว่าออกไปที่ไม่ได้หันไปมอง

                    “โง่แล้วยังไม่พออีก ยังจะพาลคนอีก ไอ้พี่หูกาง”เสียงที่คุ้นเคย คำที่คุ้นเคยที่ได้ยินทำให้ชานยอลรีบหันมาและกระเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนอย่างดีใจและโผเข้ากอดจงอินจนลืมคิดไปว่าจงอินอยู่ที่นี่ได้อย่างไง “ไอ้พี่หูกางปล่อยได้แล้ว มันอึดอัด”จงอินที่แทบจะจมคาอกชานยอลถึงกับเสียงดังใส่คนที่กอดตัวเองแน่น  ชานยอลปล่อยจงอินออกและได้สติขึ้นมา

                    “นายมาได้ไง ไหนแม่และจุนมยอนบอกว่านายไปญี่ปุ่นแล้ว”ชานยอลถามขึ้นทันที ด้วยสีหน้าจริงจัง

                    “ผมกับน้ายูรา พี่จุนมยอนแค่อยากเอาคืนพี่ สั่งสอนพี่บ้างว่าการเล่นกับความรู้สึกมันเป็นอย่างไง”จงอินบอกลอยหน้าลอยตา

                    “แปลว่าทุกคนหลอกชั้นแกล้งชั้นหมด”

                    “ใช่/ใช่/ใช่”สามเสียงตอบพร้อมกัน ยูรา จุนมยอนเดินเข้ามายืนข้างจงอิน ชานยอลหน้าบูดไม่น้อย

                    “เข้าใจความรู้สึกหรือยังเจ้าลูกชายว่าการเล่นกับความรู้สึกคนอื่นมันเสียความรู้สึก มันเจ็บมากแค่ไหน”ยูราถามลูกชายที่หน้าสลดลงเมื่อแม่พูดสะกิดใจ

                    “ผมรู้แล้วครับว่ามันเสียความรู้สึกมาก มันเจ็บมาก มันจุกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก”

                    “ก็มันเหมือนกับผมตอนที่พี่แกล้งผม พี่เล่นกับความรู้สึกของผมแรงเกินไป มันทำให้รู้สึกแย่ไม่น้อย”จงอินบอกออกมา

                    “พี่ขอโทษจงอิน พี่จะไม่แกล้งเราไม่ทะเลาะกับเราอีกแล้ว”จงอิน จุนมยอนยิ้มให้กัน

                    “นายสัญญาอะไรกับชั้นนะชานยอล”จุนมยอนเปิดประเด็นขึ้นที่จะเอาคืนชานยอลคืน

                    “ชั้นจำได้นะจุนมยอน ชั้นไม่ลืมหรอก”ชานยอลบอกออกมา

                    “ถ้าพี่ไม่ลืม เราก็มาเริ่มสัญญากันเลย”จงอินเอ่ยขึ้น ดวงตากลมมองพี่ชายตัวสูง

                    “จงอินจะให้พี่ทำอะไรพี่ยอมทำทุกอย่าง”ชานยอลออกปากโดยไม่ต้องคิด

                    “ช่วงนี้อยู่ในช่วงปรับปรุงตัวของพี่ ผมจึงต้องคอยดูความประพฤติของพี่เป็นเวลาหนึ่งปี”

                    “โห่.....นานไปไหม”

                    “ทำไม่ได้?”เสียงสูงเอ่ยถาม

                    “ทำได้ครับ”จงอินอมยิ้ม

                    “ดี...งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะไปนอนกับพี่จุนมยอนทุกคืน ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”จงอินเมื่อเห็นพี่ชายตัวสูงจะเอ่ยปากก็ขัดไว้อย่างรู้ทัน “ทุกเช้าทุกเย็นจะต้องไปเรียนกลับบ้านพร้อมกัน ห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเด็ดขาดถ้าใครเข้ามาเบอร์ เข้ามาจีบต้องปัดไปให้หมด ถ้าผมรู้ผมจะไม่อยู่กับพี่เด็ดขาด”

                    “ไม่มีปัญหา”ชานยอลชูสองนิ้วสัญญา

                    “งานบ้านพี่ก็ต้องทำไม่ใช่ให้น้ายูราทำคนเดียว ให้ผมกับพี่จุนมยอนทำกันแค่สองคน พี่ต้องลงมาช่วยกันทำ”ชานยอลพยักหน้าหงึกๆที่ยอมทุกอย่าง “ส่วนการเล่นเกมของพี่ผมจะไม่ห้ามแต่พี่ต้องทำอย่างให้เสร็จเรียบร้อย ทั้งการบ้านงานบ้านทุกอย่างต้องทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปเล่น การเรียนของพี่ก็ห้ามตกเด็ดขาด มันต้องดีขึ้น ตอนนี้พี่ได้หนึ่งจุดเก้าห้า เกรดพี่ต้องได้มาสามจุดศุนย์ศูนย์”ชานยอลถึงกับตาเบิกโต

                    “เรื่องเกรดลดลงหน่อยไม่ได้หรอ”

                    “ได้แต่ผมก็จะไปญี่ปุ่นทันที”

                    “โอเคพี่ยอมก็ได้”จงอินถึงกับยิ้มกระหยิ่ม ยูรายิ้มขำลูกชายที่ออกลายกลัวเมียแล้ว

                    “ส่วนไอ้แก๊งค์รังแกเด็กของพี่นะยุบได้แล้ว สลายตัวกันได้แล้วโตกันแล้วยังไปรังแกเด็กมันอีก ถ้าแก๊งค์ยังมีอยู่พี่โดนดีแน่”

                    “เดี๋ยวพี่โทรหาไอ้มินจุนมันเลย พี่จะไม่ตั้งแก๊งค์อีกแล้ว”ชานยอลรนรานและโทรหาเพื่อนทันที จงอิน จุนมยอน ยูรายิ้มให้กันที่จะเปลี่ยนเด็กหัวโจกของหมู่บ้านให้เป็นคนใหม่

     

     

                   

     

     

                    หนึ่งปีกับการปรับปรุงตัวของชานยอลที่ดูจะได้ผลไม่น้อย เป็นที่น่าพอใจของคนในบ้าน การเรียนของชานยอลดีขึ้น คนในหมู่บ้านต่างพูดถึงชานยอลดีขึ้น ที่เปลี่ยนจากชานยอลคนเดิมเป็นคนใหม่ได้สมบูรณ์แบบ

                    ฟอด

                    “ไอ้พี่หูกาง!!!”เสียงโวยวายของจงอินดังลั่นบ้านเมื่อโดนพี่ชายขโมยหอมแก้ม

                    “พี่ขอกำลังใจหน่อย พี่อ่านหนังสือสอบทั้งวันมันเหนื่อยนะ”ทำเสียงเศร้าหน้าเศร้าจงอินเห็นแล้วหมั่นไส้เหลือเกิน

                    “คืนนี้นอนคนเดียว ผมไม่นอนกับพี่”

                    “เห้ยไม่ได้นะ พี่พ้นโทษมาเองนะ”ชานยอลรีบสปริงตัวมาหาน้องชายที่กำลังจะลุกออกไป

                    “ปล่อยผมนะพี่ชานยอล ถ้าไม่ปล่อยผมจะไม่นอนกับพี่”

                    “ถ้าพี่ปล่อยแล้วจงอินสัญญากับพี่นะต้องมานอนกับพี่คืนนี้”จงอินทำครุ่นคิด “จงอินอย่าใจร้ายกับพี่นะ”

                    “ก็ได้ผมจะนอนกับพี่ แต่พี่ต้องอ่านหนังสือให้จบและต้องไปซื้อชานมมาให้ผมด้วย ผมถึงจะยอม”จงอินบอกออกมาชานยอลกดหอมแก้มไปอีกฟอดอย่างดีใจ

                    “ได้เลยครับว่าที่ภรรยา เหลืออีกสองบทพี่จะจบแล้ว พี่อ่านจบจะปั้นจักรยานไปซื้อชานมให้จงอินเลย”

                    “ดี ผมจะนอนเล่นเกมรอบนห้องนะ”พูดด้วยรอยยิ้มแล้วเดินขึ้นไปบนห้อง

                    “ถอดเสื้อผ้านอนรอก็ได้นะจงอิน”ตะโกนบอกและก็ได้คำประกาศิตตอบกลับมา

                    “นอนนอกห้อง!!!”แค่นั้นแหละชานยอลถึงกับทรุด ตบหัวตัวเองที่พูดอะไรไม่คิด

                    “ไอ้คนกลัวเมีย”ยังมีคำสรรเสริฐจากไอ้เด็กตัวขาวนี้

                    “ขนาดยังไม่แต่งงานก็กลัวเมียสักแล้ว”แม่ก็อีกคนจะตอกย้ำลูกไปถึงไหน

                    ปาร์คชานยอลไม่ได้กลัวเมียนะ ปาร์คชานยอลแค่เกรงใจเท่านั้นเอง........

     

    Talk

              ครบ 100 แล้ว จบเสียทีเรื่องนี้ รอกันต่อไปเรื่องหน้า เดี๋ยวจะมีสเปเชียลเรื่องนี้ไว้ให้ในเล่มที่จะร่วมเล่ม vol 2 ของฟิคเรื่องนี้นะคะ การจองกลางเดือนๆไรเตอร์จะมาแจ้งนะ ส่วน vol 1 ใครจัดส่งน้องที่จัดส่งจะส่งให้ 10 17 เรื่องนี้นะคะ

                    #ficcz

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×