ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My room :)

    ลำดับตอนที่ #1 : Original Character (pairing - Giotto) (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 624
      0
      3 ม.ค. 56

     


    Application Form

    Part I ; About Nedez

     

    เนเดสท์หมายเลข ::  VII [The Friar of Nedez]

    ตำแหน่งสัญลักษณ์แห่งเนเดสท์ :: หลังมือซ้าย

    พลังแห่งพันธสัญญา :: ความสามารถของเธอคนนี้เกี่ยวกับการ “รักษาเยียวยา” ทั้งทางกายภาพและจิตภาพ (แต่เน้นทางจิตใจมากกว่า ก็เป็นนักบวชนี่นา...) ส่วนถามว่ายังไงคือเธอสามารถอ่าน รับรู้และดูดพลังความคิดด้านมืดหรือด้านลบออกจากตัวคนอื่นแล้วนำมันมาใส่ในจิตใจตัวเองแทนได้ (ส่วนคนที่ถูกเอาไปก็จะลืมไปเลยว่ามีความคิดด้านลบนั้นอยู่ เลยเป็นการเยียวยาจิตในตัว) แต่ก็ไม่ได้ทำแค่ดูดด้านมืดนั่นมาให้ตัวเองทุกข์เพิ่มเล่นๆนะ มันมีอะไรมากกว่านั้น ...ความสามารถระดับสูงของเธอในฐานะเนเดสท์คือ การเปลี่ยนพลังด้านลบที่เธอดูดๆเข้ามา(รวมไปถึงความคิดด้านลบของตัวเองด้วย) เป็นพลังในการ “รักษาทางกายภาพ” แต่รักษาอย่างเดียวไม่พอ...เกิดชีคนนี้ระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ จาก “รักษา” จะการเป็น”ทำลาย” แทนอะดิ เนื่องจากพอชีโมโห จะไม่สามารถเปลี่ยนอารมณ์ด้านลบให้การเป็นพลังในการรักษาได้...ก็...นะ...ความคิดด้านลบมาอัดรวมกันเป็นไงก็น่าจะรู้นะ...เน่าไม่เหลือซากน่ะสิ (เนเดสท์หมายเลข 3 การันตีพลังการทำลายจ้า)

    สิ่งที่แลกเปลี่ยน :: “รอยยิ้มที่สดใส” ของเธอคือสิ่งแลกเปลี่ยน นับแต่เธอได้พลังมา เธอไม่เคยยิ้มได้อีกเลยแม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม ทำได้อย่างมากก็แค่ยกมุมปากเล็กน้อยคือขีดสุด เพราะฉะนั้นหากจะดูอารมณ์ของเธอจริงๆจะต้องไปดูที่นัยน์ตาเธอแทน เพราะเธอยิ้มไม่ได้อีกต่อไปแล้วแม้ว่าจะมีความสุขแค่ไหนก็ตาม

     

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

    Part II ; About Personal Information

     

    รูป :: เธอคนนี้มาจากเรื่อง Touhou นามว่า Shikieiki Yamaxanadu เจ้าค่ะ

    http://www.zerochan.net/1033585

    http://www.zerochan.net/726812

     

    รูปร่างลักษณะ ::  เด็กสาวที่มีรูปร่างทุกอย่างสมส่วนไร้ที่ติตั้งแต่หัวจรดเท้า เรือนผมเขียวใบไม้อ่อนๆซอยสไลด์อย่างดูดีที่ยาวประบ่านั้นดูนุ่มสลวยและเป็นประกายเสมอยามล้อแสง แต่แอบน่าเสียดายที่ครึ่งหนึ่งของมันถูกหมวกประจำตัวสีน้ำเงินขาวประดับด้วยตราอักขระมีริบบิ้นและลูกไม้ประดับประดาบดบังไปเสียก่อน ดวงหน้าหวานใสสมวัยไร้รอยตำหนิใดๆนั้นมีนัยน์ตาสีฟ้าสวยดั่งไพลินทอประกายเศร้าสร้อยและครุ่นคิดในคราวเดียวกันปรัดับอยู่ จมูกโด่งเพรียวพอเหมาะ ริมฝีปากบางเป็นสีซากุระอ่อนๆชวนให้สัมผัส ร่างปราดเปรียวสมส่วนนั้นมักจะสวมชุดประจำที่สไตล์ออกไปทางจีนๆเล็กน้อยประดับด้วยริบบิ้นและผ้าระบายอย่างลงตัว ขายาวเรียวสวมถุงน่องสีดำประดับขอบด้วยระบายผ้าสีขาวยิ่งทำให้ขาดูยาวเรียวในที่สุด โดยรวมแล้วเธอเป็นเด็กสาวที่น่ารักมากคนหนึ่ง แต่หากรอยยิ้มที่สดใสนั้นปรากฏที่ริมฝีปากเมื่อใดคงจะน่ารักมากกว่าเดิมเป็นแน่แท้ สูง 168 เซนติเมตร หนัก 47 กิโลกรัม  

    ชื่อ :: Lorena (ลอเรน่า)

    ความหมาย :: เด็กน้อยคนหนึ่งผู้โศกเศร้า

    ชื่อเล่น :: Rena (เรน่า) / Lorei (ลอเรย์) (คนส่วนใหญ่มักเรียกชื่อหลัง เพราะคนที่เรียกเรน่าได้...ต้องเป็นคนที่เธออนุญาตหรือก็คือสนิทพอเท่านั้น ไม่งั้นเธอจะเศร้ามากเพราะครอบครัวเธอเรียกเธอว่า “เรน่า” ก่อนจะเอาตัวเธอมาน่ะสิ...)

    อาวุธและรูปร่าง :: หมวกที่เรน่าสวมประจำและตราอักขระ (ในรูปเลยน่ะแหละค่ะ) ตัวหมวกเป็นสีน้ำเงินมีแฉกสีดำแซมทองเป็นลวดลายยื่นออกมาเหมือนเป็นกลีบดอกไม้ให้หมวก มีผ้าเป็นระบายสีขาวซ้อนอยู่ข้างล่างอีกทีเหมือนกลีบนอก รงกลางประดับด้วยตราอักขระสีทองคำคล้ายคลึงกับอันที่เธอพกติดตัว อักขระสลักด้วยสีแดง แค่ลายและขนาดต่างกันเท่านั้น

    ความสามารถของอาวุธ :: อืม...ความสามารถของสองสิ่งนี้เหมือนมีไว้ซัพพอร์ตพลังแห่งเนเดสท์มากกว่าจะเป็นอาวุธโดยตรงนะ เพราะความสามารถของหมวกของเรน่า คือ “การควบคุมความคิด” อย่าเพิ่งเข้าใจผิด...ไม่ใช่แบบที่คิดนะ แต่เป็นการควบคุมความคิดตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านจนเผลอไปอ่านหรือรับรู้ความคิดด้านลบของใครโดยไม่จำเป็นมากกว่า และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูดความคิดยามเธอต้องการ รวมไปถึงการปล่อยพลังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็เป็นความสามารถของ “ตราอักขระ” ด้วย (แน่นอนว่าทั้งการรักษาและการระเบิดพลัง) ซึ่งส่วนที่คุมพลังคือตราทองของหมวกและตัวตราอักขระที่ใช้ถือนั่นแหละปัจจัยสำคัญ เวลาที่เรน่าใช้สีอักขระที่สลักไว้จะเปล่งเป็นสีแดงเข้มขึ้นอย่างชัดเจน

    ความสามารถพิเศษ :: พลังจากพันธสัญญาก็หนึ่งล่ะ...แล้วก็ความจำของเธอดีมาก เป็นคนที่ไม่ว่ารายละเอียดเล็กน้อยแค่ไหนหากเธอเห็น ได้ยิน หรือสัมผัสได้ล่ะก็เธอจะสามารถจดจำได้อย่างไม่มีวันลืม ความสามารถในการฟื้นตนเองจากการป่วยก็มีสูงเอาการเพราะตัวเองป่วยกระเสาะกระแสะอยู่เรื่อย (แต่ก็ไม่ได้ถึงขึ้นป่วยใกล้ตายนะ) รอบรู้เรื่องยาและสมุนไพร รวมไปถึงความเชื่อด้านศาสนาต่างๆเป็นพิเศษ แล้วก็...จากพลังแห่งเนเดสท์ของเธอทำให้เธอเสมือนมีตาทิพย์ คือ จู่ๆเธอจะสามารถเห็นภาพจากีกสถานที่หนึ่งได้ แต่เธอไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้ มันจะประมาณว่าจู่ๆก็โผล่มาแล้วจากไปอะไรประมาณนั้น และที่ๆเธอเห็นนั้นมักจะเป็นสถานที่ๆมีความคิดด้านลบรวมตัวกันอัดแน่นอย่างมาก พลังแห่งเนเดสท์ของเธอจึงตอบสนองกับมันโดยการให้ภาพไปปรากฏในจิตของเธอ (ซึ่งส่งผลให้เธอมีเรื่องชวนหัวปวดกบาลตามมาบ่อยๆ ไมเกรนอาจรับประทานก็งานนี้...และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุว่าทำไมชีถึงป่วยเอาๆไม่หายซักที เพราะพอจะหายขาดก็โผล่มาอีกละ...)

    ของที่พกติดตัว :: ตราอักขระที่เป็นอาวุธนั่นแหละ

    สัตว์ประจำตัว :: นกไนติงเกล ชื่อ Lilena (ลิเลน่า) ชื่อเล่นของมันคือ “ลิล” มันร้องเพลงได้ไพเราะมาก และเป็นมิตรกะชาวบ้านไปทั่ว สายตามันดีมาก หากมันเห็นคนเป็นทุกข์ต้องการความช่วยเหลือจะรีบแจ้นมาหาผู้เป็นนายทันที ชอบกินน้ำหวานดอกไม้ที่สุด เพราะงั้นถ้าลอเรนน่าเรียกแล้วไม่มาก็แน่ใจได้เลยว่าเจ้านี่ไปอู้กินน้ำหวานที่ไหนสักที่แหงๆ อ้ะๆ แต่มันกินเฉพาะตอนว่างๆไม่มีอะไรเร่งด่วนนะ ลอเรน่ารักมันมากจึงขอพลังจากฮอราเทียสเสกให้มันเป็นอมตะเช่นเดียวกับตนเอง และมันจะหมดอายุขัยวันเดียวกับที่เธอสิ้นลม

    ชอบ :: ดอกไม้สวยๆ โดยเฉพาะดอกซากุระจะชอบมากเป็นพิเศษ / ความสงบ / หนังสือ / กลิ่นสมุนไพร / รอยยิ้ม / เสียงร้องเพลงของลิล / แสงอ่อนๆในยามเช้า / แสงจันทร์ / ชา  

    ไม่ชอบ/เกลียด :: เวลาฝนตกหนักๆ / เสียงดังโหวกเหวกอย่างไร้เหตุผล / การมีคนมาปลุก / ออร่าของความคิดในแง่ลบ / การล้างแค้นหรือการมีเรื่อง / พวกชอบทรมานคนอื่น / รอยยิ้มที่เสแสร้งเป็นสิ่งที่เธอเกลียดมากที่สุด

    กลัวหรือจุดตาย :: การเป็นคนไร้ค่าไร้ประโยชน์ในสายตาคนอื่น (เพราะตั้งแต่เธอป่วยก็มักจะคิดว่าตัวเองทำอะไรให้คนอื่นไม่ได้อยู่เรื่อย ทั้งๆที่พลังเธอนั้นเคยช่วยเหลือคนไว้มาก...) ส่วนจุดอ่อนของเธอก็ไออาการป่วยเธอเนี่ยแหละตัวดี เพราะป่วยแบบนี้ทำให้เธอไม่สามารถสู้กับ “สภาพอากาศที่โหดร้าย” ได้ ดังนั้นหากวันไหนฝนฟ้าไม่เป็นใจเมื่อไหร่...ก็ทำใจไว้ซะนะว่าจะไม่มีทางเห็นลอเรน่าเดินออกจากที่พักแน่ๆ เพราะถ้าฝืนออกมาเธอจะอาการทรุดลงอีก

    งานอดิเรก :: อ่านหนังสือ / ร้องเพลง / เดินเล่น / จิบชาชมดอกไม้ / เข้าป่า???

    ลักษณะนิสัย :: หากจะมีใครสักคนบอกว่าชื่อของคนนั้นบ่งบอกถึงนิสัย “ลอเรน่า” เองก็คงเป็นหนึ่งในคนที่เข้าเค้าความหมายนั้น ทำไมน่ะหรือ? เพราะนัยน์ตาสีไพลินคู่สวยบนดวงหน้าหวานของเธอมักจะมีประกายเศร้าสร้อยแฝงอยู่แทบจะตลอดเวลาไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ก็ตาม น้อยครั้งเหลือเกินที่จะเห็นดวงตานั้นเปล่งประกายยิ้มแย้มสดใสดังเช่น “ลอเรน่า” คนเก่าของที่เธอจะเข้ารับพิธีเป็นเนเดสท์ รอยยิ้มที่เคยมีนั้นถูกผนึกไปพร้อมๆกับความเป็นนิรันดร์กาลที่ได้รับมาจากพิธีเสียแล้ว อย่างไรก็ตามนิสัยของเธอก็ยังเป็นเธอคนเก่าอยู่แม้ว่าจะไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้ก็ตาม ลอเรน่าเป็นคนจิตใจดีดั่งแม่พระ แต่เจ้าตัวจะชอบคิดว่าตัวเองน่ะบาปหนาเพราะเธอเป็นคนที่ประเมินค่าตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมหาศาล เลยทำให้ตัวเองมีออร่าทะมึนๆปนโศกเศร้าบางๆล้อมรอบตัวเองแทบจะตลอดเวลาที่ใครคนอื่นเห็น ดูเศร้า ไม่ยิ้ม แต่สิ่งหนึ่งที่ลอเรน่าแทบไม่ทำเลยคือการร้องไห้ เพราะคิดว่าร้องไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้นมานักหรอก แถมคิดมากอีกว่าถ้าร้องแล้วจะทำให้คนอื่นลำบาก ถ้าร้องแล้วจะทำให้ตัวเองดูน่าสมเพช อะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะทุกข์สุขหรือเศร้า สีหน้าของเธอก็จะยังคงเป็นแบบเดิมคือสงบแทบจะตลอดกาล มีเพียงประกายในดวงตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไปหากสังเกตดีๆ เป็นคนที่เหมือนไม่มีความกล้าเอาซะเลย...เพราะเวลาจะไปช่วยอะไรใครทีจะไม่เข้าไปช่วยตรงๆแต่จะเป็นเบื้องหลังหรือคอยช่วยจากห่างๆมากกว่าที่จะออกหน้าไปช่วยเลย (สังเกตสิว่าพลังของเธอสามารถใช้ได้จากระยะไกลทั้งนั้น) แถมอีก...ด้วยความที่ว่าตัวเองเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยไปสุงสิงกับชาวบ้านมากนัก ประกอบกับสีหน้าที่คงเดิมแทบจะตลอดศกทำเอาแทบทุกคนตีความไปแล้วว่าเธอเป็นคนเย็นชาทั้งๆที่จริงแล้วไม่ใช่เลย อบอุ่นมากซะด้วยซ้ำ จริงใจด้วย แต่จะแสดงออกทางการกระทำมากกว่าคำพูดก็เท่านั้น ทำอะไรก็ดูจะจริงจังไปหมดซะทุกเรื่องเว้นแต่ตอนทำงานอดิเรก จิตใจมุ่งมั่นเข้มแข็งและปณิธานแรงกล้าที่สุดในหมู่เนเดสท์ เธอคนนี้อดทนได้เสมอเพื่อคนอื่น...อดทนได้นานด้วยแต่แน่นอนว่ามันก็มีลิมิตล่ะนะ วางตัวดี มารยาทก็งามพอสมควร ลอเรน่าเป็นคนที่ดูไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยในหมู่เนเดสท์ทั้งหมด ดูเผินๆชีเหมือนจะธรรมดาที่สุด แต่สติปัญญาและความทรงจำของเธอดีเยี่ยมและเฉียบขาดไม่แพ้ “The Witch” เลยทีเดียว ก็บอกแล้วไงว่าการที่เธอไม่พูดไม่ได้หมายความว่าไม่รู้อะไรนะ และที่สำคัญลอเรน่าเป็นคนที่อ่านสีหน้าท่าทางและจับอารมณ์ชาวบ้านเก่งมาก (แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกนั่นแล...) ใครเฟคใครจริงใจเธอดูออกหมดนั่นแหละ เพราะเธอเกลียดคนเฟคที่สุดในโลกหล้าจนไม่รู้ว่าจะสรรหาคำมาบรรยายยังไงดี เออ...ลืมบอกไปว่าไอที่เธอเงียบๆนั่นน่ะไม่ได้หมายความว่าวันๆเธอไม่ได้พูดเลยนะ ลอเรน่าพูดเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น ฟังดูอาจจะคล้ายกับเนเดสท์อีกคนแต่ไม่เพราะหัวข้อพูดมันคนละเรื่องกันเลย รักความสงบเหนือสิ่งอื่นใด เธอจะไม่ชอบเลยหากช่วงเวลาอันสงบสุขของเธอจะถูกรบกวนด้วยเหตุผลที่ไร้สาระอย่างเช่นการทะเลาะของเนเดสท์ด้วยกันเองอย่างไร้เหตุผล...ให้ตายสิ ไม่มีอะไรทำแล้วหรือไง? ปกติลอเรน่าเป็นคนที่มีอะไรก็เก็บซ่อนมันไว้ในใจตลอดเวลาไม่ค่อยยอมเปิดปากโดยเฉพาะเรื่องความรู้สึกเนี่ยแหละตัวดี แต่เรื่องคนอื่นน่ะห่วงนักเชียว แถมยังซึนเดเระไม่เข้าท่าอีกในบางเรื่องอีก ทำให้เธอดูโกรธคนยาก เพราะอะไรๆก็จะบอกว่า”ไม่เป็นไร”อยู่เรื่อยๆทั้งๆที่บางทีอยากจะตะโกนตอกหน้ากลับไปว่า “ทำขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าเป็นอะไรมั้ย?” แต่ทุกอย่างมันมีลิมิตของมันอยู่ และถ้าลิมิตนี้แตกเมื่อไหร่ เตรียมโลงไว้นอนแก้บนสักพักก็น่าจะดีนะ เพราะด้วยพลังของเธอ...บรึ้ม...เน่ายกวงแน่นอน แม้จะแลกกับการที่เธอต้องไปนอนซมอีกสามวันแต่โดยส่วนตัวของลอเรน่าแล้วมันคุ้มดีนะถ้าจะได้ระบายความอึดอัดนี้ออกไปบ้าง...ก็บอกแล้วไง ฉันไม่ใช่คนดีขนาดนั้นสักหน่อย ฉันน่ะนะ...ใครดีมาฉันก็จะดีกลับให้เขามากกว่าเดิม ตอบแทนที่เขาดีกับฉันก่อน แต่ถ้าใครร้ายมาฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะทนเป็นคนดีขนาดนั้นไหวหรอกนะ แม้ฉันจะเป็นนักบวช แต่ก็ยังมีความรู้สึกเหมือนกันนะ...อ้อ...แต่ถ้าความใจดีที่ให้ฉันมาเป็นการหลอกลวงล่ะก็...สาบานได้เลยนะว่าเขาคนนั้นจะต้องชดใช้ เขาจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน...สัญญาด้วยพลังและเกียรติแห่งเนเดสท์ที่ฉันมีเลย...ฉันรักษาสัญญาด้วยทุกสิ่งที่ฉันมีนะจะบอกให้...   

    เพิ่มเติม :: คุณจะเห็นเธออยู่ในชุดนี้ชุดเดียว...หาเจอเวลาเธอสวมชุดอื่นยากจะตาย...

     

     

     -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

    Part III ; Question for Character (ขอให้ตัวละครตอบนะครับ)

     

    ยินดีที่ได้พบ ข้าคือมูนไลท์ ตัวแทนจากแสงจันทร์ แล้วเจ้าล่ะ เป็นใคร?? :: เด็กสาวตรงหน้าเขากระตุกริมฝีปากเล็กน้อยราวกับจะส่งยิ้มให้ ก่อนจะนั่งลงแล้วเอ่ยเสียงหวานไพเราะหากแต่เบาหวิวดั่งขนนก “ข้า...ลอเรน่า ตัวแทนแห่งเนเดสท์หมายเลข VII เจ้าค่ะท่านมูนไลท์...” พร้อมกับถอดหมวกออกและค้อมศีรษะลงเป็นการทักทาย

    เจ้าคิดอย่างไร กับการที่ตัวเองต้องเป็นเนเดสท์ และพันธสัญญาของเนเดสท์?? :: “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด...” ร่างเล็กพึมพำราวกับไม่ได้พูดให้อีกฝ่ายได้ยิน “ข้าไม่มีสิทธิตั้งคำถามในสิ่งที่พระเจ้าท่านกำหนดให้กับข้าแล้ว...ในเมื่อท่านผู้นั้นเลือกข้า ข้าก็จะทำหน้าที่ให้ดีให้สมกับที่ท่านเลือกข้า ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกจากท่านผู้นั้น...” ก็ถึงแม้ว่าข้าจะเศร้าแค่ไหน พูดไปท่านก็ช่วยอะไรข้าไม่ได้อยู่ดีนี่...ท่านมูนไลท์...อย่างที่ข้าบอกไปแล้วไงว่าอะไรจะเกิดต้องเกิด และเมื่อเกิดนั่นคือทุกอย่างมันสายเกินจะแก้แล้ว... เด็กสาวคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากกว่านั้น

    แล้วเจ้าคิดอย่างไรกับโฮราเทียสและเนเดสท์คนอื่นๆ? :: “ข้าไม่มีสิทธิจะไปตัดสินใครจากเพียงแค่สิ่งที่ข้าเห็น...เพราะนั่นอาจไม่ใจสิ่งที่เขาเป็นจริงๆก็เป็นได้ แต่ข้าว่ามันจะดีมากหากพวกเขาเลิกตีกันเรื่องไร้สาระเสียที มันรบกวนเวลาพักผ่อนของข้า” ลอเรน่าเอ่ยพลางกระตุกมุมปากอีกครั้งก่อนจะหลับตาลงสักพัก

    แล้วถ้าเกิดว่า เจ้าจำต้องปลิดชีวิตผู้อื่น เพื่อให้เจ้ารอดและพ้นจากความทุกข์ทรมาน เจ้าจะทำเช่นไร? :: “...เพื่ออะไร? แค่นี้ยังทรมานไม่พออีกหรือท่านมูนไลท์ แค่นี้ยังทรมานไม่พอจนต้องปลิดชีพคนอื่นเพื่อทับถมบาปของข้าให้หนาและแผดเผาตัวข้าทั้งเป็นอีกหรือ...ข้าไม่ทำหรอก หากเป็นไปได้ข้าขอเลือกจบชีวิตตนเองจะเป็นการดีกว่ามาทรมานอยู่แบบนี้...” เด็กสาวเอ่ยโดยไม่ลืมตาคู่สวยของเธอเลยแม้แต่น้อย

    งั้นหรือ? แล้วสิ่งใดกันเล่า ที่เจ้าพึงปรารถนามากที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีวันเป็นจริง? :: “ความตายและการอยู่ร่วมกับพระเป็นเจ้าในความสงบสุขตลอดไป...ชั่วนิรันดร์...” นัยน์ตาสีไพลินลืมขึ้นอย่างแน่วแน่ “นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ข้าต้องการ...” เสียงกระซิบลอยตามมาอีกครั้ง

    นั่นคือคำตอบของเจ้าสินะ ขอบคุณที่สละเวลา ขอให้แสงจันทร์จงนำทางและเป็นพลังให้แก่เจ้า เชิญออกไปได้ :: “ขอพระเจ้าจงสถิตอยู่กับท่านเสมอ...ท่านมูนไลท์ ข้าขอลา...” จากนั้นเธอก็ค้อมศีรษะอีกครั้งก่อนจะสวมหมวก และหายไปพร้อมๆกลีบซากุระที่โปรยปรายเข้ามาในห้องสัมภาษณ์อย่างเงียบงัน...พร้อมๆกับเสียงประตูที่ปิดลง...

     

     

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

    Part IV ; Question to you

     

    ขอบคุณที่มาสมัครนะฮะ >< ชื่ออะไรเหรอครับ?? :: นี่พี่แน้ปเองจ้ายู...

    ขอโทษนะฮะที่ทำให้ยุ่งยากแล้วก็เรื่องมากกับใบสมัครอันยาวเหยียด แหะๆ :: ช่างมันเถอะจ้า เพราะตอนยูกรอกของพี่มั้นก็ยาวเท่านี้นั่นแหละ...ฮะๆๆ

    พล็อตดูแปลกๆไหมฮะ :: แฟนตาซีกับยูเป็นของคู่กันเพราะฉะนั้นไม่แปลกจ้า ><

    คิดว่าจะได้คู่กับใครเหรอฮะ :: ปู่จ๊อตๆๆๆๆๆๆๆๆ (ฟลัดรัวๆ)

    ถ้าเกิดว่าคุณติด ผมขอเปลี่ยนอะไรนิดหน่อยได้ไหมฮะ :: ตามสบายเลยจ้า ถ้าติดก็เอาไปเลย

    มีอะไรอยากจะบอกหรือบ่นผมไหม :: อยากจะบอกว่าช่วยรับลูกสาวคนนี้ไว้พิจารณาด้วยเน้อ แล้วจะส่งอีกคนนึงมาด้วย (อยากบอกว่านิสัยอีกคนคิดไปคิดมานี่โคตรเหมือนเรียวมะเลยอ่ะยู อิมเมจก็เตี้ยพอกันอีก...)

    ขอให้โชคดีนะครับ :D :: 555+ จะโชคดีหรือร้ายยูก็เป็นคนกำหนดนี่นา...งั้นก็ช่วยทำให้พี่โชคดีละกันนะจ้ะ // โดนถีบ

    สุดท้าย ต้องการให้วิจารณ์ตัวละครออริไหมฮะ ทุกตัว? คนที่ผ่าน? หรือยังไง? :: ทุกตัวเลยจ้า ไม่งั้นมันคาใจ

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




     


    ใบสมัครรรร

     

     

    รูป :: http://www.zerochan.net/886651

    รูปร่างลักษณะ :: หญิงสาวที่หน้าตาไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ยังเหมือนเด็กสาวอยู่เสมอ...ด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนวัยราวกับเด็กวัยรุ่นน่ารักน่าเอ็นดูคนหนึ่งแม้ว่าเนตรสีเหลืองอำพันคู่งามที่มีเสน่ห์นั้นมักจะแสดงถึงความมึนงง เหม่อลอย หรือว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่ในยามที่ดวงตาคู่นั้นได้ฟื้นจากการนิทราก็ตามที...จมูกเรียวโด่งนิดๆ ปากบางสีชมพูระเรื่อด้วยเลือดฝาดกำลังพอเหมาะ อีกทั้งดวงหน้าที่ไร้ตำหนินั้นยังมีสีเลือดจางๆแลดูน่ารักน่าชังเป็นที่สุดอีกด้วย ยังไม่นับรวมใบถึงเรือนผมสีบลอนด์อ่อนๆที่เป็นประกายยามต้องแสงยาวสลวยจรดกลางหลังอีกล่ะ เมื่อมันล้อมใบหน้าที่งดงามไว้ก็ยิ่งช่วยเสริมให้เธอคนนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวีคูณ รูปร่างสั-ดส่วนต่างๆของเธอก็เล็กบอบบางกำลังดีราวกับเด็กน้อยน่าเอ็นดูแม้เธอจะติดเตี้ยไปหน่อยก็ตาม (...// เซร่า) ด้วยความสูงเพียง 155 เซนติเมตร แขนขาเพรียวสวยแบบที่หลายคนนึกฝันถึงแถมผิวขาวนวลนั้นยังเปล่งประกายดูสุขภาพดีตลอดเวลา และเคปอีกทั้งหมวกสีดำที่เธอมักจะสวมอยู่ยิ่งทำให้ผิวขาวๆของเธอนั้นยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเป็นเท่าทวี เมื่อรวมกับบุคลิกที่ดูสง่าเกินวัยแต่เปี่ยมไปด้วยความมึน อึน งง แล้วทำให้โดยรวมแล้วเธอคนนี้เป็นวิหคขาวที่น่ารักมากเลยทีเดียว  

     

    ชื่อ – นามสกุล :: Serafina Sinceris (เซราฟิน่า ซินเซอร์ริส)

    ชื่อเล่น :: Sera (เซร่า)

    ความหมาย :: ปีกนางฟ้าอันบริสุทธิ์ไร้ความหมองหม่น

    วิหคปีกสี :: ขาว

    ความสามารถของปีก :: Cleanse & Purify (คลีนส์ แอนด์ เพียวริไฟด์ – ชำระล้างและทำให้บริสุทธิ์) ก็ในเมื่อสีขาวเป็นสีแห่งความขาวสะอาดและบริสุทธิ์ ความสามารถของปีกสีนี้จะเป็นอื่นใดได้ล่ะนอกจากการทำทุกอย่างให้บริสุทธิ์สมดังผู้มีปีกสีขาวอย่างแท้จริง คือว่าง่ายๆเลยนะ (หลังจากเวิ่นเว้อมานาน) คือการรีเซตดีๆนี่แหละ บาดแผลและโรคภัยจะได้รับการรักษาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งของที่ถูกทำลายจะกลับมาสู่สภาพเดิม แต่เอเดี๋ยวก่อน...สีขาวไม่ได้มีความหมายแค่ความบริสุทธิ์หรือแสงสว่างเท่านั้นนา...แต่มันสามารถสื่อถึง “ความว่างเปล่า” ได้อีกด้วย ยามใดที่เธอคนนี้ได้พลังถึงระดับนึงและนอยด์(?)หรือจำเป็นจริงๆเธอจะสามารถ”ลบ”วัตถุสิ่งของ หรือแม้แต่ใครก็ตามที่เธอต้องการออกไปจากมิติแห่งความเป็นจริงได้ ถามว่าแล้วไอ้พวกที่ถูกลบจะไปอยู่หนใด? พวกที่โดนความสามารถ“ลบ”ของเธอคนนี้รับประทานเข้าไปจะมีสภาพเหมือนเข้าไปในมิติอื่นและถูกสะกดให้หลับใหลอยู่ในนั้นตามนิสัยอันแสนขี้เซาของเธอ(?) จนกว่าเธอจะ”กู้”ชีพ(?)ออกมานั่นแหละ...  

    ระยะเวลาและขอบเขตความสามารถ :: “จิตใจที่บริสุทธิ์” “เจตจำนงอันแกร่งกล้า” และ “ธรรมชาติอันงดงาม” สามอันนี้เป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อพลังของเธอ...สภาพร่างกายนั้นมีผลน้อยมาก เพราะการ”ชำระล้างและทำให้บริสุทธิ์ที่แท้จริงนั้น”มันต้องออกมาจากจิตใจ...หากแม้นร่างกายสะอาดเพียงใดแต่จิตใจโสมมก็มิอาจจะทำได้ ก็คนเราไม่ได้ดูเรื่องนี้จากรูปลักษณ์นิ มันสำคัญที่จิตใจต่างหากล่ะ หากจิตใจบริสุทธิ์มากแม้ยามใกล้สิ้นลมก็จะเปล่งประกายพลังออกมาได้สูงมากเลยล่ะ ส่วนเจตจำนง...หากมีความสับสนขุ่นมัวและลังเลภายในจิตใจก็ดั่งมีใครเอาตะกอนสีดำมาป้ายลงบนพื้นที่แห่งจิตใจของเราจริงไหม? แต่หากเราแน่วแน่ไร้ซึ่งการลังเลแล้ว...ก็เหมือนมีแสงแห่งความกล้ามานำทางทั้งร่างกายและจิตใจเราให้ประสานกันอย่างสมบูรณ์ พลังจะเสถียรมั้ยก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ ส่วนสุดท้าย...ธรรมชาติ อย่าเพิ่งงงว่านี่มันเกี่ยวอะไรด้วยฟระ? นี่เป็นแค่ส่วนเสริมเฉยๆ...เพราะถ้าธรรมชาติดี จิตใจก็จะดีตาม ส่งผลให้พลังโดยรวมทั้งหมดเลเวลอัพๆๆขึ้นไปอีก แต่สองอย่างแรกสำคัญที่สุด...ไม่มีอะไร...ไม่มีอะไรสำคัญเท่าอีกแล้ว...

    อาวุธเสริม :: “เสียง” หรือเรียกอีกอย่างว่า “วาจาสิทธิ์” ของเธอคนนี้ไงล่ะอาวุธเสริม มีทั้งเป็นแบบคำพูดและบทเพลง บอกแล้วไงว่าสำหรับเราชาววิหคขาวแล้วไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่าเจตจำนงและจิตใจ ต่อให้มีอาวุธดีแค่ไหน...หากใช้ไม่เป็นและขาดสองอย่างที่กล่าวมามันก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ และเซร่ายังมีพรสวรรค์ในด้านการร้องเพลงและเนื้อเสียงที่เลิศที่สุดอีกด้วยแม้ชีจะมึนสุดทีน...นี่แหละอาวุธเสริมที่เหมาะสมที่สุดแล้ว...

    ลักษณะอาวุธ :: ปกติเสียงมันไม่มีรูปร่างหรอกนะมุกกี้...แต่ของเธอคนนี้พิเศษ ถ้าเป็นเพลงจะออกมาเป็นบันไดเสียงห้าบรรทัดสีขาวที่เรืองแสงอย่างงดงามออกมาและมีตัวโน้ตออกมาตามคีย์เสียงที่เธอร้อง ส่วนวาจาสิทธิ์นั้นจะเป็นอักขระของเผ่าวิหคสีขาวเรืองออกมาตามคำพูดแทน แต่ทุกคำที่เธอพูดหรือทุกเพลงที่เธอร้องออกมาไม่ได้เป็นวาจาสิทธิ์นะเตือนก่อน...เฉพาะแค่ตอนเธอตั้งจิตและเจตจำนงมั่นที่จะใช้เท่านั้นแหละ

    วิธีใช้ :: ก็แค่เปล่งเสียงร้องออกมา...จบ

    ท่าไม้ตาย :: AETERNALIS CARMENA (เอเธอร์นาลิส คาร์เมน่า – บทเพลงแห่งนิรันดร์กาล) บทเพลงแห่งวิหคขาวที่สืบทอดต่อกันมา...จากรุ่นสู่รุ่น บอกเล่าถึงความรักอันเป็นนิรันดร์ต่อผู้เป็นที่รักให้ผู้คนที่ได้ยินและได้ฟังรับรู้ถึงความสุขที่มี และความเจ็บปวดที่ต้องพรากจาก...เพลงนี่บันไดเสียงห้าบรรทัดจะล้อมตัวเธอเอาไว้เสมือนวงวายุแห่งเสียงเพลงอันไพเราะก่อนที่เหล่าโน้ตบรรทัดนั้นจะค่อยๆบีบตัวเองให้เล็กลงๆจนเหมือนเป็นแค่เส้นด้ายเล็กๆ...ห่อหุ้มร่างของเซร่าไว้ดังดักแด้สีขาวห่อหุ้มตัวอ่อนผีเสื้อ ปกป้องคุ้มภัยร่างเธอจากการโจมตีทั้งมวล และเมื่อร้องจะใกล้จบเพลงแล้ว...สิ่งหุ้มก็จะค่อยๆคลายและซัดสาดพลังจากการร้องจากจิตใจและเจตจำนงของเธอออกมาผสานเข้ากับความสามารถของปีกของเธอ...ชำระล้างทุกสิ่งให้กลับไปเป็นดังเดิม...หรือจะทำลายล้างทุกสิ่งให้สิ้นไป คงขึ้นกับเจตจำนงของเซร่าในครานั้นกระมัง...(คือเพลงนี้มีสองเวอร์ชั่นนะ คือ NIL AETERALIS CAMENA (นิลล์ เอเธอร์ราลิส คาร์เมน่า - บทเพลงแห่งความว่างเปล่าอันเป็นนิรันดร์กาล) จะมีความสามารถคือ”ลบ” และ   INLIMIS AETERALIS CAMENA (อินลิมิส เอเธอร์ราลิส คาร์เมน่า - บทเพลงแห่งความบริสุทธิ์อันเป็นนิรันดร์กาล) จะมีความสามารถเป็นชำระล้างและทำให้บริสุทธิ์ค่า)

    ชอบ :: เคปและหมวกที่สวม / ดอกไม้ / การแช่น้ำ / ไออุ่นจาก “หัวใจ” คนนั้น / นอน / เสียงเพลง

    เกลียด :: คนที่หาว่าเธอเป็นเด็ก / คนที่เหม็นขี้หน้า / คนปลุก / ควัน / น้ำตาตัวเอง / การได้รับการปกป้อง / ขนสัตว์

    กลัว :: “เซ...เซของผม” เสียงเรียกชื่อเล่นอีกชื่อของเธอที่มีแต่เขาคนนั้นที่เรียกได้

    จุดอ่อน :: การลูบหัวและมีใครเอาอะไรมาแตะที่หัวเธออย่างอ่อนโยน(???) (เพราะมันทำให้คิดถึงเขาคนนั้นไง...// โดนตบ ตามสบายไรท์เลยน้า ส่วนอาการคือ...จะสะดุ้งสุดตัวและหันไปมองคนทำด้วยนัยน์ตาที่น้ำตาเหมือนจะปริ่มออกมาแต่ก็ไม่(?))

    ของที่พกติดตัว :: เคป...หรือผ้าคลุมไหล่แบบสั้นตามรูปนั่นล่ะจ้า อ้อหมวกด้วย ไม่ว่าจะฤดูไหน อากาศจะเป็นยังไง...เธอจะสวมมันไว้เสมอ ก็มันเป็นของสำคัญที่เขาให้ไว้ เพราะเขาบอกว่ามันเหมาะกับฉัน...ก่อนจะจากไป...นี่นา (หมวกน่ะอาจจะไม่ตลอด แต่ผ้าคลุมไหล่น่ะ...ตลอดอ่ะ ไม่มีถอด)

    ความสามารถพิเศษ :: เนื้อเสียงดีเยี่ยมและร้องเพลงเพราะมาก / หูดีนรกแตก สามารถได้ยินได้แม้กระทั่งตอนนอน (แต่ไม่ได้ตื่นนะ) / ละเมอสู้มือเปล่าได้ โดยเฉพาะการทุ่มชาวบ้านเนี่ย...(???)

    งานอดิเรก :: นอน / ร้องเพลง / นั่งเหม่อ / แช่น้ำ(?) / เดินเล่น / ขังตัวเองไว้ในมิติอื่น(เพื่อที่จะได้ไม่มีใครมากวนตอนนอน)(???)

    ลักษณะนิสัย :: เซราฟิน่า วิหคขาวคนปัจจุบันที่ดุจากหน้าตาแล้วเหมือนจะเป็นน้องเล็กของเหล่าวิหคเจ็ดสีเนี่องด้วยหน้าตาที่เด็กกว่าวัยจนวิหครุ่นปัจจุบันทุกตนเกือบจะลืมไปแล้วว่าก็อายุพอๆกันนั่นแหละ แถมด้วยการนอนอันเป็นกิจวัตรประจำวันและคืนของเธอคนนี้ก็...เฮ้อ...หลับได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังเป็นพวกความดันต่ำ หลับง่ายแต่ตื่นยากสุดๆ ไม่พอ...เจ้าตัวชอบไปนอนแช่น้ำไม่ว่าจะอุ่นจะร้อนจะเย็น(ดังในรูป)โดยไม่กลัวว่าปอดบวมจะรับประทานเอารึเปล่า แต่เธอก็ยังมีชีวิตรอดมายันปัจจุบันล่ะนะ...ส่วนนิสัยตอนเพิ่งตื่นเธอจะดูมึนสุดชีวิต แต่...มึนไม่ธรรมดานะจะบอกให้ ชีจะมีอยู่สองโหมดคือ ถ้านอนไม่อิ่มนอนไม่พอ ชีจะมึนมาก...เดินเซไปมาอย่างกับคนเมา(?)ก็ไม่ปาน แต่ต่อให้เมาเซจนน่าเสียวไส้แค่ไหน เซร่ากลับไม่ค่อยเจ็บตัวเพราะซุ่มซ่าม คือเหมือนจะล้มๆแต่ก็ไม่ล้มซักที แต่ถ้านอนพอเธอจะเดินอย่างสง่าราศีจับ...สลัดภาพพจน์น้องเล็กเกลี้ยง แต่...ทั้งสองโหมดถ้าสังเกตดีๆนัยน์ตาเธอจะเหมือนละเมอในทั้งสองโหมด น้องครั้งนักที่เนตรคู่งามนั้นจะเปล่งประกายอย่างสดใสเฉกเช่นคนทั่วไป หูดีนรกแตกและแยกแยะเสียงได้ดีมาก คือใครๆมักจะคิดว่าเบลอแบบนี้พูดให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง...คิดผิดคิดใหม่ได้เลย ชีได้ยินนะจะบอกให้ ชัดด้วยแม้กระทั่งตอนเธอไปเยี่ยมพระอินทร์(?)แล้วก็ตาม แต่บางทีก็แกล้งไม่ได้ยินจะได้...หึหึหึ เอาเถอะๆมาต่อกันดีกว่า นิสัยโดยพื้นฐานแล้วเธอเป็นคนที่สามารถเหม่อได้ทุกที่ทุกเวลา สติหลุดเมื่อไหร่ก็ได้แต่กู้คืนได้ภายในเวลาไม่นานนัก ไม่พูดมาก เพราะหลายเหตุผล หนึ่งปากไม่ตรงกับใจอย่างหนัก แถมปาก...ส่วนใหญ่สุนัขไม่รับประทาน คือมักแทงใจดำคนอย่างเฮิร์ตสุดๆ พูดอะไรไปเดี๋ยวอะไรๆยิ่งลุกลามหนักกว่าเก่าก็ซวยอะดิ แต่บทจะพูดดีพูดซึ้งทีนี่คนฟังจำยันตายหรือไม่ก็น้ำตาไหลพรากราวน้ำตกเพราะมันซึ้งจริงจังอ่ะ สองชีอาย เออฟังไม่ผิด...ขี้อายทั้งๆที่ขางนอกดูเหมือนจะหยิ่งเชิดอย่างมึนๆ(?)ก็ตามที และสุดท้ายถ้าเธอพูดมากเธอกลัวว่าเดี๋ยวคอจะพังตอนใช้วาจาสิทธิ์น่ะสิ...แต่เน้นการกระทำ ยิ้มน่ารัก..ชอบยิ้มแบบอ่อนๆใสๆสไตล์สาวน้อยและมันน่ารักที่ซู้ดดดด ถ้าเธอคิดจะนะ เพราะหน้าเล่นมึนซะ... แต่อย่าให้พูดอะไรออกมานะตัดฟิลหมด เธอคนนี้ฉลาด...แต่แบบแกมโกงและเจ้าเล่ห์นะ เห็นหน้าแบ๊วๆใสซื่อแกมหยิ่งมึนแบบนี้ (ตกลงเธอคนนี้จะยังไง? หยิ่งหรือมึนวะเนี่ยลูกฉัน???) ต่อยและหักหน้าคนด้วยคำพูดมานักต่อนักแล้ว...นอนเยอะ ขี้เซา และที่สำคัญไม่ชอบให้ใครมาปลุกขั้นรุนแรง คือเวลามีใครมาปลุกเธอนี่โดนจับทุ่มเละทุกรายแบบมีมือมาแตะปุ๊บโดนเธอคว้ามาทุ่มทันทีแบบที่เธอเองยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ แต่...มีข้อยกเว้น เนื่องด้วยนิสัยอีกอย่าง...เธอเป็นคนที่เลือกที่รักมักที่ชังอย่างแสดงออกชัดเจน คือ...สองมาตรฐาน ถ้าเป็นคนที่เจ้าตัวรัก เอ็นดู เป็นห่วง หรือสำคัญอะไรทำนองนี้ เธอจะทำเมินไม่รู้ไม่เห็นได้หากเขาทำอะไรไม่ดี แต่ก็ได้ถึงแค่ระดับนึงนะ ลองเลวมาสิ...สาบานเลยว่าถ้าลองเธอนอยด์เมื่อไหร่จากที่รักจะกลายเป็นที่ชังทันที แถมเกลียดใครแค้นใครแล้วฝังใจยันตาย เลิกเกลียดยากมากๆ ส่วนถ้าเกลียดไม่ต้องให้ถามนะว่าจะเป็นยังไง ทำอะไรมันก็ไม่ดีหรอกในสายตาเธอคนนี้...โอเคมาเข้าเรื่องปลุก ถ้าเป็นคนทั่วไปกับคนที่เกลียดมาปลุกรับรองเจอทุ่ม ส่วนแบบแรกนี่จะต่างราวฟ้ากับเหวคือจะไปซุกอย่างอ้อนๆน่ารักทันที สลัดภาพพจน์มึนและหยิ่งกลับเป็นเด็กน่ารักภายในไม่กี่วิ ไม่รู้เหมือนกันว่าเซร่ารู้ได้ไงว่าใครมาปลุกเธอ แต่เธอไม่เคยทายพลาดสักครั้งเวลาใครมาปลุก ทำเหมือนไม่สนใจอะไรใครในโลกา แต่เวลาจะทำเพื่อใครสักคนจะมีเจตจำนงที่แรงกล้าจนไม่มีใครทาบได้ เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจแต่ก็มีส่วนที่อ่อนไหวเหมือนผู้หญิงทั่วไปแฝงอยู่ จิตใจของเธอดีนะ แต่เอ่อ...เธอจะแสดงออกด้วยการกระทำที่อ้อมโลกไปประมาณสิบรอบนั่นแหละ เพราะเหมือนเธอคิดไว้แล้วแหละว่าถ้าทำอย่างงี้แล้วมันจะลงเอยยังไง เลยไม่ค่อยมีใครรู้นอกจากเหล่าวิหคที่เหลือเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงสิ่งนี้ในตัวเธอ และเธอไม่ชอบการหนีในทุกเรื่องอละไม่อยากให้ใครมาปกป้อง เพราะมันทำให้คิดถึงเขาคนนั้น เสียเขาคนนั้นไปคนเดียวก็เกินพอแล้ว จะไม่ยอม...ไม่ยอมให้ใครมาปกป้องเธอจนต้องเสียสละตัวเองอีกต่อไปแล้ว

    คิดว่าคนที่คุณสมัครเนี่ย? คู่ใคร? :: จีอ๊อตโต้ซามะ...

    เพิ่มเติม :: เปลี่ยนรายละเอียดบางส่วนได้นะจ้ะถ้ามันไม่สะดวก อ้อ...ดอกไม้ที่เธอชอบคือดอกบัว และเธอเป็นคนที่รักสัตว์ปีกมาก แต่กลับแพ้ขนสัตว์อื่นน่ะสิ...

    คำภามสำหรับตัวละคร

    แนะนำตัวหน่อยสิคะ?

    ตอบ “งือ...” เซร่าค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะเผลอจับคนสัมภาษณ์ทุ่ม(?) “อ่า...เธอเองเหรอ? ฉันเซราฟิน่า ซินเซอร์ริส เรียกเซร่าก็ได้ อือ...” เซร่าครางออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะฟุบหน้าลงไปอีกรอบและหลับตาเตรียมหลับอีกรอบจนคนสัมภาษณ์ต้องรีบปลุก...

    เธอคิดว่า ความฝัน’ คืออะไร?

    ตอบ “หา...อะไรนะ...” เซร่าทำหน้ามึนใส่คำถามทันทีก่อนจะเอ่ยอย่างมึนๆแต่แฝงไปด้วยความหยิ่งและแทงใจดำนิดๆว่า “...คือสิ่งที่เหล่าคนผู้มิอาจรู้จักพอใจในตนเองต้องการไขว่คว้า หลงใหลและเพ้อฝันในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่ว่าจะดีร้ายก็ตาม...”

    แล้วคิดว่า หัวใจ’ ของคุณมีความฝันแบบไหน?

    ตอบ “ฉันไม่ใช่เขา...” เซร่าตอบเสียงเรียบอย่างเย็นชาและเฉยเมย “และอย่าพูดถึงเขาคนนั้นให้ฉันได้ยินอีก...เขาไปแล้ว...เขา...จาก...ฉันไปแล้ว...” นัยน์ตาคู่งามคู่นั้นหมองลงเพียงวูบก่อนจะกลับมาว่างเปล่าและมึนงงดังเดิม

    คิดว่าจะทำความฝันของ หัวใจ’ ของเธอสำเร็จไหม?

    ตอบ แววตาของเซร่าเปล่งประกายด้วยเจตจำนงอันแรงกล้า “ความฝันของเขาคนนั้น...ไม่ว่ายังไง...ฉันก็จะต้องทำมันให้ได้ เพื่อเขาคนนั้น ฉันยอมได้ทั้งนั้นแหละ มันต้องสำเร็จ...” ก่อนจะกลับไปฟุบอีกครั้งหนึ่ง...

    ขอให้คุณโชคดีนะคะ ^^ อ๋อ ไม่ส่งละคะ หวังว่าคุณคงกลับเองได้สิเนอะ J

    ตอบ “ฉันโชคดีอยู่แล้ว...ตั้งแต่ที่ได้เขาคนนั้นมาเป็นหัวใจของฉัน...” พูดจบเธอก็ร้องเพลงที่ไพเราะร้องมาและขังตัวเองไว้ในมิติเพื่อที่จะได้นอนต่อไป...

     

    คำถามสำหรับพวกแม่ๆ (ป้า?) ที่มาสมัคร

    คิดไงถึงมาสมัคร? :: อยาก...จบมั้ยเอ่ย?

    คิดว่าเนื้อเรื่องที่เขียนบอกไปโอเคยัง? :: เริ่ดสุดๆๆเลยจ้า

    ใบสมัครยาวไปไหม? :: ไม่เลยๆ

    อยากได้ใครเป็นคู่? :: ก็ยังยืนยันนอนยันว่าพรีโม่....

    ขอให้โชคดีติดและได้คู่ที่ตนเองต้องการน้า = w =// :: สมพรปากเถอะน้า รับลูกสาวคนนี้ไว้ทีนะจ้ะ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ใบสมัคร  [Fic Close Down]

     รูป ::

     

    รูปร่างลักษณะ :: หญิงสาววัยเพิ่งขึ้นเลขสองเจ้าของเรือนร่างแสนจะบอบบางน่าทะนุถนอมและน่าปกป้องเป็นที่สุด เธอมีเรือนผมสีดำสนิทดุจรัตติกาลในยามราตรีอันมืดมิดเป็นประกายยาวจรดกลางหลัง ตัดหน้าม้าตรงเพื่อปิดหน้าผากส่วนหนึ่งเอาไว้ สีผมเข้มของเธอช่วยขับผิวสีขาวนวลออกน้ำนมเนียนนุ่มอมชมพูระเรื่อได้เป็นอย่างดี บนใบหน้าน่ารักสมวัยนั้นมีนัยน์ตาสีดำสนิทดังนิลน้ำงามคู่สวยทอประกายร่าเริงอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความฝันอยู่ เรียวปากสีระเรื่อบางสวยชวนสัมผัส จมูกโด่งนิดๆพองาม แขนขาและลำตัวดูเพรียวได้รูปเอามากๆ เอวเป็นเอวสะโพกเป็นสะโพก แม้อกจะออกแบนก็ตาม ทำให้เธอจัดเป็นผู้หญิงที่ดูดีและสวยน่ารักมากๆคนนึงเลยทีเดียว สูง 168 เซนติเมตร หนัก 52 กิโลกรัม

    ชื่อ – นามสกุล :: Akinotoki Mimoji (อากิโนะโทคิ มิโมจิ)

    ชื่อเล่น :: มิจิ / โมจิ  

    ความหมาย :: ใบเมเปิ้ลในยามฤดูใบไม้ร่วงเจ้าค่ะ 

    อายุ :: 20

    อุปนิสัย :: มิโมจิ...หญิงสาวที่จัดได้ว่าเป็นหญิงสาวที่อัธยาศัยดี ร่าเริง ยิ้มง่ายและยิ้มได้สวยมาก ใครเห็นก็มักจะรักและเอ็นดูอยู่เสมอ ทำให้ใครหลายคนอดประทับใจแต่แรกเห็นไม่ได้ แต่พอคุณตั้งท่าจะคุยกับเขาเนี่ยแหละจะเกิดปัญหา คือ...คุณเธอไม่ยอมพูดค่ะ แต่จะหยิบกระดาษหรือกระดานมาเขียนเป็นคำพูดแทนซะงั้นแหละ ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหลอดเสียง และไม่ได้เป็นใบ้อีกด้วย เสียงหากใครเคยได้ฟังจะรู้ว่ามันออกจะไพเราะเพราะพริ้งมากมายมหาศาลระดับนักร้องเสียงทองเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ยอมพูดอยู่ดีทั้งๆที่หลายคนก็พยายามเกลี้ยกล่อมแล้วแต่เธอก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจ เพราะเธอยึดมั่นกับการตัดสินใจของตนเองไปแล้วมาก แบบเมื่อคิดดีแล้วว่าจะทำก็จะทำ และต้องทำต่อไปเรื่อยๆจนใครหลายคนมองว่าเธอคนนี้หัวแข็งก็มี บางทีย้ำคิดย้ำทำด้วยจนเว่อร์ แต่เธอเองก็ไม่ได้ว่าอะไรกลับยิ้มยอมรับเสียด้วยซ้ำ เพราะเธอถือคติว่ายอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นได้แล้วจะมีความสุข เธอไม่ว่าหากใครจะมาหาว่าเธอเพี้ยนหรือบ้าที่ทำแบบนี้แม้อาจมีเคืองบ้างอะไรบ้างแต่ก็จะพยายามเย็นไว้เสมอ แต่เกลียดการนินทามาก แน่จริงก็มาพูดตรงๆเซ่! มีความกล้าหาญซ่อนอยู่แต่นานๆทีถึงจะใช้ ถ้าไม่ไหวจริงๆถึงคราวต้องระเบิดเธอจะไม่พูดอะไรมาก...แค่ตบหน้าฉาดเดียวแล้วจากไปเลยอย่างนางเอก(???) แน่นอนว่าใครเจอเป็นต้องตะลึงอึ้งทึ่งเนื่องจากเธอไม่ค่อยนิยมการใช้กำลังสักเท่าไหร่ ออกจะอ่อนโยนใจดีด้วยซ้ำแม้เธอจะขี้แกล้งไปหน่อยก็ตาม รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจและมันทำให้เธอเป็นคนที่ฉลาดรอบรู้ แถมยังขยันใฝ่รู้อีกต่างหาก มีฝันที่จะเป็นนักเขียนนิยายด้วยแหละนะ ไดอารี่ก่อนนอนต้องเขียนไม่งั้นนอนไม่หลับแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไดอารี่หรือหนังสือหายเมื่อไหร่สำหรับเธอนั้นเป็นเรื่องบ้านแตกยิ่งกว่าโดนโจรปล้นอีก แอบเป็นโรคซึมเศร้าและเก็บกดคือจะพยายามไม่แสดงออกเด็ดขาดว่ามีเรื่องกลุ้ม มีเรื่องอยากระบายยกเว้นจะถึงขีดจำกัดแล้วน้ำตาจะไหลออกมาเงียบๆทำเอาคนที่เห็นช็อกก่อนจะหลบไปอยู่คนเดียว หลุดพูดออกมาเวลาควบคุมอารมณ์ไม่ได้อย่างสุดๆเท่านั้นและมักเป็นประโยคสั้นๆหรือคำพูดไม่กี่คำก่อนจะกลับไปเงียบตามเดิม ยามเธออ่านหนังสือหรือเขียนนิยายนั้นเธอมักจะหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวและมียิ้มอ่อนๆประดับใบหน้าเสมอ ต้องรอให้หลุดออกมาเองไม่งั้นคงต้องตะโกนเรียกกันล่ะนะ...ใครมาพูดอะไรหรือเห็นอะไรที่มันจะเอาไปใส่ในนิยายหรือเป็นพล็อตได้เมื่อไหร่จะรีบจดเอามาใช้ และถ้าเกิดคนพูดไม่ดูอารมณ์ตอนนั้นแล้วดันไปพูดแทงใจดำพอดีเด๊ะนั้นเธอจะเริ่มเขียนกลอนหรือไม่ก็ดราม่าออกมาเป็นฉากๆแทนการโวยวายหรือสวนกลับ มีเหตุผลค่อนข้างสูงแต่ก็มีบางทีที่อารมณ์เป็นใหญ่ด้วยความเป็นนักเขียนและนักอ่านตัวยง มีปรัชญาในการดำรงชีวิตเป็นของตนเอง ซื่อตรงกับความรู้สึกตนเองเป็นส่วนใหญ่แต่มักมองโลกในแง่ร้ายแบบเหลือเชื่อได้เลยหากทำอะไรสะกิดแผลใจเธอ ดังที่บอกไปแล้วว่าเป็นคนที่ยึดมั่นพอสมควรจึงเป็นคนที่จริงจังและทำอะไรค่อนข้างจริงใจด้วยถ้าไม่นับรวมการแกล้งกันเล่นๆ เพราะฉะนั้นหากสิ่งที่เธอยึดนั้นมันพังทลายลงเธอจะเจ็บปวดมากและเป็นแผลใจฝังลึกที่ไม่มีวันลืมเลือน อีกทั้งยังใช้เวลาฟื้นตัวนานอีกต่างหาก เพราะเธอเป็นคนที่ยึดติดกับอตีตยิ่งช่วยเสริมให้เจ็บนานและนักขึ้นอีก และนิสัยที่เป็นความลับอีกอย่างนึงคือ...เธอเป็นพวกบราค่อนขั้นหนักเลยค่ะ! รักพี่ชายของตนเองมากๆๆๆๆเลย และออกจะหวงมากด้วยแหละ ทำให้เธอมีนิสัยเด็กๆอย่างเช่นขี้งอน ขี้อ้อน เอาใจนิดๆซ่อนอยู่ภายในบุคลิกด้วย และอยากบอกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอไม่ยอมพูดก็มาจากความบราค่อนของเธอเนี่ยแหละ เพราะอะไรไปดูเอาในประวัติและส่วนตอบคำถามได้เลยค่า...   

    ประวัติ :: บ้านของเธอนั้นเป็นหอสมุดค่ะ คือชั้นล่างเป็นหอสมุดขนาดใหญ่มาก ส่วนด้านบนสุดสองชั้นจะเป็นบ้านเธอ พ่อเธอนั้นเป็นนักหนังสือพิมพ์ต่างประเทศไม่ค่อยอยู่บ้านสักเท่าไหร่ ส่วนแม่ก็เป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ของหอสมุดที่เป็นบ้านเธอเอง เธอมีพี่ชายอยู่หนึ่งคนชื่อว่า “อากิโนะโทคิ มินาโตะ” ที่รักและดูแลเธอเป็นอย่างดี และเป็นผู้สอนทุกๆสิ่งให้กับเธอ เนื่องจากพ่อแม่เธองานยุ่งไม่ค่อยมีเวลามาดูแลนัก ทุกวันเธอเลยขลุกอยู่กับพี่ชายที่เธอรักมากในหอสมุด ได้อ่านหนังสือด้วยกันแชร์อะไรใหม่ๆด้วยกันตลอดเวลา มันได้จุดประกายความฝันของเธอว่าอยากเป็นนักเขียนที่สร้างสรรค์เรื่องราวดีๆแบบนี้และถ่ายทอดความคิดจินตนาการของตนออกมาเป็นหนังสือบ้าง พี่ชายเธอเองก็สนับสนุนและช่วยเหลือมาตลอดอีกด้วย แต่ตอนเด็กนั้นเธอนั้นเป็นคนที่เนื้อหอมในหมู่ผู้ชาย และมักเป็นที่รู้กันว่าเวลาเด็กๆที่เป็นผู้ชายชอบผู้หญิงแล้วมักจะแกล้ง ทีนี้พวกนั้นเลยมาแกล้งล้อเธอว่ายัยเสียงห่วยอะไรทำนองนี้เพราะที่จริงชอบเสียงของเธอ แต่ตอนนั้นเธอไม่รู้เรื่องนี้และเสียใจมากจึงไม่พูด พี่ชายเธอ...มินาโตะเลยช่วยปลอบจนเธอยอมพูดอีกครั้ง ความรักที่มีให้พี่ชายแต่เดิมนั้นก็มากยิ่งกว่าพ่อแม่อยู่แล้ว พอมาแบบนี้มันยิ่งเลยเถิดยิ่งกว่าคำว่าพี่ชาย...ใช่...เธอรักพี่ชายตัวเอง!!! เธอรู้ว่ามันผิดแต่เธอก็ยังแอบหวังอยู่เสมอว่าความอ่อนโยนใจดีที่ได้รับจากพี่นี้คือความรักแบบเดียวกับที่เธอมีให้พี่ชายของเธอ นี่เป็นความรู้สึกตอนเธออายุ 7 ขวบ หลังจากนั้นเธอก็หัดเล่นคอมพิวเตอร์และเริ่มสร้างบล็อกเขียนนิยายจนเป็นที่โด่งดังไปทั่งในนามปากกา “Koeganai (โคเอะคะนาอิ)” หรือที่แปลได้ว่า “ไร้เสียง” ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเป็นเจ้าของนามแฝงนี้ยกเว้นเพื่อนที่สนิทและไว้ใจจริงๆ พ่อแม่ และพี่ชายแค่นั้นที่รู้ และหลังจากนั้นนิยายเธอก็ได้ตีพิมพ์สมดังความปรารถนาตอนเธออายุ 12 แต่เนื่องจากพี่ชายเธอนั้นอายุมากกว่าเธอค่อนข้างมากนิดหน่อยตอนเธอเรียนอยู่ม.ต้นปีสาม เขาก็ไปมหาลัยแล้วและเลือกเรียนแพทย์ซึ่งเวลา 6 ปีในการเรียนแถมใช้ทุนอีก เวลาผ่านไป แม้จะเรียนคนละที่แต่เจอหน้ากันทุกวันก็ยังสนิทกันอยู่ดี จนพี่เธอต้องไปใช้ทุน เธอเหงามากและรอให้พี่กลับมาเร็วๆเพื่อฉลองวันเกิดเธอครบรอบยี่สิบด้วยกัน แต่แล้วพี่ชายเธอกลับๆมาพร้อมกับหญิงสาวคนนึงที่บอกว่าเป็น...แฟน!!! แค่นั้นมันก็ทำร้ายจิตใจเธอมากเกินพอแล้ว...แถมยังเลื่อนกำหนดการกลับอีก มันทำให้เธอยิ่งเจ็บ ไม่พอยังบอกว่าจะแต่งงานอีก ถึงเธอคนนั้นจะเป็นคนดีแต่เธอเองก็ไม่อยากยกพี่ชายให้ใครหรอกนะ ในเมื่อพี่ไม่ต้องการน้องสาวแบบนี้...ฉันก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง! รวมทั้งพยายามที่จะลืมพี่ (ซึ่งกว่าจะลืมได้คงอีกนานโข) และได้ไปรู้จักกับร้านนั้นโดยบังเอิญ...

    ลักษณะคำพูดจา :: เอ่อ...ในเมื่อเธอเขียนแทนพูด ก็ขอเอาเป็นสไตล์การเขียนคำพูดจะดีกว่านะคะ คือด้วยความที่ว่าเป็นนักเขียนนิยายเลยเขียนอะไรสั้นๆไม่ค่อยจะเป็น มันเลยออกจะเวิ่นเว้อไปบ้าง อย่างเวลาบรรยายความรู้สึกทีนี่ยาวหลายบรรทัดบางทีกินกระดาษไปเป็นแผ่นๆเลยล่ะ และรู้สึกอย่างไรมักจะเขียนแบบนั้นโดยเฉพาะเมื่อเขียนระบายกับไดอารี่ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นแล้วก็ยังพูดอย่างที่คิดอยู่แต่ก็เพิ่มความระวังขึ้นมาหน่อย...เข่น...

    “...ไม่เป็นไรหรอก...แค่นี้ไม่เป็นไรอยู่แล้ว...ถ้าเธอมีความสุขล่ะก็ฉันก็ยินดีที่จะเจ็บ ขอแค่เธอมีความสุขแค่นั้นพอ...”

    “...หัวใจมันบีบอย่างปวดร้าวราวกับจะแตกสลาย..วินาทีที่พี่พูดว่ามีคนที่รักแล้ว...แล้วฉันล่ะ? พี่ไม่รักฉันแล้วเหรอ? ฉันไม่จำเป็นสำหรับเขาแล้วงั้นเหรอ...น้องสาวงั้นเหรอ ฉันเป็นได้แค่นั้นใช่ไหม? เพราะเป็นน้องสาวใช่ไหมพี่ถึงรักฉันแบบที่รักผู้หญิงทั่วไปคนนึงไม่ได้?...เป็นได้แค่น้อง...”

    ส่วนการพูดที่นานๆจะหลุดออกมาทีนั้นจะพูดจาค่อนข้างสุภาพ แต่จะพูดแค่สั้นๆประโยคสองประโยคหรือไม่ก็หลุดออกมาแค่คำสองคำเท่านั้น เช่น

    “พี่...”

    “ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันไม่เป็นไรอยู่แล้ว”

    “แน่จริงก็มาว่ากันตรงๆเลยสิ อย่าทำตัวขี้ขลาดเอาแต่นินทาชาวบ้าน!

    คำพูดติดปาก :: แบ่งเป็นคำที่ชอบเขียนกับชอบพูดนะคะ

    คำที่ชอบเขียน – “ไม่เป็นไรนิ...” “งั้นเหรอ...” “ดีจังเลยนะแบบนั้น...”

    คำที่มัก(หลุดปาก)พูดจนน่าจะติดปาก – “พี่...” “ไม่ต้องมายุ่งน่า!” “ฉันดูแลตัวเองได้!” “ฉันไม่เป็นไร...”

    ของชอบ :: หนังสือทุกประเภท (นั่งอ่านอย่างเพลิดเพลิน) พี่ชาย (รักมาก...) ขนมหวาน (ง่ำๆๆ) ปากกาขนนก (จะใช้จนชินมือ ไม่ชอบใช้ปากกาธรรมดาน่ะ) การแกล้งชาวบ้าน (สนุก)และ ความเงียบสงบ (...ฟังเพลงไปพลางอ่านหนังสือ สุขใจแท้...)

    ของเกลียด :: พี่ชายเนี่ยแหละ (เคยรักที่สุดและเกลียดที่สุดพร้อมกันไหม? นี่แหละ...) คนชอบนินทาชาวบ้าน (ว่างนักหรือไง) คนรังแกคนไม่มีทางสู้ (ไม่มีปัญญาหาเรื่องคนตัวโตเท่ากันเหรอ?) อละ การที่คนชอบมายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัว เช่นบอกให้เธอพูดเนี่ย...(เรื่องของฉันน่า!)

    ของกลัว :: การโดนล้อหรืออะไรก็ตามจากคนจำนวนมาก (ฝังใจจากวัยเด็ก...จะตัวสั่นไม่หยุดเลยล่ะ) หนังสือหาย (ลนลานไปหมดและจะทำทุกทางเพื่อหาให้เจอ) และ เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือเบอร์ของพี่ชาย (กลัว...ตั้งแต่ที่เขาโทรมาบอกว่ามีคนรัก...มันทำให้เธอกลัวและเหงา...)

    งานอดิเรก :: อ่านหนังสือ เขียนนิยาย ฟังเพลง ทานขนม และ เดินเล่น 

    ความสามารถพิเศษ :: ความจำอันดีเลิศ เมื่อได้เรียนอะไรไปจะไม่มีวันลืม...หรือต่อให้ลืมแค่มีคำพูดมาสะกิดใจนิดหน่อยก็จะจำได้แล้ว และก็ทักษะการเขียนที่ยอดเยี่ยม อีกอย่าง...เนื่องจากเธอเสียงดี ร้องเพลงก็ไม่ยากเกินความสามรถของเธอหรอกนะหากเธอคิดจะร้อง

    คู่ :: จีอ๊อตโต้คนเดียวเท่านั้น!!!

    เรียกคู่ว่า :: “คุณเจ้าของร้าน...” “คุณหัวทองคำ” “จีอ๊อตโต้ซัง” “จ๊อตตี้จัง” และ “คุณ/พี่จ๊อตโต้”

    คู่เรียกว่า :: “คุณหนู” “มิโมจิซัง” “สาวน้อย...” และ “มิจิจัง”

    เพิ่มเติม :: ตลกร้ายไม่ค่อยออก...เพราะจีอ๊อตโต้นั้นดันมีบางส่วนคล้ายพี่ชายของมิโมจิเอามากๆ!!! และเมื่ออกไปข้างนอกเธอจะพกกระดานไว้เขียนแทนกระดาษ มันสะดวกกว่า...

     

    คำถามเพิ่มเติม 

    ลองเล่าเกี่ยวกับความรักที่ผ่านมาของคุณให้ฟังหน่อยสิค่ะ :: มือเล็กตวัดตัวอักษรเร็วๆแต่ประณีตบนกระดาษว่า...”ฉันมีพี่ชาย...พี่ชายที่แสนดีกับฉันมาโดยตลอดอยู่หนึ่งคน...เป็นคนที่คอยสอนทุกอย่างให้กับฉัน ดูแลฉัน และปกป้องฉันมาตลอด มีอยู่ครั้งนึงตอนฉันอยู่อนุบาล เพื่อนฉันมาล้อฉันว่าฉันเป็นยัยบ้าเสียงอัปลักษณ์ ฉันเสียใจมากตอนนั้นและคิดว่าจะไม่พูดอีก แต่พี่ก็บอกฉันว่า “ไม่เห็นต้องสนใจเลยนี่ เธอพูดเพื่อพี่คนเดียวก็พอ...”ฉันเลยยอมพูดใหม่ เพื่อพี่เพียงคนเดียว ฉันรักพี่ยิ่งกว่าใครทั้งนั้น มากเกินกว่าฐานะพี่ชายด้วยซ้ำ... จากนั้นพี่ก็ต้องไปใช้ทุนที่อื่นประมาณ 2-3 ปี ฉันเลยต้องแยกห่างจากพี่ แต่เราก็ติดต่อกันเป็นระยะๆ จนกนะทั่งวันนึงพี่โทรมาบอกฉันว่าพี่มีคนรักแล้ว...แค่นั้นแหละ...มือถือของฉันหล่นพื้นเพราะมือนั้นไร้เรี่ยวแรง...ร่างกายมันชาไปหมดไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ถามว่าฉันเกลียดพี่มั้ย? ไม่...เกลียดผู้หญิงคนนั้นมั้ย? ก็ไม่...มันเหมือนกับว่าฉันสูญเสียสิ่งสำคัญที่คอยค้ำจุนตัวเองมาตลอดมากกว่า...มันเจ็บมาก...เจ็บเกินจะบรรยายจริงๆ...หัวใจบีบจนรวดร้าว ฉัน...ในเมื่อพี่มีคนสำคัญยิ่งกว่าฉันแล้ว เสียงของฉันคงไม่จำเป็นสำหรับใครอีกต่อไปแล้วสินะ...ฉันน่ะ...” เขียนได้ได้แค่นั้นก็หยุดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเงียบๆ

    คุณคิดว่าตัวเองอกหักรึเปล่า ? :: เมื่อได้ยินคำถาม มือเล็กหยุดชะงักไปอีก ก่อนจะเริ่มขีดเขียนกระดาษจนได้ใจความว่า “...คิดสิ...ถึงแม่ว่าใครๆจะบอกว่ามันไม่มีหวังตั้งแต่ต้น แต่ผิดไหมที่ฉันจะแอบหวังลึกๆมาตลอด? แค่หวังแค่นี้...มนุษย์เราอยู่ได้ก็เพราะมีความหวังไม่ใช่เหรอ...เอาเถอะ...คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณล่ะนะคะ...แต่สำหรับฉันๆอกหักอย่างแรงและเจ็บปวดที่สุดเลยล่ะ...”

    คิดยังไงกับร้านวองโกเล่และพนักงานของร้าน ? :: ตัวอักษรที่ปรากฏอีกครั้งอ่านได้ใจความว่า “...บางทีพวกเขาก็ทะเลาะกันเอง...บางทีพวกเขาก็อาจจะยุ่มย่ามไป(ไม่)นิด แต่ไม่รู้สินะ ฉันว่าที่นี่มีบรรยากาศที่ทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูกเลย...ฉันว่ามันน่ารักดีนะ ตลกดี แล้วก็...อบอุ่นดีด้วย...เป็นร้านที่ประหลาดและมีเอกลักษณ์ดีค่ะ...” 

    สุดท้ายแล้ว..สไตล์ความรักของคุณเป็นแบบไหนคะ :: “สไตล์...” เธอยิ้มเศร้าๆแล้วเขียนลงไปอีกครั้งว่า “ความรัก...โดยส่วนตัวแล้วฉันว่ามันไม่มีสไตล์ที่ตายตัวหรอกนะคะ แล้วฉันเองก็ไม่สามารถกำหนดมันได้ด้วย...มันเป็นเรื่องของโชคชะตาละมั้ง...แต่ถ้าฉันเลือกได้เหรอ...ไม่ขออะไรมากหรอก มีเขาให้เรารักก็พอ ขอแค่ไม่พังทลายความหวังของฉันลงไปก็มากเกินพอแล้ว...และจะดีกว่ามากหากเขารักเราตอบอย่างอบอบอุ่นและจริงใจ ไม่ต้องทำอะไรให้ฉันมากหรอก...แค่ความรู้สึกก็พอ...ส่วนถ้าถามเกี่ยวกับสไตล์ความรักที่ผ่านมาของฉันแล้วล่ะก็...ตอบได้คำเดียวเลยค่ะว่า "รักต้องห้าม" พี่น้องกัน...ไม่มีทางรักและแต่งงานกันเองได้แน่นอน...มันฟังดูน่าตลกนะคะว่ามั้ย...เหมือนในนิยายเลย...แต่พอเจอจริงๆกับตัวแล้วมัน...เจ็บปวด...เหลือเกิน...” เขียนได้แค่นั้นน้ำตาหยาดโตก็หยดลงมากระทบแผ่นกระดาษจนเกิดเป็นรอยด่างดวง

     

    คำถามเพิ่มเติม 

    ขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเล็กน้อยได้มั้ยค่ะ? :: ได้เลยจ้า ตามสบายเลย >< โซจัง...

    ขอโทษที่ใบสมัครเรื่องมากไปนิด(?)นะค่ะ :: ไม่เลยๆๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ ของพี่เรื่องมากกว่าเยอะ

    ลบวงเล็บรึยัง?  :: ลบแล้วๆๆ (ถ้ามีคือใส่มาเองจ้า) 

    ขอบคุณที่มาสมัครนะค่ะ!! ขอให้โชคดีค่ะ ^^ :: ค่า รับมิโมจิไว้พิจารณาด้วยนะคะไรท์โซ ^^


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     






    ใบสมัคร  ออริไรท์แน้ป [Fic Mummy]

     

    รูป II

     

     

     

     

     รูปร่างลักษณะ II หญิงสาวเจ้าของรูปร่างเพรียวสมส่วนสง่างาม เธอมีเรือนผมสีม่วงอ่อนยาวสลวยจรดเอวเป็นประกายดุจอเมทิสต์น้ำงามที่เอามารีดเป็นเส้น แล้วมัดไว้ด้วยริบบิ้นอย่างสวยงาม รับกับผิวและดวงหน้าสีขาวอมชมพูนวลเนียนระเรื่อได้เป็นอย่างดี บนใบหน้างามมีเนตรสีอเมทิสต์เช่นเดียวกับสีผมคู่สวยประดับอยู่ จมูกโด่งรั้นพองาม ริมฝีปากบางมีสีระเรื่อ เธอมักจะสวมชุดกระโปรงดังในรูปอยู่เสมอและพกหนังสือติดตัวตลอดเวลา บวกกับบุคลิกที่ดูสุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่ของเธอแล้ว ทำให้เธอจัดเป็นหญิงสาวที่ดูดีมากๆคนนึงเลยทีเดียว สูง 168 เซนติเมตร น้ำหนัก.....เป็นความลับค่ะ

    ชื่อ-นามสกุล II Luna Splendorem (ลูน่า สเปนดอร์เร็ม)

    ชื่อเล่น II Luna (ลูน่า)

    ความหมาย II พระจันทร์เต็มดวงที่ส่องแสงเป็นประกายงดงาม (ภาษาละติน)

    นิสัย II ลูน่า........หญิงสาวที่คนภายนอกจะมองว่าเธอนั้นช่างมีความเหมาะสมในการเป็นพี่ใหญ่ในบรรดาเครือญาติทั้งหมด เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความสง่างาม ความเฉลียวฉลาด สุขุม เด็ดขาด และความเป็นผู้นำเต็ม
    เปี่ยม แต่ถ้าสำหรับน้องๆกับคนที่รู้จักเธอจริงจะรู้ว่า.........นั่นมันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะที่จริงเธอเป็นคนที่เจ้าเล่ห์และร้ายลึกพอสมควรเลยล่ะ และขี้แกล้งเป็นที่สุด แต่จะพยายามไม่แสดงออกว่าอยากแกล้ง.......แถมชอบแกล้งคนที่ตัวเองถูกใจซะด้วย จริงๆเธอถูกใจจีอ๊อตโต้ตั้งแต่แรกเห็นแล้วแหละ เลยหาทางแกล้งเค้าเป็นประจำ เผลอๆจะแอบชอบเค้าด้วย แต่ด้วยความซึนเดเระอันสุดแสนจะมหาศาลของเธอทำให้ไม่บอกออกไปตรงๆ แต่เนื่องจากเธอเป็นคนที่ดูออกเรื่องนี้ค่อนข้างง่าย น้องๆเธอเลยรู้กันหมด แต่ไม่มีใครกล้าบอก เพราะกลัวเธอของขึ้น.............ก็เพราะเวลาเธอโกรธน่ะโหดยิ่งกว่าซาตานซะอีกน่ะเซ่
    !!!! แต่เวลาปกติก็เป็นห่วงคนอื่นนะ แต่ไม่ค่อยแสดงออกตรงๆก็เท่านั้นแหละ (ซึนอีกแล้วนะ)

    อาวุธ II คัมภีร์มนตรา 2 เล่ม (คัมภีร์สุริยัน และ คัมภีร์จันทรา)

    วิธีใช้ II

    คัมภีร์สุริยัน ก็เรียกชื่อคัมภีร์...แล้วมันจะออกมา จากนั้นหน้ากระดาษก็จะหลุดออกมาแล้วกลายเป็นของคมๆไปโจมตีศัตรู มันยังเปล่งแสงได้ด้วยนะ

    คัมภีร์จันทรา ก็เรียกชื่อ....อีกแหละ แต่คราวนี้เป็นคัมภีร์ที่ใช้คลายมนตร์น่ะ (แต่คลายไม่ได้ทุกบทหรอกนะ แค่พื้นฐานจนถึงปานกลางเท่านั้น)

    ชอบ II หนังสือ จีอ๊อตโต้ การแกล้งคนแบบไม่ให้เค้ารู้ตัว และ ความสงบ

    เกลียด II เสียงดังๆ ความวุ่นวาย และ คนรู้ทัน

    กลัว(อาการ) II การทรยศ (จะเจ็บใจมาก และหาทางเอาคืน) และ การลาจาก (น้ำตาจะไหล...แต่แค่แป๊บเดียวก็หายไป ทั้งที่ในใจเศร้าจะตาย)

    พลังพิเศษ II เธอมีวาจาสิทธิ์

    คู่กับ II ท่านจีอ็อตโต้สุดที่รัก

    ITEM II เครื่องบรรณาการศพชิ้นที่ I + Sun of Ra

    คู่เรียกเราว่า II “คุณลูน่า” “ลูน่าและคุณหนู

    เพิ่มเติม II เธอมีน้องสาวแท้ๆหนึ่งคน ชื่อเอลิส(ออริไรท์น้ำ)

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 

    ใบสมัคร ออริไรท์แน้ป [Fic Half]

    รูป II

     

    รูปร่างลักษณะ II หญิงสาวเจ้าของรูปร่างสวยสง่าและดูน่ารักในคราวเดียวกัน เธอมีผิวสีขาวนวลอมชมพูระเรื่อด้วยสีเลือดฝาด รับกับเรือนผมสีฟางที่เป็นประกายล้อแสงอาทิตย์ที่ยาวสลวยลงมาจรดเอวได้อย่างดีเยี่ยม ใบหน้ามนน่ารักมีเนตรคู่โตสีดำดุจรัตติกาลที่งดงามประดับอยู่ ปากนิดจมูกหน่อย แขนขาและลำตัวเพรียวได้รูป สูง 168 เซนติเมตร หนัก 50 กิโลกรัม ทำให้เธอจัดว่าเป็นคนที่น่ารักมากๆคนนึงเลยทีเดียว

    ชื่อ-นามสกุล II Viverra Candida (วิเวอร์ร่า แคนดิด้า) (ชื่อเล่น Vira วีร่า)

    ความหมาย II มิ๊งค์สีขาว

    อายุ II 20

    นิสัย II เธอเป็นคนที่เรียกได้ว่าคุณหนูเอามากๆ อ้ะๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอหยิ่งเชิดหรืออะไรทำนองนี้นะ หมายความว่าเธอมีนิสัยออกแนวเด็กเอาแต่ใจนิดๆต่างหาก ชี้อ้อน รักอิสระ อยากรู้อยากเห็น อยู่กับที่ไม่ค่อยจะเป็นยกเว้นจะมีของกินหรือหนังสือ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสง่า สุขุม ฉลาดรอบรู้เกินวัยแฝงอยู่ในตัวเช่นเดียวกัน เป็นคนที่เป็นมิตรกับคนทั่วไปและสัตว์เป็นอย่างมาก คลั่งตุ๊กตาเอามากๆ มักจะพกตุ๊กตา(ในรูป)ติดตัวตลอดเวลา แต่เธอซึนค่อนข้างจัด โดยเฉพาะเวลาอายทีนี่ดีกรีความปากแข็งจะเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า เป็นคนที่โกรธยาก แต่ถ้าโกรธเมื่อไหร่จะเหมือนเอาปรมาณูมาทิ้งที่นั่น คือ ถ้าโกรธแล้วจะโวยไปเลยหรือไม่ก็เย็นจนกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งไปเลย แล้วเธอยังเป็นคนที่อ่อนไหวและอารมณ์แปรปรวนพอสมควรด้วยนะ

    ประวัติ II เธอเป็นลูกสาวของเชฟชื่อดังที่ได้รางวัลมาทั่ว เธอจึงมีชีวิตที่สุขสบายมาตั้งแต่เด็ก ด้วยสายเลือดที่ได้รับมาทำให้เธอทำอาหารและขนมเก่งมากเทียบเท่าพ่อ แต่ดูเหมือนว่าเลือดแม่ที่เป็นนักกีฬามันจะแรงกว่า เธอจึงกลายเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่เก่งกาจและมีพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่เธอ 7 ขวบ หลังจากนั้น พ่อเธอก็เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินตอนที่จะบินไปแข่งทำขนมที่ฝรั่งเศส เธอจึงต้องอยู่กับแม่ตามลำพัง แต่เธอก็ไม่ได้เป็นเด็กเก็บกดหรืออะไรทำนองนั้น เพียงแต่เมื่อถึงวันครบรอบวันตายพ่อเมื่อไหร่.....เธอจะขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวันก็แค่นั้นเอง แล้วก็แอบแวบไปหลุมศพพ่อตอนเที่ยงคืนคนเดียวเพื่อจะได้ร้องไห้ได้โดยไม่อายใคร ก็เท่านั้นแหละ

    ชอบ(อาการ) II ตุ๊กตาหรือหมอนนิ่มๆ(จะกอดหรือไปซุกๆตรงนั้น) ชาและขนม(จะมีความสุขมากยามได้ทาน) หนังสือ(อ่านยาว) เดินเล่นชมธรรมชาติ+สัตว์(เดิน/มองได้ไม่เบื่อ)และ อิสระ (ก็ชอบอ่ะ)

    เกลียด(อาการ) II การบังคับและการกักขัง (จะหงุดหงิดมาก) คนรู้ทัน (เฮ้ย ทำไมเขารู้ล่ะว่าเราจะแกล้งเค้า)และ บุหรี่+เหล้า (อี๋ เอามันไปไกลๆเลยนะ)

    กลัว(อาการ) II ตอนเป็นคนจะกลัวฟ้าผ่า (ซุกๆ) แต่ถ้าเป็นสัตว์จะกลัวหมาป่าเพิ่มมาด้วย (จ๊าก อย่ามาจับกินเซ่ ชั้นไม่ใช่ข้าวเย็นแกนะ!!!!)

    ความสามารถพิเศษ II มีความคล่องตัวสูงมาก ว่ายน้ำเก่ง และ ทำอาหารอร่อยมาก

    ลักษณะคำพูด II ก็พูดทั่วๆไปเนี่ยแหละ แต่บางทีก็มีแอบกวนด้วย แต่แสดงได้ชัดว่า.....ชีซึนค่ะ!!!!

    คำพูดติดปาก II “ชั้นไม่ได้..............สักหน่อย” “ว้ายๆๆ ตุ๊กตานั่นน่ารักจัง ชิ รู้ทันไปหมด เซ็ง

    คู่กับ II จีอ๊อตโต้

    เป็นสัตว์อะไร II มิ๊งค์สีขาว

     

    เรียกคู่ตัวเองว่า II “นายหัวทอง” “จีอ๊อตโต้และคุณชาย (ใช้ประชด)

    ให้คู่เรียกตัวเองว่า II “คุณวิเวอร์ร่า/วีร่า” “มิ๊งค์น้อยและ คุณหนู (ใช้รับมุขคุณชาย”)

    เพิ่มเติม II เธอทำขนมเก่งมาก และได้แชมป์ว่ายน้ำระคับโอลิมปิกนะ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ใบสมัคร  ออริไรท์แน้ป  [Fic Case]                                                                 

    รูป II

     

    รูปร่างลักษณะ
    II เจ้าของรูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม เธอมีผิวสีขาวนวลระเรื่อตัดกับเรือนผมสีดำดุจรัตติกาลที่ยาวสลวยลงมาจรดเข่าได้อย่างดีเยี่ยม มีกิ๊บรูปพระจันทร์เสี้ยวติดอยู่บนศีรษะ ใบหน้าหวานมีดวงตาสีเขียวมรกตดุจน้ำทะเลคู่งามประดับอยู่ บวกกับท่าทางที่ทั้งเป็นเด็กและผู้ใหญ่ในตัวทำให้เธอดูน่ารักและมีเสน่ห์มากๆเลยทีเดียว

    ชื่อ-นามสกุล II Yukono Michi (ยูโกะโนะ มิจิ)

    ความหมาย II เส้นทางแห่งความจริง

    อายุ II 18

    นิสัย II ปกติเธอเป็นคนที่นิสัยค่อนข้างเป็นเด็ก.... อยากรู้อยากเห็น ซุกซนจนบางทีทำอะไรบ้าบิ่นเกินตัว ไร้เดียงสา ปกติเธอเป็นคนช่างพูดช่างจา พูดจาตรงไปตรงมาก็จริง แต่พออายหรือกลัวเมื่อไหร่ล่ะก็....จะมีดีกรีความซึนเป็นอันดับหนึ่งทันที เข้ากับคนอื่นได้ง่ายและเป็นมิตรกับคนอื่น แต่ก็เป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการสืบสวน พอเจอเรื่องปริศนาหรือคดีปุ๊บจะเหมือนเปลี่ยนบุคลิกเป็นคนละคนเลย จะนิ่งเงียบสุขุมและเริ่มทำการวิเคราะห์ทันที พรสวรรค์และความฉลาดที่แฝงอยู่ในตัวจะแสดงออกมาให้เห็นอย่างเต็มที่ เป็นที่พึ่งของเพื่อนๆได้เสมอ จริงๆยัยนี่ไอคิว 200 นะ แต่ชอบทำตัวปัญญาอ่อนคนเลยไม่ค่อยรู้(เป็นงั้นไป) ด้วยเหตุนี้ล่ะมั้ง เพื่อนๆถึงได้ให้เธอเป็นหัวหน้าคลาส(เวลาปกติทำเพื่อนหัวเราะได้เพราะความปัญญาอ่อน แต่เวลาจวนตัวจริงๆก็สามารถพึ่งพาได้) และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เธอรักเพื่อนและความยุติธรรมเหนือสิ่งอื่นใด เห็นชีวิตคนเป็นสิ่งมีค่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

    ประวัติ II เธอเป็นลูกสาวของมือขวาของผอ.คนก่อน ปัจจุบันเธออาศัยอยู่กับรัลมิลจิซึ่งเป็นญาติห่างๆของเธอเนื่องจากตอนเธออายุ 7 ขวบ พ่อแม่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต แต่เมื่อเธอไปดูศพพ่อแม่ที่สถานที่เกิดเหตุ เธอกลับปักใจเชื่อว่ามันเป็นการฆาตกรรม แต่ก็แน่ล่ะ...ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอเลย(ก็ใครมันจะไปเชื่อคำพูดเด็ก 7 ขวบล่ะ) เธอกับพี่ชายจึงถูกแยกกันรับไปเลี้ยง ซึ่งเธอถูกรัลมิลจิซึ่งเป็นญาติฝ่ายแม่รับไปเลี้ยง ส่วนพี่ชายของเธอก็ถูกญาติฝ่ายพ่อรับไปเลี้ยงเช่นกัน และหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พบพี่อีกเลย พอเธออายุ 17 ปี เธอก็เข้ามาที่โรงเรียน Q.E.D. ในฐานะนักเรียนคลาสพิเศษและได้ลองสืบข้อมูลเกี่ยวกับคดีเมื่อ 10 ปีก่อนจนสืบรู้ว่ามีองค์กรที่ชื่อ C.M.B. อยู่เบื้องหลังคดีนั้น เธอจึงตัดสินใจว่า จะต้องตามล่าและทำลายองค์กรนี้ให้ได้...ไม่ใช่เพื่อแก้แค้น แต่เพื่อความถูกต้อง

    ชอบ(อาการ) II คดีหรือปริศนาต่าง(จะอารมณ์ดีในตอนแรกก่อนจะเปลี่ยนเป็นโหมดสืบสวน) , การเที่ยวเล่น(สนุก เย้) , ขนมหวาน(ตาเป็นประกาย)

    เกลียด(อาการ) II คดีเช่นกัน(เพราะมีการสูญเสีย) , อะไรก็ตามที่มันกำกวม(หงุดหงิด เอาให้มันชัดเจนไปเลยเซ่)

    กลัว(อาการ) II หน้าผา(ตัวสั่น เพราะเป็นที่ที่พ่อแม่เธอประสบอุบัติเหตุ)

    ความสามารถพิเศษ II สุดยอดลางสังหรณ์แบบฉบับนักสืบ และมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ที่สูงมาก

    คำพูดติดปาก II อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ปริศนาไขกระจ่างแล้ว

    คู่กับ II จีอ๊อตโต้

    เรียกคู่ตัวเองว่า II นายหัวทอง , จีอ๊อตโต้

    ให้คู่เรียกตัวเองว่า II มิจิ

    เพิ่มเติม II เธอได้คาราเต้สายดำ และ พี่ชายของเธอน่ะ...ถูกรับไปเลี้ยงโดยญาติก็จริง แต่ญาติคนนั้นเป็นคนขององค์กร C.M.B. และแน่นอนว่าพี่ชายเธอก็กลายเป็นสมาชิกองค์กรไปเช่นกัน แถมเป็นมือขวาด้วย แต่เธอไม่รู้เลย แล้วก็พี่ชายเธอชื่อ ยูโกะโนะ คุรายามิ (แปลว่า ความจริงในความมืดมิด)

     
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     


    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×