ลำดับตอนที่ #24
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : ตอนพิเศษ : เรื่องของลูฟ [จบ]
###############################################################
ตอนพิเศษ : เรื่องของลูฟ [ภาคจบ]
ตูม!!!!!
“ลอเรน!!!”ลูฟตะโกนอย่างตกใจ
......ลอเรนขาดสติไปแล้ว...พลังของเขาระเบิดออกมาจนน่ากลัว...แบบนี้ได้มีคนตายจริงๆแน่!!!......
“แบบนี้...ไม่ไหวแน่!!!”ลูฟร้อง
ไม่แปลกที่ไม่มีใครสังเกตถึงตัวตนของลูฟ เพราะเจ้าตัวกดพลังลงจนถึงขีดสุด หรือก็คืออยู่ในสภาพของตุ๊กตาตัวเล็กจิ๋วขนาดเท่าอมยิ้มแท่งหนึ่งเท่านั้น แถมพลังของลอเรนยังรุนแรงเกินไปจนกลบพลังของลูฟเสียมิด ขนาดที่ว่าเทอร์มิส ไทรอน เฮฟเตตัส หรือแม้แต่ครีอุสยังไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของเขา
......แผนการของเจ้าเกรเซียสจะใจกล้าบ้าบิ่นเกินไปแล้วนะ!......
“นี่มันแผนการกล้าได้กล้าเสียชัดๆ เจ้าจอมมารเอ๊ย”ลูฟสบถอย่างหงุดหงิด เขาต้องรีบทำให้พลังของลอเรนเสถียรให้เร็วที่สุดก่อนที่วิญญาณของลอเรนจะรับความมืดมิดพวกนี้ไม่ไหวแล้วสลายไปจริงๆก่อนที่จะกลายเป็นประมุขแห่งความตายโดยสมบูรณ์
ในอดีต มีดวงวิญญาณจำนวนมากที่ทนรับพลังแห่งความมืดมิดไม่ไหวแล้วแตกสลายไประหว่างการกลายเป็นประมุขแห่งความตาย เพราะการเป็นประมุขแห่งความตายได้ก็ต้องมีวิญญาณรองรับที่แข็งแกร่งและมีการช่วยเหลือจากประมุขแห่งความตายด้วยกันเองเท่านั้นถึงจะทำได้ และตอนนี้ลูฟก็ไม่เหลือทางเลือกแล้วนอกจากต้องเปลี่ยนลอเรนให้เป็นประมุขแห่งความตาย
“ขอโทษที่ไม่ได้รอฟังคำตัดสินใจแล้วกัน ลอเรน!”ลูฟแยกเขี้ยว แอบเตะหูครีอุสอย่างหมั่นไส้ [แต่แรงก็น้อยจนน่าอนาถ เพราะขนาดคนโดนเตะยังไม่รู้สึกตัวเลย]
ฟู่...
ร่างของลอเรนค่อยๆเปลี่ยนไป สีเริ่มซีดจางลงสลับกับค่อยๆกลายเป็นสีดำทมิฬ ดวงตาสีน้ำเงินกลายเป็นสีแดงสด ปีกงอกออกจากกลางหลังของเขา ในที่สุดลอเรนก็กลายเป็นประมุขแห่งความตายโดนสมบูรณ์จนได้
“เหนื่อย...ไม่เอาแย้ว”ลูฟลอยไปเกาะปลายผมสีทองของครีอุสเพราะเหนื่อยจนทรงตัวให้ลอยอยู่นิ่งๆไม่ไหว
“ลอเรน!!!”
“แย๊ก!!!!!”
แปะ!
แทนที่จะอยู่นิ่งๆ อยู่ๆครีอุสก็พุ่งถลาเข้าไปปกป้องพระราชาจนลูฟที่เกาะผมอยู่กระเด็นไปชนกำแพงเสียตัวเกือบแบน
“อ...อ...อ...อ๋อย”ลูฟโซซัดโซเซเล็กน้อย ก่อนจะ...
แผละ!
“ม่ายอาวแย้ว~”ปิศาจตัวน้อยครางทั้งๆที่หมดสติไปแล้ว
“ลูซิเฟอร์...หน้าเจ้าไปทำอะไรมา”ลอเรนถาม
“ถามเจ้าจอมมารหัวทองนั่นเซ่ แง่ง!!!!!”ลูฟฟัดตุ๊กตายัดนุ่นเสียโทรมด้วยกรงเล็บกับฟันคมๆของเจ้าตัว ที่ดูเหมือนจะเป็นอาวุธเพียงสองอย่างที่ร่างเล็กจิ๋วนี่มีอยู่ในตอนนี้
ลอเรนเกือบหลุดเสียงหัวเราะออกมาทีเดียวหลังจากที่อีกฝ่ายลอยมาหาแบบหมดแรงสุดๆหลงจากเรื่องทั้งหมดจบลง เพราะเจ้าตัวจิ๋วมีอาการแค้นฝังกระดูกมากับใบหน้าที่แดงเป็นปื้น แถมด้วยหน้าผากที่โนจนตาแทบปิด เขี้ยวยาวๆนั้นก็เฉาะเข้าที่ริมฝีปากตัวเองจนเลือดซิบ แถมเขี้ยวข้างหนึ่งยังหักอีกต่างหาก ส่วนเสื้อผ้านั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะมันเกรียมจนแทบมองเค้าเดิมไม่ออกแล้ว
“เรื่องมันจบไปตั้งสองวันแล้ว ทำไมเจ้าเพิ่งมาล่ะลูซิเฟอร์”
“หุบปากน่า!!!”ลูฟโวยวาย
จะให้บอกได้ยังไงกันล่ะว่าเพราะสลบยังไม่ฟื้น ก็เลยต้องนอนตากแดดอยู่ตรงนั้นตั้งสองวันเต็มๆจนตัวเกรียม เสื้อผ้าไหม้อย่างที่เห็น แถมเพราะไม่ได้รักษาทันที ตอนนี้หัวก็เลยโนจนน่าหัวเราะ อับอายขายขี้หน้าประมุขแห่งความตายหมด! โดนเหวี่ยงฟาดกำแพงสลบเนี่ยนะ! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เรื่องอะไรใครจะกล้าพูด!!!
“ว่าแต่...เรื่องที่ข้ากลายเป็นประมุขแห่งความตาย...”
“อะไรอีกล่ะ ไม่พอใจรึไง”ลูฟถาม
“เปล่า แต่ข้าคิดว่าตอนนั้นข้าได้ยินเสียงของเจ้า...ที่ร่ายมนต์บางอย่างกับตัวข้า ใช่มั๊ย?”
“เออ ใช่สิ ก็ข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หัดสำนึกกันบ้างล่ะ ดีแค่ไหนที่ข้าอยู่ ไม่งั้นวิญญาณเจ้าได้แตกสลายก่อนกลายเป็นประมุขแห่งความตายจริงๆแน่ ใครใช้ให้เลือดร้อนโกรธไปตามคำยุของเจ้าจอมมารหัวทองกันล่ะ”
“จอมมารหัวทอง เจ้าหมายถึงเกรเซียสน่ะเหรอ?”
“ยังจะมีใครเหมาะกับชื่อนี้อีกล่ะ! แง่งๆๆๆๆๆๆ”ลูฟหันไปฟัดกับตุ๊กตายัดนุ่นต่ออย่างแค้นเคือง
“งั้นตอนนี้...ข้าก็เป็นผู้สืบทอดของเจ้าไปแล้วน่ะสิ”
“ก็แหงสิ”ลูฟตอบ
“งั้นข้าต้องกลายเป็นตุ๊กตายัดนุ่นแบบเจ้ารึเปล่า”
พรืด~
ลูฟตกใจจนลื่นนุ่นที่หลุดออกมาจากตุ๊กตาล้มหัวฟาดพื้นอีกรอบ
“จ๊าก~~~~~~~~~~~~~~~~~”
“เบาๆสิ เดี๋ยวใครได้ยินเข้า”ลอเรนรีบพูดอย่างตกใจ
“เจ็บอ่า~ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“...ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ ข้าก็แค่ถามตามความจริง...”ลอเรนถอนหายใจ
“เจ้าจะบ้าเหรอ ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่ใช่ตุ๊กตายัดนุ่น!!!”ลูฟโวยวายทั้งน้ำตา
“แต่ข้าเจอเจ้าทีไรก็เห็นเป็นตุ๊กตาตัวเล็กๆ...”
“ข้าก็มีร่างจริงของข้าน่า!”ลูฟตอบปัดๆ “ข้าแค่คืนร่างไม่ได้ก็แค่นั้นเอง”
“คืนร่างไม่ได้? ทำไม???”
“เพราะข้าไม่ชอบน่ะสิ ร่างนั้นมันเตะตาประชาชีเกินไป”ลูฟแบะปาก
“ทำไมล่ะ ข้าคิดว่าข้าควรจะได้รู้นะ”ลอเรนถามอีก
“เจ้านี่มันจริงๆเลย มานี่เลยมา”ลูฟแบะปาก ก่อนที่เจ้าตุ๊กตาจิ๋วจะดีดนิ้วเบาๆครั้งหนึ่ง
ฟุ่บ!!!
“ที่...ที่นี่ที่ไหนน่ะ”ลอเรนเบิกตากว้าง
“โอ๊ะ หายากนะที่เจ้าพาแขกมา ลูฟ”ชายชุดขาวยิ้มบางๆ
“ลูฟ?”ลอเรนงงอีก
“ชื่อของเขายังไงล่ะ มันเป็นชื่อเล่นที่พวกเราตั้งให้น่ะ”ชายผมตั้งตะโกนตอบ
“พวกคุณทุกคน...มีผมสีทอง...แล้วก็...”
“พวกเขาคืออดีตเทพอัศวินครีอุสน่ะสิ ถามได้”ลูฟตอบสบายๆ
“ว่าแต่เจ้าจะไม่กลับร่างจริงหน่อยเหรอลูฟ ท่าทางบาดเจ็บมาพอตัวนะ”ชายชุดขาวกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น
“เงียบน่าครีอุส!”
“...ครี...อุส...”
“นั่นคือชื่อของข้าเอง เพราะข้าคือเทพอัศวินครีอุสรุ่นแรกไงล่ะ”ชายชุดขาวยิ้มกว้าง
วิ้ง!!!
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุย ลูฟก็กลับร่างจริงเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี ผมสีม่วงเหลือบดำยาวเลยไหล่ไปแล้วตามระยะเวลา ดวงตาสีแดงคู่สวยกวาดมองรอบๆห้องอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ชุดแบบจีนเน้นให้ร่างยิ่งดูผอมเพรียวเข้าไปอีก
“เจ้าเป็นผู้หญิงเหรอ!?!”ลอเรนถาม และก็ได้รับเล็บคมๆที่เกือบจะเฉือนคอขาดในครั้งเดียวเป็นการตอบแทน
“รู้มั๊ยที่ข้าเป็นประมุขแห่งความตายที่น่ากลัวที่สุดได้เพราะอะไร”ลูฟถามยิ้มๆระหว่างที่ลอเรนกำลังตกใจ
“เพราะข้าเป็นคนเกือบจะฆ่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่ 11 และ 12 ด้วยมือข้าเองเพราะพวกเขาพูดแบบนี้ไงล่ะ”ลูฟแสยะยิ้มยิ่งกว่าเก่า
“นั่นเป็นปมด้อยข้อเดียวของเขาน่ะสิ”ครีอุสแอบกระซิบที่ข้างหูลอเรน
“ข้าไม่เข้าใจ”
“ที่เขาเลือกเจ้าเป็นประมุขแห่งความตายรุ่นที่สิบสี่อาจจะเพราะแบบนี้ก็ได้”ครีอุสยิ้มบางๆ “เขาค่อนข้างแค้นที่มีข่าวลือว่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่สิบสามเป็นสตรีน่ะสิ ก็ดูยังไงมันก็ให้ซะขนาดนั้น นั่นแหละเขาถึงชอบอยู่ในร่างตุ๊กตาตัวเล็กๆนั่นมากกว่า”
“ข่าวลือ???”
“ในโลกปิศาจข่าวลือนี้หนาหูจนขนาดพวกข้าที่เป็นวิญญาณยังรู้เลย”ครีอุสเกือบหลุดหัวเราะเมื่อได้รับสายตาพิฆาตจากคนถูกนินทาระยะเผาขน
“คุยกันสนุกเลยนะ”ลูฟกัดฟันกรอดๆ
“เจ้าเดเมียสซื้อลูกอมล็อตใหม่มาด้วย แต่ดูเหมือนเจ้านั่นจะจงใจซ่อนไม่ให้เจ้าเห็นนะ”ครีอุสยิ้มบางๆ
“อะไรนะ อยู่ไหนๆๆๆๆๆๆๆ”ลูฟลืมเรื่องที่กำลังจะพูดไปทันที
“หลังบาร์ไม้ ใต้ขวดไวน์สีชมพู”
“เจ๋ง ข้าชอบเจ้าตรงนี้แหละ”ลูฟแสยะยิ้มก่อนจะวิ่งฉิวไป
“เขาดู...ไม่เหมาะกับการเป็นประมุขแห่งความตายจริงๆ”ลอเรนถอนหายใจ
“พูดถึงตัวเจ้าเองก็พอกันนั่นแหละลอเรน”ครีอุสลูบหัวของอีกฝ่ายเบาๆ
“หลังจากนี้ข้าอาจต้องฝากฝังเจ้าดูแลลูฟด้วย เจ้านี่น่ะถึงจะเก่งแต่มันก็หลอกง่ายอย่างที่เห็น ขนาดพวกข้าเป็นเทพอัศวินครีอุสยังตัดใจทำอะไรประมุขแห่งความตายบ้าๆแบบนี้ไม่ลงเลย”
“ครับ”
“อ้อ...แล้วก็...ฝากดูแลเกรเซียสด้วยนะ เจ้านี่จะไปก่อเรื่องที่ไหนอีกพวกข้าก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆแต่ละเรื่องไม่เคยธรรมดาเลยซักครั้ง”
“ข้ายืนยันครับ”ลอเรนตอบ
“ลอเรน~ กินด้วยกันมั๊ย~~~”ลูฟวิ่งเข้ามาหาพร้อมขนมเต็มอ้อมแขน
“นี่เจ้าไปเอามาหมดเลยเราะ! ข้าตุนเอาไว้สำหรับอาทมิตย์นี้นะ!!!”เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่แปดหรือเดเมียส เจ้าของขนมพวกนั้นโวยวาย
“ไม่รู้ไม่สน อยากเก็บไว้ไม่แบ่งข้าเองทำไม!”ลูฟแลบลิ้นใส่ ก่อนจะวิ่งไปแบ่งขนมกับคนอื่นๆ
“ท่านครีอุส! ท่านไม่น่าบอกที่ซ่อนเลย โธ่!!!”
“เอาน่าเดเมียส นานๆเจ้าลูฟจะมาที ถือว่าเลี้ยงเขาซักมื้อแล้วกัน”
“เออๆ ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่เจ้าหนูสามสิบแปดไปแกล้งมันแล้วกัน”เดเมียสบ่นอุบอิบ
“เจ้าหนูสามสิบแปด?”
“เกรเซียสไง”ครีอุสตอบ
“เขารังแกลูซิเฟอร์เหรอครับ”
“เจ้าอย่ารู้เลย คิกๆๆๆๆ”เดเมียสกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น
“น่าสงสาร หัวเขายังแดงเป็นปื้นอยู่เลยนะ”ครีอุสถอนหายใจ
“มันสมน้ำหน้ามากกว่า กร๊ากๆๆๆๆๆๆ”
“อึ๊ก!!!”
ตึง!
“ลูฟ! / ลูซิเฟอร์!!!”ครีอุสและลอเรนร้องอย่างตกใจ
“ก๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ กินช็อกโกแลตผสมเหล้ารัมอย่างแรงเข้าไปสะใจมั๊ยล่ะเจ้าหนูลูฟ กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สิบเจ็ดหัวเราะลั่น
“ข้ารู้ซึ้งแล้ว...ว่าเทพอัศวินครีอุสแท้จริงแล้วเป็นคนแบบไหนกันแน่”ลอเรนถอนหายใจ
“เจ้าพาเขากลับด้วยเลยแล้วกัน ข้าไม่แบกเจ้าลูฟไปแน่ๆ”เดเมียสแยกเขี้ยว
“เจ้านั่นแหละต้องไปส่งลอเรนกับลูฟ ลอเรนยังใช้เวทย์ข้ามมิติไม่ได้เดเมียส”ครีอุสขู่อีกฝ่ายทางสายตา แค่นั้นก็ทำเดเมียสถึงกับหงอ
“คร้าบๆ”
“งั้นข้าขอตัวเลยแล้วกันครับ หายไปนานแล้วเดี๋ยวพิงกี้จะเป็นห่วง”ลอเรนบอก
“เดี๋ยวลอเรน”
“ครับ ท่านครีอุส?”
“เจ้าน่ะ...ซักวันระวังจะโดนสายลมฉุดเอาไม่รู้ตัวนะ”ครีอุสเอ่ย
“หา!?!”
“ช่างเถอะ ไปได้แล้ว”
“ข้าไม่เข้า...”
“ท่านครีอุสบอกช่างก็คือช่างสิ ไปได้แล้วเจ้าหน้าหวาน”เดเมียสลากลอเรนไปทันที โดยไม่ลืมลากลูฟไปอีกคนพลางบ่มพึมพำ
“อะไรกั๊น อยู่กับพวกเรามาตั้งนานยังกินเหล้าไม่เป็นอีก สงสัยต้องจับกรอกบ่อยๆซะล่ะมั๊ง”
###############################################################
ตอนพิเศษ : เรื่องของลูฟ [ภาคจบ]
ตูม!!!!!
“ลอเรน!!!”ลูฟตะโกนอย่างตกใจ
......ลอเรนขาดสติไปแล้ว...พลังของเขาระเบิดออกมาจนน่ากลัว...แบบนี้ได้มีคนตายจริงๆแน่!!!......
“แบบนี้...ไม่ไหวแน่!!!”ลูฟร้อง
ไม่แปลกที่ไม่มีใครสังเกตถึงตัวตนของลูฟ เพราะเจ้าตัวกดพลังลงจนถึงขีดสุด หรือก็คืออยู่ในสภาพของตุ๊กตาตัวเล็กจิ๋วขนาดเท่าอมยิ้มแท่งหนึ่งเท่านั้น แถมพลังของลอเรนยังรุนแรงเกินไปจนกลบพลังของลูฟเสียมิด ขนาดที่ว่าเทอร์มิส ไทรอน เฮฟเตตัส หรือแม้แต่ครีอุสยังไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของเขา
......แผนการของเจ้าเกรเซียสจะใจกล้าบ้าบิ่นเกินไปแล้วนะ!......
“นี่มันแผนการกล้าได้กล้าเสียชัดๆ เจ้าจอมมารเอ๊ย”ลูฟสบถอย่างหงุดหงิด เขาต้องรีบทำให้พลังของลอเรนเสถียรให้เร็วที่สุดก่อนที่วิญญาณของลอเรนจะรับความมืดมิดพวกนี้ไม่ไหวแล้วสลายไปจริงๆก่อนที่จะกลายเป็นประมุขแห่งความตายโดยสมบูรณ์
ในอดีต มีดวงวิญญาณจำนวนมากที่ทนรับพลังแห่งความมืดมิดไม่ไหวแล้วแตกสลายไประหว่างการกลายเป็นประมุขแห่งความตาย เพราะการเป็นประมุขแห่งความตายได้ก็ต้องมีวิญญาณรองรับที่แข็งแกร่งและมีการช่วยเหลือจากประมุขแห่งความตายด้วยกันเองเท่านั้นถึงจะทำได้ และตอนนี้ลูฟก็ไม่เหลือทางเลือกแล้วนอกจากต้องเปลี่ยนลอเรนให้เป็นประมุขแห่งความตาย
“ขอโทษที่ไม่ได้รอฟังคำตัดสินใจแล้วกัน ลอเรน!”ลูฟแยกเขี้ยว แอบเตะหูครีอุสอย่างหมั่นไส้ [แต่แรงก็น้อยจนน่าอนาถ เพราะขนาดคนโดนเตะยังไม่รู้สึกตัวเลย]
ฟู่...
ร่างของลอเรนค่อยๆเปลี่ยนไป สีเริ่มซีดจางลงสลับกับค่อยๆกลายเป็นสีดำทมิฬ ดวงตาสีน้ำเงินกลายเป็นสีแดงสด ปีกงอกออกจากกลางหลังของเขา ในที่สุดลอเรนก็กลายเป็นประมุขแห่งความตายโดนสมบูรณ์จนได้
“เหนื่อย...ไม่เอาแย้ว”ลูฟลอยไปเกาะปลายผมสีทองของครีอุสเพราะเหนื่อยจนทรงตัวให้ลอยอยู่นิ่งๆไม่ไหว
“ลอเรน!!!”
“แย๊ก!!!!!”
แปะ!
แทนที่จะอยู่นิ่งๆ อยู่ๆครีอุสก็พุ่งถลาเข้าไปปกป้องพระราชาจนลูฟที่เกาะผมอยู่กระเด็นไปชนกำแพงเสียตัวเกือบแบน
“อ...อ...อ...อ๋อย”ลูฟโซซัดโซเซเล็กน้อย ก่อนจะ...
แผละ!
“ม่ายอาวแย้ว~”ปิศาจตัวน้อยครางทั้งๆที่หมดสติไปแล้ว
“ลูซิเฟอร์...หน้าเจ้าไปทำอะไรมา”ลอเรนถาม
“ถามเจ้าจอมมารหัวทองนั่นเซ่ แง่ง!!!!!”ลูฟฟัดตุ๊กตายัดนุ่นเสียโทรมด้วยกรงเล็บกับฟันคมๆของเจ้าตัว ที่ดูเหมือนจะเป็นอาวุธเพียงสองอย่างที่ร่างเล็กจิ๋วนี่มีอยู่ในตอนนี้
ลอเรนเกือบหลุดเสียงหัวเราะออกมาทีเดียวหลังจากที่อีกฝ่ายลอยมาหาแบบหมดแรงสุดๆหลงจากเรื่องทั้งหมดจบลง เพราะเจ้าตัวจิ๋วมีอาการแค้นฝังกระดูกมากับใบหน้าที่แดงเป็นปื้น แถมด้วยหน้าผากที่โนจนตาแทบปิด เขี้ยวยาวๆนั้นก็เฉาะเข้าที่ริมฝีปากตัวเองจนเลือดซิบ แถมเขี้ยวข้างหนึ่งยังหักอีกต่างหาก ส่วนเสื้อผ้านั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะมันเกรียมจนแทบมองเค้าเดิมไม่ออกแล้ว
“เรื่องมันจบไปตั้งสองวันแล้ว ทำไมเจ้าเพิ่งมาล่ะลูซิเฟอร์”
“หุบปากน่า!!!”ลูฟโวยวาย
จะให้บอกได้ยังไงกันล่ะว่าเพราะสลบยังไม่ฟื้น ก็เลยต้องนอนตากแดดอยู่ตรงนั้นตั้งสองวันเต็มๆจนตัวเกรียม เสื้อผ้าไหม้อย่างที่เห็น แถมเพราะไม่ได้รักษาทันที ตอนนี้หัวก็เลยโนจนน่าหัวเราะ อับอายขายขี้หน้าประมุขแห่งความตายหมด! โดนเหวี่ยงฟาดกำแพงสลบเนี่ยนะ! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เรื่องอะไรใครจะกล้าพูด!!!
“ว่าแต่...เรื่องที่ข้ากลายเป็นประมุขแห่งความตาย...”
“อะไรอีกล่ะ ไม่พอใจรึไง”ลูฟถาม
“เปล่า แต่ข้าคิดว่าตอนนั้นข้าได้ยินเสียงของเจ้า...ที่ร่ายมนต์บางอย่างกับตัวข้า ใช่มั๊ย?”
“เออ ใช่สิ ก็ข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หัดสำนึกกันบ้างล่ะ ดีแค่ไหนที่ข้าอยู่ ไม่งั้นวิญญาณเจ้าได้แตกสลายก่อนกลายเป็นประมุขแห่งความตายจริงๆแน่ ใครใช้ให้เลือดร้อนโกรธไปตามคำยุของเจ้าจอมมารหัวทองกันล่ะ”
“จอมมารหัวทอง เจ้าหมายถึงเกรเซียสน่ะเหรอ?”
“ยังจะมีใครเหมาะกับชื่อนี้อีกล่ะ! แง่งๆๆๆๆๆๆ”ลูฟหันไปฟัดกับตุ๊กตายัดนุ่นต่ออย่างแค้นเคือง
“งั้นตอนนี้...ข้าก็เป็นผู้สืบทอดของเจ้าไปแล้วน่ะสิ”
“ก็แหงสิ”ลูฟตอบ
“งั้นข้าต้องกลายเป็นตุ๊กตายัดนุ่นแบบเจ้ารึเปล่า”
พรืด~
ลูฟตกใจจนลื่นนุ่นที่หลุดออกมาจากตุ๊กตาล้มหัวฟาดพื้นอีกรอบ
“จ๊าก~~~~~~~~~~~~~~~~~”
“เบาๆสิ เดี๋ยวใครได้ยินเข้า”ลอเรนรีบพูดอย่างตกใจ
“เจ็บอ่า~ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“...ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ ข้าก็แค่ถามตามความจริง...”ลอเรนถอนหายใจ
“เจ้าจะบ้าเหรอ ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่ใช่ตุ๊กตายัดนุ่น!!!”ลูฟโวยวายทั้งน้ำตา
“แต่ข้าเจอเจ้าทีไรก็เห็นเป็นตุ๊กตาตัวเล็กๆ...”
“ข้าก็มีร่างจริงของข้าน่า!”ลูฟตอบปัดๆ “ข้าแค่คืนร่างไม่ได้ก็แค่นั้นเอง”
“คืนร่างไม่ได้? ทำไม???”
“เพราะข้าไม่ชอบน่ะสิ ร่างนั้นมันเตะตาประชาชีเกินไป”ลูฟแบะปาก
“ทำไมล่ะ ข้าคิดว่าข้าควรจะได้รู้นะ”ลอเรนถามอีก
“เจ้านี่มันจริงๆเลย มานี่เลยมา”ลูฟแบะปาก ก่อนที่เจ้าตุ๊กตาจิ๋วจะดีดนิ้วเบาๆครั้งหนึ่ง
ฟุ่บ!!!
“ที่...ที่นี่ที่ไหนน่ะ”ลอเรนเบิกตากว้าง
“โอ๊ะ หายากนะที่เจ้าพาแขกมา ลูฟ”ชายชุดขาวยิ้มบางๆ
“ลูฟ?”ลอเรนงงอีก
“ชื่อของเขายังไงล่ะ มันเป็นชื่อเล่นที่พวกเราตั้งให้น่ะ”ชายผมตั้งตะโกนตอบ
“พวกคุณทุกคน...มีผมสีทอง...แล้วก็...”
“พวกเขาคืออดีตเทพอัศวินครีอุสน่ะสิ ถามได้”ลูฟตอบสบายๆ
“ว่าแต่เจ้าจะไม่กลับร่างจริงหน่อยเหรอลูฟ ท่าทางบาดเจ็บมาพอตัวนะ”ชายชุดขาวกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น
“เงียบน่าครีอุส!”
“...ครี...อุส...”
“นั่นคือชื่อของข้าเอง เพราะข้าคือเทพอัศวินครีอุสรุ่นแรกไงล่ะ”ชายชุดขาวยิ้มกว้าง
วิ้ง!!!
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุย ลูฟก็กลับร่างจริงเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี ผมสีม่วงเหลือบดำยาวเลยไหล่ไปแล้วตามระยะเวลา ดวงตาสีแดงคู่สวยกวาดมองรอบๆห้องอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ชุดแบบจีนเน้นให้ร่างยิ่งดูผอมเพรียวเข้าไปอีก
“เจ้าเป็นผู้หญิงเหรอ!?!”ลอเรนถาม และก็ได้รับเล็บคมๆที่เกือบจะเฉือนคอขาดในครั้งเดียวเป็นการตอบแทน
“รู้มั๊ยที่ข้าเป็นประมุขแห่งความตายที่น่ากลัวที่สุดได้เพราะอะไร”ลูฟถามยิ้มๆระหว่างที่ลอเรนกำลังตกใจ
“เพราะข้าเป็นคนเกือบจะฆ่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่ 11 และ 12 ด้วยมือข้าเองเพราะพวกเขาพูดแบบนี้ไงล่ะ”ลูฟแสยะยิ้มยิ่งกว่าเก่า
“นั่นเป็นปมด้อยข้อเดียวของเขาน่ะสิ”ครีอุสแอบกระซิบที่ข้างหูลอเรน
“ข้าไม่เข้าใจ”
“ที่เขาเลือกเจ้าเป็นประมุขแห่งความตายรุ่นที่สิบสี่อาจจะเพราะแบบนี้ก็ได้”ครีอุสยิ้มบางๆ “เขาค่อนข้างแค้นที่มีข่าวลือว่าประมุขแห่งความตายรุ่นที่สิบสามเป็นสตรีน่ะสิ ก็ดูยังไงมันก็ให้ซะขนาดนั้น นั่นแหละเขาถึงชอบอยู่ในร่างตุ๊กตาตัวเล็กๆนั่นมากกว่า”
“ข่าวลือ???”
“ในโลกปิศาจข่าวลือนี้หนาหูจนขนาดพวกข้าที่เป็นวิญญาณยังรู้เลย”ครีอุสเกือบหลุดหัวเราะเมื่อได้รับสายตาพิฆาตจากคนถูกนินทาระยะเผาขน
“คุยกันสนุกเลยนะ”ลูฟกัดฟันกรอดๆ
“เจ้าเดเมียสซื้อลูกอมล็อตใหม่มาด้วย แต่ดูเหมือนเจ้านั่นจะจงใจซ่อนไม่ให้เจ้าเห็นนะ”ครีอุสยิ้มบางๆ
“อะไรนะ อยู่ไหนๆๆๆๆๆๆๆ”ลูฟลืมเรื่องที่กำลังจะพูดไปทันที
“หลังบาร์ไม้ ใต้ขวดไวน์สีชมพู”
“เจ๋ง ข้าชอบเจ้าตรงนี้แหละ”ลูฟแสยะยิ้มก่อนจะวิ่งฉิวไป
“เขาดู...ไม่เหมาะกับการเป็นประมุขแห่งความตายจริงๆ”ลอเรนถอนหายใจ
“พูดถึงตัวเจ้าเองก็พอกันนั่นแหละลอเรน”ครีอุสลูบหัวของอีกฝ่ายเบาๆ
“หลังจากนี้ข้าอาจต้องฝากฝังเจ้าดูแลลูฟด้วย เจ้านี่น่ะถึงจะเก่งแต่มันก็หลอกง่ายอย่างที่เห็น ขนาดพวกข้าเป็นเทพอัศวินครีอุสยังตัดใจทำอะไรประมุขแห่งความตายบ้าๆแบบนี้ไม่ลงเลย”
“ครับ”
“อ้อ...แล้วก็...ฝากดูแลเกรเซียสด้วยนะ เจ้านี่จะไปก่อเรื่องที่ไหนอีกพวกข้าก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆแต่ละเรื่องไม่เคยธรรมดาเลยซักครั้ง”
“ข้ายืนยันครับ”ลอเรนตอบ
“ลอเรน~ กินด้วยกันมั๊ย~~~”ลูฟวิ่งเข้ามาหาพร้อมขนมเต็มอ้อมแขน
“นี่เจ้าไปเอามาหมดเลยเราะ! ข้าตุนเอาไว้สำหรับอาทมิตย์นี้นะ!!!”เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่แปดหรือเดเมียส เจ้าของขนมพวกนั้นโวยวาย
“ไม่รู้ไม่สน อยากเก็บไว้ไม่แบ่งข้าเองทำไม!”ลูฟแลบลิ้นใส่ ก่อนจะวิ่งไปแบ่งขนมกับคนอื่นๆ
“ท่านครีอุส! ท่านไม่น่าบอกที่ซ่อนเลย โธ่!!!”
“เอาน่าเดเมียส นานๆเจ้าลูฟจะมาที ถือว่าเลี้ยงเขาซักมื้อแล้วกัน”
“เออๆ ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่เจ้าหนูสามสิบแปดไปแกล้งมันแล้วกัน”เดเมียสบ่นอุบอิบ
“เจ้าหนูสามสิบแปด?”
“เกรเซียสไง”ครีอุสตอบ
“เขารังแกลูซิเฟอร์เหรอครับ”
“เจ้าอย่ารู้เลย คิกๆๆๆๆ”เดเมียสกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น
“น่าสงสาร หัวเขายังแดงเป็นปื้นอยู่เลยนะ”ครีอุสถอนหายใจ
“มันสมน้ำหน้ามากกว่า กร๊ากๆๆๆๆๆๆ”
“อึ๊ก!!!”
ตึง!
“ลูฟ! / ลูซิเฟอร์!!!”ครีอุสและลอเรนร้องอย่างตกใจ
“ก๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ กินช็อกโกแลตผสมเหล้ารัมอย่างแรงเข้าไปสะใจมั๊ยล่ะเจ้าหนูลูฟ กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สิบเจ็ดหัวเราะลั่น
“ข้ารู้ซึ้งแล้ว...ว่าเทพอัศวินครีอุสแท้จริงแล้วเป็นคนแบบไหนกันแน่”ลอเรนถอนหายใจ
“เจ้าพาเขากลับด้วยเลยแล้วกัน ข้าไม่แบกเจ้าลูฟไปแน่ๆ”เดเมียสแยกเขี้ยว
“เจ้านั่นแหละต้องไปส่งลอเรนกับลูฟ ลอเรนยังใช้เวทย์ข้ามมิติไม่ได้เดเมียส”ครีอุสขู่อีกฝ่ายทางสายตา แค่นั้นก็ทำเดเมียสถึงกับหงอ
“คร้าบๆ”
“งั้นข้าขอตัวเลยแล้วกันครับ หายไปนานแล้วเดี๋ยวพิงกี้จะเป็นห่วง”ลอเรนบอก
“เดี๋ยวลอเรน”
“ครับ ท่านครีอุส?”
“เจ้าน่ะ...ซักวันระวังจะโดนสายลมฉุดเอาไม่รู้ตัวนะ”ครีอุสเอ่ย
“หา!?!”
“ช่างเถอะ ไปได้แล้ว”
“ข้าไม่เข้า...”
“ท่านครีอุสบอกช่างก็คือช่างสิ ไปได้แล้วเจ้าหน้าหวาน”เดเมียสลากลอเรนไปทันที โดยไม่ลืมลากลูฟไปอีกคนพลางบ่มพึมพำ
“อะไรกั๊น อยู่กับพวกเรามาตั้งนานยังกินเหล้าไม่เป็นอีก สงสัยต้องจับกรอกบ่อยๆซะล่ะมั๊ง”
###############################################################
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น