ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NoHero&LSK : ถ้าเทพอัศวินไปเซ็ตติ้งซัน

    ลำดับตอนที่ #35 : ความเป็นห่วงของลอเรน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 955
      2
      28 ก.ย. 52

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “...อือ...”

    ข้าลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ในหัวรู้สึกวิงเวียนไปหมด ทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้นะ? ข้าจำอะไรไม่ค่อยได้เลยซักนิด แต่...

    คนที่มักจะเห็นจนชินตา...กลับหายไป...

    “ลูฟ!!!”ข้าลุกพรวดจนรู้สึกหน้ามืดจนต้องล้มลงไปนอนต่อ

    “ใจเย็นๆสิลอเรน เจ้ายังอยู่ระหว่างพักรักษาตัวนะ”

    “...เกรเซียส...”ลอเรนคราง ที่เขากล้าเรียกชื่อ เพราะครีอุสเรียกเขาว่า “ลอเรน” หมายความว่าห้องนี้ไม่มีใครอื่นอยู่ พูดเรื่องความลับของพวกเราได้

    “...ลูฟ...ไปไหนแล้ว...”ข้าถามเขาเบาๆ

    “...เจ้าตุ๊กตานั่นกลับไปแล้ว ถูกผู้ชายคนนั้นพากลับไป...”เกรเซียสตอบข้า

    “...กลับ...อย่างนั้นหรือ...”ข้าหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ความทรงจำที่หายไปเริ่มกลับมาอีกครั้ง

    “ตอนนั้น...ข้า...”

    “เจ้าโดนกับดักขังเอาไว้ ดีที่เจ้าตุ๊กตายัดนุ่นนั่นมาช่วย แต่มันก็ต้องระเห็จกลับบ้านเก่าไปเพราะไม่งั้นจะเป็นอันตรายกับเจ้า”เกรเซียสพูดตรงๆ

    “เขาเป็นแบบนี้เสมอ...ไม่ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน”ข้าไม่รู้ว่าใบหน้าข้าตอนนี้เป้นยังไง แต่ข้ารู้สึกอยากจะยิ้มและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน ข้ายิ้มเมื่อนึกถึงนิสัยช่างห่วงของลูฟทั้งๆที่เขาดูน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าข้าเสียอีก และรู้สึกอยากร้องไห้กับความอ่อนแอของตัวข้าเองที่ทำให้ลูฟต้องมาเดือดร้อนเพราะข้า...อีกครั้งแล้ว

    “เจ้านั่นฝากมาบอกว่า... ”ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน” ด้วยแน่ะ”เกรเซียสบอกข้า

    “ข้าสิ...ที่ควรขอโทษเขา”ข้าหลับตาลง

    ทั้งหมดมาจากข้าเองที่อ่อนแอ...ข้าทำให้เกรเซียสเดือดร้อน...และยังทำให้ลูฟเดือดร้อนอีกคน

    “...เกรเซียส...”ข้าเอ่ยเรียกเขาเบาๆ

    “มีอะไรเหรอลอเรน”เกรเซียสถามข้า

    “ข้าน่ะ...ควรจะอยู่ที่นี่จริงๆรึเปล่า”



    “ข้าน่ะ...ควรจะอยู่ที่นี่จริงๆรึเปล่า”เสียงนั้นก้องมาในโสตประสาทของทุกคนที่ [แอบ] ฟังอยู่ในทุกจุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งเฮฟเตตัสที่ลงทุนเจาะกำแพง เทอร์มิสพากลุ่มโคลด์บลัดด์บางคนแอบไปขู่เทียนฉากับเกรนเอาห้องควบคุมกล้องวงจรปิดมาใช้ เคเรสที่แทบจะห้อยหัวลงจากต้นไม้ที่ติดหน้าต่างห้องของฮาเดส ฯลฯ

    “ทำไมถึงพูดแบบนั้นกันล่ะ”เสียงครีอุสย้อนถาม

    “ข้าน่ะ...ทำให้ลูฟเดือดร้อน...ทำให้เจ้าเดือดร้อน...แถมการมาครั้งนี้ของศาสนจักรยังมีเป้าหมายอยู่ที่ข้ามิใช่หรือ...เกรเซียส”

    “ก็ใช่ แล้ว...?”

    “ข้าอยู่ที่นี่ต่อไป...รังแต่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนนะเกรเซียส”เสียงลอเรนดูหวาดหวั่น...และกังวล

    “คิดว่าข้าสนรึไง?”

    “เกรเซียส เจ้าเป็นหัวหน้าเทพอัศวิน เจ้าน่าจะ...”

    “ไม่รู้สิ ข้าถือว่าเจ้าเป็นเทพอัศวินฮาเดส เป็นเทพอัศวินของข้า ถึงจะเป็นตาแก่สังฆราชก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเทพอัศวินของข้าไม่ว่าคนไหนก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่กับพวกศาสนจักรงี่เง่านั่น”

    “เกรเซียส! เจ้าจะมาพูดจาไม่รับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้นะ! เจ้าก็เห็นว่าเรื่องทั้งหมดที่เดือดร้อนนี่เพราะข้า เจ้าไม่ควรจะรั้งข้าไว้ให้คนอื่นต้องเดือดร้อนอีกนะ!!!”

    “ข้าเคยบอกเจ้าไว้ว่ายังไง?”เสียงครีอุสถามอย่างสบายๆ

    “บอก?”จากน้ำเสียงสับสนของฮาเดสกลายเป็นงงงวยขึ้นมาทันที

    “ข้าบอกเจ้าแล้วนี่ ว่าลองให้ข้าร่วมมือกับเทอร์มิส ถึงชี้แอบเปิลเป็นนก มันก็ต้องเป็นนก!”เสียงครีอุสกล่าวอย่างมั่นใจเป็นที่สุด “และเจ้าก็เหมือนกัน ลองข้ากับเทอร์มิสบอกว่าเจ้าเป็นเทพอัศวิน ใครก็ห้ามเถียงเข้าใจมั๊ยล่ะลอเรน”

    “เกรเซียส!!!”เสียงลอเรนดูตกใจมาก

    “ไม่รู้ไม่สน ตำหนักเทพอัศวินไม่มีกฎลาออก มีแต่กฎเกษียณหรือไม่ก็ตายเท่านั้นถึงจะทำให้เจ้าออกจากตำแหน่งได้”ครีอุสฉีกยิ้ม “เจ้าเป็นประมุขแห่งความตาย เจ้าอย่าบอกเชียวว่าเจ้าจะตายได้อีกรอบนอกจากเทพอัศวินจะเป็นคนลงมือใช้ลำแสงแห่งเทพกับเจ้า ซึ่งเจ้าในตอนนี้คือเทพอัศวินฮาเดส จะมีไอ้บ้าตัวไหนมันกล้าเปล่งลำแสงแห่งเทพใส่เจ้ากันล่ะ ส่วนเรื่องเกษียณ เจ้าอายุเท่าข้านะ อย่าคิดว่าจะหนีพ้นเลย รอข้าออกจากตำแหน่งโน่นแน่ะเจ้าถึงจะมีสิทธิ์ขอเกษียณ แต่หน้าเจ้าอ่อนอยู่แล้วพระสังฆราชอาจจะยังรั้งเจ้าไว้ก็ได้เมื่อถึงเวลานั้น”

    “นี่เจ้า! วางแผนไว้แต่แรกเลยอย่างนั้นเหรอ!!!”เสียงลอเรนดูตื่นตระหนก

    “เจ้ารู้จักข้าดีน่าจะไม่ต้องให้ข้าพูดอะไรอีกนะลอเรน อีกอย่าง ข้าบอกแล้วไงว่าข้าคือเทพอัศวินครีอุส แต่ข้าก็คือเกรเซียสเพื่อนของเจ้า คิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าหนีข้าไปไหนรึไงล่ะ”

    “...เกรเซียส...เจ้านี่มัน...”เสียงลอเรนดูเหนื่อยใจเป็นที่สุด [คนที่สามารถเห็นได้เช่นเคเรสหรือโคลด์บลัดด์ที่มองจากกล้องจะเห็นว่าลอเรนเอนตัวฟุบหน้าลงกับหมนอย่างจนปัญญาจะเถียง]

    “ข้ารู้ตัวดีว่าข้ากำลังทำอะไร แต่ข้าบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่าข้าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเดือดร้อนซักนิดที่เจ้าอยู่ด้วย กลับกัน ถ้าเจ้าไปจากที่นี่สิข้าจะเดือดร้อน”

    “ทำไม?”ครั้งนี้ลอเรนเกิดความสงสัยจริงๆ

    “คิดถึงเทมเพส ไอซอท หรือคนอื่นๆดูสิ! ถ้าเจ้าไปใครจะช่วยเทมเพสทำงาน เดี๋ยวเขาก็ได้หงุดหงิดง่ายจนข้าเผลอไปยั่วโมโหเขาครั้งที่สิบเอ็ดแบบไม่รู้ตัวกันพอดีถ้ายอมให้เจ้าออกไป หรือไม่งั้นไอซอทคงใช้สายตาจิกกัดข้าจนแข็งไปทั้งตัวแน่ที่ทำให้เขาขาดคนส่งของ ที่สำคัญนะ ถ้าเจ้าไปแล้วใครจะอยู่คอยทำเรื่องไร้สาระกับข้าล่ะ”

    “...นี่สินะประเด็น...”ลอเรนครางอย่างเหนื่อยอ่อน “...แต่เจ้าก็มีเทอร์มิสอยู่แล้วนี่...”

    “เทอร์มิสไม่เหมือนเจ้าซักหน่อย เขาก็ส่วนเขา เจ้าก็ส่วนเจ้าสิ พวกเจ้าสองคนไม่ใช่คนคนเดียวกันจะมาแทนกันได้ยังไง”ครีอุสทำหน้าตาตกใจไม่น้อย “แลนซ์น่ะถึงจะเป็นเป็นคนที่รับฟังคำขอร้องไร้สาระของข้า แต่ก็เป็นเจ้าหนอนในกระเพาะตัวแสบที่รู้ทันข้าไปซะทุกเรื่องเหมือนกัน แต่เจ้าก็คือลอเรนที่ไม่เคยเถียงข้าได้ซักครั้งและทำตามคำขอร้องของข้าทุกอย่าง มันแทนกันได้ที่ไหน”

    “...แต่ข้า...”

    “ยังไงข้าก็ไม่ให้เจ้าลาออกจากการเป็นเทพอัศวินฮาเดสแน่ ส่วนเรื่องของเจ้าตุ๊กตายัดนุ่นนั่นข้าจัดการให้เองก็ได้ถ้าเจ้าต้องการ”

    “เจ้าทำได้เหรอ!!!”ลอเรนลุกพรวดอย่างดีใจ “เจ้าพาลูฟกลับมาได้จริงๆเหรอ!!!”

    “ข้ารู้จักชายคนที่พาเจ้าตุ๊กตานั่นกลับไปดีลอเรน เผลอๆอาจจะรู้จักดีกว่าเจ้าด้วย”ครีอุสทำหน้าแหยงๆ “แต่เจ้าต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับก่อนนะ ข้าไม่อยากทำให้เทอร์มิสคิดจะชักดาบมาเชือดข้าเข้าถ้าข้าทำอะไรแผลงๆอีก”

    “ข้าก็เห็นเจ้าทำเรื่องแผลงๆทุกทีแหละ”ลอเรนหัวเราะอย่างร่าเริง รอยยิ้มที่ทำให้คนมองถึงกับหายใจกระตุกได้แน่นอนนี่เองทำให้ครีอุสแอบถอนหายใจ

    ......ดีที่เขาไม่ยิ้มแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น...ไม่งั้นเขาคงได้ก่อเรื่องยุ่งยากที่สุดให้ข้าจริงๆแน่......ครีอุสถอนหายใจโล่งอก

    “ว่าแต่...ถ้าเจ้าบอกว่าให้ปิดเป็นความัลย หมายความว่าแม้แต่เทพอัศวินองค์อื่นๆก็ไม่รู้งั้นหรือ?”

    “พวกเขาจะไปรู้ได้ยังไง ชายคนนั้นน่ะ!”ครีอุสทำหน้าตาตื่น

    “เจ้าดูกลัวเขา...มาก”ลอเรนเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ

    “ถ้าเจ้ารู้ว่าเขาเป็นใครเจ้าก็จะมีอาการแบบข้านี่แหละ เผลอๆจะยิ่งกว่าเสียอีก”ครีอุสหน้าซีด “ข้าไม่เคยพบเขาตรงๆหรอก เมื่อวานเป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเขา “ตัวจริง” ไม่ใช่แค่ในรูป”

    “ข้าไม่เข้าใจ”ลอเรนส่ายหัว

    “ข้าเคนเห็นเขาคนนั้น และก็จำได้ขึ้นใจด้วย”ครีอุสหยิบหนังสือเล่มหนาออกมา ซึ่งหน้าปกของมันเขียนว่า “รวมตำนานเทพอัศวินครีอุส”

    “นั่นคือ...”

    “รายชื่อ พร้อมคุณงามความดีทั้งหมดของเทพอัศวินครีอุสสามสิบเจ็ดรุ่นก่อนหน้าข้า”ครีอุสบอก

    “เดี๋ยว นี่เจ้าจะบอกข้าว่า...”

    “ใช่ อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ”ครีอุสเปิดหนังสือเล่มหนาปึกนั้น ก่อนจะแสดงให้ลอเรนดูชัดๆ

    “คนเมื่อวาน...คือชายคนนี้”ครีอุสหน้าซีด

    “เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สิบสอง...ชาเพรย์ ครีอุส”



    “เทพอัศวินครีอุสที่สิบสอง!?!”ข้าร้องอย่างตกใจ จริงอยู่ที่ข้าเคยไปเยี่ยมเยียน “บ้าน” ของเหล่าเทพอัศวินครีอุสรุ่นก่อนทั้งหลาย แต่ข้าเคยไปแค่สองสามครั้ง จึงไม่อาจคุ้นหน้าทุกคนได้

    “ชาเพรย์ มีชื่อเดิมว่า ชาเพรย์ แอลดีริค เป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของราชอาณาจักรในสมัยนั้น...หากเทียบฝีมือแล้วเขาเก่งกว่าเจ้าหรือเทอร์มิสเสียอีก ไม่แน่อาจเก่งกว่าไมเคิล บุตรแห่งเทพสงครามเสียด้วยซ้ำ”ครีอุสเอ่ยด้วยน้ำเสียงยำเกรง “ในตำนานกล่าวไว้ว่า เขาเป็นเทพอัศวินที่เก่งกาจในทุกด้าน ทั้งลำแสงแห่งเทพที่มากมายมหาศาล ฝีมือเชิงดาบไม่เป็นรองใคร และยังไม่นับฝีมือในการใช้อาวุธลับและการยิงธนูกับขี่ม้าของเขาด้วยนะ”

    “เท่าที่ฟัง เขาดู...เก่งมาก”

    “ใช่สิ ในรุ่นนั่นเป็นรุ่นเดียวที่ถูกบันทึกเอาไว้เชียวนะว่าเป็น “เทพอัศวินคนเดียวที่เกือบจะสังหารประมุขแห่งความตาย” ได้น่ะ”

    “อะไรนะ!!!”ข้าสะดุ้ง

    หากชายคนนั้นเกือบจะฆ่าประมุขแห่งความตายได้จริงๆในตอนนั้น แล้วตอนนี้ลูฟที่ตกอยู่ในกำมือของเขาจะไม่...

    “ข้าต้องไปช่วยลูฟ!”

    “ไม่ได้!!!”

    เสียงตวาดของครีอุสหยุดข้าเอาไว้ได้ในทันที

    “เจ้ายังไม่หายดีและต้องการการพักผ่อน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเรื่องของลูฟข้าจะจัดการเองถ้าเจ้าต้องการนำตัวเจ้านั่นกลับมา”

    “เกรเซียส...ข้าไม่อยากทำให้เจ้าเดือด...”

    “ถ้าเจ้าพูดคำนั้นอีกครั้งข้าจะไม่ไปแล้ว”

    ข้าหุบปากฉับทันที

    “ข้าไม่เคยคิดซักครั้งว่าเจ้าทำให้ข้าเดือดร้อนลอเรน เจ้าก็อย่าคิดแบบนั้นเช่นกัน เพื่อนย่อมต้องช่วยเหลือกัน คำนี้เจ้าเป็นคนสอนข้าเองมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงต้องรู้สึกผิดอะไรแบบนั้น”

    “...ข้า...”

    “เรื่องของชาเพรย์ ข้าจะไปเจรจากับเขาเอง”

    “......”

    “ข้าสัญญาจะพาเจ้าตุ๊กตายัดนุ่นตัวแสบนั่นกลับมา แต่ในระหว่างนั้นเจ้าต้องอยู่นิ่งๆเงียบๆ ไม่ดื้อไม่ซน พักผ่อนอย่างสงบอยู่ที่นี่ ตกลงมั๊ย?”

    “ได้สิ เจ้าจะให้ข้าทำอะไรก็ได้ แต่ขอร้องล่ะ...อย่าให้ลูฟไปอยู่กับคนอันตรายแบบนั้น ข้าเป็นห่วงเขา”

    “พวกเจ้านี่ถอดแบบกันมาจริงๆ อย่างกับพี่น้องเลยนะ”

    “จริงเหรอ?”

    “ใช่ เหมือนกันจริงๆ”เกรเซียสยืนยัน

    ปัง!

    “ครีอุส ชั้นติดต่อพี่วินสแตนด์ให้นายแล้ว ประตูข้ามมิติพร้อมใช้ทุกเมื่อ พ่อบ้านโจซัวจะเป็นคนนำทางให้นายเอง”

    “ขอบใจเมโลดี้”

    “เจ้า...เตรียมการไว้ก่อนจะมาคุยกับข้าอีกเหรอ”ลอเรนคราง

    “ข้ารู้น่าว่าเจ้าต้องการอะไร”ครีอุสขยี้ผมสีดำเพราะเครื่องรางของลอเรนอย่างสนุกสนาน

    “ระวังตัวด้วยแล้วกัน”เมโลดี้เอ่ย

    “ขอบคุณนะเมโลดี้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ แต่ขอร้องว่าอย่าบอกเทอร์มิสกับคนอื่นๆ แค่นั้นก็พอ”

    “นายย้ำคำนี้เกือบทุกชั่วโมงเลยนะ ตื้อคนได้สุดยอดจริงๆ”เมโลดี้ถอนหายใจ

    “เวลาข้าตื้อคนอื่นเป็นเวลาที่ข้าต้องใช้ความอดทนที่สุดเลยนะ เจ้าน่าจะดีใจ”ครีอุสหัวเราะชั่วร้ายแบบที่ไม่เคยหัวเราะให้เทพอัศวินเห็นเด็ดขาด

    “นายน่ากลัวเกินไปแล้ว”เมโลดี้มีสีหน้าสยอง

    “ข้าถือว่านั่นเป็นคำชมนะ”ครีอุสสะบัดผ้าคลุมสีน้ำตาลเก่าๆที่ขอมาจากโลชูเป็นพิเศษ ที่ต้องเก่าและเป็นสีน้ำตาลเพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นตัวจนกว่าจะถึงเป้าหมาย

    “เกรเซียส!”

    “มีอะไรหรือลอเรน”ครีอุสถาม

    “...ถ้าเจอลูฟ...และหากเขาไม่ยอมกลับมา...”ลอเรนมีสีหน้าลังเลใจ “เจ้าน่ะ...ใช้วิธีเดียวกับที่ใช้กับพิงกี้จะได้ผลดีที่สุด”

    “หา!?!”แน่นอนครีอุสรู้ว่าความหมายของมันคืออะไร แต่...เขาไม่คิดว่าเจ้าตุ๊กตานั่นจะชอบแบบเดียวกับพิงกี้เป๊ะ

    “ข้าชักเปลี่ยนใจ ไม่อยากพาเจ้านั่นกลับมาซะแล้วสิ”ครีอุสบ่นพึมพำ

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×