ลำดับตอนที่ #29
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : บุกศาสนจักร!!! [5]
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ฮัดชิ้ว”
“เป็นอะไรไปเดเมียส?”
“ข้ารู้สึกเหมือนถูกคนพูดถึง”ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ
“เหอะๆ อย่างเจ้าเนี่ยนะ”ชายคนที่มุมห้องหัวเราะ ก่อนจะกระดกเหล้าต่อ
“หุบปากไปไซนาส”เดเมียสแยกเขี้ยว “เชิญกินเหล้าของโปรดของเจ้าต่อไปเถอะ”
“คร้าบๆ รุ่นพี่”ชายหนุ่มนาม “ไซนาส” ยกขวดเหล้าดื่มต่อแบบไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น
“เดเมียส ไซนาส พวกเจ้าก็พอกันเลย เลิกทะเลาะเป็นเด็กๆซะทีเถอะ รบกวนข้า”
“ขออภัย ท่านครีอุส”เดเมียสถอนหายใจเล็กๆ
“ไซนาส ในฐานะที่เจ้าเป็นรุ่นที่สิบ เจ้าต้องหัดเคารพเดเมียสซะบ้าง เขาแก่กว่าเจ้าตั้งสองรุ่นนะ แถมยังเป็นอาจารย์ของข้าอีกต่อหนึ่งด้วย พูดง่ายๆเขาคืออาจารย์ของอาจารย์ เจ้าไม่ควร...”
“คร้าบ~ ท่านอาจารย์เอมไพร์~ แล้วก็ช่วยเลิกพูดเถอะคร้าบ~~~”ไซนาสลากเสียงยาว
“เจ้านี่มันน่านัก”เอมไพร์ ครีอุสรุ่นที่เก้าเอ็ด
“ว่าแต่...ท่านกำลังทำอะไรอยู่รึขอรับ”เดเมียสถาม
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”ชายในชุดสีขาวสะอาดยักคิ้ว
“ก็ท่านบอกว่าพวกเรารบกวน หมายความว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่น่ะสิครับ”เดเมียสตอบ
“ก็...นะ”ชายร่างสูงยักไหล่
“กำลังทำอะไรอยู่รึครับ ท่านครีอุส”ไซนาสถามบ้าง
“ข้าก็แค่...กำลังทำอะไรสนุกๆอยู่น่ะสิ”ไม่พูดเปล่า ครีอุสโบกมือเบาๆ เสกภาพให้สะท้อนขึ้นมาในอากาศ
“โอ้ จะว่าไปก็ไม่ได้ไปดูเจ้าหนูสามสิบแปดนานแล้วนะเนี่ย”ไซนาสร้อง
“ท่าทางยังสบายดีนะ”เดเมียสว่า “ทั้งๆที่น่าจะโดนเทอร์มิสฆ่าไปตั้งนานแล้วแท้ๆ น่าเสียดายๆ”
“เจ้านี่ชอบพูดเป็นลางนักเชียวเดเมียส”ครีอุสอดหัวเราะไม่ได้
“ข้าชักเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กซะแล้วสิ มันยิ่งพูดจาไม่เคยคิดอยู่ด้วย แถมหัวสมองยังกลวงอีก ไม่รู้จะโดนแกล้งไปรึยัง”เดเมียสลอบยิ้ม
“คอยดูเถอะ บอกห่วงมากๆข้าจะไปจับเจ้าตัวเล็กกรอกเหล้าโทษฐานทำข้าหึง”ไซนาสพึมพำ
“หุบปากน่า!!!!!”คราวนี้ไม่แค่พูด เดเมียสตบหัวไซนาสไปอย่างแรง แต่ใบหน้ามีรอยแดงเล็กๆ
“โอ๊ย! เจ้าดำรงตำแหน่งครีอุสรุ่นที่แปดนะ! ไม่ได้เอาความสง่างามมาบ้างเลยรึไง!!!”
“พูดเหมือนเจ้าเอามา! เทพอัศวินครีอุสน่ะสามจอกเมามายนะ! นี่เล่นกรอกเป็นสิบๆขวดยังเฉยเนี่ยเขาเรียกอะไร ห๊ะ!!!”
“อะแฮ่ม ช่วยคิดหน่อยนะว่าที่เจ้าพูดถึงน่ะมันข้านะ”ครีอุสตัวจริงกระแอม
“ชริ!”ทั้งสองคนสะบัดหน้าใส่กันราวกับเด็กๆ
“สงสารเจ้าจริงๆเอมไพร์ ดันกลายเป็นครีอุสรุ่นที่เก้าที่มาอยู่ตรงกลางระหว่างคู่รักคู่กัดแห่งปีแบบนี้”ครีอุสยิ้มแห้ง
“หลักการคือทำใจให้ชินแล้วถือซะว่าเป็นเรื่องของเด็กไม่รู้จักโตสิครับ”เอมไพร์ถอนหายใจ
“เจ้าศิษย์ปากเสีย! / ท่านอาจารย์ตัวแสบ!”เดเมียสและไซนาสประสานเสียง
“หุบปากกันให้หมดนั่นแหละไม่งั้นข้าจะจับกักบริเวณมันซะทั้งคู่เลย! ท่านอาจารย์เดเมียส! เจ้าศิษย์บ้าไซนาส!!!”
“น่ากลัวนะ ไม่ได้นอนกับเดเมียสทั้งคืนน่ะ”ครีอุสเสริมเมื่อเห็นทั้งสองหน้าซีด
“ไม่เอา! ยังไงก็ไม่เอาเด็ดขาด!!!”ไซนาสโวยวาย
“งั้นก็เลิกพล่ามแล้วกรอกเหล้าต่อไปเงียบๆ! ส่วนท่านอาจารย์ก็ช่วยเลิกหาเรื่องไอ้ไซนาสมันก่อนเถอะครับ!!!”เอมไพร์ชักของขึ้น
“จ้า”เดเมียสหดคอวูบ
“คงเงียบไปอีกซักพักนะขอรับ ท่านครีอุส”
“ขอบใจเอมไพร์ ทางนี้กำลังตื่นเต้นพอดี”ครีอุสหัวเราะคิกคัก
“เจ้าตัวเล็กโดนแกล้งท่านยังว่าตื่นเต้นอีกเหรอครับ”เอมไพร์มองภาพที่สะท้อนออกมาแล้วถอนหายใจ
“แหม ดีออกนะ เขาจะได้เจอคนที่รักเขาจริงๆซักที เหมือนลอเรนทายาทของเจ้าไง”
“พูดถึงเรื่องสมัยไหนกันครับนั่น”เอมไพร์นับนิ้ว “ถ้าให้นับจริงๆ เขาเป็นหลานของหลานของหลานไปอีกซักสี่ห้าครั้งเชียวนะขอรับ”
“แต่ก็ยังเป็นสายเลือดของเจ้าอยู่ดี ถึงจะจางมากแค่ไหนก็เถอะ”ครีอุสยิ้ม
“เพราะเป็นทายาทสิขอรับข้าถึงขัดขวางไม่ให้เขาได้เป็นเทพอัศวินครีอุส ไม่งั้นทายาทของข้าได้พลอยแปดเปื้อนไปด้วยฝีมือการฝึกของนีโอเป็นแน่”เอมไพร์ทำท่าขนลุก “ความสามารถในการสอนน่ากลัวขนาดทำเด็กดีอย่างเจ้าหนูสามสิบแปดเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น ถ้าคนที่กลายเป็นครีอุสที่สามสิบแปดเป็นทายาทข้าจริงๆข้าจะไปถล่มพระสังฆราชถึงห้องนอนเลยคอยดู”
“ฮึๆ แต่การที่เขาได้เป็นประมุขแห่งความตายแล้วมาเจอคนรักนี่ก็เป็นการของเจ้าอีกอยู่ดีแหละ ไม่งั้นเจ้าจะลากลูฟมาที่นี่แต่แรกทำไม”ครีอุสหัวเราะเลยคราวนี้
“เทพอัศวินครีอุสทุกรุ่นย่อมต้องมีความชั่วร้ายในแบบของตัวเอง ท่านเองก็เช่นกันมิใช่รึขอรับ”เอมไพร์ย้อนกลับอย่างเจ็บแสบ “เป็นทั้งเทพอัศวินครีอุส เป็นทั้งเทพอัศวินฮาเดส ทำเอาเด็กรุ่นหลังเดือดร้อนกันไปหมด”
“เดเมียสมีความสามารถทางการขโมยชั้นเซียนชนิดจอมโจรยังยอมแพ้ เจ้าก็เจ้าแผนการจนน่ากลัว ไซนาสยังอึดซะจนฟันหัวใจยังไม่ยักกะตาย ฟังดูแล้วตำแหน่งของข้านี่มันตำแหน่งรวมคนนอกคอกหรือไม่ก็ตัวประหลาดทั้งนั้นเลยนะ”
“ท่านเพิ่งรู้รึไงครับ!!!”คราวนี้เทพอัศวินครีอุสทุกรุ่นทุกคนประสานเสียงกันออกมาแทบจะทันที
“ทำไมเจ้าถึงได้รู้ว่าถ้าลอเรนมาที่นี่เขาจะเจอลำแสงแห่งเทพจนบาดเจ็บสาหัสได้กัน”ตอนนี้ครีอุสปล่อยให้ลอเรนดูแลเนเฟล ส่วนตัวเขาก็ลากเจ้าตุ๊กตายัดนุ่นมาเค้นคอ
“ก็บอกแต่แรกแล้วไงว่าลางสังหรณ์ ปล่อยข้าน้า~~~~~”ลูฟดิ้นพล่าน เพราะโดนครีอุสดึงผมสีม่วงเกือบดำนั้นแน่นจนหนีไปไหนไม่รอด
“ลางสังหรณ์บ้าอะไร ประมุขแห่งความตายที่ไหนพึ่งลางกันห๊ะ!”
“ก็ข้านี่แหละคนแรก มีปัญหามั๊ยเล่า!!!”ลูฟดิ้นๆๆๆๆๆไม่ยอมหยุด
งั่ม!
“โอ๊ย!”
“สมน้ำหน้า!!! แบร่!!!!!”ลูฟกระโดดหนีไปไกลลิบ หลังจากงับนิ้วครีอุสอย่างแรงจนหลุดมาได้เสียที แต่ท่าทางดวงของลูฟจะยังไม่แข็งพอ เพราะ...
ปั่บ!
“นี่...มันตัวอะไรกันน่ะครีอุส”
เฮือก!!!
“โผล่มาแล้ว!!!!!”ลูฟสะดุ้งสุดตัว
“เทอร์มิส? ทุกคน???”
“เจ้านี่เนี่ยนะ!?!”
“อือ ข้าเองยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย”สุดท้ายครีอุสก็เลยต้องแยกเทอร์มิสออกมาจากทุกคน แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เพราะไม่อยากให้เรื่องที่ลอเรนเป็นประมุขแห่งความตายรั่วไหลออกไป ถึงพวกเขาน่าจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ
“เฮ้ เจ้าน่ะ”
โหยง!
ลูฟสะดุ้งทันทีที่เทอร์มิสเรียก
“จ...จ๋า”ลูฟตัวสั่นนิดๆ ซึ่งไม่ต้องถามเลยว่าเจ้าตัวโดนครีอุสลงโทษที่โดนงับยังไง เพราะตอนนี้ลูฟโดนจับมัดเป็นบ๊ะจ่างแขวนอยู่กับราวเหล็กริมผนังไปแล้ว
“เจ้าน่ะ ชื่ออะไรนะ?”
“ล...ลูซิเฟอร์จ๊ะ”ลูฟตอบเบาๆ
“อะไรนะ?”
“ลูซิเฟอร์!”ลูฟตอบ
“ชื่อก็เหมือนกัน...แต่มันจะใช่คนเดียวกันจริงๆรึ”เทอร์มิสขมวดคิ้ว
“ข้าว่าลอเรนท่าจะโดนหลอก เจ้านี่น่ะดูยังไงก็ไม่น่าใช่ประมุขแห่งความตายเลยซักนิด”ครีอุสว่า “แต่มันมีดีแค่ว่ามันสามารถพรางจิตสัมผัสได้เท่านั้น นอกนั้นข้าจับอะไรจากตัวมันไม่ได้เลย”
“ข้าเองก็ไม่รู้สึกถึงพลังแห่งความมืดในตัวเจ้านี่เลยซักนิด”เทอร์มิสส่ายหน้า
“งั้นก็ปล่อยข้าไปซักทีเซ่!!!”ลูฟโวยวาย
“งั้น...เจ้าคืนร่างจริงมาก่อนซิ”
เฮือก!!!
ครั้งนี้ลูฟสะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว
“ร่างจริง?”ครีอุสทำหน้างง
“ถ้าพรางตัวได้เนียนขนาดนี้ มันน่าจะมี...พวกเครื่องรางรึอะไรบางอย่างช่วยสะกด อย่างลอเรนก็ใช้ไม่ใช่รึไง”เทอร์มิสว่า
“จริงด้วยสิ”ครีอุสพยักหน้า
“งั้นก็แค่เอามันออกซะ จะได้รู้ๆกันไปเลยว่าจริงๆมันเป็นตัวอะไรกันแน่ ก็แค่นั้น”เทอร์มิสยักไหล่
“อ...อย่าเชียวนะ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”ลูฟหน้าซีด
“ถ้างั้น...มันคืออะไรล่ะไอ้เครื่องรางที่ว่านั่น”ครีอุสหรี่ตา สำรวจร่างของเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยที่หน้าซีดตัวสั่น อยากจะหนีแต่ทำไม่ได้
“อ๊ะ เจอแล้ว”ครีอุสร้อง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าสร้อยคอไข่มุกดำที่คล้องคออยู่
“แว๊ก!!! อย่าน้า!!!!!”
ฟู่!!!!!
“ไอปิศาจ!!!”พวกเคเรสที่กำลังนั่งรอครีอุสกับเทอร์มิสคุยกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง เพราะการที่อยู่ๆไอปิศาจขนาดมหาศาลแบบนี้โผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนั่นเอง
“หนัก...ท่าทางจะเป็นระดับประมุขแห่งความตายซะด้วยสิ”เฮฟเตตัสว่า
“อะไรนะ”พวกโคลด์บลัดด์ [ที่ไม่ถนัดด้านปราบปิศาจ] ต่างพากันขมวดคิ้ว
“มันแปลกเกินไปนะ อยู่ๆมันจะโผล่มาได้ยังไง”เทมเพสแอบแหล่ไปมองลอเรน แต่เจ้าตัวก็ยังทำหน้าเอ๋อ แถมไอคราวนี้ก็ไม่ได้ออกมาจากร่างบางเสียด้วย
“แล้วมันมา...”
ฟุ่บ
ยังไม่ทันที่ใครๆจะหายสงสัยหรือคิดไล่ตาม ไอนั้นก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยปรากฎมาก่อน
“อ้าว!?!”
“หายไปแล้ว???”เคเรสร้อง
“เหอะ...เหอะๆ”
“ครีอุส เทอร์มิส”อาเทมิสทัก “ทำไมหัวเราะแบบนั้น”
“เจ้าอย่ารู้เลย”เทอร์มิสทำหน้าเหนื่อยใจอย่างรุนแรงจนหลายๆคนสงสัย แต่ไม่มีใครกล้าออกปากถาม
“ฮาเดส...ข้ายอมแพ้แล้ว”ครีอุสฟุบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างหมดแรง ก่อนจะโยนเจ้า “ตุ๊กตา” ใส่ลอเรน
“เอ๋?”
“ดูแลมันดีๆอย่าให้ “หลุด” ออกมาได้เชียว”ครีอุสทำท่าปาดคอตัวเอง
“ตุ๊กตา...อะไรน่ะ?”เคเรสทำตาเป็นประกาย
“ไม่ใช่ตุ๊กตาฟางที่เจ้าชอบแน่ๆเคเรส อย่ามองแบบนั้นเชียว”เทมเพสเตือน
“น่ารักดีนะ”อาร์เมลว่า
“......”
......ข้าเตือนแล้ว...ไม่เชื่อ......ลูฟแยกเขี้ยวใส่เทอร์มิสกับครีอุส ถึงแม้ตอนนี้เจ้าตัวจะพูดไม่ได้เพราะต้องปลอมเป็น “ตุ๊กตายัดนุ่น” ก็ตาม
......ดีที่ไม่หลุดพูดออกมาว่าข้าเหมือนพวกผู้หญิง...ไม่งั้นจะจับงับหัวให้......
......ครีอุสก็ครีอุสเถอะ...ข้าไม่สนแล้ว!!!......
แต่คิดไปคิดมา ประมุขแห่งความตายตัวน้อยก็เริ่มหน้าซีด
......ไม่ได้สิ...เทอร์มิสก็อยู่ด้วยนี่นา......
......ไม่ได้ๆๆ...ข้ายังไม่อยากตายน้า~~~......
......ใครจะไปอยากหาเรื่องกับคนที่ขนาดจอมมารผมทองยังแพ้ทางกัน!!!......
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ฮัดชิ้ว”
“เป็นอะไรไปเดเมียส?”
“ข้ารู้สึกเหมือนถูกคนพูดถึง”ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ
“เหอะๆ อย่างเจ้าเนี่ยนะ”ชายคนที่มุมห้องหัวเราะ ก่อนจะกระดกเหล้าต่อ
“หุบปากไปไซนาส”เดเมียสแยกเขี้ยว “เชิญกินเหล้าของโปรดของเจ้าต่อไปเถอะ”
“คร้าบๆ รุ่นพี่”ชายหนุ่มนาม “ไซนาส” ยกขวดเหล้าดื่มต่อแบบไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น
“เดเมียส ไซนาส พวกเจ้าก็พอกันเลย เลิกทะเลาะเป็นเด็กๆซะทีเถอะ รบกวนข้า”
“ขออภัย ท่านครีอุส”เดเมียสถอนหายใจเล็กๆ
“ไซนาส ในฐานะที่เจ้าเป็นรุ่นที่สิบ เจ้าต้องหัดเคารพเดเมียสซะบ้าง เขาแก่กว่าเจ้าตั้งสองรุ่นนะ แถมยังเป็นอาจารย์ของข้าอีกต่อหนึ่งด้วย พูดง่ายๆเขาคืออาจารย์ของอาจารย์ เจ้าไม่ควร...”
“คร้าบ~ ท่านอาจารย์เอมไพร์~ แล้วก็ช่วยเลิกพูดเถอะคร้าบ~~~”ไซนาสลากเสียงยาว
“เจ้านี่มันน่านัก”เอมไพร์ ครีอุสรุ่นที่เก้าเอ็ด
“ว่าแต่...ท่านกำลังทำอะไรอยู่รึขอรับ”เดเมียสถาม
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”ชายในชุดสีขาวสะอาดยักคิ้ว
“ก็ท่านบอกว่าพวกเรารบกวน หมายความว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่น่ะสิครับ”เดเมียสตอบ
“ก็...นะ”ชายร่างสูงยักไหล่
“กำลังทำอะไรอยู่รึครับ ท่านครีอุส”ไซนาสถามบ้าง
“ข้าก็แค่...กำลังทำอะไรสนุกๆอยู่น่ะสิ”ไม่พูดเปล่า ครีอุสโบกมือเบาๆ เสกภาพให้สะท้อนขึ้นมาในอากาศ
“โอ้ จะว่าไปก็ไม่ได้ไปดูเจ้าหนูสามสิบแปดนานแล้วนะเนี่ย”ไซนาสร้อง
“ท่าทางยังสบายดีนะ”เดเมียสว่า “ทั้งๆที่น่าจะโดนเทอร์มิสฆ่าไปตั้งนานแล้วแท้ๆ น่าเสียดายๆ”
“เจ้านี่ชอบพูดเป็นลางนักเชียวเดเมียส”ครีอุสอดหัวเราะไม่ได้
“ข้าชักเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กซะแล้วสิ มันยิ่งพูดจาไม่เคยคิดอยู่ด้วย แถมหัวสมองยังกลวงอีก ไม่รู้จะโดนแกล้งไปรึยัง”เดเมียสลอบยิ้ม
“คอยดูเถอะ บอกห่วงมากๆข้าจะไปจับเจ้าตัวเล็กกรอกเหล้าโทษฐานทำข้าหึง”ไซนาสพึมพำ
“หุบปากน่า!!!!!”คราวนี้ไม่แค่พูด เดเมียสตบหัวไซนาสไปอย่างแรง แต่ใบหน้ามีรอยแดงเล็กๆ
“โอ๊ย! เจ้าดำรงตำแหน่งครีอุสรุ่นที่แปดนะ! ไม่ได้เอาความสง่างามมาบ้างเลยรึไง!!!”
“พูดเหมือนเจ้าเอามา! เทพอัศวินครีอุสน่ะสามจอกเมามายนะ! นี่เล่นกรอกเป็นสิบๆขวดยังเฉยเนี่ยเขาเรียกอะไร ห๊ะ!!!”
“อะแฮ่ม ช่วยคิดหน่อยนะว่าที่เจ้าพูดถึงน่ะมันข้านะ”ครีอุสตัวจริงกระแอม
“ชริ!”ทั้งสองคนสะบัดหน้าใส่กันราวกับเด็กๆ
“สงสารเจ้าจริงๆเอมไพร์ ดันกลายเป็นครีอุสรุ่นที่เก้าที่มาอยู่ตรงกลางระหว่างคู่รักคู่กัดแห่งปีแบบนี้”ครีอุสยิ้มแห้ง
“หลักการคือทำใจให้ชินแล้วถือซะว่าเป็นเรื่องของเด็กไม่รู้จักโตสิครับ”เอมไพร์ถอนหายใจ
“เจ้าศิษย์ปากเสีย! / ท่านอาจารย์ตัวแสบ!”เดเมียสและไซนาสประสานเสียง
“หุบปากกันให้หมดนั่นแหละไม่งั้นข้าจะจับกักบริเวณมันซะทั้งคู่เลย! ท่านอาจารย์เดเมียส! เจ้าศิษย์บ้าไซนาส!!!”
“น่ากลัวนะ ไม่ได้นอนกับเดเมียสทั้งคืนน่ะ”ครีอุสเสริมเมื่อเห็นทั้งสองหน้าซีด
“ไม่เอา! ยังไงก็ไม่เอาเด็ดขาด!!!”ไซนาสโวยวาย
“งั้นก็เลิกพล่ามแล้วกรอกเหล้าต่อไปเงียบๆ! ส่วนท่านอาจารย์ก็ช่วยเลิกหาเรื่องไอ้ไซนาสมันก่อนเถอะครับ!!!”เอมไพร์ชักของขึ้น
“จ้า”เดเมียสหดคอวูบ
“คงเงียบไปอีกซักพักนะขอรับ ท่านครีอุส”
“ขอบใจเอมไพร์ ทางนี้กำลังตื่นเต้นพอดี”ครีอุสหัวเราะคิกคัก
“เจ้าตัวเล็กโดนแกล้งท่านยังว่าตื่นเต้นอีกเหรอครับ”เอมไพร์มองภาพที่สะท้อนออกมาแล้วถอนหายใจ
“แหม ดีออกนะ เขาจะได้เจอคนที่รักเขาจริงๆซักที เหมือนลอเรนทายาทของเจ้าไง”
“พูดถึงเรื่องสมัยไหนกันครับนั่น”เอมไพร์นับนิ้ว “ถ้าให้นับจริงๆ เขาเป็นหลานของหลานของหลานไปอีกซักสี่ห้าครั้งเชียวนะขอรับ”
“แต่ก็ยังเป็นสายเลือดของเจ้าอยู่ดี ถึงจะจางมากแค่ไหนก็เถอะ”ครีอุสยิ้ม
“เพราะเป็นทายาทสิขอรับข้าถึงขัดขวางไม่ให้เขาได้เป็นเทพอัศวินครีอุส ไม่งั้นทายาทของข้าได้พลอยแปดเปื้อนไปด้วยฝีมือการฝึกของนีโอเป็นแน่”เอมไพร์ทำท่าขนลุก “ความสามารถในการสอนน่ากลัวขนาดทำเด็กดีอย่างเจ้าหนูสามสิบแปดเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น ถ้าคนที่กลายเป็นครีอุสที่สามสิบแปดเป็นทายาทข้าจริงๆข้าจะไปถล่มพระสังฆราชถึงห้องนอนเลยคอยดู”
“ฮึๆ แต่การที่เขาได้เป็นประมุขแห่งความตายแล้วมาเจอคนรักนี่ก็เป็นการของเจ้าอีกอยู่ดีแหละ ไม่งั้นเจ้าจะลากลูฟมาที่นี่แต่แรกทำไม”ครีอุสหัวเราะเลยคราวนี้
“เทพอัศวินครีอุสทุกรุ่นย่อมต้องมีความชั่วร้ายในแบบของตัวเอง ท่านเองก็เช่นกันมิใช่รึขอรับ”เอมไพร์ย้อนกลับอย่างเจ็บแสบ “เป็นทั้งเทพอัศวินครีอุส เป็นทั้งเทพอัศวินฮาเดส ทำเอาเด็กรุ่นหลังเดือดร้อนกันไปหมด”
“เดเมียสมีความสามารถทางการขโมยชั้นเซียนชนิดจอมโจรยังยอมแพ้ เจ้าก็เจ้าแผนการจนน่ากลัว ไซนาสยังอึดซะจนฟันหัวใจยังไม่ยักกะตาย ฟังดูแล้วตำแหน่งของข้านี่มันตำแหน่งรวมคนนอกคอกหรือไม่ก็ตัวประหลาดทั้งนั้นเลยนะ”
“ท่านเพิ่งรู้รึไงครับ!!!”คราวนี้เทพอัศวินครีอุสทุกรุ่นทุกคนประสานเสียงกันออกมาแทบจะทันที
“ทำไมเจ้าถึงได้รู้ว่าถ้าลอเรนมาที่นี่เขาจะเจอลำแสงแห่งเทพจนบาดเจ็บสาหัสได้กัน”ตอนนี้ครีอุสปล่อยให้ลอเรนดูแลเนเฟล ส่วนตัวเขาก็ลากเจ้าตุ๊กตายัดนุ่นมาเค้นคอ
“ก็บอกแต่แรกแล้วไงว่าลางสังหรณ์ ปล่อยข้าน้า~~~~~”ลูฟดิ้นพล่าน เพราะโดนครีอุสดึงผมสีม่วงเกือบดำนั้นแน่นจนหนีไปไหนไม่รอด
“ลางสังหรณ์บ้าอะไร ประมุขแห่งความตายที่ไหนพึ่งลางกันห๊ะ!”
“ก็ข้านี่แหละคนแรก มีปัญหามั๊ยเล่า!!!”ลูฟดิ้นๆๆๆๆๆไม่ยอมหยุด
งั่ม!
“โอ๊ย!”
“สมน้ำหน้า!!! แบร่!!!!!”ลูฟกระโดดหนีไปไกลลิบ หลังจากงับนิ้วครีอุสอย่างแรงจนหลุดมาได้เสียที แต่ท่าทางดวงของลูฟจะยังไม่แข็งพอ เพราะ...
ปั่บ!
“นี่...มันตัวอะไรกันน่ะครีอุส”
เฮือก!!!
“โผล่มาแล้ว!!!!!”ลูฟสะดุ้งสุดตัว
“เทอร์มิส? ทุกคน???”
“เจ้านี่เนี่ยนะ!?!”
“อือ ข้าเองยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย”สุดท้ายครีอุสก็เลยต้องแยกเทอร์มิสออกมาจากทุกคน แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เพราะไม่อยากให้เรื่องที่ลอเรนเป็นประมุขแห่งความตายรั่วไหลออกไป ถึงพวกเขาน่าจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ
“เฮ้ เจ้าน่ะ”
โหยง!
ลูฟสะดุ้งทันทีที่เทอร์มิสเรียก
“จ...จ๋า”ลูฟตัวสั่นนิดๆ ซึ่งไม่ต้องถามเลยว่าเจ้าตัวโดนครีอุสลงโทษที่โดนงับยังไง เพราะตอนนี้ลูฟโดนจับมัดเป็นบ๊ะจ่างแขวนอยู่กับราวเหล็กริมผนังไปแล้ว
“เจ้าน่ะ ชื่ออะไรนะ?”
“ล...ลูซิเฟอร์จ๊ะ”ลูฟตอบเบาๆ
“อะไรนะ?”
“ลูซิเฟอร์!”ลูฟตอบ
“ชื่อก็เหมือนกัน...แต่มันจะใช่คนเดียวกันจริงๆรึ”เทอร์มิสขมวดคิ้ว
“ข้าว่าลอเรนท่าจะโดนหลอก เจ้านี่น่ะดูยังไงก็ไม่น่าใช่ประมุขแห่งความตายเลยซักนิด”ครีอุสว่า “แต่มันมีดีแค่ว่ามันสามารถพรางจิตสัมผัสได้เท่านั้น นอกนั้นข้าจับอะไรจากตัวมันไม่ได้เลย”
“ข้าเองก็ไม่รู้สึกถึงพลังแห่งความมืดในตัวเจ้านี่เลยซักนิด”เทอร์มิสส่ายหน้า
“งั้นก็ปล่อยข้าไปซักทีเซ่!!!”ลูฟโวยวาย
“งั้น...เจ้าคืนร่างจริงมาก่อนซิ”
เฮือก!!!
ครั้งนี้ลูฟสะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว
“ร่างจริง?”ครีอุสทำหน้างง
“ถ้าพรางตัวได้เนียนขนาดนี้ มันน่าจะมี...พวกเครื่องรางรึอะไรบางอย่างช่วยสะกด อย่างลอเรนก็ใช้ไม่ใช่รึไง”เทอร์มิสว่า
“จริงด้วยสิ”ครีอุสพยักหน้า
“งั้นก็แค่เอามันออกซะ จะได้รู้ๆกันไปเลยว่าจริงๆมันเป็นตัวอะไรกันแน่ ก็แค่นั้น”เทอร์มิสยักไหล่
“อ...อย่าเชียวนะ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”ลูฟหน้าซีด
“ถ้างั้น...มันคืออะไรล่ะไอ้เครื่องรางที่ว่านั่น”ครีอุสหรี่ตา สำรวจร่างของเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยที่หน้าซีดตัวสั่น อยากจะหนีแต่ทำไม่ได้
“อ๊ะ เจอแล้ว”ครีอุสร้อง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าสร้อยคอไข่มุกดำที่คล้องคออยู่
“แว๊ก!!! อย่าน้า!!!!!”
ฟู่!!!!!
“ไอปิศาจ!!!”พวกเคเรสที่กำลังนั่งรอครีอุสกับเทอร์มิสคุยกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง เพราะการที่อยู่ๆไอปิศาจขนาดมหาศาลแบบนี้โผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนั่นเอง
“หนัก...ท่าทางจะเป็นระดับประมุขแห่งความตายซะด้วยสิ”เฮฟเตตัสว่า
“อะไรนะ”พวกโคลด์บลัดด์ [ที่ไม่ถนัดด้านปราบปิศาจ] ต่างพากันขมวดคิ้ว
“มันแปลกเกินไปนะ อยู่ๆมันจะโผล่มาได้ยังไง”เทมเพสแอบแหล่ไปมองลอเรน แต่เจ้าตัวก็ยังทำหน้าเอ๋อ แถมไอคราวนี้ก็ไม่ได้ออกมาจากร่างบางเสียด้วย
“แล้วมันมา...”
ฟุ่บ
ยังไม่ทันที่ใครๆจะหายสงสัยหรือคิดไล่ตาม ไอนั้นก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยปรากฎมาก่อน
“อ้าว!?!”
“หายไปแล้ว???”เคเรสร้อง
“เหอะ...เหอะๆ”
“ครีอุส เทอร์มิส”อาเทมิสทัก “ทำไมหัวเราะแบบนั้น”
“เจ้าอย่ารู้เลย”เทอร์มิสทำหน้าเหนื่อยใจอย่างรุนแรงจนหลายๆคนสงสัย แต่ไม่มีใครกล้าออกปากถาม
“ฮาเดส...ข้ายอมแพ้แล้ว”ครีอุสฟุบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างหมดแรง ก่อนจะโยนเจ้า “ตุ๊กตา” ใส่ลอเรน
“เอ๋?”
“ดูแลมันดีๆอย่าให้ “หลุด” ออกมาได้เชียว”ครีอุสทำท่าปาดคอตัวเอง
“ตุ๊กตา...อะไรน่ะ?”เคเรสทำตาเป็นประกาย
“ไม่ใช่ตุ๊กตาฟางที่เจ้าชอบแน่ๆเคเรส อย่ามองแบบนั้นเชียว”เทมเพสเตือน
“น่ารักดีนะ”อาร์เมลว่า
“......”
......ข้าเตือนแล้ว...ไม่เชื่อ......ลูฟแยกเขี้ยวใส่เทอร์มิสกับครีอุส ถึงแม้ตอนนี้เจ้าตัวจะพูดไม่ได้เพราะต้องปลอมเป็น “ตุ๊กตายัดนุ่น” ก็ตาม
......ดีที่ไม่หลุดพูดออกมาว่าข้าเหมือนพวกผู้หญิง...ไม่งั้นจะจับงับหัวให้......
......ครีอุสก็ครีอุสเถอะ...ข้าไม่สนแล้ว!!!......
แต่คิดไปคิดมา ประมุขแห่งความตายตัวน้อยก็เริ่มหน้าซีด
......ไม่ได้สิ...เทอร์มิสก็อยู่ด้วยนี่นา......
......ไม่ได้ๆๆ...ข้ายังไม่อยากตายน้า~~~......
......ใครจะไปอยากหาเรื่องกับคนที่ขนาดจอมมารผมทองยังแพ้ทางกัน!!!......
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น