ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Yuyan ตำนานเรื่องเล่าแห่งยูยาน

    ลำดับตอนที่ #21 : พ่ายแพ้อีกครา [รีไรท์]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.46K
      751
      6 พ.ย. 63






              นับจากวันที่ทั้งสองตีแผ่ความในใจออกมาพูดคุยกัน แชลเทียก็แวะเวียนมายังบ้านตระกูลบุสโซ่บ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

              "หนูแชลเทียมาอีกแล้ว วันนี้มาซะเช้าเชียวนะลูก" นีน่ายังเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม

              "ค่ะท่านป้า วันนี้กาเล็ทบอกว่ามีเรื่องต้องจัดการที่สถาบัน ข้าเลยแวะมาเพื่อจะได้เดินทางไปพร้อมกัน" แชลเทียเอ่ยอย่างเขินอายเนื่องเพราะรู้ดีว่านีน่านั้นรู้ถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับกาเล็ทเป็นอย่างดี

              "ท่านแม่วันนี้ข้าจะออกไปโรงเรียนกับแชลนีนะครับ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง" กาเล็ทที่เดินออกมาพอดีเอ่ยบอกกับนีน่าขึ้นจากนั้นจึงเอ่ยกับแชลเทีย "ไปกันเถอะ"

              ระหว่างทางไปยังสถานศึกษากาเล็ทก็เอ่ยขึ้น "แชลเทียวันนี้เจ้าไม่ต้องเข้าชั้นเรียนช่วงเช้าได้หรือไม่?"

              แชลเทียเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยใจ "กาเล็ทอยากให้ข้าช่วยทำสิ่งใด?"

              "ข้าอยากจะพาเจ้าไปพบกับท่านอาจารย์เทลเล่อ" กาเล็ทเอ่ยบอกถึงความต้องการออกไป

              "อืม..ไม่เข้าเรียนสักวันหนึ่งก็คงไม่เป็นไร" แชลเทียผงกศีรษะเอ่ย


              

         "มาแล้วหรือศิษย์ข้า" เทลเล่อที่เห็นว่ากาเล็ทซึ่งหายหน้าไปหลายวันมาหาตนในวันนี้ก็เอ่ยทักทายด้วยความยินดี "เป็นเช่นไรบ้างเจ้าเข้าใจแก่นแท้ของการผสานธาตุแล้วหรือยัง?" เทลเล่อเอ่ยถามเรื่องสำคัญ

         "ท่านอาจารย์ข้าไร้ความสามารถ หลายวันที่ผ่านมานี้แม้ว่าข้าจะพยายามเพียงไรมันก็ล้มเหลวทุกครั้ง ข้าคิดว่าการผสานธาตุมันดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะสามารถทำได้จริง ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าท่านอาจารย์สามารถทำมันได้อย่างไร?" กาเล็ทเอ่ยอย่างอับจนสิ้นหนทาง

         "ฮ่า ฮ่า แน่นอนหากว่าเจ้าสามารถทำมันได้นั่นสิถึงจะเป็นเรื่องแปลก เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าต้องใช้เวลานานเพียงกว่าจะสามารถเรียกรู้ในการผสานธาตุได้สำเร็จ"เทลเล่อเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่ากาเล็ทไม่ตอบคำอาจารย์เทลเล่อจึงกล่าวต่อ "ข้าต้องใช้เวลาหลาบสิบปีในการศึกษาลองผิดลองถูกอยู่หลายวิธี เป็นดั่งเช่นที่เจ้าว่ามันคือสิ่งที่เป็นไปได้ยาก ลำพังแค่การแปลงคุณสมบัติก็ต้องใช้สมาธิมากมายอยู่แล้ว หากจะให้คนหนึ่งคนทำเรื่องสองอย่างในเวลาเดียวกันก็คงเหมือนให้เขียนหนังสือด้วยสองมือไปพร้อมๆกัน ผลที่ออกมาคงดูไม่ดีนัก"

          "เช่นนั้นท่านอาจารย์สามารถทำมันได้อย่างไร" กาเล็ทเอ่ยถาม

         "แยกจิต ขั้นแรกเจ้าต้องฝึกการแยกจิต เมื่อเจ้าแยกจิตได้อย่างคล่องแคล่วแล้วเจ้าก็จะทำสองสิ่งในเวลาเดียวกันได้"เทลเล่อกล่าวอธิบาย

         แชลเทียที่ตามติดอยู่ด้านหลังกาเล็ทซึ่งได้ยินสิ่งที่อาจารย์และศิษย์สองคนนี้พูดคุยกันกลับมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดขึ้น เรื่องที่ทั้งสองพูดคุยกันตนเองกลับไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นสิ่งที่แชลเทียทำได้คือนิ่งเงียบงัน

         "แยกจิตหรือท่านอาจารย์?" กาเล็ทยังคงเอ่ยถามอย่างรู้สึกสงสัยใจ

         เทลเล่อเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมาจากนั้นอยู่ๆร่างของอาจารย์เทลเล่อก็แบ่งแยกออก ที่เบื้องหน้าของกาเล็ทกลับกลายเป็นมีเทลเล่อถึงสองคน

          กาเล็ทเห็นอย่างนั้นก็ม่านตาขยายออก เมฆหมอกที่บดบังอยู่เสมือนถูกแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงมาใส่จนมลายหายไป "ข้าเข้าใจแล้วท่านอาจารย์"

         หลังจากพูดคุยสั่งสอนอย่างออกรสอยู่นานเทลเล่อกลับสังเกตุเห็นเด็กสาวหน้าตาอ่อนหวานงดงามยืนนิ่งเงียบอยู่เบื้องหลังของกาเล็ท "ศิษย์ข้า นี่คือ" เทลเล่อเอ่ยถาม

         "ท่านอาจารย์ ข้ามาในวันนี้มีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกก็คือเพื่อมาขอทราบคำชี้แนะจากท่าน เรื่องที่สองก็เกี่ยวกับนาง" กาเล็ทเอ่ยขึ้น

         "ศิษย์ข้าเจ้ามีเรื่องใดโปรดบอกมาได้อย่างเต็มที่" เทลเล่อนั้นคาดหวังกับกาเล็ทไว้มาก ดังนั้นหากศิษย์ของตนเองผู้นี้มีเรื่องราวเดือดร้อนอะไร เทลเลอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ เนื่องเพราะในรอบหลายสิบปีนี้เทลเล่อรับกาเล็ทเข้าเป็นศิษย์เพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นถ้าหากไม่ช่วยศิษย์เพียงผู้เดียวคนนี้ของตนแล้วจะให้ไปช่วยผู้ใดได้

         "ท่านอาจารย์คงรู้จักตระกูลบลูโนดี  ในตอนนี้ตระกูลบลูโนนั้นใช้อำนาจกดขี่ขู่บังคับครอบครัวของนางเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ" กาเล็ทเอ่ย

         "เจ้าต้องการให้ข้าออกหน้าช่วยหรือ?" เทลเล่อเอ่ยคาดเดาถึงจุดประสงค์ของกาเล็ท

         "จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ก็ไม่ เรื่องของข้า ข้าจะแก้ไขปัญหาเอง ทว่านับจากวันนี้ข้ามีความตั้งใจว่าจะเก็บตัวฝึกฝนอย่างจริงจังอย่างน้อยๆก็สองเดือน ข้าเลยอยากจะฝากให้ท่านอาจารย์ช่วยดูแลนางและครอบครัวในเวลาที่ข้าเก็บตัวฝึก เพียงสองเดือนเท่านั้น" กาเล็ทเอ่ย

         "สองเดือน?" เทลเล่อที่ได้ยินคำร้องขอจากกาเล็ทมีความรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แทนที่จะขอร้องให้ตนเองออกหน้าให้สิ้นเรื่องสิ้นราวแต่ศิษย์ผู้นี้ของตนกลับขอให้ดูแลเพียงสองเดือน

         "ครับ หลังจากสองเดือนผ่านไป ข้าจะจัดการปัญหาของตระกูลบลูโนด้วยตัวเอง" กาเล็ทตอบ

         "ได้ ข้ารับปากเจ้า ในสองเดือนนับจากนี้ข้าจะดูแลครอบครัวของเด็กหญิงผู้นี้ไม่ให้เกิดเรื่องราว" เทลเล่อรับปากต่อกาเล็ท

         "เช่นนี้ข้าคงสามารถเก็บตัวฝึกได้อย่างวางใจแล้ว" กล่าวจบกาเล็ทโค้งคำนับเทลเลอ  หลังจากปล่อยให้แชลเทียอยู่แนะนำตัวทำความรู้จักกับเทลเลออยู่พักใหญ่ กาเล็ทก็นำพาแชลเทียจากมา

         ------------------------------------------------------------------------------------------------

         "กาเล็ท ลำบากเจ้าแล้ว" แชลเทียเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด

         "ลำบากข้า?" กาเล็ทเอ่ยหัวเราะ "ข้าไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากแม้แต่น้อง" กาเล็ทเอ่ยขณะที่จูงมือของแชลเทียไปนั่งยังสนามหญ้าภายในสวนสาธารณะของสถานศึกษา

         แชลเทียที่ถูกคร่ากุมมือไว้เกิดความรู้สึกเขินอายขึ้นไม่น้อย ภายในที่สาธารณะเช่นนี้ตนเองกลับถูกบรุษจับมือถือแขน แต่นึกถึงที่กาเล็ทออกหน้าช่วยเหลือตนเองถึงเพียงนั้น จิตใจของแชลเทียก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นขึ้น ดังนั้นแชลเทียจึงเลือกที่จะปล่อยเลยตามเลยให้กาเล็ทกอบกุมมือของตนไว้ตามใจชอบ

         "แชลเทีย นับจากนี้ข้าจะดูแลเจ้าเอง ตอนนี้เจ้าอาจจะยังไม่ไว้วางใจข้า  แต่ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น" กาเล็ทเอ่ยอย่างอ่อนโยนขณะนั่งกุมมือของแชลเทียไว้

         "ข้าเชื่อกาเล็ท" แชลเทียเอ่ยอย่างแผ่วเบา

         "แชลเทีย !! กับข้าซึ่งเป็นว่าที่คู่หมั้นเจ้ากับถือเนื้อถือตัวไม่ยอมให้ข้าแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้ว แต่กับมันเจ้ากลับยอมให้จับมือถือแขน" เสียงตวาดแข็งกร้าวเคียดแค้นดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งสอง

          กาเล็ทที่หันไปมองดูกลับพบว่าผู้มาคือโจดาน ที่ด้านหลังของมันยังมีคนผู้หนึ่งเดินตามหลังมา กาเล็ทนั้นสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังที่แข็งแกร่งจากร่างของคนผู้นี้

         "งาช้างไม่งอกออกจากปากของสุนัขจริงๆ ว่าที่คู่หมั้นหรือ? เจ้าอย่าได้เพ้อฝันไปข้างเดียวเลย" กาเล็ทลุกขึ้นกล่าวอย่างเย้ยหยัน

          "วันนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ช่วยเจ้าไม่ได้ ข้าจะคิดบัญชีแค้นทบต้นทบดอกกับเจ้าให้ครบถ้วน" โจดานเอ่ยพร้อมทั้งแสดงรอยยิ้มของผู้ชนะออกมาบนใบหน้า

         กาเล็ทซึ่งเห็นท่าทีของโจดาก็ได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ "ช่างประจวบเหมาะนัก ข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองสมองครุ่นคิดหนทางให้มากความ" กาเล็ทนึกคิดอย่างยินดี

         "โบกัสจัดการหักกระดูกมัน อย่าได้ออมมือ" โจดานเอ่ยสั่งนักรบผู้ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังมัน โบกัสผู้นี้ย่อมเป็นลูกน้องคนสนิทของรุสโซ่ผู้เป็นบิดามัน โบกัสนั้นเป็นนักรบที่มีพลังระดับ 7 ซึ่งแม้แต่ในภายโรฮานยังถือว่าเป็นนักรบระดับแถวหน้าคนหนึ่ง

         ได้ยินคำสั่งการจากนายน้อยของตนโบกัสก็ก้าวฉับๆตรงดิ่งเข้ามาปล่อยหมัดตรงใส่กาเล็ทอย่างดุดัน 

         "กาเล็ทระวัง!" แชลเทียเอ่ยร้องเตือนอย่างรู้สึกใจหาย

         พับ พับ พับ พับ หมัดแล้วหมัดเล่าที่โบกันปล่อยออกมาถูกกาเล็ทปัดป่ายทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย "เด็กน้อย ดูว่าเจ้าจะทนรับไปได้อีกสักกี่หมัด" โบกัสเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มที่เหี้ยวเกรียมบนใบหน้าของมัน   แต่แล้วมันกลับรู้สึกชาด้านที่ข้อมือทั้งสองซึ่งกำลังรัวหมัดใส่เด็กหนุ่มที่เบื้องหน้า ยิ่งจำนวนครั้งที่เด็กหนุ่มเบื้องหน้ามันปัดป้องหมัดของมันเท่าไร ณ จุดที่กำปั้นของมันถูกสัมผัสกลับเกิดความรู้สึกชาด้านขึ้นเท่านั้น ในที่สุดหมัดของมันก็เริ่มช้าลง ทันใดนั้นเองโบกัสที่สังเกตุเห็นผลึกน้ำแข็งซึ่งเกาะตัวขึ้นที่ข้อมือทั้งสองข้างของมันก็เอ่ยออกมาอย่างรู้สึกตกใจ "แปลงคุณสมบัติ?" 

         "นับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง" กาเล็ทกล่าวขึ้นพร้อมทั้งอาศัยจังหว่ะที่โบกัสชะงักค้างไปถีบเข้าใส่ท้องของโบกัสเท้าหนึ่งอย่างแรง ซึ่งการถีบของกาเล็ทที่ดูเหมือนจะเป็นการยกเท้าทีบธรรมดากลับรุนแรงหนักหน่วงจนทำให้ร่างของโบกัสถึงกลับกระเด็นกระดอนห่างออกไปหลายเมตร เนื่องเพราะการถีบครั้งนี้ได้ถูกแปลงคุณสมบัติดินเข้าไปเพื่อเสริมพลัง

         ทันทีที่ร่างของโบกัสซึ่งไถลไปหลายเมตรหยุดลง โบกัสก็กระอักเลือดคำโตออกมาในทันที

         "เป็นไปได้อย่าง..ไร" โจดานซึ่งเห็นเหตุการณ์ต่างๆอย่างชัดตาเอ่ยกล่าวพึมพำออกมากับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ นักรับที่มีพลังถึงระดับ 7 ขั้นสูงกลับถูกโค่นล้มลงเบื้องตนได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคนซึ่งโค่นล้มนักรบผู้นี้กลับเป็นศัตรูของมัน

         เห็นอย่างนั้นกาเล็ทก็เดินเข้าไปหาโจดานที่กำลังมึนงงสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ จากนั้นจึงใช้มือคว้าไปที่คอของโจดาน ร่างของโจดานถูกกาเล็ทยกให้ลอยสูงขึ้นจากพื้นในทันที "ข้ามีข้อความฝากไปถึงบิดาเจ้า บอกต่อมันว่าในอีกสองเดือนให้หลัง ข้ากาเล็ท บุสโซ่ ขอท้าประลองศึกเป็นตายตามธรรมเนียมเก่าแก่ของโรฮานกับผู้นำแห่งตระกูลบลูโน รุสโซ่ บลูโน" ถ้อยคำช่วงท้ายกาเล็ทถึงกลับจงใจเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันดังเพื่อให้ผู้คนในบริเวณได้ยินอย่างครบถ้วนชัดเจน

         


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×