nexstep0.1
ดู Blog ทั้งหมด

การนอนกรน ภัยใกล้ตัวที่อันตรายอาจถึงตาย

เขียนโดย nexstep0.1
Gwen Stefani ClothesCute Maternity ClothesOrganic Toddler ClothesMma ClothesBig And Tall ClothesWomens Hunting ClothesGap ClothesSexy Womens ClothesCasual ClothesUpland Hunting ClothesNursing ClothesPredator Hunting ClothesStraight Edge ClothesDog Christmas ClothesPlus Size Dance ClothesHow To Get Gum Out Of ClothesWomens Workout ClothesWomen In Tight ClothesNewborn Baby ClothesPacking ClothesGym ClothesArmy ClothesHemp ClothesCheap Mens Designer ClothesChristmas Dog ClothesWool Hunting ClothesMen Designer ClothesDickies ClothesSkate ClothesTurkey Hunting ClothesNeon ClothesNatural Cotton Baby ClothesBaggy ClothesCool Girl ClothesArmani ClothesBig Mens ClothesChanel ClothesComfortable ClothesTrendy Men ClothesSafari ClothesCarters Childrens ClothesMichael Jackson ClothesClub Penguin ClothesGirl Rockabilly ClothesDiscount Designer ClothesSwing ClothesKanye West ClothesPlus Size Workout ClothesAmerican Eagle ClothesPhillies Baseball Baby Clothes

การนอนกรนแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

1.ภาวะนอนกรนธรรมดา
สาเหตุมาจากกล่องเสียง หย่อนยาน จนกระทั่งไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวก และมีเสียงดังเวลานอนหลับ ภาวะดังกล่าวจะไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆ แต่จะมีผลกระทบต่อคนข้างเคียง เกิดความรำคาญใจ ไม่อยากอยู่ใกล้ และ

2.ภาวะนอนกรนอันตราย เกิดจากกล้ามเนื้อ บริเวณลำคอหย่อนตัวระหว่างช่วงการหลับจึงไปอุดทางเดินอากาศ กล้ามเนื้อที่มีการหย่อนตัวนี้ ได้แก่ กล้ามเนื้อของเพดานอ่อน โคนลิ้น และลิ้นไก่ ซึ่งเมื่อไปอุดกั้นทางเดินอากาศจะทำให้การหายใจต้องใช้แรงเอาชนะมาก เกิดเสียงดัง และนำไปสู่การหยุดหายใจในที่สุด ในบางรายภาวะนอนกรนยังทำให้เกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจขาดเลือด ฯลฯ

ผศ.นพ.ปารยะยังให้ความรู้ ถึงสถานการณ์ผู้ประสบปัญหาการนอนกรนว่า ปัจจุบันพบบ่อยขึ้น ในต่างประเทศมีรายงานว่า ร้อยละ 5-10 ของประชากรทั่วไปมีปัญหาการนอนกรน พบมากในอายุตั้งแต่ 30-35 ปี

โดยเพศชายสูงถึงร้อย ละ 4 และเพศหญิงร้อยละ 2 สำหรับประเทศไทยแม้จะสามารถให้การวินิจฉัยผู้ป่วยได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีตัวเลขความชุกที่แน่นอน สำหรับอาการทั่วไป ในผู้ที่ประสบปัญหานอนกรนทั่วไป จะไม่แสดงอาการใดๆ แต่ในผู้ที่ประสบปัญหานอนกรนอันตราย อาการทั่วไปจะง่วงมากผิดปกติในช่วงกลางวัน อ่อนเพลีย และสมรรถภาพทางเพศลดลง กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ คนที่มีน้ำหนักเกิน เนื่องจากไขมันจะสะสมมากบริเวณรอบคอทำให้หายใจลำบาก

สำหรับการรักษา ในปัจจุบันมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละราย อาทิ หากอาการไม่มาก แพทย์จะให้ทำการปรับปรุงพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การลดน้ำหนักตัว รวมถึงการออกกำลังกายที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยานอนหลับก่อนเข้านอน รวมทั้งยาที่ทำให้มีอาการง่วง พยายามนอนตะแคงหรือท่าที่ทำให้อาการลดลง งดสูบบุหรี่ หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์จะให้ใช้เครื่องช่วยสร้างแรงดันบวกในทางเดินอากาศ และหากอาการยังไม่ดีก็ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

"ในอดีตมีความ เชื่อว่าคนที่ป่วยด้วยโรคใหลตายอาจมีความสัมพันธ์กับภาวะนอนกรน" ผศ.นพ.ปารยะกล่าว

สำหรับโรคใหลตาย เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน เพราะเคยปรากฏว่ามีคนงานไทยในสิงคโปร์ป่วยด้วยโรคใหลตายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ความเชื่อดังกล่าวจะสัมพันธ์กับภาวะนอนกรนหรือไม่ ยังต้องรอพิสูจน์ทางการแพทย์ต่อไป

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น