ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brother love สะดุดรักพี่ชายยัยเพื่อนสนิท

    ลำดับตอนที่ #25 : brother love 25 (ryo) ................... END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.26K
      9
      4 ส.ค. 56

    ให้ตายเหอะ  ผมทำน้องมันร้องไห้อีกแล้วอ่ะครับ  นี้ก็กอดกันกลมกิ๊กเลย บอกเลยตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทุ้มทุนสร้างอะไรขนาดนี้มาก่อน นี้ลงทุนไปเรียนเปียโนมาเลยนะ ที่กลับบ้านดึกๆนี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับก็แอบน้องมันไปเรียนนี้แหละ ทุกอย่างที่ทำไปทำเพื่อโมคนเดียวเลย ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าทำไมถึงรักน้องมันขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะทุกครั้งที่สุขหรือทุกข์ โมก็อยู่ข้างๆผมเสมอ  น้องมันเป็นคนที่สม่ำเสมอมาก วันแรกที่รู้จักเป็นยังไงวันนี้น้องมันก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง

     

     

    “ไหนดูซิ ตาบวมหมดเลย”

     

     

    “งื้อออ”   ร่างบางทำปากยื่นใส่ผม ทำท่าไหนน้องมันก็น่ารักทั้งนั้นแหละ ผมนี้ทั้งรักทั้งหลงนี้บอกเลย นี้ขนาดยังไม่ได้ฟันยังหลงขนาดนี้เลยครับทุกคน ผมบีบจมูกน้องมันเบาๆ

     

     

    “อยู่กับพี่นานๆนะ  พี่ไม่ยอมให้เราทิ้งพี่เด็ดขาด” ผมบอก

     

     

    “ใครกันแน่จะทิ้งใครก่อนอ่ะ”  แหนะ  มีเถียง  ผมประคองหน้าเรียวด้วยสองมือจับจ้องดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้เมื่อครู่ให้สบตากัน

     

     

    “พี่จะไม่ทิ้งโมไปไหน  จะไม่ปล่อยมือโมไปไหนแน่นอน จะจับมือโมแบบนี้ตลอดไป”  ผมพูดพร้อมกับประสานมือไว้กับมือบางแน่น  ไม่ง่ายเลยที่เราจะเจอคนที่ใช่ในโลกที่กว้างใหญ่แบบนี้

     

     

    “อื้อ  โมก็จะไม่ปล่อยมือของพี่เรียวเหมือนกัน” น้องมันจับมือผมแน่น ร่างบางยิ้มหวานให้ผม  ผมก้มจูบหน้าผากมนแผ่วเบาให้น้องมันรู้สึกด้วยภาษากายมากกว่าคำพูดใดๆ 

     

     

    “หิวรึยัง”  ผมถามหลังจากที่พาโมเดินมาที่โต๊ะดินเนอร์ของเรา ผมจัดประตูเป็นซุ้มด้วยนะเหมือนงานแต่งเลยละ  เตรียมไว้ก่อนน้องมันจะได้ชิน  ฮ่าๆ

     

     

    “หิวมากกกกกก”  น้องมันลากเสียงยาว  ผมยอมรับโมอีกเรื่องคือเรื่องกินครับ น้องมันกินเก่งมากๆของมาก กินได้ทุกอย่าง แต่เอาเถอะเมียคนเดียวเลี้ยงได้สบาย

     

     

    “งั้นกินเยอะๆนะครับ  อวบๆนะดีพี่ชอบ เต็มไม้เต็มมือดี  ฮ่าๆ”  ผมอดไม่ได้ที่จะแซว

     

     

    “หื่น!!!”  น้องมันพูดได้แค่นั้นแหละ ด่ากลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง

     

     

    “กินไปซิ จ้องแบบนี้โมจะกินลงได้ยังไงเล่า!

     

     

    “พี่ก็แค่อยากเห็นโมมีความสุขกับทุกอย่างที่พี่ทำให้อาหารนี้ด้วย พี่ก็ทำเองนะ อร่อยใช่ไหมละ”

     

     

    “แค่กๆ  พี่เรียวทำเองเลยหรอ”  ถึงกับสำลักกันเลยทีเดียวเป็นไงละ นี้ใครครับ นี้ใครระดับนี้เรื่องทำอาหารแค่นี้ชิวๆ

     

     

    “ใช่ แต่ละอย่างนี้ไม่ง่ายนะบอกเลย” ผมยืดอกพูด ขอโชว์หน่อยเหอะ

     

     

    “ปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ปูเผา ปลาเผา สเต็ก ของพวกนี้มันยากตรงไหนเนี่ย ไม่มีสูตรก็ทำได้อยู่แล้วเหอะ”   ดูๆ ดูน้องมันพูดดิ่ผมอุตส่าห์ลงมือทำเองทุกอย่างเลยนะตั้งแต่ไปซื้อของที่ห้าง หมดกันความภูมิใจของกู ผมทำหน้างอน เอาดิ่ไม่ง้อกูไม่หายอ่ะ

     

     

    “.................................”  ผมเงียบ ทำหน้าบูดเข้าไปอีก ให้น้องมันรู้ไปเลยว่างอน

     

     

    “แต่พี่เรียวทำอะไรก็อร่อยหมดแหละ เดี๋ยวโมจะกินให้หมดนี้เลย เพราะฉะนั้นหายงอนนะโมแค่แกล้งเล่นนิดเดียวเองอ่า”

     

     

    “งั้นป้อนพี่ก่อน”  ผมบอก ที่จริงก็ไม่ได้จะงอนอะไรนานหรอกครับวันนี้เป็นวันดีจะมางอนให้เสียบรรยากาศทำไมกันละ

     

     

    “อ่ะ  กุ้งเผาตัวใหญ๊ใหญ่”  น้องมันแกะกุ้งแล้วยื่นมือมาป้อนผม ผมอ้าปากรับ

     

     

    “ทำไมกุ้งมันอร่อยอย่างนี้เนี่ย สงสัยคนทำคงหล่อน่าดู เน้อะๆ”  

     

     

    “ค่า  หล่อมากค่า หล่อที่สุดเลยย  พี่เรียวกินได้แล้ววันนี้กินอะไรรึยังเนี่ยไม่ใช่มั่วแต่มาจัดเซอร์ไซท์จนลืมกินหรอกนะ”

    ผมถึงกับสะอึก  แหะๆน้องมันรู้ได้ไงวะว่าผมยังไม่ได้กินอะไรเลย

     

     

    “ไม่ได้กินอะไรจริงๆด้วยซินะ  งั้นกินเยอะๆเลย กินกุ้งนะเดี๋ยวโมแกะให้ แต่ตอนนี้พี่เรียวไม่ปวดท้องใช่ไหม”  โมเริ่มซักอาการผมละ นี้สรุปหรือใครเป็นหมอกันแน่วะ   ผมส่ายหน้าตอบ  น้องมันก็ตักนู้น ตักนี้ให้ผมกิน ผมก็ป้อนน้องมันบ้างสลับกัน น้องมันชอบกินปลาหมึกครับผมเลยจัดให้เยอะเป็นพิเศษ มาทะเลเราก็ต้องกินอาหารทะเลดิ่จริงป่ะ

     

     

    “อ๊า!  อิ่มจัง”  เสียงหวานบอก  ไม่อิ่มนี้ก็จะไม่รู้ไงละ  หมดปลาหมึกเป็นโลๆ 

     

     

    “ทำไมกินเยอะขนาดนี้เราถึงไม่อ้วนเลยละ  พี่ไม่เห็นเราจะแคร์เรื่องน้ำหนักเลยนะ”  คือผมสงสัยนานละ น้องมันสามารถกินเค้กเป็นปอนๆได้เลยนะครับ ผู้หญิงที่ผมเคยพบปะมานี้แค่ชิ้นเดียวก็พะอืดพะอมเต็มที่ละ

     

     

    “ไม่รู้อ่ะ  กินแล้วมีความสุขโมก็กินนะ ถ้าน้ำหนักขึ้นก็ลดเอา วิ่งสองวันก็ลงแล้ว อย่างเช่นวันนี้พี่เรียวทำให้กินทั้งทีโมก็ต้องกินให้เต็มที่เพราะไม่บ่อยเลยที่จะมีคนที่โมรักทำอะไรให้กินแบบนี้”  น้องมันตอบหน้านิ่งแต่ใจผมนี้ดิ่ไม่นิ่งเลย โอ๊ยเขินวะ! น้องมันจะรู้ป่ะว่าเผลอพูดคำว่ารักผมออกมา  ผมลุกขึ้นยืนเดินไปหาโม ผายมือพร้อมกับก้มตัวไปข้างหน้า

     

     

    “เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ คุณผู้หญิง”   ผมพูดเสียงหล่อ  น้องมันหัวเราะคิกคักแต่ก็ยอมยื่นมือมาให้

     

     

    “โมเต้นไม่เป็นนะ พี่เรียวไม่บอกก่อนเลยไม่ได้เตรียมตัวมา” 

     

     

    “ขึ้นมาเหยียบเท้าพี่เดี๋ยวพี่นำเอง” ผมบอกแล้วน้องมันก็ทำตาม ผมส่งสัญญาณให้เสียงเพลงดัง  ผมก้าวซ้ายก้าวขวาตามจังหวะเพลงที่ไม่เร็วนัก พร้อมกับประคองร่างบางที่กำลังอยู่ห่างจากผมไม่กี่เซน  ผมโอบเอวบางแน่นพาน้องมันขยับไปตามเพลง

     

     

    ฟอด!!  ผมกดปากลงแก้มใสอย่างหมั่นไส้  ผมเข้าใจเลยว่าเวลาคนที่ตัวเองรักมาอยู่ตรงหน้าแล้วมันอยากจูบ อยากหอม อยากกอดแบบสุดๆไปเลย

     

     

    ฟอดผมเปลี่ยนข้างมาที่ข้างขวา  ก้มจูบที่หน้าผาก จมูก ตา และที่ปาก

     

     

    “รักนะ”  ผมกระซิบแผ่วเบาแต่ชัดเจนใกล้หู

     

     

    ใครว่าเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็ว ไม่จริงเลยค่ำคืนนี้ของเรายังอีกยาวไกล หัวใจของผมบอกว่าถึงทางข้างหน้าจะยากเย็นแค่ไหน ผมก็จะไม่ปล่อยมือโมไปเด็ดขาด

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    .

    .

     

     5 ปีต่อมา

     

    “คุณหมอค่ะวันนี้มีคิวถึงแค่ 4 โมงเย็นนะค่ะ”  ผมพยักหน้าระหว่างที่กำลังรอเคสคนไข้คนต่อไป ตอนนี้ผมเป็นหมอเต็มตัวแล้วครับ การงานดี ความรักดี แฟนประเสริฐ  คริคริ   ยอมรับเลยมีสาวเข้ามาไม่ขาดแต่มันไม่มีเวลามาสนใจใครหรอกก็แฟนผมเล่นโทรเช็คโทรตามขนาดนี้ ถ้าว่าเบื่อไหม? ตอบได้เลยว่า ไม่!! 

     

     

    RRrrrr  

     

     

    เห็นมะ? พูดยังไม่ทันขาดคำแฟนก็โทรมาแล้วละครับ

     

     

    “ว่ายังไงครับดาริ่ง” ผมทักทายเสียงหวาน 

     

     

    พี่เรียวเลิกกี่โมงค่ะ โมจะได้ทำอาหารไว้รอ’ 

     

     

    “น่าจะถึงบ้านประมาณ 4 โมงกว่าหนะ  อ่า! คิดถึงหน้าแม่ของลูกจังเลย”  ผมพูดเสียงอ้อน  ก็มีแฟนคนเดียวนี้ครับไม่อ้อนแฟนจะให้ไปอ้อนใคร

     

     

    บ้า! งั้นแค่นี้นะค่ะ ตั้งใจทำงานะ คิดถึงเหมือนกัน’  ติ๊ด!

     

     

    “น้องโมโทรมาหรอค่ะ”  ผมหันไปดูเจ้าของเสียง

     

     

    “แอบฟังหรอครับพี่หมวย”  พยาบาลผู้ช่วยผมเองครับ ไม่ใช่ใครอื่นหรอก

     

     

    “ก็เห็นคุณหมอของพี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยอยากรู้ว่าใครกันที่ทำให้คุณหมอของพี่มีความสุขขนาดนี้”

     

     

    “ก็มีคนเดียวแหละครับ ผมเหมือนผมหลายใจไปได้”  ผมบอก

     

     

    “ค่า รู้ค่าว่าคนนี้อ่ะตัวจริง”    คนนี้ตัวจริงซะยิ่งกว่าจริงอีกครับ ตอนนี้โมก็เรียนจบแล้ว ทำงานเป็นล่ามบ้าง เป็นนักแปลหนังสือบ้าง แล้วแต่อารมณ์ของน้องมัน ที่จิรงผมไม่อยากให้ออกไปเจอคนมากมายหรอกนะ  หวง!

     

     

    หลังจากเลิกงานผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที เป็นแฟนที่ดีไม่ควรเถลไถลนะครับทุกคน ดูอย่างผมเป็นตัวอย่างก็ได้นะ  ฮ่าๆ  ผมเปิดประตูเข้ามาก็มองหาร่างที่คุ้นเคย  ที่ห้องนั่งเล่นไม่มี สงสัยอยู่ในครัว  ผมเดินเข้าไปหาร่างเล็กที่กำลังเตรียมอาหารอย่างคล่องแคล่ว  โอบกอดร่างเล็กจากทางข้างหลัง ผมชอบกอดแบบนี้นะมันดูเห็นเราใจตรงกันทุกครั้งเวลาที่กอดแบบนี้

     

     

    “กลับมาแล้วหรอ”

     

     

    “อืม  คิดถึงจังเลย” 

     

     

    ฟอดดด

     

     

    เป็นกิจวัตรประจำวันผมอยู่แล้วที่ต้องได้หอมแก้มนวลทุกครั้งเวลาถึงบ้าน โห! ก็แก้มน้องมันน่าฟัดขนาดนี้ใครจะไปอดใจไว้ละครับ

     

     

    “พี่เรียวปล่อยก่อนนะ หิวแล้วใช่ไหมเดี๋ยวโมตั้งโต๊ะให้นะ”  ร่างบางพลิกตัวหันมาพูดกับผม

     

     

    “ยังไม่อยากกินข้าวเลย  อยากกินอย่างอื่นแทนมากกว่า”  ผมขยิบตา ส่งสายตากรุ่มกริ่มไปให้  และผลที่ได้คือ..

     

     

    เพียะ!!  เต็มแรงเลยทีเดียว!

     

     

    “ตีทำไม  พูดเล่นนิดเดียวเอง”  ผมทำปากยื่นแสดงอาการงอนเตรียมที่ เอาดิ่ง้อดิ่ง้อ

     

     

    “ทะลึ่งตลอดเลย  ยังไม่ได้ขอยังจะพูดแบบนี้อีก”  น้องมันทำเสียงดุ

     

     

    “พูดงี้ใช่มะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้แห่ขันหมากเลยเอาป้ะ”  ผมถาม  สายตาหวานหันมาสบตาผม มุมปากค่อยๆระบายยิ้มกว้างให้เห็น ใบหน้าหวานเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้เรื่อยๆ 

     

     

    ฟอดดดด 

     

     

    “รออยู่นานละ  คริคริ”  โมหอมก้มผมแล้วก็เดินออกไปจัดโต๊ะอาหาร ส่วนผมนี้กำลังคิดเลยจะเอาสินสอดเท่าไหร่ดีวะ น้องมันพูดทอดสะพานให้ซะขนาดนี้ละ รอนานไม่ได้หรอกครับ รายนี้ใช่ย่อยซะที่ไหน หนุ่มๆนี้ขายขนมจีบเป็นว่าเล่น จนผมต้องเปลี่ยนเบอร์กับน้องมันใช้ 1 อาทิตย์! ไม่ได้เว้ย  เมียข้าใครอย่าแตะ ผมถือคตินี้อยู่นะ 

     

     

    “อ่า  หอมจัง ขุนพี่แบบนี้อ้วนตายเลย”  ผมก้มลงไปสูดดมกลิ่นอาหาร  ยอมรับเลยน้องมันขุนผมดีจริงๆ ยอมลงทุนไปเรียนมาเลยนะครับเนี่ย ไม่งั้นครัวคงพังแล้วละ แต่เอาเข้าจริงน้องมันจะทำอะไรผมก็กินได้หมดละครับ ฮิ้วววว

     

     

     

    .

    .

    .

     

    .

    เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสที่สุดสำหรับผมเลยกว่าได้  วันนี้ผมหยุดครับ แต่โมไม่หยุดเห็นบอกมีงานแปลหนังสือเล่มใหม่เข้ามาด่วน  หึหึ  เข้าทางผมพอดีเลย ตอนนี้โมอายุ  26 ละ คุณคิดว่าผมเหมาะกับการจะสร้างครอบครัวได้รึยัง?  ผมปรึกษาครอบครัวผมแล้วก็ครอบครัวของโมแล้วละครับ ว่าบ้านเราควรจะมีงานมงคลกันสักที นี้น้องมันยังไม่รู้หรอกนะว่าผมแอบเตรียมแผนไว้ก่อนแล้ว อันที่จริงผมคิดว่าครอบครัวโมจะไม่ชอบผมซะอีก แต่พอเจอผมเท่านั้นแหละท่านเอ่ยปากชมเลยว่า คนนี้หรอที่เล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆผมนี้เขินเลย ไม่รู้ว่าน้องมันเล่าอะไรให้ท่านฟังบ้าง ผมคลาดว่าวันนี้น้องมันน่าจะกลับมาในช่วงหัวค่ำตอนนี้ก็เพิ่งเที่ยงกว่าๆเองมีเวลาเตรียมสถานที่อีกตั้งนาน สบายตัวละครับงานนี้  ที่จริงผมคิดไว้ว่าจะขอแต่งตั้งแต่เราเรียนจบทั้งคู่ละ แต่มาคิดดูอีกทีผมควรจะทำงานเก็บเงินก่อนสักระยะ เพื่อเตรียมเป็นค่าสินสอดและค่าเรือนหอของเรา  เป็นไงละ? ผมคอบรอบสุดๆเลยใช่มะ  

     

     

    เมื่อตะวันลับขอบฟ้าเทเลทับบี้บอกลา มันก็ถึงเวลาที่คุณเรียวอย่างผมจะลงมือแล้วละครับ  น้องมันโทรมาเมื่อกี้ว่ากำลังจะถึงแล้วบ้านแล้ว ผมนี้รีบอาบน้ำแต่งหล่อสุดฤทธิ์พอทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ต้องรีบมาแอบในมุมมืดของบ้านที่ผมเตรียมไว้ซุ่มดูเหตุการณ์ครับ

     

     

    แกร๊ก

     

     

    “เอ่า ทำไมบ้านมืดหมดแบบนี้ละ คิดว่าพี่เรียวกลับมาแล้วซะอีก”  โมอุทานหลังจากเปิดประตูเข้ามา ผมไม่ได้บอกน้องมันหรอกครับว่าผมหยุด ทำให้ดูเหมือนกันไม่มีใครกลับมา ปกติผมไม่กลับดึกมากหรอก 

     

     

    “อ่ะ  ทำไมไม่ติดละ  หรือว่าไฟเสีย”  น้องมันกดสวิตต์ไฟอยู่หลายครั้งครับ มันจะติดได้ไงละก็ผมเล่นปิดคั๊ตเอ้าท์ลงซะขนาดนี้เมื่อเห็นว่าร่างบางเผลอปมก็ตบมือส่งสัญญาณกับแผนที่เตรียมไว้

     

     

     

    พึ่บ!   แสงไฟมากมายเรียกให้โมหันไปสนใจ ผมที่รอยู่แล้วเดินออกไปพร้อมดอกไม้ช่อโต ผมชอบนะเวลาที่เห็นน้องมันทำหน้าอึ้ง แต่ดูขัดใจนิดหน่อยที่น้ำตานี้ซิไหลลงมาได้ตลอด

     

     

    “ร้องไห้อีกแล้วนะ”  ผมดุไม่จริงจัง

     

     

    “แล้วใครบอกให้ทำแบบนี้ละ” 

     

     

     

    “แบบไหนละแบบนี้” ผมถาม

     

     

    “แบบนี้ไง..” น้องมันชี้ไปที่ไฟมากมายที่ต่อกันเป็นประโยค ‘will you marry me my sweetheart’  กว่าผมจะทำไฟให้เป็นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่านเลยนะครับ ผมต้องย้ายตู้ โซฟาเพื่อที่จะให้มันมีเนื้อที่ว่างพอ ผมยิ้มเดินเข้าไปสวมกอดร่างบางที่กำลังเช็ดน้ำตาอย่าลวกๆ  ผมไม่ชินสักทีที่เห็นน้องมันร้องไห้

     

     

    “แล้วยังครับ  เซ เยส หรือ เซ โน” ผมกระซิบข้างหู  นี้ถ้าปฏิเสธจะจับปล้ำซะเลย ร่างบางนิ่งไปสักครู่แล้วหัวเรียวก็พยักขึ้นลง

     

     

    “อื้อ  แต่งอยู่แล้ว”  เท่านั้นแหละครับ ผมอุ้มน้องมันขึ้นแล้วหมุนกลางอากาศเลย  ผมดีใจนะกว่าเราจะมีวันนี้ด้วยกันเราผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่ผมว่ามันก็คุ้มที่จะแลกกับความสุขทั้งชีวิตของผม  

     

     

    “พี่สัญญาจะดูแลเราไปตลอดชีวิต”  ผมพูดพร้อมกับนั่งคุกเข่าเหมือนในหนังที่เขาชอบทำเวลาขอแต่งงานกัน พร้อมกับจับมือเรียวมากุมไว้

     

     

    “พี่รักโมนะ” กดจูบมือขาวไปหนึ่งที

     

     

    “จะรักตลอดไปด้วย” กดไปอีกหนึ่งที

     

     

    “สัญญาด้วยหัวใจทั้งหมดแล้วพี่เลยครับ”  ผมลุกขึ้นสวมกอดน้องมันอีกครั้ง 

     

     

    “โมรักพี่เรียวนะ รักพี่เรียวที่สุดเลย รักมากๆ มากๆเลยด้วย  ฮื่ออ”  น้องมันพูดไปร้องไห้ไป

     

     

    “รู้ครับ รู้แล้ว ต่อไปนี้เราจะดูแลกันและกันนะ”  ผมบอก ผละออกเพื่อมองหน้าน้องมัน

     

     

    “สัญญาว่าจะดูแลตลอดไป / สัญญาว่าจะดูตลอดไป”   สองเสียงพูดพร้อมกันเพื่อเป็นคำมั่นสัญญากับการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่แท้จริง

     

    เรียว : หึหึ  ผมจะได้เป็นเจ้าของน้องมันทั้งกายและใจทั้งที  อดกลั้นมานานละครับทุกคน จัดหนักเลย! ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ  รักทุกคนมากๆ

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×