ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [แปล] บันทึกการสงครามของคุโระ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 ตลาดขายทาส

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      11
      21 เม.ย. 57

    บทแรก จุดเริ่ม

    ตอนที่ 5 ตลาดขายทาส

    ชั้นมาทำอะไรอยู่ที่นี่กันแน่..... เอเลน่า กราเฟียสคิดขึ้นขณะนั่งกอดเข่าอยู่ในความมืด

    ที่ๆเธออยู่นั้นทั้งมืด และแคบ แค่ยืดแขนออกก็ชนกำแพงแล้ว

    เอเลน่า กราเฟียสนั้นเกิดมาในฐานะลูกสาวของกึ่งขุนนาง ซึ่งตำแหน่งกึ่งขุนนางนี้ก็เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกของผู้ปกครองที่ดินหรือมีที่นาเท่านั้น

    แต่พ่อของเธอก็ได้บริหารที่ดินอย่างขยันขันแข็ง จนครอบครัวของเธอมีทรัพย์สมบัติมากกว่าขุนนางชั้นล่างทั่วไปเสียอีก

    นอกจากพ่อของเธอจะเป็นคนขยันแล้ว ยังเป็นคนไม่ยึดติดกับค่านิยมเก่าๆด้วย และมีพ่อเป็นแบบนั้น ตอนที่เธอตัดสินใจไปเรียนต่อทั้งที่อายุแค่สิบสี่ท่านจึงสนับสนุนโดยไม่บ่นอะไร

    สิ่งที่เอเลน่าเรียนมาจากรัฐอิสระนั้น.... มีทั้งภาษาต่างประเทศ มารยาท วัฒนธรรม และการคำนวณ

    เมื่อเวลาผ่านไปได้สามปี เธอก็รับข่าวการเสียชีวิตของพ่อ จึงรีบเก็บของที่มีแล้วกลับมายังประเทศทันที ทว่ายังไม่ทันจะได้มีเวลาโศกเศร้า เธอก็ต้องวุ่นกับการจัดการงานศพและเรื่องภายในเขตแล้ว

    โดยลุงของเธอเป็นผู้จัดการทรัพย์สมบัติของพ่อ ตอนแรกนั้น.. ไม่สิ ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย ก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเลย ฟิลิปส์คู่หมั้นที่ไม่ได้เจอกันถึงสามปีก็ใจดีกับเธอ ลุงของเธอก็เช่นกัน

    แต่ในขณะที่กำลังจะสามารถทิ้งการตายของพ่อไว้ข้างหลัง เธอโดนก็ถูกโจมตี....

    คฤหาสน์ของเธอโดนพวกโจรบุกปล้น

    พวกโจรฆ่าเหล่าคนรับใช้ที่บ้านของเธอจนหมดทุกคน และขายเธอให้กับพ่อค้าทาส

    ที่นั่นมีเด็กสาวที่โดนขายมาอย่างเอเลน่ามากมาย

    ซึ่งตอนแรกพวกเธอก็ยังมีอารมณ์เหมือนมนุษย์อยู่

    ทั้งร้องไห้ ทั้งขัดขืน

    แต่หลังจากที่โดนต่อยไปไม่รู้กี่ครั้ง พวกเธอก็ค่อยๆสูญเสียความหวังไป

    แต่เอเลน่านั้นขัดขืนจนหยดสุดท้าย

    ไม่ว่าจะโดนต่อยกี่ครั้ง ไม่ว่าจะโดนเป็นไม้พลองฟาดใส่กี่หน เธอก็ไม่ยอมจำนน

    และเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ท่าทีของพ่อค้าต่อเธอก็เปลี่ยนไป

    เธอเริ่มโดนทำร้ายอย่างไม่มีเหตุผล

    และเมื่อการโดนทำร้ายและความเจ็บปวดกลายเป็นเรื่องประจำวัน เธอก็มองตัวเองแล้วพูดออกมา

    "....อยากตายให้มันจบๆไปจริงๆ"

    เธอปวดไปทั่วร่าง จนบอกไม่ได้ว่าปวดตรงไหนบ้าง

    ตอนนี้เธอยังมีคุณค่าในฐานะของสินค้าอยู่ แต่ถ้าขายไม่ออกไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอบ้าง

    อย่างน้อยก็คงโดนข่มขืนล่ะมั้ง

    หรืออาจจะโดนตัดอวัยวะบางส่วนออกก็ได้

    "ชั้นกลัว.. ฟิลิปส์...."

    เอเลน่ากอดเข่าตัวเอง แล้วพูดขึ้นพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลรินลงมา


    *


    "อาหารเช้าวันนี้คือขนมปังขาวนุ่มพร้อมซุปปลานะคะ ท่านโครโน่"

    ผู้ดูแลจัดเรียงอาหารบนโต๊ะพร้อมส่งเสียงหวานให้เขา

    ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงใส่ชุดเมดที่เปิดร่องอกอยู่

    "คะ...โครโน่... อบรมคนรับใช้ดีๆหน่อยสิ"

    "ก็ยังไม่ได้อบรมนี่นะ"

    ทีเรียที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับโครโน่ทำหน้าบึ้ง และหญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นสาวใช้ของทีเรียก็มองผู้ดูแลด้วยสายตาดูหมิ่น

    "ให้ป้อนไหมคะ? ท่านโครโน่"

    "....กินเองได้น่า"

    โครโน่หยิบขนมปังขึ้นกัด

    "อร่อยไหมคะ?"

    "ไม่ค่อยรู้รสชาติแบบแปลกๆ"

    เอ๋? ผู้ดูแลเข้ากอดโครโน่แล้วเริ่มลูบไล้ร่างกายเขาจากข้างหลัง

    "คือมีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อยน่ะค่ะ ท่านโครโน่..."

    "ถ้าแค่ฟังคำขอน่ะนะ"

    "ขอขึ้นเงินเดือ..."

    "ขอปฏิเสธ"

    ผู้แลหยุดมือ

    "ก็บอกว่าขอขึ้นเงิ..."

    "ขอปฏิเสธ"

    ชิ... ผู้ดูแลเดาะลิ้นแล้วออกห่างจากโครโน่

    "อย่างน้อยฟังจนจบประโยคก็ได้นะคะ"

    "ก็สัญญากันไว้ที่เดือนละเหรียญทองหนึ่งเหรียญ กับเหรียญเงินสิบเหรียญไม่ใช่หรือ?"

    "ก็ใช่อยู่ แต่ถ้าได้แค่นั้น กว่าจะจ่ายหนี้หมดแล้วเปิดร้านใหม่ได้ก็ตั้งห้าปีกว่านี่นา...."

    "เรื่องเจรจาขึ้นเงินเดือนเอาไว้จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า โอเคนะ?"

    "ท่านโครโน่ขี้เหนียว!"

    ผู้ดูแลประท้วงราวกับเด็ก แล้วออกจากห้องอาหารไป

    "นายใจดีเกินไปนะ ถึงโดนอ้อนแบบนั้นน่ะ"

    "เห็นแบบนั้นก็เก่งอยู่นา"

    สมกับที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร(+ที่พัก) มาหลายปี ผู้ดูแลนั้นมีความสามารถทีเดียว

    เธออ่านหนังสือพอออก และรู้การคำนวณเบื้องต้น ทำให้เธอทำงานเกี่ยวกับการจัดการเสบียงได้

    แล้วเธอยังมีเป้าหมายที่จะเปิดร้านอีกครั้ง ทำให้เธอค่อนข้างจริงจังในการทำงาน แล้วเมนูอาหารที่เธอคิดไว้สำหรับร้านค้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    จะมีปัญหาก็เรื่องขอขึ้นเงินเดือนนี่แหละ

    "จะว่าไปแล้ว... วันนี้นายว่างไหม ถ้าว่างล่ะก็...."

    "วันนี้มีนัดกับคุณนิโคล่าจากกลุ่มการค้าพิกซ์น่ะ"

    งั้นหรือ.. ทีเรียถอนหายใจแล้วพูดออกมาอย่างผิดหวัง

    "แล้ว นัดกับพ่อค้าไว้ทำไมหรือ?"

    "ซื้อทาส"

    "ทะ....ทาสเรอะ?"

    ทีเรียเบิกตากว้างพร้อมลุกขึ้นมาจากเก้าอี้

    "หาคนทำบัญชีได้อยู่น่ะ แต่ผมไม่มีเส้นสาย เลยหายากหน่อย.... ก็เลยตั้งใจว่าจะไปหาที่นั่น"

    "อะ...อ๋อ... อย่างนี้นี่เอง... โอเค... โล่งใจแล้ว"

    สงสัยจะคิดว่าผมจะซื้อด้วยเหตุผลลามกแน่ๆเลย โครโน่คิดแล้วตักซุปขึ้นกินต่อ


    *


    นิโคล่าบอกว่าการซื้อขายทาสนั้นเป็นเรื่องที่มีขึ้นเป็นประจำในเมืองฮาเชล โดยในขณะที่ความต้องการทาสนั้นไม่สูงมา แต่ก็มีในระดับหนึ่ง ในเมืองนี้จึงมีการเปิดตลาดทาสเดือนละครั้ง

    ที่ๆโครโน่มาถึงจากการนำทางของนิโคล่าคือร้านเหล้าแห่งหนึ่งในย่านการค้า.... โดยที่นี่ยังเป็นที่นี่ยังเป็นที่ๆเหล่าสุภาพบุรุษในเมืองมารวมตัวก่อนบ่อยๆอีกด้วย... หรือก็คือหอนางโลม...ซ่องชั้นสูงนั่นเอง


    หลังนิโคล่าช่วยพูดอะไรกับยามเฝ้าประตู โครโน่ก็เข้าไปข้างในได้

    หลังผ่านพรมท่าทางแพงที่ทางเข้าไปแล้ว เขาก็เข้ามาอยู่ในห้องโถงใหญ่

    ที่นั่นมีเคานต์เตอร์ท่าทางดูดี แล้วก็โซฟาราคาแพงจำนวนพอสมควรตั้งอยู่ในห้อง... แล้วก็มีเวทีด้วย

    นิโคล่ากับโครโน่เดินมานั่งในที่นั่งแถบหน้าเวที

    "ที่นั่งดีนี่นา"

    "คงอยากผูกสัมพันธ์อันดีกับผมแล้วก็ท่านโครโน่ล่ะมั้งครับ"

    ถ้าผู้ดูแลของหอนางโลมแห่งนี้มีหัวทางการค้า ก็คงอยากเอาหน้าไว้เป็นเรื่องปกติล่ะมั้ง

    "ทางนั้นคือท่านบารอนโครฟอร์ดใช่ไหมครับ?"

    "ไม่ใช่ครับ"

    โครโน่ตอบอย่างหนักแน่น

    "ฮะๆ ไม่ต้องปิดบังก็ได้ครับ... ถึงจะใส่ชุดเหมือนคนธรรมดาออกมาก็ตาม ถ้าเห็นตานั่นของท่านโครโน่แล้วยังไม่รู้ตัวคงทำการค้าไม่ได้หรอกครับ"

    โครโน่ลูบแผลเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ

    "เขาคือผู้ดูแลของที่.."

    "ผมไมล์สครับ"

    โครโน่มองดูเขา

    อายุน่าจะประมาณสามสิบปลายๆ

    รูปร่างดูมีกล้ามเนื้อ

    สายตาของเขานั้นคมจนไม่อยากเชื่อว่าเป็นพ่อค้า แล้วด้วยการรวบผมสีดำไปข้างหลังก็ทำให้ดูมีระดับขึ้นมาด้วย

    "ท่านโครโน่ต้องการทาสแบบไหนหรือครับ?"

    "....ทาสที่มีการศึกษา"

    "แต่ท่านโครโน่พึ่งมาเป็นครั้งแรก  จะไม่ลำบากหรือครับ?"

    โครโน่ได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับไมล์ส

    "งั้นถ้าช่วยอธิบายแล้วก็ช่วยตอนซื้อจะเป็นพระคุณมากเลย"

    "แน่นอนว่าผมจะช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังแน่นอนครับ"

    ไมล์สตอบแล้วนั่งลงข้างๆโครโน่

    "จะว่าไปแล้ว ทาสนี้เอามาจากไหนหรือ?"

    "ผมแค่รับมาจาก "แหล่ง" น่ะครับ รายละเอียดเลยไม่ทราบมาก แต่พวกพ่อค้าเขาก็มีเส้นทางของเขาอยู่แหละครับ ถ้ามีคนที่โดนขายมาเพราะใช้หนี้ไม่ได้ ก็มีพวกที่โดนขายมาทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเหมือนกันครับ..."

    ระหว่างที่โครโน่ นิโคล่า และไมล์สกำลังพูดคุยกันอยู่ ที่นั่งรอบๆก็ค่อยเต็มไปทีละที่นั่ง

    การประมูลนั้นเริ่มต้นเมื่อประมาณที่นั่งมีคนนั่งไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง.. โดยโครโน่นึกเสียใจทันที ให้วานให้นิโคล่าพาตนเองมา

    โดยผู้ชายที่ท่าทางเป็นพ่อค้าทาสได้พาหญิงสาวขึ้นมาบนเวที

    สงสัยเพื่อจะให้ผู้ชมได้ดูสภาพของเธอล่ะมั้ง สิ่งที่เธอสวมอยู่จึงมีแค่ผ้าผืนเล็กๆผืนเดียวเท่านั้น

    มันดูเหมือนเป็นการโชว์อะไรซักอย่าง  แต่แววตาของหญิงสาวนั้นฉายแววโศกเศร้าและสิ้นหวัง

    สายตาของเธอค่อยๆแย่ลง และแย่ที่สุดหลังจากที่เธอต้องเปลือยกายบนเวที
    "...คนที่ขายไม่ได้จะเป็นยังไง"

    "ถ้ามีแวว ก็คงไปตลาดต่อไป ถ้าไม่อย่างนั้นก็.. คงจะรู้นะครับ"

    ไมล์สยิ้มอย่างโหดเหี้ยม

    เมื่อผู้ซื้อได้ของที่ต้องการ ก็จะกลับไป ทำให้คนในห้องน้อยลงเรื่อยๆ

    "ต่อไปก็... น่าเสียดายที่คงตอบความต้องการของท่านโครโน่ไม่ได้นะครับ"


    *


    ฟิลิปส์... ฟิลิปส์... ฟิลิปส์... เอเลน่าพึมพัมชื่อคู่หมั้นของตนเอง

    คนที่จะเปิดประตูบานนั้นคือฟิลิปส์ เธอหวังว่าอย่างนั้น

    ขุนนางชั้นล่างอย่างเขาเรียนวิชาดาบมาตั้งแต่เล็ก พวกนักเลงแค่นี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

    เพราะงั้น คนที่จะเปิดประตูบานนั้นจะต้องเป็นฟิลิปส์... ถึงการแต่งงานระหว่างเขาและเธอจะเป็นการตกลงกันของพ่อแม่ แต่ระหว่างเขาและเธอนั้นมีความรักอยู่แน่นอน...

    เมื่อมองเห็นแสงจ้า เอเลน่าก็มองเห็นภาพลวงตาของฟิลิปส์อยู่ที่นั่น จนยิ้มออกมาได้

    แต่ในความเป็นจริง คนที่เปิดประตูคือลูกน้องของพ่อค้าทาส

    "ยะ...อย่านะ อย่าเข้ามา!"

    ลูกน้องของพ่อค้าทาสทำหน้ารำคาญแล้วต่อยเอเลน่าอีกครั้ง

    หลังผ่านความเจ็บและรสเลือดที่แล่นเข้ามาในปากแล้ว เอเลน่าก็นึกถึงความหมายของการต่อยครั้งนี้

    เอเลน่านั้นไม่มีคุณค่าในด้านสินค้าอีกแล้ว.... ลูกน้องของพ่อค้าทาสที่มีประสบการณ์มานานตัดสินว่าอย่างนั้นสินะ

    เธอมองเท้าของตนเองที่เปื้อนไปด้วยของเสีย แล้วก้มหน้าอย่างสิ้นหวัง

    ชั้นไม่น่าจะขัดขืนเลย....

    ชั้นไม่น่าจะคิดสู้เลย...

    ถ้าตนเองขายได้แล้วโอกาสหนีก็ยังมี

    ถึงจะหนีไม่ได้ ก็ยังมีโอกาสอธิบายสถานการณ์ให้คนอื่นฟังได้

    แต่ตัวเธอเป็นผู้แสดงความกล้าโง่ๆ แล้วตัดโอกาสทิ้งด้วยมือของตัวอง

    บนบันไดนั้นมีพ่อค้าทาสที่ยิ้มอย่างโหดเหี้ยมยืนรออยู่

    "ขอร้อง.. ให้ชั้นอาบน้ำเถอะ.. แบบนี้ไม่มีใครมาซื้อไปหรอก"

    "ถึงจะอาบก็ไม่ต่างกันมากหรอก ดูสิ!"

    เธอโดนผลักไปหน้ากระจก แล้วเงยหน้าขึ้นมองตนเอง

    "...นี่มัน.. โหดร้าย...."

    ภาพสะท้อนของเธอที่อยู่ในกระจกนั้น ไม่มีแม้แต่เงาของหน้าตาเธอที่เธอจำได้

    ผมของเธอยุ่งเยิงไปหมด  ผิวเองก็เต็มไปด้วยกระและรอยด่าง รอยบวมเหนือตาซ้ายก็บวมจนปิดตาไปครึ่งหนึ่ง

    "แกอาจจะคิดว่าตัวเองฉลาดแล้ว... แต่ทาสคนอื่นเขาฉลาดกว่าแกหลายเท่าเลยล่ะ"

    ก็ไม่ยอมฟังที่พูดนี่นะ พ่อค้าทาสหัวเราะขึ้น

    "เอาล่ะ รีบๆไปขึ้นเวทีได้แล้ว ถ้าไม่มีคนซื้อเดี๋ยวฉันจะบีบคอแกให้ตายคามือเอง"

    เอเลน่าร้องไห้อย่างสิ้นหวัง แล้วเดินขึ้นเวทีไป

    มันจบแล้ว.... เธอมองลูกค่าที่เหลือไม่ถึงสิบคนด้วยสายตาที่ว่างเปล่า


    *


    หืม? ไมล์สหยุดนิ้วที่กำลังกำลังไล่ดูรายชื่อลง

    "....ต่อไปเป็นทาสคนสุดท้ายครับ แต่..."

    "มีอะไรประหลาดหรือ?"

    ไมล์สส่งรายชื่อที่น่าจะเป็นความลับให้โครโน่ดู

    ในรายชื่อนั้นเขียนว่า "เอเลน่า" และเขียนด้วยว่าเธอมีความสามารถทั้งด้านการคำนวณและอ่านเขียน แต่ช่องข้อมูลอื่นกลับว่างเปล่า

    "ในเหล่าพ่อค้านั้นพ่อค้าทาสก็ถือว่าเป็นพวกที่เด่นในเรื่องความโลภนะครับ และต่อให้เป็นพ่อค้าธรรมดาก็ตาม การจะทำให้สินค้าของตนเองขายออกในราคาสูงขึ้นซักนิดหน่อยแล้วล่ะก็ไม่เลือกวิธีหรอกครับ แต่ดูจากการที่ไม่ลงรายละเอียดมา เลยสงสัยนิดหน่อยน่ะครับ"

    อย่างนี้นี่เอง โครโน่พยักหน้า

    "นี่คนสุดท้ายแล้วครับ บางทีถ้าเป็นคนนี้ล่ะก็อาจจะตอบโจทย์ของท่านโครโน่ดะ..!"

    "ทำไมหรื.....!"

    เมื่อหันไปมองทาสคนสุดท้าย ทั้งโครโน่และไมล์สก็ต่างพูดอะไรไม่ออก

    ลูกค้าคนอื่นก็เช่นกันล่ะมั้ง

    ทาสคนสุดท้าย...เอเลน่านั้นอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เลย

    ผิวของเธอเต็มไปด้วยรอยช้ำและกระ รอยบวมเหนือตาซ้ายก็ใหญ่จนปิดตาไว้

    เส้นผมของเธอนั้นเปื้อนไปด้วยเลือดและฝุ่นจนบอกสีเดิมไม่ได้ และกลิ่นที่แย่จนอยากจะอ้วกออกมา

    ลูกค้าที่เหลืออยู่เมินสายตาหนีจากเธอ แล้วลุกขึ้นด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

    "ดูเหมือนเด็กที่ชื่อเอเลน่าจะไม่นับเป็นสินค้าที่ดีนักในสายตาของพ่อค้าทาสนะครับ"

    เฮ่อ.... ไมล์สถอยหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

    "จะซื้อไหมครับ? หรือจะรอโอกาสหน้าดี?"

    "เข้าใจล่ะ.... ซื้อเถอะ.. คุณนิโคล่า! เตรียมรถม้าด้วย!"

    "ครับ!"

    โครโน่หยิบลูกแก้วสื่อสารออกมา แล้วติดต่อไปยังคฤหาสน์เอรากิส


    *


    โครโน่พาเอเลน่ามายังคฤหาสน์ด้วยรถม้าของกลุ่มการค้าพิกซ์ แล้วให้แพทย์ที่ประจำอยู่ที่นั่นเป็นคนดูแลเธอ

    ตามคำบอกของแพทย์แล้ว บาดแผลของเธอนั้นตื้นกว่าที่เห็นมาก และถึงร่างกายจะค่อนข้างจะอ่อนแอ แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต

    โครโน่นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วมองดูเอเลน่าที่หลับเป็นตายบนเตียง

    "ท่านโครโน่ขา...."

    "เรื่องขึ้นเงินเดือนไว้ปีหน้าตอนฤดูใบไม้ผลิไง"

    "ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงไม่ดูกาละเทศะขนาดนั้นนะคะ...."

    เธอทำปากไม่พอใจ แล้วกอดอกเหมือนกับจะรองรับน้ำหนักของหน้าอก

    "งั้นมีอะไรหรือ?"

    "เหมือนท่านโครโน่จะดูไม่ค่อยดี ก็เลยมาคุยด้วยหน่อยน่ะ"

    "...โทษทีที่ทำให้เป็นห่วง"

    เฮ่อ.... ผู้ดูแลถอนหายใจยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้

    "ใจดีมันก็ดีอยู่นะคะ แต่ท่านโครโน่ไม่ต้องคิดมากเรื่องเธอได้นะ"

    "ไม่ได้รู้สึกผิดหรืออะไรหรอก.... แค่.."

    "แค่... อะไรคะ?"

    โครโน่วางศอกลงบนต้นขา แล้วไขว้มือเข้าหากัน

    "แค่คิดว่าตัวเองคิดถึงเรื่องระบบทาสง่ายเกินไปหน่อยน่ะ แล้วพอไปเจอเข้าจริงๆ.... ก็รู้สึกไม่ค่อยดีอย่างที่ว่าแหละ"

    "ท่านโครโน่คะ..."

    พอเขาเงยหน้าขึ้น เธอก็เข้ามาจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว

    ลิ้นของเธอกับเขาสัมผัสกันอย่างอ่อนโยนข้างในปาก

    และเมื่อโครโน่รู้สึกอยากจะหายใจ เธอจึงถอนปากออกไป

    "ถึงจะยังไงก็ขึ้นเงินเดือนให้ไม่ได้นา"

    "ไม่เกี่ยวกันค่ะ! แค่...เมื่อกี้ท่านโครโน่น่ารักเกินไปหน่อย..แล้วก็.....ยังไงดีล่ะ..."

    ผู้ดูแลที่หน้าแดงเหมือนเด็กนั้นน่ารักมาก แต่โครโน่ก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ

    "...ขอบคุณนะ เพราะผู้ดูแลแท้ๆเลยรู้สึกดีขึ้นแล้ว"

    "ถ้ายิ้มแบบไร้การป้องกันแบบนั้นให้... เดี๋ยวจะจริงจังขึ้นมานะคะ..."

    เธอจูบเขาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเดินออกจากห้องไป


    *


    เอเลน่าไม่รู้ว่าตนเองตื่นมาเมื่อไหร่  พอรู้สึกตัว ตนก็มองเพดานที่ตนไม่คุ้นเคย

    นี่ยังไม่ตายจริงๆใช่ไหม? เธออดตกใจไม่ได้กับการที่ตนยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้

    ทั้งๆที่เธอตอนอยู่บนเวที คุณค่าทางสินค้าของเธอนั้นแทบจะเป็นศูนย์แล้วแท้ๆ

    "ดีจัง... ตื่นแล้วสินะ"

    เมื่อเอเลน่ามองไปทางต้นเสียง เธอก็ผมเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่

    อายุประมาณยี่สิบล่ะมั้ง

    เขามีผมสีดำ ตาก็สีดำเช่นกัน

    ดูไปท่าทางใจดี แต่ตาขวาของเขากลับมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่

    "คุณ.... ซื้อฉันมาหรือ?"

    "เผอิญอยากได้คนมาทำบัญชีน่ะ"

    เด็กหนุ่มตอบด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะพอใจตัวเองนัก

    "แต่ช่างมันเถอะ... ถ้าแผลหายแล้วเดี๋ยวผมจะพาไปส่งบ้านคนรู้จักเอง เธอคิดแต่เรื่องดูแลตัวเองก็พอ แล้วก็... ถ้ามีอะไรอยากได้หรือมีปัญหาอะไรก็บอกได้นะ"

    "ชั้น...จะได้กลับบ้านหรือ...?"

    "แน่นอนสิ"

    เด็กหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน

    จะได้กลับบ้านแล้ว

    จะได้เจอฟิลิปส์อีกครั้งแล้ว

    เธอก้มลงมองกระที่แขนตัวเอง

    เส้นผมเองก็ยุ่งไปหมด ไม่รู้ว่าไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้ว

    "ขอร้อง.. ขออาบน้ำหน่อยได้ไหม"

    "เดี๋ยวจะเรียกคนมาให้ รอแป๊ปนึงนะ"

    พอเวลาผ่านไปซักพัก เด็กหนุ่มก็กลับมาพร้อมกับมิโนเทารุสกับสาวใช้

    "...คิดจะให้กึ่งมนุษย์อุ้มไปหรือ?"

    "ก็ผู้ดูแลคนเดียวคงขนไม่ไหวนี่"

    คนๆนี้ไม่ใช่ขุนนางรึเปล่าน้า..? เอเลน่าคิดในใจ

    โดยปกติมิโนเทารุสนั้นเป็นกึ่งมนุษย์ที่ไว้ใช้แรงงาน ไม่ใช่พวกที่จะทำงานใกล้ชิดกับขุนนางหรือกึ่งขุนนาง

    "ท่านแม่ทัพ ปกติแล้วเขาไม่เรียกมิโนเทารุสอย่างผมหรอก ปกติงานพวกนี้เขาให้เอลฟ์หรือคนแคระทำกัน"

    "ไม่ต้องสนใจเรื่องแบบนั้นก็ได้นี่นา"

    "..ถ้าท่านแม่ทัพว่าอย่างนั้นน่ะนะ"

    มิโนเทารุสยกเอเลขึ้น และอุ้มเธอไปยังห้องอาบน้ำที่อยู่ชั้นเดียวกัน

    "หลังจากนี้เป็นงานของชั้น พวกผู้ชายรีบๆออกไปเลย"

    "....."

    เมดที่ถูกเรียกว่าผู้ดูแลไล่เด็กหนุ่มกับมิโนเทารุสออกไปจากห้อง

    "ยืนไหวไหม?"

    "ยืมมือหน่อยสิ"

    "หา? ไม่ใช่เด็กแล้วนะ เดินคนเดียวให้ได้สิ"

    เอเลน่าถอดเสื้อผ้าออก แล้วเดินไปยังห้องอาบน้ำ

    แต่ในจังหวะที่เธอจะเข้าไปแช่น้ำด้วยความรู้สึกอยากล้างฝุ่นออกให้เร็วที่สุดแม้จะซักวินาทีเดียวก็ยังดี

    "เดี๋ยวก่อนสิ! สระนั้นพวกชั้นก็ใช้เหมือนกัน เพราะงั้นล้างตัวก่อนลงไปอาบด้วย!"

    อึก.... เอเลน่าโดนผู้ดูแลสาดน้ำใส่

    "มะ...มันเจ็บนะ!"

    "ความเจ็บเป็นหลักฐานของการมีชีวิตรอดน่า"

    เอเลน่าจึงได้แต่ทน

    "....สกปรกจังนะเธอ นี่ไม่ได้อาบน้ำมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย?"

    "เรื่องนั้นชั้นไม่รู้หรอก"

    ผู้ดูแลล้างตัวให้เอเลน่าอย่างรุนแรง

    ตอนแรกนั้นน้ำที่ผ่านตัวเธอกลายเป็นสีดำแดง แต่หลังล้างไปเรื่อยๆ น้ำก็ค่อยๆใสขึ้น

    "ผู้ชายคนนั้นมันอะไรกัน?"

    "ท่านโครโน่น่ะหรือ?"

    อืม.... ผู้ดูแลสระผมให้เอเลน่าแล้วก็คิดคำตอบไปด้วย

    "ก็เป็นขุนนางแปลกๆล่ะนะ ท่านใจดีกับทั้งพวกคนธรรมดาอย่างชั้น แล้วก็กึ่งมนุษย์ด้วย"

    "นั่นเขาเรียกว่าใจดีไม่เลือกมากกว่ามั้ง ถ้ามนุษย์ยังพอว่า แต่ไม่จำเป็นต้องห่วงกึ่งมนุษย์ก็ได้นี่ ยังไงพวกนั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำกว่ามนุษย์อยู่แล้ว ประวัติศาสตร์เองก็บอกไว้อย่างนั้น"

    "งั้นเรอะ!"

    "ทำอะไรน่ะ!"

    เธอร้องขึ้นหลังโดนสาดน้ำใส่เข้าจังๆ

    "เข้าใจไหม สาวน้อย? เธอจะดูถูกกึ่งมนุษย์มันก็เรื่องของเธอ แต่อย่าไปพูดให้ท่านโครโน่ฟังเชียวล่ะ"

    "เข้าใจ!"

    เธอตระโกนกลับ แล้วค่อยๆลงไปแช่น้ำร้อนในสระ


    *


    เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วหลังเอเลน่าถูกโครโน่ซื้อมา

    ด้วยฝีมือของแพทย์ที่ดูแลเธอ รอยบวมเหนือตาซ้ายนั้นยุบลงจนหมด กระเองก็บางลงอย่างเห็นได้ชัด

    ร่างกายที่เคยอ่อนแอก็สามารถเดินได้อย่างอิสระด้วยตนเองแล้ว แต่ยังไงก็ต้องให้มีผู้ติดตามไปด้วยถ้าจะออกไปข้างนอกอยู่ดี

    นี่เป็นเรื่องที่เธอเพิ่งจะสังเกตุเห็นหลังเริ่มเดินได้ด้วยตัวเอง

    สาวใช้ที่เป็นกึ่งมนุษย์ในคฤหาสน์นี้ดูจะทำงานอย่างสนุกสนาน

    แต่ถ้าเทียบกันแล้ว พวกที่เป็นมนุษย์กลับดูกระวนกระวาย... แล้วก็ท่าทางหยิ่งยะโสไม่น่าคบ

    ดูเหมือนว่าต้นเหตุของปัญหาจะมาจากการที่นายจ้างของมนุษย์และกึ่งมนุษย์เป็นคนละคนกัน


    โครโน่ โครฟอร์ดที่ซื้อเอเลน่ามาก็เป็นคนใจดีเหมือนที่เห็น เขาทั้งให้เอเลน่าส่งจดหมาย แล้วก็ยอมเอาหนังสือมาให้เมื่อเธอขออีกด้วย

    ถ้าจะมีข้อเสียล่ะก็....

    "ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอะไรกับฮาล์ฟเอลฟ์....."

    ตนที่เธอจะไปคืนหนังสือที่ยืมมา เอเลน่าก็พบหญิงสาวฮาล์ฟเอลฟ์ผิวสีน้ำตาลเข้าไปยังห้องของโครโน่โดยบังเอิญ

    แล้วหลังจากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงครางที่เหมือนพยายามจะกดเสียงไว้แล้วดังออกมาจากห้อง

    สำหรับเอเลน่าที่เอาแต่เรียนหนังสือนั้น มันเป็นสิ่งแปลกใหม่จริงๆ

    "ตื่นอยู่รึเปล่า?"

    "....! ตื่นอยู่!"

    เอเลน่าลุกขึ้นมาหาโครโน่ที่เดินเข้ามาในห้อง

    ไม่รู้ว่าทำไมผู้ดูแลถึงอยู่ด้วย

    "แล้ว..จดหมายล่ะ?"

    "....จะมาคุยเรื่องนั้นแหละ"

    โครโน่แสดงสีหน้าไม่ค่อยดี แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียง

    "นี่... รู้จักกลุ่มการค้าพิกซ์ไหม?"

    "อืม ดังออกนี่นะ"

    "ผมให้คนของกลุ่มการค้าพิกซ์ส่งจดหมายของเธอไปให้นะ แต่.... ดูเหมือนว่าเธอจะตายไปแล้ว"

    เอ๋? เอเลน่าไม่สามารถทำความเข้าใจคำพูดของโครโน่ได้ในทันที

    "ทะ...ทำไมล่ะ? ก็ชั้นยังมีชีวิตอยู่นี่..."

    "ตอนโดนพวกโจรบุกเข้ามาที่บ้าน เขาว่าเธอตายไปตอนนั้นน่ะ"

    "ต้องรีบแก้ความเข้าใจผิดสิ!"

    "....!"

    ขณะจะลุกลงจากเตียง โครโน่ก็จับแขนของเอเลน่าไว้

    "นี่! ปล่อยสิ! ไหนว่าจะให้กลับบ้านไง!"

    "ก็อยากให้กลับอยู่หรอก.... แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว"

    เอเลน่ารู้สึกเย็นวาบขึ้นมา

    บุคคลที่ตายไปแล้วในทางกฏหมาย....

    อย่าบอกนะว่า... ชายคนนี้จะจับเธอไว้เป็นทาสเพื่อเป็นของเล่น....

    "ท่านโครโน่ บอกความจริงไปไม่ดีกว่าหรือคะ?"

    ผู้ดูแลพูดด้วยท่าทางเบื่อๆ

    "ความจริงนี่...อะไรหรือ?"

    "เฮ่อ.... เธออาจจะคิดว่าตัวเองฉลาดก็เถอะ แต่จริงๆโง่ไม่เบานี่นา"

    ผู้ดูแลใช้คำพูดเดียวกับคำพูดที่พ่อค้าทาสเคยบอกเธอ

    "ผู้ดูแล!"

    "เข้าใจไหม? จดหมายของเธอน่ะ ไปถึงมือคุณลุงกับคู่หมั้นของเธอเรียบร้อยแล้ว.... แต่ทำไมคนทั้งคู่ที่ควรจะดีใจกลับปฏิเสธการมีชีวิตรอดของเธอล่ะ?"

    "....นั่นมัน"

    เธอรู้คำตอบในทันที แต่เอเลน่าไม่สามารถพูดมันออกมาจากปากตัวเองได้

    "ถ้าเธอไม่พูด ชั้นพูดเองก็ได้นะ เธอน่ะ..."

    "ผู้ดูแล!"

    โครโน่ขึ้นเสียง

    "ส่วนต่อจากนั้นผมพูดเอง"

    เขาจัดท่านั่งใหม่ แล้วหายใจเข้าลึกๆ

    "เอเลน่า เธอโดนลุงของเธอกับคู่หมั้นของเธอเล่นงานเข้าให้แล้วล่ะ..."

    "แต่ทำไมทั้งสอนคนต้อง...."

    "เป้าหมายคือทั้งคู่ทรัพย์สมบัติของบ้านกราเฟียสไงล่ะ เพราะถึงคุณลุงของเธอจะได้ตำแหน่งผู้จัดการมรดกไปก็เถอะ แต่ผู้ที่จะได้ทรัพย์สมบัติจริงๆคือเธอ"

    "ละ..แล้วฟิลิปส์ล่ะ.. ถ้าแต่งงานกับชั้น ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของบ้านกราเฟียสก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้วนี่! เขาจะวางแผนเล่นงานชั้นทำไม!"

    ระหว่างที่พูด ความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้นในหัวของเอเลน่า

    "เธอไปเรียนหนังสือที่รัฐอิสระมาสินะ?"

    "แล้วมันทำไมล่ะ...."

    "เขาคงคิดว่า.... ถึงจะแต่งงานไป เธอที่มีความรู้มากคงไม่ให้เขามายุ่งเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินน่ะสิ.... บางทีเขาอาจจะวางแผนแต่งงานกับเธอเพื่อฮุบสมบัติตั้งแต่แรกแล้วก็ได้"

    ".....หะ... โหดร้าย..."

    เมื่อเธอพบว่าบุคคลที่เธอเคยเชื่อกลับเป็นผู้ที่ทำให้เจอต้องเจอกับเรื่องแบบนี้เสียเอง เธอจึงรู้สึกราวกับจะล้มลงไปตรงนั้นให้ได้

    "ละ...แล้วท่านแม่ล่ะ"

    "ตายไปแล้วล่ะ ถึงจะไม่มีหลักฐาน แต่ก็คงโดนฆ่าน่ะแหละ"

    ครั้งนี้เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก

    "แค่นี้ก็ไม่มีใครที่มีหลักฐานว่าเธอคือเอเลน่า กราเฟียสตัวจริงแล้ว.. คนรับใช้ก็โดนฆ่าจนหมด ถ้าออกไปตอนนี้ก็มีแต่จะโดนฆ่าไปด้วยนะ"

    "......อะ...ออกไปนะ!"

    เธอตะโกนออกมา....


    *


    เอเลน่าลืมต่าตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนกลางคืน

    ดูเหมือนเธอจะร้องไห้แล้วเผลอหลับไป

    "ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว"

    "ไม่เอา"

    ผู้ดูแลถอนหายใจ แล้ววางถาดเหล็กไว้บนโต๊ะ

    "เฮ่อ...."

    "วางไว้แล้วออกไปเถอะ"

    ผู้ดูแลนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

    "ได้คิดเรื่องตัวเองบ้างรึยังหือ?"

    "เจอแบบนี้ยังจะคิดอะไรได้อีกล่ะ.... ทั้งโดนคุณลุงกับฟิลิปส์หักหลัง โดนขายเป็นทาส แล้วคุณแม่ยัง..... อา... รู้สึกว่าจะอะไรก็ช่างมันแล้ว"

    เอเลน่าฟุบลงบนหมอน แล้วตอนด้วยเสียงสั่นๆ

    แม้แต่ฟิลิปส์ที่เป็นที่พึ่งทางใจคนเดียวของเธอยังเป็นศัตรู

    พอกลับมาคิดดูดีๆแล้ว ทำไมตอนนั้นชั้นถึงคิดว่าเรารักกันจริงๆนะ?

    "ทั้งๆที่แม่โดนฆ่าแท้ๆ... ดูไม่ค่อยสนใจเลยนี่นะ"

    "เธอจะไปเข้าใจอะไรกัน! ชั้นเองก็อยากแก้แค้นแทนคุณแม่เหมือนกันนะ! แต่...แต่...ตอนนี้ชั้นไม่มีอะไรเหลือแล้ว.... ทั้งตำแหน่งกึ่งขุนนาง ทั้งเงิน แม้แต่หลักฐานว่าตัวเองคือเอเลน่า กราเฟียสก็ยังไม่มี.... แล้วจะให้แก้แค้นยังไงล่ะ!"

    ผู้ดูแลตอบเอเลน่าที่ตะคอกด้วยความโกรธว่า

    "หัวของเธอมีไว้ประดับเหรอ? ถ้าไม่มีอะไรก็ลองคิดดูสิ!"

    "คิด?"

    เอเลน่าเริ่มมองเห็นทางรางๆจากคำพูดของผู้ดูแล

    ถึงเธอจะสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว แต่ความรู้ที่เธอเรียนมายังไม่หายไปไหน

    ผู้ดูแลค่อยๆเดินออกจากห้องไป แต่เอเลน่ายังคิดถึงแผนการแก้แค้นต่อ

    ถึงมันจะต้องใช้วิธีอ้อมโลก ถึงจะต้องพึ่งคนอื่น แถมยังต้องใช้โชคอีกด้วย

    แต่...

    "คุณลุง... ฟิลิปส์... ชั้นจะทำให้พวกคุณเสียใจไปจนวันตายที่กล้าหักหลังชั้น....."

    เอเลน่าเริ่มกินซุปที่เย็นแล้วด้วยตาที่มีประกายขึ้นมาอีกครั้ง










    มุมบ่นของผู้แปล (ไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ จะพยายามไม่สปอยมาก)

    ส่วนตัวผมอวยคนนี้

    จะว่าไปสาวๆในเรื่องนี้ไม่ค่อยมีประวัติสวยๆเนอะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×