ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #189 : ฝึกฝนกลางเวหา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.34K
      466
      27 มี.ค. 61




    รุ่งเช้าของวันต่อมากาเล็ทก็สั่งให้ลูกน้องทั้งสี่ของตนเองที่มาเตรียมพร้อมรออยู่แล้วเร่งรีบออกไปตรวจตราความเรียบร้อยของเรือเหาะ การเดินทางไปยังไอออนในครั้งนี้นั้นกลับกลายเป็นว่ามีผู้คนนับร้อยที่ชีวิตที่ออกร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ เมื่อได้ทราบข่าวถึงการเดินทางในครั้งนี้เหล่าหญิงรับใช้หลายนางต่างขันอาสาที่จะร่วมเดินทางไปกับขบวนเรือเหาะเพื่อคอยดูแลรับใช้นีน่าด้วย

    กาเล็ทเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ขัดใจอะไร จะอย่างไรการเดินทางไปในไอออนในครั้งนี้ตนเองก็ได้นำทหารนักบู๊ร่วมร้อยคนร่วมเดินทางไปด้วยอยู่แล้วจะเพิ่มเหล่าหญิงรับใช้ไปด้วยสักสิบหรือยี่สิบคนย่อมไม่ใช่ปัญหา เรือเหาะที่หยิบยืมไว้จากโรฮานกามีถึงสี่ลำจุผู้คนได้หลายร้อยชีวิต

    "มาร์ติน เจฟ พวกเจ้าทั้งสองเร่งรีบนำผู้คนภายใต้สังกัดเดินทางเข้าไปในเมืองแบรี่เพื่อตรวจทานดูความเรียบร้อยของเรือเหาะเป็นรอบสุดท้ายเถอะ หากว่าไม่มีปัญหาใดก็บอกกล่าวนายเรือให้เตรียมพร้อมเพื่อที่จะออกเรือได้ทุกเมื่อ" กาเล็ทเอ่ยสั่งการกับเจฟและมาร์ติน

    "ขอรับนายน้อย" เจฟและมาร์ตินเอ่ยขายรับ

    จากนั้นกาเล็ทจึงหันไปหาอาร์มันโด้และดีอ้อนซึ่งยืนรออยู่ด้านข้างเช่นกัน "พวกเจ้าทั้งสองก็ร่วมเดินทางไปกับเจงและมาร์ตินด้วย ระหว่างที่รอก็ให้ปรึกษาถึงเส้นทางในการเดินเรือเหาะเอาไว้ให้รัดกลุมจะได้ไม่เกิดปัญหา" กาเล็ทเอ่ย

    "ขอรับนายน้อย" ทั้งอาร์มันโด้และดีอ้อนเอ่ยสังการ บัดนี้ทั้งสองนั้นเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดเครื่องแบบของตระกูลบุสโซ่เรียบร้อยแล้ว

    เมื่อเห็นว่าลูกน้องทั้งสี่เร่งรีบเดินทางไปปฎิบัติตามคำสั่งของตนเองแล้วกาเล็ทก็หันมาเอ่ยกับโรสและเรน่า "โรส เรน่า พวกเจ้าทั้งสองเร่งไปตรวจดูความเรียบร้อบของรถม้าดูว่าเรียบร้อยดีหรือไม่พร้อมทั้งไปบอกกล่าวกับเหล่าหญิงรับใช้ที่จะร่วมเดินทางไปกับพวกเราในครั้งนี้ให้ขึ้นโดยสารเตรียมพร้อมไว้ อย่าลืมดูแลครอบครัวของมาร์ตินและเจฟให้แทนพวกมันทั้งสองด้วย อีกไม่นานพวกท่านแม่คงจะเตรียมตัวเสร็จแล้ว" กาเล็ทเอ่ย

    "ค่ะนายน้อย" ทั้งเรน่าและโรสเอ่ยปากรับคำจากนั้นจึงเร่งรียจากไป

    "เป็นอย่างไรบ้าง" เสียงของเทลเล่อดังขึ้นที่เบื้องหลัง

    "ทุกอย่างเรียบร้อยดีท่านอาจารย์ เนื่องจากมีผู้คนร่วมเดินทางไปด้วยมากกว่าที่คิดจึงต้องตรวจสอบทุกอย่างให้รัดกุมไว้" กาเล็ทเอ่ย

    "โดยสารเรือเหาะไปอย่างเอิกเกริกเช่นนี้จะไม่มีปัญหาใดหรือ?" เทลเล่อเอ่ยถามขึ้น

    "ท่านอาจารย์หมายความถึงการถูกจู่โจมจากไอออนหรือ?" กาเล็ทเอ่ยถาม

    เทลเล่อผงกหัวตอบรับ

    "สมควรไม่มีปัญหาใด จากการสอบถามอาร์มันโด้และดีอ้อนดู การป้องกันของไอออนหาได้มีสิ่งใดน่าเป็นห่วงสำหรับกับพวกเรา ที่น่าเป็นห่วงก็เหลือแต่การจู่โจมจากผู้ฝึกพลัง แต่ก่อนที่ผู้คนจะเข้ามาถึงระยะที่สามารถจะลงมือได้คิดว่าข่ายจิตวิญญาณของข้าและมิร่าน้อยคงตรวจจับได้ก่อน" กาเล็ทเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ เมือระดับพลังเพิ่มพูนขึ้นข่ายจิตวิญญาณของกาเล็ทก็เฉียบคมขึ้นอีกทั้งอาณาเขตในการตรวจจับเฝ้าระวังก็ขยายใหญ่ขึ้นตามระดับพลังที่เพิ่มพูนสูงขึ้นไปด้วย

    เทลเล่อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ใช้สายตาสำรวจตรวจดูกาเล็ทรอบหนึ่ง จากนั้นม่านตาของเทลเล่อก็ขยายใหญ่ขึ้น "ระดับพลังของเจ้า เหตุใดจึงมาอยู่ในจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิ์ขั้นกลางแล้ว?"

    ได้ยินคำเอ่ยกล่าวของเทลเล่อโจเซพที่ยืนอยู่ด้านหลังก็มีสีหน้ายินดีปรีดาขึ้น "นายน้อยมีความก้าวหน้าอีกแล้ว"

    ขณะที่โจเซพเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกยินดีปรีดา เทลเล่อเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดใจ กาเล็ทกลับมีสีหน้าที่ปั้นยากขึ้น กาเล็ทนั้นไม่ทราบว่าจะเอ่ยบอกกล่าวอธิบายต่อผู้เป็นอาจารย์อย่างไรดีว่าอยู่ๆระดับพลังของตนเองก็พุ่งทะยานขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของระดับจักรพรรดิ์ขั้นกลางเช่นนี้หลังจากผ่านการมีสัมพันธ์กับโซเฟียและเซลิน่ามา

    "เจ้ากินโอสถเทวะที่หลองเหลืออยู่เข้าไปแล้วหรือ?" เทลเล่อเอ่ยถามขึ้น

    "เปล่าครับท่านอาจารย์ โอสถเทวะนั้นไม่สามารถที่จะกินเข้าไปในระยะเวลาติดๆกันได้" กาเล็ทเอ่ย

    ได้ฟังเช่นนั้นเทลเล่อก็ทำหน้าสงสัยครุ่นคิดขึ้น "หืม หลายวันที่ผ่านมานี้เจ้าก็แทบไม่ได้เข้าไปฝึกฝนอยู่ในมิติเทพเจ้าเลยนี่" เทลเล่อเอ่ยขณะที่ครุ่นคิด จากนั้นเทลเล่อก็เสมือนว่าคิดอะไรออกมาได้ "โอ่ แบบนี้นี่เอง แบบนี้นี่เอง อืมข้าก็เคยได้ยินว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาบ้างในหมู่ฝู้ฝึกฝนพลังแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเจ้า ฮ่า ฮ่า นับว่าร่างกายของเจ้าได้ปรับสมดุลครั้งใหญ่แล้ว" เทลเล่อเอ่ยกล่าวขณะที่ตบไหล่ของผู้เป็นศิษย์อย่างอารมณ์ดี การที่กาเล็ทมีพลังเพิ่มพูนขึ้นเทลเล่อย่อมมีความสุข เทลเล่อในตอนนี้นั้นมีความรู้สึกรักและผูกพันธ์กับกาเล็ทเสมือนว่ากาเล็ทเป็นบุตรหลานในสายเลือดของตนเองไปแล้ว

    กาเล็ทหันไปเปลี่ยนเรื่องเอ่ยกล่าวกับพ่อบ้านโจเซพเพื่อคลายความรู้สึกระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้น "ท่านลุงโจเซพ ท่านจะไม่ร่วมเดินทางไปด้วยจริงๆหรือ" กาเล็ทเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความรู้สึกเสียดาย

    "ไม่ขอรับนายน้อย นายน้อยโปรดวางใจทางด้านนี้ข้าจะอยู่ดูแลประสานงานทุกเรื่องราวให้เอง" โจเซพเอ่ย

    ได้ฟังคำยืนยันเป็นมั่นเหมาะกาเล็ทก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับมองไปที่โจเซพด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง "หากไม่มีท่านลุงโจเซพข้าก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ คงต้องลำบากท่านลุงแล้ว"

    โจเซพยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติิิออกมา "เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว และข้าก็รู้สึกมีความสุขที่ได้กระทำขอรับนายน้อย"

    "กาเล็ทจะออกเดินทางกันหรือยังลูก" เสียงของนีน่าดังขึ้นที่เบื้องหลัง เมื่อกาเล็ทหันกลับไปสำรวจดูก็พบกับนีน่าที่กำลังอุ้มมิร่าอยู่ ตามติดมาด้วยกลุ่มคู่หมั้นหมายทั้งห้าของตนเอง ภาพของหญิงงามล่มเมืองทั้งห้าที่เกาะกลุ่มเดินเคียงคู่กันมาเช่นนี้ช่างเป็นภาพที่ชวนให้ผู้พบเห็นเคลิ้มฝันนัก กาเล็ทคิดกับตนเองในใจ

    "หลับสบายดีหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยถามขณะที่มองไปยังเซลิน่าและโซเฟีย

    เห็นเช่นนั้นแชลเทียที่กำลังเกาะกุมมือของเซลิน่าอยู่ก็เผยรอยยิ้มซุกซนและเอ่ยขึ้น "ย่อมหลับสบายดี เพราะไม่มีดยุคบุสโซ่ผู้ชอบวางอำนาจเขื่องโขมาคอยรบกวน"

    กาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงขึ้นวูบหนึ่ง เหตุเพราะกาเล็ทย่อมเข้าใจความหมายในวาจาของแชลเทียนั่นเอง แชลเทียย่อมหมายถึงตนเองในยามที่เมามายในวันนั้น ไม่ทราบว่าค่ำคื่นที่ผ่านมาพวกนางพูดคุยเรื่องอันใดกัน แต่เห็นพวกนางทั้งห้าสามารถเข้ากันได้ดีเช่นนี้ตนเองก็รู้สึกวางใจ "เช่นนั้นก็ออกเดินทางเถอะ ข้าได้ให้ผู้คนเตรียมรถม้าไว้สำหรับเดินทางเข้าเมืองแล้ว" กาเล็ทเอ่ยเปลี่ยนเรื่องขึ้น

    เห็นเช่นนั้นนีน่าก็ยิ้มออกมา "มิร่าน้อยจะได้ออกท่องเที่ยวแล้ว ดีใจไหมลูก" นีน่าลูบไล้ร่างของมิร่าในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยนขณะเอ่ยถามขึ้น

    "กรู๊" มิร่าส่งเสียงร้องออกมา

    ไม่นานขบวนของรถม้ากว่าสิบคันก็เดินทางออกจากตระกูลบุสโซ่สู่ท่าเรือเหาะภายในเมืองแบรี่ เมื่อมาถึงท่าจอดเรือเหาะกลุ่มของกาเล็ทก็ได้รับการต้องรับเป็นอย่างดีจากนายช่างใหญ่ที่นำผู้คนออกมายืนเรียงแถวรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว

    "ไม่เห็นต้องทำให้เอิกเกริกถึงเพียงนี้เลยลูกกาเล็ท" นีน่าเอ่ยเมื่อเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากที่ไม่ใช่ผู้คนของตระกูลบุสโซ่มายืนต่อแถวรอต้อนรับตนเองอยู่

    กาเล็ทในตอนนี้นั้นเปรียบเสมือนคนใบ้ที่อมบรเพรชไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้หาใช่คำสั่งของกาเล็ทแต่แม้จะเป็นเช่นนั้นกาเล็ทก็ได้แต่ปล่อยให้ความเข้าใจผิดของผู้เป็นมารดาเลยตามเลยไป

    ใช้เวลาไม่นานเรือเหาะทั้งสี่ลำก็เดินทางออกจากท่าจอดเรือเหาะของเมืองแบรี่มุ่งตรงสู่ไอออน เนื่องจากการเดินทางไปยังไอออนในครั้งนี้แม้ว่าจะใช้การเดินทางโดยเรือเหาะก็ยังคงกินเวลาหลายวัน เช่นนี้แล้วระหว่างเดินทางกลุ่มของนีน่าจึงได้ออกมานั่งชมวิวยังบริเวณดาดฟ้าเรือเหาะ

    "กลัวหรือ?" กาเล็ทเดินเข้าไปหาเซลิน่าและโวเฟียที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เนื่องจากพวกนางนั้นเหลียวมองไปยังพื้นที่เบื้องล่าง

    ได้ยินคำถามของกาเล็ททั้งเซลิน่าและโซเฟียก็ผงกหัว

    กาเล็ทจึงเผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาพร้อมกับยื่นมือของตนเองออกไปเพื่อเกาะกุมมือของทั้งสองเอาไว้ "มีข้าอยู่ที่นี่ไม่มีอันใดต้องกลัว คอยดู" กล่าวจบกาเล็ทก็คลายมือออกจากนั้นร่างของกาเล็ทก็ลอยสูงขึ้นจากดาดฟ้าเรือและทะยานข้ามไปยังเรือเหาะอีกลำหนึ่งที่ลอยลำอยู่ด้านข้าง

    ไม่ทราบว่ากาเล็ทที่ทยานข้ามไปยังดาดฟ้าเรืออีกลำหนึ่งเอ่ยอันใดกับมาร์ตินจึงเป็นเหตุให้มาร์ตินกระโดดทะยานข้ามมายังเรื่อธงลำใหญ่ที่พวกนีน่ากำลังยืนชมวิวอยู่

    "มาร์ติน มานี่" นีน่าที่สังเกตุเห็นร่างใหญ่ยักษ์ของมาร์ตินก็เอ่ยบากเรียกขึ้น

    "ขอรับนายหญิง" มาร์ตินรีบเดินเข้ามาหานีน่าอย่างนอบน้อม

    "มีเรื่องใดหรือ เหตุใดจึงได้ข้ามมายังเรือฝั่งนี้" นีน่าเอ่ยถามขึ้น

    "เมื่อครู่นายน้อยเอ่ยบอกต่อข้าว่าให้ข้ามมายังเรือเหาะฝั่งนี้ขอรับ นายน้อยบอกกล่าวว่าตรวจดูความก้าวหน้าของข้าขอรับ" มาร์ตินเอ่ยตอบ

    "หืม ลูกคนนี้นี่ทำอะไรน่าหวาดเสียวนัก โดดไปโดดมากลางอากาศเช่นนี้อันตรายนัก" นีน่าเอ่ยขึ้น

    ได้ยินเช่นนั้นก็เกิดเสียงหัวเราะคิกที่ด้านหลังของนีน่า "ท่านป้าไม่ต้องห่วงกาเล็ทหรอก ข้าเคยเห็นเขานำพาผู้คนนับสิบคนเหาะเหินล่องลอยเดินทางอยู่กลางอากาศ กระโดดไปมาแค่นี้สำหรับกับเขานั้นสบายมาก" ซิลเวียเอ่ยขึ้น

    นีน่าเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นผู้เป็นบุตรชายเหาะเหินล่องลอยแต่จะอย่างไรทุกครั้งที่เห็นนางก็ยังคงรู้สึกแปลกประหลาดใจและเป็นห่วงผู้เป็นกับชายทุกครั้งไป

    "ท่านป้า อีกไม่นานข้ากับซิลเวียก็จะทำได้แล้วเหมือนกันค่ะ" แชลเทียเอ่ย

    คราครั้งนี้นีน่ากลับหันมองไปยังแชลเทียด้วยสายตาแปลกประหลาดใจ

    "ท่านป้าอาจจะยังไม่เข้าใจดีว่ากาเล็ทนั้นยอดเยี่ยมเก่งกาจขนาดไหน เอาไว้ท่านป้าเห็นเขายามฝึกฝนต่อสู้แล้วจะค่อยๆเข้าใจขึ้นมาเอง" แชลเทียเอ่ยอธิบายพร้อมทั้งเดินเข้าไปคล้อยแขนนีน่าไว้

    ทางด้านเบลล่าก็หันไปสั่งเหล่าหญิงรับใช้ให้รีบนำโต๊ะสำรับผ้าปูออกมาจากตัวเรือเหาะเพื่อจัดเตรียมสถานที่ไว้

    รอคอยไม่นานกาเล็ทก็นำกลุ่มผู้คนลอยกลับมายังเรือเหาะของตนเอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×