ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #208 : เมฆหมอกที่เริ่มตั้งเค้า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.95K
      544
      9 พ.ค. 61

    "ทราบหรือไม่ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น" กาเล็ทหันไปเอ่ยถามกับเจ้าของภัตตาคารเหินฟ้า น้ำเสียงของกาเล็ทที่ใช้ถามนั้นแปรเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่ที่กำลังพูดคุยหยอกล้ออยู่กับครอบครัวของตนเองอย่างเห็นได้ชัด
    "ข..ข้าน้อย ท..ทราบความผิดแล้วขอรับ" เจ้าของภัตตาคารเหินฟ้าเอ่ยตะกุกตะกักออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
    "เจ้ากลับปล่อยปละละเลยไม่อบรมสั่งสอยพนักงานของเจ้าให้ดีเป็นเหตุให้ข้าและครอบครัวต้องเผชิญกับเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจ เช่นนี้เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร?" กาเล็ทเอ่ยถามเสียงแข็ง
    ได้ยินเช่นนั้นเจ้าของภัตตาคารเหินฟ้าก็ตัวสั่นเอ่ยกล่าวด้วยเสียงขาดๆหายๆตอบกลับไป "ข...ข้า ..ข้าน้อยจะไม่คิดเงินทองแม้สักแดงเดียวขอรับ"
    "หืม" กาเล็ทเอ่ยเสียงเย็นออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบของเจ้าของภัตตาคารนี่ย่อมไม่ใช่คำตอบที่กาเล็ทต้องการจะได้ยิน
    "ข...ข้าน้อยจะสั่งให้จัดอาหารเริดรสทุกเมนูของทางภัตตาคารมานำเสริพต่อท่านจักรพรรดิทมิฬอย่างครบถ้วนขอรับ" เมื่อเห็นว่ากาเล็ทยังคงไม่พอใจในคำตอบของตนเจ้าของภัตตาคารเหินฟ้าก็เอ่ยกล่าวออกมาเพิ่มเติม
    กาเล็ทที่ได้ฟังเช่นนั้นก็ได้แต่แอบถอดถอนใจออกมา "ครั้งนี้ข้าจะไม่ถือสาหาความเอาผิดกับเจ้าแต่จงจดจำไว้ให้มั่นหากว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ในภัตตาคารของเจ้าขึ้นมาอีกไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับผู้ใดก็ตาม หากว่าข้าล่วงรู้เข้าข้าจะกลับมาคิดโทษที่ข้าละเว้นไว้ เอาล่ะไปได้" กาเล็ทเอ่ยขู่ขวัญจบก็ขับไล่มันออก หลังขับไล่เจ้าของภัตตาคารเหินฟ้าออกไปได้ไม่นานก็มีคนอีกผู้หนึ่งค่อยๆคลืบคลานเข้ามาหากาเล็ทอย่างระมัดระวัง กาเล็ที่เหลียวมองเห็นมันกลับเกิดความรู้สึกคุ้นตาอยู่ไม่น้อย
    "ท...ท่านจักรพรรดิ์ทมิฬ ผ..ผู้น้อยเครตันหัวหน้าตระกูลไวท์โมล บิดาของเรย์นาร์ดขอรับ" เครตันเอ่ยแนะนำตัวขึ้นเมื่อมันคลืบคลานเข้ามาถึงจุดที่กาเล็ทนั่งอยู่

    กาเล็ทเหลือบมองมันวูบหนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยกล่าวขึ้น "ข้าจำไม่ได้ว่าเรียกเจ้ามาพบ"

    "ร...เรียนท่านจักรพรรดิ์ทมิฬ ด..ได้โปรดให้โอกาสแก่ตระกูลไวท์โมลของข้าสักครั้ง" เครตันเงยน้อยเอ่ยอ้อนวอนร้องขอขึ้น ตัวมันนั้นเมื่อได้ทราบข่าวว่าผู้เป็นบุตรชายก่อเรื่องราวใหญ่โตขึ้นก็รีบดิ่งมายังภัตตาคารเหินฟ้าในทันทีเพื่อร้องขอความเมตตาจากกาเร็ท

    "ทราบแล้วหรือว่าบุตรชายของเจ้าก่อเรื่องใดไว้?" กาเล็ทเอ่ยถาม

    "ย..ยังขอรับ" เครตันเอ่ย

    "เช่นนั้นก็รีบไปถามไถ่เรื่องราวจากมันให้ละเอียดเถอะ" กาเล็ทเอ่ยจากนั้นจึงใช้พลังของตนเองผลักใสร่างของเครตันให้ล่าถอยออกห่างจากโต๊ะของตนเองไปและหันกลับมาเอ่ยกับครอบครัว "ไม่ว่ามันจะร้องขออย่างไรก็คงไม่อาจอภัยละเว้นให้ได้"

    เทลเล่อที่ได้ฟังเช่นนั้นก็ผงกหัวรับจากนั้นจึงเอ่ย "เรื่องนี้สามารถลงโทษให้หนักหนาได้แต่มิอาจที่จะแสดงเมตตาปล่อยปละมันไปหาไม่แล้วจะเพิ่มความยากลำบากในการที่โรฮานเราจะเข้ามารับช่วงการปกครองของไอออนในภายหน้าได้"

    ได้ฟังเช่นนั้นทุกผู้คนต่างผงกหัวอย่างเห็นด้วยแม้แต่นีน่าเองยังไม่สามารถหาเหตุผลที่จะมาร้องขอไมตรีให้แก่ตระกูลไวท์โมลได้

    ขณะที่กาเล็ทและครอบครัวกำลังผ่อนคลายกับการเดินทางออกท่องเที่ยว ณ ทวีปตะวันตกกลับเกิดความตึงเครียดขึ้น

    "ท่านจักรพรรดิ์แห่งทวีปตะวันตกคงไม่ปฎิเสธข้อเสนอของทวีปกลางเรากระมัง" ทูตจากทวีปกลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เอ่ยถามจักรพรรดิ์แห่งทวีปตะวันตกซึ่งกำลังจ้องมองมาที่ตนเองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
    "ใสหัวไปจากทวีปตะวันตกของข้าก่อนที่ความอดทนของข้าจะหมดลง อย่าได้คิดว่าข้าผู้ปกครองแห่งทวีปตะวันตกจะหลงกลอุบายต่ำช้าของทวีปกลางเจ้า" แกสตัลจักรพรรดิ์แห่งทวีปตะวันตกเอ่ยตวาดใส่ทูตของทวีปกลาง
    "ท่านจักรพรรดิ์แกสตัลโปรดคิดไตร่ตรองให้ดี บอกต่อท่านตอนนี้จักรพรรดิ์เลออนของเรากำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวเพื่อก้าวทะลวงขึ้นสู่ขีดขั้นที่ไม่มีมนุษย์ผู้ใดสามารถที่จะก้าวไปถึงได้อยู่ในขณะที่ภาคีสี่ทวีปของท่านกลับกำลังสั่นคอน คงไม่ต้องให้ข้าเอ่ยบอกกระมังว่าหากเกิดการปะทะสู้รบกันขึ้นจริงๆแล้วผลกำลังจะออกมาเช่นไร" ทูตของทวีปกลางเอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หระแม้ว่าแกสตัลจะเอ่ยตวาดขู่ขวัญอย่างดุดันใส่ตนเอง

    "เจ้ากำลังขู่ข้า?" แกสตัลหรี่ตาจ้องมองไปยังทูตของทวีปกลาง

    "หาได้เป็นเช่นนั้น ข้าเพียงแต่เอ่ยความจริง ความจริงที่ท่านก็น่าจะทราบดีอยู่แล้ว" ทูตแห่งทวีปกลางเอ่ยตอบ "ท่านจักรพรรดิ์แกสตัลเองก็คงจะได้ยินข่าวที่ว่าจักรพรรดิ์แดงแห่งทวีปตะวันออกถูกโค่นล้มลงแล้ว เพื่อแสดงความจริงใจต่อท่านจักรพรรดิแกสตัวข้าจะขอบอกอย่างไม่ปิดบังว่าข่าวนั้นเป็นความจริงไม่แปลกปลอมทางทวีปกลางของเราได้ตรวจสอบมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว"

    ได้ยินเช่นนั้นแววตาของแกสตัวก็สั่นไหว

    เห็นเช่นนั้นทูตของทวีปกลางจึงเอ่ยต่อ "ทวีปกลางของข้าเพียงแต่มาเสนอหนทางแห่งสันติให้แก่ท่าน ข้าก็ได้แต่หวังว่าท่านจักรพรรดิแกสตัลจะไม่ตัดสินใจผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ทั่วทั้งทวีปตะวันตกต้องลุกเป็นไฟ" แม้ปากของทูตแห่งทวีปกลางผู้นี้จะเอ่ยปฎิเสธว่าไม่ได้ข่มขู่หากแต่ในความเป็นจริงแล้วกลับกระทำตรงกันข้าม

    "ใสหัวไป" แกสตัลตวาดไล่หากแต่ทูตแห่งทวีปกลางกลับไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาให้ได้เห็นมันกลับเผยรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออมาพร้อมกับเอ่ยกล่าว "ข้าจะอยู่รอคำตอบของท่านจักรพรรดิแกสตัลอีก 7 วัน หากท่านจักรพรรดิแกสตัลเปลี่ยนใจเมื่อใดก็แจ้งต่อข้าได้ทุกเมื่อหาไม่แล้วข้าคงต้องยกเอาข้อเสนอนี้ไปเสนอต่อจักรพรรดิคนใหม่แห่งทวีปตะวันออกแล้ว" เอ่ยจบมันก็โค้งคำนับให้แก่แกสตัลพอเป็นพิธีจากนั้นจึงหันกายเดินออกจากห้องโถงไป

    สำหรับกับแกสตัลจักรพรรดิ์แห่งทวีปตะวันตกก็ได้แต่ใช้สายตาที่หวั่นไหวสับสนมองตามหลังของทูตแห่งทวีปกลางผู้นี้ไป

    กลับมาที่กาเล็ท หลังจากนำครอบครัวออกท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังตามคำแนะนำของอาร์มันโด้และดีออนอยู่หลายที่จบพอใจแล้วจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับโรฮาน

    "อาร์มันโด้ ดีออน เรื่องที่ไอออนนี้ต้องพึ่งพาพวกเจ้าแล้ว" กาเล็ทเอ่ยขณะที่ยื่นมือออกไปตบเข้าที่บ่าไหล่ของอาร์มันโด้และดีออน

    อาร์มันโด้และดีออนแสดงออกถึงสีหน้าลำบากใจออกมาให้ได้เห็นทันที ตัวมันทั้งสองนั้นมีความต้องการที่จะติดตามรับใช้อยู่ข้างกายของกาเล็ทมากกว่าที่จะประจำการอยู่ทีไอออนเช่นนี้

    "เพียงแต่ให้พวกเจ้าอยู่จัดการเรื่องราวที่ไอออนชั่วคราวเท่านั้น ยังมีเรื่องของการสำเร็จโทษคาโก้และเรื่องการควบคุมดูแลเหล่าขุนนางของไอออน พวกเจ้าเองก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลบุสโซ่อย่างเต็มตัวแล้วที่พวกเจ้าอยู่ที่นี่ก็อยู่ในฐานะตัวแทนของตระกูลบุสโซ่เราเข้าใจหรือไม่ ซาก้านายเก่าของเจ้าเองก็คงต้องการเห็นประชาชนของไอออนอยู่ดีมีสุขเช่นกัน เรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ด้วยระดับพลังของพวกเจ้าการเดินทางจากไอออนสู่โรฮานคงใช้เวลาไม่มาก" กาเล็ทเอ่ยบอกอธิบายถึงเหตุผลให้แก่ข้ารับใช้ทั้งสองของตนเองฟัง

    "พวกข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง" ทั้งอาร์มันโด้และดีออนคุกเข่าลงเอ่ยกล่าว

    แม้ว่าจะไม่ชอบการแสดงออกเช่นนี้หากแต่กาเล็ทกลับเริ่มเกิดความรู้สึกชินชาที่ผู้คนต่างคุกเข่าให้ตนเองไปแล้วจึงไม่ได้เอ่ยปากทัดทานอีกเมื่อฝากฝังเรื่องราวต่างๆให้แก่ข้ารับใช้ทั้งสองแล้วกาเล็ทก็สามารถที่จะกลับไปโรฮานอย่างวางใจได้

    "ม่ำ ม่ำ ม่ำ ม่ำ" กาเล็ทที่กำลังนอนอยู่บนพรมภายในห้องท้องเรือเหาะยกร่างมิร่าขึ้นลงมาจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าส่งเสียงออกมาเพื่อเป็นการหยอกล้อกับมิร่าอย่างสนุกสนาน

    "ข้าเคยสงสัยใจว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาที่แท้แล้วเป็นแบบไหน ใช่คนที่สนุกสนานดูบรรยากาศผ่อนคลายหรือเป็นกาเล็ทที่เข่งขรึมจริงจังแสดงสีหน้าขู่ขวัญผู้คนกันแน่แต่ตอนนี้ไม่สงสัยใจแล้ว" ซิลเวียหัวเราะคิกเอ่ยกล่าวขึ้นขณะที่กำลังนั่งจัดแจงตรวจดูสิ่งของที่ซื้อหามาในครั้งนี้ร่วมกันกับ แชลเทีย เบลล่า เซลิน่าและโซเฟีย

    "เขาก็เป็นเช่นนี้เสมอนั่นล่ะ หากว่าให้เล่นกับมิร่าน้อยเขาผู้นี้สามารถละเล่นเช่นนี้ได้ทั้งวัน" แชลเทียยิ้มเอ่ย

    ทางด้านเบลล่าที่หันมองไปยังกาเล็ทตามที่น้องสาวของตนเองเอ่ยขึ้นก็หันกลับมาเอ่ย "น้องหญิงเจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ไม่ว่าจะเป็นตัวตนไหนเขาก็คือเขาหาได้มีจริงมีปลอม" เบลล่าเอ่ยขึ้น

    ซิลเวียได้ฟังเช่นนั้นก็หันไปหาผู้เป็นพี่สาว "ข้าเพียงแต่กล่าวล้อเล่นเท่านั้นเองท่านพี่ก็อย่าได้ถือเป็นจริงเป็นจัง"

    "ล้อเล่นก็ไม่ได้ หากเขาได้ยินเข้าจะเสียใจเอาได้" เบลล่ายังคงเอ่ย

    "ค่าาาาข้าทราบแล้ว" ซิลเวียลากเสียงยาวเอ่ยตอบผู้เป็นพี่สาว

    แชลเทียที่เห็นอาการของเพื่อนสาวก็หัวเราะคิกออกมา

    "ข้าไม่เคยคิดว่าว่าเขาจะมีด้านที่อ่อนโยนเช่นนี้ หากไม่ได้มาเห็นและสัมผัสด้วยตนเองตัวข้าก็คงยากที่จะเชื่อลงได้" โซเฟียเอ่ยร่วมวงสนทนาขึ้น การท่องเที่ยวในครั้งนี้ทำให้นางสามารถสนิทสนมกลมเกลียมกับแชลเทีย ซิลเวียและเบลล่าได้มากขึ้น

    "หากว่าเขาไม่เป็นเช่นนี้มีหรือที่จะเอาชนะใจท่านพี่ได้" ซิลเวียได้ทีก็เอ่ยเย้าแหย่ผู้เป็นพี่สาวทันทีแต่ยังไม่ทันที่จะได้หัวเราะชอบใจกับคำเอ่ยกล่าวของตนเองก็ต้องเผชิญเข้ากับสายตาที่มองค้อนกลับมาของผู้เป็นพี่สาว "ท..ทั้งหมดนี้ต้องขอบใจเจ้าแชลเทีย ที่ใจกว้างเปิดโอกาสให้แก่ข้ากับท่านพี่" ซิลเวียเอ่ย

    "อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยข้าหาได้กระทำสิ่งใด" แชลเทียเอ่ย

    "เอ๊ะเหตุใดจึงมีเรือเหาะมากมายเช่นนี้อยู่เหนือน่านฟ้าของโรฮานเรา ดูสิ" แชลเทียที่สังเหตุเห็นเรือเหาะมากมายที่ลอยลำอยู่เหนือน่านฟ้าของโรฮานก็เอ่ยกล่าวชวนให้สตรีทั้งสี่มองดูผ่านหน้าต่างออกไป

    "กาเล็ท กาเล็ท เจ้าดู เหตุใดจึงมีเรือเหาะมากมายถึงเพียงนี้" แชลเทียหันไปเอ่ยถามกาเล็ทซึ่งกำลังนอนเล่นกับมิร่าอยู่เช่นเดิม

    "คิดว่าคงเป็นเรือเหาะของแว่นแคว้นน้อยใหญ่ในทวีปตะวันออกนั่นแหละ" กาเล็ทเอ่ย สาเหตุที่กาเล็ทไม่ได้ตื่นเต้นตกใจก็เพราะว่ากาเล็ทนั้นได้ให้มิร่าใช้ข่ายจิตวิญญาณตรวจสอบจิตมุ่งหลายและระดัับพลังของผู้มาเยือนเรียบร้อยแล้ว

    "แล้วเหตุใดอยู่ๆโรฮานจึงมีเรือเหาะของแว่นแคว้นต่างๆมาเยือนมากมายถึงเพียงนี้กัน?" แชลเทียยังคงเป็นตัวแทนสตรีทั้งสี่ที่กำลังเกิดอาการสังสัยไม่แพ้กันเอ่ยถาม

    "อืมเรื่องนี้คงต้องรอเรือเหาะของพวกเราลงจอดแล้วสอบถามทหารประจำเมืองดูคงจะพอทราบได้" กาเล็ทวางร่างของมิร่าลงและลุกขึ้นนั่งเอ่ยบอก "ไม่ต้องเป็นห่วงไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง" กาเล็ทเอ่ยกล่าวขณะที่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สบายใจของสตรีทัั้ง5ของตนเอง



    ปล.จริงๆว่าจะลงรายละเอียดการเที่ยวของมันสักหน่อยแต่ไม่เอาดีกว่ารีบเร่งไปบทสงครามห้าทวีปเลยน่าจะดีกว่า ขออภัยที่ห่างหายไปนานครับ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×