ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [แปล] บันทึกการสงครามของคุโระ

    ลำดับตอนที่ #46 : บทที่สี่ แผนที่&ปทานุกรม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 797
      1
      5 ก.พ. 59

    *Copy+Paste ของบทที่แล้วมา

    บทที่สี่ เร่งฝีเท้า


    แผนที่&ปทานุกรม


    แผนที่


    http://image.ohozaa.com/i/723/hOOYKV.jpg


    จักรวรรดิเคเฟอุส


    http://image.ohozaa.com/i/e0c/nYC8bj.jpg


    เมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว ที่นี่ยังเป็นประเทศเล็กๆอยู่


    แต่ในยุคของจักรพรรดิรุ่นแรก จักรวรรดิได้ขยายอาณาเขตไปอย่างกว้างขวางจนแทบจะยึดครองเกาะได้


    และเมื่อสามสิบปีก่อน ก็มีสงครามกลางเมือง และการบุกรุกของชนเผ่าป่าเถื่อน ทำให้เกิดการตั้งตัวเป็นอิสระของเขตหลายๆเขต


    จนเขตการปกครองล่มสลายเหลือสองในสามของอดีต


    เมื่อเทียบกับประเทศข้างเคียงแล้ว นับว่านโยบายเรื่องอมนุษย์ยังดีกว่ามาก


    เมืองหลวง อัลฟิลค์


    http://image.ohozaa.com/i/398/NIr9dQ.jpg


    มีเมืองเก่าสี่ด้านล้อมรอบปราสาท ส่วนอีกแปดเขตข้างนอกนั้นเป็นพื้นที่เมืองที่สร้างขึ้นใหม่


    เขตสิบสองนั้นถือเป็นเขตบันเทิง อยู่ติดกับสลัม




    ราชอาณาจักรอัลโก้ศักดิ์สิทธิ์


    เป็นอาณาจักรที่เชื่อมั่นในเทพผู้สร้างทั้งหก


    โดยเทพที่มีผู้นับถือมากที่สุดคือ "เทพสีขาวบริสุทธิ์ผู้นำมาซึ่งความเป็นระบบระเบียบ"


    ส่วนเทพที่มีผู้นับถือน้อยที่สุดคือ "เทพธิดาสีดำสนิทผู้นำมาซึ่งความวุ่นวาย"



    รัฐอิสระ


    เป็นรัฐที่แยกตัวไปจากอาณาจักรเคเฟอุสในช่วงสามสิบปีก่อน


    ตอนนี้ดำเนินการบริหารโดยเหล่ากิลด์มาสเตอร์ของกิลด์พ่อค้าทั้งหาลย


    เข้าร่วมยากพอสมควร


    ได้ชื่อว่าเป็นที่ที่ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน ถ้ามีเงินก็จะมีชีวิตอย่างสุขสบาย


    และไม่ว่าจะเป็นชนชั้นไหน ถ้ามีความสามารถก็จะสามารถก้าวหน้าได้






    ปทานุกรม


    ขุนนางเก่า


    เหล่าขุนนางที่อยู่ในจักรวรรดิมาก่อนการจราจลเมื่อสามสิบปีที่แล้ว


    มีทั้งพวกมีความสามารถอย่างแท้จริง แล้วก็มีพวกไม่เอาไหนด้วย


    แต่โดยรวมๆแล้วจะเป็นพวกถือตัว ให้ความสำคัญกับตำแหน่งขุนนางของตัวเอง



    ขุนนางใหม่


    ใช้เรียกเหล่าขุนนางที่กลายมาเป็นขุนนางในช่วงเกิดการจราจล


    ถึงจะมีชื่อขุนนาง แต่ได้รับการปฏิบัติ้ด้วยเหมือนกับประชาชนที่มีที่ดินเป็นของตัวเองเท่านั้น


    แต่ด้วยเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา ก็สามารถเปลี่ยนที่ดินหลายๆที่ให้แหล่งผลิตสินค้าสำคัญได้


    มีความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิต่ำ แต่ถือว่าพวกขุนนางใหม่เหมือนกันเป็นพวกพ้อง



    ขุนนางท้องพระโรง


    เป็นขุนนางที่ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง หรือได้เสียที่ดินของตัวเองไป และกำลังทำงารในวัง



    ลำดับขั้นของขุนนาง


    ดยุค

    มาร์ควิส

    เคาต์น

    วิสเคาต์น

    บารอน

    กึ่งขุนนาง

    *ยศอัศวิน (เรียกได้ว่าใกล้เคียงฉายามากกว่าตำแหน่ง เพราะถ้าทำความดีความชอบถึงจะเป็นสามัญชนก็ได้รับเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร และไม่สืบทอดไปยังรุ่นต่อไปด้วย)



    กองอัศวินรักษาพระองค์


    เป็นกองอัศวินที่รับใช้จักรพรรดิ แบ่งเป็นสิบสองกองตามคำสั่งของจักรพรรดิรุ่นแรก



    เทพผู้สร้างทั้งหก


    คือเทพผู้สร้างโลกใหม่ขึ้นจากความวุ่นวาย


    โดยตอนแรกมีเพียงแค่ตัวธาตุ แสงสว่าง ความมืด ไฟ น้ำ ดิน และลม เท่านั้น


    แต่ในระหว่างเวลาที่ผ่านมา ผู้คนก็เริ่มสร้างความเกี่ยวดองระหว่างเทพแต่ละองค์กับเรื่องต่างๆบนโลก


    และด้วยการเรียกชื่อเทพตรงๆนั้นเป็นเรื่องที่ถูกห้ามเอาไว้ ทำให้คนต่างๆเรียกเทพแต่ละองค์ดังนี้


    "เทพสีขาวบริสุทธิ์ผู้นำมาซึ่งความเป็นระบบระเบียบ"


    "เทพธิดาสีดำผู้นำมาซึ่งความวุ่นวาย"


    "เทพสีแดงชาดผู้นำมาซึ่งการทำลายล่าง"


    "เทพธิดาสีน้ำเงินผู้นำมาซึ่งชีวิต"


    "เทพสีเขียวผู้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง"


    "เทพธิดาสีเหลืองผู้นำมาซึ่งผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์"



    ยศของนักบวช


    มหานักบวช ท๊อปขององค์กร

    หัวหน้าผู้ฝึกสอน ผู้ฝึกสอนชั้นสูง (ฝ่ายบริหารผู้ฝึกสอน)

    ผู้ฝึกสอน ผู้ที่ฝึกสอนนักบวชและหัวหน้านักบวช

    หัวหน้านักบวช นักบวชขั้นสูง (ฝ่ายบริหารนักบวช)

    นักบวช ผู้ดูแลโบสถ์ที่อยู่ตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆ

    นักบวชฝึกหัด ทำงานจิปาถะ

    ผู้เชื่อถือ




    *



    องค์กรโบสถ์ของจักรวรรดิเคเฟอุสกับราชอาณาจักรอัลโก้นั้นเป็นคนละองค์กรกัน


    ในเคเฟอุส โบสถ์จะไม่มีอำนาจมาก


    แต่ในอัลโก้ โบสถ์จะมีอำนาจทางการเมืองสูง



    กิลด์


    เป็นองค์กรที่เหล่าพ่อค้าก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง


    กิลด์ที่ต่างกันจะมีลำดับขั้น ในที่ดีกิลด์โสเภณีนั้นอยู่ค่อนข้างค่ำ



    กิลด์มาสเตอร์


    ผู้มีอำนาจสูงที่สุดในกิลด์




    อำนาจเทพ


    เป็นวิชาที่ยืมอำนาจส่วนหนึ่งของเทพ (โดยใช้การติดต่อการเทพ)


    ผู้ใช้จะสามารถใช้ได้แค่อำนาจของเทพที่ตนเชื่อถือ และยังมีความเสี่ยงต่อการพิการอีกด้วย


    แต่มีข้อดีคือผู้ใช้จะสามารถ รักษาบาดแผล ฟื้นฟูผืนดิน หรือยิงลำแสงออกมาได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในด้านนั้นๆเลย


    โดยชนิดของสิ่งที่ทำได้นั้นจะแตกต่างไปตามเทพที่นับถือด้วย


    เช่น "เทพสีแดงชาดผู้นำมาซึ่งการทำลายล้าง" ก็มักจะมีอำนาจเกี่ยวกับการทำลายล้างตามชื่อ และ "เทพธิดาสีน้ำเงินผู้นำมาซึ่งชีวิต" ก็จะมีอำนาจที่เกี่ยวกับการรักษา


    *ผู้แปล : อำนาจเทพกับเวทมนตร์นี่คนละอย่างนะครับ



    เวทมนตร์


    เป็นวิชาที่เปลี่ยนและแสดงผลของพลังเวทย์ของตนออกมาในความเป็นจริงๆ


    โดยปกติจะใช้ตัวยาชนิดหนึ่ง เพื่อบันทึกวิธีการ (บทร่าย) นั้นๆ ลงในหัวสมอง


    และด้วยธรรมชาติของการบันทึก แม้แต่ผู้ที่ไม่รู้หนังสือก็สามารถใช้ได้


    เวทมนตร์ที่สามารถเรียนได้นั้นจะแตกต่างกันไปตามคุณลักษณะของแต่ละคน


    เช่น เอลฟ์นั้นจะมีคุณลักษณะของดิน น้ำ ลม ไฟ แต่เผ่าอื่นๆแค่มีสองคุณลักษณะขึ้นไปก็ถือว่าบุญแล้ว


    ไร้ธาตุ คือเวทมนตร์ที่ไม่จัดอยู่ในคุณลักษณะของดิน น้ำ ลม ไฟ


    ถึงเวทมนตร์จำพวกโจมตีและป้องกันจะถูกพัฒนาไปอย่างมากแล้ว


    แต่เวทมนตร์จำพวกเวทย์รักษานั้นแทบจะไม่มีใครแตะต้องเลยก็ว่าได้



    เวทย์รักษา


    มีหน้าที่รักษาบาดแผลเหมือนชื่อ



    ปรับตัว


    เป็นอำนาจเทพที่สามารถยืดชีวิตให้แก่ผู้บาดเจ็บหนัก หรือทำให้ดอกไม้บานในฤดูหนาวก็ได้


    ถ้านับถือ "เทพสีเขียวผู้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง" จะมีฤทธิ์ทำให้ลอยได้ด้วย



    คมดาบศักสิทธิ์


    เสริมพลังอาวุธด้วยอำนาจแห่งเทพ เพิ่มพลังโจมตี


    ถ้านับถือ "เทพสีแดงผู้นำมาซึ่งการทำลายล้าง" แล้วล่ะก็ สามารถฟันเกราะของศัตรูขาดได้สบายๆ



    อัญเชิญเทพศาสตรา


    อัญเชิญอาวุธที่ถือว่าเป็นเทพศาสตราออกมา



    อัญเชิญเทพ


    สร้างตัวตนของเทพขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริง


    เป็นท่าไม้ตายของอำนาจเทพทั้งหมด



    ระบำแห่งเปลวเพลิง


    เป็นเวทมนตร์ที่ปล่อยสะเก็ดไฟพร้อมเสียงดังออกมา


    มีพลังทำลายไม่รุนแรงมากนัก



    ระบำแห่งน้ำแข็ง


    เป็นเวทมนตร์ที่ทำให้ของแข็ง


    มีพลังทำลายไม่รุนแรงมากนัก



    กระสุนเพลิง


    เวทย์มนตร์ที่ยิงลูกไฟขนาดเท่ากำมือออกไป พอสัมผัสเป้าหมายแล้วจะระเบิดออกทำให้เป้าหมายถูกเผาอย่างรวดเร็ว



    เสาเพลิง


    เวทมนตร์ที่ใช้ในการสร้างเสาเพลิงขนาดใหญ่



    ระบำแห่งสายลม


    เวทมนตร์ที่ใช้เรียกลมหมุนขึ้นใกล้ผู้ร่าย


    ถึงลมจะแรงแต่พลังทำลายนับได้ว่าต่ำ



    ดาบแห่งสายลม


    เป็นเวทมนตร์ที่เรียกคลื่นลมที่มีความคมเข้าโจมตีใส่ศัตรู



    ความสำราญของพระผู้เป็นเจ้า


    เป็นเวทมนตร์มิติชนิดหนึ่งที่ใช้ของเหลวสีดำเป็นตัวกลาง


    มีผลเคลื่อนย้ายของที่โดนของเหลวสีดำปกคลุมอยู่ได้


    มีพลังทำลายรุนแรงไปจนใช้ยาก




    กึ่งมนุษย์


    เป็นชื่อเรียกของเผ่าพันธ์อื่นนอกจากมนุษย์


    ซึ่งมีความหมายอย่างดูถูกตรงๆตัวว่า "พวกที่เป็นมนุษย์อย่างไม่สมบูรณ์"


    เผ่าที่ไม่ใช่เอลฟ์และคนแคระจะต้องใช้ไอเท็มแปลภาษาเพื่อสื่อสารกัน



    เอลฟ์


    กึ่งมนุษย์ที่มีผมทอง ตาสีฟ้า หูแหลม


    มีพลังเวทย์มาก และมีอายุขัยประมาณ 3-5 เท่าของมนุษย์


    อัตราการขยายพันธ์ต่ำมาก แต่ด้วยอายุที่ยาว จึงทดแทนกันได้


    มีจำนวนน้อยมาก


    ปกติจะมีหน้าตาดี เพราะงั้นถ้าอยู่ในที่ๆไม่ค่อยปลอดภัยแล้วจะเจอกับเรื่องแย่ๆ



    ฮาล์ฟเอลฟ์


    ครึ่งเอลฟ์ครึ่งมนุษย์


    ปกติจะเจอปัญหาแล้วตายก่อนจะโตเป็นผู้ใหญ่


    และไม่เคยมีฮาล์ฟเอลฟ์ที่เป็นคนรักของขุนนางเหมือนเรย์ร่ามาก่อนในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิเคเฟอุส



    คนแคระ


    เป็นเผ่าพันธ์ที่มีรูปร่างเตี้ย แต่มีพละกำลังมาก


    และส่วนใหญ่จะมีความสามารถทางช่างสูง สร้างอาวุธดีๆออกมาได้


    ส่วนใหญ่จะเป็นทาสในเหมือง หรือโดนใช้งานโดยที่ทำงานช่องของมนุษย์


    โดนใช้งานในโลกเบื้องหลังก็เยอะเหมือนกัน



    มิโนเทารุส


    มีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ และส่วนสูงที่มากกว่า 2 เมตร


    ถึงจะดูเหมือนเป็นพวกกินพืช แต่จริงๆแล้วกินได้ทั้งพืชทั้งสัตว์



    ลิซาร์ดแมน


    มีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ และส่วนสูงที่มากกว่า 2 เมตร


    ถึงจะดูเหมือนเป็นพวกกินเนื้อ แต่จริงๆแล้วกินได้ทั้งพืชทั้งสัตว์


    ไม่ค่อยถูกกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ (จะขยับร่างกายได้ช้าลง)



    มนุษย์หมาป่า


    สูงกว่ามนุษย์นิดหน่อย


    มีความจงรักภักดีสูง



    มนุษย์สิงห์โต


    จะตัวใหญ่กว่ามนุษย์หมาป่า แต่ตัวเล็กกว่าลิซาร์ดแมนหรือมิโนเทารุส



    มนุษย์เสือ


    จะตัวใหญ่กว่ามนุษย์หมาป่า แต่ตัวเล็กกว่าลิซาร์ดแมนหรือมิโนเทารุส



    เผ่าป่าเถื่อน


    ใช้เรียกกลุ่มของมนุษย์ที่บุกเข้ามาภายในจักรวรรดิเมื่อสามสิบปีที่แล้ว


    เป็นผู้ใช้อาคมที่ไม่ใช่ทั้งเวทมนตร์หรืออำนาจเทพ



    ธนูทดกำลัง


    ธนูที่มีรอกติด


    ภาษาอังกฤษว่า Compound bow



    เกราะชนิดใหม่


    เป็นเกราะชนิด Plate Armor ที่โกลดี้พัฒนาขึ้นมาใหม่


    สร้างด้วยโลหะที่นำมาให้ความร้อนสูง เพราะงั้นจึงมีความทนทานมากกว่า Plate armor ธรรมดา



    ดาบชนิดใหม่


    ดาบที่โกลดี้คิดค้นขึ้นมาใหม่


    ทำจากโลหะที่มีความทนทานมากกว่าปกติ

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×