ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #13 : อัจฉริยะ? [รีไรท์ 2020]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32.69K
      857
      6 พ.ย. 63

         
         

         กาเล็ทหันกลับไปมองตามเสียงหวานนั้นและพบว่าคนซึ่งเอ่ยเรียกชื่อของตนเป็นหญิงสาวอายุรุ่นราวเดียวกันที่ดูคุ้นตา เรือนผมสีชมพูอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งกำลังพริ้วไหวไปตามแรงลมของหญิงสาวคนดังกล่าวทำให้กาเล็ทต้องนิ่งอึ้งตกตะลึงไป...ดวงตากลมโต ริมฝีปากที่โค้งได้รูป จมูกที่คมสัน ทุกสิ่งทุกอย่างผสมรวมกันได้ลงตัวจนก่อเกิดเป็นหญิงสาวที่ดูสดใสน่าชวนมอง     
         
         "กาเล็ท?....ใช่กาเล็ทจริงๆด้วย จำข้าได้หรือเปล่า?" หญิวสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มซึ่งแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นเต้นยินดี

         กาเล็ทขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างรู้สึกมึนงงไม่เข้าใจแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นกาเล็ทกลับมีความรู้สึกว่าหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของตนเองนี้มองดูคุ้นตาอยู่บ้าง 

         "จำข้าไม่ได้?" หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างรู้สึกผิดหวังขณะที่เอ่ยถาม...แต่แล้วในชั่วพริบตาหนึ่งห้วงสมองของกาเล็ทก็ปรากฎภาพของเด็กหญิงตัวน้อยเมื่อครั้งอดีตขึ้นมา "แชลเทีย?" กาเล็ทเอ่ยชื่อที่สลักอยู่ในความทรงจำของตัวเองออกมา

         "ก็จำได้นี่" แชลเทียเอ่ยอย่างรู้สึกยินดีเมื่อพบว่ากาเล็ทสามารถที่จะจดจำตัวเองได้

         "ไม่ได้พบนาน..นี่ก็หลายปีแล้ว กาเล็ทเปลี่ยนไปมากจนข้าแทบจำไม่ได้" แชลเทียเอ่ย

         "แชลเทียเองก็เปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปจนข้าแทบที่จะจำไม่ได้.." กาเล็ทเอ่ยออกมาขณะที่จ้องมองไปยังใบหน้าของแชลเทียอย่างลืมตัว..ผ่านไปสักพักกาเล็ทที่รู้ตัวว่าตนเองเสียมารยาทไปก็ยกมือขึ้นมาลูบไปที่หลังศีรษะของตนเองเก้อเขิน

         แชลเทียเองเมื่อเห็นอย่างนั้นก็เกิดอาการทำตัวไม่ถูกขึ้นมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อไป เนื่องเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะได้มาเจอกัน "กาเล็ทน่าจะอยู่ที่เมืองรีเวลไม่ใช่หรอ?..ทำไมถึงได้มาอยู่ที่เมืองหลวงได้?" แชลเทียเอ่ยถามเพื่อสลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนที่กำลังก่อนตัวขึ้น

         "ข้าพึ่งจะพาท่านแม่กับท่านลุงย้ายเข้ามาอยู่ที่เมืองหลวง..จริงๆแล้วก็พึ่งจะมาถึงเมื่อวานเอง" กาเล็ทเอ่ยตอบ

         "ท่านป้าก็มาด้วย?" แชลเทียเอ่ยถามอย่างรู้สึกสนใจ 

         "อืม..ท่านแม่ก็มาด้วย" กาเล็ทเอ่ยตอบ

         "ข้าเห็นกาเล็ทยืนอ่านข้อมูลพวกนั้น...หรือว่ากาเล็ทเองก็คิดอยากที่จะเข้าเรียนยังสถาบันผู้ฝึกพลังด้วย?" แชลเทียเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้

         "ที่จริงแล้วก็ใช่..แต่ไม่รู้ว่าข้าจะสามารถผ่านการคัดเลือกได้หรือเปล่า?" กาเล็ทเอ่ย

         "ต้องผ่านสิ...อย่างนี้ก็ดีเลยท่านพ่อเองก็อยากจะให้ข้าเข้าเรียนยังสถาบันผู้ฝึกพลังด้วยเหมือนกัน ข้าเองก็ได้แต่หวังว่าปีนี้ข้าจะสามารถผ่านการทดสอบได้เหมือนกัน จากที่ข้าได้ยินข้อมูลมามีข่าวว่าการคัดเลือกของสถาบันผู้ฝึกพลังนั้นเข้มงวดนัก...ถึงแม้จะมีอายุถึงเกณฑ์แต่หากมีระดับแก่นจิตวิญญาณต่ำกว่าระดับสามก็ยากจะผ่านได้" แชลเทียเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกกังวลใจ

         กาเล็ทซึ่งเริ่มตั้งสติได้นั้นพบว่าระดับแก่นจิตวิญญาณของแชลเทียอยู่ที่ระดับสามอย่างพอดิบพอดี  เห็นอย่างนั้นกาเล็ทจึงเอ่ยต่อ "แชลเทียต้องสามารถผ่านได้อย่างแน่นอน"
         
         "ข้าก็หวังให้เป็นอย่างนั้น พอดีว่าวันนี้ข้ามีธุระคงต้องขอตัวก่อน....ว่าแต่ตอนนี้กาเล็ทพักอยู่ที่ไหน?" แชลเทียอดที่จะถามออกมาไม่ได้ในช่วงท้ายถึงแม้จะรู้ว่าการถามอย่างนี้ถือว่าเป็นการเสียมารยาทอยู่บ้าง

         "ตอนนี้ข้ากับท่านแม่พักอยู่ในโรงแรมตรงหัวมุมถนนฝั่งนั้น คิดว่าอีกไม่กี่วันก็คงจะย้ายแต่คงต้องรอให้บ้านที่ทำสัญญาซื้อไว้เรียบร้อยดีเสียก่อน" กาเล็ทเอ่ยบอก

         "ข..ข้าต้องไปแล้ว..นี่ที่อยู่ของข้า ถ้าหากว่ากาเล็ทมีปัญหาอะไรมาบอกข้าได้เลย" แชลเทียซึ่งพึ่งจะขีดเขียนบางอย่างใส่เศษกระดาษเสร็จยื่นเศษกระดาษนั้นออกมาให้กับกาเล็ท

         กาเล็ทซึ่งเห็นว่าแชลเทียเดินจากไปแล้วก็ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังที่ดูบอบบางนั้นค่อยๆขยับห่างออกไปอย่างช้าๆ....แววตาของกาเล็ทขณะที่มองดูแชลเทียเดินจากไปนั้นกลับแสดงออกถึงความนุ่มนวลอย่างน่าประหลาด.....ภาพของเด็กหญิงตัวน้อยซึ่งเข้ามาปลอบใจเด็กชายที่ถูกรังเกียจเมินเฉยจากเด็กรุ่นราวเดียวกันปรากฎขึ้นในห้วงความคิดของกาเล็ท "...ไม่เป็นไรนะหากพวกเขาไม่อย่างเล่นกับกาเล็ท แชลเทียจะเล่นเป็นเพื่อนกาเล็ทเองนะ ถ...ถ้าหากว่าโตขึ้น แชลเทียก็..ก็จะเป็นเจ้าสาวให้กับกาเล็ทเอง.." เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวกับเด็กชายอย่างอ่อนโยนไร้เดียงสา   กาเล็ทที่นึกถึงภาพความทรงจำในวัยเด็กซึ่งกระจ่างชัดขึ้นมารีบส่ายศีรษะเพื่อสลัดภาพความคิดนั้นทิ้งไป


         -----------------------------------------------------------------------------------------------

         เวลาสองเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมานี้กาเล็ทไม่ได้ใช้เวลาไปอย่างเสียเปล่าเลย

         "ท่านลุงโจเซพ ฝากท่านดูแลเกี่ยวกับการตรวจความเรียบร้อยของบ้านด้วย หากเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาใดๆท่านลุงก็ช่วยเป็นธุระในการซื้อหาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเข้าไปได้ก่อนเลย" กาเล็ทเอ่ยบอกกับโจเซพขณะที่เดินทางมาตรวจรับการส่งมอบบ้านที่ซื้อไว้

         "กาเล็ทต้องการให้แม่ไปด้วยหรือเปล่าลูก?" นีน่าเอ่ยอย่างรู้สึกเป็นห่วงเมื่อนึกถึงว่าวันนี้คือวันที่กาเล็ทจะต้องไปรับการทดสอบคัดเลือกเพื่อที่จะเข้าศึกษาในสถาบันผู้ฝึกพลัง

         กาเล็ทหัวเราะ"ท่านแม่..ก็แค่การทดสอบเล็กๆน้อยๆ อย่างข้าน่ะผ่านฉลุยแน่นอน" กาเล็ทเอ่ยอวดโอ่ต่อหน้านีน่า "อืม..ถึงการทดสอบจะง่ายขนาดไหนและข้าคงผ่านฉลุยอยู่แล้วแต่ขอพระจากท่านแม่ไว้ก่อนก็คงไม่เสียหาย..ท่านแม่ช่วยอวยพรให้กับข้าก่อนไปได้หรือไม่?" กาเล็ทเอ่ยพร้อมกับที่เดินเข้าไปกอดเอวของนีน่าอย่างออดอ้อน

         "แม่ขอให้กาเล็ทโชคดีสอบผ่านนะลูก" นีน่าเอ่ยอวยพรขณะที่ลูบศีรษะของกาเล็ทอย่างรู้สึกเอ็นดูจากนั้นจึงเอ่ยต่อ "ไม่ต้องห่วงเรื่องบ้านนะลูก เรื่องบ้านน่ะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่กับท่านพ่อบ้านโจเซพเอง" 

         "ครับท่านแม่" กาเล็ทตอบ

         หลังจากที่ได้รับคำอวยพรจากนีน่าแล้วกาเล็ทก็ออกเดินทางมายังสถาบันผู้ฝึกพลังเพื่อเตรียมจะเข้ารับการทดสอบในทันที...เมื่อกาเล็ทเดินทางมาถึงก็พบว่าด้านหน้าของสถาบันผู้ฝึกพลังนั้นคับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายซึ่งต่างมาต่อแถวเพื่อรอรับการทดสอบ

         "ปีนี้ข้าต้องสอบผ่านแน่นอน" 

         "ปีที่แล้วข้าเกือบผ่านอยู่แล้วเชียว..พลาดไปแค่นิดเดียว ปีนี้ข้าจะไม่ยอมโดนท่านพ่อดุว่าจนหูชาอีกแล้ว"

         "เห็นว่าปีนี้ยอดอัจฉริยะจากตระกูลบลูโนก็จะเข้าร่วมการทดสอบด้วย..เทียบกับเขาแล้วพวกเราคงเป็นได้แค่ตัวประกอบ"

         "หือ?..อัจฉริยะอย่างนั้นจำเป็นที่จะต้องเข้าเรียนในสถาบันด้วย?"

         เสียงของผู้คนซึ่งต่อแถวพูดคุยกันเกี่ยวกับการทดสอบดังไปทั่ว กาเล็ทซึ่งเดินมาต่อแถวเช่นเดียวกันได้แต่แอบเงี่ยหูฟังเพื่อเก็บข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...แต่แล้วในขณะที่กาเล็ทกำลังสังเกตุการณ์อยู่นั้นกลับพบเห็นผู้คนขบวนใหญ่กำลังเดินตรงแหวกฝูงชนมาทางด้านตน

         "หลีก...หลีกทางไปให้หมด หลีกทาง นายน้อยโจดานแห่งตระกูลบลูโนจะเข้ารับการทดสอบ..พวกเจ้าชนชั้นสามัญถอยห่างไป" ชายชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ซึ่งเดินนำขบวนเอ่ยขึ้นขณะผลักดันผู้คนที่ขวางทางอยู่ในพ้นไป

         "หลีกไป" มันตวาดใส่กาเล็ทอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อพบว่ากาเล็ทยังคงยืนขวางทางไม่ยอมหลีก

         กาเล็ทที่หันมองมากลับพบว่าเบื้องหลังมันมีเด็กหนุ่มที่อายุรุ่นราวเดียวกับตนเองยืนอยู่ ดูไปท่าทีของเด็กหนุ่มคนนี้กลับแฝงไปด้วยความหยิ่งผยองและความมั่นใจในตัวเอง   กาเล็ทสบตากับเด็กหนุ่มคนนั้นวูบหนึ่งหลังจากนั้นกาเล็ทจึงก้าวเท้าถอยห่างออกมาเพื่อหลีกทางให้  ไม่นานกาเล็ทก็พบว่าชั่วระยะเวลาที่เด็กหนุ่มจากตระกูลบลูโนนก้าวผ่านตัวเองไป..บนใบหน้าของมันกลับปรากฎรอยยิ้มลี้ลับที่แสดงออกถึงการเยาะถากถางขึ้นวูบหนึ่ง

         "ต่อให้มีความสามารถจริงแต่จำเป็นที่จะต้องอวดโอ่ดูถูกคนอื่นถึงขนาดนี้?" กาเล็ทนึกคิดกับตัวเองพร้อมกับที่ส่ายศีรษะอย่างไม่ใส่ใจ..ด้วยเพราะบางทีตัวเองในชาติก่อนก็อาจจะเคยกระทำในลักษณะนี้มาเหมือนกัน

         "เอาล่ะได้เวลาเริ่มการทดสอบแล้ว" เสียงผู้คุมประกาศขึ้น

         ได้ยินอย่างนั้นกาเล็ทที่เหลือบมองไปยังหัวขบวนก็พบว่าที่หัวขบวนนั้นมีลูกแก้วขนาดใหญ่เท่าศีรษะมนุษย์ตั้งอยู่หลายลูกและเด็กหนุ่มจากตระกูลบลูโนซึ่งแสดงท่าทางทรนงออกมาเมื่อสักครู่ก็ได้เป็นคนแรกที่เข้ารับการทดสอบ  ทันทีที่มันยื่นมือทั้งสองข้างของมันออกไปแตะเข้ากับลูกแก้ว...ลูกแก้วนั้นก็ค่อยๆเปล่งแสงส่องสว่างขึ้นอย่างช้าๆ 

         "ระดับขั้นที่หนึ่งผ่าน.... ระดับขั้นที่สองผ่าน .......... ระดับขั้นที่สามผ่าน...ระดับขั้นที่สี่ผ่าน...ระดับขั้นที่ห้าผ่าน" ขณะที่เด็กหนุ่มจากตระกูลบลูโนนั้นนั้นทาบฝ่ามือเข้ากับลูกแก้วและลูกแก้วค่อยๆส่องแสงสว่างขึ้น..พร้อมกันนั้นเสียงของผู้คุมสอบก็ประกาศถึงระดับแก่นจิตวิญญาณของคนที่กำลังรับการทดสอบออกมา..สุดท้ายก็มาหยุดลงอยู่ที่ระดับห้า..นั่นก็หมายความว่าแก่นจิตวิญญาณของเด็กหนุ่มจากตระกูลบลูโนอยู่ในระดับขั้นที่ห้า  ...ทันทีที่สิ้นเสียงประกาศของผู้คุมสอบรอบบริเวณก็เกิดเสียงพูดคุยซุบซิบดังขึ้นทันที

         "สมกับที่มาจากตระกูลบลูโนและเป็นยอดอัจฉริยะ"

         "ชั่งห่างไกลกับพวกเรานัก เขามีพลังถึงระดับห้าด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น..ในอนาคตความสำเร็จของเขาคงก้าวขึ้นไปเทียบเคียงกับผู้เป็นพ่อได้แน่"

         "การที่ได้ฉายาว่ายอดอัจฉริยะรุ่นใหม่แห่งโรฮานไม่ได้เกินเลยไปจริงๆ"

         เสียงพูดคุยแสดงความเห็นของผู้คนเกี่ยวกับโจดานดังก้องไปทั่วอย่างเปิดเผย

         หลังจากที่โจดานได้รับการทดสอบจนเสร็จแล้ว...ผู้เข้ารับการทดสอบคนแล้วคนเล่าก็เข้ารับการทดสอบต่อ บ้างผิดหวัง บ้างสมหวังแต่สุดท้ายก็มาถึงคิวของกาเล็ท  

         "เอามือทาบกับลูกแก้ว" เจ้าหน้าที่คุมสอบกล่าวเสียงเข้มกับกาเล็ทอย่างไม่ได้คาดหวัง

         ทว่าทันทีที่มือของกาเล็ททาบแนบติดเข้ากับลูกแก้ว ลูกแก้วก็เปล่งแสงส่องสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว  กาเล็ทซึ่งดวงตาโบกโพลงด้วยความตกใจพบว่าพลังจิตวิญญาณภายในร่างกำลังถูกสูบให้ไหลเวียนเข้าสู่ลูกแก้วอย่างอัตโนมัติ..."แย่แล้ว!" คิดได้อย่างนั้นกาเล็ทก็เริ่มควบคุมดึงกลับกระแสพลังที่ไหลออกจากร่างของตนเพื่อหยุดยั้งแรงดึงดูดจากลูกแก้ว

         "ระ..ระดับที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ..." ผู้คุมสอบเอ่ยขานอย่างรวดเร็วอย่างไม่อยากจะเชื่อพร้อมกับที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองยังกาเล็ทไปด้วยหากแต่เมื่อเอ่ยขานมาถึงระดับขั้นที่สี่ลูกแก้วกลับหม่นแสงลงอยู่แปลกประหลาด "ระดับสี่เองหรอกหรือ?" ผู้คุมสอบคิดกับตัวเองอย่างรู้สึกผิดหวัง

         "เกือบไป.." กาเล็ทที่ต้องการปิดบังระดับแก่นจิตวิญญาณของตัวเองไว้ด้วยเหตุผลบางอย่างนึกคิดกับตัวเองอย่างรู้สึกโล่งใจโดยหารู้เลยไม่ว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมาที่ตนอย่างรู้สึกสนใจ

         ที่ด้านบนของหอสังเกตุการณ์...ปรากฎหญิงสาวใส่แว่นคนหนึ่งกำลังยืนสังเกตุการณ์อยู่ หลังจากที่การทดสอบของกาเล็ทจบลง..หญิงสาวคนดังกล่าวก็ยกมือขึ้นปัดไปที่เรือนผมสีเขียวซึ่งยาวประบ่าพร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งของตนเลื่อนจับกรอบแว่นที่สวมใส่อยู่ให้เข้าที่  "น่าสนใจ" หญิงสาวลึกลับยิ้มเอ่ยหากแต่บนใบหน้ายังคงปรากฎเค้าลางของความรู้สึกตกใจเหลืออยู่


         รีไรท์ 2020



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×