ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [แปล] บันทึกการสงครามของคุโระ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 เขตเอรากิส

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.12K
      15
      21 เม.ย. 57

    *ผมลองเปลี่ยนคำว่า ชั้น เป็น ฉัน นะครับ อาจจะดีกว่า (มั้ง)


    บทแรก จุดเริ่ม

    ตอนที่ 3 เขตเอรากิส

    หลังจากคุโรโนะ ฮารุมิทสึกลายเป็นลูกเลี้ยงของขุนนาง บารอนโครฟอร์ด และเปลี่ยนชื่อเป็นโครโน่นั้น เวลาก็ผ่านไปสามปีแล้ว

    ปี แรกเป็นการเรียนภาษาและวิชาป้องกันตัวขั้นพื้นฐานกับพ่อบุญธรรม ปีที่สองกับปีที่สามเป็นการรับการศึกษาเพื่อให้เป็นผู้บังคับบัญชาที่ โรงเรียนเตรียมทหารในเมืองหลวง

    ซึ่งโครโน่ก็เป็นนักเรียนที่โหลยโท่ยจนตนเองยังตกใจ

    แต่โดนให้ไปเรียนกับพวกที่ฝึกดาบกับขี่ม้าตั้งแต่เด็กนี่นะ

    โครโน่ที่ไม่เคยจับดาบ แถมประสบการณ์การเล่นกีฬาก็ไม่ค่อยมีนั้นสู้ไม่ไหวแน่ๆ

    จนสุดท้าย สองปีนั้นก็ทำให้โครโน่ได้รับรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองโดยไม่ต้องร้องขอด้วยซ้ำ

    เพราะ เช่นนั้น... เขาเลยเชื่อว่าตนคงได้รับตำแหน่งเจ้าของที่ดินแถวๆบ้านนอก แล้วก็จัดการบริหารที่ว่านั้นพร้อมกับผจญสงครามเล็กๆน้อยๆ แล้วแก่ตายอย่างมีความสุข


    แต่ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นนะ


    ตอนนี้โครโน่อยู่ในห้องของตัวเองในคฤหาสน์เอรากิส

    โครโน่อยู่บนเตียง ในสภาพไม่ใส่อะไรเลย แล้วข้างๆก็มีเรย์ร่าในสภาพไม่ใส่อะไรเช่นกันนอนหลับอยู่


    ทำไม?


    เมื่อคืน เรย์ร่ามาห้องโครโน่

    ซึ่งปกติแล้ว ทหารอย่างเรย์ร่านั้นไม่สามารถเข้ามาในคฤหาสน์เอรากิสได้ โครโน่จึงต้องให้เธอเข้ามาในห้อง

    แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ทำไม่ได้แม้แต่จะเป็นฝ่ายกดเธอลงบนเตียง

    เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ที่ระยะห่างของทั้งสองคนดูจะลดลงเรื่อยๆ

    แล้วเรย์ร่าจึงใช้นัยน์ตาปริ่มน้ำมองโครโน่ เข้ามาจูบกระตุ้นสัญชาติญาณสัตว์ป่าของเขาให้ตื่นขึ้นมา.... แล้วผลก็เป็นแบบนี้


    "....ท่านโครโน่คะ?"

    "อา.... นอนต่ออีกหน่อยก็ได้นะ"

    เรย์ร่าพยักหน้าแล้วเข้ามานัวเนียโครโน่เหมือนกับลูกสุนัขแทน

    "ยกหัวขึ้นหน่อย"

    "เอ๊ะ? ...ค่ะ"

    แล้วโครโน่จึงสอดแขนของตนไปรองศีรษะของเรย์ร่า

    "เอาลงได้แล้ว"

    "เอ๊ะ.. แต่..."

    "เอาเถอะน่า"

    เรย์ร่าลดศีรษะลงวางลงบนแขนของโครโน่อย่างลังเล

    "เอ่อ... ไม่เป็นการรบกวนใช่ไหมคะ?"

    "ถ้าจะให้พูดจริงล่ะก็.... ออกจะตกใจมากกว่าน่ะ"

    โครโน่เล่นหูของเรย์ร่า ซึ่งเธอก็ทำท่าพอใจ

    "เอาจริงๆเลย... ครั้งแรกนี่นะ"

    พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน โครโน่ก็รู้สึกอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

    "เอ่อ...ฉัน "ความรักของฉันเป็นของคุณคนเดียวค่ะ" "

    โครโน่ทวนคำพูดของเธอตัดบทเรย์ร่าที่ทำท่าจะร้องไห้

    "ผมจะเชื่อคำพูดนั้นนะ"

    "คือว่า..... ฉันเองก็... เป็นครั้งแรกเหมือนกันค่ะ...ที่ได้.... อย่างอ่อนโยนขนาดนั้"

    คราวนี้โครโน่จูบปิดปากไม่ให้เรย์ร่าพูดต่อแทน

    แน่นอนว่าอดีตของเธอไม่เกี่ยวกับปัจจุบัน แต่พอพูดถึงผู้ชายคนอื่นนอกจากตัวเองแล้วมันก็รู้สึกไม่ค่อยดี

    "...อีกครั้ง... ได้ไหม"

    "คะ...ค่ะ ได้โปรด... รักฉันด้วยเถอะค่ะ"

    "จะอ่อนโยนเท่าที่ทำได้นะ"

    จังหวะที่โครโน่กำลังจะกดเรย์ร่าลงบนเตียงนั่นเอง ประตูก็เปิดขึ้นในจังหวะที่แย่ที่สุด

    "โครโน่! สายแล้ว.......นะ"

    ความเงียบก็บังเกิดขึ้น

    "ถะ...ทำ อะไรอยู่ แกน่ะ.... พาฮาล์ฟเอลฟ์ขึ้นเตียงได้ยังไง! ไม่มีศักดิ์ศรีในความเป็นขุนนางของจักรวรรดิเลยหรือ! หา! ไม่สิ... โดนฮาล์ฟเอลฟ์ตรงนั้นล่อลวงมาสินะ!"

    ทำยังไงถึงรู้ว่าเป็นฮาล์ฟเอลฟ์ได้ในชั่วพริบตากันนะ โครโน่คิดพร้อมมองทีเรียที่กำลังโกรธจนลุกเป็นไฟ

    "การที่ฮาล์ฟเอลฟ์อย่างแกจะมานอนกับขุนนางของจักรวรรดิน่ะ ยังเร็วไปร้อยปี! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!"

    โครโน่ลูบหัวเรย์ร่าที่ทำหน้าเหมือนจะสลบไปตรงนั้น แล้วยืนประจันหน้าทีเรีย

    แน่นอนว่าเขาอยู่ในสภาพไม่มีอะไรปิดบังส่วนล่างเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

    "พอได้แล้ว"

    "โคร.....! กะ...กะ....แก! ค....คิดว่าเอาของแบบนั้นชี้ใส่ฉันแล้วจะหนีรอดไปได้งั้นเหรอ! โทษหมิ่นประมาทนะ!"

    "...ทีเรีย.. คนที่พาเธอขึ้นเตียงน่ะคือผม แล้วการที่มีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกันก็เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับนะ"

    คุณงวงช้างของโครโน่เด้งขึ้นลงระหว่างพูด

    "ก็บอกว่าอย่าเอาไอ้ของแบบนั้นชี้มาทางฉันยังไงล่ะ!!!!"

    "เมื่อกี้เธอพูดเรื่องศักดิ์ศรีสินะ ผมว่าแค่เรื่องที่เธอเป็นฮาล์ฟเอลฟ์มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของขุนนางเลยนะ"

    สุดท้ายทีเรียก็ต้องหันหลังให้กับคุณงวงช้างของโครโน่ที่ยังสั่นขึ้นลงไม่หยุด

    "คะ..โครโน่! มาที่ห้องทำงานเดี๋ยวนี้!"

    ชนะแล้ว... โครโน่กำมือขณะที่มองทีเรียหนีออกจากห้อง

    "....ท่านโครโน่คะ"

    "จาก นี้ผมจะไปหาทีเรียหน่อยนะ เรย์ร่าก็ทำตัวเหมือนปกติแล้วกัน แล้วก็เรื่องของเราจะไปบอกคนอื่นก็ได้ แต่อย่าทำทีท่าเหนือกว่าใส่เพื่อนร่วมงานล่ะ"

    "แน่นอนค่ะ ท่านโครโน่"

    โครโน่ใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกจากห้องไป


    *


    ทีเรียรอโครโน่อยู่ในห้องประชุมซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของคฤหาสน์เอรากิส

    "แล้ว.... มีธุระอะไรหรือ?"

    "....แก... อย่าเหลิงให้มากนักนะ ถ้าไม่ใช่แกล่ะก็ โดนโทษตายไปแล้ว.. เอา..อะ...ไอ้ของแบบนั้นมาให้ฉันดูได้...."

    ทีเรียบ่นด้วยแก้มแดงระเรื่อ

    ".....ได้คนมารับตำแหน่งต่อจากมาร์ควิสเอรากิสแล้ว"

    แล้วจึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มอย่างมีเลศนัย

    "นายนั่นล่ะ... โครโน่"

    "แล้วที่ของบารอนโครฟอร์ดล่ะ?"

    "ไม่มีปัญหานี่ บารอนโครฟอร์ดเองก็น่าจะอยู่ได้อีกซักพัก แถมถึงมีอะไรขึ้นมาแต่งตั้งตัวแทนไปก็ได้"

    เธออยากจะหาพวกล่ะมั้ง... โครโน่จ้องทีเรีย

    ตอนนี้จักรพรรดิของจักรวรรดิเคเฟอุสมีพระราชธิดาสององค์กับภรรยาหลวง และพระราชโอรสหนึ่งองค์กับนางสนม

    เพราะงั้นคนที่ควรจะได้ตำแหน่งต่อก็คือทีเรีย... ถึงอย่างนั้น พวกที่สนับสนุนให้พระราชโอรสของนางสนมเป็นจักรพรรดิก็มีอยู่

    ผมไม่รู้หรอกว่าพวกของฝ่ายตรงข้ามทีเรียจะมีกำลังพลมากขนาดไหน แต่เธอคงอยากหาพรรคพวกให้มากขึ้นแม้แต่หนึ่งคนก็ยังดี

    แย่จริง... รู้สึกตัวเองเริ่มห่างจากความฝันที่จะเป็นขุนนางบ้านนอกไปเรื่อยๆแฮะ

    แต่เอาเถอะ ถึงจะมาไม่ทัน เธอก็เป็นคนมาเอากำลังเสริมมาช่วยโครโน่ แล้วก็มีเรื่องของลูกน้องด้วย

    "ว่ายังไง โครโน่?"

    "เข้าใจล่ะ แล้วได้งบมาเท่าไหร่"

    "ไม่มีหรอก"

    เธอพูดหน้าตาเฉย

    "....ใช้คำถามผิดไปรึเปล่านะ? ท่านเจ้าหญิงครับ... กระผมได้รับเงินสำหรับบริหารเขตเอรากิสมาเท่าไหร่ขอรับ?"

    "ก็ บอกว่าไม่มีไงล่ะ ก็ฉันแต่งตั้งโครโน่ด้วยตัวเองนี่นะ เพราะงั้นจะเอาเงินจากไหนมาให้ล่ะ จะไปยืมจากท้องพระคลังก็ไม่ได้นา แต่เงินเดือนทหารนั้นจักรวรรดิจ่ายให้ทุกเดือนอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง"

    "งั้นก็. ต้องพึ่งเงินในคลังของเขตเอรากิสอย่างเดียวสินะ"

    "เงินส่วนนั้นใช่ไปกับค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้างของพวกคนใช้หมดแล้ว ตอนนี้ในคลังไม่เหลือแม้แต่แดงเดียว"

    ตุบ.... โครโน่รู้สึกเหมือนโดนของแข็งฟาดใส่หน้า

    "แล้วจะให้บริหารยังไงเงินไม่เหลือสักแดงเนี่ยหา!?"

    "อุตส่าห์เป็นขุนนางของจักรวรรดิมาห่วงแต่เรื่องเงินๆทองๆแบบนี้ได้ยังไง นายน่าจะมีเกียรติในฐานะขุนนางมากกว่านี้หน่อยนะ"

    "ถ้าไอ้เกียรตินี่มันเอามากินกันตายได้ก็อยากจะมีชีวิตอย่างมีเกียรติอ่ะนะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจัดการเรื่องเงินเองก็ได้.."

    โครโน่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนออกจากห้องทำงานไป


    *


    "ท่านแม่ทัพ รูปปั้นนี่เอาไว้ตรงไหนดี"

    "วางๆให้มันมองเห็นง่ายๆก็พอ"

    คร้าบ... ผู้ช่วยตอบแล้ววางรูปปั้นไว้บนพื้น

    "นี่สุดท้ายแล้วใช่ไหม"

    "อือ... รูปปั้นนี่เป็นของชิ้นสุดท้ายในคลังสมบัติแล้ว"

    "แต่ก็.... ตุนไว้เยอะพอสมควรเลยนะเนี่ย"

    โครโน่พูดพร้อมกวาดตามองเมจิกไอเท็มและงานศิลปะที่วางเรียงรายอยู่เต็มห้องโถง

    ของ ที่ผู้ช่วยขนมานั้นมีทั้งรูปปั้นเปลือย ไหที่ดูมีราคา ภาพเขียน แล้วก็พวกอาวุธที่ดูจะมีพลังเวทย์ หรือดูจะมีความหลังติดตัว แล้วก็พวกของที่ดูเหมือนจะเป็นเมจิกไอเท็ม

    "โทษทีนะทุกคน"

    โครโน่พูดกับลูกน้องกึ่งมนุษย์ทั้งหลาย

    ลูก น้องที่เป็นกึ่งมนุษย์ของโครโน่นั้นมีแปดคน เริ่มจากผู้ช่วย มนุษย์หมาป่าขนขาว มนุษย์หมาป่าขนเทา มนุษย์สิงโตขนทอง ลิซาร์ดแมน มิโนเทารุส คนแคระ แล้วก็เรย์ร่า

    คนทั้งหมดในที่นี่เป็นหัวหน้าหน่วยทหารที่มีลูกน้องร้อย คน.... ยกเว้นแต่เรย์ร่าที่มีลูกน้องเป็นเอลฟ์ที่รอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมา ทั้งห้าสิบคน

    "ท่านแม่ทัพ จะเอายังไงกับของพวกนี้หรือ?"

    "จริงๆอยากจะเก็บไว้อีกหน่อย แต่สรุปคือผมได้ตำแหน่งต่อบริหารเขตเอรากิสต่อจากมาร์ควิสน่ะ"

    โอ้~ ลูกน้องทั้งแปดส่งเสียงออกมา

    "ตรงนั้นมันก็ดีอยู่หรอก แต่ไม่ได้ทุนมาเลย... เพราะงั้นเลยต้องขนของส่วนตัวของมาร์ควิสไปขายน่ะ"

    โห่~ ลูกน้องทั้งแปดส่งเสียงออกมาในโทนที่ต่างจากเมื่อกี้นิดหน่อย

    "...ท่านแม่ทัพ"

    "ไม่ ต้องบอกก็รู้น่า.... ผมเองก็อยากจะอยู่แบบขุนนางให้ทุกคนเอาไปอวดคนอื่นได้อยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีเงินก็จ่ายเงินชดเชยส่วนที่มาร์ควิสโกงไปไม่ได้นะ"

    โครโน่ตบบ่าผู้ช่วย

    "เพราะงั้นมาทำบัญชีรายชื่อสินค้ากันดีกว่า.. เรย์ร่า!"

    "ค่ะ ท่านโครโน่"

    โครโน่ยื่นกระดาษขวดหมึก และปากกาขนนกให้เรย์ร่า

    "เดี๋ยวผมจะตั้งชื่อให้ของแต่ละอัน เธอช่วยเขียนให้ทีนะ"

    "อ่า...เอ่อ... ท่านโครโน่คะ..."

    เรย์ร่าเรียกโครโน่ด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ

    "ทำไมหรือ?"

    "ท่านแม่ทัพ เรย์ร่าเขียนหนังสือไม่ได้หรอก"

    พอโครโน่หันไปหาผู้ช่วย เขาก็ตอบด้วยท่าทีรู้สึกแย่

    "ในนี้ใครอ่านออกเขียนได้บ้าง ยกมือขึ้น!"

    พอไม่มีใครยกมือ โครโน่ก็ถึงกับอึ้งในระดับการศึกษาของที่นี่

    "ขอโทษที่ไร้ประโยชน์ค่ะ ท่านโครโน่....."

    โครโน่รับชุดเครื่องเขียนมาจากเรย์ร่า แล้วเดินไปทางรูปปั้นที่วางอยู่หน้าสุด

    "อันดับที่หนึ่ง รูปปั้นเปลือย... อันดับที่สอง ไห"

    ไห ไห ไห ภาพวาด ไห..... มีไหเยอะจนอยากจะถามว่าจะเอาไหไปทำอะไรมากมายเลย

    "....อันดับที่ยี่สิบ.. ขวานด้ามยาว?"

    "ท่านโครโน่คะ นี่น่าจะเป็นอาวุธที่มีพลังเวทย์นะคะ"

    เรย์ร่าตอบโครโน่ด้วยท่าทีภูมิใจ

    "มีผลลัพธ์แบบไหนหรือ?"

    "ขออภัยด้วยค่ะที่ไม่ทราบถึงขนาดนั้น"

    อืมมมมม.... โครโน่เริ่มพิจารณาขวานด้ามยาวท่ว่า

    มันมีความยาวประมาณสามเมตร...ล่ะมั้ง?

    ส่วนด้ามเป็นโลหะทั้งหมด ชวนให้โครโน่นึกถึงคทาของนักบวชที่เคยเห็นเมื่อครั้งไปทัศนศึกษาที่วัด

    "คุณมิโน ถือไหวไหม?"

    "แค่นี้ไหวอยู่แล้ว"

    ผู้ช่วยพูดพร้อมยกขวานด้ามยาวขึ้นมา

    "งั้นเป็นของคุณมิโนไปแล้วกัน"

    "เอาจริงหรือ ท่านแม่ทัพ!?"

    "อาวุธมันมีไว้ให้ใช้นะ"

    ถึงจะขายไปก็ไม่น่าจะได้เงินมากนี่นะ

    "ก็ไปก็...ลูกแก้ว?"

    "นั่นเป็นของที่ไว้ใช้พูดคุยกับเป้าหมายในระยะไกลค่ะ"

    พอโครโน่หยิบลูกแก้วที่ถูกเก็บไว้ในกล่องไม้ขึ้นมา เรย์ร่าก็พูดขึ้น

    ในกล่องนั้นมีลูกแก้วอยู่ประมาณยี่สิบลูก

    "ระยะทำการประมาณ?"

    "รู้สึกว่า.... ถ้าอยู่ในเมืองนี้ล่ะก็ จะอยู่ตรงไหนก็ใช้ได้ค่ะ"

    น่าจะมีประโยชน์เวลาสื่อสารกันแฮะ โครโน่จึงหยิบมายื่นให้ลูกน้องทุกคน

    "ให้ไว้เป็นช่องทางการสื่อสารแล้วกัน ต่อไปก็....ธนู?"

    โครโน่หยิบธนูขึ้นมาจ้องอย่างระมัดระวัง

    ดูเหมือนธนูคันนี้จะถูกสร้างด้วยวัตถุดิบหลายชนิดมาผสมกัน

    "นั่นมัน.. ธนูประกอบสินะครับ ถึงจะเป็นธนูที่สามารถยิงระยะไกลได้ แต่วิธีการสร้างของมันเป็นความลับน่ะ"

    คนตอบคือคนแคระหัวหน้าหน่วยนั่นเอง

    ดูเหมือนว่าคนแคระที่อยู่ในจักรวรรดิในเคเฟอุสนั้นแทบทุกคนจะเรียนวิชาช่าง แล้วค่อยเข้ากองทัพเป็นเรื่องปกติ

    "นี่เราเอามาผลิตเองได้ไหม?"

    "...ถ้ามีที่ทำงานล่ะก็"

    "เรื่องเงินเดี๋ยวผมจัดการให้แล้วกัน ตอนนี้ลองหาวิธีผลิตไปก่อน"

    โครโน่ยื่นธนูประกอบให้คนแคระไปก่อน

    "อา.... ไห ไห ภาพวาด ภาพวาด รูปปั้นเปลือยขนาดเท่าฝ่ามือ.. อันดับที่ห้าสิบ ดาบ"

    "ดูไม่มีพลังเวทย์อยู่นะคะ"

    "งานก็ไม่ได้ดีมากนะครับ"

    "คิดว่าจะขายได้เท่าไหร่?"

    อืม..... โครโน่ เรย์ร่า กับคนแคระเงียบพร้อมกัน

    "ท่านโครโน่คะ พวกฉันไม่ใช่พ่อค้านะคะ"

    "ถ้าไม่รู้ราคาตลาดเดี๋ยวก็โดนกดราคาอีก ต้องหาวิธีปล่อยของด้วยสินะ.. แต่เอาเป็นว่าทำรายชื่อให้เสร็จก่อน"

    ไห ไห ไห จาน จาน ภาพวาด ภาพวาด ขวานพลังเวทย์นี่ให้หัวหน้าหน่วยลิซาร์ดแมนไป... ดาบใหญ่พลังเวทย์นี่ให้หัวหน้าหน่วยมนุษย์สิงโตไป... รูปสลัก รูปสลัก ดาบพลังเวทย์สองเล่มนี่ให้หัวหน้าหน่วยมนุษย์หมาป่าไป...

    ดาบที่มีตราราชวงศ์นี่ผมเก็บไว้เอง... พวกแร่มีค่าเอากลับไปไว้ที่เดิม... เกราะกับดาบที่อาจจะได้ใช้เอากลับไปไว้ที่เดิม.....

    "ไหส้องร้อย จานสามร้อย ภาพวาดห้าสิบ รูปสลักใหญ่สิบ เล็กห้าสิบ รวมทั้งหมดหกร้อยชิ้น...... เก็บไว้เยอะจริงๆ"

    เมื่อโครโน่ทำรายชื่อเสร็จ พระอาทิตย์ก็ลับฟ้าไปแล้ว


    *


    กลุ่มการค้าพิกซ์นั่นเป็นกลุ่มการค้าขนาดใหญ่ที่มีร้านสาขาจำนวนมาก มีอำนาจครอบคลุมทั่วจักรวรรดิเคเฟอุส

    โดยมีนิโคล่าเป็นผู้ดูแลสาขาในเขตเอรากิส แต่ความสามารถในฐานะพ่อค่าของเขานั้นไม่สูง

    เขาต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่นเท่าตัวในเพื่อที่จะมาถึงจุดที่เขายืนอยู่ และเขาก็รู้ว่าเขาคงไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้ในสายอาชีพแล้ว

    เพราะงั้น ร้านสาขาเอรากิสนั้นก็เหมือนกับจุดจบของคนอย่างนิโคล่า

    แต่เขาก็ยังทำงานให้กลุ่มการค้าอย่างไม่ย่อท้อ

    ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าแบบไหนเขาก็จะไม่ดูถูก ไม่ว่าจะเป็นเด็กฝึกงานคนไหนเขาก็จะดูแลเป็นอย่างดี

    และเย็นนี้ ก็มีหญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์กับเด็กหนุ่มที่เหมือนจะเป็นขุนนางมาหาเขา

    เด็ก หนุ่มที่น่าจะเป็นขุนนางนั้นอายุไม่น่าจะถึงยี่สิบ ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นผู้ผ่านสงครามมา สังเกตุได้จากแก้มขวาที่มีแผลเป็น และตาขวาที่ปิดอยู่ ดูออกว่าสูญเสียการมองเห็นไปแล้ว

    ส่วนหญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์นั้นอายุน่า จะประมาณยี่สิบหน่อยๆล่ะมั้ง ไม่สิ เธอมีสายเลือดของเอลฟ์ที่มีอายุขัยมากกว่ามนุษย์ถึงสองถึงห้าเท่านี่นะ จะตัดสินอายุจากภายนอกนั้นยาก... ส่วนร่างกายก็ผอมเพรียว ให้ความรู้สึกขาดอาหารนิดหน่อย ชุดก็ดูโทรมๆ

    น่าจะเป็นขุนนางกับชู้รัก หรือว่าโสเภณีที่พึ่งซื้อมาเล่นด้วยล่ะมั้งนะ....

    "ไม่ทราบว่ามีธุระแบบไหนครับ?"

    "อยากซื้อชุดให้เธอหน่อยน่ะ"

    เด็กหนุ่มที่เหมือนจะเป็นขุนนางตอบนิโคโล่ที่ยิ้มให้

    "ถ้างั้น.. ชุดทางนี้เป็นยังไงบ้างครับ?"

    นิโคล่าแนะนำกระโปรง เสื้อนอกและเสื้อในลายดำตัดน้ำเงินให้

    "ลองใส่ดูได้ไหม?"

    "ครับ ห้องลองเสื้ออยู่ทางนี้ครับ... เวล นำทางให้คุณลูกค้าหน่อย"

    นิโคล่าเรียกเด็กฝึกงานของกลุ่มการค้ามานำทางให้หญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์

    "เท่าไหร่?"

    "เหรียญทองห้าเหรียญครับ"

    ตอนแรกเขานึกว่าจะโดนต่อแล้ว แต่เด็กหนุ่มก็จ่ายเงินแต่โดยดี

    ดูเด็กหนุ่มมีมารยาทมากเทียบกับท่าทางแฮะ

    "....หัวหน้าสาขา มีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อยน่ะ"

    "อะไรหรือครับ?"

    "คือ.... ได้คำสั่งมาให้ขายของตกแต่งกับงานศิลปะน่ะ แต่กำลังกลุ้มอยู่เพราะไม่รู้ราคาตลาด...."

    ฮะๆ นิโคล่าเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงยอมจ่ายเงินโดยไม่ปริปากบ่น

    "ถ้าไม่รังเกียจ ปรึกษาผมก็ได้ครับ"

    "งั้นหรือ!"

    ไม่ถึงชั่วโมงต่อมา นิโคล่าก็เริ่มเสียใจที่ให้คำปรึกษาเด็กหนุ่มคนนั้น

    เพราะสินค้าที่ต้องตีราคาให้มีทั้งหมดหกร้อยกว่าชิ้น แล้ววันขายคือวันพรุ่งนี้นั่นเอง....


    *


    วันรุ่งขึ้น นิโคล่าก็ฝากให้ลูกน้องที่ไว้ใจได้ดูแลร้าน แล้วมายังคฤหาสน์เอรากิสกับสมาชิกฝึกหัดเวล

    จู่ๆ เวลก็พูดขึ้นเมื่อรถม้าเข้ามาในเขตคฤหาสน์

    "หัวหน้าสาขา หัวหน้าสาขา!"

    "มีอะไรหรือครับ?"

    "พวกเรา... จะไม่โดนฆ่าใช่ไหมคะ....?"

    หือ? นิโคโล่ส่งเสียงแปลกใจเมื่อได้ยินคำถาม

    "แบบว่า.. รู้ราคาแล้วก็ไม่มีธุระกับพวกเจ้าอีกแล้ว! อะไรทำนองนี้"

    "คงไม่ล่ะมั้ง...."

    เขาแบ่งงานกับลูกน้อง ขนหีบเหรียญทองเข้าไปยังห้องโถงที่เต็มไปด้วยมนุษย์และกึ่งมนุษย์

    เหล่ากึ่งมนุษย์นั้นยืนราวกับจั้งใจจะล้อมรอบห้องโถง... และมนุษย์... หรือก็คือเหล่าพ่อค้าที่มีอำนาจในเขตเอรากิสนั่นเอง

    "เหมือนจะ...มีอะไรบางอย่างนะคะ.. แล้วก็..แท่นตรงนั้น....เหมือนกับแท่นประหารเลย...."

    "เงียบเถอะ"

    พอเวลาผ่านไปซักพัก เด็กหนุ่มเมื่อวานก็เดินขึ้นไปบนเวที

    "ท่านทั้งหลาย ผม โครโน่ โครฟอร์ด.... เป็นผู้รับสืบทอดตำแหน่งบริหารเขตเอรากิสแห่งนี้"

    เด็กหนุ่ม... โครโน่พูด

    "หลัง จากนี้ผมตั้งใจว่าจะขายของที่มาร์ควิสเหลือไว้ เพื่อเป็นทุนในการบริหาร และวิธีนั้นก็เป็นวิธีที่พวกท่านคุ้นเคย.... คือการประมูลนั่นเอง!"

    เป็นขุนนางที่สุดๆจริงๆ นิโคโล่มองโครโน่ด้วยความแปลกใจครึ่งหนึ่งความหน่ายใจครึ่งหนึ่ง

    โครโน่เองคงไปหาพ่อค้าหลายคนนอกจากนิโคล่าด้วยแน่ๆ

    จริงแล้วจะขายแก่พ่อค้าที่ให้ราคาสูงสุดก็ได้ แต่โครโน่เล็งที่จะขายในราคาที่แม่นยำกว่านั้น.... ด้วยการประมูล

    และถึงจะขายไม่ได้ เขาก็รู้ถึงราคากลางแล้ว ไม่น่าจะโดนตัดราคาได้ง่ายๆ

    "ก่อนอื่น นี่เป็นรูปสลักเปลือยที่สร้างในดินแดนอิสระที่อยู่ทางด้านเหนือ ราคาเริ่มตั้งแต่เหรียญทองสี่ร้อยเหรียญ!"

    "สี่ร้อยสิบ!"

    "สี่ร้อยสามสิบ!"

    "ห้าร้อย!"

    "ขาย!"

    "ต่อไปเป็นไหที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน"

    ตอน แรกนั้นไม่รู้ว่าเหล่าพ่อค้านั้นไม่อยู่ในอารมณ์ปกติ หรือโครโน่นั้นยุยงเก่ง หรืออยากจะได้หน้าตากับผู้ปกครองคนใหม่ไม่ทราบ แต่ของต่างๆนั้นถูกขายไปในราคาเหนือจากที่นิโคล่าคาดไว้

    การประมูลนั้นกินเวลาสองวัน นิโคล่าโดนบังคับให้พักอยู่ในคฤหาสน์

    การออกไปข้างนอกนั้นสามารถทำได้ แต่การพูดคุยกันระหว่างการประมูล... เพื่อป้องกันการฮั้วกัน.. นั้นถูกห้ามไว้

    "ซื้อไม่ค่อยได้เลยนะคะเนี่ย"

    "เอาเถอะ ช่วยไม่ได้หรอก"

    นิโคล่าตอบเวลอย่างไร้กำลัง

    เงินนั้นมีอยู่ แต่นิโคล่าไม่สามารถทนบรรยากาศแก่งแย่งขนาดนั้นได้

    สิ่งที่เขาประมูลมาได้ก็มีเพียงของที่พอใช้ได้จำพวกไหหรือชาม

    ส่วนของราคาแพงอย่างรูปสลักหรือภาพวาดนั้นโดนกลุ่มการค้าอื่นซื้อไปจนหมด

    "พ่อค้าจากกลุ่มการค้าพิกซ์!"

    "ครับ?"

    นิโคล่าถูกเรียกในจังหวะที่กำลังจะขึ้นรถม้ากลับ

    "ท่านโครโน่เรียกน่ะค่ะ"

    "มีธุระอะไรกับผมหรือครับ?"

    "ฉันไม่ทราบความคิดของท่านโครโน่หรอกค่ะ"

    หญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์ตอบด้วยท่าทางลำบากใจ

    นิโคล่าจึงไปห้องรับรองที่อยู่ชั้นสามของเขตเอรากิสด้วยการนำทางของหญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์

    "เป็นยังไงบ้าง พ่อค้าของพิกซ์"

    "ผมนิโคล่าครับ"

    "คุณนิโคล่า เชิญตามสบาย"

    นิโคล่านั่งลงบนโซฟาราคาแพง และเริ่มพูดคุยกับโครโน่

    จะว่ายังไงดีล่ะ.... เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มที่พบเห็นได้ทุกที่

    แถมยังดูใจดีอีกต่างหาก

    "การประมูลเป็นยังไงบ้าง"

    "ผลลัพธ์ท่านโครโน่ก็ทราบดีไม่ใช่หรือครับ"

    อืม โครโน่ยิ้ม

    แค่สองวันได้เหรียญทองมามากกว่าสามหมื่นเหรียญเสียอีก ไม่ยิ้มจะให้ทำยังไง

    จากการตัดสินของนิโคล่าเมื่อตอนนั้น ของทั้งหมดมีราคาแค่สองหมื่นเท่านั้นเอง

    โดนเด็กหนุ่มแค่นี้เล่นซะเปื่อย นิโคล่าสบถในใจ

    "แล้วมีธุระอะไรกับผมหรือครับ?"

    "นั่นล่ะ คืออยากให้กลุ่มการค้าพิกซ์... ไม่สิ อยากให้คุณนิโคล่าทำงานเป็นพ่อค้าของเมืองนี้ให้หน่อยน่ะ"

    เอ๊ะ! นิโคล่าตกใจจนหลังดันโซฟา

    "ทำไมถึงเป็นผมหรือครับ?"

    "การต้อนรับดีน่ะ"

    โครโน่ยิ้มแล้วส่งสายตาไปทางหญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์

    ดูจากท่าทางอายๆของเธอแล้ว รู้สึกว่าที่คิดว่าเป็นชู้รักนั้นไม่น่าจะผิด

    "ก่อนอื่นก็อาหารของพวกทหารล่ะนะ ถ้าเป็นจำนวนของคนซักหกร้อยห้าสิบคน จะเป็นเงินเท่าไหร่หรือ?"

    "ครับ ถ้าเป็นจำนวนนั้นล่ะก็.."

    เมื่อนิโคล่าอธิบายเรื่องราคาข้าวสาลีให้โครโน่พร้อมบอกจำนวนเงินแล้ว โครโน่ก็พยักหน้าอย่างพอใจ

    "ถ้าราคานั้นล่ะก็... ทำสัญญาห้าปีเป็นยังไงบ้าง? ถ้ามีคนเพิ่มขึ้นก็คิดเพิ่มจากฐานนั้น"

    "ถ้าเป็นอย่างนั้นก็โ... ไม่สิ ให้ทางผมรับผลเสี่ยงในกรณีที่ผลผลิตไม่ดีหรือครับ?"

    นิโคล่าเกือบจะพยักหน้า แล้วหยุดทันที

    อันตรายๆ

    ทั้งๆที่ดูใจดีแท้ๆ เด็กหนุ่มคนนี้ไม่เบาเลย

    "แต่ถ้าปีไหนผลผลิตดีก็ได้กำไรนี่"

    "ราคาตอนนี้... จะว่าราคาปกติก็ปกติอยู่"

    ถ้าเก็บข้าวช่วงที่ผลผลิตดีไว้ก็น่าจะกันความเสี่ยงได้... นิโคล่าคำนวณในใจ

    แล้วโครโน่ก็

    "ถ้ารักษาจำนวนกับคุณภาพของสินค้าได้ในระดับหนึ่งผมก็ไม่บ่นมากหรอก"

    โครโน่พูดราวกับว่าอ่านความคิดของเขาได้

    "เข้าใจแล้วครับ ว่าแต่... ท่านโครโน่เป็นขุนนางจริงๆหรือครับ?"

    "ถ้า"

    "ถ้าหยิ่งแล้วบริหารเมืองได้ผมก็อยากหยิ่งนะ"

    คนๆนี้ไม่ธรรมดา.... นิโคล่าตีค่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาใหม่


    *


    "เงิน ที่ได้จากการประมูลทั้งหมดเป็นเหรียญทองสามหมื่นกับอีกห้าร้อยเหรียญ แต่มีเงินเดือนที่ยังไม่ได้จ่ายอีกหกพัน เพราะงั้นก็เหลือสองหมื่นหกพันห้าร้อยเหรียญ... วันเก็บภาษีนี่เดือนสิบ... น่าจะอยู่รอดได้นะ... แต่ต้องทำที่ทำงานของพวกช่างด้วย...."

    ต้องหาคนใช้ด้วยสินะ ต้องทำทุกอย่างเองนี่มันลำบากจริงๆ โครโน่ฟุบลงบนโต๊ะ

    "...ขออภัยด้วยค่ะ ที่ทำประโยชน์ให้ไม่ได้"

    "หืม.... เอาเถอะ... แค่นี้เอง"

    ช่วยไม่ได้หรอก โครโน่ปลอบเรย์ร่าที่ห่อไหล่จนน่าสงสาร

    ในอนาคต สิ่งที่เรียนไปจะมีประโยชน์หรือ?

    คำตอบของคำถามที่โครโน่เคยคิดเมื่ออยู่ในญี่ปุ่นนั้น ฉายออกมาเมื่อเขาเห็นเรย์ร่าและเหล่ากึ่งมนุษย์

    ถ้าตั้งใจอยู่แค่ให้รอดไปวันๆการศึกษาก็คงไม่จำเป็นหรอก

    แต่ถ้าจะให้มองเห็นอนาคตของตนในห้าปีให้หลัง สิบปีให้หลังแล้ว การศึกษาขั้นพื้นฐานนั้นสำคัญ

    โครโน่ตัดสินใจเด็ดขาด แล้วเขียนอักษรที่คล้ายตัวอัลฟาเบทจำนวนยี่สิบหกตัวลงบนกระดาษ

    หลักภาษาที่ใช้ในจักรวรรดิเคเฟอุสนั้นเหมือนภาษาอังกฤษ ที่ต่างกันก็คือการออกเสียงที่เหมือนกับการเขียนแค่นั้น

    "...ท่านโครโน่ คืนนี้ไม่.....หรือคะ"

    "เรย์ร่า นั่งลง"

    โครโน่ยืนขึ้นแล้วให้เรย์ร่านั่ง

    "เอ่อ.. นี่คือ?"

    "เริ่ม จากคืนนี้ เดี๋ยวผมจะสอนการอ่านเขียนกับการคำนวณให้เอง ตอนนี้เธออาจจะยังไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม แต่เพื่อเรย์ร่าในห้าปีข้างหน้า ในสิบปีข้างหน้า.... แล้วเพื่อพวกเธอในร้อยปีข้างหน้าแล้ว ผมอยากให้พวกเธอเรียนสิ่งเหล่านี้ไว้น่ะ"

    เอาจริงๆคืนนี้ผมอยากมีอะไรกับเรย์ร่ามากกว่า

    เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ แล้วผมก็อยากจมลงไปกับความรู้สึกที่พึ่งจะพบด้วย

    การตอบรับความต้องการของเธอนั้นเป็นความรักสินะ

    แต่ผมว่า... การคิดถึงอนาคตของเธอก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความรักเหมือนกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×