ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #179 : กลับไปเยือนหอร้อยบุปผา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.63K
      389
      23 ก.พ. 61



    "ท่านแม่สร้อยนี่งามหรือไม่ ท่านดู" กาเล็ทเอ่ยพร้อมทั้งชี้สั่งให้ผูดูแลร้านเครื่องเพรชอันดับหนึ่งของเมืองแบรี่นำสร้อยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเพรชเม็ดใหญ่สะท้อนแสงสวยงามออกมาให้ตนเองชมดู

    "จะไม่แพงไปหรอลูก กาเล็ท" นีน่าเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นว่ากาเล็ทชี้ไปที่สร้อยเพรชซึ่งดูมีราคาแพง

    "สำหรับท่านหญิงทางร้านของเราไม่คิดเงินขอรับ" ผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชชื่อดังของเมืองแบรี่เอ่ยขึ้น

    "เอ๋ ไม่ได้ ไม่ได้ ของซื้อของขายจะมาให้ข้าฟรีๆได้อย่างไร" นีน่ารีบเอ่ยกล่าว

    "เพียงแค่ท่านดยุคบุสโซ่มาเยือนทางร้านของเราก็นับว่าเป็นเกียรติมากแล้วขอรับ" ผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชยังคงเอ่ยต่อ แรกเริ่มเดิมทีมันก็หารู้ไม่ว่าผู้มาเยือนร้านของมันในครั้งนี้เป็นผู้ใดแต่เมื่องหวนนึกคิดดูมันนั้นกลับรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากลุ่มของกาเล็ทอยู่ไม่น้อย พอหวนนึกคิดดูมันก็สามารถจดจำออกว่าที่แท้แล้วคุณหนูสองในสามนางผู้ติดตามอยู่เบื้องหลังชายหนุ่มและคอยเป็นผู้ช่วยเลือกเครื่องเพรชให้กับสตรีวันกลางคนผู้นี้ที่แท้แล้วคือเจ้าหญิงแห่งโรฮานทั้งสองนางนั่นเองประกอบเข้ากับที่มันเฝ้าสังเกตุบทสนทนาของทั้งหมดสุดท้ายแล้วมันจึงได้รู้ว่าผู้มาเยือนร้านรวงของมันในครั้งนี้คือดยุคบุสโซ่และครอบครัวนั่นเอง

    "คิดเงินทองตามปกติเถอะ หาไม่แล้วท่านแม่ของข้าคงไม่ยอมเลือกสร้อยสักเส้นออกจากร้านเจ้าไปเป็นแน่" กาเล็ทเอ่ย

    ผู้ดูแลร้านเพรชแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาจากนั้นมันจึงเอ่ยกล่าวขึ้น "สร้อยเพรชนี้ดูไปก็เหมาะกับท่านหญิงยิ่งนัก ไม่เพียงแต่สร้อยเส้นนี้เท่านั้นยังมีชุดเครื่องประดับทั้งแหวนและต่างหูที่เข้าชุดกับตัวสร้อยซึ่งถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของร้านข้าน้อยขอรับ ไม่ว่าจะอย่างไรข้าน้อยก็ต้องการที่จะมอบมันเป็นของขวัญให้กับท่านหญิงขอรับ" เจ้าของร้านเพรชเอ่ยคำยืนยันเป็นมั่นเหมาะในความคิดของตนเอง

    คราครั้งนี้กลับเป็นกาเล็ทที่แสดงสีหน้าลำบากใจออกมา

    เห็นเช่นนั้นผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชก็ถูมือของตนเองไปมา "เอ่อ ท..ท่านดยุค เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร สร้อยเพรชนี้ก็ถือว่าทางร้านของข้าน้อยกำนัลให้แก่ท่านหญิงนีน่า อืมม เพียงแต่หากว่าถ้าเป็นไปได้ อื่มมม ทางร้านของข้าน้อยก็อยากจะขอโอกาสที่จะเข้าไปเปิดขยายสาขาอยู่ในเขตบุสโซ่"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็เหลียวมองดูเจ้าของร้านเครื่องเพรชอันดันหนึ่งแห่งเมืองแบรี่ผู้นี้ "หืมม เจ้าผู้นี้สมกับเป็นพ่อค้านัก สร้อยเพรชนี้แม้ว่าจะมีราคาค่างวดอยู่ทว่าหากสามารถใช้มันแลกกับที่ดินภายในเขตบุสโซ่ได้สำหรับกับพ่อค้าร้านเพรชแห่งนี้แล้วย่อมนับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก" กาเล็ทคิดกับตนเอง

    กาเล็ทหันมองไปยังผู้เป็นมารดาและคู่หมั้นทั้งสามของตนเองซึ่งกำลังช่วยนีน่าทดลองสวมใส่เครื่องเพรช "หากเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ได้ แต่ข้าขอบอกต่อเจ้าของร้านตามตรงว่าแม้ว่าข้าจะรับปากแล้วแต่ท่านยังคงต้องปฎิบัติตามกฎที่ข้าตั้งไว้ทุกประการและอยาได้คิดว่าจะมีสิทธิพิเศษเหนือกว่าผู้ใด" กาเล็ทเอ่ย

    "ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว ข้าน้อยเข้าใจแล้ว" ผู้ดูแลร้านเพรชขานรับด้วยความรู้สึกยินดี ไม่ทราบว่ามีพ่อค้าน้อยใหญ่มากมายที่ใดซึ่งต้องการหยั่งรากของตนเองลงลึกภายในเขตบุสโซ่เพียงแค่ได้คำรับรองจากดยุคบุสโซ่ก็ย่อมนับว่ามันนำหน้าไปกว่าผู้คนพวกนั้นมากมายแล้ว

    "เช่นนั้นเมื่อใดที่เขตบุสโซ่พร้อมเปิดให้แก่บุคคลภายนอกเข้ามาจับจองพื้นที่ข้าจะแจ้งแก่ท่านเจ้าของร้านก็แล้วกัน" กาเล็ทเอ่ยกับผู้ดูแลร้านเพรชอันดับหนึ่งแห่งเมืองแบรี่จากนั้นจึงขอตัวเพื่อหันไปหาคู่หมั้นทั้งสามของตนเองและผู้เป็นมารดา

    "เบลล่าแหวนวงนี้เหมาะกับเจ้านั้น" กาเล็ทเดินเข้าไปชี้ให้เบลล่าดูแหวนเงินที่ประดับไปด้วยเพรชสีฟ้าเม็ดใหญ่
    "อืม" เบลล่าหันมองไปตามที่ชายคนรักชี้มือไป

    "เจ้าของร้านข้าขอดูแหวนชิ้นนี้ได้หรือไม่" กาเล็ทรีบหันไปเอ่ยกับเจ้าของร้าน

    "ได้ขอรับ ได้ขอรับ" เจ้าของร้านเพรชรีบวิ่งเข้ามาเปิดตู้กระจกเพื่อหยิบแหวนที่กาเล็ทต้องการส่งให้

    กาเล็ทรับแหวนเพรชนั้นมาแล้วคว้าจับมือของเบลล่าขึ้นมาและสวมใส่แหวนวงนั้นลงไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของเบลล่า "ได้ยินมาจากซิลเวียว่าเจ้าไม่ค่อยมีเครื่องประดับสวมใส่เท่าใด เช่นนั้นก็คือโอกาสนี้เลือกซื่อไปสักหลายชุดเถอะ" กาเล็ทเอ่ย

    ย่อมเป็นดั่งที่ซิลเวียเอ่ยบอกมา เนื่องจากเมื่อครั้งที่ออกมาจากไอออนเป็นไปด้วยความเร่งรีบ เบลล่าจึงไม่ได้นำข้าวของเครื่องใช้ติดตัวกลับมาด้วยเท่าใดทำให้ทรัพย์สมบัติของนางส่วนใหญ่นั้นยังคงถูกทิ้งไว้อยู่ที่ไอออน

    "ผู้ดูแลร้าน ไม่ทราบว่ามีเครื่องประดับที่เข้าชุดกับแหวนวงนี้หรือไม่" กาเล็ทหันไปเอ่ยถามผู้ดูแลร้าน

    "มีขอรับท่าดยุค มีขอรับ" ผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชเอ่ยพร้อมกับหันกายเดินเข้าไปยังบริเวณหลังร้าน

    นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นที่หอร้อยบุปผาเวลาก็ล่วงเลยผ่านมากว่าสามวันแล้ว ในสามวันที่ผ่านมานี้กาเล็ทหาได้เดินทางไปยังหอร้อยบุปผาเพื่อไถ่ตัวเอลลี่และมาเรียหากแต่เลือกที่จะตามติดรบเร้าพัวพันผู้เป็นมารดาและคู่หมั้นทั้งสามของตนเองไม่ห่าง ทั้งพานีน่าและคู่หมั้นทั้งสามเข้าเมืองมายังร้านเสื้อผ้าหรูภายในเมืองแบรี่เพื่อสั่งตัดชุดยกใหญ่ ทั้งนำพาพวกนางไปชมดูละครเวทีในโรงละครของเมืองแบรี่ ยังมีในวันนี้กาเล็ทยังพาทั้งหมดมาเลือกซื้อเครื่องเพรชในร้านเพรชอันดับหนึ่งของเมืองแบรี่อีกด้วย

    ไม่นานผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชก็นำชุดเครื่องเพรชออกมาจากหลังร้านให้แก่เบลล่าเลือกชมดูเพิ่มเติม เนื่องจากลูกค้าในวันนี้ของมันคือดยุคบุสโซ่และครอบครัวดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องกริ่งเกรงสิ่งใดและต่อให้ในวันนี้มันต้องยกเครื่องเพรชที่มีอยู่ภายในร้านของมันให้แก่ดยุคบุสโซ่ก็ไม่นับเป็นอย่างไรได้ สำหรับกับมันเพียงคำรับปากว่าจะให้ที่ดินภายในเขตบุสโซ่จากดยุคบุสโซ่ก็นับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มแล้วยังไม่ต้องเอ่ยถึงการที่มันได้มีโอกาสสร้างสัมพันธ์อันดีขึ้นกับดยุคบุสโซ่และครอบครัวของเขา

    เลือกชมเครื่องเพรชอยู่ครู่ใหญ่สุดท้ายแล้ว ทั้งซิลเวียและแชลเทียก็ได้เครื่องเพรชเพิ่มมาอีกคนละชุด ส่วนเบลล่านั้นได้ถึงสองชุด เครื่องเพรชแต่ละชุดล้วนเข้ากับรูปลักษณ์ที่งดหมดจดของพวกนางเมื่อสวมใส่อยู่บนร่างแล้วก็จะช่วยขับเน้นจุดเด่นในตัวของพวกนางออกมาได้อย่างลงตัว

    "ท่านแม่เอาทั้งไม่เห็นจำเป็นต้องเลือกเลย ท่านแม่ก็เอาทั้งสองชุดนั่นแหละ ข้ายังจำได้ว่าเมื่อก่อนเพื่อเลี้ยงดูข้าตัวท่านนั้นต้องขายแหวนแต่งงานที่ท่านพ่อมอบให้ บัดนี้ยามเมื่อเรามีพร้อมทุกสิ่งแล้วก็ให้ข้าชดเชยให้แก่ท่านแม่เถอะถึงแม้ว่าเครื่องเพรชเหล่านี้จะยังเทียบไม่ได้กับแหวนแต่งงานของท่านก็ตาม" กาเล็ทเอ่ย

    นีน่าได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่ลำบากกาเล็ทจนมากเกินไปก็เอาตามที่กาเล็ทว่าก็ได้ลูก" นีน่าเอ่ย

    "ผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชทั้งหมดนี่คิดเป็นเงินเท่าใด" กาเล็ทหันไปเอ่ยกับผู้ดูแลร้านเครื่องเพรช

    ผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชที่ได้ยินถึงบทสนทนาของกาเล็ทและนีน่าเมื่อครู่ก็ยิ้มออกมา "เพื่อเป็นการยกย่องความรักของท่านดยุคที่มีให้แก่ครอบครัว เครื่องเพรชทั้งหมดทางร้านของเราไม่คิดเงินขอรับ"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจไม่น้อย "ข้ามาซื้อเครื่องเพรชที่ร้านของท่านหาได้มาปล้นท่าน เป็นเงินทองเท่าใดก็คิดมาเถอะ" กาเล็ทเอ่ย จากการคิดคำนวนมูลค่าคร่าวๆของเครื่องเพรชทั้งหมดที่กาเล็ทเลือกซื้อให้แก่นีน่าและคู่หมั้นทั้งสามแล้วคงมีมูลค่าไม่น้อยกว่าหนึ่งพันเหรียญทองเป็นแน่ หากว่าตนเองรับเอาสิ่งของทั้งหมดเหล่านี้มาเปล่าๆมิใช่จะกลับกลายเป็นการปล้นผู้คนแล้ว? อันที่จริงแล้วเงินหนึ่งพันเหรียญทองสำหรับพ่อค้าเช่นเจ้าของร้านเครื่องเพรชอันดับหนึ่งแห่งเมืองแบรี่แล้วหาได้เยอะอันใด หากให้เทียบเปรียบกับสิ่งที่เจ้าของร้านเครื่องเพรชแห่งนี้จะได้รับกลับมาเพราะสายสัมพันธ์ที่มีขึ้นกับกาเล็ทแล้วยังนับว่าผู้ที่ได้กำไรในครั้งนี้ยังคงเป็นมันด้วยซ้ำ

    "อย่าได้คิดเช่นนั้นขอรับ อย่าได้คิดเช่นนั้น ทางร้านของข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ครอบครัวของท่านดยุค" ผู้ดูแลร้านเอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ไม่ลังเลใจอีกพยักหน้าให้แก่พ่อค้าร้านเครื่องเพรชเป็นอันตกลง

    "เช่นนั้นท่านดยุคและครอบครัวกรุณารอสักครู่นะขอรับ ข้าจะรีบจัดเครื่องเพรชใส่กล่องให้เรียบร้อย" ได้ยินผู้ดูแลร้านเครื่องเพรชเอ่ยเช่นนั้นกาเล็ทก็พยักหน้าจากนั้นจึงหันไปหามิร่าซึ่งกำลังอยู่ในร่างมังกรที่กำลังนอนราบอยู่บนตู้กระจกเพื่อจ้องมองลงไปยังเครื่องประดับที่แวววับภายในตู้กระจก

    กาเล็ทเดินเข้าไปโอบอุ้มร่างเล็กขึ้นมา "เครื่องประดับพวกนี้ยังไม่เหมาะกับหนูหรอกมิร่าน้อย เอาไว้ปะป๋าจะสร้างเครื่องประดับพิเศษให้กับหนูด้วยตัวเองดีไหม" กาเล็ทเอ่ย

    ได้ยินเช่นนั้นมิร่าก็ส่ายหางไปมาด้วยความรู้สึกยินดี หากจะให้กล่าวไปแล้วนางย่อมต้องการเครื่องประดับที่กาเล็ทเป็นผู้สร้างขึ้นมากับมือมากกว่าที่กาเล็ทจะซื้อจากผู้อื่นมาให้

    นีน่าซึ่งเห็นภาพที่น่ารักตรงหน้าก็ได้แต่ยิ้มออกมา "กาเล็ท เมื่อไหร่จะพาหนูเอลลี่กับหนูมาเรียมาหาแม่ล่ะลูก ไหนกาเล็ทบอกว่าต้องการที่จะไถ่ตัวทั้งสองคนออกมาไม่ใช่หรอลูก แม่ว่าเรื่องนี้ไม่สมควรรอให้เนิ่นนานไปกว่านี้นะลูก" นีน่าเอ่ยขึ้น

    ได้ยินเช่นนั้นกาเล็ทที่กำลังยิ้มแย้มอยู่ก็แสดงออกถึงสีหน้าที่เป็นกังวลใจออกมา

    ทั้งซิลเวีย แชลเทียและเบลล่า เห็นเช่นนั้นก็หันมองไปสบตากันวูบหนึ่ง "พวกข้าก็คิดเหมือนท่านป้านะกาเล็ท เรื่องนี้เมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วก็ไม่ควรที่จะรอให้เนิ่นนานไปกว่านี้ เอาเช่นนี้เป็นอย่างไรกาเล็ท วันนี้ก็ถือโอกาสไปรับพวกนางทั้งสองมาจากหอร้อยบุปผาด้วยกันเลย" แชลเทียเอ่ยเสนอขึ้น

    "เอาแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นการรับขวัญหนูเอลลี่เข้าบ้านตระกูลบุสโซ่เรา ส่วนหนูมาเรียหากว่ากาเล็ทต้องการแม่ก็จะลองปรึกษาหาลือกับท่านผู้พิทักษ์ดู" นีน่าเอ่ยสนับสนุนความคิดของแชลเทีย

    "ท่านแม่ข้าคิดว่าสถานที่เช่นนั้นพวกท่านไม่สมควรที่จะเข้าไป" กาเล็ทเอ่ยอย่างลำบากใจ

    "ไม่มีที่ใดสมควรหรือไม่สมควรหรอกลูกกาเล็ท มันอยู่ที่ว่าพวกเราไปด้วยเจตนาอะไร ในเมื่อกาเล็ทนั้นตัดสินใจไปแล้วจะอย่างไรหนูเอลลี่และหนูมาเรียก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเราอยู่แล้วก็ถือซะว่าแม่เดินทางไปรับขวัญพวกนางเข้าตระกูลบุสโซ่เราก็แล้วกัน ถ้าหากว่าเป็นดังที่กาเล็ทว่าพวกนางนั้นล้วนนับว่าเป็นสตรีที่น่าสงสารมากไม่ใช่หรอลูก กาเล็ทเองก็อยากบอกว่าอยากที่จะยกเลิกระบบเก่าๆที่ไร้เหตุผลพวกนั้นไปด้วยแบบนั้นก็ถือเอาโอกาสนี้ให้ทั้งหนูเบลล่าและหนูซิลเวียไปเห็นระบบพวกนั้นเองกับตา ทั้งสองจะได้เอาไปบอกกล่าวกับองค์ราชาได้อย่างเต็มปากเต็มคำแบบนี้ไม่ดีหรอลูก" นีน่าเอ่ย


    ปล.เนื้อหาช่วงนี้ไม่หวือหวานะครับผมจะรีบเร่งให้จบให้สองตอนและก็จะเริ่มสงครามสี่ทวีปให้เร็วที่สุด ช่วงนี้ลงน้อยกว่าปกติขออภัยด้วยครับพอดีมีปัญหานิดหน่อยหัวเลยตื้อๆตันๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×