ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #178 : แสงที่เปล่งประกาย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.03K
      411
      20 ก.พ. 61




    ณ ทวีปใต้จักรพรรดินีซานๆค่อยๆก้าวลงจากรถม้าเริดหรูคันโต ดวงตาคู่สวยของนางจับจ้องไปยังอาหารหลังใหญ่อย่างหวนนึก นี่เป็นสถานที่ซึ่งนางเติบโตขึ้นมาและเป็นสถานที่ซึ่งผู้ที่นางเคารพรักที่สุดอาศัยอยู่ "ท่านยายซานๆมาหาท่านแล้ว" ใบหน้าที่ดูเย็นชาของนางกลับแปรเปลี่ยนไปเมื่อเอ่ยถ้อยคำออกมา

    "ถวายบังคมองค์จักรพรรดิ์นี" ผู้คนที่ออกมาต้อนรับการมาถึงของซานๆต่างโค้งคำนับจักรพรรดินีแห่งทวีปใต้อย่างพร้อมเพรียง

    ซานๆเห็นเช่นนั้นก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนนุ่มนวลออกมา ที่นี่เป็นตระกูลของนาง เป็นที่ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของนางดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นต้องแสร้งปั้นหน้าเคร่งเครียดเย็นชาอยู่ตลอดเวลาดั่งเช่นที่อยู่ต่อหน้าคนพวกนั้น "บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าอย่าได้เรียกข้าเช่นนั้น ข้ายังคงเป็นซานๆน้อยของท่านลุงอยู่เสมอ" จักรพรรดิ์นีซานๆเอ่ยกล่าวกับพ่อบ้านของตนเอง พ่อบ้านผู้นี้นั้นถือได้ว่าเป็นคนเก่าคนแก่ตั้งแต่สมัยที่นางยังคงเป็นเพียงเด็กหญิงผู้หนึ่งดังนั้นแล้วนางจึงให้ความเคารพกับพ่อบ้านผู้นี้เสมือนว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของนางคนหนึ่งเช่นกัน

    "มิได้ขอรับองค์จักรพรรดินี"

    ซานๆได้ฟังเช่นนั้นก็ส่ายหัวออกมา "อาการของท่านยายเป็นเช่นไรบ้าง"

    ได้ฟังคำถามนี้สีหน้าจของพ่อบ้านประจำตระกูลหลี่ก็ปรากฎเค้าลางแห่งความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด "ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ขอรับ ตลอดระยะเวลาหลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ไม่ว่าต้มตัวยาอันใดให้ นายหญิงก็ไม่ยอมรับประทานลงไปแม้สักคำเดียว"

    ซานซานได้ฟังเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมา "อืมเอาเถอะเดี๋ยวข้าจะจัดการเอง ท่านลุงกลับไปทำการทำงานของท่านเถอะ" ซานซานเอ่ย

    ภายในห้องที่มีแสงไฟจากเทียนไขสลัวอ่อนๆพร้อมทั้งมีกลิ่นของสมุนไพรลอยมาแตะจมูก ร่างบางของซานซานค่อยๆยกมือเปิดม่านมุ้งที่อยูยังบริเวณทางเข้าพร้อมทั้งขยับเรือนร่างของตนเองเข้าไปภายใน

    "แคก แคก ป..เป็นผู้ใด" เสีนงแหบแห้งที่ฟังดูอ่อนแรงส่งเสียงเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาออกมา

    "ท่านยายเป็นซานซานเอง ซานซานกลับมาหาท่านแล้ว" ซานซานเอ่ย

    "ซานซานของยายเองหรือ มา มา เข้ามาหายาย" หลี่มี้อี้ค่อยๆยันร่างกายที่ดูชราภาพของนางขึ้นจากเตียง

    ซานซานเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปเพื่อที่จะพยุงร่างของผู้เป็นยายซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของนางไว้ "ท่านยาย ท่านไม่สบายอยู่อย่าได้ออกแรงมากไป" ซานซานส่งเสียงเอ่ยออกมาอย่างเป็นกังวล

    "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร" หลี่มี่อี้เอ่ยออกมา แม้น้ำเสียงจะดูอ่อนแรงอิดโรยทว่าใบหน้ากลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม นางค่อยๆยกมือที่เหี่ยวย่นขึ้นลูบคลำใบหน้าสวยได้รูปของซานซานผู้เป็นหลาน "ซานซานของยายยังงดงามไม่เปลี่ยนแปลง เห็นหลานแล้วทำให้ยายนึกถึงตัวเองตอนที่ยังสาวอยู่จริงๆ" มี่อี้เอ่ยกล่าวอย่างหวนนึก

    "ท่านยาย ข้าได้ฟังมาว่าท่านไม่ยอมรับประทานตัวยาที่ผู้คนจัดหามาให้" ซานซานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลใจ

    "ตัวยาเหล่านั้นรับประทานลงไปแล้วจะนับเป็นอย่างไรได้? หมอหลวงที่ปรุงยาเหล่านั้นล้วนปรุงแต่งขึ้นด้วยเพราะว่าเกรงกลัวต่อเจ้าอันที่จริงแล้วพวกมันล้วนลงความเห็นกันอย่างถ้วนหน้าแล้วว่าข้าคงอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนใช่หรือไม่" หลี่มี่อี้เค้นแรงที่หลงเหลืออยู่เอ่ยกล่าวออกมาอย่างยากเย็นด้วยความโมโห

    "ท่านยายอย่าได้มีโทสะ" ซานซานเอ่ย ย่อมเป็นจริงดังที่ผู้เป็นยายของตนเองเอ่ย เหล่าหมอหลวงและผู้มีความรู้ความสามารถในการรักษาทั่วทั้งทวีปใต้ที่ตัวนางเชิญมาดูอาการของผู้เป็นยายล้วนบอกกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าโรคที่ผู้เป็นยายของตนเองกำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ว่าเป็นผู้ใดก็ไม่สามารถที่จะรักษาได้เหตุผลก็เพราะมันหาใช่อาการป่วยอันใดหากแต่เป็นการเสื่อมสภาพตามการเวลาของสังขารของมนุษย์ที่อยู่มาอย่างเนิ่นนานแล้ว

    เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นหลานที่แสดงออกถึงความกังวลใจหลี่มี่อี้ก็ใช้มือของตนเองลูบไล้เรือนผมของผู้เป็นหลาน "ซานซานอย่าได้เป็นกังวลใจ ยายน่ะไม่ทิ้งซานน้อยของยายให้อยู่ลำพังหรอกนะ อายุขัยของยายยังไม่จบลงเพียงเท่านี้แน่" หลี่มี่อี้เอ่ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเชื่อมั่น

    "แต่ถึงท่านยายจะกล่าวเช่นนั้นก็สมควรกินยาที่ท่านหมอเหล่านั้นปรุงแต่งขึ้น อย่างน้อยมันก็สมควรเป็นตัวยาที่สามารถบำรุงร่างกายของท่านยายได้" ซานซานเอ่ย

    "เอาเถอะ เอาเถอะ เมื่อซานน้อยของยายว่าอย่างน้ำยายก็จะยอมกินตัวยาที่รสขมนั่นก็ได้" หลี่มี่อี้กล่าว

    ได้ฟังเช่นนั้นใบหน้าของซานซานก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา "เช่นนั้นซานซานจะไปบอกให้ท่านหมอปรุงยาร้อนๆมาให้ท่านยายใหม่"

    พอเงาหลังของผู้เป็นหลานสาวที่รักพ้นจากประตูห้องออกไปแววตาของหลี่มี่อี้ก็หม่นหมองลงวูบหนึ่ง อันที่จริงแล้วด้วยร่างกายของนางในตอนนี้นั้นล้วนเปรียบเสมือนท่อนไม้ที่ผุพังเปลื่อยยุ่ยไปตามกาลเวลา การที่เหล่าหมอมีชื่อลงความเห็นว่านางสมควรมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนนั้นสมควรที่จะเป็นเรื่องจริงไม่แปลกปลอมแต่ว่าไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดเมื่อนางใช้พลังพิเศษของตนเองที่มีมาแต่กำเนิดทำนายตรวจดวงชะตาของตนเองดูกลับพบว่าอายุขัยของตนเองยังไม่สิ้นสุดลงกลับกันไม่เพียงอายุขัยยังไม่สิ้นสุดลงหากแต่กลับยาวนานจนนางไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เลย "หรือว่าพลังพยาการณ์ของข้าเองก็เสื่อมถอยไปตามสังขารด้วย?" นางได้แต่คิดอย่างหวาดหวั่น หากเป็นเช่นนั้นแล้วใช่ว่าคำทำนายอื่นของนางล้วนแล้วแต่เป็นเช่นเดียวกันหรือไม่? บัดนี้แม้แต่หลี่มี่อี้เองยังสงสัยกังขากับพลังของตนเองแล้ว

    ใช้เวลาไม่นานหลี่ซานซานก็ยกถ้วยที่เต็มไปด้วยตัวยาบำรุงเข้ามาภายในห้อง ถ้วยที่บรรจุตัวยาร้อนได้ที่ถึงกับมีควันจางๆลอยออกมา "ท่านยาย ซานซานนำยาบำรุงมาให้ท่านแล้ว ให้ซานซานป้อนแก่ท่านเถอะ"

    หลี่มี่อี้ได้ฟังเช่นนั้นก็มองค้อนผู้เป็นหลาน "กลัวยายไม่รับประทานถึงขนาดนั้นเลยหรือ"

    เมื่อเห็นว่าผู้เป็นยายรู้ทันความคิดของตนเองซานซานก็เอ่ยกล่าว "ท่านยาย"

    "เอาเถอะ เอาเถอะ ป้อนก็ป้อนเมื่อก่อนตอนที่ซานน้อยของยายยังเล็กอยู่ก็เป็นยายที่ป้อนยาขมไม่น่ารับประทานนั้นให้ซานน้อยบัดนี้คงเป็นทีของซานน้อยที่จะป้อนยาขมให้แก่ยายบ้างแล้ว" หลี่มี้อี้เอ่ย

    "ท่านยายค่อยๆจิบ" ซานซานเข้ามานั่งที่ข้างเตียงพร้อมทั้งใช้มือของตนเองหยิบจับถ้วยยาที่ยังร้อนอยู่ขึ้นมาและตักตัวยานั้นขึ้นจากถ้วยจากนั้นจึงเป่าไอเย็นออกจากปากเพื่อลดอุณหภูมิของตัวยาลงให้พอเหมาะแก่ผู้เป็นยาย

    "ซานน้อย ยายได้ข่าวว่าช่วงนี้เกิดเรื่องวุ่นวานขึ้นไม่น้อย" หลี่มี่อี้เอ่ยกล่าวขึ้นขณะที่รับประทานตัวยาลงไป

    "อืมม จักรพรรดิแดงแห่งทวีปตะวันออกถูกสังหารลงแล้วบัดนี้ทวีปตะวันออกอาจจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นข้าเองก็เกรงว่าทวีปกลางจะฉวยโอกาสนี้เคลื่อนไหว" ซานซานเอ่ยกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเป็นกังวล

    "ทวีปตะวันออก ทวีปตะวันออก ทวีปตะวันออก" หลี่มี่อี้เอ่ยกล่าวทวนซ้ำไปมาอยู่หลายรอบจากนั้นจึงหลับตาลง

    เวลาผ่านไปเนิ่นนานซานซานที่เห็นว่าผู้เป็นยายของตนเองนิ่งไปเนิ่นนานก็เอ่ยเรียกขานขึ้นด้วยความรู้สึกเป็นกังวลใจ "ท่านยาย ท่านยาย"

    เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ศรีษะของหลี่มี่อี้ก็โคลงเคลงไปมาจากนั้นนางจึงลืมตาขึ้น "ชั่งเป็นดวงชะตาที่กล้าแข็งนัก สัมผัสที่ข้ารู้สึกได้ช่างเปล่งประกายสว่างไสว" หลี่มี่อี้เอ่ยกล่าวพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น

    "ท่านยาย ท่านหมายถึงผู้ใดกัน" ซานซานเอ่ยถาม

    "ไม่มีอะไรไม่มีอะไร" หลี่มี่อี้เอ่ยกล่าว

    "ท่านยายหรือว่าเมื่อครู่ท่านใช้พลังพยากรณ์ของท่านอีกแล้ว ท่านยายทำเช่นนี้ไม่ได้นะ การใช้พลังพยากรณ์รังแต่จะทำให้อายุขัยของท่านยายสั้นลงกว่าเดิม" ซานซานที่พอจะคาดเดาถึงสาเหตุของอาการประหลาดของผู้เป็นยายเมื่อครู่ได้เอ่ยกล่าวขึ้นอย่างเป็นกังวล

    "ซานน้อยของยายอย่าได้เป็นกังวลยายมิใช่บอกกล่าวแล้วหรอกหรือว่ายายจะอยู่กับซานน้อยไปอีกนาน" หลี่มี่อี้เอ่ยกล่าว จากนั้นจึงยกมือของตนเองขึ้นลูบไล้ใบหน้าของผู้เป็นหลานสาวอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง "ยังจำคำทำนายของยายที่ทำนายให้แก่หลานได้หรือไม่" หลี่มี่อี้เอ่ยถามผู้เป็นหลานขึ้น

    "ซานซานยังจำได้ไม่ลืมท่านยาย" ซานซานเอ่ยตอบพร้อมทั้งหวนนึกถึงคำทำนายของผู้เป็นยายที่ทำนายไว้เมื่อหลายปีก่อนซึ่งตัวนางเองก็ยังไม่เข้าใจในความหมายของมันเท่าใดนัก "ท่ามกลางความสิ้นหวังที่โหมกระหน่ำแสงแห่งความหวังจะสาดส่องมา" นางย่อมไม่เข้าใจว่าที่แท้แล้วความสิ้นหวังนั้นหมายถึงสิ่งใดแล้วสิ่งใดคือแสงแห่งความหวังกัน? พอเอ่ยกล่าวถามผู้เป็นยายดูก็ได้แต่คำตอบที่คลุมเครือกลับมา ยายของนางบอกแต่เพียงว่าสักวันหนึ่งจะมีผู้ที่เดินทางมาจากที่ไกลแสนไกลเพื่อมาล้มล้างความทะเยอทะยานของทวีปกลางและทำให้ดินแดนยูยานมีแต่ความสงบสุขปรากฎตัวขึ้น แม้ว่าจะรู้ดีถึงความสามารถของผู้เป็นยายทว่าในเรื่องนี้แม้แต่ตัวของซานซานเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเนื่องเพราะตัวนางนั้นรู้ถึงความน่ากลัวของทวีปกลางเป็นอย่างดี

    ทวีปกลางนั้นมีทั้งขุมกำลังที่มากมายเหลือล้นกว่าทวีปใดๆหลายเท่ายังมีความน่ากลัวของจักรพรรดิจรัสแสงผู้ปกครองแห่งทวีปกลางซึ่งมีความสามารถและพรสวรรค์สูงล้ำกว่าผู้ใด ว่ากันว่าจักรพรรดิ์แห่งทวีปกลางนั้นเป็นผู้มีพลังเข้ากับจิตวิญญาณได้ถึงสามธาตุซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในดินแดนยูยานแห่งนี้เลยทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นยากจะมีผู้ใดทาบติดได้ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่าหลายสิบปีที่ผ่านมานี้เนื่องจากสัญญาสงบศึกที่ทำขึ้นนั้นมีเงื่อนไขว่าทั้งห้าทวีปต้องส่งบรรณาการให้แก่ทวีปกลางซึ่งบรรณาการเหล่านั้นก็หนีไม่พ้นทรัพย์ยากรตัวยาและสมุนไพรหายากมากมาย ด้วยทรัพย์ยากรเหล่านั้นที่ทวีปกลางได้รับไปไม่ทราบว่าเวลายี่สิบปีที่ผ่านมานี้ขุมกำลังของทวีปกลางจะเพิ่มพูนแข็งแกร่งขึ้นเพียงไร? เช่นนี้แล้วอยู่ๆจะมีผู้ที่ปรากฎตัวขึ้นมาล้มล้างทวีปกลางได้อย่างไร?

    "เป็นไรหรือซานน้อย? หรือว่าซานซานของยายไม่เชื่อคำทำนายของยายแล้ว" หลี่มี่อี้เอ่ย

    "เปล่าท่านยายข้าไม่.." ซานซานเอ่ยออกมา

    "ซานน้อยของยาย ยายเกรงว่าหนูจะต้องพบเจอกับความยากลำบากบางประการแล้วแต่หากว่าซานน้อยของยายผ่านพายุร้ายครั้งนี้ไปได้นับจากนี้ชีวิตของหลานก็จะมีแต่ความสดใสเสมือนฟ้าหลังฝนที่ต้องแสงอาทิตย์" หลี่มี่อี้เอ่ย

    "ท่านยายท่านหมายความว่าอย่างไรกันแน่" คิ้วคู่สวยของจักรพรรดินีซานซานขมวดเข้าหากัน

    หลี่มี่อี้เผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมาคราหนึ่ง "เอาล่ะหลานไปพักผ่อนเถอะเดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยแล้ว ยายเองก็รู้สึกเหนื่อยแล้วเช่นกัน" หลี่มี่อี้หาได้ไขข้อสงสัยของผู้เป็นหลานหากแต่กลับปล่อยให้ผู้เป็นหลานแสดงสีหน้างุนงงอยู่เช่นนั้น

    "อืม เช่นนั้นท่านยายพักผ่อนเถอะ" ซานซานเอ่ยกล่าวจากนั้นจึงจัดเก็บถ้วยยาและพยุงร่างของหลี่มี่อี้ผู้เป็นยายให้นอนลงเช่นเดิมและหมุนตัวออกจากห้องไป


    ปล.นี่เป็นครั้งแรกที่กล่าวถึงตัวละครอื่นนอกจากพระเอกแบบเต็มตอน 555
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×