ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #129 : หัวใจที่สั่นไหว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.11K
      395
      4 ม.ค. 61




    "พวกเจ้าทั้งสองไปรอข้าอยู่ที่สวนก่อนเถอะข้าขอเตรียมการอะไรสักครู่แล้วจะตามไป" กาเล็ทหันไปเอ่ยบอกกล่าวต่อทั้งซิลเวียและแชลเทีย

    เบลล่าเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยคำออกมา "ซิลเวียเช่นนั้นข้าขอตัวเดินทางกลับวังหลวงเพื่อไปรายงานเรื่องราวต่อท่านพ่อก่อน"

    ซิลเวียได้ฟังคำเอ่ยกล่าวของผู้เป็นพี่สาวก็เอ่ยวาจาเหนี่ยวรั้งผู้เป็นพี่สาวไว้ "ท่านพี่อย่าได้รีบเร่งเช่นนั้น ข้าว่าท่านพี่อยู่รอฟังเรื่องราวจากปากของกาเล็ทกับพวกข้าก่อนดีหรือไม่ เมื่อท่านกลับไปบอกกล่าวเรื่องราวต่อท่านพ่อจะได้ไม่มีสิ่งใดตกหล่นไป อีกทั้งเดินทางกลางดึกเช่นนี้ก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าใดนักเอาไว้เมื่อกาเล็ทบอกกล่าวเรื่องราวจนหมดสิ้นแล้วข้าจะร้องขอให้เขาไปส่งท่านจะปลอดภัยกว่า" ซิลเวียเอ่ย

    เบลล่าได้ฟังคำเอ่ยกล่าวของผู้เป็นน้องสาวก็แสดงทีท่าลังเลใจออกมาคราหนึ่ง

    "องค์หญิง อยู่ฟังเรื่องราวด้วยกันเถอะข้าก็ไม่ได้ถือว่าท่านเป็นคนนอก กาเล็ทเองก็คงคิดเช่นเดียวกัน" แชลเทียเอ่ยสนับสนุน

    เมื่อเห็นว่าสามารถโน้มน้าวผู้เป็นพี่สาวได้สำเร็จทั้งซิลเวียและแชลเทียก็หันไปสบตากันอย่างรู้ใจ

    "ท่านพี่ ท่านคิดว่ากาเล็ทเป็นอย่างไรบ้าง" ซิลเวียเอ่ยถามขึ้นขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งรอกาเล็ทอยู่บนโต๊ะหินภายในสวนส่วนในของตระกูลบุสโซ่

    "เจ้าหมายความว่าเช่นไร" เบลล่าเอ่ยถามผู้เป็นน้องสาวกลับไป นางหาใช่ไม่เข้าใจในความหมายของผู้เป็นน้องสาวแต่จะอย่างไรนางก็เป็นสตรีดังนั้นแล้วจะให้เอ่ยกล่าวถึงบรุษได้อย่างไร

    "ท่านพี่ ข้าก็ย่อมหมายความอย่างที่ถามนั่นล่ะ ท่านคิดว่ากาเล็ทเป็นอย่างไรบ้าง เขาใช่เป็นดั่งที่ท่านพี่เข้าใจในตอนแรกหรือไม่ นี่ก็ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้วนับตั้งแต่ท่านกลับมาจากไอออนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาท่านพี่ก็ได้คลุกคลีและเห็นนิสัยใจคอของเขาแล้ว ข้าจึงอยากรู้ว่าเขาใช่เป็นดังที่ท่านพี่แคลงใจเมื่อแรกพบหรือไม่" ซิลเวียเอ่ยคำถามอย่างชัดเจนโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้เป็นพี่สาวบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามได้อีก

    "บ..บางทีอาจจะไม่" เบลล่าเอ่ยตอบ อันที่จริงแล้วไม่เพียงแต่ตัวนางได้ทราบกระจ่างแล้วว่าเป็นตนเองที่เข้าใจกาเล็ทผิดไป นับตั้งแต่วันที่กาเล็ทช่วยเหลือราชาเบรุทผู้เป็นบิดาให้รอดพ้นจากความตายในวันนั้น นางก็เฝ้าหาโอกาสตลอดมา โอกาสที่จะได้อยู่กับกาเล็ทเพียงลำพังเพื่อเอ่ยกล่าวคำขออภัยที่ตนเองเคยเข้าใจเขาผิดไป ทว่าแม้ในจิตใจจะคิดเช่นนั้นปากของนางที่เอ่ยตอบคำถามผู้เป็นน้องสาวกลับไม่เป็นอย่างใจคิด

    "ท่านพี่ อาจจะอันใดอีก ใช่ก็คือใช่ ไม่ก็คือไม่" ซิลเวียยังคงเอ่ยคาดคั้นลุกไล่ผู้ซึ่งเป็นพี่สาว

    "น..นี่ เจ้าจะมาคาดคั้นอะไรเอากับข้า" เบลล่าทำทีเป็นโกรธเคืองเพื่อแสร้งปิดบังอำพรางความในใจของตนเองไว้

    แต่มีหรือที่สตรีด้วยกันจะมองไม่ออก อย่าว่าแต่ซิลเวียที่เคยอยู่ร่วมกับเบลล่ามาเป็นระยะเวลาหลายปี "ฮิ ฮิ ข้าก็บอกท่านแต่แรกแล้วว่าเขาหาใช่คนเช่นนั้น" ประโยคแรกซิลเวียกล่าวอย่างนึกสนุกออกมากับอาการของผู้เป็นพี่สาวที่แสดงออกให้ได้เห็นแต่แล้วประโยคถัดมานางกลับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ท่านพี่ตามความเห็นของข้าจะอย่างไรท่านพี่ก็ต้องเอ่ยคำขออภัยต่อเขาอย่าว่าแต่เฉพาะเรื่องนี้เลย เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์แพร่พิษวางยาขึ้นก็มิใช่เขาหรอกหรือที่เป็นผู้ช่วยชีวิตของท่านพ่อไว้" ซิลเวียเอ่ย

    เบลล่าได้ฟังเช่นนั้นก็เอ่ยกล่าวออกมา "ข้ารู้น่า"

    เห็นเช่นนั้นซิลเวียก็หันไปสบตากับแชลเทียผู้เป็นเพื่อนสาวของตนเองซึ่งลอบสังเกตุการอยู่ที่ด้านข้าง "ท่านพี่เห็นว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง" ซิลเวียเอ่ยคำถามเดิมซ้ำขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

    เบลล่าเองได้ฟังเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังผู้เป็นน้องสาว "ยังจะถามอีก"

    เห็นเช่นนั้นซิลเวียก็หัวเราะฮิฮะออกมา ดูท่าหัวใจที่แข็งกระด้างดังหินผาของผู้เป็นพี่สาวของตนเองคงถูกกาเล็ทชายคนรักกระเทาะออกมาทีละน้อยแล้ว เรื่องนี้ซิลเวียและแชลเทียย่อมคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วทว่าที่พวกนางคาดคิดไม่ถึงคือมันกลับเกิดขึ้นด้วยเวลารวดเร็วถึงเพียงนี้ จะกล่าวไปแล้วกาเล็ทคนรักของตนเองนั้นเพียบพร้อมทั้งหน้าตา ความสามารถ และที่สำคัญที่สุดนั่นคือจิตใจของเขาที่แตกต่างจากบรุษทั่วไป แนวความคิดของเขาที่ให้เกียรตินุ่มนวลอ่อนโยนต่อสตรีเพศ ด้วยสาเหตุทั้งหมดทั้งมวลนี้รวมเข้าด้วยกันคงยากที่สตรีใดจะต้านทานได้หากว่าได้มีโอกาสอยู่ใกล้คุกคลีกับเขา ดังนั้นตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เบลล่ากลับมายังโรฮาน ทุกครั้งครานางมักจะหาโอกาสชักนำผู้เป็นพี่สาวของตนเองให้มาคลุกคลีอยู่ที่ตระกูลบุสโซ่อยู่บ่อยครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของแชลเทียที่เข้าใจหัวอกของสตรีด้วยกันเป็นอย่างดีทุกอย่างจึงสามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่น

    ด้วยค่านิยมของยุคสมัยที่แตกต่างจากโลกซึ่งกาเล็ทจากมาอย่างสิ้นเชิง ในโลกยูยานแห่งนี้การมีหลายภรรยาหาใช่เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอันใดอย่าว่าแต่กาเล็ทนั้นมากไปด้วยความสามารถ ในอนาคตแม้ไม่ต้องมีผู้ใดเอ่ยบอกกล่าวออกมาทว่าทุกผู้คนที่อยู่รอบกายของกาเล็ทย่อมทราบได้ว่ากาเล็ทจะต้องมีเกียรติประวัติเหนือกว่าผู้ใดที่เคยปรากฎมา เพื่อการนั้นแล้วการมีภรรยาหลายคนอยู่เคียงค้างคอยช่วยเหลือจัดการเรื่องราวแบ่งเบาภาระออกจากเขาย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็น อีกทั้งจะอย่างไรในโลกแห่งนี้สตรีอ่อนแอก็ย่อมต้องหาบุรุษที่แข็งแกร่งเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวพักพิง ซิลเวียย่อมไม่ต้องการที่จะให้ผู้เป็นพี่สาวของตนเองแต่งให้กับผู้ใดซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าจะดีร้ายประการใดหากว่าต้องเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นก็มิสู้ให้เบลล่าผู้เป็นพี่สาวแต่งให้กับกาเล็ทชายคนรักของตนเองอีกคนหนึ่งให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป สิ่งที่กาเล็ทชายคนรักได้กระทำให้กับโรฮาน กระทำให้กับครอบครัวของตนเองนั้นนับว่ามากเกิดพอแล้ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ซิลเวียจึงเริ่มที่จะนำเรื่องนี้เอ่ยกล่าวพูดคุยกับแชลเทีย จะอย่างไรหากว่าแชลเทียไม่เห็นด้วยตนเองก็ไม่อาจฝืนกระทำโดยลำพังแต่ผลที่ออกมากลับกลายเป็นว่าแชลเทียผู้เป็นเพื่อนสาวนั้นเข้าอกเข้าใจตนเองและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เรื่องจึงออกมาในลักษณะนี้

    "พูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่หรือ" กาเล็ทที่นำเหล่าหญิงรับใช้ซึ่งกำลังถือถาดผลไม้และของว่างเดินตามหลังมาเอ่ยถามขึ้น

    "ความลับ" แชลเทียหันไม่เอ่ยกล่าวกับชายคนรักด้วยน้ำเสียงซุกซน

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกคันที่หัวใจขึ้นมาจึงพุ่งเข้าไปหอมแก้มของแชลเทียอย่างรวดเร็ว

    "อ๊ะ" แชลเทียส่งเสียงอุทานออกมา ถึงแม้ว่ากาเล็ทนั้นมักจะฉวยโอกาสกระทำเรื่องเช่นนี้ต่อตนเองอยู่เป็นประจำแต่ในคราครั้งนี้นั้นแตกต่าง ในคราครั้งนี้เขากลับกระทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าของเหล่าหญิงรับใช้และเบลล่าเช่นนี้แล้วจะไม่ให้นางรู้สึกประหม่าเขินอายได้หรือ

    "นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในรางวัลต่อความพยายามของข้า" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้น

    "อ.อึ้ม" เบลล่าส่งเสียงออกมาเพื่อขัดจังหว่ะ จะอย่างไรในความคิดของนางบรุษสตรีที่ยังไม่แต่งงานกันนั้นยังไม่สมควรที่จะใกล้ชิดกันเกินไปนัก

    กาเล็ทที่สังเกตุเห็นเบลล่าก็ไม่ได้รู้สึกนำพาเท่าใดทว่าในจิตใจก็เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดใจอยู่บ้างว่าเหตุใดเจ้าหญิงผู้นี้จึงยังไม่เดินทางกลับไปยังวังหลวงเพื่อเอ่ยกล่าวรายงานเรื่องราวต่อราชาเบรุท

    "กาเล็ทข้าขอให้ท่านพี่อยู่ที่นี่เอง ท่านพี่จะได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปด้วยกันกับพวกข้าเลย เวลาที่ท่านพี่บอกกล่าวแก่ท่านพ่อจะได้ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง" ซิลเวียเอ่ยอธิบายแก่กาเล็ท

    กาเล็ทได้ฟังถึงเหตุผลก็พอจะเข้าใจในจิตเจตนาของซิลเวียได้อยู่หลายส่วน "พวกเจ้าวางถาดผลไม้และของว่างไว้แล้วกลับไปพักผ่อนเถอะ" กาเล็ทหันไปเอ่ยบอกต่อเหล่าหญิงรับใช้ที่บัดนี้สีหน้าดูไม่ปกติอยู่หลายส่วน สาเหตุที่พวกนางรู้สึกทำตัวไม่ถูกก็เพราะว่าได้พบเห็นการกระทำของนายน้อยของตนเองเมื่อครู่นี้เอง

    "ค่ะนายน้อย" เหล่าหญิงรับใช้ขานรับจากนั้นจึงหันกายจากไป

    กาเล็ทหันกลับมาพร้อมกับนำผ้าขนาดใหญ่ออกมาปูยังพื้นหญ้าจากนั้นจึงตบไปที่ผ้าปูและส่งสายตาวิงวอนร้องขอไปที่ซิลเวียและแชลเทีย ความหมายของสายตาคือต้องการให้คนรักทั้งสองของตนเองลงมานั่งยังผ้าที่ตนเองปูไว้ร่วมกับตนเอง

    ซิลเวียและแชลเทียเห็นเช่นนั้นก็สบตายิ้มให้แก่กันและลุกขึ้นจากม้าหินชักนำเบลล่าไปนั่งด้วยอีกคนหนึ่ง

    "วันนี้ท้องฟ้ากระจ่างใส่ไม่มีเมฆหมอกมาบดบังทำให้สามารถมองเห็นดวงดาวทั้งหลายที่สวยงามเหล่านี้ได้ช่างวิเศษแท้" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมทั้งทิ้งตัวของตนเองลงนอนหนุนบนตักของแชลเทียทันที

    "อ๊ะ" แชลเทียส่งเสียงอุทานออกอีกคราหนึ่ง

    เบลล่าเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยกับการแสดงออกของกาเล็ท บรุษซึ่งตนเองไม่สามารถจะดูออกได้เลยว่าที่แท้แล้วภายในจิตใจของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

    "นับว่าดวงดาวคืนนี้ดูสวยงามยิ่งนักเสียแต่เพียงว่าอากาศโดยรอบร้อนอบอ้าวไปบ้าง" ซิลเวียเอ่ยกล่าว

    ได้ฟังเช่นนั้นทั้งแชลเทียและเบลล่าก็ผงกหัวอย่างเห็นด้วยพร้อมทั้งเงยหน้าแหงนมองดูดวงดาวบนฝากฟ้า

    กาเล็ทพลันยกมือข้างหนึ่งของตนเองขึ้นมาจากนั้นก็ดีดนิ้วของตนเองคราหนึ่ง พร้อมกันกับเสียงดีดนิ้วของกาเล็ทที่ดังขึ้นบรรยากาศโดยรอบบริเวณก็เย็นสบายขึ้นอย่างทันทีทันใด

    "เจ้าทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน" ซิลเวียเอ่ยถามอย่างแปลกประหลาดใจ

    กาเล็ทได้ฟังก็ยิ้มออกมา "หืม เหตุใจจะไม่ได้อย่าลืมสิว่าข้าคือใคร" เอ่ยถึงจุดนี้กาเล็ทก็ปั้นน้ำเสียงของตนเองขึ้นเอ่ยกล่าว "ข้าคือบรุษผู้ซึ่งสังหารจักรพรรดิ์แดงตำนานแห่งทวีปตะวันออกแห่งนี้ดังนั้นแล้วย่อมไม่มีสิ่งใดที่ข้าผู้นี้กระทำไม่ได้" ประโยคที่กาเล็ทเอ่ยกล่าวมานี้ดูคล้ายเหมือนกับการประโคมโอ่ถึงวีรกรรมของตนเองแต่ว่าด้วยน้ำเสียงที่ใช้เอ่ยกล่าวของกาเล็ทกลับทำให้ทั้งซิลเวียและแชลเทียอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แม้แต่เบลล่าเองก็ยังแทบที่จะกลั้นไว้ไม่อยู่ บัดนี้กาเล็ทนั้นไม่ได้สงวนท่าทีของตนเองไว้ดังเช่นครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องอีกต่อไป

    เมื่อเห็นว่าตนเองสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้แก่คนรักทั้งสองของตนเองได้เป็นผลสำเร็จแล้วกาเล็ทก็ใช้พลังของตนเองยกถาดผลไม้และของว่างซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะหินอ่อนให้ลอยมาหยุดลงเบื้องหน้าของซิลเวียและแชลเทีย "วันนี้ข้าต่อสู้อย่างอยากลำบากจนหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว รบกวนแม่นางทั้งสองช่วยเมตตาสงเคราะห์ข้าสักหน่อยได้หรือไม่" กาเล็ทเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนโดยไม่สนใจการคงอยู่ของเบลล่าเอ่ยแม้แต่น้อย หากว่าต้องคอยห่วงกังวลต่อเบลล่าอีกคนหนึ่งเช่นนั้นแล้วตนเองมิใช่จะต้องเสียโอกาสอันดีเช่นนี้ไป โอกาสที่มารดาของตนเองไม่คอยอยู่ดูแลสอดส่องอีกทั้งในตอนนี้มิร่าน้อยก็กำลังหลับไหลอยู่กับผู้เป็นมารดา โอกาสทองเช่นนี้ยากนักที่ตนเองจะสามารถพบเจอได้ดังนั้นกาเล็ทจึงเลือกที่จะไม่สนใจอันใดอีกว่าเบลล่าจะอยู่ด้วยหรือไม่จะอย่างไรเจ้าหญิงผู้นี้ก็ไม่ได้มองตนเองเป็นตัวดีอยู่แล้ว

    ทั้งซิลเวียและแชลเทียได้ฟังน้ำเสียงที่ออดอ้อนของชายคนรักก็หัวเราะคิกออกมาพร้อมทั้งหยิบเอาผลไม้จากถาดนั้นสลับกันป้อนให้แก่ชายคนรัก


    ปล.ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่สนับสนุนแพคใหม่อย่างท่วมท้นในวันแรกครับ ขอบพระคุณจากใจจริงจ้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×