ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #199 : สูงต่ำอยู่ที่ใจคน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.48K
      519
      16 เม.ย. 61




    ขณะที่ก้าวเดินตามสเตฟานซึ่งกำลังนำทางออกไปแผ่นหลังของกาเล็ทก็ถูกมือน้อยๆทุบตีใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า หากจะกล่าวว่าทุบตีก็คงไม่ถูกต้องนักเพราะการสัมผัสนี้หาได้ทำให้กาเล็ทรู้สึกเจ็บปวดอันใด

    "เป็นไร" กาเล็ทยิ้มขำหันมาเอ่ยกล่าวขึ้น

    เบลล่าซึ่งได้ยินคำถามกลับไม่ตอบคำ นางยังคงก้มหน้าเดินตามหลังพร้อมใช้มือทุบตีใส่กาเล็ทอยู่ไม่ขาด "ยังมีหน้ามาถามอีก" นางครุ่นคิด ในยามนี้ตัวนางนั้นอับอายจนแทบที่อยากจะมุดแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอดไป ตนเองกลับถูกพบเห็นในขณะที่กระทำเรื่องน่าอายเช่นนั้นได้

    เบลล่าในยามนี้กลับกระทำตัวกระเง้ากระงอดเสมือนเด็กหญิงตัวน้อยผู้หนึ่ง "มันหาได้มองเห็นสิ่งใด" กาเล็ทพยายามกลบเกลื่อนรอยยิ้มที่มีเอ่ยกล่าวขึ้น

    "ยังจะหลอกลวงผู้อื่นอีก" เบลล่าเงยหน้าขึ้นมาสวนตอบทันควัน

    "หาได้หลอกลวง ไม่เชื่อก็ทดลองถามมันดูดีหรือไม่" กาเล็ทเอ่ยกล่าวจบก็หันกลับไปเอ่ยกับสเตฟาน

    "สเตฟาน เมื่อครู่ภายในห้องนั้นเจ้ามองเห็นสิ่งใด" กาเล็ทเอ่ยถามเสียงเข้ม

    สเตฟานได้ยินคำถามมีหรือที่จะไม่ทราบได้ถึงจุดประสงค์ของคำถามนี้ อย่าว่าแต่เมื่อครู่ตัวมันล้วนแอบเงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างจักรพรรดิ์ทมิฬผู้แปลกประหลาดกับเจ้าหญิงผู้สคราโฉมแห่งโรฮาน "ม..ไม่เห็นสิ่งใดเลยขอรับ อันที่จริงแล้วตัวข้านั้นมีปัญหากับสายตาอยู่บ้าง ในบางครั้งบางคราก็เกิดอาการตาพร่ามัวมองไม่เห็นสิ่งใดไปชั่วขณะขอรับ"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาพร้อมทั้งร้อง "อ้อ" จากนั้นจึงหันกลับไปหาเบลล่าที่กำลังปั้นสีหน้าขุ่นเคืองแง่งอนจ้องมองมาด้วยความคลืบแคลงสงสัย "เห็นหรือไม่ มันหาได้มองเห็นสิ่งใด"

    "ต.แต่ว่า" เบลล่าเอ่ยกล่าวขึ้นทว่ากลับถูกกาเล็ทเข้ามาตัดบท

    "นี่มันก็บอกแล้วว่าไม่เห็นสิ่งใด หรือเจ้าคิดว่าผู้อื่นเอ่ยกล่าวโป้ปดหรือ? อืมหากว่ามันโป้ปดเช่นนั้น" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมทั้งเร่งพลังไปที่มือข้างที่ว่างอยู่ของตนเองจนเกิดแสงสว่างวูบขึ้น

    "ไม่โป้ปด ก็ไม่โป้ปด ไม่เห็นก็ไม่เห็น" เบลล่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่ากาเล็ทกำลังจะทำสิ่งใดถึงแม้ว่าจะรู้แน่อยู่แก่ใจแล้วว่าชายคนรักเพียงแต่ขู่ขวัญผู้คนเล่นก็เท่านั้น

    เดินตามการนำทางของสเตฟานมาได้สักพักสุดท้ายแล้วกาเล็ทและเบลล่าก็ออกมานอกปราสาท เมื่อออกมากาเล็ทก็พบว่าที่เบื้องหน้าปราสาทนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คน ดูไปแล้วหลายส่วนนั้นคงเป็นขุนนางน้อยใหญ่ของไอออนที่ทำงานอยู่ในเมืองสตาริ่ง สายตาของกาเล็ทเหลือบมองไปยังเหล่าสตรีที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นจำนวนหนึ่ง

    ไม่รอให้กาเล็ทเอ่ยถามสิ่งใดสเตฟานก็เอ่ยกล่าวขึ้น "นางกำนัลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่กระทำหน้าที่อยู่ ณ เวลาที่เจ้าหญิงเบลล่าพำนักอยู่ในไอออนขอรับ ท่านจักรพรรดิ์ทมิฬต้องการจะให้ลงโทษพวกนางเช่นไรดีขอรับ"

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็หันไปหาโรสกับเรน่าที่กำลังเดินเข้ามาหาตน "เรียนนายน้อย หากว่าเอกสารเหล่านี้ไม่ใช่เอกสารที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมา นางกำนัลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีรายชื่อและถูกจดบันทึกไว้ว่าได้เข้าประจำทำหน้าที่ในช่วง 3 ปีก่อนจนถึงช่วงก่อนที่ไอออนจะเกิดสงครามภายในขึ้นค่ะ" โรสเอ่ยรายงานพร้อมทั้งยื่นเอกสารต่างๆให้แก่กาเล็ทตรวจทานดู

    "ฟลอเรีย? ทีน่า?" เบลล่าที่ด้านข้างของกาเล็ทส่งเสียงอุทานออกมา

    กาเล็ทที่กำลังจะรับเอกสารจากมือของโรสมาตรวจสอบดูได้ยินเช่นนั้นจึงหันไปเอ่ยถาม "รู้จักพวกนางหรือ?"

    "อืม แต่ว่าพวกนางออกจะ พวกนางไม่คล้ายเหมือนกับที่ข้าจำได้ แต่ว่าต้องเป็นพวกนางแน่นอน" เบลล่าเอ่ยขึ้น

    กาเล็ทได้ฟังเช่นนั้นก็ส่งเอกสารต่างๆคืนให้แก่โรส หากว่าเบลล่าเอ่ยเช่นนั้นย่อมหลายความว่าเหล่าหญิงรับใช้นางกำนัลพวกนี้ล้วนถูกต้องแล้ว "เจ้า เจ้า ลุกขึ้น" กาเล็ทชี้มือเอ่ยกล่าวไปยังนางกำนัลสองคนที่เบลล่าเอ่ยบอกกล่าวชื่อออกมา

    นางกำนัลที่ถูกชี้ตัวโดยกาเล็ทได้ยินเช่นนั้นก็ตัวสั่นไม่หยุดหากแต่ยังกัดฟันลุกขึ้นตามคำสั่ง

    "เจ้าทั้งสองมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร" กาเล็ทเอ่ยถาม

    หากแต่ว่าสิ่งที่กาเล็ทได้รับกลับมานั้นไม่ใช่คำตอบที่ต้องการ แต่หญิงสาวทั้งสองที่ถูกตนเองจ้องมองเอ่ยถามนั้นกลับร่างอ่อนระทวยสิ้นแรงล้มลง "ให้อภัย ให้อภัยในความผิดของพวกข้าด้วย ให้อภัยด้วยเจ้าหญิงเบลล่า" นางกำนัลทั้งสองร่ำไห้อ้อนวอนเอ่ยคำขึ้น

    "พวกเจ้าทั้งสองคือฟลอเรียกับทีน่าจริงๆ?" เบลล่าที่เดินเข้ามาก้มลงเอ่ยถามขึ้น ที่นางนั้นรู้สึกไม่แน่ใจว่านางกำนัลทั้งสองนี้ใช่ผู้คนที่เคยทำหน้าที่นำส่งน้ำและอาหารพร้อมทั้งทำความสะอาดสถานที่ซึ่งตนเองพำนักอยู่จริงหรือไม่ก็เพราะว่าใบหน้าของพวกนางนั้นถูกทำให้เสียโฉมไปหลายส่วน ไม่เพียงแต่ริ้วรอยที่เกิดขึ้นยังมีโครงสร้างของศรีษะก็ดูผิดรูปผิดร่างไปด้วยทำให้ในแวบแรกที่มองเห็นเบลล่านั้นยังไม่แน่ใจว่าทั้งสองใช่ทีน่ากับฟลอเรีย

    "เป็นไรหรือ" กาเล็ทเอ่ยถามขึ้น

    เบลล่าที่กำลังก้มสำรวจตรวจดูและปลอบทีน่ากับฟลอเรียซึ่งกำลังร่ำไห้อยู่ด้วยความกลัวหันกลับมาหากาเล็ทพร้อมทั้งเอ่ยขึ้น "พวกนางทั้งสองคือทีน่าและฟลอเรีย นางกำนัลที่เคยรับใช้ดูแลข้า แต่ว่ารูปโฉมของพวกนางนั้น.." เบลล่าเอ่ยกล่าวออกมาถึงจุดนี้ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยกล่าวต่อไป

    กาเล็ทได้ยินได้ฟังเช่นนั้นก็เข้าใจขึ้นมาในบัดดล แรกเริ่มเดิมทีกาเล็ทเองก็นึกสงสัยกับตนเองอยู่แล้วว่าเหตุในผู้ที่ทำหน้าที่เป็นนางกำนัลในวังหลวงจึงมีสภาพเช่นนี้ได้กัน จะอย่างไรหญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นนางกำลังก็ต้องถูกคัดกรองมาแล้วย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาผู้คนซึ่งขี้ริ้วขี้เหล่เช่นนี้เข้ามาทำหน้าที่

    "เกิดสิ่งใดขึ้นกับพวกนาง" กาเล็ทหันไปเอ่ยถามกับสเตฟาน

    "ข..ข้าได้ยินมาว่า อืมม พวกนางกระทำบางสิ่งให้คาโก้ไม่พอใจถึงถูกคาโก้ลงไม้ลงมือทุบตีจนอยู่ในสภาพเช่นนี้ขอรับ" สเตฟานเอ่ยกล่าว

    กาเล็ทได้ฟังคำอธิบายเช่นนี้ก็เริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว

    "กาเล็ท" เสียงของเบลล่าเอ่ยเรียกชื่อกาเล็ทดังขึ้น

    เมื่อกาเล็ทหันมองลงไปก็ได้พบเข้ากับสายตาเว้าวอนร้องขอ กาเล็ทย่อมเข้าใจความหมายในสายตานั้น แรกเริ่มเดิมทีตนเองมีความต้องการที่จะขู่ขวัญสั่งสอนผู้คนพวกนี้ให้หลาบจำแต่ตอนนี้เมื่อมาเห็นถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจิตใจของกาเล็ทก็อ่อนลง "หากว่าตนเองเหยียบย่ำผู้คนที่ได้รับทุกข์แสนสาหัสอยู่ก่อนแล้วเพื่อความรู้สึกสมใจ เช่นนี้มิใช่กลับกลายเป็นว่าตนเองก็ไม่แตกต่างกับคาโก้ผู้นั้น?" นั่นคือสิ่งที่กาเล็ทขบคิดอยู่ ยังไม่ต้องกล่าวถึงสายตาที่เว้าวอนร้องขอของเบลล่า

    กาเล็ทถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง "ครั้งหนึ่งพวกเจ้าชาวไอออนทรนงตนถือดี ถือดีในชาติกำเนิด ถือดีในการเป็นชาวไอออน พวกเจ้านั้นคิดไปว่าพวกเจ้าสูงส่งกว่าผู้อื่น จำได้หรือไม่ว่านี่คือผู้ใด" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดังพร้อมทั้งชี้มือไปที่เบลล่า

    "นางคือเจ้าหญิงแห่งโรฮาน ข้าได้ยินได้ฟังมาว่าในยามที่ตัวนางนั้นต้องมาเป็นประกันอยู่ที่ไอออน นางได้รับการปฎิบัติอย่างที่นางไม่สมควรจะได้รับ พวกเจ้าชาวไอออนต่างมองนางด้วยสายตาดูถูก พวกเจ้าเหล่าขุนนางล้วนมีความคิดว่าเจ้าหญิงแห่งโรฮานผู้นี้ไม่คู่ควรกับเจ้าชายซาก้าในขณะนั้น แม้แต่พวกเจ้านางกำนัลที่ทำหน้าที่อยู่ภายในวังเองก็ยังคงดูถูกนาง แม้แต่พวกเจ้าเหล่าทหารยามก็ยังคงดูถูกนาง ข้าขอถามว่าพวกเจ้าอาศัยอะไรมาดูถูกนาง ชาติกำเนิด?" กาเล็ทเอ่ยกล่าวถึงจุดนี้ก็กวาดสายตามองไปรอบบริเวณ หากแต่ไม่มีผู้ใดแม้สักคนเดียวกล้าสบตาแล้วตอบคำถามของกาเล็ท

    "ทราบหรือไม่ว่าเจ้าหญิงแห่งโรฮานผู้นี้ที่พวกเจ้าเคยดูถูกดูแคลนว่าต่ำต้อยกว่าพวกเจ้าแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร นางผู้เป็นถึงเจ้าหญิง นางซึ่งสามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในวังของโรฮานอย่างมีความสุขท่ามกลางผู้คนที่ยกย่องเชิดชูนางได้แต่ว่านางกลับไม่กระทำเช่นนั้น นางเลือกที่จะสละทุกสิ่ง สละความสุข และมาเป็นประกันอยู่ที่ไอออนพวกเจ้าทราบหรือไม่ว่าเพราะเหตุใด" กาเล็ทเอ่ยกล่าวถึงตรงนี้ก็หันไปกวาดสายตาจ้องมองดูเหล่าขุนนางนับร้อยและนางกำนัลอีกหลายสิบคนที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นเพื่อให้แน่ใจว่าทุกผู้คนได้ยินได้รับฟังในสิ่งที่ตนเองกล่าว

    "นางกระทำทั้งหมดนั้นเพื่อผู้อื่น เพื่อประชาชนแห่งโรฮาน เพื่อความสงบสุขของโรฮาน สตรีที่น่ายกย่องเช่นนี้กลับถูกพวกเจ้ามองดูว่าต่ำต้อยไม่คู่ควรเช่นนั้นแล้วบุคคลเช่นไรจึงจะสมควรกับคำว่าคู่ควรของพวกเจ้า บุคคลดังเช่นคาโก้หรือ?" กาเล็ทตวาดถามลั่น หากแต่ยังคงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยคำ

    "คาโก้ผู้เป็นชาวไอออนแต่กำเนิด ผู้ซึ่งมีชาติกำเนิดสูงส่ง ผู้ซึ่งเป็นผู้ปกครองของพวกเจ้า ผู้ซึ่งพวกเจ้าเชิดชูยกย่องว่าคู่ควร แต่เจ้าดูการกระทำของมัน เจ้าดูว่ามันกระทำสิ่งใดต่อผู้คนภายใต้ปกครองของมัน? เจ้าดูว่าตัวมันนั้นคู่ควรต่อการยกย่องหรือ? เพียงเพราะชาติกำเนิด เพียงเพราะฐานะสูงส่งก็สมควรถูกยกย่องหรือ? สำหรับกับพวกเจ้าอาจจะใช่แต่สำหรับกับข้าไม่ สำหรับกับข้า คุณค่าของผู้คนนั้นอยู่ภายในนี้ ภายในจิตใจของผู้คน การที่พวกเจ้าจะตัดสินผู้ใดว่าสูงต่ำสมควรดูที่การกระทำของผู้นั้นหาใช่ชาติกำเนิด หาใช่ยศศักดิ์ สำหรับกับข้าคาโก้เป็นเพียงแค่เศษสวะผู้หนึ่ง มันไม่คู่ควรจะได้เป็นผู้ปกครองของผู้ใด มันไม่คู่ควรที่จะได้รับความเคารพ การกระทำของมันไม่สมควรแก่การให้อภัย" กาเล็ทเอ่ยกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปคุกเข่าลงทาบมือของตนเองเข้ากับร่างของนางกำนัลทีน่าและฟลอร่า จากนั้นรอยแผลเป็นที่ปรากฎขึ้นอยู่บนใบหน้าของพวกนางก็เปล่งแสงขึ้นและค่อยๆเจือจางลง แผลที่ขรุขระน่าเกลียดก็ค่อยสลายตัวเรียบรื่นขึ้นเรื่อยๆ

    "ในตอนนี้ข้าคงรักษาให้ได้แต่เพียงแผลภายนอก ในส่วนของกระดูกที่แตกหักผิดรูปนั้นต้องใช้ระยะเวลาและมีขั้นตอนมากมายในการที่จะทำให้กลับมาเป็นปกติได้" กาเล็ทเอ่ยกับเบลล่าจากนั้นจึงลุกขึ้นหันไปเอ่ยกล่าวกับเหล่าขุนนางของไอออน

    "พวกเจ้าคงจะเห็นแล้วว่าการฆ่าฟันทำลายล้างนั้นง่ายดายหากแต่การรักษาสร้างสรรค์นั้นยากเย็นทว่าแม้จะยากเย็นข้ายังคงอยากที่จะให้พวกเจ้าร่วมกับข้าก่อร่างสร้างไอออนที่พังทลายจากสงครามภายในขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าโรฮานก็ดี ไม่ว่าไอออนก็ดี พวกเราต่างเป็นชาวตะวันออก อยู่ร่วมในทวีปตะวันออก พวกเราสมควรที่จะรวมกันเป็นปึกแผ่นเพื่อร่วมกันต่อต้านศัตรูจากภายนอกหาใช่เข่นฆ่ากันเอง นับแต่นี้ไม่ว่าจะเป็นชาวไอออนหรือชาวโรฮานล้วนเท่าเทียม ภายใต้การปกครองของข้าไม่มีสูงหรือต่ำในชาติกำเนิด" กาเล็ทเอ่ย

    "ท่านจักรพรรดิทมิฬจงเจริญ ท่านจักรพรรดิ์ทมิฬสั่งสอนได้ถูกต้อง" สเตฟานเป็นผู้เริ่มเอ่ยกล่าวขึ้นก่อน
    เมื่อเห็นว่าสเตฟานเอ่ยกล่าวถ้อยคำออกมาและคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อกาเล็ททุกผู้คนก็คุกเข่าลงตามพร้อมทั้งร่วมกันเอ่ยถ้อยคำสรรเสริญดังเช่นสเตฟานกระทำ

    โรสและเรน่าหันไปสบตากันวูบหนึ่งเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น "ข้าคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้"

    "ข้ายังคิดว่านายน้อยจะขู่ขวัญชาวไอออนเล่นนานกว่านี้" เรน่ายักไหล่เอ่ยกล่าวขึ้น

    "คงจะมีก็แต่มาร์ตินตัวโง่งมนั่นที่คิดว่านายน้อยจะกระทำดังที่เอ่ยขู่ขวัญกับพวกมัน" โรสเอ่่ย





    ปล.อ่านตอนนี้แล้วหลายคนคงคิดว่าตัวเอกไม่เด็ดขาดเลย ไม่โหด จริงๆมันก็มีเหตุผลในการกระทำอยู่ครับ ก็เหมือนที่เคยบอกๆไปตัวเอกเราคือมนุษย์ปกติที่มีการยับยั้งชั่งใจ ฆ่าเฉพาะคนที่สมควรฆ่า






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×