ตอนที่ 15 : CHAP 15 : ไร่ชากับดาวดวงน้อย
CHAP 15 : ไร่ชากับดาวดวงน้อย
พรุ่งนี้จะอาบน้ำตั้งแต่บ่ายสามเลย...ชาวินปฏิญาณกับตนเองหลังจากได้ผ่านสมรภูมิรบอันหนาวเย็นมาจากการอาบน้ำ
ไม่คิดว่ามันจะหนาวขนาดนี้เลย แค่ยืนก็ยังขาชาไปหมด ไม่รู้ว่าเจ้าปีศาจน้อยเอาชีวิตรอดออกมาได้ยังไง...หนาวจะตายอยู่แล้ว
ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขายาวเดินออกจากห้องน้ำด้วยสภาพเหมือนลุงขี้แพ้ตัวเย็นเฉียบ แต่พอเขาเห็นใครบางคนยืนรออยู่ตรงบันได ไหล่ที่เคยห่อด้วยความหนาวเย็นก็ยกขึ้นอย่างอัตโนมัติ
"บุญญากร"
"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ! ผมอยากไปดูชาวบ้านคั่วชา"
ดวงตาตื่นเต้นเป็นประกายคือตัวดับฝันของชาวินได้อย่างดีที่สุด ตอนแรกเขาคิดว่าจะออกไปดื่มเบียร์แก้หนาวกับหลานผู้นำชุมชนสักสองกระป๋อง แต่พอเห็นแบบนี้แล้วจากเบียร์อาจจะต้องกลายเป็นชาเขียวแทน
"คุณลุงผู้นำบอกว่าตรงริมนู้นเป็นที่คั่วชาเขียวครับ เขาจะคั่วตอนกลางคืนแล้วเอาไปส่งรีสอร์ทตอนเช้าทุกวัน ผมอยากจะเห็นสักครั้งหนึ่ง...เราไปดูกันนะ"
เบียร์จะกินวันไหนก็ได้...แต่ชาเขียวที่ดื่มกับคุณหนูบุ้งในชุดนอนของเขามีแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น
"ตกลงครับ แต่คุณต้องสวมเสื้อกันหนาวก่อนนะ"
"เอ่อ...ผมไม่ได้เอามาครับ"
"ใส่ของผมก็แล้วกัน"
ชาวินรีบขึ้นบันไดไปหยิบเสื้อกันหนาวที่เขาพกติดตัวมาด้วยสองผืน ก่อนจะนำมันกลับมาสวมให้กับคุณหนูแสนบอบบางที่คุณหญิงเดือนแขฝากฝังเอาไว้
ตลอดเจ็ดวันนี้ชาวินจะไม่ยอมให้บุญญากรเป็นหวัดแน่ๆเขายังไม่อยากกลับกรุงเทพก่อนกำหนด บุญญากรจะต้องอยู่กับเขาสองคนจนถึงวันสุดท้าย
"ห้ามเป็นหวัดนะ"
"อืม ขอบคุณครับ"
แม้หนุ่มน้อยจะดูขัดเขินตอนพูดขอบคุณ แต่แก้มขาวอมชมพูกลับทำให้มันดูลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ ชาวินมองดูคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า และเขาก็เห็นบางอย่างที่มันดูน่ารักเกินกว่าจะอดทนได้
"ชุดนอนพอดีตัวไหมครับ"
"ครับ?"
"เห็นคุณพับขากางเกงด้วย...ปกติตัวนี้ผมใส่เป็นขาสั้นน่ะ"
คนก่อสงครามพูดแล้วก็ทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน ชาวินแกล้งน้องเองแล้วก็กลัวจะถูกงอนเองขึ้นมาอย่างกระทันหัน แต่ผิดคาด...คราวนี้คุณหนูบุญญากรกลับทำแค่มองลงไปที่ข้อเท้าตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาทำแก้มป่องเหมือนเด็กน้อยถูกล้อแล้วไม่อยากรับรู้
"คุณว่าผมเตี้ยเหรอ?"
"เปล่าครับ"
"ทำไมชอบแกล้งผม"
ดราม่าเฉยเลย...แบบนี้ชาวินยิ่งไปไม่ถูก
"ผมแค่แซวเล่นเอง บุญญากร...ผม"
"แซวเล่นอ่อ? แซวเล่นเนี่ยนะ?"
"คุณงอแงอะไรเนี่ย ผม..."
"ผมไม่ได้งอแงครับ ผมแค่เล่นละคร หลอก-ลุง-ชา-วิน"
เด็กอวดดีเงยหน้าขึ้นแลบลิ้นแล้วเดินหนีไปพร้อมกับใบหน้าแสนเจ้าเล่ห์ ส่วนชาวินก็ยังคงได้แต่อึ้งกับประโยคนั้นไม่หาย...เขาไม่ได้ยินคำนี้จากบุญญากรมานานมากแล้ว 'ลุงชาวิน' อย่างนั้นเหรอ?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะต้องมีคนโดนดุแน่ๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ชาวินคงจะต้องยอมเป็นลุงไปก่อน...จนกว่าเราสองคนจะได้แต่งงานและพิสูจน์ความแก่กัน
ฝากไว้ก่อนเถอะ
ลุงคนนี้จะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลย...ไอ้เด็กตัวแสบ
.
.
.
.
.
เรือนไม้ขนาดเล็กที่มีกองไฟตั้งอยู่ตรงกลางเป็นเหมือนจุดศูนย์รวมของคนในหมู่บ้านที่ต้องแวะเปลี่ยนกันเข้ามาดูแล ทุกวันหลังจากการเก็บเกี่ยวพวกเขาก็จะนำใบชาที่เก็บได้มารวมกันที่นี่ ก่อนจะแบ่งหน้าที่ตามเวลา สับเปลี่ยนกันเกือบทุกคืนเพื่อคั่วและรักษามันด้วยความชำนาญตามแบบฉบับของท้องถิ่นดั้งเดิม
บุญญากรเห็นแล้วก็แอบยิ้มด้วยความชื่นชม
ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณตาคุณยายจะรู้เรื่องเกี่ยวกับชามากมายขนาดนี้ มันเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสวยงาม คนในเมืองแบบเขาเห็นแล้วก็อดจะทึ่งกับความสุขสงบแบบนี้ไม่ได้เลย...ทุกอย่างมันน่ารักมากจริงๆ
"หอมจังเลยเนอะคุณว่าไหม?"
"ไม่รู้สิครับ...ขอลองดมดูก่อน"
"นี่คุณชาวิน!! ผมหมายถึงชา!"
คนชอบเนียนยืนเซเมื่อถูกผลักออกห่างหลังจากทำท่าจะก้มลงไปหอมแก้มคนถามเพื่อเป็นการพิสูจน์ แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ยังทำเป็นนิ่งแล้วตอบหน้าตาย
"ก็หมายถึงดมชาไง"
"ดมชาแล้วเอียงมาที่ผมทำไม?!"
"คุณขี้ระแวงเองต่างหาก...ผมจะดมชาจริงๆ"
"ชาอยู่ตรงโน้นครับ!"
"อ่าาา...ชาอยู่ตรงโน้นครับยาย ไม่ได้อยู่บนแก้มเขาเหรอ?"
สองตายายที่กำลังคั่วชาหัวเราะคิกคักเมื่อถูกเอาไปเป็นข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงความผิด แต่ถึงอย่างนั้นคุณชาวินก็ยังเอาแต่กวนเขาไม่เลิก
"ถ้ากินชาแล้วจิตใจจะสงบลงใช่หรือเปล่าครับคุณตา"
"แม่นละ"
"แล้วสงบจนหลับลึกไปเลยหรือเปล่าครับ?"
"อันนี้บะฮู้เน่อ"
"ถ้าหลับลึกจริงผมขอเอาไปชงให้เด็กดื้อแถวนี้ดื่มสักแก้วสองแก้วนะครับ..มอมให้หลับลึกไปสักสองคืน จะได้แอบหอมแก้มตอนนอนให้หนำใจไปเลย"
"สองคืนเลยก๊ะ?"
"ครับ สองคืนเลยก๊ะคุณตา!"
"ฮะฮะฮะ"
พูดอะไรของเค้าเนี่ย?!
บุญญากรจะไม่มีปัญหาเลยหากไม่ถูกลากไปพาดพิงด้วย แถมคุณตากับคุณยายก็เอาแต่มองมาทางเขาแล้วก็หัวเราะเขินๆ คุณชาวินต้องบ้าไปแล้วที่พูดแบบนั้นออกมา...คนบ้าอะไรจะนอนหลับไปตั้งสองวัน
"เดี๋ยวจะโดนนะคุณชาวิน"
"อะหยังก๊ะ?"
"ไม่ต้องมากวนเลย ก๊ะอะไรของคุณ! หยุดกวนคุณตากับคุณยายได้แล้วนะ"
"ผมกวนคุณตากับคุณยายตอนไหน ผมกวนแค่คุณนั่นแหละ"
"เดี๋ยวเหอะ!"
"ครับ?"
"ไม่ต้องทำไขสือเลย ออกมาเดี๋ยวนี้!"
พูดจบแขนหนาๆก็ถูกลากออกไปจากเตา ตอนนี้บุญญากรไม่สนใจการคั่วชาแล้ว เพราะคุณชาวินคนเดียวที่ทำให้บรรยากาศสงบสุขต้องกระเจิงไปหมดแบบนี้...ชอบพูดให้เขาอับอายต่อหน้าคนอื่นอยู่เรื่อยเลย!
สงสัยเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ...จะหอมแก้มอะไรกัน!?
ใครอนุญาตไม่ทราบ
"คุณมานี่เลยนะ! ไม่ต้องไปกวนคนอื่นแล้ว"
ร่างสูงถูกลากมาที่ท้ายสวนแล้วดันให้นั่งลงบนเสื่ออย่างแรงตามมาด้วยหมอนชาเขียวเพื่อสุขภาพที่เพิ่งซื้อมาจากคุณยาย ชาวินไม่เคยได้กลิ่นของมันเลยจนกระทั่งบุญญากรโยนมันลงมาเฉียดจมูกเขาไปนิดเดียว...
"คุณหนู! เกือบโดนหน้าผมแล้วนะ!"
"ก็แค่เกือบ ไม่เห็นจะโดนสักหน่อย!"
สีหน้าของเจ้าปีศาจตอนนี้ดูไม่เข้ากับบรรยากาศเอาเสียเลย เพราะที่นี่มีลมค่อนข้างหนาวเย็น...แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเล็กจะหัวร้อนน่าดู
"คุณนั่งตรงนี้เลยนะ! ห้ามลุกไปไหนอีก! ผมจะไปจดวิธีคั่วชาของชาวบ้านอย่างละเอียดไม่ต้องการเสียงรบกวน"
"คุณคิดว่าจะสั่งผมได้เหรอ?"
"ไม่ได้สั่งครับ! แต่ขอความร่วมมือ"
"อย่างนั้นเหรอครับ?!"
"ผมจะไปศึกษาเรื่องนี้แค่สิบนาทีเท่านั้น...เสร็จแล้วจะชงชามาให้"
"คุณจะชงชาให้ผม?"
"ครับ! ถ้าคุณอยากกินก็ห้ามไปรบกวนผมอีกเด็ดขาด แต่ถ้าผมเห็นคุณไปยุ่งแถวที่คั่วชาอีกล่ะก็...ผมจะเล่นงานคุณหนักเลยคอยดู"
"กลัวจังเลยครับ"
"ถ้าไม่อยากกินชาก็แล้วแต่เลย!"
ใครจะกล้าปฏิเสธได้ลง
ในเมื่อคุณหนูพันล้านยื่นข้อเสนอแบบนั้นมา ถึงชาวินจะไม่ชอบดื่มชามากสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ยอมรับว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่คุณหนูบุญญากรจะยอมลดตัวลงมาชงชาให้คนธรรมดาแบบเขา...ถือว่าเป็นบุญครั้งใหญ่ของชีวิตชาวินเลย
"โอเคครับ ผมจะรอนะ...ขอชาหอมๆแก้วหนึ่งด้วย"
"ฮึ่ย!"
ชายหนุ่มแสนธรรมดานั่งหัวเราะกับตัวเองพร้อมมองตามแผ่นหลังที่เดินกลับเข้าไปหาคุณตากับคุณยายอย่างหัวร้อน แล้วก็เปลี่ยนเป็นอีกคนทันทีหลังจากได้คุยกับคนอื่นนอกเหนือจากเขา
ก่อนหน้านี้บุญญากรบอกว่าอยากศึกษาเกี่ยวกับกรรมวิธีผลิตใบชาแบบชาวบ้านอย่างถ่องแท้เพราะหวังว่าจะเอาไปต่อยอดให้กับธุรกิจของชุมชน ในหัวของเจ้าปีศาจน้อยมีแต่ความอยากช่วยเหลือชาวบ้านเต็มไปหมด...ยกเว้นแค่กับเขาเพียงคนเดียว
บอกให้เขาใจเย็นแต่ตัวเองกลับทำตัวน่ารักเพิ่มขึ้นทุกวัน แบบนี้ชาวินจะทนได้นานสักแค่ไหนกันเชียว เจ้าปีศาจน้อยแสนเอาแต่ใจ!
"เฮ้อออ ใจเย็นขนาดไหนถึงจะพอนะ"
เขาไม่น่าไปรับปากไอ้ตัวแสบเลย...
ตอนนั้นสถานการณ์มันบีบบังคับ ทั้งสายตาอ้อนวอน แล้วก็มือนุ่มนิ่มที่ปัดฟองสบู่บนแก้มเขาออกให้ ทุกอย่างมันเหมือนโลกแห่งความฝัน...พอชาวินรู้ตัวอีกทีก็ตอบตกลงไปหมดแล้วแบบงงๆ
เขานี่มันบ้าบอจริงๆ
ปีศาจน้อยน่ารักถึงขนาดนั้นแล้วจะให้ใจเย็นได้ยังไง แถมตอนนี้ยังอยู่ในหลวมๆของเขาอีก มันชวนให้จินตนาการว่าร่างนั้นกำลังถูกเขาสวมกอดและห่อหุ้มไปหมดทั้งตัว...เพียงแค่คิดหัวของชาวินก็แทบจะระเบิดออกมา
เขาไม่น่าสัญญาแบบนั้นออกไปเลย...อย่างน้อยขอแค่หอมแก้มก็ยังดี ทำไมเจ้าปีศาจถึงได้ใจร้ายกับเขามากขนาดนี้นะ ทีกับคนอื่นขออะไรก็ให้หมด! แบบนี้มันก็ยิ่งน่าหงุดหงิดเข้าไปใหญ่!
ชาวินขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ ยิ่งพอหันไปเห็นคนตัวเล็กยืนยิ้มหวานกับชาวบ้านเขาก็ยิ่งหงุดหงิด...เป็นแบบนี้มันไม่แฟร์กับเขาเลยสักนิดเดียว!
#คุณชาวิน
"คุณหนูบุญญากร!"
เมื่อเห็นว่าครบสิบนาทีแล้วชาวินจึงแกล้งตะโกนเรียกและเขาก็เห็นไอ้ตัวแสบทำหน้าบึ้งตอบกลับมา ความน่ามันเขี้ยวนั้นทำท่าทางเหมือนเด็กโดนยึดของเล่นตอนกำลังสนุก แต่สุดท้ายก็ต้องทำตามสัญญาและเดินกลับออกมาพร้อมกับถาดถ้วยชาและขนมทานเล่น
"คุณจะตะโกนทำไมเนี่ย! มันดึกแล้วนะ ชาวบ้านเขาก็นอนกันหมดแล้วด้วย"
"ก็คุณไปนาน ผมหนาว...อยากดื่มชาร้อน"
"เหอะ! งอแงอยู่ได้...ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์!"
"คนตัวใหญ่ก็หนาวเป็นนะคุณ"
พูดแล้วก็ทำตัวเอียงเพื่อจะเอนลงไปซบ แต่คุณหนูกลับรู้ทันเบี่ยงตัวหลบไปเสียก่อน...สุดท้ายก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งแล้วมองมือสวยรินชาต่อไป
"ไหนบอกว่าจะชงชาให้ผม...นี่มันแค่เทใส่แก้วเอง"
"ใครบอกว่าแค่เทใส่แก้วครับ ผมตักชาใส่กาเอง แล้วก็เอาน้ำร้อนใส่ลงไปเองด้วย...ทำทุกอย่างเองหมดเลย แต่ถ้าคุณไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน"
"ได้ยังไงล่ะ ผมรอคุณมาตั้งสิบนาทีเลยนะ"
มือหนารีบรับแก้วชามาแล้วจิบมันลงคออย่างเสียไม่ได้ ส่วนคุณหนูบุญญากรก็แอบยิ้มขำแล้วดื่มชาร้อนเช่นเดียวกันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
มันนานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาจิบชาท่ามกลางบรรยากาศสวยงามแบบนี้ แถมยังมีกิจกรรมน่าสนุกรอเต็มไปหมด บุญญากรแทบจะอดทนรอไม่ไหวแล้ว...เขาอยากลองช่วยชาวบ้านทำทุกอย่างเลย โดยเฉพาะดำนา!
"ปกติคุณนอนกี่โมง?"
"ประมาณสองทุ่มครับ"
"ต้องดื่มนมก่อนด้วยสินะ แม่คุณฝากนมผงกับผมมาด้วย"
"ห้ะ?!"
"ฮะๆ เรื่องจริงครับ...ก่อนนอนคุณต้องดื่มนมด้วย ผมจะจับตาดูคุณเอง"
"ไม่อยากจะเชื่อเลย! คุณแม่นะคุณแม่"
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณก็ต้องกลับไปนอนแล้วสินะ"
"ไม่เอาหรอกครับ! คืนนี้ผมอยากดูดาวก่อนแล้วค่อยไปนอน แต่ถ้าคุณง่วงก็กลับไปนอนก่อนได้เลยนะเพราะผมจะอาจจะนั่งอยู่ที่นี่อีกสักพักหนึ่งเลย"
"ผมไม่กลับหรอกครับ...จะนั่งดูดาวกับคุณ"
แม้จะเป็นคำตอบที่แสนปกติ...แต่คุณหนูบุญญากรกลับเริ่มเขินอายจนหน้าแดงเพราะเสียงทุ้มและรอยยิ้มอันอบอุ่นของคนตรงหน้า
ดูเหมือนคุณชาวินจะเก่งเรื่องนี้เสียเหลือเกิน เพราะตอนนี้คุณเขาเริ่มขยับเข้ามานั่งชิด แถมยังทำเป็นจัดเสื้อกันหนาวให้เขาอีกด้วย...ปกติทำแบบนี้เป็นเสียเมื่อไหร่กันล่ะ คอยแต่จะหาเรื่องแกล้งเขาตลอด
มันน่าอายนิดหน่อย...แต่ก็น่ารักดี
"เอ่อ...เมื่อกี้คุณอาบน้ำหนาวไหมครับ?"
เพราะไม่รู้จะพูดอะไรบุญญากรถึงแสร้งทำเป็นชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ เดี๋ยวอีกสักพักคุณตากับคุณยายก็จะกลับบ้านไปนอนพักแล้ว เขาไม่อยากอยู่กับลุงชาวินสองต่อสองด้วยบรรยากาศแบบนี้เลย...มันไม่น่าไว้วางใจ
"หนาวสิครับ ผมยังคิดอยู่เลยว่าคุณเอาชีวิตรอดออกมาจากห้องน้ำได้ยังไง ปกติคุณอาบน้ำเย็นเหรอ"
"เปล่าครับ...ผมอาบน้ำอุ่น แต่วันนี้มันไม่มีทางเลือก"
ชาหอมๆกำลังจะหมดแก้ว เพราะยิ่งแสร้งทำตัวเป็นปกติมากเท่าไหร่ความกระหายน้ำมันก็มากขึ้นเท่านั้น บุญญากรไม่อยากประหม่าแบบนี้เลย...
"งั้นพรุ่งนี้คุณไม่ต้องอาบนะ คุณไม่อาบน้ำสักสิบวันก็คงไม่เป็นไร เห็นบอกว่าเนื้อหอมนี่นา ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าคุณดองสักสิบวันเนื้อตัวยังจะหอมอยู่หรือเปล่า...ใครจะเอาดอกไม้มาให้อีกนอกจากผม"
เพราะเคยแกล้งพูดแบบนั้นออกไปจริงๆคนถูกแซะจึงได้แต่ยิ้มออกมาจนตาหยี บุญญากรหัวเราะจนเห็นฟันซี่เล็กเรียงตัวสวย และแก้มสีขาวก็เด้งขึ้นเป็นก้อนด้วยอย่างน่ามอง...
เพียงแค่นั้นผู้ชายที่นั่งจ้องก็แทบจะหยุดหายใจ
"พูดอะไรของคุณเนี่ย คิก...ผมต้องอาบน้ำอยู่แล้วล่ะ! ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย"
รอยยิ้มนั้นที่ชาวินเคยอยากสัมผัสตลอดมา ตอนนี้เขาได้มันมาครอบครองแล้วจริงๆ เขาคงไม่ต้องอิจฉาคนทั้งโลกอีกต่อไปแล้ว...มันสวยงามมากและเหมาะที่จะเป็นของเขามากที่สุด
ชาวินต้องการที่จะครอบครองมัน...
คนที่กำลังเพ้อเอาแต่จ้องมองรอยยิ้มนั้นแบบไม่ละสายตา ชายหนุ่มที่เคยแข็งกระด้างสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของโลกใบนี้ โลกที่มีแต่ความขาวสะอาดและบริสุทธิ์ บุญญากรเป็นเหมือนพลังงานบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงความหยาบกระด้างได้...มันน่าเหลือเชื่อมากสำหรับชาวิน
เคยมีวันไหนที่คุณจะไม่น่ารักไหม...บุญญากร
"อากาศดีจังเลยนะครับ สดชื่นแล้วก็เย็นสบายมากด้วย"
"อือ...น่ารักมาก"
คำตอบแปลกๆที่หลุดออกมาทำให้คนที่กำลังหัวเราะหยุดเงียบไปชั่วขณะ
บุญญากรหันไปสบตา...ก่อนจะพบว่าอีกคนกำลังจ้องมาด้วยสายตาที่ยากต่อการคาดเดา เพียงเท่านั้นคุณหนูแสนขี้อายก็แสร้งทำเป็นเบือนหน้าหนีมองไปที่อื่น ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดแล้วเอาคางเกยเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว
"คุณหนาวไหม?"
พอทำเป็นไม่สนใจอีกคนก็ตามมาป่วนด้วยการใช้หลังนิ้วมือแตะบนแก้มเหมือนเป็นการวัดอุณหภูมิ บุญญากรสะดุ้งและหดคอหนี แต่สุดท้ายก็ยอมหยุดนิ่งแล้วส่ายหัวเป็นคำตอบเบาๆ
"ไม่หนาว..."
ถึงจะตอบออกไปแบบนั้นแต่คุณชาวินก็ยังดึงผ้าพันคอของตนเองออกมาคลุมบนหัวของเขาให้อย่างเบามือ บุญญากรได้แต่นั่งกระพริบตาปริบๆมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจ...จนสุดท้ายเขาก็ได้คำอธิบายตอบกลับมา
"ต้องคลุมไว้เข้าใจหรือเปล่า"
"ผมไม่ใช่ตุ๊กตานะ!"
"ห้ามดื้อครับ...น้ำค้างตอนกลางคืนอาจจะทำให้คุณไม่สบายได้ง่ายๆ ผมจะไม่บอกแม่คุณเรื่องนอนดูดาวตากลมแบบนี้ แต่คุณต้องเชื่อฟังผม...ห้ามดื้อ"
พอพันผ้าจนมิดตัวเจ้าปีศาจน้อยก็กลายร่างเป็นก้อนกลมๆเหมือนตุ๊กตาอย่างที่ชาวินพูดจริงๆ ยิ่งเห็นแก้มสีแดงพ้นออกมาเล็กน้อยแบบนั้นแล้วชาวินก็ยิ่งอยากจะเอื้อมมือไปบีบแรงๆ และเขาจะไม่ทน!
"โอ้ย! เยอะไปแล้วครับคุณชาวิน!"
แตะยังไม่ถึงสองวิก็ถูกฟาดหลังมือกลับมาจนขึ้นเป็นรอยสีแดงเข้ม ชาวินดูร่องรอยการทารุณกรรมที่ตนเองได้รับอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เจ้าปีศาจน้อยทำร้ายร่างกายเขาอยู่คนเดียว...คราวนี้รอบที่สองแล้วด้วย
"คราวก่อนก็จิกผมจนเลือดออก รอบนี้ตีผมจนเป็นรอยอีกแล้ว คุณต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับผมนะ"
"อะไรของคุณ"
"เพราะร่างกายผมมีแต่รอยแผลเป็นเต็มไปหมดแล้ว แบบนี้ใครเขาจะมาสนใจผมอีกล่ะ...คุณต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับผม"
"ไม่ต้องมาทำหน้าเศร้าเลยครับ คนอย่างคุณคงมีคนมาต่อแถวคิวรอเป็นเจ้าสาวกันเป็นพรวน ถึงจะโดนผมต่อยตีสักเท่าไหร่ก็คงไม่กระเทือนหรอก!"
"หมายความว่าไงครับ? ผมหล่อถึงขั้นนั้นเลยเหรอ?"
"ใครพูดแบบนั้นกัน! หลงตัวเอง!"
"ก็คุณพูดเองนี่นา"
"ไม่ได้พูดแบบนั้นเลยเหอะ! คุณก็แค่คุณลุงคนหนึ่งที่-อื้อ!!"
พอจะเถียงกลับ คนมือไวก็คว้าชายผ้าขึ้นมาแล้วพันไปรอบๆคออีกครั้งจนปิดถึงปากเจ้าตัวแสบ บุญญากรพยายามดิ้นหนีสุดแรงเกิด แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ด้วยการถูกดันให้นอนลงบนแขนแข็งๆด้วยสภาพเหมือนกับมัมมี่ที่ถูกห่อไปแล้วมากกว่าครึ่งตัว
"ถ้าเรียกผมว่าลุงอีกทีนะ ผมจะห่อคุณแบบนี้ แล้วก็..."
"ก็อะไร?!"
ถึงจะถูกห่อจนไม่เหลือทางสู้แต่บุญญากรก็ยังเชิดหน้าออกมาจากผ้าด้วยความไม่อยากจะยอมแพ้ ปีศาจน้อยวางแผนเอาไว้แล้วว่าหากคุณชาวินกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว...วินาทีนั้นจะต้องมีคนตายอย่างแน่นอน!
"ผมถามว่าคุณจะทำอะไร?!"
"ผมก็จะเอาคุณไปมัดกับเสากระท่อม แล้วก็ปล่อยตุ๊กแกไต่ลงมาเล่นกับคุณ"
"ห้ะ?!!"
"เมื่อกี้ผมซักผ้าเห็นมีอยู่ตรงนั้นหนึ่งตัว...ท่าทางน้องจะเหงามาก"
"ไม่เอานะ!! ห้ามทำแบบนั้น!!"
แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้...บุญญากรคาดว่าคนตายก็น่าจะต้องเป็นเขาก่อน
แค่คิดว่าคุณชาวินจะทำแบบนั้นจริงๆสมองของเขาก็ประมวลผลออกมาเป็นรูปภาพน่าเกลียดน่ากลัว บุญญากรคิดว่าเขาคงจะไม่รอดแน่...ตายแน่นอนถ้าเป็นแบบนั้น แค่คิดก็จะเป็นลมตาย!
"จะเรียกผมว่าลุงอีกไหม?"
(ส่ายหัวตอบเร็วๆ)
"ผมหล่อไหม?"
(พยักหน้าด้วยความจำเป็น)
"งั้นคุณจะแต่งงานกับผมไหม?"
"ไม่!!"
แต่อันนี้เป็นไงเป็นกัน...
บุญญากรตอบพร้อมกับดีดตัวออกห่างอย่างสุดจะทน แต่สุดท้ายก็ถูกดึงกลับมานอนเหมือนเดิม แถมคราวนี้ยังถูกอีกคนคร่อมแขนลงมากักตัวอีกด้วย
"ห้ามทำอะไรเกินเลยนะคุณชาวิน! ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมกลับบ้านแน่"
"ห้ามกอด...หรือห้ามจับตุ๊กแกมาหลอกคุณ"
"ห้ามหมดนั่นแหละ! ผม...ผมกลัวนะ"
"ไม่ทำหรอกครับ..."
"อือ"
"ถ้าคุณยอมแต่งงานกับผมนะ"
"นี่แหน่ะ!!"
พอพูดไม่ฟังก็ต้องเจอหยิกอีกรอบ! บุญญากรจิกลงไปที่ต้นแขนหนาอย่างแรง ซึ่งเจ้ายักษ์ผู้อ่อนแอก็แสร้งทำเป็นล้มมานอนบนหมอนใบเดียวกันแล้วทำเสียงเจ็บปวดนักหนาอยู่ข้างหู
"โอ้ยยย ไม่แต่งก็ไม่แต่งสิคุณ...ผมเจ็บนะ"
"ไม่ต้องสำออยเลยคุณชาวิน"
"สำออยอะไรล่ะ ผมเจ็บไปหมดแล้วเนี่ย"
คนบอกไม่สำออยทำตัวเหมือนเด็กด้วยการเอาหัวมาเบียดแล้วห่อตัวให้เล็กลงเพื่อจะนอนเบียดตัวกับเขา ซึ่งบุญญากรก็เห็นแล้วว่านี่มันคือการสำออยชัดๆ
"คุณขยับออกไปเลยนะ! ไปขอหมอนคุณลุงกับคุณป้ามานอนเองสิ จะมาแย่งของผมนอนทำไมเนี่ย! มันอึดอัดนะลุกออกไปเลย!"
"คุณลุงกับคุณป้าดับไฟไปนอนกันหมดแล้วคุณ...จะขี้หวงอะไรนักหนา ผมตัวเล็กนิดเดียวคงนอนไม่เปลืองที่หรอก ขอผมนอนด้วยแล้วกันนะ"
"ตัวเล็กอะไรล่ะ?! ตัวใหญ่อย่างกับช้าง!"
"แต่ใจผมเล็กนะ...มีคุณอยู่คนเดียวก็เต็มแล้วล่ะ"
"แหวะ! จะอ้วก..."
เล่นมุขไม่ถึงสองวินาทีก็เกือบจะถูกคุณหนูผู้แสนดีอ้วกใส่หน้ากลับมา ชาวินหัวเราะให้กับความเสี่ยวของตัวเอง เขาไม่น่าจำมุขจีบหญิงของไอ้หมอมาใช้เลย...มันเป็นเรื่องน่าอายระดับชาติ
"พูดบ้าอะไรของคุณเนี่ย เลี่ยนชะมัดเลย"
"ลืมมันไปซะ ผมก็จะลืมเหมือนกัน"
"ผมไม่จำหรอก...ขนลุกจะตายอยู่แล้วเนี่ย คิก..."
ได้ผล...บางทีมุกเสี่ยวก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน อย่างน้อยเจ้าปีศาจก็หลุดขำออกมาได้ แม้มันจะผิดเป้าหมายไปบ้าง...แต่สุดท้ายก็ได้นอนหนุนหมอนใบเดียวกันแบบงงๆ
ความจริงแล้วปีศาจน้อยก็คงเปิดโอกาสให้เขาอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นก็คงลุกหนีไปตั้งนานแล้ว...ไม่ปล่อยให้เขาได้นอนอิงแอบใกล้ๆแบบนี้หรอก
"ลืมมันไปเลยนะ ห้ามจำเรื่องน่าอายของผมเด็ดขาด"
"คิก...วันนี้ทั้งวันคุณเอาแต่พูดอะไรแบบนี้"
"ไอ้หมอสอนมา"
"พี่หมอ?! แล้วคุณก็เชื่อพี่หมอเนี่ยนะ"
"ไอ้หมอมันประสบการณ์เยอะ ส่วนผมมันก็แค่พวกอ่อนหัด..."
"ไม่จริงหรอก! มือไวอย่างคุณเนี่ย...ตัวพ่อชัดๆเลย"
"จริงสิครับ...ช่วงนี้ผมก็จีบคุณอยู่คนเดียว"
"ช่วงนี้อ่อ? หมายความว่ายังไง?!"
"ปะ ปะ ปะ เปล่า!"
แกล้งทำเสียงสั่นแต่ดวงตาก็ยังแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ่งเห็นคุณหนูฟาดมือลงมาบนต้นแขนแรงๆชาวินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิม
"ไม่ต้องมายุ่งกับผมให้เสียเวลา...ไปจีบคนอื่นนู่นเลย"
"ไม่เอา! ผมจะแต่งงานกับคุณคนเดียว"
"ฝันไปเหอะ!"
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยังทำตัวน่ารักด้วยการขยับหัวให้กระทบกับเขาเป็นการปฏิเสธแบบขี้เล่น และนั่นก็ทำให้คุณลุงตัวโตหลุดยิ้มออกมาเพียงเพราะได้กระทบหัวกันน้อยๆแบบนี้
แค่ไม่ขยับหนีก็น่าแปลกใจแล้ว...แต่นี่ยังหยอกล้อเขากลับเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด ชาวินอยากแต่งงานเสียตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลย ติดอยู่ที่อีกคนยังใจแข็งไม่ยอมตกลงกับเขาสักที
ก็คงเป็นอย่างที่เคยสัญญานั้นแหละ ใจเย็นกับคุณหนูเขาหน่อย...
"คุณหนูไม่ง่วงเหรอครับ...ปกตินอนเร็วนี่นา"
เพราะบรรยากาศเงียบสงบในไร่ชาบวกกับสายลมที่พัดอ่อนมาเป็นระลอก ทำให้ชาวินรู้สึกเริ่มง่วงนอนแล้วทั้งที่ปกติเป็นคนนอนดึก แม้แต่เขายังอยากจะยอมแพ้เลย...นับประสาอะไรกับคุณหนูที่นอนไม่เกินสองทุ่มแบบบุญญากร
"ก็เริ่มง่วงแล้วครับ...แต่ถ้าผมรอจนถึงเที่ยงคืนท้องฟ้าก็จะชัดเจนกว่านี้ ตอนนั้นมันต้องสวยมากแน่เลย...ผมไม่อยากพลาดหรอก"
"แต่ตอนนี้มันก็สวยแล้วนะ เห็นดาวชัดกว่าตอนอยู่กรุงเทพเป็นร้อยเท่าเลย คุณเห็นตรงนั้นไหม? ผมคิดว่าถ้าอยู่ที่บ้านก็คงจะมองไม่เห็นมันหรอก"
"กลุ่มดาวลูกไก่น่ะเหรอครับ อือ...ถ้าอยู่แถวบ้านคุณก็คงมองไม่เห็นจริงๆนั่นแหละ แต่บ้านผมอยู่ชานเมืองก็พอจะเห็นบ้างบางครั้ง พอมาดูตอนนี้แล้วมันสวยมากเลย สวยกว่าตอนมองจากที่บ้านผมเสียอีก"
"อือ...คุณคงชอบดูดาวมากสินะ"
"ครับ...เป็นกิจกรรมที่ผมชอบมากที่สุดในชีวิตเลยล่ะ ทุกครั้งที่มองท้องฟ้าในตอนกลางคืนแบบนี้ ผมก็มักจะถามตัวเองอยู่เสมอว่าเราคืออะไรกันแน่ในจักรวาล มันเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ...และผมชอบความคุมเครือแบบนั้น"
"ความคุมเครือ?"
"ครับ...ทุกอย่างล้วนมีคำตอบเสมอ แต่ผมคิดว่าสิ่งสวยงามที่สุดมันมักจะซ่อนอยู่ระหว่างการค้นหามากกว่า ความคุมเครือมันน่าตื่นเต้นแล้วก็ทำให้หัวใจเราเต้นแรงด้วย...ผมชอบบรรยากาศแบบนั้นที่สุดเลย"
"คุณก็เลยทำกับผมแบบนั้นสินะ...ร้ายกาจที่สุด"
รอบนี้เป็นฝ่ายชาวินที่เอียงหัวไปกระทบอีกคนบ้าง เขาแกล้งถามด้วยน้ำเสียงต้อพ้อ...และอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาด้วยความน่าหยิกเช่นเดิม
"ครับ...บางทีผมอาจจะทำแบบนั้นกับคุณ"
ปีศาจน้อยตอบแล้วเอียงหัวกลับมาชนอีกครั้ง แต่รอบนี้ชาวินกลับรู้ทัน...เขาจึงหันหน้ากลับไปเพื่อเอาจมูกรับแทน ซึ่งมันก็เหมาะเจาะเป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่เขายื่นหน้าไปนิดเดียว แก้มสีขาวอมชมพูก็เอียงมาชนกับจมูกของเขาอย่างง่ายดายเหมือนจับวาง
นุ่มและหอมมากที่สุดในโลก...
".........."
".........."
ผ่านไปสักพัก...แต่จมูกโด่งก็ยังคงฝังอยู่ในแก้มนิ่มไม่ยอมถอยออกมา
ชาวินแอบขำกับความน่ารักที่ตอนนี้ตัวแข็งเป็นก้อนหินไปแล้ว บุญญากรอาจจะตกใจมากจนถึงขั้นช็อคหมดสติไป แต่ชาวินจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปเหมือนกับสายลม หากได้หอมแก้มนี้อีกเป็นครั้งที่สอง...ชาวินยอมตายแม้จะถูกฟาดจนตัวลายก็ยอม
ฟอด-
"คุณชาวิน!!!"
แต่มันก็ผิดพลาด...เพราะเจ้าปีศาจน้อยดันรู้ตัวเร็วกว่าที่คิด แถมยังหันมาทำตาเขียวแล้วทุบเขาด้วยกำปั้นที่แสนจะหนักหน่วงด้วยความแค้นเคือง
"ผมจะฆ่าคุณ! บังอาจมากนะ! นี่แก้มคุณหนูบุ้งนะ!"
"ห้ะ?! ฮะฮะ แก้มคุณหนูบุ้งเหรอ!"
"กล้าดียังไงมาหอมแก้มผม! ผมจะฆ่าคุณ! ฮึ้ย!"
กำปั้นเล็กกระหน่ำไม่ยั้งจนแขนของชาวินชาหนึบไปหมด เขาจึงหยุดเจ้าปีศาจน้อยด้วยการรวบมือทั้งสองข้างเอาไว้ ก่อนจะถูกหน้าผากเล็กกระแทกกลับมาอีกรอบอย่างไม่ยอมแพ้ คุณหนูบุญยากรก็คือคุณหนูตัวแสบอยู่วันยังค่ำ...ไม่เคยยอมแพ้อะไรเลยสักอย่างเลยจริงๆ
"คุณมันน่าทุบ! ผมจะฆ่าคุณจริงๆ!"
"คุณจะโกรธผมทำไมเนี่ย...ตัวเองเอาแก้มมาชนจมูกผมเองแล้วยังจะหงุดหงิดอีก คุณวางแผนมาทั้งหมดแล้วก็พูดมาเถอะคุณหนู...ผมเสียหายนะ"
"ไม่ต้องมาแกล้งตีเนียนเลยนะ คุณหอมแก้มผมอ่ะ!!"
"หอมแก้มก็ต้องสูดหายใจเข้าด้วยสิ แต่นี่ผมยังไม่ได้กลิ่นอะไรเลย"
"ห้ะ?!"
"คิดเสียว่าคุณเอาแก้มมาแตะจมูกผมก็แล้วกัน...จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย"
"หึ่มมม! คุณนี่มันจริงๆเลยนะ!"
เพราะทำอะไรไม่ได้บุญญากรจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วซัดหมัดเข้าที่แขนหนาเป็นรอบสุดท้าย ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น บุญญากรพลาดเองทั้งหมดที่ปล่อยให้ลุงคนนี้มานอนข้างๆ
"คุณหนู"
"........."
"ก็แค่เอาจมูกแตะเอง...ไม่เรียกหอมแก้มหรอกน่า"
ยิ่งเห็นอีกคนเงียบ...ชาวินก็ยิ่งอยากแกล้งขึ้นมา
คนตัวโตก่ายแขนลงมือของคุณหนูแบบล่อเป้า และเขาก็ได้รอยหยิกกลับคืนมาอย่างที่ควรจะเป็น แต่คราวนี้ชาวินจะไม่ยอมแพ้ เขารีบพลิกตัวหันข้างไปทางคุณหนูตัวแสบอีกรอบ ก่อนจะวาดแขนทับลงไป...พอทำแบบนี้แล้วก็เหมือนได้นอนกอดกัน
วันนี้คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม...
เจ้าปีศาจน้อยตัวหอมชะมัดเลย
"ปล่อยเลยนะ! คุณชาวิน!"
"ผมกลัวคุณหนาว"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกันเล่า! เอาแขนออกไปเลย!"
"งั้นเอาแบบนี้..."
"เดี๋ยว...คุณชาวินเดี๋ยว!"
บุญญากรตกใจจนทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นร่างสูงลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อกันหนาวออกแบบแรงๆเหมือนพระเอกในละคร แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น คุณชาวินก็นอนลงมาอีกครั้งพร้อมกับเอาเสื้อกันหนาวคลุมร่างของเราทั้งสองเอาไว้
"ห่มผ้านะครับ...เดี๋ยวเป็นหวัด"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากลุงตัวใหญ่ทำให้บุญญากรพูดอะไรไม่ออก...
แม้มันจะน่าทุบให้ตายแต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง! คุณชาวินกำลังเล่นงานเขา...เพราะภายใต้เสื้อกันหนาวมีมือหนาที่กำลังกุมมือของเขาซ่อนอยู่ด้วย! มันน่าเรียกลูกน้องมากระทืบให้ตายไปเลย!
พอถูกจับแบบนี้แล้วเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยสักอย่าง
ต้องยอมรับว่าหัวใจของบุญญากรกำลังอ่อนแอลงอีกแล้ว...เพราะถึงแม้คุณชาวินจะคลายมือออก แต่บุญญากรก็ยังนอนนิ่งให้เขาจับมืออยู่เช่นเดิม
"ผมอยากนอนดูดาวกับคุณนะบุญญากร...แค่นอนดูดาว"
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามือที่กำลังลูบเบาๆทำให้หัวใจของบุญญากรอ่อนยวบลงจนเกือบจะหมดแรง กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยก็ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้นแม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดมิดที่มีแสงดาวสาดส่องลงมา
กำแพงหัวใจของบุญญากรบางเบามากเหลือเกิน
"แค่นอนดูดาวนะ คุณห้ามทำอย่างอื่นแล้ว"
"ครับ แค่นอนดูดาวกับคุณ...ผมสัญญา"
ร่างกายแข็งเกร็งค่อยๆอ่อนยวบลงทีละนิดเพียงแค่อีกคนให้คำสัญญา ตรงหน้าของบุญยากรตอนนี้มีแค่ท้องฟ้าที่ส่องประกายเท่านั้นแต่เขากลับละทิ้งความสนใจจากมันไปจนหมดสิ้นแล้ว
คุณชาวินกำลังทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ปากก็บอกว่าจะดูดาว...แต่สายตากลับเอาแต่จ้องมองเขาไม่หยุด ลมหายใจของคุณชาวินก็ตกกระทบลงบนแก้มของเขาไม่ห่างไปไหน เพียงแค่นั้นบุญญากรก็อยากจะร้องไห้ออกมา
เขาคิดว่าตนเองคงจะไม่สามารถนอนดูดาวได้อีกต่อไปแล้ว...มันอันตรายเกินไป
"ไหนคุณบอกจะดูดาวไง"
"ผมดูอยู่"
เพราะอีกคนตอบกลับมาแบบนั้น ดวงตาหวานจึงพลาดท่าเงยขึ้นไปสบตากับอีกคนด้วยความสงสัย...และมันก็ทำให้สายตาของเราได้สอดประสานกัน
"ในจักรวาลนี้...ไม่มีดาวดวงไหนน่ามองเท่าคุณอีกแล้วล่ะ"
ไม่น่าเลย...ไม่น่าหันไปมองเลยจริงๆ
"คุณนี่มันบ้าจริงๆ! คราวหน้าผมจะไม่มาดูดาวกับคุณอีกแล้ว"
"งั้นคุณก็คงต้องอดดูดาวตลอดชีวิตเลยล่ะ เพราะผมจะอยู่กับคุณทุกคืน จะมองคุณแบบนี้ทุกคืนหลังจากที่เราแต่งงานกัน"
อยากจะบ้าตาย...ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ!
"หันไปทางอื่นเลย...ดูดาวบนท้องฟ้านู่น!"
และก็เป็นอีกครั้งที่ทนไม่ไหว บุญญากรจึงดันแก้มอีกคนให้หันขึ้นไปมองฟ้า แต่คุณชาวินกลับขำออกมาและทำท่าว่าจะดื้อมองเขาต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งบุญญากรก็คงจะทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยเลยตามเลย
ใครจะห้ามได้ล่ะ ยิ่งดื้อก็ยิ่งถูกกอดแน่น...
มือที่เคยกุมมือเขาเลื่อนมากอดเอวตอนไหนก็ยังไม่รู้เลย
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก...โดยเฉพาะมือปลาหมึกของคุณชาวิน
การกระทำนั้นเป็นไปอย่างแนบเนียนมาก แต่แปลกที่บุญญากรไม่รู้สึกว่ามันมากจนเกินไป อาจเป็นเพราะคุณชาวินวางมือลงมาอย่างอ่อนโยนและไม่ได้ล่วงเกินมากไปกว่านั้น ทุกอย่างมันจึงทำให้เขายิ่งรู้สึกปลอดภัย...และอบอุ่นหัวใจมากกว่าที่เคยเป็น
ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว แต่สิ่งรอบกายดูเหมือนจะเคลื่อนไหวช้าลงทุกที ท้องฟ้าในยามมืดมิดก็เริ่มมีดวงดาวแต่งแต้มมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เห็นตรงหน้าเหมือนกับความฝันไม่มีผิด...บุญญากรชอบที่นี่มากเหลือเกิน
"ง่วงนอนไหมครับ?"
คำถามจากร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆทำให้คนกำลังเคลิ้มละสายตาจากท้องฟ้า ก่อนจะหันกลับไปพยักหน้าบอกความจริงเบาๆ บุญญากรปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งบรรยากาศและอ้อมแขนอบอุ่นนั้นทำให้เขาอยากนอนหลับมากจนตาแทบจะปิดอยู่แล้ว
มันเหมือนกับตอนเด็ก...
ตอนที่พ่อของเขากล่อมนอน
ตอนที่เราได้ออกไปตั้งแคมป์ดูดาวกัน
อือ...ง่วงนอนจังเลย
.
.
.
.
.
"คุณอยากกลับไปนอนบนกระท่อมหรือเปล่าครับ"
"........."
"คุณอยากนอนตรงนี้เหรอครับ?"
"อือ บุ้งอยากดูดาว"
เสียงแหบหวานตอบกลับมาด้วยคำพูดเป็นกันเอง...และคนที่ผิดสังเกตก็ตื่นเต้นไปกับคำพูดนั้นเป็นอย่างมาก
ชาวินหน้าแดงเพราะประโยคสั้นๆเพียงคำเดียว
เขาคิดว่าตัวเองกำลังเขิน...เขินคำว่า 'บุ้ง'
"แต่ผมกลัวคุณเป็นหวัดนะ ไปนอนข้างบนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาดู-"
"ไม่เอา~ บุ้งอยากดูดาวครับป้าบัว..."
งอแงซะแล้ว ตาปิดแล้วแต่ก็ยังดื้อ คุณหนูคนนี้มัน!
แต่เดี๋ยวนะ...ป้าบัว?
เหมือนกำลังละเมอเลย
.
.
.
นอนหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย...
"บุ้งจะดูดาว! ทำไมถึงขัดใจบุ้ง~!"
ละเมอจริงด้วย...
แต่น่ารักชะมัดเลย ให้ตายเถอะไอ้ชาวิน!
ทนไม่ไหวแล้ว...
"โอเคครับคุณหนู...ผมไม่ขัดใจแล้ว"
"อื้อออ"
"แต่ขอหอมแก้มหนึ่งทีนะ แค่หนึ่งที..."
(หอม)
.
.
.
.
.
.
"อีกทีดีกว่า...ได้หรือเปล่าครับคุณหนูบุ้ง"
"อื้อ~"
อนุญาตเองนะ...
งั้นผมไม่เกรงใจแล้ว...
#คุณชาวิน
Talk :
โอ้ยยย น้อง~~~
น้องบุ้งต้องตื่นลูก ตื่น~~!!
แก้มหนูจะถูกกินแล๊ว ตื่น~
\\\ -.,- /// ฮื้ออออออออออ
น้องบู้ววววงงง
#คุณชาวิน
ลุงนี่ มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ
อีตาพี่มันร้ายมาก!!! เอ็นดูน้องบุ้ง