คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : รักที่ 12 : ความรักของโอชูและความแค้นแห่งโอซาก้า [ยังไม่จบตอน]
Title : Taboo Love
Author : FesenyAReseT
Rating : PG-13
Author Note : นิยายเรื่องนี้คือ Au ซึ่งหมายถึงไม่อิงความเป็นจริง เพราะเช่นนั้นจะมีตัวละครใหม่และสถานที่หรือเรื่องราวที่ไม่เหมือนจริง
คำเตือน : นิยายเรื่องนี้เป็นชายรักชาย ใครรับไม่ได้ปิดไปซะนะครับ ขอร้องว่าอย่าแบนหรือด่ากัน เพราะเราเตือนท่านแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือห้ามหลอกเลียนไปเป็นนิยายของตนเองครับ หากจะเผยแผ่กรุณาขออนุญาติกันก่อนและลงเครดิตด้วยนะครับ หากใครต้องการลองของก็ได้นะครับ แล้วจะได้รู้กันว่าผมจะทำยังไง หึหึ....
รักที่ 12 : ความรักของโอชูและความแค้นแห่งโอซาก้า
ภายในปราสาทของโอซาก้าก็ไม่ได้วุ่นวายน้อยไปกว่าปราสาทโอชูแม้แต่น้อย เหล่าสาวใช้และหมอฝีมือดีหลายคนถูกเรียกมาเป็นลูกมือของหมอเทวดาหนุ่มแห่งไค
“เอาน้ำสะอาดมาเปลี่ยนอีกเร็ว!! ห้ามหลับเด็ดขาดเลยนะขอรับนายท่าน!!!” น้ำเสียงกระวนกระวายของหมอหนุ่มโชโฮ มิเก็นสึ สะท้อนเข้าไปในหัวของยูคิมูระพร้อมกับเสียงไอกระอัก
“แค่ก!!” เรย์นิที่ถูกนุอุริเฮียนพากลับมามีอาการหนักกว่าที่คาดเอาไว้มาก แต่จนถึงตอนนี้เนตรอักขระมารของเจ้าตัวก็ช่วยรั้งชีวิตเอาไว้ได้ และที่สำคัญยังได้พลังชีวิตของพวกภูติในขบวนร้อยอสูรมาช่วยอีก
“พยายามตั้งสติเอาไว้นะขอรับ!!” สองมือของหมอหนุ่มจับมือของเจ้านายตัวเองไว้แน่น ตอนนี้ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายแล้วว่าจะเป็นหรือตาย เพราะนอกจากทางเหล่านี้เขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
“เรย์นิ!!” หลังจากสติหลุดอยู่นานยูคิมูระก็เข้ามาหาชิโนบิหนุ่มที่ชุดเปื้อนไปด้วยเลือดที่ถูกกระอักไอออกมา รอยยิ้มปรากฏที่บนใบหน้าของเรย์นิน้อยๆ เมื่อเห็นว่ายูคิมูระอยู่ข้างๆ
“ไม่…ต้องห่วงหรอก…ขอรับ…ข้าไม่…เป็นไร…แล้ว” ดูเหมือนว่าเลือดเมื่อครู่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
“จริงๆ หรือ?” น้ำตาหลั่งออกมาจากดวงเนตรสีใบไม้แห้ง หากแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะนิ้วเรียวของอนเมียวหนุ่มปาดมันออกอย่างนุ่มนวล
“ข้าไม่โกหกหรอกนะขอรับ” รอยยิ้มฉายชัดอีกครั้ง ร่างสีทองค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นโดยปฏิเสธความช่วยเหลือของมิเก็นสึ และในที่สุดเรย์นิก็สามารถลุกขึ้นมานั่งได้
“…ข้าอยากเข้าร่วมสงครามกับโอชูด้วยขอรับ… อิชิดะโดโนะ” เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ในวินาทีแรกยูคิมูระยังคงงุนงงแต่ในวินาทีต่อมาเขาก็หันกลับไปด้านหลังตนเองที่มีร่างคนสนิทของเจ้าของแคว้นยืนอยู่
“ถ้าข้าบอกว่าไม่อนุญาตให้คนใกล้ตายอย่างเจ้าไปเล่า ไทโร เรย์นิ” ดวงเนตรสีม่วงคมกริบราวกับคมมีดจ้องประสานดวงเนตรสีออดอายแดงฟ้า
“ใครใกล้ตายหรือขอรับ?” รอยยิ้มที่ทำให้คิ้วของมิซึนาริกระตุกขึ้นอีกครั้ง … ถ้าไม่ใช่เจ้า แล้วไอ้กองเลือดที่ถูกเช็ดไปตลอดสี่ชั่วโมงมันเป็นของใครกันเล่า!
“ไม่ต้องห่วงข้าหรอกขอรับ … เพราะว่าข้าจะไม่ยอมตายจนกว่าจะได้ปลดปล่อยเขา…” ดวงเนตรสีออดอายสั่นคลอนเมื่อนึกถึงใบหน้าของน้องชายฝาแฝด…ที่ตนเป็นผู้ฝั่งมันลงในหัวใจของอีกฝ่าย
“ก็แล้วแต่เจ้า ต่อให้เจ้าไปตายในสงครามก็จะไม่มีใครสนใจเจ้า!” เอ่ยตอบอย่างโกรธเคืองด้วยความหงุดหงิดเป็นทุนเดิม …เรื่องของไค อาจจะจบด้วยการเจรจาได้ … หากแต่มังกรตาเดียวกลับสังหารคนสนิทของเขาอย่างเกียวบุ!
“ขอบคุณท่านมากขอรับ …” คำนับให้อีกฝ่ายที่กำลังหันกลับไปที่ประตู หากแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไปจากห้องเขาก็หันกลับมาพูดอีกประโยคหนึ่งที่ทำให้ยูคิมูระเบิกตากว้าง
“แต่ว่าซานาดะ ยูคิมูระแห่งไคจะก้าวออกไปจากโอซาก้าไม่ได้เป็นอันขาด”
“หมายความว่าอย่างไรขอรับ อิชิดะโด…!”
ปึง!! ประตูกระดาษถูกปิดอย่างแรงด้วยฝีมือของอิชิดะ มิซึนาริ ทำเอาประชากรสามคนในห้องชะงักกับนิสัยเสียๆ นั้น
“… ทำไม ไม่ให้ข้าไป” ยูคิมูระขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจในขณะที่เรย์นิได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่วนมิเก็นสึก็สบถออกมา
“ชิ… วางท่าเหมือนเดิมเลยเจ้าจิ้งจอกเงินนั่น”
…ก็นะ ในเมื่อไม่ถูกกันมานาน
“เขาคงไม่อยากให้ท่านที่เพิ่งหนีออกมาไปรบเพราะจะให้พักผ่อนกระมังขอรับ” เรย์นิเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม … หากแต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้นหรอก…
“เจ้าคิดเช่นนั้นหรือ?” หันไปถามด้วยความข้องใจ และก็ได้คำตอบจากการพยักหน้าน้อยๆ ของเรย์นิ(และการพยักหน้ารัวๆ ของมิเก็นสึ)
“เพราะเช่นนั้น ท่านต้องนอนพักให้มากๆ นะขอรับ … ตั้งแต่มาท่านยังไม่ได้พักเพราะเป็นห่วงอาการของข้าสินะขอรับ ท่านไปนอนพักดีกว่านะขอรับ” ว่าด้วยรอยยิ้มหากแต่ยูคิมูระ… ใช่คนที่ฟังใครง่ายๆ เสียที่ไหน? “ข้าไม่ไปหรอก เพราะยังไม่รู้ว่าเจ้าแข็งแรงดีแล้วจริงๆ”
“ข้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ขอรับ”
“ข้าไม่เชื่อหรอก เจ้านั้นแหละต้องนอนพัก เพราะเจ้าต้องออกไปรบด้วย!”
“ข้าเป็นห่วงสุขภาพท่านมากกว่านะขอรับ”
“ข้าจะไม่ไปจนกว่าเจ้าจะหลับ นอนซะ!”
… ริมฝีปากของอนเมียวหนุ่มกระตุกขึ้นเล็กน้อย พอๆ กับคิ้วที่กระตุกด้วยความหงุดหงิด … โอยากาตะซามะขอรับ ท่านเลี้ยงเด็กคนนี้ออกมาได้ประสบความสำเร็จมากขอรับ…
ด้านหัวดื้อเนี่ย!!!
“อินุกามิ … อามาโนะจากุ” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเรียกความงุนงงให้แก่ยูคิมูระ…หากแต่ไม่ถึงเสี้ยวนาทีต่อมาเขาก็ถูกชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสองคนช้อนแขนขึ้นคนละข้าง
“เอ๋?”
“อินุกามิ อามาโนะจากุ … พาเขาไปพักผ่อนด้วย” ยิ้มออกมาโดยที่ใบหน้าทะมึน(จนมิเก็นสึขนลุก) ชายหนุ่มทั้งสองพยักหน้าน้อยๆ แล้วพยุงร่างสีแดงออกไป
“เอ๋? ไม่ใช่ข้านะที่ต้องพักผ่อน แต่ต้องเป็นเรย์นิสิถึงจะถูก” ยัง…ยังไม่รู้เรื่องว่าตอนนี้มหาอนเมียวจิเข้าสู่โหมดหงุดหงิดขั้นที่หนึ่ง … แต่ยังไม่ได้ทำอะไรต่ออินุกามิและอามาโนะจากุก็หามร่างบางออกไปได้สำเร็จ
“เฮ้อ~” หมอหนุ่มแห่งไคถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่ารังสีทะมึนรอบตัวของอนเมียวหนุ่มหายไปแล้ว แล้วจึงเริ่มเปิดประเด็นใหม่
“ท่านคิดว่าถ้าท่านไปเองแล้วชะตาจะเปลี่ยนได้หรือขอรับ”
“ข้าไม่คิดว่าชะตาจะเปลี่ยนง่ายๆ หรอกเก็น … แต่ก็คงจะทำให้มันคลาดเคลื่อนได้… จากที่มังกรตาเดียวต้องตายในศึกนี้อาจจะเปลี่ยนเป็นแค่บาดเจ็บหนักเท่านั้นก็ได้” เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ …ลูบรอยสักกางเขนบนใบหน้าของตนเองเบาๆ “ข้าคิดว่าไอนาซะจะต้องรู้เรื่องนี้แล้ว … เขาต้องหาวิธีเบี่ยงเรื่องนี้ได้”
…ใช่ เขาอยากเชื่อแบบนั้น
“…หากท่านยังยืนยันเช่นนั้น ข้าก็จะทำตามที่ท่านบอกขอรับ” เจ้าของเรือนผมสีเขียวเข้มน้อมรับน้อยๆ เป็นการเสริมคำพูดของตนเอง
“แล้วปิ่นเพลิงอยู่ที่ไหนกันเล่า”
“…อยู่กับโทโยโทมิโดโนะขอรับ” ด้วยคำตอบของคนสนิททำให้มืออีกข้างที่วางไว้บนตักกำแน่น “…งั้นหรือ…”
…แล้วแบบนี้เขาจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้จริงๆ หรือ
ความคิดเห็น